พระดี พิธีใหญ่ รับประกันแท้ทุกรายการ!!! เชิญชม บูชา ในกระทู้ได้เลยครับ"

843. เหรียญหลวงพ่อทองสุก สุธมฺโม วัดหัวบึงทุ่ง จ.นครพนม รุ่นไพรีพินาศ #ครบรอบอายุ 109 ปี ปิดรายการครับ

​

“หลวงพ่อทองสุก”ท่านนี้ ตามประวัติว่า
ท่านมีอายุยืนถึง 100 กว่าปีเชียวนะครับ แต่ท่านบวชเอาเมื่อย่างเข้าสู่วัยกลางคน
แล้วเคยเรียนวิชาอาคมมาพอตัว ภายหลังท่านได้เข้ามาเป็นลูกศิษย์ #สายพระอาจารย์มั่น #ภูริทัตโต ท่านจึงหันมามุ่งในด้านการปฏิบัติ วิปัสนากรรมฐาน
ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ไม่ค่อยจะปรากฏกิตติศัพท์ แต่เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านละแวกนั้น ทั้งฝั่งไทยและฝั่งลาวมากพอสมควร ท่านเก่งเงียบๆในท้องที่แบบเงียบๆ เป็น”#ช้างเผือกต้องอยู่ในป่า”มานานทีเดียว
ครั้งมีอายุครบ 108 ปี
#เมื่อตอนปลุกเสกเหรียญเสร็จแล้ว
#ท่านได้เอาสายสิญจน์ที่ใช้ในการปลุกเสก เหรียญนั่นแหละ มาจ่อกับเปลวเทียนไขที่ใช้ในพิธีจ่ออยู่พักใหญ่สายสิญจน์ก็ไม่ไหม้ไฟ จนเกิดความฮือฮาในหมู่ลูกศิษย์
ที่นั่งชมการปลุกเสกกันมาก
นอกจากนี้แล้วท่านยังกำชับอีกว่า "เหรียญของท่านห้ามนำไปทดลองเป็นอันขาด"
เพราะท่านได้ลงคาถาป้องกันตัวเอาไว้
หากนำไปทดลองแล้ว อันตรายจะสะท้อนจะกลับมาหาตัวเอง แต่ก็มีคนลองดีเอาเหรียญท่าน ไปทดลองยิงเท่านั้นแหละครับได้เรื่องเลย
“ปืนระเปิดใส่หน้าตาแตกเลือดโกรกเลย” แล้วนับแต่นั้นมาก็ไม่มีใครกล้าเอาเหรียญท่านไปทดลองยิงอีกเลย

 

จอว842 843

 

รับทราบการจองครับ ขอบคุณมากครับพี่

 

​

 

844. สุดยอดพระดีผงศักสิทธิ์ พระสมเด็จพิมพ์สังฆาฏิ / พิมพ์ซุ้มเกลียวเชือก
หลวงปู่จันทร์ วัดศรีเทพ จ.นครพม ผสมมวลสารบางขุนพรหม ปี 2500 ให้บูชาองค์ละ 750 บาท

​

พระชุดเนื้อผงหลวงปู่จันทร์ เขมิโย
วัดศรีเทพประดิษฐาราม จ.นครพนม ปี 2500 เนื้อหามวลสารดีมากๆ เนื่องจากมีเนื้อพระสมเด็จบางขุนพรหม ที่แตกหักและผงโสฬสมหาพรหม หลวงปู่ศรีทัต วัดท่าดอกแก้ว อ.ท่าอุเทน อันโด่งดัง ผสมอยู่ด้วย ซึ่งพระเนื้อผงของหลวงปู่ จะออกสีขาวอมเหลืองนวลอ่อนๆ พระที่จัดสร้างในชุดนี้ มีมวลสารสุดยอดหลายอย่าง
อาทิเช่น
๑.ผงพุทธคุณของหลวงปู่จันทร์ เขมิโย
๒.น้ำมันงาเสกของหลวงปู่จันทร์ เขมิโย
๓.ผงของพระสมเด็จบางขุนพรหม
๔.ผงโสฬสมหาพรหม ของหลวงปู่ศรีทัต พระอาจารย์ของท่าน
( ผงนี้เป็นมวลสารเดียวกับพระผงชุดโสฬสมหาพรหมของหลวงปู่ทิมแห่งวัดละหารไร่ )

ขั้นตอนการลบผงโสฬสมหาพรหม นี้ หลวงปู่ศรีทัต ได้ใช้เวลาในการสร้างถึง 1 ปี การลงผงโสฬสนั้นต้องลงด้วยอักขระตัวขอม เป็นกลยันต์โดยภาวนาจากจากตัต้นจนถึงตัวสุดท้าย ผูกสลับเป็นกลยันต์ 16 มุมในแต่ละมุมแบ่งเป็น 16 ชั้น แต่ละชั้นลงอักขระ 16 ช่อง อักษรในแต่ละตัวแต่ละช่อง ต้องลบถม เรียกสูตร 16 คาบ ผูกอธิษฐานเสกครบถือเป็น 1 ครั้งและต้องทำแบบเดียวกันครบ 16 ครั้ง แล้วรวบรวมผงที่เสกทั้ง 16 ครั้งมาอธิษฐานจิตตามตำราจนครบถ้วนตามฤกษ์แล้วจึงนำผงมาลูบในกระดานบังเกิด เป็นอักขระยันต์โสฬสมหาพรหมโดยไม่ได้เขียนจึงจะถือว่าสำเร็จสมบูรณ์ใช้ได้ผง ที่ได้นี้ครบตามสูตร เชื่อกันว่าเทพเทวะทั้ง 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน 14 บาดาล21 ชั้นพรหมต่างๆ ทุกพระองค์ จะลงมาอนุโมทนาอำนวยพรให้ผงวิเศษนี้จึงมีอานุภาพแรง ทรงความขลังศักดิ์สิทธิ์
ผู้ที่บูชาพระพิมพ์ชุดนี้ติดตัว ต่างประสบกับเหตุอัศจรรย์ต่างๆมากมาย ทั้งด้านหนุนดวงชะตา เมตตาค้าขาย.....

 

845. สุดยอดพระดีของหลวงปู่ครับ ตลับยาหม่องพิมพ์เล็ก หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม ปิดรายการครับ

​

ตลับยาหม่องหรือ"เหรียญสัมฤทธิ์พระรูปหลังหนังเสือ" ก็เป็นหนึ่งในวัตถุมงคลยอดฮิตของสายนี้ ซึ่งคนส่วนใหญ่ทราบถึงพุทธคุณและประสบการณ์ดีแต่น้อยคนมากๆจะเคยเห็นใบฝอยในสมัยนั้น

ของดีจากหลวงพ่อเต๋ คงทอง เหรียญสัมฤทธิ์พระรูปหลังหนังเสือ
พระคาถาบูชา นะโม 3 จบ อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ ภะ
จงระลึกตั้งใจภาวนา นับถือให้มั่นจะสมดังใจปรารถนา จะขอกล่าวพรรณาแต่ย่อๆ พอสมควร มีเมตตามหาอำนาจ ทั้งแคล้วคลาดอาวุธทั้งมวล อีกอสรพิษ ภูติผีปีศาจ มิกล้ำกลายมารบกวน คุ้มครองคุณไสยถ้วน ทั้งโรคภัยมิแผ้วพาล นำติดไว้กับคนประเสริฐล้นมหาศาล ขับไล่ภูตผีลมเพพัดเป็นสัจจัง
ท่านให้ภาวนา พระคาถาบูชาเหรียญสัมฤทธิ์พระรูปหลังหนังเสือเป็นประจำอยู่เสมอ จะบันดาลสวัสดิ์พิพัฒนมงคล เป็นที่รักใคร่และเกรงขามแด่เทพยดาภูตผีปีศาจ และมนุษย์ทั้งหลายด้วยทุกประการ
ของดีที่ประกอบเหรียญสัมฤทธิ์พระรูปหลังหนังเสือ
1.เนื้อหลอมด้วยทองสัมฤทธิ์
2.ผงพระพุทธคุณ 108 ใส่ด้านหลัง
3.พระเกษาของหลวงพ่อท่านใส่ด้านหลัง
4.แร่มหานิล (คงกระพัน) ใส่ด้านหลัง
5.หนังเสือลงด้วยอักขระวิเศษ ปิดทับด้านหลัง

ของดีมีน้อย จำนวนจำกัด เพราะสิ่งที่รวมประกอบเป็นของที่หาแสนยากทั้งสิ้น สานุศิษย์ท่านผู้ใดสนใจจะได้ไว้บูชา โปรดกรุณามารับกับมือของหลวงพ่อท่าน จะได้รับของที่มีความศักดิ์สิทธิ์ตามความประสงค์
หลวงพ่อเต๋ คงทอง เจ้าอาวาส วัดสามง่าม อ.กำแพงแสน จ นครปฐม

 

846. พระดีที่น่าบูชา สมเด็จผาสุก (พิมพ์เล็ก) เจ้าคุณนรฯ วัดเทพศิรินทราวาส ปิดรายการครับ

​

​

พระสมเด็จผาสุก(พิมพ์เล็ก) ซึ่งเป็นพระที่เข้าพิธี ๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๑๓ ณ พระอุโบสถวัดเทพศิรินทราวาส ซึ่งมีจำนวนการสร้างน้อยมาก(ประมาณ ๒,๐๐๐-๓๐๐๐องค์) พระชุดนี้ท่านเจ้าคุณอุดมตั้งใจเอาไว้แจกในงานวันเกิดท่าน จึงไม่มีการจำหน่าย แต่พระชุดนี้ส่วนหนึ่งท่านเจ้าคุณอุดมได้มอบให้เจ้าคุณวัดโพธิ์ จังหวัดสุโขทัย พระชุดนี้จึงตกอยู่จังหวัดสุโขทัยเป็นจำนวนมาก ในกรุงเทพฯหาได้ยาก พระสมเด็จผาสุกเล็กในเวลานั้นคนรู้จักน้อย ผู้เขียนมั่นใจว่าพระชุดนี้ไม่มีการสร้างเสริมแน่นอน
พระสมเด็จผาสุกเล็กเป็นพระเนื้อผงเช่นเดียวกับสมเด็จหลังอุ ขนาดฐานกว้าง ๑.๕ เซนติเมตร สูง ๒.๒ เซนติเมตร ด้านหลังองค์พระ มีรูปยันต์น้ำเต้า และมีข้อความว่า"ผาสุก" พุทธคุณดีทางด้านเมตตาและแคล้วคลาด

พระภิกษุธัมมวิตักโกหรือที่ชาวบ้านรู้จักท่านในนามเจ้าคุณนรฯ ท่านเกิดวันเสาร์ที่ ๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๔๐ ตรงกับขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ ตรงกับวันมาฆบูชา ปีระกา เวลาประมาณ ๗.๒๔ น. เดิมชื่อนายตรึก จินตยานนท์ เป็นบุตรคนโตของนายตรอง นางพุก จินตยานนท์ (นายตรอง จินตยานนท์ อดีตคือพระคุณนรนาฎภักดี นายอำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี)
ท่านเจ้าคุณนรฯวัยเด็กท่านมีรูปร่างเล็กบอบบาง ผิวพรรณละเอียดอ่อนเปล่งปลั่งเป็นน้ำเป็นนวล อันเป็นลักษณะของผู้มีสกุลชาตฺ ผู้มีบุญวาสนาสูง เมื่อถึงวัยอันสมควร ท่านได้เข้าศึกษาเรียนหนังสือชั้นประถมที่โรงเรียนวัดโสมนัสและศึกษาต่อชั้นมัธยมที่โรงเรียนวัดเบญจมบพิตร เมื่อศึกษาจบแล้ว เดิมทีท่านตั้งใจจะเรียนแพทย์ เพื่อจะได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์เมื่อเจ็บไข้ได้ป่วย แสดงให้เห็นว่าท่านมีจิตใจเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ แต่พระคุณวรนาฎภักดีบิดาของท่าน ต้องการให้บุตรชายเป็นนักปกครองเจริญรอยตามบุพการี ท่านเจ้าคุณนรฯเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย สูงด้วยความเคารพต่อบิดา จึงต้องทำตามประสงค์ของบิดา เจ้าคุณนรฯท่านจึงเข้าศึกษาขั้นอุดมศึกษาที่โรงเรียนข้าราชการพลเรือนหอวัง ต่อมาได้ยกฐานะเป็นคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย สำเร็จเป็นรัฐศาสตร์บัณฑิต รุ่นแรก
เมื่อท่านสำเร็จการศึกษาแล้ว ได้รับราชการในกรมมหาดเล็กหลวง แผนกตั้งเครื่อง ตำแหน่งมหาดเล็กพิเศษ เมื่อวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๕๗ และระยะเวลา ๘ ปี ท่านก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯให้เป็นเจ้ากรมห้องพระบรรทม มีบรรดาศักดิ์เป็นพระยานรรัตนราชมานิต เมื่อวันที่ ๓๐ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๖๕ ขณะนั้นมีอายุได้ ๒๕ ปี และเป็นองคมนตรีในรัชกาลที่ ๖ เมื่อวันที่ ๑ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๖๗
ท่านเจ้าคุณนรฯรับราชการจนกระทั่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตท่านได้อุปสมบท(บวชหน้าไฟ) เพื่ออุทิศเป็นพระราชกุศล ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ เนื่องในงานถวายพระเพลิงพระบรมศพ เมื่อวันที่ ๒๔ มีนาคม พ.ศ.๒๔๖๘ ณ วัดเทพศิรินทราวาส โดยมีสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์(เจริญ ญาณวรเถระ) เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า"ธมฺมวิตกฺโก"
เมื่อท่านธัมมวิตักโก ได้อุปสมบทแล้ว ท่านตั้งใจว่าจะบวชทดแทนคุณในหลวงรัชกาลที่ ๖ ระยะเวลาหนึ่ง แล้วท่านก็จะลาสิกขาเพื่อไปรับราชการต่อไปและมีครอบครัว เมื่อท่านได้ศึกษาและปฏิบัติตนตามคำสั่งสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านก็ทราบซึ้งในพระธรรม เล็งเห็นว่า ลาภ ยศ สรรเสริญเป็นความสุขที่ไม่ยั่งยืน ท่านจึงตันสินใจจะครองสมณเพศตลอดชีวิตของท่าน ทั้งๆที่ท่านมีตำแหน่งหน้าที่ทางราชการรอท่านอยู่ ตลอดจนทรัพย์สมบัติและโอกาสที่จะหาความเจริญในทางโลกต่อไปอย่างพร้อมมูล
เมื่อท่านแน่วแน่ว่าจะปฏิบัติธรรมตลอดชีวิตของท่าน การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานของท่านก็เจริญก้าวหน้าจนหาพระภิกษุรูปอื่นเทียบท่านได้ ท่านสามารถถอดจิตไปในสถานที่ต่างๆ แม้สถานที่นั้นจะอยู่ต่างประเทศอันเป็นแดนไกลก็ตาม ท่านได้แสดงปาฏิหาริย์มากมายหลายครั้ง จนเกิดเสียงร่ำลือของคนไทยทั้งประเทศว่าท่านสำเร็จเป็นพระอรหันต์
การปฏิบัติธรรมของท่านเจ้าคุณนรฯ เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของคนไทยทั้งประเทศ ไม่ว่าบุคคลนั้นจะอยู่ในฐานะใดทุกระดับชั้น แม้แต่ข้าราชการที่มีตำแหน่งสูงถึงนายกรัฐมนตรี และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ระดับผู้บัญชาทหารบก ได้แก่นายสัญญา ธรรมศักดิ์ หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช และพลเอกกฤษณ์ สีวะรา ก็ให้ความเคารพนับถือท่าน โดยเฉพาะหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมชได้เคยเข้าไปกราบนมัสการท่านเจ้าคุณนรฯ ที่พระอุโบสถวัดเทพศิรินทราวาส หลังจากท่านเจ้าคุณนรฯทำวัตรเสร็จ ก็ได้พูดคุยถามถึงสาระทุกข์สุกดิบสุขภาพของท่านสบายดีหรือไม่ เจ็บไข้ได้ป่วยหรือเปล่า และเรื่องอื่นๆ เมื่อสบโอกาสเหมาะ หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมชจึงเรียนถามท่านว่า"เกล้าฯได้ยินข่าวร่ำลือว่าพระเดชพระคุณท่านสำเร็จเป็นพระอรหันต์จริงหรือขอรับ" เมื่อท่านเจ้าคุณนรฯได้ยินคำถามของหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช ท่านก็กวักมือเรียกหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมชให้เข้ามาใกล้ๆท่านและพูดตอบกระซิบว่า"เธอจะบ้าหรือไง" ผู้เขียนเข้าใจว่าคำตอบของท่านเจ้าคุณนรฯ มิใช่คำตอบรับหรือปฏิเสธ แต่เป็นคำตอบที่มีลักษณะตำนิติเตียนว่าไม่ควรถามคำถามนี้ต่อพระภิกษุ เป็นคำถามที่ไม่เหมาะสมไม่สมควรเพราะถ้าพระภิกษุตอบรับหรือปฏิเสธ ก็จะมีผลเสียหายมากกว่าผลดี ถ้าท่านตอบรับว่าสำเร็จเป็นพระอรหันต์ บุคคลอื่นที่มีใจอิษฉาริษยา จะกล่าวโจมตีว่าเป็นการโอ้อวดคุณวิเศษยกตนข่มผู้อื่น แต่ถ้าท่านสำเร็จเป็นพระอรหันต์จริง แล้วท่านกล่าวปฏิเสธ ก็จะเป็นการกล่าวเท็จผิดศิล ซึ่งผิดกับปัจจุบันนี้ พระภิกษุไม่ว่าหัวหงอกหรือหัวดำมักจะอวดอุตริอ้างว่าตนเองสำเร็จเป็นพระอรหันต์ ผู้เขียนไม่ทราบว่าท่านทำเพื่ออะไร ?
หลังจากที่ท่านเจ้าคุณนรฯมรณภาพเมื่อวันที่ ๘ มกราคม พ.ศ.๒๕๑๔ ชื่อเสียงของท่านก็เริ่มโด่งดัง โดยเฉพาะปีพ.ศ.๒๕๑๖-๒๕๑๘ชื่อเสียงของท่านดังทั่วประเทศ มีเสียงร่ำลือว่าท่านสำเร็จเป็นพระอรหันต์ัดังได้กล่าวมาแล้วแต่ต้น พระเครื่องของท่านจึงเป็นที่นิยมมากของนักสะสมพระเครื่อง

 

847.พระดี ศรีอโยธยา เหรียญทูลเกล้า หลวงปู่หน่าย วัดบ้านแจ้ง พ.ศ.๒๕๑๙ หรือเรียกว่ารุ่น ลาภ ผล พูน ทวี (รุ่นคอเอียง) ให้บูชา 1650 บาท

​

-เนื้อทองแดง ผิวรมน้ำมันก๊าซ
-สภาพสวยมาก
-สร้างแค่ ๒,๐๐๐ เหรียญ เท่านั้น
-เหรียญรุ่นนี้ออกแบบได้สวยงามมาก ด้านหลังเหรียญมีการวางโครงยันต์ได้สวยงามลงตัว ดูเข้มขลังมาก

.. หลวงปู่หน่าย อินทสีโล ศิษย์รุ่นสุดท้ายในสายหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท
วัตถุมงคลท่านล้วนมีประสบการณ์ ดีทุกด้าน เมตตามหานิยม แคล้วคลาด คงกะพัน เรียกได้ว่า ครบเครื่องเมืองกรุงเก่าครับ

 

​

 

848. พระสมเด็จ ก-ข ยุคต้น ท่านเจ้าคุณเที่ยง วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพฯ มวลสารผงเก่าวัดระฆัง ฝากเข้าพิธีปลุกเสกวัดระฆังรุ่น 100 ปี ให้บูชา 850 บาท

​

​

สมเด็จ กข เจ้าคุณเที่ยงวัดระฆังยุคต้น พื้นที่จังหวัดนนทบุรี เล่นเป็นหลวงปู่สาย วัดบางรักใหญ่ เรื่องจริงตามข้อมูลประวัติ หลวงปู่ทั้งรูปได้ปลุกเสกร่วมกันในพิธีเดียวกัน จึงได้มีการแบ่งวัตถุมงคลกันเพื่อให้ลูกศิษย์ลูกหาได้บูชากันอย่างทั่วถึง
สร้างจากผงเก่าสมเด็จวัดระฆัง อาทิผงเก่าสมเด็จโต สมเด็จปิลันณ์ ผงเก่าหลวงปู่นาคหลวงปู่หิน สร้างตามตำราวัดระฆัง จัดว่าเป็นพระดีปีลึกหน้าบูชาครับ
พระสมเด็จ เจ้าคุณเที่ยง วัดระฆัง ผสมผงเก่า "ผง วิเศษ" (เช่น ผงอิทธิเจ ผงปัถมัง ผงมหาราช และผงวิเศษอื่นๆ อีกมากมาย ฯลฯ เป็นต้น) ที่ได้รวบรวมมาจากพระเกจิคณาจารย์ดังๆ ในสมัยนั้น ทั่วฟ้าเมืองไทย
"เกสรดอกไม้แห้ง" ที่นำมาจากวัดทั่วประเทศไทย
"ผงปูน" ที่ได้มาจากการกระเทาะจากพระอุโบสถวัดระฆัง
"พระสมเด็จวัดระฆัง" กรุเก่า
"พระสมเด็จวัดบางขุนพรหม" กรุเก่า
"สมเด็จพระปิลัทน์" ที่ชำรุดแตกหัก
"พระกรุต่างๆ" ที่แตกหักอีกมากมาย เช่น พระกรุวัดสามปลื้ม ฯลฯ
เรื่องพิธีปลุกเสกต้องบอกว่า “สุดยอด” เพราะเข้าร่วมในพิธีสำคัญๆของวัดระฆังหลายรุ่น เช่น พิธีรุ่น 100 ปี วัดระฆัง และพิธีมหาพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถ วัดระฆังโฆสิตาราม โดย พระเกจิอาจารย์สายวัดระฆัง หลวงปู่นาค, หลวงปู่หิน, เจ้าคุณเที่ยง และเกจิอาจารย์ชื่อดังในยุคที่มาร่วมพิธีอีกหลายท่าน

โดยวัตถุประสงค์หลัก คือ สร้างเพื่อ แจกให้กับลูกเสือชาวบ้านในยุคนั้น เรื่องประสบการณ์ แคล้วคลาด เมตตามหานิยม โชคลาภ ฯลฯ ไม่ด้อยกว่าสมเด็จวัดระฆังรุ่นใดๆครับ

พระธรรมธีรราชมหามุนี(เจ้าคุณเที่ยง อคคฺ ธมฺโม) ปธ.9 เจ้าคณะภาค11 เจ้าอาวาส วัดระฆังโฆสิตารามเขตบางกอกน้อย กทม. นามเดิมท่านชื่อ เที่ยงชูกระโทก โยมบิดาชื่อ นายโปย โยมมารดาชื่อ นางสี ชูกระโทก เกิดเมื่อวันที่ 16 เมษายน พ.ศ.2478 ที่ จังหวัดนครราชสีมา เรียน จบ ชั้นประถมที่ 4 เจ้าคุณเที่ยงฯ ท่านบรรพชาเป็นสามเณรที่วัดสมอราย จังหวัดนครราชสีมา โดยมีพระครูพรหมวิหารเป็นพระอุปัชฌาย์ ต่อมาเจ้าอาวาสวัดสมอรายได้นำสามเณรเที่ยง ไปฝากเรียนธรรมที่วัดระฆังโฆสิตารามสามเณรเที่ยงตั้งใจศึกษาธรรมและปัญญาดีจึงสามารถสอบนักธรรมตรี นักธรรมโท นักธรรมเอก สำเร็จและยังสามารถท่องคาถาชินบัญชรได้อย่างแม่นยำ เมื่อเจ้าคุณเที่ยงอายุครบ 20 ปีในวันที่ 1 พ.ค. 2501 ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ที่วัดดอนชมพู อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา โดยมีพระครูพินิจยติกรรมวัดใหม่สุนทร จ.นครราชสีมาเป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายา อคคฺธมฺโม ต่อมาเจ้าคุณเที่ยง ท่านได้เดินทางมาจำพรรษาอยู่ที่วัดระฆังฯ เพื่อศึกษาธรรม จนสอบเปรียญธรรม9ประโยค ในพ.ศ. 2514 จากความมุ่งมานะขยันหมั่นเพียรท่องจำตำรา เรียนทุกวัน ท่านปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ จนเป็นตัวอย่างแก่พระภิกษุสามเณร วัดระฆังฯ และวัดอื่นๆด้วยในพ.ศ.2550 เจ้าคุณเที่ยงฯ ท่านได้รับแต่งตั้งเป็น เจ้าอาวาส วัดระฆังฯ ท่านเป็นพระนักเทศน์และพระนักพัฒนา ท่านสร้างคุณงามความดีมาโดยตลอดจึงได้รับการแต่งตั้งเป็นพระธรรมธีรรานมหามุนี เจ้าคณะภาค11 เจ้าคุณเที่ยงท่านได้เรียนวิชาไสยเวทย์ตามแนวทางสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี วัดระฆังฯ จากหลวงปู่นาคและหลวงปู่หิน วัดระฆังฯ โดยเฉพาะวิชาผสมมวลสารเพื่อนำมากด พระสมเด็จและพระพิมพ์ต่างๆ ด้วยความชำนาญ พ.ศ.2500 เจ้าคุณเที่ยงฯ ท่านได้สร้างวัตถุมงคล ขึ้นเองโดยมี หลวงปู่หินฯ หลวงปู่นาคฯ และพระคณาจารย์ มากมายร่วมปลุกเสก จากนั้นเจ้าคุณเที่ยงก็ได้สร้างพระสมเด็จและพระพิมพ์ต่างๆ ออกมาอีกหลายครั้ง

 

849. พระดีพิธีใหญ่ ที่เคยถูกมองข้าม พระสมเด็จพิมพ์เศียรโต หลังยันต์ นิยม (หายาก) เนื้อผงวัดระฆังล้วน ปลุกเสกพิธีอินโดจีน วัดสุทัศน์ หลวงพ่อสุพจน์ ปี ๒๔๘๔ ให้บูชา 2000 บาท

​

หลวงพ่อสุพจน์ วัดสุทัศน์ ท่านเป็นพระลูกวัดของวัดสุทัศน์ในยุคพระสังฆราชแพ และพระครูลมูล อีกทั้งท่านยังสนิทสนมกันมากกับ หลวงปู่นาค วัดระฆัง ได้รับชิ้นส่วนแตกหักของสมเด็จวัดระฆังโดยตรงจากหลวงปู่นาคอีกด้วย ท่านเก็บสะสมพระแตกหักต่างๆ ที่คนเอามาทิ้งไว้ที่วัด นำมาบดละเอียดเป็นมวลสารในการสร้างพระขึ้นมาสืบต่อศาสนา โดยแจกให้กับลูกศิษย์ลูกหาของท่าน บางส่วนได้หลงเหลืออยู่ที่วัดสุทัศน์ (ในสมัยโน้น) หลวงพ่อสุพจน์ท่านเป็น พระเกจิที่สันโดษมาก ทำให้คนรู้จักจักกันน้อย หนังสือบางเล่มลงว่า พระผงของหลวงพ่อสุพจน์ เป็นเนื้อสมเด็จวัดระฆังล้วน โปรดใช้วิจารณญาณ

สมัยก่อนพระชำรุดแตกหัก คนจะนำไปถวายไว้ที่วัด หลักการเดียวกันกับวิธีการสร้างพระของพระครูลมูล สันนิษฐานว่าหลวงพ่อสุพจน์เองคงมีวิชาไม่น้อย เพราะได้อยู่ที่วัดสุทัศน์ ได้ร่วมพิธีการสร้างพระกริ่งต่างๆ มากมาย พระของท่านน่าจะได้เข้าร่วมในพิธีปลุกเสกพระกริ่งรุ่นต่างๆ ของทางสายวัด สุทัศน์ด้วย

พระสมเด็จชุดนี้ มีมากมายหลายพิมพ์ ทั้งเล็ก และใหญ่ ด้านหลังมีทั้งประทับยันต์พุทธซ้อน และหลังเรียบ แบบหลังกระดาน จัดสร้างโดย ลพ.สุพจน์ นามเต็มของท่านคือ "พระครูพุทธมนต์วราจารย์" หรือสมณศักดิ์สุดท้ายก่อนที่จะละสังขารคือ "พระมงคลเทพโมลี" ท่านเป็นพระแบบว่าเก่งเงียบ ท่านมีวิชาลบผงสร้างผงจากตำราโบราณของวัดสุทัศน์ (ตำราโบราณของพระครูลมูล วัดสุทัศน์) เป็นสหายธรรมกับหลวงปู่นาค และหลวงปู่หิน วัดระฆัง จึงได้รับมอบผงสมเด็จวัดระฆังที่แตกหักเป็นจำนวนมาก ท่านเป็นหนึ่งในเกจิที่ร่วมปลุกเสกพระยี่สิบห้าพุทธศตวรรษ และงานพุทธาภิเษกใหญ่ๆ เช่น พิธีวัดประสาทฯ ปี 06 พิธีปลุกเสกพระประจำจังหวัดชลบุรี ปี 09 ที่วัดป่าชลบุรี ก็มีชื่อของท่านในทำเนียบพระเกจิอาจารย์ที่ได้รับการนิมนต์มาร่วมพิธีปลุกเสกด้วย สมเด็จพิมพ์นี้สร้างที่วัดสุทัศน์ฯ เมื่อปี 2484 (พิธีอินโดจีน) โดยลูกศิษย์ของท่านนำพระสมเด็จวัดระฆังที่แตกหักจำนวนมาก และไม่ได้ใครสนใจมาถวายท่าน ท่านจึงนำพระเหล่านั้นมาบดเป็นผงละเอียด และได้แกะพิมพ์ขึ้นมาใหม่ เช่น พระสมเด็จพิมพ์วัดระฆัง พระสมเด็จพิมพ์วัดบางขุนพรหม พระสมเด็จพิมพ์วัดเกษไชโย วัดเงินคลองเตย วัดพลับ วัดสามปลื้ม วัดโพธิ์ ขุนแผนบ้านกร่าง หลวงพ่อโตบางกระทิง พระลีลา เปิดโลก และพิมพ์ต่างอีกมาก ด้านหลัง มีทั้งปั๊มยันต์พุฒซ้อน และยันต์ตรี ที่หลังเรียบก็มี พร้อมได้กราบเรียนสมเด็จพระสังฆราชแพ เพื่อขออนุญาตนำพระเข้าปลุกเสกในพิธี นั้นพร้อมๆ กับวัตถุมงคลต่างๆ หลังจากนั้นจึงได้มอบให้แก่ลูกศิษย์ตลอดจนทหาร ตำรวจ และข้าราชการต่างๆ ที่ต้องไปราชการสงครามในสมัยนั้นเพื่อไปเป็นมงคล ปรากฎว่า "ประสบการณ์ดีเยี่ยม" พอข่าวนี้แพร่ออกไป ปรากฎว่ามีประชาชนต่างมาทยอยขอพระสมเด็จจากท่านจำนวนมาก ซึ่งท่านก็มอบให้ด้วยความเต็มใจจนหมด จึงเรียกได้ว่าพระชุดนี้ "ดีนอก ดีใน" จริงๆ

สมัยก่อนพระแตกหักคนโบราณเขาไม่เอาเข้าบ้านกัน ถ้ามีพระแตกหักเขาจะนำไปไว้ที่วัด เพราะฉะนั้นเมื่อปี 2480 กว่าๆ นั้น ชิ้นส่วนสมเด็จวัดระฆัง นั้นยังไม่มีราคา หลวงพ่อจึงได้รวบรวมจากตามวัด และลูกศิษย์นำมาถวายนำมาบด และกดพิมพ์เป็นพระพิมพ์ต่างๆ และยังได้นำเอาเข้าพิธีปลุกเสกใหญ่ๆ เช่น พิธีอินโดจีน วัดสุทัศน์ปี 84-85 พิธีวัดประสาทปี 06 จึงได้แจกให้แก่ลูกศิษย์นำไปบูชากัน

พิธีปลุกเสก พระพุทธชินราช รุ่นอินโดจีน ปี 84-85 ซึ่งพระครูสุพจน์ วัดสุทัศน์ ได้นำเอาประสมเด็จพิมพ์ต่างๆของท่านเข้าร่วมพิธีด้วย
1.สมเด็จพระสังฆราช แพ วัดสุทัศน์
2.ท่านเจ้าคุณศรี สนธิ์
3. หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา
4.หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก
5.หลวงปู่นาค วัดระฆัง
6.หลวงปู่จันทร์ วัดนางหนู
7.หลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว
8. หลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง
9.หลวงพ่อแช่ม วัดตากล้อง
10.หลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว
11.หลวงพ่อโอภาสี อาศรมบางมด
12.หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ
13.หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง
14.หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ
15.หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา
16.หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ
17. หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก
18.พระพุทธโฆษาจารย์เจริญ วัดเทพศิรินทร์
19.หลวงพ่อพุ่ม วัดบางโคล่
20.หลวงพ่อติสโสอ้วน วัดบรมนิวาส
21.สมเด็จพระสังฆราชชื่น วัดบวรนิเวศ
22.พระพุฒาจารย์นวม วัดอนงค์
23.หลวงพ่อเส็ง วัดกัลยา
24.หลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้
25.หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ
26.หลวงพ่อเล็ก วัดบางนมโค
27.หลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดงเหนือ
28.หลวงพ่อช่วง วัดบางแพรกใต้
29.หลวงพ่ออาจ วัดดอนไก่ดี
30.หลวงพ่อกลิ่น วัดสพานสูง
31.สมเด็จพระสังฆราชอยู่ วัดสระเกศ
32.หลวงพ่อเชย วัดเจษฎาราม
33.หลวงพ่อปาน วัดเทพธิดาราม
34.หลวงพ่อเซ็ก วัดทองธรรมชาติ
35.หลวงพ่อเจีย วัดพระเชตุพน
36. หลวงพ่อเผื่อน วัดพระเชตุพน
37.หลวงพ่อหลิม วัดทุ่งบางมด
38. หลวงพ่อแพ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก
39.หลวงพ่อสอน วัดพลับ
40.หลวงพ่อเฟื่อง วัดสัมพันธวงศ์
41.หลวงพ่อบัว วัดอรุณ
42. หลวงพ่อนาค วัดอรุณ
43.หลวงพ่อปลั่ง วัดคูยาง
44.หลวงพ่อชุ่ม วัดพระประโทน
45.หลวงพ่อสนิท วัดราษฎร์บูรณะ
46.หลวงพ่อเจิม วัดราษฎร์บูรณะ
47.หลวงพ่อสุข วัดราษฎร์บูรณะ
48.หลวงพ่ออาคม สุนทรมา วัดราษฎร์บูรณะ
49.หลวงพ่อดี วัดเทวสังฆาราม
50.หลวงพ่อประหยัด วัดสุทัศน์
51.หลวงพ่อปลอด วัดหลวงสุวรรณ
52. หลวงพ่ออิ่ม วัดชัยพฤกษ์มาลา
53.หลวงพ่อเปี่ยม วัดเกาะหลัก
54. หลวงพ่อทอง วัดดอนสะท้อน
55.หลวงพ่อครุฑ วัดท่อฬ่อ
56.หลวงพ่อกลีบ วัดตลิ่งชัน
57.หลวงพ่อทรัพย์ วัดสังฆราชาวาส
58.หลวงพ่อแม้น วัดเสาธงทอง
59.หลวงปู่รอด วัดวังน้ำว
60.หลวงพ่อสาย วัดพยัคฆาราม
61.หลวงพ่อเส็ง วัดประจันตาคาม
62.หลวงพ่อพิศ วัดฆะมัง
63.หลวงพ่ออ่ำ วัดหนองกระบอก
64.หลวงพ่อหมา วัดน้ำคือ
65. หลวงปู่จันทร์ วัดบ้านยาง
66.หลวงปู่เหมือน วัดโรงหีบ
67.หลวงปู่เหรียญ วัดหนองบัว
68.หลวงพ่อฉาย วัดพนัญเชิง
69.หลวงพ่อปลื้ม วัดปากคลองมะขามเฒ่า
70.หลวงพ่อแนบ วัดระฆัง
71.หลวงพ่อเลียบ วัดเลา
72.หลวงพ่อพักตร์ วัดบึงทองหลาง
73.หลวงพ่อสอน วัดลาดหญ้า
74.หลวงปู่เผือก วัดโมรี
75.หลวงพ่อผิน วัดบวรนิเวศ
76. หลวงพ่อเจียง วัดเจริญธรรมาราม
77.หลวงพ่อทองอยู่ วัดประชาโฆษิตาราม
78.หลวงพ่อไวย์ วัดดาวดึงส์
79.หลวงพ่อกลึง วัดสวนแก้ว
80. หลวงพ่ออ่ำ วัดวงฆ้อง
81.หลวงปู่จันทร์ วัดคลองระนง
82.หลวงพ่ออ๋อย วัดไทร
83.หลวงพ่อศรี วัดพลับ
84.พระอาจารย์เชื้อ วัดพลับ
85. หลวงพ่อพริ้ง วัดบางประกอก
86.หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ
87.หลวงพ่อพริ้ง วัดราชนัดดา
88.หลวงพ่อขำ วัดตรีทศเทพ
89.หลวงพ่อหนู วัดปทุมวนาราม
90.หลวงพ่อทองคำ วัดปทุมคงคา
91.หลวงพ่อเจียง วัดเจริญสุธาราม
92.หลวงพ่อกรอง วัดสว่างอารมณ์
93.หลวงพ่อเนียม วัดเสาธงทอง
94.หลวงพ่อบุญ วัดอินทราราม
95.หลวงพ่อเปลี่ยน วัดบึง
96. หลวงพ่อฉ่ำ วัดท้องคุ้ง
97.หลวงพ่อพรหมสรรอด วัดบ้านไพร
98. หลวงปู่จันทร์ วัดโสมนัสวิหาร
99.หลวงพ่อโสม วัดราษฎร์บูรณะ
100. หลวงพ่อบุตร วัดบางปลากด
101.หลวงพ่อโต วัดบ้านกล้วย
102. หลวงพ่อทองอยู่ วัดบางหัวเสือ
103.หลวงพ่อวงศ์ วัดสระเกศ
104. พระอาจารย์พงษ์ วัดกำแพง
105.พระอธิการชัย วัดเปรมประชา
106. หลวงปู่รอด วัดเกริ่น
107.หลวงพ่อเที่ยง วัดบางหัวเสือ
108.หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ (ตัวท่านไม่ได้มาร่วมปลุกเสก แต่จารแผ่นทองเหลือง ทองแดงมาร่วมพิธี)

พิธีวัดประสาทปี 06 ซึ่งพระครูสุพจน์ วัดสุทัศน์ ได้นำเอาประสมเด็จพิมพ์ต่างๆ ของท่านเข้าร่วมพิธีด้วย อาจารย์ทิม วัดช้างไห้ ลพ.คล้าย วัดสวนขัน ลพ.ดิษฐ์ วัดปากสระ ลพ.น้อย วัดธรรมศาลา ลพ.ใจ และ ลพ. พล วัดวังยายหุ่น ลป.โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ลพ.แดง วัดเขาบันไดอิฐ ลพ.มุ่ย วัดดอนไร่ ลพ.เงิน วัดดอนยายหอม ลพ.กวย วัดโฆสิตาราม ลพ.พรหม วัดช่องแค ลพ.ทบ วัดชนแดน ลป.ทิม วัดละหารไร่ ลป.เขียว วัดหรงมล ลพ.จง วัดหน้าต่างนอก ลป.ดู่ วัดสะแก ลป.สี วัดสะแก ลพ.แพ วัดพิกุลทอง ลป.นาค วัดระฆังฯ ลป.หิน วัดระฆังฯ ลพ.โบ๊ย วัดมะนาว พระอ.นำ วัดดอนศาลา ลพ.เส่ง วัดกัลยา ลพ.ถิร วัดป่าเลไลย์ ลพ.เต๋ วัดสามง่าม ลพ.หน่าย วัดบ้านแจ้ง ลพ.บุญมี วัดเขาสมอคอน ลพ.เหรียญ วัดบางระโหง ลป.เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว ลพ.ครื้น วัดสังโฆ ลพ.แช่ม วัดนวลนรดิษฐ์ ลพ.นอ วัดกลางท่าเรือ ลพ.ผล วัดเทียนดัด ลพ.โด่ วัดนามะตูม ลพ.ชื้น วัดญาณเสน ลพ.สุด วัดกาหลง ลพ.เนื่อง วัดจุฬามณี ลพ.กี๋ วัดหูช้าง ลพ.แก้ว วัดช่องลม ลพ.กัน วัดเขาแก้ว ลพ.ทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง ลพ.ฑูรย์ วัดโพิ์นิมิตร เจ้าคุณเจีย วัดโพธิ์ เจ้าคุณประหยัด วัดสุทัศน์ ลพ.ดี วัดเหนือ ลพ.แขก วัดหัวเขา ลพ.ยิ้ม วัดเจ้าเจ็ด ลพ.ทองสุข วัดสะพานสูง ลพ.มิ่ง วัดกก ลพ.เฮี้ยง วัดป่าฯ ลพ.จวน วัดหนองสุ่ม ลพ.อั้น วัดพระญาติ ลพ.เทียม วัดกษัตราธิราช ลพ.สอน วัดเสิงสาง ลพ.แทน วัดธรรมเสน ลพ.เทียน วัดโบสถ์ ฯลฯ

 

..........

 

850. อยากได้สิ่งใดให้อธิษฐานจากเหรียญนี้เถิด เราเสกใ้ห้เป็นดั่งสารพัดนึก เหรียญหลวงพ่อทิพย์ วัดโพธิ์ทอง บุรีรัมย์ ปี2517 เนื้อทองแดง ตอกโค้ด ปิดรายการครับ

​

หลวงพ่อทิพย์ วัดโพธิ์ทอง บุรีรัมย์

ท่านเป็นพระที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักในช่วงหลังปี2510กว่าๆ ตอนนั้นมีคนเอามาลงประวัติในหนังสือพระเท่าที่จำได้เช่นอาณาจักรพระเครื่อง และอภินิหารพระเครื่อง ทำให้หลวงพ่อทิพย์ มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของส่วนกลางพร้อมๆกับ

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

หลวงปู่เม้า วัดสี่เหลี่ยม

หลวงพ่อมุม วัดประสาทเยอร์เหนือ

หลวงพ่อทองมา วัดสว่างท่าสี

หลวงพ่ออบ วัดถ้ำแก้ว เป็นต้น

หลวงพ่อทิพย์ เป็นพระเกจิเชื้อสายเขมร เก่งมากด้านคาถาอาคม ในพื้นที่สมัยนั้นนับถือกันมากโดยเฉพาะเรื่องคงกระพัน แคล้วคลาด พระเครื่องของท่านมีไม่กี่รุ่นสร้างน้อย เราจะรู้จักกันแต่พระเครื่องของท่านที่จัดสร้าง ในปี2517-8 เพราะมีลูกศิษย์ในกรุงเทพสมัยนั้นจัดสร้างขึ้นเช่นกลุ่มคุณชินพรและกลุ่มวัด อินทรวิหาร ( สมัยนั้นทางกลุ่มนี้ก็มีสร้างพระออกมาที่โด่งดังหลายรุ่นเช่นหลวงพ่อมุม หลวงปู่คำมี หลวงพ่อทองมา เป็นต้น) สำหรับพระเครื่องของหลวงพ่อทิพย์ วัดโพธิ์ทอง ที่สร้างในปี2517 ได้แก่เหรียญสารพัดนึก มีทั้งรูปไข่ใหญ่และเหรียญกลม โดยวัดอินทรวิหารจัดสร้าง ส่วนในปี 2518 มีพระกริ่งพนมรุ้ง พระปิดตายันต์ยุ่ง(มีหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ปลุกเสกซ้ำให้กับผู้จัดสร้างกลุ่มคุณชินพร) เป็นต้น

เหรียญกรม สารพัดนึก หลวงพ่อทิพย์ วัดโพธิ์ทอง บุรีรัมย์ ปี 2517 สภาพสวยมากๆ มีตอกโค้ด คมชัดลึก เหรียญสารพัดนึก

หลวงพ่อทิพย์ ที่จัดสร้างในสมัยนั้นมี 2 พิมพ์คือ เหรียญรุปไข่ นั่งเต็มองค์ และ เหรียญกลม ครึ่งองค์ ในวงการพระสากลจะให้ความนิยมเหรียญรูปไข่แบบเต็มองค์มากกว่า เหรียญรูปไข่ สารพัดนึก หลวงพ่อทิพย์ มีพุทธคุณสูงมาก เชื่อว่าถ้ามีเหรียญรุ่นนี้ห้อยบูชาติดตัว สามารถอธิษฐานขอให้ประสบความสำเร็จได้เร็ว ส่วนประสบการณ์ด้านคงกระพัน เมตตา แคล้วคลาด ก็ดีครับ

เหรียญกลม หลวงพ่อทิพย์ ปัจจุบันหายากพอสมควร อนาคตไปไกล แน่นอน แม้จะไม่หวือหวาเหมือนหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ แต่ถ้าพูดในด้านกิตติคุณ ความสามารถของหลวงพ่อทิพย์ นับว่าเป็นพระเกจิสุดยอดองค์หนึ่งของอีสานในยุคนั้น เหรียญ สวยมากดูคลาสสิค มีสีเหลือบม่วงๆ ใครที่อยากได้เหรียญดี อนาคตไกล รับรองไม่ผิดหวัง หลวงพ่อทิพย์ ธัมมนิโยโก ท่านเป็นพระอาจารย์เชื้อสายเขมรที่เรืองวิชาอาคม จนชาวเมืองตั้งฉายาว่า “หลวงพ่อสารพัดนึก” หลวงพ่อทิพย์ฯ ท่านมีความสมถะ มักน้อย มีจริยาวัตรงดงามห่าง ไกลจากกิเลสทั้งปวงแล้ว น่าเคารพ ศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง แต่สร้างของยากพระชุดเหรียญสารพัดนึก พิธีปลุกเสกหลวงพ่อทิพย์ได้กำหนดวิธีการ

มีการจัดตั้งปรัมพิธีตามแบบเขมร มีหัวหมู บายศรี ราชวัตร ฉัตร ธง ล้อมรอบ มีพระสวดเจริญพระพุทธมนต์ 9 รูป มีพระนั่งปรกปลุกเสก 3 รูป คือ หลวงพ่อคง วัดกลาง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ หลวงพ่อกลั่น วัดโพธิ์ทอง และหลวงพ่อทิพย์ฯ สำหรับหลวงพ่อคงและหลวงพ่อกลั่น เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดบุรีรัมย์ ที่หลวงพ่อทิพย์นับถือ ท่าน 2 ท่านได้ปลุกเสกจนถึง 22 นาฬิกา จึงได้ลุกจากพิธี หลวงพ่อทิพย์ได้นั่งปลุกเสกแต่เพียงองค์เดียวไปจนถึงสว่าง เมื่อทำพิธีเสร็จแล้ว พระสมบูรณ์ ธมมจาโร ผู้ได้รับการอนุญาตให้ดำเนินการจัดสร้างได้เรียนถามว่าใช้ทางไหน ท่านบอกว่าเป็นสารพัดนึก ผู้ใช้จะนึกอธิฐานใช้อย่างใดก็ได้ แต่ขอให้นึกในสิ่งที่ชอบที่ควร และส่วนใหญ่จะหนักไปทางเมตตา แต่ทางด้านมหาอุดแคล้วคลาดก็มี เกี่ยวกับในด้านมหาอุดนั้น เมื่อปลุกเสกเหรียญเสร็จ ปรากฏว่ามีนักเลงดีนำไปทดลองกันที่ข้างวัดทันที ปรากฏว่ายิ่งไม่ออก…

หลวงพ่อทิพย์ ท่านนี้ก็นับว่าเป็น “พระเกจิอาจารย์ผู้คงแก่เรียนทางวิทยาคมแห่งเมืองปราสาทหินพนมรุ้ง” สมัยหนุ่มๆเมื่อท่านทราบว่ามีอาจารย์ดีที่ไหนก็จะต้องไปขอเรียนวิชาด้วยเสมอ อาจารย์อีกท่านหนึ่งของหลวงพ่อทิพย์ คือ หลวงปู่ธรรมสร(คง) ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์เชื้อสายเขมร ที่แตกฉานไสยศาสตร์เป็นที่เคารพนับถือทั้งคนไทยและคนเขมร หลวงพ่อทิพย์ออกเหรียญเพียงครั้งเดียวเมื่อ พ.ศ.2517 เรียกว่า “เหรียญสารพัดนึก” ซึ่งหลวงพ่อทิพย์ได้จารอักขระเลขยันต์นับเป็นร้อยๆแผ่น ผสมเป็นชนวนศักดิ์สิทธิ์ของเนื้อเหรียญ

ท่านบอกว่า “ ถ้าไม่เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายและศีลธรรมแล้ว เหรียญนี้สามารถอธิษฐานได้สมใจนึกทุกประการดังชื่อเหรียญจริงๆ ” แต่เป็นเหรียญดีที่ถูกมองข้ามมานานแล้ว แต่ในนักเล่นวัตถุมงคลสาย “หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่” ต่างก็ตามซุ่มเก็บเหรียญรุ่นนี้มานานแล้ว เนื่องจากหลวงปู่ทิมได้ปลุกเสกให้เป็นปฐมฤกษ์ก่อน จากนั้นหลวงพ่อทิพย์ก็นำกลับมาปลุกเสกอีกครั้ง จับตาให้ดีเหรียญนี้อนาคตสดใสแน่นอน

พุทธคุณเด่นในด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ปลอดภัยพุทธคุณจึงแรงมากๆๆๆ และมีประสบการณ์สูงมาก จึงเหมาะมากสำหรับผู้ที่อยากให้ตำแหน่งหน้าที่การงานเจริญเติบโตก้าวหน้า หรือ ผู้ที่มีใจใฝ่ทางด้านการเสี่ยงโชคลาภทุกชนิด ควรมีไว้บูชาพกพาติดตัวไว้เป็นอย่างเนืองนิจ ทั้งผู้ที่นิยม และศรัทธา รวมไปถึงผู้นำ นักการปกครอง ผู้บังคับบัญชา หรือ นักบริหารทุกระดับชั้น ข้าราชการทุกตำแหน่ง ทุกประเภทไม่ว่าชั้นผู้ใหญ่ ชั้นผู้น้อย นายทหารทุกเหล่าทัพ (โดยเฉพาะผู้ปฏิบัติภารกิจอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้) ตำรวจ ครูบาอาจารย์ นักพูด นักขาย (ที่ต้องหายอดลูกค้า) นักเจรจา ดารา นักร้อง นักแสดง ผู้ที่ต้องปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นทุกประเภท นักกีฬาทุกประเภท นักทำมาหากินทุกประเภท มนุษย์เงินเดือน ผู้ที่ต้องแข่งขันกับผู้อื่น ไม่ว่าทั้งโดยตรง หรือโดยอ้อม พ่อค้า แม่ค้า ประชาชนทั่วไป ก็ไม่ควรพลาดเช่นกัน ควรมีไว้บูชาเป็นอย่างยิ่ง

 

851. พระดีพิธีใหญ่ พระกริ่งนาคปรก วัดพระธาตุพนม ปี 2512 จ.นครพนม ให้บูชา 750 บาท

​

พระกริ่งนาคปรกพระธาตุพนม ปี 2512 เป็นกริ่งพิธีใหญ่ หลวงปู่ฝั้น อาจาโร, หลวงปู่คำพันธ์ โฆษปัญโญ วัดธาตุมหาชัย เนื้อทองแดงรมดำ จ.นครพนม พร้อมคณาจารย์เกจิสายพระกรรมฐานร่วมปลุกเสกมากมาย พระดีพิธีใหญ่ ครับ

 

852. สุดยอดพระดี มวลสารเยี่ยม น่าบูชา พระใบมะขามเนื้อชินตะกั่วเก่าของลพ.แช่ม วัดตาก้อง จ.นครปฐม ปี 2497(พิธีพระกริ่งเฉลิมพล ณ วัดตาก้อง จ.นครปฐม) ให้บูชาองค์ละ 450 บาท (ถ้ายกชุด 8 องค์มีราคาพิเศษครับ)

​

มี 8 พิมพ์
1).พระใบมะขาม พิมพ์ปางห้ามญาติ
2).พระใบมะขาม พิมพ์ปางไสยาสน์
3).พระใบมะขาม พิมพ์ปางอุ้มบาตร
4).พระใบมะขาม พิมพ์ปางสมาธิ
5).พระใบมะขาม พิมพ์ปางรำพึง
6).พระใบมะขาม พิมพ์ปางนาคปรก
7).พระใบมะขาม พิมพ์ปางถวายเนตร
8).พระใบมะขาม พิมพ์ปางลีลาทุ่งเศรษฐี
พระใบมะขามชุดนี้ จัดสร้างโดยหม่อมเจ้าเฉลิมพลธิฑัมพร หรือองค์ชายใหญ่โดยสร้างพร้อมพระกริ่งเฉลิมพลวัดตาก้องพิธีปลุกเสกพิธีเดียวกันกับหลวงพ่อทวด วัดช้างให้รุ่นแรกในปี 2497 และทำพิธีปลุกเสก โดยพระเกจิอาจารย์นครปฐมในยุคนั้นอีกครั้งที่วัดตาก้องพร้อมพระกริ่งเฉลิมพล ได้แก่
ลพ.ใจ วัดเสด็จ
ลพ.เงิน วัดดอนยายหอม
ลพ.รุ่ง วัดท่ากระบือ
ลพ.เต๋ คงทอง วัดสามง่าม
ลพ.น้อย วัดธรรมศาลา
ลพ.เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว
ลพ.เล็ก วัดหนองดินแดง
เป็นต้น
สร้างรวมทั้ง 8 พิมพ์ประมาณไม่ถึงหมื่นองค์ซึ่งพระมีขนาดเล็กมาก โดยช่วงแรกที่จัดสร้างมาไม่มีกล่องบรรจุ ออกให้บูชาที่วัดองค์ล่ะ20บาท(ออกให้บูชาไม่มาก) แต่เกิดการสับสน ในการจำแนกพระประจำวัน ทางวัดจึงได้จัดทำกล่องตามสีวันมาบรรจุ เพื่อง่ายต่อการจดจำซึ่งทำกล่องช่วงปี 2520 กว่า
แต่พระส่วนใหญ่ถูกเก็บไว้ที่วัดและบางส่วนอยู่กับคนพื้นที่(กรรมการวัด)จึงทำให้มีพระหมุนเวียนในวงการน้อย จึงไม่เป็นที่รู้จัก ถึงพระรุ่นนี้จะไม่ทัน หลวงพ่อแช่ม แต่เนื้อชนวนตะกั่วลงถมที่หลวงพ่อแช่มท่านลงทับถมซ้อนกันมากกว่า 108 ครั้งก็สุดยอด รวมถึงพิธีการจัดสร้างดีมากๆ และประวัติชัดเจน

 

853. พระดีที่น่าบูชา พิธีนี้ศักดิ์สิทธิ์มาก พระสมเด็จผงเกสรโพธิบัลลังก์ หลวงปู่สีมั่น เทพอินโท วัดห้วยหลาด จ.สงขลา ปี ๒๕๐๔ (มีจุดนิยม) ให้บูชา 3000 บาท

​

ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดสร้าง
พระสมเด็จโพธิบัลลังก์ รุ่นแรก จัดสร้างขึ้นในปีพุทธศักราช๒๕๐๔
โดยรุ่นแรกจัดสร้างครั้งเดียวเท่านั้น
ผู้จัดสร้างคือ
พระอธิการขาว
อดีตเจ้าอาวาสวัดห้วยหลาด
ผู้เป็นร่างประทับทรงหลวงปู่สีมั่น
ชื่อในเพศฆราวาสคือนายธัญญะ หรดี
หรืออาจารย์ขาว, คุณตาขาว, ตาทวดขาว
มวลสาร
อาจารย์ขาว ท่านจัดสร้างโดยรวบรวมมวลสาร เช่น ใบศรีมหาโพธิ์ ดอกไม้บูชา และ ดินจากสังเวชนียสถาน ๔ ตำบล คือ สถานที่ประสูติ ตรัสรู้ แสดงปฐมเทศนา และเสด็จปรินิพพาน ของพระพุทธเจ้า เมื่อครั้งท่านเดินทางจาริกแสวงบุญ ณ ประเทศอินเดียและเนปาล
การจัดสร้าง
เมื่อกลับมาที่วัดห้วยหลาด จ.สงขลา ท่านได้ลงมือแกะพิมพ์พระสมเด็จ โพธิบัลลังก์ ขึ้นด้วยตนเอง ให้ลูกศิษย์ทั้งที่เป็นพระภิกษุ กับฆราวาสชายที่นุ่งขาวห่มขาว โดยให้ฆราวาสชายทุกคนรักษาศีล๘ ช่วยกันผสมมวลสารและกดพิมพ์ พระสมเด็จภายในพระอุโบสถ ห้ามสตรีเพศเข้ามามายุ่งเกี่ยว ในพิธีกรรมโดยเด็ดขาด
ครั้งนั้นสามารถกดพิมพ์พระได้ประมาณ ๑,๐๐๐ องค์ ซึ่งระหว่างที่กดพิมพ์พระพระอธิการขาวจะทำพิธีอธิษฐานจิตปลุกเสกพระพร้อมกันไปด้วยตลอดเวลา
#ท่านกล่าวว่า
"พระสมเด็จโพธิบัลลังก์นี้"
"เสกทั้งพระ เสกทั้งคน"
#วันประกอบพุทธาภิเษก
ก่อนจะเริ่มต้นพิธี ท่านได้กำชับให้ลูกศิษย์ที่มีส่วนช่วยในการจัดสร้างพระรุ่นนี้ทุกคน เข้ามาอยู่ในพระอุโบสถเมื่อทุกคนมาพร้อมกันครบแล้ว พิธีพุทธาภิเษกจึงเริ่มขึ้น
#คาถาบูชา
โพธิบัลลังกัง สุคะโต อะนุภาเวนะ อุปัททะเว อะเนกา อันตะรายาปิ วินัสสันตุ อะเสสะโต

​

 

​

พระดีที่น่าบูชาครับ

พระสมเด็จรุ่นแรก หลวงพ่อเชื้อ วัดใหม่บำเพ็ญบุญ

สร้างราว ๆ ปี พ.ศ.๒๕๑๐ หลวงพ่อท่านตั้งใจสร้างพระสมเด็จรุ่นแรกนี้มาก โดยดำริให้นายเอียง จวงจันทร์

เป็นผู้จัดสร้างถวายให้ โดยมอบผงและมวลสารต่าง ๆ เพื่อนำไปเป็นส่วนผสมในการในการจัดสร้าง ในการปลุกเสกนั้น
คุณสายัณห์ จวงจันทร์ (บุตรนายเอียง) ได้เล่าให้ฟังว่า หลวงพ่อท่านได้เรียกนายเอียงเข้าไปดูการปลุกเสก
พระเครื่องชุดนี้ในโบสถ์ด้วย เป็นที่น่าอัศจรรย์ใจ ที่หลวงพ่อสามารถปลุกเสกพระให้ลอยได้ องค์ไหนที่

ลอยลงมาตกในถาด หลวงพ่อท่านว่า องค์นั้นใช้ได้ องค์ไหนที่ยังไม่ลอยหรือ ลอยมาแล้วไม่ตกในถาด

ท่านว่าเดี๋ยวค่อยเสกใหม่

เนื้อหา - และวรรณะ ขององค์พระ ขึ้นอยู่กับมวลสารของเนื้อพระ โดยพระสมเด็จรุ่นแรกมีเนื้อหาและส่วนผสม

หลายชนิด เช่น ปูนเปลืกหอย ชานหมาก กระยาสาทร ว่านต่าง ๆ นานาชนิด และผงมวลมารต่าง ๆ ของหลวงพ่อ

วรรณะขององค์พระที่เกิดขึ้น จึงขึ้นอยู่กับ อัตราส่วนผสมของมวลสารแต่ละชนิดในแต่ละครก เช่น บางครกแก่ปูน-

เปลือกหอย วรรณะก็จะออกสีขาว บางครกแก่ชานหมาก วรรณะก็จะออกสีน้ำตาล เป็นต้น พระสมเด็จรุ่นแรกนี้

หลวงพ่อท่านจะแจกให้กับทุกคนที่ไปพบท่าน พอกราบหลวงพ่อเสร็จเงิยหน้าขึ้นมามองหลวงพ่อ ก็จะพบว่า

ท่านนำพระสมเด็จรุ่นแรกนี้ส่งให้แล้ว พร้อมกับกล่าวว่า “นี่พระของฉัน เอาไว้ใช้คุ้มครองตัว”

พระปิดตารุ่นแรก หลวงพ่อเชื้อ วัดใหม่บำเพ็ญบุญ
มีทั้ง พิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก เนื้อเป็นเนื้อเดียวกับพระสมเด็จรุ่นแรก
คือ เนื้อผงสีขาวเนื้อมีส่วนผสมของแร่อุกาบาต ไม่ค่อยพบครับ หาอยากมากๆๆ

 

854. อำนาจจิตท่าน ไม่ธรรมดา พระปิดตาปลดหนี้ 3 ไตรมาส แช่นำมนต์ เนื้อผงใบลาน หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ปี2536-2538 ให้บูชา 650 บาท

​

พระปิดตา "รุ่นปลดหนี้” 3 ไตรมาส แช่น้ำมนต์ มรดกชิ้นสุดท้ายที่หลวงพ่อยิด จนทสุวณฺโณ วัดหนองจอก มอบไว้ให้ศิษย์เอกของท่านเพื่อมอบให้แด่ท่านสาธุชนที่ร่วมสร้างวัดสาขาของท่านที่ สำนักสงฆ์ไร่เนิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
มรดกชิ้นสุดท้ายที่หลวงพ่อยิด จนทสุวณฺโณ มอบไว้ให้พระอาจารย์ไชยา ปัญญาธโร แห่งสำนักสงฆ์ไรเนิน ตำบลหินเหล็กไฟ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นศิษย์รักผู้ใกล้ชิดที่ได้เจริญรอยตามหลวงพ่อยิด ให้สมกับเจตนาที่หลวงพ่อยิดสั่งไว้ และได้มอบตำราที่มีอยู่ให้พร้อมมอบน้ำพระพุทธมนต์ที่ศักดิ์สิทธิ์ให้พระอาจารย์ไชยา นำกลับมาแช่พระปิดตาปลดหนี้ 3 ไตรมาสที่หลวงพ่อมอบให้ไว้ก็เพื่อที่จะหารายได้จากการบูชาพระปิดตาปลดหนี้ 3 ไตรมาสนี้นำไปสร้างเสนาสนะต่างๆ ของสำนักสงฆ์ไว้เนินให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
#พระปิดตาปลดหนี้ 3 ไตรมาส แช่น้ำมนต์นี้ นับว่าเป็นพระปิดตาที่ควรแก่การเก็บรักษาและบูชาติดตัวเป็นอย่างยิ่งเนื่องจากได้ผ่านการปลุกเสกครั้งยิ่งใหญ่มาแล้วหลายครั้ง ครั้งแรกที่วัดตาก้อง จังหวัดนครปฐม โดยปลุกเสกเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2536 ซึ่งตรงกับวันเสาร์5 ที่เหมาะแก่การสร้างและปลุกเสกพระ

พระปิดตาปลดหนี้ชุดนี้ เริ่มแรกที่เดียวก็คือ หลวงพ่อได้มอบให้วัดตาก้อง นครปฐม และมอบให้สำนักสงฆ์ไร่เนิน คือ พระอาจารย์ไชยา อย่างละเท่ากัน ที่พิเศษก็คือ หลวงพ่อยิดได้มอบน้ำพระพุทธมนต์ให้พระอาจารย์ไชยามาด้วย
และท่านได้สั่งมาว่าให้เอาน้ำพระพุทธมนต์นี้ไปแช่พระปิดตาปลดหนี้ให้ครบ 9 เดือน เมื่อครบ 9 เดือน ในวันที่ 9 ตุลาคม 2538 ซึ่งตรงกับวันออกพรรษาของพรรษาที่ 3 หลวงพ่อจะนำออกจากโอ่งน้ำมนต์ให้เอง แต่แล้วหลวงพ่อก็มามรณภาพเสียก่อน
พระปิดตาปลดหนี้ หลังจากได้ผ่านการปลุกเสกเสาร์5 ปี2538 มาแล้วก็ได้นำกลับมาปลุกเสกที่วัดหนองจอกอีก และหลังจากนั้นก็แบ่งให้ลูกศิษย์ไป แต่ด้วยเมตตาของหลวงพ่อที่มีต่อพระอาจารย์ไชยา อันเป็นศิษย์รักของท่านหลวงพ่อท่านได้แวะเวียนมาปลุกเสกให้อยู่เรื่อยๆ ที่สำนักสงฆ์ไร่เนิน
บางครั้งเมื่อหลวงพ่อท่านออกไปงานปลุกเสกตามต่างจังหวัดถ้าเส้นทางที่หลวงพ่อจะไปนั้นผ่านสำนักสงฆ์ไร่เนินหลวงพ่อท่านจะแวะมารับพระอาจารย์ไชยาไปด้วย พอตอนขากลับท่านจะแวะมาส่งที่สำนักสงฆ์ไร่เนิน และก่อนที่หลวงพ่อจะเดินทางกลับวัดทุกครั้ง หลวงพ่อท่านจะเข้าไปในห้องของพระอาจารย์ไชยาเพื่อปลุกเสกวัตถุมงคลให้ในที่นี้ก็รวมถึงพระปิดตาปลดหนี้ 3 ไตรมาสด้วย
จึงนับว่าพระปิดตาปลดหนี้แช่น้ำมนต์นี้ จึงควรแก่การบูชาจริงๆ เพราะหลวงพ่อท่านได้ตั้งใจทำไว้ให้จริง ๆ ดังนั้นเมื่อแช่น้ำมนต์แล้ว แต่ยังไม่ครบกำหนดที่จะนำออกมาหลวงพ่อยิด ท่านก็มามรณภาพก่อน
ดังนั้น พระเดชพระคุณพระราชวิสุทธิคุณ (หลวงพ่อเกตุ) วัดเกาะหลัก เจ้าคณะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และหลวงพ่อพาน วัดโป่งกระสัง เกจิอาจารย์อีกองค์หนึ่งของอำเภอกุยบุรี เจ้าตัวหรับตระกรุดหนังเหนียว
ก็มาเป็นประธานเปิดเป็นปฐมฤกษ์พร้อมจับคู่กันหยดน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ให้อีกครั้ง พร้อมพระเถรานุเถระอีกหลายรูปเจริญชัยมงคลคาถาซึ่งมีพระครูพิทักษ์วรการ เจ้าคณะอำเภอหัวหินเป็นองค์หัวหน้าเจริญชัยมงคลคาถาอันศักดิ์สิทธิ์
หลวงพ่อเกตุ วัดเกาะหลัก, หลวงพ่อพาน วัดโป่งกระสัง เปิดและหยดน้ำพระพุทธมนต์เวลา 10.39 น.
หลวงพ่อแล วัดพระทรง เพชรบุรี เปิดและหยดน้ำพระพุทธมนท์เป็นพิเศษอีกครั้งเวลา 14.19 น.

 

​

 

อีกหนึ่งพระดี ของหลวงพ่อเชื้อ สุกกวัณโณ วัดใหม่บำเพ็ญบุญครับ

​

พระผงธรรมจัก หลวงพ่อเชื้อ ปี 17
พระผงธรรมจักร ที่หลวงพ่อท่านตั้งใจสร้าง ด้วยตัวท่านเอง การสร้างพระผงธรรมจักรของหลวงพ่อนั้น
ทำได้ไม่ง่ายอย่างที่คิด กว่าหลวงพ่อท่านจะได้ผงวิเศษมา ท่านต้องใช้ความอดทนเป็นเลิศ กล่าวคือ
ท่านจะนั่งเขียนชักยันต์ โดยใช้แท่งผงเขียนอักขระเลขยันต์ ตามสูตรของท่านบนกระดานชนวน
เขียนแล้วลบ ลบแล้วเขียนอยู่อย่างนั้น ทั้งนี้เพื่อต้องการรวบรวมผงวิเศษนั่นเอง แม้เวลาใกล้รุ่ง
ท่านก็ยังคงเขียนชักยันต์อยู่ พระอาจารย์ล้อมเคยถามท่านว่า ท่านทำเช่นนั้นเพื่ออะไร ท่านก็ตอบว่า
"ต้องการนำผงวิเศษนำไปเป็นส่วนผสมของมวลสาร โดยตั้งใจว่าจะจัดสร้างพระผงสักครั้ง
พระผงธรรมจักร มีลักษณะคล้ายพระงบน้ำอ้อย มีรูปหลวงพ่อนั้งเต็มองค์ภายในธรรมจักร
เป็นเครื่องหมายบ่งบอกถึงบรรดาศายานุศิษย์ว่า ท่านจะเป็นผู้สืบทอดคำสั่งสอนของพระพุทธองค์
ให้เจริญรุดหน้ายิ่ง ๆ ขึ้น เสมือนการเดินหน้าของธรรมจักรที่ไม่หยุดพัก และพระพุทธศาสนา
จะเจริญรุ่งเรืองสืบไป พระผงธรรมจักรมีลักษณะกลม เส้นผ่านศูนย์กลางพระมาณ ๒.๓ เซนติเมตร
ปรากฏความละเอียดของรูปหลวงพ่ออย่างชัดเจน เห็นหน้าเห็นตาครบ ส่วนด้านหลังตามขอบโค้ง
จะระบุเป้นตัวอักษรข้อความว่า หลวงพ่อพระครูเชื้อวัดใหม่บำเพ็ญบุญ ส่วนภายในกรอบวงภาษาไทย
จะปรากฏพระคาถาอักษรขอม ถอดได้ใจความว่า จิติ มานิ ตัสมิง มานะ นะชาลีติ ท่านว่า
พระคาถานี้ให้ผลเด่นด้วยโชคลาภ ค้าขาย เสน่ห์มหานิยม
พระผงวิเศษของหลวงพ่อเชื้อ ได้ดำเนินการจัดสร้างขึ้น ๒,๕๐๐ องค์ หลังจาก
ดำเนินการจัดสร้างเรียบร้อยแล้ว หลวงพ่อเชื้อท่านได้ปลุกเสกเดี่ยวตลอดไตรมาส
ปี ๒๕๑๗ สำหรับพุทธคุณของพระชุดนี้ ขณะที่หลวงพ่อท่านได้นำออกมาแจก
ท่านมักจะกล่าวกับผู้ที่ขอรับแจกว่า
เก็บรักษากันให้ดี จะประสบแต่โชคลาภ เกิดความนิยมต่อผู้ที่พบเห็นสนทนาด้วย
มาถึงปัจจุบัน พระผงธรรมจักร ที่ยังคงสภาพสวย ๆ เดิม ๆ นั้น เริ่มหาได้ยากยิ่ง นับวันมีแต่
จะชำรุด ตกหล่นเสียหาย กระเทาะหลุดร่อน ไปบ้างตามกาลเวลา แต่หากได้พบเจอไม่ว่าสภาพใดก็ตาม
ก็ให้เก็บไว้บูชา่ พุทธคุณไม่ได้แตกต่าง ไปจากที่สภาพอยู่ดีเลยแม้แต่น้อย แม้จะหักผุกกร่อนเป็นผงก็ตาม
เพราะผงพุทธคุณ และว่านต่าง ๆ ที่หลวงพ่อท่านตั้งใจทำ และหลวงพ่อได้เมตตาสร้างด้วยตัวท่านเอง