กระแส"พญานาค"กับข้อเท็จจริงบางอย่าง(มีคลิป) คนที่ไม่เชื่อควรดูด้วยดุลพินิจ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย 9@Phonlee, 1 กุมภาพันธ์ 2018.

  1. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,884
    ค่าพลัง:
    +4,719
    พูดถึงสิ่งลี้ลับหรือมิติต่างๆ
    ที่สิงสถิตอยู่ตามสถานที่ต่างๆ
    หรือในถ้ำเขาหลวงที่พูดถึงขณะนี้

    ผมคิดว่าไม่แตกต่างอะไร
    กับเจ้าที่เจ้าทาง หรือศาลพระภูมิ
    หรือตี่จูเอี๊ยที่อยู่ตามบ้านเรือน
    ซึ่งเรายังให้ความศรัทธาไหว้ทุกเช้า
    ในฐานะที่เป็นเจ้าของสถานที่เดิม


    อย่างทุกครั้งที่เข้าป่า เข้าถ้ำ
    เราก็ควรพนมมือไหว้บอกกล่าว
    ถึงจุดประสงค์ที่เข้ามาครั้งนี้
    เพื่อให้สิ่งลี้ลับรับรู้
    ...จะได้ปกป้องดูแลเรา

    ขณะเดียวกันเราก็ไม่ควรพลั้งเผลอ
    แสดงท่าทีที่ลบหลู่ต่อสถานที่
    ทุกย่างก้าวที่เข้าไปจึงควรระวัง
    เพราะในป่า ในถ้ำหรือสถานที่แปลกตาใดๆ

    ส่วนใหญ่มักจะมีสิ่งลี้ลับ
    จะมีมิติ หรือลับแล
    ภูตผี หรือวิญญาณต่างๆ
    หรือพญานาคทั้งหลาย
    เข้าไปจับจองสถานที่
    ...ตั้งแต่โบราณกาลร้อยปีพันปี

    ไม่ต่างอะไรกับภพมนุษย์
    ...ที่ไปเช่าบ้านหรือจับจองซื้อบ้าน
    ซื้อคอนโดเพื่ออยู่อาศัย
    ...แม้การจับจองพื้นที่ออกบูธ
    ...ขายสินค้าก็ไม่ต่างกันมาก
    ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ว่าเพื่ออะไร

    ทุกจิตวิญญาณ...
    ล้วนมีรัก โลภ โกรธ หลง
    ...ห่วง หึง หวงอยู่ในดวงจิต

    ซึ่งก็ต่างอะไรกับมนุษย์เราที่อยู่สูงกว่า
    บางครั้งบางคราวยังสติแตก

    ตัวอย่างเช่น
    ...แค่จอดรถขวางหน้าบ้านประเดี่ยวเดียว

    หรือยืนบังหน้าบูธหน้าร้านหน่อยเดียว

    แสดงอาการรัก โลภ โกรธ หลง หวงห่วงสถานที่

    ...บางครั้งบางคนอาจระเบิดอารมณ์ออกมาได้
    ...สิ่งลี้ลับต่างๆ บางครั้งก็เช่นกัน

    เช่นแว๊บๆให้เราเห็นเป็นเงาดำ

    หรือตบหัว(ศีรษะโขกผนังถ้ำ)เพื่อเตือนสติเรา

    หรือถ้าโกรธมากก็อาจให้เราสะดุดหิน

    หรือลื่นล้มบ้างพอเป็นพิธี

    บางครั้งอดไม่ได้ก็อาจแสดงอิทธิฤทธิ์ที่คาดไม่ถึง
    (ส่วนมนุษย์ก็จะถือไม้ทุบรถ ทุบคนไงครับ)
    (หนักเข้าไปหน่อยคือยิงปืนกระหนำไม่ยั้งคิด)


    ผมว่า.....
    เจ้าที่เจ้าทางที่เฝ้าสถานที่ต่างๆดังที่กล่าว
    คงก็ไม่ต่างอะไรกับ*เจ้าที่* *ศาลพระภูมิ*
    *ศาลตายาย* รวมทั้ง*ตี่จูเอี๊ย* ของคนจีน

    แต่ก็แปลกนะครับ

    ทีที่บ้าน...เรายังตั้งศาล ตั้งเจ้าที่

    เพื่อให้ปกปักรักษาเรา ให้รู้สึกสบายใจ

    แต่ทำไมตามป่าเขาลำเนาไพรตามถ้ำต่างๆ

    ...เวลาบางคนเข้าไปท่องเที่ยว
    ...หรือเดินชม*สถานที่ของเจ้าที่*

    เราไม่รู้จักพนมมือไหว้สักหน่อย
    หรืออย่างน้อยไม่แสดงอาการลบหลู่
    ...ก็น่าจะดีนะครับ


    เมื่อพูดถึงธรรมชาติในป่าเขา
    ยิ่งในถ้ำ มันซ่อนความลี้ลับในตัวอยู่แล้ว

    สิ่งลี้ลับทั้งหลาย...ล้วนโปรดปราน
    ...สุดปรารถนาที่จะยึดเป็นเจ้าของสถานที่
    ...ดั่งเช่นมนุษย์...เช่นกัน


    p3xcmadlyC2UtJ2J7JE-o.jpg

    **ให้สังเกตป้ายชี้ ถ้ำพญานาค**
    *2 ภาพนี่น่าจะถ่ายช่วงต้นปีนี้*
    (ขอขอบคุณท่านเจ้าของภาพนะครับ)


    p3xcngcg72N1amK2HT2-o.jpg



    ...ผมก็เล่าให้ฟังเพียงเท่านี้

    ....แบบชาวบ้านๆนะครับ

    ผิดถูกหรือขาดตกประการใด

    วานท่านอาจารย์นพเข้ามาเติมเต็มนะครับ

    ขอบคุณครับ
     
  2. maxmi

    maxmi แม็กคับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2017
    โพสต์:
    479
    ค่าพลัง:
    +1,205
    ได้ความรู้ใหม่คับ ขอบคุณคับ
     
  3. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,044
    คงไม่ได้เติมอะไรครับ
    ประมานที่เล่ามานั้นหละครับ
    ยกตัวอย่างเปรียบ
    เห็นภาพชัดเจนดี

    ผีข้างบ้านเจ้าที่ยังไม่ให้เข้าบ้านเรา
    ขนาดว่าเรารู้จักท่านก็ไม่ให้เข้า
    ขนาดคนในบ้าน
    กลายเป็นผี บางที่เจ้าที่ยังไม่ให้เข้า
    ทั้งๆที่เคยเป็นบ้านตัวเองแท้ๆ

    จะไปต่างประเทศยังต้อง
    มีการตรวจคนก่อนเข้าเมือง
    แต่ละเมืองก็มีกฎหมายข้อห้ามต่างกัน

    ยุคก่อนเรื่องอนาเขตถือเป็นเรื่องใหญ่
    ถึงขนาดพรากชีวิตกันเลย
    สมัยก่อนยึดป่าเขาถ้ำเป็นที่อาศัย
    อยู่ดีๆมีคนมาหน้าบ้าน
    ยังไงเราก็ต้องดู และพิจารณา


    วีซ่าผ่านแดนที่ดี ก็คือเจตนาที่ดี
    เจตนาที่ดี ประพฤติก็ดีตาม
    เขตหวงห้าม ก็อย่าเข้าไป
    ถือว่าเคารพกฏระเบียบซึ่งกันและกัน
    ก็จะอยู่ร่วมกันได้อย่างแยบยล

    ป้ายก็เขียนบอกว่าหน้าไหนอย่างไร
    ห้ามเข้าก็ยังจะพากันเข้าไป
    ควรพิจารณาการแก้ปัญหา
    ในอนาคต
    เรื่องนี้ร่วมด้วย ครับ
     
  4. สะไบดินแดง

    สะไบดินแดง ทุกอย่างอยู่ที่จิตใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    325
    ค่าพลัง:
    +1,062
    วันนี้ หน้าร้านค่อนข้างเงียบ
    จึงมีเรื่องหนึ่ง ที่อาจเป็นเรื่องนิสัยเสีย ของเจนตอนเด็กๆ
    มาเล่าให้ฟังคะ เผื่อว่า อาจารย์นพ อาจารย์9 อาจบอกได้
    เป็นสิ่งที่ เจนตั้งคำถามเลยว่า เป็นไปได้หรือ ??

    เรื่องมีอยู่ว่า สมัยปีที่เจนเรียน มอปลาย
    เจนมีกลุ่มเพื่อน ต่างโรงเรียน แต่รู้จักกัน เพราะเรียนเทควันโด้
    มีวันหนึ่ง ที่คึกคะนองตามประสาเด็ก
    เพื่อนรุ่นน้อง ชวนเจนไปพิสูจน์ผี ตามสถานที่ทั่ว อุดร
    เจนไป เพราะห่วงน้องผู้หญิงอีกคน คือไปเพราะห่วงคนอื่น
    ด้วยความที่เราอายุเยอะ ห้ามแล้วก็ไม่เป็นผล
    จึงได้ตามเข้าไปแบบจำใจ

    รถกะบะไปกัน เกิน10 ไปทุกๆที่ ช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนไป
    ไปตึกร่าง ไปวัดที่เฮี้ยนๆ ใจเจนอ่ะ กลัวมากคะ แทบร้องไห้
    แต่ด้วย เราคือผู้ใหญ่คนเดียว ต้องกล้าเข้าไว้ว่ะ
    บอกตัวเองในใจ ขอโทษผีสางนางไม้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในใจ
    ลูกไม่ได้มาลบหลู่นะเจ้าคะ ลูกตามมาดูแลเขาทุกคน
    เจนบ่นๆในใจไปตลอดทุกสถานที่

    จนสุดท้าย มาถึงสุสาน
    เด็กๆมันก็พาขับเข้าสุสาน มีศาลตั้งอยู่ด้านหน้า
    ดีที่เจนเอาธูปมา จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเจนจุดไปกี่ดอก
    เจนเลยบอกเด็ก ขอไปจุดธูปก่อนนะ
    เจนอธิษฐานขอเจ้าที่ในใจว่า
    “หากเกิดเรื่องอะไรก็ตาม ขอให้เกิดกับเจนคนเดียว
    แต่ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกป้องเจนด้วย”
    (เป็นคำพูด ที่เจนจำได้ จนวันตายก็ว่าได้เลยและตั้งใจพูดไปแบบนั้น)

    จากนั้น เด็กๆก็เดินๆเข้าไปสุสาน ลึกเข้าไปเรื่อยๆ
    แต่สิ่งที่ไม่ค้าดคิดเกิดขึ้นคะ
    ไม่มีผี หรือ สิ่งลี้ลับตามมา แต่เป็นคน
    กลุ่มวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง เดินออกมาจากมุมมืด
    ถือมืดยาว แท่งเหล็ก ไม้ยาวๆ ร่วมทั้ง ปืนปากกา อันเล็กๆทำเอง
    พวกมันตรงเข้ามาทางกลุ่มพวกเจน
    ทางกลุ่มเจน มีผู้ชาย 5-6คน ผู้หญิง รวมเจนด้วยเป็น 4
    แต่พวกกลุ่มนักเลง มีมาเป็น10
    คือตอนนั้น เจนกลัวมาก น้องสาวที่ไปด้วย จับแขนเจนแน่น
    ต่างคนพูด จะทำไงดีว่ะพี่

    เจนคือคนเดียวที่อายุเยอะ เลยต้องรับผิดชอบทุกๆอย่าง
    เจนคุยกับกลุ่มนักเลงคนหนึ่ง
    “ว่าที่เข้ามา เพื่อพาเด็กมาพิสูจน์ผี ด้วยความคึกคะนอง
    จะพากันกลับแล้ว ขอตัวกลับก่อนนะจ้ะพี่พี่”
    มันก็บอก อยากมาพิสูจน์ นี้ไงกูนี้ไง

    เจนเลยบอก เด็กๆ ผู้ชายขึ้นหลังรถ
    ผู้หญิง ขึ้นหน้ารถ เจนขึ้นเป็นคนสุดท้าย
    มันมีนักเลงคนหนึ่งในกลุ่ม ใส่หมวกแก๊บ
    มันมาตบหัวรุ่นน้องผู้ชายที่นั่งท้ายกะบะ
    เจนเลยเดินไปห้าม “พี่พี่หนูขอละ หนูจะกลับกันแล้ว”

    พูดจบเสียง มันผลักเจนใส่ข้างรถกะบะ
    ปฏิกิริยา ทันทีคือ ตีนทีบมันเลย
    จากนั้นอลเวง มันบีบคอเจนแน่น เจนก็ทั้งทีบ ทั้งชก
    รุ่นน้องผู้หญิงในรถ รีบเปิดประตู เอาเจนเข้ารถ
    มันจับแขนเจนไว้แล้วจับประตู ทับหนีบหัวเจน
    จะอธิบายยังไงดี แบบว่า มันทับใส่หัวเจน ขาเจน
    พอขึ้นรถได้ เจนบอกน้องหลังรถ หมอบลง
    แล้วน้องคนขับ รีบบึ่งหนี
    หนีออกมาทัน
    น้องผู้หญิงในรถเขาถามเจนว่า
    “พี่เจนเจ็บหัวมั้ย พี่เป็นไรมากมั้ย มันตีพี่แรงมากเลยนะ”

    คือเจน ไม่เจ็บตัว ไม่รู้สึกอะไรเลย
    ไม่มีแผล หัวไม่โน ไม่มีความเจ็บปวดเลย

    เป็นไปได้มั้ยคะว่า เพราะเรื่องลี้ลับ ทำให้เจนไม่เจ็บตัว
    ทั้งที่โดนหนัก อยู่คนเดียว
    (ผู้ชายตีผู้หญิง เลวมากกกก)

    จากนั้น ไม่ถึงสัปดาห์ พวกมันนักเลงกลุ่มนั้น
    ถูกตามจับ เพราะ มันไปทุบรถคนขับผ่านสุสานนั้น
    จนเขาบาดเจ็บไปแจงความ เจนน่าจะอยู่ มอ5 ได้ คะ

    แต่จากเหตุการณ์นี้ เจนเลยไม่ขอ เข้าไปยุ่งเกี่ยว
    กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ลี้ลับ ผล อาจเพราะ เราท้าทาย ลบหลู่
    ถึงใจเจนจะไม่ลบหลู่ แต่ตามเขาไป ก็เจอเลย
    เจอคน น่ากลัวกว่าผีอีกคะ
    ดีนะ มันไม่ฆ่า
     
  5. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,044
    เป็นไปได้ว่าสิ่งที่มองไม่เห็นช่วยเราอยู่...
    นั่นหละ เค้าถึงว่า คนน่ากลัวกว่าผี
    นอกจากอันตรายจากสัตว์ที่หากินตามวิถีปกติตัวเอง
    ก็ตรงนี้หละ...สาเหตุที่ต้องมีเครื่องป้องกันตัว
    เวลาไปสถานที่แบบนี้

    ปกติเมื่อก่อน จะชอบไปเดินเล่นป่าช้าในวัดคนเดียว
    ตอนตีหนึ่งตีสอง บอกตามตรงว่า ไม่ได้กลัวว่าผีจะหลอก
    หรือมาทำร้ายอะไร กลัวว่าจะเจอคนมาทำร้ายมากกว่า...

    แต่ว่าไป ไอ้นั่นน่าโดนซ่อมเนาะ..
    และพวกนั้นน่าจะถูกจับ มาอบรมกรณีพิเศษหน่อย
    ในฐานะเล่นอะไรพิลึกไม่รู้จักความ...
    นิสัยแบบนี้ สมัยก่อนช่วงที่มีน้องๆคอยดูแล
    สมัยที่ชอบเที่ยวอยู่ ชอบนักพวกนิสัยแบบนี้...(ชอบซ่อม)
     
  6. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,342
    ค่าพลัง:
    +4,818
    จริงฮะ เดี๋ยวนี้ คนน่ากลัวกว่าผี แม้แต่ถนนหนทางธรรมดา ก็เสี่ยง

    แถวสุสาน บ้านผมก็จะมี พวกเสพพืชใบเขียว ของเคลิ้มลอย วันดีคืนดี ได้ที่ก็ตีกัน หรือใครขับรถผ่านเผลอไปมองหน้า ก็จะโดนก้อนหินปา หรือถ้าเดินผ่าน ดีไม่ดีก็โดนจี้
     
  7. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,884
    ค่าพลัง:
    +4,719
    “ฝันสยอง..แต่เกิดขึ้นจริงในวันรุ่งขึ้น”

    ความฝันนี้ผมบันทึกไว้...นานแล้ว
    บังเอิญเมื่อวานพูดถึงเรื่อง
    เวลาเข้าป่า โดยเฉพาะถ้ำ
    ก่อนเข้าถ้าได้ไหว้ขออนุญาตเจ้าที่
    ...น่าจะสบายใจกว่า

    วันนี้เลยหยิบความฝันนี้มาเล่าให้ฟัง

    ผมอาจเล่ายืดยาว...
    แต่เพื่อให้ท่านเข้าถึงสิ่งลี้ลับ


    โดยเฉพาะเรื่องเจ้าที่เจ้าทาง

    ศาลพระภูมิ หรือ ตี่จู่เอี๊ย

    ตี่จู่เอี๊ยแปลว่า **เจ้าของที่ดิน**
    ...เวลาเราไปซื้อบ้านซื้อที่ดิน
    เรา*ยึด*โฉนดเป็นหลักฐาน
    แต่...เจ้าที่เจ้าทางไม่มีใครออกโฉนดให้
    เราจึงต้อง*ยึด*สัมมาคารวะไว้ในใจ


    ...กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว

    "ขึ้นต้นเหมือนเล่านิทาน
    แต่เป็นเรื่องจริงนะครับ"

    ...ผมทำงานอยู่ย่านพระประแดง
    มีเพื่อนร่วมงานประมาณ 500คน

    หน้าที่ผมคือดูแลรับผิดชอบ...สารพัด
    ภารโรงก็ไม่ใช่...ผจก.ฝ่ายก็ไม่เชิง
    เอาเป็นว่า...ผมเป็นได้ทั้งสองอย่าง

    ช่วงนั่นมีงานพิเศษที่ผมอาสาทำเอง
    คือดูแลศาลพระภูมิ “แป๊ะกง”

    แม้จะมีคนงานจัดการให้ทุกเช้า เช่น
    ทำความสะอาดบริเวณรอบๆ
    การจัดอาหารคาวหวานเซ่นไหว้
    ...ถือว่าผมพลอยได้บุญกุศลด้วย
    แป๊ะกงคงเอ็นดูเมตตาผมเป็นพิเศษ

    ...ผมทราบดีว่าแป๊ะกงที่นี่ศักดิ์สิทธิ์มาก
    ครั้งหนึ่งเคยมีหน.ช่างใหญ่ที่ไม่ศรัทธา
    มักถากถางคนที่มาไหว้ว่า “งมงาย”
    ...จึงโดนแป๊ะกงอัดมาแล้ว*ปางตาย*
    ผมเห็นกับตาจะๆ จึงรีบเข้าไปช่วย
    เดี๋ยววันไหนว่าง..จะมาเล่าให้ฟัง


    โอเคครับมาฟังความฝันกันดีกว่า

    ปกติผมนอนที่บ้านห่างรง.10 กว่ากม.
    ...คืนหนึ่งประมาณตี 4
    ผมฝันเห็นคนงานพลัดตกมาจากที่สูง
    ร่างลอยละลิ่วลงมากองแน่นิ่งกับพื้น
    ....เลือดไหลท่วมตัว

    ผมตกใจ...ตื่นขึ้นมา

    เออ...แค่ฝันร้ายธรรมดา


    ...เช้าผมก็ขึ้นรถไปทำงานตามปกติ
    ทุกเช้าผมจะอยู่ในห้องทำงานโดยไม่ออกไปไหน
    นอกจากช่วงก่อนเที่ยงจึงด่อมๆเดินไปดูคนงาน
    ...เป็นกิจวัตรอย่างนี้ทุกวัน



    ...แต่เช้าวันนั่นแปลกมากครับ

    ผมเข้าไปนั่งทำงานแค่ 5-10 นาที
    จู่ๆความคิดแล่นขึ้นมาฉับพลัน

    ...ผมคิดว่าต้องมีอะไรมาดลใจ

    ทำให้ผมนั่งไม่ติด
    จึงลุกขึ้นเดินไปดูคนงานทำงาน
    แค่คิด...ก็ออกจากห้องไปทันที

    ขณะเดินไปใกล้อาคารเครื่องจักรชั้น 3
    จังหวะที่เงยหน้าขึ้น....

    โธ่...พระเจ้า...นั่นคนงาน
    ...คนงานกำลังพลัดตกจากตึกอาคาร
    ...อาคารเครื่องจักรชั้น 3(สูงเท่าตึก 5 ชั้น)

    ร่างลอยละลิ่วลงมากระแทก...
    ...หลังคากระเบื้องชั้น1แตกกระจาย
    ก่อนที่ร่างจะไปกระแทกพื้นอย่างแรง
    นอนสลบแน่นิ่งอยู่ตรงพื้นปูน

    ...ผมรีบวิ่งไปดูอาการทันที
    เห็นเลือดไหลอาบเต็มศีรษะและใบหน้า
    วินาทีนั่นจึงรีบวิ่งไปเอารถบริษัท
    แล้วให้คนงานช่วยกันแบกขึ้นรถ
    ไปส่ง รพ.ที่ใกล้ที่สุด
    ...แต่ยังโชคดีที่ไม่ถึงกับเสียชีวิต


    *สยองครับ...ฝันร้ายเกิดขึ้นจริง*

    เกิดจากอะไร...แล้วใครมาเข้าฝัน?

    ผมเชื่อว่าไม่ใช่เทวดาที่ไหน

    ...นอกจาก “แป๊ะกงเจ้าที่”

    หรือตี่จู่เอี๊ย....แน่นอน

    ...บ้านพักผมอยู่ห่างจากโรงงาน 10 กว่ากม.
    ไฉนแป๊ะกงท่านยังเหาะมาเข้าฝัน

    เออ...เพราะผมมีเหรียญของท่าน
    ช่วงที่ทำพิธีเปลี่ยนศาลใหม่
    ซึ่งผมเก็บรักษาไว้ในบ้านนานแล้ว

    (ตามรูปครับ) IMG_20180628_173742.jpg IMG_20180628_174143.jpg

    -----------------------------------

    นี่แหละครับเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์
    ...เจ้าที่เจ้าทาง
    ...เชื่อไม่เชื่ออย่าลบหลู่
     
  8. maxmi

    maxmi แม็กคับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2017
    โพสต์:
    479
    ค่าพลัง:
    +1,205
    เอาแล้วมีคนตายในถ้ำด้วย

    เนื่องจากดำน้ำนานและหมดสติจนเสียชีวิต ของอดีต SEAL (นักทำลายใต้น้ำจู่โจม)
    จ.อ.สมาน กุนัน นักทำลายใต้น้ำจู่โจมนอกราชการ (นทต.จู่โจม รุ่น 30) อายุ 38 ตำแหน่งงาน จนท.ตระเวนระงับเหตุฝ่าย รปภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บ.ท่าอากาศยานไทย
    เหตุการณ์ จ.อ.สมาน รับภารกิจวันที่ 5 ก.ค. 61 ให้ลำเลียงขวดอากาศจากโถงสามไปยังจุดต่างๆ บริเวณสามแยก เวลาเริ่มดำน้ำ 20.37 เมื่อเสร็จภารกิจ ขณะดำน้ำกลับ ได้หมดสติในน้ำ คู่ดำน้ำได้ทำการปฐมพยาบาล(CPR) แต่ไม่ได้สติ จึงนำกลับมายังโถงสามเพื่อปฐมพยาบาลอีกครั้ง แต่ จ.อ.สมาน ก็ไม่ได้สติและเสียชีวิตลงเวลาประมาณ 01.00 จึงได้นำพาร่างออกมาถึงหน้าถ้ำและส่งไปยัง ร.พ.ค่ายพญาเม็งรายมหาราช

    ที่มา : ราชสีห์ รส.
     
  9. สะไบดินแดง

    สะไบดินแดง ทุกอย่างอยู่ที่จิตใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    325
    ค่าพลัง:
    +1,062
    นี้ละคะอาจารย์ ถ้าไม่ตามไปด้วย
    เราก็กลายเป็นพี่ที่รู้ว่าน้องไปไหน แต่ไม่ห้าม
    พอห้าม มันไม่ฟังเลย ก็ต้องตามมันไป ปกป้อง ดูแล
    เป็นพี่ใหญ่สุดนี้ ยากจังเลย
    คล้ายๆ กรณี โค้ชเอกเลยคะ
    แต่เจน โดนเต็มๆ
     
  10. สะไบดินแดง

    สะไบดินแดง ทุกอย่างอยู่ที่จิตใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    325
    ค่าพลัง:
    +1,062
    ทำมั้ย พวกที่ว่ามานี้ คล้ายๆ พวกที่เจนเจอเลยคะ
    พวกนี้ มันมีผู้ใหญ่ เป็นหัวหน้าแก๊ง
    คนขับรถผ่าน มันจะปาหินใส่
    ถ้ามอไซขับผ่านสุสาน มันจะให้เขาจอด
    ผู้หญิงมันก็ตีเขา จนเขาหัวแตก
    ทุบรถมอไซ และตีเขา
    เขาเลยไปแจ้งความ ตำรวจตามจับ
    เลยมาให้เจนไปให้ปากคำด้วย
    เพราะเคยถูกพวกมันเล่นงาน
    ไม่รู้ตอนนี้ มันออกจากคุกยัง
    น่ากลัวมากคะ
     
  11. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,342
    ค่าพลัง:
    +4,818
    ฤาจะเป็นการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม
     
  12. maxmi

    maxmi แม็กคับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2017
    โพสต์:
    479
    ค่าพลัง:
    +1,205
    ติดตามได้ในเฟสนี้นะอัพเดตตลอด https://www.facebook.com/memoriesatp
     
  13. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,044
    จะเล่าให้ฟังเล่นๆ จริงๆเคยเขียน
    ไปหลายรอบในเวบนี้แล้ว
    แต่กระทู้นี้น่าจะยัง
    งั้นเล่าอีกเพราะมีคนถาม
    และคนที่ยังสงกะสัย

    เรื่องแบบนี้ส่วนตัวเรียกอนาค
    ตังสญานอย่างอ่อน
    หรือการรับรู้อนาคตทั่วไป
    ลำดับการเกิดมันจะเป็นอย่างนี้

    ๑.หลักปี มาเดือน มาสัปดาห์ มาวัน มาปัจจุบัน(ณ เวลานั้น) สามารถเกิดได้แม้ไม่เคยฝึกอะไรมาและมักเปลี่ยนแปลงไม่ได้
    จากนั้นถ้าไม่สนใจ(ส่วนใหญ่นักปฎิบัติจะพลาดไปสนใจ แล้วเข้าใจว่ามันวิเศษ คือพลาดอย่างแรง) และก็ปกติที่จะเป็น
    ผู้มีบารมี เทพเทวดา เจ้าที่ วิญญาณบรรพบุรุษเรา ครูบาร์อาจารย์ที่มองไม่เห็น
    หรือท่านที่อยู่บริเวนที่เราอาศัย ทำงาน ไปเที่ยวฯลฯ สามารถ
    ดลให้เราเห็นได้หมด หรือบ้างครั้ง
    ก็จะเป็นเสียง เช่น พรุ้งนี้ นาย A จะตกตึก
    แบบเสียงดังฟังชัด ได้ยินทางหูขวา
    ด้านเดียวกับที่ได้ยินตัวเลข ๕๕๕
    ถ้าเราทิ้งได้ ไมาสนใจได้
    มันก็จะเป็น

    ๒ ปัจจุบัน วัน สัปดาห์ เดือน ปี หลายปี
    หมดชาติ ชาติต่อไป ชาติหน้า
    ซึ่งถ้ามาถึงตรงนี้จะเปลี่ยนได้
    เช่น ได้ยิน นาย A จะตกตึกชั้น ๓ พรุ่งนี้
    เราจะระลึกและช่วยนาย A ได้ เช่น บอกตอนเช้าให้ไปทำอย่างอื่นๆ หรือให้พักผ่อนไป
    ทั้งนั้นต้องดูพฤติกรรมด้วย ว่าเหมาะสมไหม
    เช่น ถ้าบอกวันนี้ ถ้าไม่ต้องทำงาน แต่ให้เงินปกติ คิดจะทำอะไร ถ้าเค้าบอก อยากทำบุญ
    อย่างนี้ไม่เป็นไร แล้วเราแนะให้เค้าทำบ่อยๆ

    และถ้าเราไม่สนใจได้อีก
    ต่อไปจะเป็นระดับใช้งานทั่วไป


    มันก็จะเป็น
    ๓. ชาติล่าสุด รองล่าสุด แล้วถอยไปเรื่อยๆ
    จนยุคไดโนเสาร์. คือ จนขี้เกียจจะไปรู้
    และไม่รู้จะรู้ไปเพื่ออะไร
    ซึ่งสามารถกำหนดรู้ใครก็ได้
    แต่ว่าพวกนี้ไม่ใช่ทาง
    ปกติเค้าจะไม่ทำกัน
    ส่วนใหญ่จะใช้
    ไล่ดู เพื่อประโยชน์ทางธรรม หรือคนอื่น
    เช่น คนนี้ถ้าทำแบบนี้ จะฝึกสำเร็จประมาน
    ช่วงไหนปีไหนประมานนี้ หรือทำแบบนี้จะดีไม่ดีในอนาคตประมานนี้ ความตรง
    ขึ้นอยู่กับความละเอียดผู้บอก และพฤติกรรมผู้ฟัง หรือแล้วแต่ระดับกิเลสในใจเรา ฯลฯ


    ปล ที่เสียชีวิตน่าจะมาจากส่วนศรีษะก่อน
    ลักษณะโดนกด(พลังงานนะไม่ใช่ว่าใครมากด) ถ้าอย่างนี้ ปกติจะหน้ามืด
    หรือสลบ(เรื่องธรรมดา) และมันยิงตรงต่อหัวใจ ทำให้เลือดไม่ไปถึงหัวใจ
    ครับ


    อีกมุมหนึ่ง นิทานนะครับ
    ปกติคนจะตายตามอายุไข
    เส้นแกนพลังงาน
    ที่ขึ้นข้างบน ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
    มันจะค่อยๆล้มครับ เรียกว่าพอมันขนานกับพื้นโลกก็คือสิ้นอายุไขปกติครับ
    แต่ถ้า ดูเหตุที่เสียชีวิตแล้ว
    ไม่ปรากฎการล้มของเส้นพลังงาน
    และดันมีกะแสสัมผัสภายในคงอยู่
    กรณีนี้ถือว่าเป็นวิบากที่เกี่ยวกับ
    พลังงานภายนอกทั้งระดับที่กำลังไม่มาก
    (พวกที่ต้องการบุญ)
    และกำลังมาก(ไม่ต้องการบุญ)
    ทั้งสองส่วนนี้ร่วมกัน มาส่งผลให้
    เสียชีวิตก่อนอายุไขตัวเองได้ครับ
    บ้านเราเรียกง่ายๆว่ากรรมตัดรอน
    แต่กิริยาเป็นอย่างที่เล่าให้ฟังข้างบน
    ปล ก็เรื่องปกติอีกนั่นหละ

    เรื่องสุดท้ายนิทานเด้อ เพราะมันไม่ใช่สากล
    เชื่อได้แต่อย่ายึด จนกว่าจะรู้ได้ด้วยตัวเอง ถึงรู้ก็ต้องวางเช่นกัน
    ฟังหูไว้หูดีสุดครับ

     
  14. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,342
    ค่าพลัง:
    +4,818
    แวะมากราบ พระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุพระอรหันตสาวก และอัฐิธาตุของครูบาอาจารย์ ที่ห้องพระธาตุ ร.พ วิชัยยุทธ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,884
    ค่าพลัง:
    +4,719

    แสดงว่าเจ้าที่เจ้าทางหวงสถานที่
    ไม่ต่างอะไรกับมนุษย์
    และสัตว์ต่างๆเช่นหมา แมว เป็ด ไก่
    ...แม้กระทั่งจิ้งจก
    ...เคยเห็นบ่อยครั้งที่จิ้งจกไล่ตัวอื่น
    ที่เข้ามาใกล้อาณาเขตของมัน

    ...แต่ที่ผมสงสัย
    และขอรบกวนถามท่านอจ.นพว่า...

    ที่กล่าวเล่ามาตั้งแต่โบราณกาล...
    เวลาคนตายที่บ้านครบ 7 วัน
    วิญญาณจะกลับมาที่บ้าน
    ...จะเท็จจริง ไม่ทราบ
    หรือแค่เป็นเรื่องเล่าต่อๆกัน
    จนเกิดอุปทานขึ้น....ในค่ำคืนนั่น

    ...แต่ที่เคยได้ยินคนเล่าให้ฟังก็มีบ่อยๆ
    บ้างได้ยินเสียงรื้อของอยู่ชั้นล่าง
    บ้างถึงกับเห็นเงาดำแว๊บๆ

    ฉะนั่นการที่พระภูมิเจ้าที่บางบ้าน
    ...ให้วิญญาณหรือผีเข้ามาได้
    ย่อมแสดงว่า...
    พระภูมิเจ้าที่มีหลายระดับชั้น
    คือมีทั้งจิตสูง-จิตต่ำ
    ...รู้อะไรควรไม่ควร
    ...ซึ่งไม่ต่างอะไรกับมนุษย์บางคน
    ที่มีจิตสำนึกคิดได้เองว่า...
    *ควรไม่ควร*

    ขอบคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กรกฎาคม 2018
  16. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,884
    ค่าพลัง:
    +4,719

    ...ท่านอาจารย์นพไปฝึกสมาธิจิตในป่าช้า
    น่าจะเคยมีประสบการณ์เรื่องลี้ลับ
    ...ชวนให้ขนหัวลุกบ่อยครั้ง
    ...หรือมีวิญญาณเข้าฝัน หรือนิมิต
    ...หรือกลิ่นศพโชยมาเป็นระยะๆ

    และอยากทราบเหมือนกันว่า...
    "ป่าช้าไหนผีดุและเฮี้ยนที่สุด"

    คำถามสุดท้าย
    ...ที่ไม่เคยได้ยินใครถามคือ
    "แล้วในป่าช้ามีเจ้าที่เจ้าทางดูแลหรือไม่"

    ถ้ามี...
    ทุกค่ำคืนไม่เกิด Ghost war หรือครับ
     
  17. maxmi

    maxmi แม็กคับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2017
    โพสต์:
    479
    ค่าพลัง:
    +1,205
    เมื่อคืนฝันว่างูกัด อุตส่าห์ว่าวันนี้จะไปซื้อล็อตเตอรี่สักหน่อย ท่าจะไม่ค่อยดีล่ะ
     
  18. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,884
    ค่าพลัง:
    +4,719
    Tips & Tricks (วรรคทอง)
    หน้า 6 (ลำดับที่ #104)
    (nopphakan post)

    เรื่องการหลงมิติ
    ต้องเล่าให้ฟังก่อนนะครับว่า มันไม่ใช่ความเท่ห์
    มันไม่ใช่เรื่องของการได้สัมผัสอะไรที่พิเศษเลย
    มันไม่ใช่เรื่องของการมีความสามารถในการเข้าไปใน
    หลุมดำได้ แล้วไปเห็นโน้นนี่นั้นนะครับ

    มันเป็นเรื่องที่ฟ้องว่า กำลังสติทางธรรมของเรามัน
    ยังอ่อน อ่อนที่จะควบคุมตัวจิตเราไม่ให้เข้าไปข้างในได้
    และการที่เข้าไปได้ แล้วไปเที่ยวหลงอยู่กับสถานที่ๆเราไป
    นั่นก็ฟ้องว่า เราขาดการควบคุมสติอย่างแรง...

    เพราะมองว่ามันเป็นเรื่องสุดแสนธรรมดาที่จะเจอได้
    เหมือนเราปั่น จักรยานเสือภูเขา ธรรมดาที่จะต้อง
    เจอเส้นทางที่มีรากไม้โผ่ล เจอก้อนหินบ้าง อะไรประมาณนี้
    จึงไม่ใช่เรื่องแปลอะไร ไม่ใช่ว่า เจอก้อนหิน เจอรากไม้
    มันจะเป็นเรื่องอะไรที่วิเศษวิโสอะไร เพราะใครถ้าปั่น
    ไปเส้นทางเดียวกัน ก็ต้องเจอเหมือนๆกัน
    พอมองภาพออกนะครับ
     
  19. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,044
    เสียชีวิต ปกติจิตจะไปได้ ตามที่จิตเคยคุ้นเคยประจำ
    หรือสถานที่ หรือ คนที่เป็นห่วง..
    เช่น สถานที่ตาย บ้านตนเอง ญาติที่ห่วงเป็นต้น...

    วันที่ ๑ และ ๒ จิตจะห่วงกายและยังไม่คุ้นกับระบบวิญญาน
    และกำลังจิตยังไม่เพียงพอต่อความคุ้นเคย
    ดังนั้น มักจะอยู่ใกล้ๆกับศพตัวเอง....
    วันที่ ๓ ขึ้นมาเริ่มพอมีกำลัง แล้วก็จะเริ่มไปตามสัญญาในจิต
    ไม่ว่า บ้าน สิ่งที่ห่วง ญาติ เพื่อน คนรัก ฯลฯ
    วันที่ ๔ ๕ ๖ ๗ มีกำลังมากขึ้นตามลำดับ
    เริ่มรู้และเข้าใจระบบวิญญาน เริ่มปลง
    เริ่มไปตาม บุญบารมี...
    ปกติ วันที่ ๒ หรือ ๓ ก็เริ่มไปยังสถานที่คุ้นเคย หรือหาคนอื่นๆได้แล้ว
    ถ้ามีการเชิญวิญญานด้วยการจุดธูปไปยัง สถานที่จัดงานศพ...

    ส่วนการจะเข้าบ้านตัวเองได้หรือไม่ได้
    ขึ้นอยู่กับบารมีแห่งตน ถ้าไม่ดีเคยทำไม่ดี ท่านอาจไม่ให้เข้า
    และสิ่งที่จิตห่วงว่าอยู่ในบ้านหรือเปล่า
    (ไม่ใช่มาขออยู่ในกรณีมีเจ้าที่เดิมอยู่แล้ว)
    พอเลยวันที่ ๗ ดวงวิญญานนั้นจะมีกำลังเพียงพอ
    ที่จะรวมกับสัญญาต่างๆ ไม่ว่าทางด้านกำลังบุญและกำลังบาป
    ก็จะไปตาม วิบากของจิตดวงนั้นๆ ถ้าดีก็ขึ้นสูง ถ้าไม่ดีก็ลงล่าง
    ถ้าครึ่งๆกลางๆก็ภูมิเดียวกับโลก ถ้าหวงของและบ้านไม่มีเจ้าที่
    ก็มักจะเป็นเจ้าที่เสียเอง.....
    ประมาณนี้...


    ส่วนการไปเดินป่าช้า ไม่ได้มีเจตนาเรื่องภพภูมิ
    ไปฝึกเรื่องการปรุงแต่งของจิตตัวเอง
    เพราะความมืด สถานที่มันทำให้เราเห็นความคิด
    เห็นการปรุงแต่งได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
    สถานที่เดียวกัน ตอนกลางวันและกลางคืน
    กลับรู้สึกไม่เหมือนกัน ที่ไม่เหมือนกัน
    เพราะเราไปดึงภายนอกเข้ามาปรุงนั้นเอง....

    เรื่องภพภูมิเรื่องรอง...เคยพอมีประสบการณ์ด้วยตาเปล่า
    ปกติถ้าจะเห็นก็จะเห็นด้วยตาเปล่านี่หละ
    ประเภทฝันหรือเห็นในนิมิต จะไม่ค่อยได้สนใจเท่าไร
    ช่วงออกจากวัดระยะเวลา ๒ ถึง ๓ ปีแรก
    ถ้าถามว่า ไม่เห็นผีกี่วัน พอจะตอบได้ไม่ยาก
    และเมื่อก่อน เวลาไปต่างๆสถานที่
    ไม่มีที่ไหน ที่ผีไม่แวะมาหา แวะมาดู
    แวะมาให้ช่วย แวะมาทัก พาไปเที่ยวบ้าง ฯลฯ
    พอเข้าใจเนาะ...
    ตาเปล่าเนี่ยเห็นมาทุกระดับตั้งแต่สูงสุด ยังลำบากสุด
    หลักนาที ประเภทวิสองวิ หรือ เห็นในนิมิต ไม่ค่อยสนใจเท่าไร
    หรือ แบบเดินๆตามกันแล้วเหาะลอยไป
    ต่อหน้าต่อตาก็มี นั่งขยี้ตาแล้วขยี้ตาอีกเป็นนาทีก็มี
    แต่ตอนนั้น กำลังสติยังไม่มากพอที่ จะเข้าใจวัตถุประสงค์
    ก็เลยรู้สึกเฉยๆไม่ค่อยได้สนใจเท่าไร...
    เพราะพอรู้อยู่แล้วว่าเรื่องแบบนี้ มีจริง...
    เพราะเห็นมาตั้งแต่เด็กๆ..
    บางเรื่อง ถ้าเล่าไปมันจะดูเหมือนโอ้อวดตนเกินไป
    เอาว่า ในรูปปั้นหลายๆรูป ที่คนกราบไหว้กัน
    ส่วนตัวเห็นแบบตาเปล่า มาพอสมควร...
    เอาไว้เล่า ปนฮาจะดีกว่าครับ

    หรือประเภทปะชะดะ กับภูมินิสัยไม่ดี พวกภูตและอสูรกาย
    ที่เที่ยวหลอกคนแกล้งคนไปเรื่อยนั้น
    แบบเจอตาเปล่าๆก็พอมี
    นานแล้ว ตั้งแต่ไปเบรคพวกขี้โม้ แต่พอมีความสามารถมา..
    พวกหมอผี หมอธรรมเจอมาหมดแล้ว...
    ส่วนพวกภูต จะมาทดสอบเราเฉยๆ ประมาณว่า มะรึงแน่แค่ไหน
    พอรู้แล้วก็เลิกๆกันไป ไม่ได้ติตใจเอาความกัน
    ไม่เล่าหรอก เด่วมีพวกนั้นมาอ่าน จะรู้ทางเราได้ ๕๕๕
    หรือ ปะชะดะกับระดับมีฤิทธิ ข้างบนก็มี
    แบบว่า ค่อยๆลุกออกจากเตียงแล้วขึ้นไป ปะชะดะกันเลย ๕๕๕
    แต่ว่าก็ไม่ควรเล่าอีก เพราะสุดท้ายก็ไม่มีอะไร...
    เป็นแค่เรื่องเข้าใจผิดกันเฉยๆ....

    คือ ถ้าเราไม่ได้มีเจตนาไม่ดี หรือไม่มีเจตนาจะทำร้ายใคร
    ปกติภพภูมิเค้าจะไม่มายุงอะไรกับเราอยู่แล้วครับ
    พวกนี้เค้าดูออกว่าอะไรเป็นอะไร....
    หลังๆมีแต่เค้าจะหาอุบายให้ไปบริเวณที่เค้าอยู่
    อย่างลุดสุด ที่พึ่งกลับจากไปหา พระครูปลัดจิตไว
    ในระหว่างทางก็เจอ..แต่เอาไว้เล่าที่หลัง
    เอาไว้ ไปโม้และถามพระอาจารย์ก่อน...ค่อยว่ากัน
     
  20. สะไบดินแดง

    สะไบดินแดง ทุกอย่างอยู่ที่จิตใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    325
    ค่าพลัง:
    +1,062
    ว้าววว อาจารย์นพเจอแบบ จังๆเลยหรอคะ
    ปะชะดะ นี้ แปลว่า เจอ ปะทะ อะไรประมาณนี้ใช่มั้ยคะอาจารย์

    พออาจารย์พูดเรื่อง หมอผี คนทรง มาแล้ว
    เจอมีข้อสงสัย อยู่หลายเรื่อง ที่อยากถามอาจารย์คะ
    (มิได้มีเจตนาลบหลู่ ใดใด นะคะ)

    ขอเล่าแบบนิทาน น้อยตามสไตล์เจนหนี้เวอร์
    เรื่องมีอยู่ว่า ครั้งที่เจนฝันถึง คนแก่ชายผมขาวดูมีวิชาทำพิธีประหลาด
    ในพิธีมีแต่คนแก่ มีเจนคนเดียวที่เป็นวัยสะรุ่น
    ตาเขาคายหมากที่เคี้ยวๆอยู่ ใส่มือ แล้ว~~มาป้ายใส่ปากเจน
    *** เหตุการณ์แบบนี้ เขาเรียกว่าอะไรคะอาจารย์นพ ??
    เพราะ ตาที่บ้าน บอกว่า มันเหมือนการ สืบทอด

    ย้อนความไปในอดีต ของพ่อเจน
    บ้านของแม่พ่อ ก็คือย่า
    ย่า อยู่ที่จังหวัดติดริมโขงเลยสกลไป
    ทางบ้านย่า มีประวัติ ของคนทรง (ซึ่ง เจนไม่ทราบว่าคืออะไร)
    แม่ ของย่า คือ ภรรยาเจ้าเมืองเก่าในอดีต
    (แต่มันคงไม่เกี่ยวกับทางเจนแล้ว สายสัมพันธ์อาจถูกตัดลง)
    และ จะมี คนที่เหมือน หมอธรรม คนทรง สืบต่อๆกัน
    รุ่นย่าทวด มาย่า มาป้า แล้ว ช่วงที่ เจนฝันนี้
    ในเดือนเดียวกันกับที่ฝัน คนทรงเก่าแก่ ญาติเจนเอง
    ท่านเสียชีวิต ลง ช่วงที่เจนฝันพอดิบพอดี
    จะว่าบังเอิญไปมั้ยเนี้ยยยย~~~~-

    แล้วตัวเจนเอง เป็นคนชอบ เรื่องลี้ลับมากกก
    แต่กลัวผี มากกก และ กลัว คนทรงเจ้า มากๆ คะ

    ซึ่งพอตาเจน ตีความฝันนี้ให้เจน
    เจนกลัวที่สุด ตรงนี้ละคะ ไอ้คำว่า สืบทอด
    (มันเหมือนเรื่อง ปอบผีฟ้าไรงี้คะ)

    แต่เจนก็ได้ปรึกษาหลวงพ่อ พระอาจารย์ที่เคารพ
    ท่านก็บอกให้ปล่อยวาง เฉยๆไปเลย
    เจนเลยบอกว่ากลัวมาก
    หลังจากนี้ก็ มีหลายครั้ง ที่ฝันถึง พี่ปอบ
    พวกผีแก่ น่ากลัว จนหลวงพ่อ ท่านให้ พระรอดมา
    แต่ ท่านไม่บอกว่าให้เพราะอะไร ท่านบอกให้รอด

    แต่ว่า แม่เคยเล่าให้ฟังว่า
    ตอนที่พี่สาวพ่อ เข้าทรง
    แม่ได้ยินเสียง ม้า ที่กำลังวิ่งควบมา
    อะไรประมาณนี้

    อาจารย์นพว่า มันจะเกี่ยวกันมั้ยคะ
    กับที่เจนฝันถึง
     

แชร์หน้านี้

Loading...