จิตพุทธะสว่างขึ้นได้ในชั่วปัจจุบันขณะจิตเดียว

ผมก็ไม่มีนิมิตนะ
ขอเหรียญด้วย

เห็นคุยเรื่องสมาธิ ก็หล่อนไม่รับฟังเนี่ย ก็เลยขี้เกียจถกแล้วไง ไม่สนุก

นอกจากจะบอก ก็ลุงทำสมาธิไม่เป็น กล่าวหาไปเลยจบ ชนะไปเลย

 

ถึงโอนลอย นิมิตรให้คนอื่น พวกพลาดเยอะ จะมีความรู้มากกว่า

 

หนูอะหรอไม่ทำสมถะ ก้อลุงมาเล่นตอนหนูคุยแต่ผล

ลุงปิดประตูอย่างเดียว ไม่รับ ไม่ฟัง อสุภะลุงก้อไม่รุ้ ไปเหมาว่านิมิตไร้สาระ ลป.ลพ.ฝึกกันมาทั้งนั้น แถมเปิดสน.สอนกันก้อตั้งเยอะ ในยูทูปก้อมีเสียงท่านเยอะแยะ

มันไม่ใช่นิมิตที่จิตเห็นแล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้นหนิ แต่มันทำลายความหลงในเนื้อหนังออกตลอด พ่อแม่ลูกผัว เมีย สัตว์ หั่นออกหมด เพราะมีหนังกำพร้าหุ้มเป็นที่สุดเหมือนกันหมด

 

ถ้าลุงฝึกไม่เห็นนิมิต คือยังฝึกไม่ถึงปฎิภาค

 

ฝึกกองไหนมา

อสุภะมีกี่กอง ปฎิภาคแต่ละกองขึ้นเหมือนกันมั้ย

กรรมฐาน5 ต้องเข้าป่าช้าป่ะหล่ะ พินาจากขน ผม เล็บ ฟัน หนัง อันใดอันนึงก้อได้ มันเป็นของที่มีอยู่ในตัวเราๆ มั้ยหล่ะ แต่ปฎิภาคจะขึ้นเป็นอวัยวะน้อยใหญ่ภายในแทน

ลุงเคยบวชพระป่ะ ก่อนรับผ้าพระอุปชาย์ท่านให้กรรมฐาน5กับพระภิกษุทำไมหล่ะ

 

นั่งดูรูปรถยนต์ ศพเละ ปลงอสุภะไม่ได้ซะงั้น มันต้องนิมิตรถึงจะเจ๊ง

ไปดีกว่า เหรียญทองก็ไม่ให้ แข่งกีฬา ผู้จัดโกง555

 

บอกไว้ตรงนี้ คนติดนิมิต ผมจะไม่ถกหรือแก้อะไร เลยจะไม่เดือดด้วยแค่เอาพอฮา ให้สายแก้นิมิตตรงจัดการไปเลย นั่นละแก้ไปจนกว่าจะไม่มีนิมิตรับเหรียญนะละ ลุงขอวางเฉยเคสแบบนี้ ไม่ต้องโอนมา
เพราะเคือง ที่เขาไม่ยอมให้เหรียญ5555

 

ปฏิภาคเริ่มเกิดรวมลงเข้าได้ตั้งแต่อัปนาสมาธิ มีปฐมฌานเป็นต้น
ไปจนอัปนาสมาธิอย่างละเอียดหรือฌาน 4 จะเหลือแต่จิตเพียวๆ

มีกรรมฐานที่ตั้งด้วยรูป อาการ 32 อสุภะ เป้นต้น กสิน

อย่างฉวีฝึก แม้จะบอกว่า วิปัสนา แต่มันยังไม่เป็นวิปัสนา เพียงแต่เริ่มฝึก
นาง ยัง งง ภาษา และคำพูด

 

ตรวจสอบองค์ฌานไปครับ เอคตา วิตก วิจารณ์ ถ้าบอกฌาน 3 แต่ยังพิจารณาอสุภะ (ยกตัวอย่างง่ายๆนะ ไม่ได้พาดพิงใคร) แบบนี้ผมส่ายหัวครับ ผิดเงื่อนไข

 

ที่ต้องพูด ย้อนกลับไปเรื่อง ไม่ประนีประนอมครับ เครื่องมือตรวจสอบก็มีแล้ว ต้องรู้จักใช้

 

หรือว่าลุงโจฮันมั่ว ทำสมาธิไม่เป็น
ก็คิดไปเลยครับ แบบพยาตีนที่พูดในเชิงนั้น
เสพเอาบันเทิงพอ แต่ตัวใครตัวมันอยู่แล้ว

 

ลุงทำสมาธิไม่เป็น
ถ้าอสุภะของสมถะเพียวๆ แล้วไปชานตัวแข็ง ใช่ นับองค์ชานแบบลุงได้

แต่อสุภะที่ควบวิปัสสนาไม่ใช่

 

แป่ว. เครขอบคุณ

ถาดฟาดหัวที 555

 

ชีวิตนี้รู้จักแต่ชานตัวแข็ง อสุภะตัวแข็ง

อสุภะตัวไม่แข็งไม่รุ้จัก

รุ้จักแต่สมถะแยกทาง วิปัสสนาแยกทาง ต้องจิตตั้งเอกัตคตาอย่างเดียว นั่งแข็งอย่างเดียว


แต่สมถะวิปัสสนารวมไม่รุ้จัก ตัวไม่ต้องแข็งไม่รุ้จัก

 

อัปนาสมาธิ นับที่ปฐมฌาน มีองค์ 5 เวลามันไล่ลำดับมันจะไล่ไปเอง
คนที่อยู่ในองค์ฌาน ต้องมีการทำซากๆมาก จึงจะแยกองค์ฌานออก
ฌานสมถะ ไม่ได้ทำได้ง่ายๆ มีเสียงเป็นข้าศึก เสียงรถผ่าน สมาธิก็ตกแล้ว

ปฏิภาค ที่มันเกิด จะเหมือนเหมือนตามเห็น
และมันจะเริ่มเป็นไปเองจิตที่เพ่งดูอยู่จดจ่อดูอยู่ มันจะทวนพินาไปตามลำดับ
ในตอนที่เริ่มตั้ง ในระหว่างอุปจาระสมาธิ

คำว่าอุปจาระสมาธิ นอกจากจะสามารถตั่งจิตตั้งใจ พินาได้
มีความจดจ่อเพื่อให้ สมาธิของจริงได้เกิดขึ้น นั่นคือ ปฐมฌาน เขาจึงเรียกว่า
อุปจาระหรือ อุปการะ หรืออุปฐาก คือการ ดุแลเอาใจใส่ ให้องค์รวม ของสมาธิเกิดขึ้นอันมีปฐมฌานเป็นต้น เหมือนคอยเลี้ยงเด้กให้ค่อยๆโตขึ้น
คอยเลี้ยงลูกบอลหลบสิ่งกีดขวาง ตอนวอมอัพ จึงเรียกว่า อุปจาระ อุปการะ หรืออุปฐาก

 

เด็กน้อย !!

ถูกไหม ถูก

90% หมายถึงที่เป็นพระ สมาธิไม่รู้จัก ( รู้จักแต่ ฌาณ แฌณ )

 

อะอย่างน้อยก็ดีใจนะ มีคนยอมรับว่าเรา ฌานตัวแข็งได้
ดีใจเพราะจะได้ถามต่อได้เรื่องสมาธิ

แต่ลุงไม่มีนิมิตอะ ไม่ว้อนจะมีผิดมะ และทำไมถึงไม่มีนิมิต หรือต้องว้อนจะมีครับ?

 

ก็ดีนะ ไม่กลัวฌาน สุขที่ไม่ควรกลัว(พุทธวจน)
คำพูดลุงพยาธิ เฉพาะเย็นนี้ ผมว่าไร้น้ำหนักหลายหัวข้อครับ

 

ไม่ด่าเราตั้งสมาธิไม่เป็นก็บุญใหญ่หลวงนัก (เสียงน้าคร่อม)555

 

พระโมคคัลลาก้เข้าฌานตัวแข็ง แต่แข็งแต่ภายนอก
คนไม่เป็นจะไปรู้เรื่องอะไร ว่าอะไรคือควบ

หลวงปุ่พุธ ก็เข้าฌานตัวแข็ง แต่แข็งแต่ภายนอกที่คนมอง แต่สภาวะการดำเนินไม่ใช่
แต่เป็นการควบ คนไม่เป็นจะไปรุ้อะไรอะไรคือควบ

พวกนี้ไม่รู้จักอัปนาสมาธิ ก็แหล แหล แหล