พระดี พิธีใหญ่ รับประกันแท้ทุกรายการ!!! เชิญชม บูชา ในกระทู้ได้เลยครับ"

รับทราบการจองครับ ขอบคุณมากครับ

 

2523.พระสมเด็จหลวงปู่ชอบ..รุ่นพิเศษ 92 ปี 2537 ปิดรายการครับ

พระสมเด็จ"หลวงปู่ชอบ..รุ่นพิเศษ 92"ปี 2537 เป็นอีกรุ่นที่ถือว่ามวลสารดีมีเส้นเกศาหลวงปู่เป็นส่วนผสม พระดีที่ควรค่ากับการมีไว้บูชา อยากได้เส้นเกศาแท้ๆของหลวงปู่ชอบไว้บูชาต้องมีองค์นี้​

 

2524. เมตตามหานิยม สมเด็จปรกโพธิ์ หลังยันต์ประจุธาตุ เนื้อโพธิ์ใต้แม่ หลวงพ่อยงยุทธ วัดเขาไม้แดง ปี 25 ปิดรายการครับ

​

คำว่า"ใต้แม่" ในที่นี้ก็คือ เมล็ดที่ตกอยู่ข้างๆต้นแม่ แล้วงอกขึ้นมาเคียงข้างกัน หลวงพ่อท่านบอกว่า นี่แหละเป็นเรื่องของเสนห์ที่เป็นอยู่มีตามธรรมชาติ เหมือนกับกาฝากที่เกาะเกี่ยวต้นไม้ต่างๆ เช่นกัน หลวงพ่อท่านจึงให้ลูกศิษย์ไปนำเอาลูกโพธิ์ส่วนผสมในการทำมวลสารสร้างพระของท่าน เป็นที่มาของชื่อ"สมเด็จโพธิ์ใต้แม่"

 

2525. ชุดวัตถุมงคล หลวงพ่อกวย ปี55 รุ่น มงคลถาวร เหรียญกลมรูปเหมือนหลังยันต์ + รูปถ่ายย้อนยุคหลังตะวัน หลังรูปปั้มสิงห์ จีวร(เก่า) สายสิญจน์ ปิดรายการครับ

​

หลวงพ่อกวย ท่านเคยพูดกับ หมอเฉลียว เดชมา ไว้ คือ ท่านให้หมอเฉลียว ช่วยดูแลวัตถุมงคลให้ท่านบ้าง เวลาอัดขยายสั่งเพิ่ม ท่านพูดว่ารูปของกู ถึงจะอัดแล้วอัดอัก ก็ยังขลังเหมือนเดิม เพราะ ตอน กูจะถ่ายรูป กูอธิษฐานตัว และ เสกผ้า เอาไว้แล้ว

อาจารย์เฒ่า สุพรรณ ศิษย์หลวงพ่อกวย ที่หลวงพ่อกวยเรียกว่า " ไอ้ครู " เพราะ เป็นครูสอนหนังสือ ชื่อ อาจารย์สมจิตร เทียนจันทร์ คนแรกที่เขียนประวัติหลวงพ่อกวย ลงหนังสือนะโม เมื่อสามสิบปีก่อนรูปนี้เป็นรูปที่มีประสบการณ์สูง ขนาดรูปก็อปปี้ พกใส่กระเป๋า เขาไปดูคนถูกผีเข้า ผียังกลัวเลย มีอานุภาพมากครับ รายระเอียด พิธีปลุกเสก

- รูปถ่ายหลวงพ่อกวย หลังสิงห์ ติดจีวร ย้อนยุค ปี ๒๕๕๕ รุ่นมงคลถาวร อาจารย์เฒ่า สุพรรณ สร้างพร้อมเหรียญมงคลถาวร เข้าพิธีพุทธาภิเษก ๓ วาระ ได้แก่ :

๑. พิธีพุทธาภิเษก ณ วัดโฆสิตาราม (หลวงพ่อกวย) จ.ชัยนาท
๒. พิธีพุทธาภิเษก ณ วัดจันทนาราม (หลวงพ่อโม) จ.ชัยนาท
๓. พิธีพุทธาภิเษก ณ วัดโคกโตนด มีคณาจารย์หลายรูปร่วมอธิฐานจิต
อาทิ พระมหาสุรศักดิ์ วัดประดู่, หลวงพ่อหวั่น วัดคลองคูณ, หลวงปู่เร่ง วัดดงแขวน,
หลวงพ่อมี, หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว, หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน, หลวงพ่อวิชา, หลวงพ่อกำจัด วัดป่าสัก, หลวงพ่อพูล เป็นต้น ผู้สร้างคุณไพศาล วีรศักดิ์อัสวเสนีย์ สมุทรปราการ
ข้อมูลจาก อาจารย์เฒ่า สุพรรณ

 

​

 

2526. พระสมเด็จรัศมีหลวงพ่ออุดม วัดพิชัยสงคราม รุ่นแรก เนื่้อดินเผาสร้างในปี ๒๕๐๙ ให้บูชา 599 บาท

​

หลวงพ่ออุดม วัดพิชัยสงคราม ท่านเป็นสุดยอดเกจิในยุคปัจจุบันอีกท่าน ที่คนเมืองกรุงเก่า ให้การยอมรับ และศรัทธาท่านมาก ท่านเป็นอีกหนึ่งท่าน ที่ศึกษาร่ำเรียนมาจากสาย"วัดประดู่ทรงธรรม"มาอย่าง ครบถ้วนกระบวนความ ชนิดยากที่จะหาใครเทียบ วัตถุมงคลของท่าน สร้างน้อย โดยเฉพาะของในยุคแรกๆด้วยแล้ว นอกจากจะหายากแล้ว ตอนนี้ ราคาก็เริ่มขยับไปเรื่อยๆแล้วครับ เรื่องประสบการณ์ในวัตถุมงคลของท่าน มีประสบการณ์มากมาจนนับไม่ถ้วน ทั้งเรื่องแคล้วคลาด คงกระพัน มหาอุด โดนกันมาแบบ"จะจะ จังๆ"กันทั้งนั้น ขนาดเซียนใหญ่ของอยุธยา ยังตามเก็บพระของท่านเลยครับ ที่เห็น เป็นพระ"รุ่นแรก"ของท่าน ที่สร้างในปี ๒๕๐๙ ซึ่งหลวงพ่ออุดมวัดพิชัยสงคราม ท่านได้ทำการลบผง กดพิมพ์พระและปลุกเสกตามตำรับตำราของ"วัดประดู่ทรงธรรม"ที่ท่านได้ศึกษามาอย่างเชี่ยวชาญ ซึ่งพระแต่ละพิมพ์ที่สร้างในปี ๒๕๐๙ อาจจะดูว่าเป็นแบบพิมพ์"แบบชาวบ้าน" แต่ก็ดูคลาสสิคไปอีกแบบครับ แต่ในเรื่อง"พุทธคุณ"ของพระผงของท่านแล้ว เชื่อถือได้สนิทใจ ที่เห็น เป็นพระพิมพ์สมเด็จรัศมี ที่สร้างในปี ๒๕๐๙ ที่สร้างเอาไว้น้อย พบเจอยากมากๆ สภาพสวยมากๆ ครับ
หลวงพ่ออุดมท่านได้ใส่มวลสารศักสิทธิ์ต่างๆมากมาย และมีผงพุทธคุณที่หลวงพ่ออุดมท่านลบเองผสมจำนวนมาก ท่านปลุกเสกเดี่ยวอย่างตั้งใจเป็นเวลาหลายปีก่อนนำเข้าบบรรจุใต้ฐานพระประธานและออกให้บูชาส่วนหนึ่ง

 

​

 

2527. พระรอดหลวงโพธิ์ 9 ใบ หลัง พระแม่ธรณี ครูบาบุดดา วัดหนองบัวคำ จ.ลำพูน มวลสารศักดิ์สิทธิ์จำนวนมาก ปิดรายการครับ

​

นำองค์พระแม่ธรณีจารึกไว้ด้านหลังเพื่อให้ครบสมบูรณ์ตามตำรับการสร้าง เพชรแห่งหิริภุญไชย เป็นหนึ่งในพระเบญจภาคี หลวงปู่บุดดา วัดหนองวัวคำ สืบทอดองค์ต้นบุญ ครูบาศีลธรรม เจ้าหน่อเนื้อครูบาศรีวิชัย ครูบาวัง วัดบ้านเด่น ครูบานันตา ทุ่งหมานใต้ สืบวิชายอดครูบาชั้นสูง จนได้ชื่อว่า "ผู้เฒ่าหยั่งรู้ฟ้าดิน" ในภาคเหนือยกย่องท่านว่า "อริยะแห่งเมตตา"
ตอนทำพิธีหลวงปู่ได้อัญเชิญ พระนางจามเทวีมารับการถวาย พระรอดทั้งหมดนี้ประหนึ่งว่าพระนางเป็นผู้สร้างและเชิญองค์นารทะฤษี พรสุเทวะฤษีและฤษีทั้ง ๑๐๘ มาทำพิธีเป็นปฐมก่อนที่หลวงปู่จะอธิษฐานจิตด้วยพุทธาคม อีกครั้งหนึ่ง
ครูบาบุดดา หรือ ตุ๊เจ้าดา ขึ้นทำเนียบพระเก่งภาคเหนือ ท่านได้จัดสร้าง "พระรอดหลวงโพธิ์ 9 ใบ" ซึ่งเป็นที่ฮือฮาแก่นักสะสม
ในเรื่องพระรอดมหาวัน จ.ลำพูน เพชรแห่งหริภุญไชย เป็นหนึ่งในพระเบญจภาคี มีประวัติล้ำลึกยาวนานเกิดขึ้นที่เดียวในเมืองลำพูนแห่งนี้ ตำราเก่ากล่าวว่า พระนางจามเทวีปฐมกษัตริย์ แห่งเมืองหริภุญไชยร่วมกับฤๅษีทั้งห้าองค์ อาทิ พรสุเทวะฤๅษี และนารทะฤๅษี ประชุมฤๅษี 108 รูป เป็นผู้สร้างมีรูปแบบศิลปะผสมศรีวิชัย และทวารวดีมีอายุมากกว่า 1,300 ปี โดยเอาดินบริสุทธิ์จากใจกลางทวีปทั้ง 5 ตัวยา 1,000 ชนิด เกสรดอกไม้ 1,000 ชนิด และว่าน 1,000 ชนิด มาผสมกันจนละเอียดกดลงในพิมพ์นำไปเผา
ความขลังและศักดิ์สิทธิ์ของพระรอดมีมานานนับศตวรรษ และหายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรนี่เอง จึงทำให้พระรอดเป็นที่แสวงหาจากมหาชน แค่หารูปพระรอดแท้ๆ มาดูชมหรือบูชาก็ยังยาก นับประสาอะไรกับการที่จะหาพระรอดแท้ๆ มาบูชา คุณวิเศษของพระรอดมีอานุภาพร่ำลือมาแต่โบราณกาลว่าจะรอดพ้นจากอันตรายทุกชนิด ฝ่าดงหนามหรือกระสุนปืนก็หามีเลือดไม่ อีกทั้งนำความเจริญรุ่งเรืองสำเร็จและสมหวังมาสู่ผู้บูชา
ด้วยพุทธศิลป์พิมพ์ทรงของพระรอด ที่เป็นพระพุทธเจ้านั่งประทับเหนืออาสนบัลลังก์ มีต้นศรีมหาโพธิ์แผ่เป็นมณฑลอยู่ด้านหลัง และกำเนิดอยู่ที่เมืองหริภุญไชยแห่งนี้
"หลวงปู่ครูบาบุดดา" ได้รำลึกบูชาพระคุณเพชรแห่งหริภุญไชย จึงบูชาพระคุณด้วยการสร้างพระรอดแบบมีเอกลักษณ์ของท่าน เป็นพระพุทธเจ้านั่งชนะมารประทับเหนืออาสนบัลลังก์ มีใบโพธิ์ 9 ใบแผ่เป็นรัศมีมณฑล
ส่วนด้านหลังได้เดินลายเส้นรูปพระแม่ธรณีบีบมวยผม เพราะเหตุที่ว่าตอนที่พระพุทธเจ้าชนะพญามาร พระแม่ธรณีได้บีบมวยผมเป็นมหาชลไหลท่วมทัพพญามารให้พ่ายแพ้ไป และอีกประการหนึ่งพระรอดหลวงดั้งเดิมนั้นสร้างจากเนื้อดินซึ่งเป็นกำลังของพระแม่ธรณี
พระรอดรุ่นนี้หากแต่ไม่ได้สร้างจากเนื้อดิน แต่ก็ได้นำองค์พระแม่ธรณีจารึกไว้ด้านหลังเพื่อให้ครบสมบูรณ์ตามตำรับการสร้างตั้งแต่แรก โดยรวมกับเนื้อหามวลสารประกอบไปด้วย.-

• ดินกรุพระรอดมหาวัน
• ผงพุทธคุณจากสมเด็จรุ่นเก่า ๆ
• พระผงวัดปากน้ำ
• พระผงวัดพลับ
• พระกำแพงเนื้อดิน
• กล้วยตานี (ตัวประสาน)

หลวงปู่ครูบาบุดดาได้อัญเชิญพระนางจามเทวีมารับการถวายพระรอดทั้งหมดนี้ ประหนึ่งว่าพระนางเป็นผู้สร้างและเชิญองค์นารทะฤๅษี พรสุเทวะฤๅษี และฤๅษีทั้ง 108 มาทำพิธีปลุกเสกเป็นปฐม ก่อนที่หลวงปู่ครูบาบุดดาจะปลุกเสกด้วยพุทธาคมอีกครั้งหนึ่ง
เรื่องเล้าเกี่ยวกับอิทธิปาฏิหาริย์ของครูบาบุดดา
ลูกศิษย์ลูกหาเล่ากันปากต่อปากถึงเรื่องราวแปลกๆ ว่า ท่านพูดที่กรุงเทพฯ หลวงปู่ครูบาบุดดาท่านรู้ได้ ถ่ายรูปท่านไม่ติด หรือถ่ายแล้วมีเงารูปครูบาอาจารย์ท่านติดด้วย ล่าสุดมีเงาพุ่งจากตัวท่านขณะปลุกเสกวัตถุมงคลในโบสถ์ ปลุกเสกลำไยออกดอก ปลุกเสกต้นไผ่ออกช่อ ครูบาบุดดาอยู่ในกุฏิ แต่คนลำปางเห็นท่านกวาดผงอยู่หน้าวัด

 

สวัสดียามเช้าครับ

 

2528. สมเด็จเมตตา มหาลาภ วัดอินทร์ประชาราษฏร์ เนื้อขาว ผสมเศษชิ้นส่วนของสมเด็จบางขุนพรหม หลวงพ่อเกษม เขมโก ปลุกเสก ปี 2517 ปิดรายการครับ

​

สมเด็จ อชร. หลวงพ่อเกษม เขมโก ปี 2517 เมตตา มหาลาภ วัดอินทร์ประชาราษฏร์ เนื้อขาว ผสมเศษชิ้นส่วนของสมเด็จบางขุนพรหม สมเด็จ อชร. หลวงพ่อเกษม เขมโก ปี 2517 ออกวัดอินทร์ประชาราษฏร์ พระสมเด็จ รุ่นนี้ ได้รวบรวมสุดยอดมวลสารที่น่าสนใจมากๆ คือ ได้มีการผสมเศษชิ้นส่วนของสมเด็จบางขุนพรหม ลงไปเป็นส่วนผสมรวมกับผงพุทธคุณ108 ผงวิเศษ ทั้ง ผงอิทธิเจ ผงมหาราช ผงตรีนิสิงเห เป็นมวลสาร ของการจัดสร้างครั้งนี้ด้วย โดยได้ให้บูชา ที่วัดอินทร์ประชาราษฏ์ ( อชร.) โดยได้ผสมผงไม้พญางิ้วดำ ที่ปลุกเสกโดย สุดยอดเกจิ แห่งยุคนั้น คือ หลวงพ่อเกษม เขมโก และ หลวงปู่คำแสน วัดป่าดอนมูล จ.เชียงใหม่

 

2529.พระผงรูปเหมือน / พระนางพญาเสน่ห์จันทร์ รุ่นฉลอง 700 ปี ลายสือไทย หลวงพ่อเกษม เขมโก แห่งสุสานไตรลักษณ์ จังหวัดลำปาง ให้บูชาองค์ละ 499 บาท เนื้อดินผสมผงพุทธคุณ

​

ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2526 เนื่องในงานฉลองที่ประเทศไทยมีตัวหนังสือใช้เป็นของตนเองมาตั้งแต่สมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช วาระครบ 700 ปี

ผู้จัดสร้างนำความขึ้นกราบเรียนขออนุญาตจัดสร้างกับหลวงพ่อเกษม เขมโก รุ่น 700 ปี ลายสือไทย หลวงพ่อเกษมจึงอนุมัติอนุญาตให้สร้างในทันทีด้วยความปลาบปลื้มปีติยินดีเป็น ที่สุดและท่านยังได้พูดกับคนใกล้ชิดก่อนอีกด้วยว่า “พิธีนี้ เราจะเบ่ง(พลังปลุกเสก)ให้เป็นพิเศษ

ด้านพิธีพุทธาภิเษกนับได้ว่าเป็นพิธีใหญ่ มีเกจิร่วมสมัยมาปลุกเสกหลายรูป อาธิเช่น หลวงพ่อจรัญ หลวงพ่อแช่ม หลวงพ่อจวน หลวงพ่ออุตตมะ หลวงพ่อไพฑูรย์ และอีกหนึ่งในเกจิที่ร่วมปลุกเสกนั้นก็มี หลวงพ่อเกษม เขมโก แห่งสุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง

พิธีพุทธาภิเษกใหญ่ 3 วาระ
ครั้งที่ : 1

- เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ.2526 ณ บริเวณวิหารหลวงหน้าพระอจนะ วัดศรีชุม

ครั้งที่ : 2
- เมื่อวันที่ 10 เมษายน พ.ศ.2527 ณ บริเวณวิหารหลวงหน้าพระอจนะ วัดศรีชุม อีกวาระ

ครั้งที่ : 3
- เมื่อวันที่ 15 เมษายน พ.ศ.2527 ณ สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง ปลุกเสกโดย หลวงพ่อเกษม เขมโก

พุทธคุณ
- เด่นครบเครื่องทุกด้านไม่ว่าจะเป็นด้านโชคลาภ ทำมาค้าขาย และทางด้านแคล้วคลาดจากภัยอันตรายอีกด้วย

 

2530.พระผงรัตนเกษม (ฟ้าลั่น) หลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง ออกที่ วัดพลับพลา จ.นนทบุรี ปี 2517 ให้บูชา 599 บาท

​

เมื่อปี พ.ศ.2517 วัดพลับพลา จังหวัดนนทบุรี กำลังดำเนินการสร้างพระอุโบสถแต่ขาดทุนทรัพย์ จึงคิดไปขอพึ่งบารมีหลวงพ่อเกษม ขอสร้างเหรียญและพระผงรุ่นสร้างโบสถ์วัดพลับพลา และหลวงพ่อเกษมได้อนุญาตให้สร้างตามประสงค์เมื่อวันที่20 สิงหาคม พ.ศ.2517 ทางวัดพลับพลาโดยหลวงพ่อพระครูสิรินนทคุณเจ้าอาวาส จึงได้ดำเนินการจัดสร้างวัตถุมงคลขึ้น 3 รายการ คือ 1.เหรียญรูปเหมือน หลวงพ่อเกษม เนื้อทองคำ เงิน นวโลหะ และทองแดง
2.พระผงรูปเหมือนหลวงพ่อเกษม
3.พระปิดตาเขมโก

เมื่อสร้างเสร็จแล้วได้นำขึ้นไปให้หลวงพ่อเกษมปลุกเสก เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ.2517 เวลา 19.39. น. ณ สุสานไตรลักษณ์ จังหวัดลำปาง ในการพิธีมนต์นี้ได้มีเหตุอัศจรรย์เกิดขึ้นซึ่งท่านพระครูสิรินนทคุณได้บันทึกไวัดังนี้ ในวันปลุกเสกนั้นเป็นเวลากลางคืนทางเหนือหมดฝนแล้วได้ เวลาหลวงพ่อเกษมเดินออกจากกุฏิที่พักของท่าน พอมาถึงศาลามุงแฝก (หญ้าคา) ปะรำพิธีปลุกเสก ข้าพเจ้ากับคณะกรรมการและทุกคนในที่นั้นได้ยินเสียงฟ้าผ่าเปรี้ยง ชาวลำปางจึงตั้งชื่อพระรุ่นนี้ว่า รุ่นฟ้าลั่น ปัจจุบันนี้ชาวลำปางเก่าๆยังจำชื่อรุ่นฟ้าลั่นได้ พระชุดนี้เริ่มออกจำหน่ายจ่ายแจก ในวันที่ 9 ตุลาคม 2517 ที่วัดพลับพลา จังหวัดนนทบุรี ได้เงินสมทบจากพระชุดนี้จนสร้างพระอุโบสถวัดพลับพลาสำเร็จ
อยู่มาเมื่อปี 2536 ทางวัดได้จัดเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังอุโบสถ ขาดทุนทรัพย์ จึงนำพระชุดนี้ในส่วนที่เหลือ คือเหรียญเนื้อทองแดงประมาณ 200 เหรียญ พร้อมพระผงปิดตาเขมโก และ พระผงรัตนเกษม ออกมาให้เช่าบูชาจนได้เงินค่าเขียนภาพจิตรกรรมสำเร็จ เงินเหลือจากค่าจ้างเขียนภาพก็นำไปสร้างโรงครัวและห้องน้ำ 18 ห้อง ทุกวันนี้เหรียญหลวงพ่อเกษมและพระปิดตาเขมโกหมดลงแล้ว คงเหลือแต่พระผงรัตนเกษม หรือ พระผงรูปเหมือนหลวงพ่อเกษม รุ่นสร้างโบสถ์วัดพลับพลา ปี 2517 เท่านั้น
หลังจากนั้นทางวัดได้นำพระผงรูปเหมือนหลวงพ่อเกษม หรือ พระผงรัตนเกษม ในส่วนที่เหลือออกให้เช่าบูชาอีกครั้ง โดยท่านพระครูสิรินนทคุณได้มีลิขิตอธิบายดังนี้ ข้าพเจ้าได้ทราบว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อเกษมได้ละสังขารไปแล้ว เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2539 ข้าพเจ้าได้รำลึกถึงพระคุณของหลวงพ่อเกษม เขมโก ที่มีเมตตาต่อวัดพลับพลามาในอดีต คือได้เมตตาอนุญาตวัดพลับพลาจัดสร้างเหรียญและพระผงรูปเหมือนของหลวงพ่อเกษมเพื่อแจกจ่ายให้แก่คณะศรัทธาบริจาคทรัพย์สร้างอุโบสถจนสำเร็จตามโครงการ ข้าพเจ้าจึงปรึกษากรรมการวัดว่าพวกเราควรหาทางตอบแทนพระคุณของท่านบ้าง เพื่อทำบุญอุทิศไปให้ท่าน จึงได้นำพระผงรัตนเกษมที่เก็บไว้จำนวน 2000 องค์ ไปมอบให้ท่านประธานจัดงานศพ คือ เจ้าประเวทย์ ณ ลำปาง เพื่อสมทบทุนมูลนิธิหลวงพ่อเกษม เขมโกต่อไป โดยมอบให้เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2539 พร้อมรับเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมถวายในวันนั้นด้วย หลังจากเจ้าประเวทย์ได้รับมอบพระผงรัตนเกษมแล้ว ท่านคิดว่าการก่อสร้างของสุสานไตรลักษณ์หรือสิ่งอื่นภายในเมืองลำปาง โดยเฉพาะในสุสานไตรลักษณ์นั้นไม่มีอะไรจะปลูกสร้างแล้วหรือว่าจะสร้างต่อไป มูลนิธิของหลวงพ่อเกษมก็มีเพียงพอจึงปรึกษากันว่าสำหรับพระผงรัตนเกษม 2000 องค์นี้ ควรจะได้สร้างอะไรสักอย่างที่เป็นอนุสรณ์ของหลวงพ่อเกษม ถวายให้วัดพลับพลา พอดีวัดพลับพลากำลังจะดำเนินการสร้างศาลาการเปรียญขนาด 10 x 15 เมตร อยู่ เนื่องจากของเก่าไม่พอต้อนรับประชาชนในเวลาเทศกาล เจ้าประเวทย์จึงเมตตามอบพระผงรัตนเกษมกลับคืนให้วัดพลับพลาเพื่อดำเนินการต่อไป และขอให้ตั้งชื่อศาลาการเปรียญว่า ศาลาการเปรียญเขมโก
นี่ก็เป็นอันว่าพระผงรัตนเกษมที่เคยสร้างพระอุโบสถวันพลับพลาเมื่อ ปี พ.ศ.2517 จะได้กลับมาสร้างศาลาการเปรียญให้วัดพลับพลาอีกครั้งในปี พ.ศ.2539 หรือ 22 ปีให้หลัง

 

จอง2525 ลพ กวย

 

รับทราบครับพี่ ขอบคุณมากครับ

 

2531. ล็อกเก็ตสี่เหลี่ยมหลวงพ่อกวยปี58 รุ่นเรียกทรัพย์โชคลาภ บูรณะวัดหัวเด่น ปิดรายการครับ

​

ล๊อคเก็ต หลวงพ่อกวย ชุตินธโร รุ่น "เรียกทรัพย์ โชคลาภ" สร้างในวาระหารายได้สมทบทุนบูรณะ วัดหัวเด่น จ.ชัยนาท ปี 2558
มวลสารที่บรรจุด้านหลังล๊อคเก็ต ประกอบด้วย
1.ผ้าพรมรองสรีระหลวงพ่อกวย ในโลงแก้ว
2.ไม้โลงเก่าของหลวงพ่อกวย
3.มวลสารศักดิ์สิทธิ์ของ หลวงพ่อกวย
4.ผงพุทธคุณ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
5.ชานหมากหลวงปู่เปลื้อง วัดลาดยาว นครสวรรค์
6.ผงอิทธิเจ หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง
7.ผงเกสร หลวงพ่อรวย วัดตะโก
มวลสารดีมาก ฝังตะกรุด จีวร

 

​

 

สวัสดียามเช้า

 

2532. เหรียญประจำวัน 25 พุทธศตวรรษ เข้าพิธีพร้อมเหรียญ 25 พุทธศตวรรษ พิธีพุทธาภิเษกยิ่งใหญ่ เกจิอาจารย์ดังทั่วประเทศร่วมปลุกเสก ให้บูชาเหรียญละ 399 บาท

​

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯรัชการที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินด้วยพระองค์ ฉลองพระพิธี25 พุทธศตวรรษ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2500 ตำนานแห่งประวัติศาสตร์การรวบรวม สมเด็จฯ พระราชาคณะ 25 รูปพร้อมเชิญบรมครูบาคณาจารย์เกจิผู้ทรงOภิญญา ผู้ทรงฌาณสมาบัติ เจ้าตำหรับแห่งยุค พุทธาภิเษก เทวาภิเษกเข้มขลังหลายวาระ 3วัน 3คืน พร้อมจัดงานฉลอง7 วัน 7 คืน ยิ่งใหญ่เต็มรูปแบบราชพิธีในตำนานประวัติศาสตร์รัตนโกสินทร์
พิธีปลุกเสกสรรพสิ่งตลอด3 วัน3 คืน ในพระอุโบสถวัดสุทัศน์เทพวราราม ราชวรมหาวิหาร มีสมเด็จพระราชาคณะ เจริญพระพุทธมนต์25 รูป พระคณาจารย์ปลุกเสก บรรจุพุทธาคมครบ 108 รูป
ประธานฝ่ายสงฆ์ของพิธีกรรม คือ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ วัดบวรนิเวศมหาวิหาร ประธานฝ่ายฆราวาส จอมพล ป. พิบูลสงคราม อดีตนายกรัฐมนตรีสมัยนั้น พลตำรวจเอก เผ่า ศรียานนท์ ประธานฝ่ายจัดสร้างพระพิมพ์ รองประธานฝ่ายจัดสร้างได้แก่ พลตำรวจตรี เนื่อง อาขุบุตร ท่านได้เป็นกรรมการจัดจำหน่ายให้สาธุชนและผู้มีเกียรติทั้งหลายเช่าบูชาไปสักการะ หรือนำติดตัวเพื่อป้oงกันอุบัติเหตุร้ายได้อีกด้วย
พิธีกรรม การทำพิธีพุทธาภิเษกปลุกเสกพระเครื่อง ได้นิมนต์พระคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิมาทำพิธีถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกนำสิ่งของที่จะสร้างมาทำพิธีพุทธาภิเษกปลุกเสกเสียก่อนครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2500 ณ พระอุโบสถวัดสุทัศน์ มีพระคณาจารย์มาทำพิธีครบ 108 องค์ ต่อมาเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2500 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ได้ทรงพระกรุณาเททอง หล่อพระทองคำ แล้วทรงพิมพ์พระเนื้อดินและชนิดเนื้อชินเป็นปฐมฤกษ์ แต่วันนั้นได้สร้างในบริเวณวัดสุทัศน์เป็นเวลาถึง 3 เดือนเศษจึงแล้วเสร็จ ต่อมาเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2500 ได้ทำพระเครื่องทั้ง 3 ชนิดดังกล่าวแล้ว เข้าพิธีพุทธาภิเษกอีกครั้งเป็นระยะเวลา 3 วัน 3 คืน รวมเวลาทำพิธีพุทธาภิเษก 2 ครั้ง 6 วัน 6 คืน มีพระเกจิอาจารย์ที่ทางการ ร่วมอาราธนามาปลุกเสก 108 องค์
รายนามพระอาจารย์ปลุกเสกพระเครื่องในงานฉลอง 25 พุทธศตวรรษ ซึ่งได้สร้างเสร็จสิ้นแล้ว ณ พระอุโบสถ วัดสุทัศนเทพวรารามมหาวิหาร เมื่อวันที่ 2-3 และ 4 พฤษภาคม 2500 รวม 3 วัน มีดังนี้คือ
1. พระครูอาคมสุนทร วัดสุทัศน์ กทม.
2. พระครูสุนทรสมาธิวัตร วัดสุทัศน์ กทม.
3. พระครูญาณาภิรัต วัดสุทัศน์ กทม.
4. พระครูพิบูลย์บรรณวัตร วัดสุทัศน์ กทม.
5. พระครูสุนทรศีลาจารย์ วัดสุทัศน์ กทม.
6. พระครูพิศาลสรกิจ วัดสุทัศน์ กทม.
7. พระมหาสวน วัดสุทัศน์ กทม.
8. พระมหาอำนวย วัดสุทัศน์ กทม.
9. พระปลัดสุพจน์ วัดสุทัศน์ กทม.
10. พระครูวิสิษฐ์วิหารการ วัดชนะสงคราม กทม.
11. พระสุธรรมธีรคุณ (วงษ์) วัดสระเกศ กทม.
12. พระอาจารย์สา วัดราชนัดดาราม กทม.
13. พระปลัดแพง วัดมหาธาตุ กทม.
15. พระวรเวทย์คุณาจารย์ วัดพระเชตุพน กทม.
16. พระครูฐาปนกิจประสาท วัดพระเชตุพน กทม.
17. พระอินทรสมาจารย์ วัดพระเชตุพน กทม.
18. พระครูวินัยธร (เฟื่อง) วัดสัมพันธวงศ์ กทม.
19. พระครูภักดิ์ วัดบึงทองหลาง กทม.
20. พระครูกัลญาณวิสุทธิ วัดดอนหวาย กทม.
21. พระอาจารย์มี วัดสวนพลู กทม.
22. พระอาจารย์เหมือน วัดโรงหีบ กทม.
23. พระหลวงวิจิตร วัดสะพานสูง กทม.
24. พระอาจารย์หุ่น วัดบางขวด กทม.
25. พระราชโมลี วัดระฆัง กทม.
26. หลวงวิชิตชโสธร วัดสันติธรรมาราม กทม.
27. พระครูโสภณกัลญานุวัตร (เส่ง) วัดกัลญาณมิตร กทม.
28. พระครูภาวนาภิรัต (ผล) วัดหนัง กทม.
29. พระครูทิวากรคุณ (กลีบ) วัดตลิ่งชัน กทม.
30. พระครูไพโรจน์วุฒิคุณ (ไพฑูรย์) วัดโพธินิมิตร กทม.
31. พระครูญาณสิทธิ์ วัดราชสิทธาราม กทม.
32. พระอาจารย์มา วัดราชสิทธาราม กทม.
33. พระอาจารย์หวน วัดพิกุล กทม.
34. พระมหาธีรวัฒน์ วัดปากน้ำ กทม.
35. พระอาจารย์จ้าย วัดปากน้ำ กทม.
36. พระอาจารย์อินทร์ วัดปากน้ำ กทม.
37. พระครูกิจจาภิรมย์ วัดอรุณราชวราราม กทม.
38. พระครูวินัยสังวร วัดประยุรวงศาวาส กทม.
39. พระสุขุมธรรมาจารย์ วัดหงษ์รัตนาราม กทม.
40. พระครูพรหมวินิต วัดหงษ์รัตนาราม กทม.
41. พระอาจารย์อิน วัดสุวรรณอุบาสิการ กทม.
42. พระครูวิริยกิจ (โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี กทม.
43. พระปรีชานนทมุนี (ช่วง) วัดโมลี นนทบุรี
44. พระครูปลัดแฉ่ง (หลวงพ่อแฉ่ง) วัดศรีรัตนาราม นนทบุรี
45. พระปลัดยัง (หลวงพ่อยัง) วัดบางจาก นนทบุรี
46. พระอาจารย์สมจิต วัดป่ากะเหรี่ยง ราชบุรี
47. พระอาจารย์แทน วัดธรรมเสน ราชบุรี,
48. พระครูบิน วัดแก้ว ราชบุรี
49. พระอินท์เขมาจารย์ วัดช่องลม ราชบุรี
50. พระธรรมวาทีคณาจารย์ (เงิน) วัดดอนยายหอม นครปฐม
51. พระครูสังฆวิชัย วัดพระปฐมเจดีย์ นครปฐม
52. พระอาจารย์สำเนียง วัดเวฬุวัน นครปฐม
53. พระอาจารย์เต๋ วัดสามง่าม นครปฐม
54. พระอาจารย์แปลก วัดสระบัว ปทุมธานี
55. พระครูปลัดทุ่ง วัดเทียนถวาย ปทุมธานี
56. พระครูบวรธรรมกิจ (เทียน) วัดโบสถ์ ปทุมธานี
57. พระครูโสภณสมาจารย์ (เหรียญ) วัดหนองบัว กาญจนบุรี
58. พระครูวิสุทธิรังษี วัดเหนือ กาญจนบุรี
59. พระมุจลินท์โมฬี (ดำ) วัดมุจลินท์ ปัตตานี
60. พระครูรอด วัดประดู่ นครศรีธรรมราช
61. พระครูวิศิษฐ์อรรถการ (คล้าย) วัดสวนขัน นครศรีธรรมราช
62. พระครูสิทธิธรรมาจารย์ (พระอาจารย์ลี) วัดอโศการาม สมุทรปราการ
63. พระอาจารย์บุตร วัดใหม่บางปลากด สมุทรปราการ
64. พระอาจารย์แสวง วัดกลางสวน สมุทรปราการ
65. พระครูศิริสรคุณ (แดง) วัดท้ายหาด สมุทรสงคราม
66. พระครูสมุทรสุนทร วัดพวงมาลัย สมุทรสงคราม
67. พระสุทธิสารวุฒาจารย์ (ใจ) วัดเสด็จ สมุทรสงคราม
68. พระอาจารย์อ๊วง วัดบางคณที สมุทรสงคราม
69. พระครูไพโรจน์วุฒาจารย์ (รุ่ง) วัดท่ากระบือ สมุทรสาคร
70. พระครูวิเศษสมุทรคุณ (ฮะ) วัดดอนไก่ดี สมุทรสาคร
71. พระครูลักขิตวันมุนี (ถิร) วัดป่าเลไลยก์ สุพรรณบุรี
72. พระอาจารย์แต้ม วัดพระลอย สุพรรณบุรี
73. พระครูโฆษิตธรรมสาร (ครื้น) วัดสังโฆ สุพรรณบุรี
74. พระครูวรกิจวินิจฉัย (พริ้ง) วัดวรจันทร์ สุพรรณบุรี
75. พระครูสัมฤทธิ์ วัดอู่ทอง สุพรรณบุรี
76. พระวรพจน์ปัญญาจารย์ (ง) วัดอรัญญิการาม ชลบุรี
77. พระครูธรรมาวุฒิคุณ วัดเสม็ด ชลบุรี
78. พระครูธรรมธร (หลาย) วัดราษฎร์บำรุง ชลบุรี
79. พระอาจารย์บุญมี วัดโพธิ์สัมพันธ์ ชลบุรี
80. พระพรหมนคราจารย์ วัดแจ้งพรหมนคร สิงห์บุรี
81. พระครูศรีพรหมโศภิต (แพ) วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี
82. พระชัยนาทมุนี วัดบรมธาตุ ชัยนาท
83. พระอาจารย์หอม (หลวงพ่อหอม) วัดชากหมาก ระยอง
84. พระอาจารย์เมือง วัดท่าแพ ลำปาง
85. พระครูอุทัยธรรมธารี วัดท้าวอู่ทอง ปราจีนบุรี
86. พระครูวิมลศีลาจารย์ วัดศรีประจันตคาม ปราจีนบุรี
87. พระครูสุนทรธรรมประกาศ วัดโพธิ์ปากพลี นครนายก
88. พระครูบาวัง วัดบ้านเด่น ตาก
89. พระครูสวรรควิริยกิจ วัดสวรรคนิเวศ แพร่
90. พระครูจันทร์ (หลวงพ่อจันทร์) วัดคลองระนง นครสวรรค์
91. พระครูศีลกิติคุณ (อั้น) วัดพระญาติการาม อยุธยา
92. พระอาจารย์แจ่ม วัดวังแดงเหนือ อยุธยา
93. พระครูเล็ก วัดบางนมโค อยุธยา
94. พระอาจารย์มี วัดอินทราราม อยุธยา
95. พระอาจารย์หวาน วัดดอกไม้ อยุธยา
96. พระอาจารย์หน่าย วัดบ้านแจ้ง อยุธยา
97. พระครูประสาทวิทยาคม (นอ) วัดกลางท่าเรือ อยุธยา
98. พระอาจารย์จง (หลวงพ่อจง) วัดหน้าต่างนอก อยุธยา
99. พระอธิการเจาะ วัดประตูโลกเชษฐ์ อยุธยา
100. พระอาจารย์ศรี วัดสระแก อยุธยา
101. พระสุวรรณมุนี วัดมหาธาตุ เพชรบุรี
102. พระครูสุข วัดโตนดหลวง เพชรบุรี
103. พระครูพิบูลย์ศีลาจารย์ วัดโพธิ์กรุ เพชรบุรี
104. พระครูทม (หลวงพ่อทม) วัดสว่างอรุณ เพชรบูรณ์
105. พระสวรรควรนายก วัดสวรรคาราม สุโขทัย
106. พระโบราณวัตถาจารย์ วัดราชธานี สุโขทัย
107. พระครูบี้ วัดกิ่งลานหอย สุโขทัย
108. พระครูวิบูลย์สมุทรกิจ วัดเสด็จ สมุทรสงคราม
"ในระหว่างพิธีได้มีปรากฏการณ์เหตุน่าอัศจรรย์บังเกิดขึ้นหลายประการ เป็นการแสดงถึงความศัnดิ์สิทธิ์ของพระเครื่อง 25 ศตวรรษ เช่น ขณะที่ประกอบพิธีเททองหล่อโลหะ ซึ่งบรรดาคณาจารย์มอบให้ใช้ผสมหล่อพระเครื่องอยู่นั้น ได้ปรากฏเหตุอัศจssย์ คือมีตะกรุดเงิuและแผ่นเงิiลงยันต์หลายชิ้น ไม่ละลายไปกับความร้อน แม้ช่างจะสุมไฟอยู่เป็นเวลานานกว่า 3 ชั่วโมง นอกจากนั้น ในเวลาใกล้เที่ยงของวันรุ่งขึ้น ได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก เป็นที่น่าอัศจssย์ บรรดาผู้ที่ไปร่วมงานถือว่าเป็นศุภนิมิตมงคลอย่างยิ่ง"
"พระเครื่อง 25 พุทธศตวรรษ" จึงนับเป็นพระเครื่องที่มีความสำคัญยิ่งในประวัติศาสตร์กรุงรัตนโกสินทร์ ทั้งเจตนาและพิธีกรรมที่ยิ่งใหญ่ องค์พระก็มีพุทธศิลป์ที่อ่อนช้อยงดงามและมีความสง่างามเฉพาะตัว อีกทั้งพุทธานุภาพและปlฏิหาริย์นั้นเรียกว่า "ยอดเยี่ยมสุดๆ" ได้สร้างประสบการณ์มากมายแก่ผู้มีไว้ครอบครองเป็นที่เล่าขานสืบมาถึงปัจจุบัน
มีผู้ใหญ่เคยเล่าให้ฟังว่า "มีนักโทษห้าหกคน มีอาวุธครบมือทั้งมีดทั้งปืน แหกคุกออกมายิjใส่ผู้คุมที่ทัด 25 พุทธศตวรรษอยู่หลังหูองค์เดียว ผลปรากฏว่าไม่มีการระคายผิวหนัง"

 

2533. พระซุ้มกอขอบรัศมี พระวิบูลวชิรธรรม หลวงพ่อสว่าง อุตตโร วัดท่าพุทรา ปิดรายการครับ

​

หลวงพ่อสว่างถือเป็นพระเกจิที่หลวงพ่อกวย ชุนติธโร ให้การยอมรับนับถือถึงขนาดที่ว่า หลวงพ่อกวยท่านเคยนำเอาเหรียญรุ่นแรกปี ๒๕๐๖ หลังยันต์มงกุฎพุทธเจ้า หลวงพ่อสว่าง ไปปั๊มไว้ด้านหลังพระเนื้อดินหลวงพ่อกวยเอง
มีเรื่องราวอภินิหารเกิดขึ้นอยู่ในงานพุทธาภิเษกใหญ่อยู่เรื่องหนึ่งคือในงานได้มีพระเกจิอาจารย์ดังถูกนิมนต์ให้ไปร่วมในงานมากมายหลายรูป อาทิเช่น
หลวงพ่อกวย ชุตินธโร
หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่
หลวงพ่อสว่าง วัดท่าพุทรา
ซึ่งในงานนั้นหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ ถูกนิมนต์ให้เป็นประธานจุดเทียนชัย หลวงพ่อมุ่ยท่านลุกขึ้นเพื่อจุดเทียนชัย แต่เมื่อท่านจะจุดเทียนชัย หลวงพ่อมุ่ยท่าน
ทำยังไงไฟก็จุดไม่ติด หลวงพ่อมุ่ยท่านน่ารู้ด้วยวาระจิตของท่าน ท่านจึงเดินมาบอกหลวงพ่อสว่างว่า ท่านๆลองจุดบ้างสิท่าน หลวงพ่อมุ่ย ท่านเอ่ยว่าผมจุดอย่างงัยไฟก็ไม่ติด จากนั้นหลวงพ่อสว่าง ท่านจึงลุกขึ้นจุดเทียนชัยเทียนชัยก็จุดได้เป็นปกติหลวงพ่อมุ่ยท่านก็เลยนิมนต์ให้หลวงพ่อสว่าง นั่งแถวสุดทั้งๆที่หลวงพ่อมุ่ยมีความอาวุโสพรรษามากกว่าหลวงพ่อสว่าง และเรื่องราวฮือฮา ก็เกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อหลวงพ่อสว่างท่านตั้งนะโม ๓ จบเพียงแค่ท่านกล่าวคำว่านะโมตัสสะเครื่องปั่นไฟ ๒ลูกที่อยู่ในงานก็ดับทั้งวัดจนเป็นที่ฮือฮากันมากว่าหลวงพ่อองค์นี้ท่านเป็นใครเก่งมาจากไหนถึงมีฤทธิ์อภิญญามากเพียงนี้ เรื่องเล่าเหตุการณ์ในครั้งนั้นจึงทำให้ พระเกจิในเขตกําแพงเพชรและเขตชัยนาทมาเข้าฝากตัวเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อสว่างเป็นจำนวนมาก วัตถุมงคลรุ่นนี้
หลวงพ่อสว่างท่านได้เริ่งจัดสร้างตั้งแต่ปี๒๔๗๐ถึงพ.ศ.๒๕๐๐ในช่วงที่ท่านจำพรรษาที่วัดถ้างิ้วตั้วเกา อ.บรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์มวลสารในการจัดสร้างท่านได้ทำตามตำราสร้างพระของสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต)พรหมรังษี ทั้ง๕ ประการและได้ผสมว่านดอกไม้ ผสมผงพุทธคุณวิเศษแร่กายสิทธิ์ที่ได้จากธรรมชาติ คตต่างๆที่เป็นของคงทนสิทธิ์ มีฤทธิ์พุทธคุณในตัว เป็นต้น พระเครื่องของหลวงพ่อสว่างนั้นเป็นพระเครื่องที่โดดเด่น
ทางด้านคงกระพันชาตรี
แคล้วคลาด
ปลอดภัย
มหาอุตม์
กระสุนคต
หลวงพ่อสว่างท่านมีชื่อเสียงตั้งแต่สมัยที่ท่านยังหนุ่มๆ ก่อนที่จะออกบวช หลวงพ่อ ท่านได้ฝากตัวเป็นศิษย์เรียนวิชาอาคมทั้งหมดจาก พระครูบรรพโตมญาณ หลวงพ่อเผือก วัดหัวดง อ.บรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ หลวงพ่อสว่างท่านสำเร็จวิชามหาอุตม์ซึ่งเป็นวิชาเดียวกันกับหลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่า ซึ่งวิชานี้จะทำให้กระสุนปืนด้าน เมื่อลั่นไกปืนกระสุนจะไม่ออกจากลำกล้อง ครั้งหนึ่งมีผู้คนที่พบวัตถุมงคลของหลวงพ่อสว่างไว้ติดตัวแล้วเกิดประสบการณ์ปาฏิหาริย์ ถูกยิงด้วยปืนในระยะประชิดตัว ลูกกระสุนออกจากลำกล้อง แต่กระสุนกับวิ่งโค้ง ไม่ถูกตัว ผู้ที่ประสบเหตุ อย่างอัศจรรย์

 

2534. พระกลีบบัวปางประทานพรซุ้มจระเข้คู่เนื้อดินกลางศักดิ์สิทธิ์ หลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย ปี10 ปิดรายการครับ

​

พระเครื่องชุดนี้ถือเป็นพระเครื่องยุคต้นๆที่มีการจัดสร้างถือเป็นพระเครื่องที่มีความแปลกสวยเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเพราะสร้างเป็นพระประทานพรแต่ล้อมรอบด้วยจระเข้คู่ ซึ่งเป็นสุดยอดวิชาที่หลวงพ่อสนิทท่านได้เรียนและสำเร็จมา
สร้างจากดินที่ขุดจากกลางสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ในวัดลำบัวลอย
หลวงพ่อสนิท ท่านเป็นยอดพระเกจิคณาจารย์ผู้เรืองวิทยาคม ท่านเป็นเจ้าตำรับตำราผู้จัดสร้างพญาจระเข้โทน และพญาเต่าเรือนหินแกะอันเป็นที่โด่งดังระดับประเทศ กล่าวกันกันว่าท่านสามารถจัดสร้างพญาจระเข้โทนท่านเสก
ให้มีตัวมีตนได้เหมือนกับมีชีวิตอย่างน่าอัศจรรย์ หลวงพ่อสนิทท่านพระอริยสงฆ์ที่รักสันโดษเรียบง่าย ปกติก่อนสังขารท่านจะร่วง โรยท่านจะออกธุดงค์ เป็นประจำทุกปีท่านไม่สะสมสิ่งของวัตถุหรือทรัพย์สินต่างๆ มีเมตตาสูง ท่านมีความเชี่ยวชาญในศาสตร์หลายแขนงในอดีตท่านรักษา ผู้ป่วยที่มาพึ่งบารมีทั้งที่ป่วยจากโรคภัยไข้เจ็บและที่ ป่วยจากการโดนคุณไสยต่างๆ ท่านที่เคยไปกราบหรือพึ่งบารมีท่าน จะสามารถสัมผัสจิตอัศจรรย์ของท่านได้ด้วยตนเอง ดังเช่นการรู้ล่วงหน้าว่า จะมีใครมาหา มากี่คน มาหาด้วยเรื่องอะไร เป็นต้น นอกจากนี้หลวงปู่ยังรักษาสัจจะวาจาเท่าชีวิตดังนั้นคำพูดทุกคำที่ออกจากปาก ท่านจึงเป็นจริงดังวาจาสิทธิ์ของพระร่วง ท่านพูดอะไรให้ฟังแล้วสิ่งนั้นจะปรากฏเป็นจริงเสมอหลวงพ่อสนิท ท่านได้มรณภาพเมื่อวันที่๑๔ มีนาคม ๒๕๔๒ สิริอายุรวม ๗๔ ปี ๕๑ พรรษา สรีระสังขารของท่านแต่เดิมเก็บรักษาในโลงแก้ว เนื่องเพราะสรีระของท่านไม่เน่าเปื่อย และเส้นเกศาที่เคยปลงเก็บไว้ก็แปรสภาพเป็นพระธาตุอย่างน่าอัศจรรย์