รู้จากตำราความรู้เอาไปละกิเลสไม่ได้

หนทางสำหรับคนที่มีความทุกข์ในเรื่องเงิน

นั่งสมาธิหรือทำใจให้สงบ แล้วระลึกนึกถึงความดีที่ตนเองเคยทำมา โดยเฉพาะความดีที่ตนเองประทับใจ ที่ระลึกแล้วมีปิติมาก แล้วอธิษฐานขอให้มีทางออกที่ดี ด้วยใจที่บริสุทธิ์จะไปต่อเชื่อมโยงกับสายสมบัติโดยอัตโนมัติ...

 

เปิดโลกทัศน์ โลกธรรม 1

"คนไม่เสียสัจจะ ทำอะไรก็มักสำเร็จ อธิษฐานจิตจะขึ้น จะสมปรารถนา"

7.มีผู้ปฏิบัติธรรมท่านหนึ่งได้นำพระที่เขาได้รับจากหลวงพ่อมาให้ข้าพเจ้าดู และเขาบอกข้าพเจ้าว่าให้อธิษฐาน อยากได้อะไรก็ให้ขอ รุ่งขึ้นเป็นวันพระ ข้าพเจ้าเข้ากรรมฐาน เวลาหลวงพ่อท่านให้พร ข้าพเจ้าก็สาธุ ขอให้รวยๆ ขอให้ขายที่ดินได้ พอหลวงพ่อท่านบรรยายธรรม ท่านได้พูดขึ้นประโยคหนึ่งว่า “บุญไม่คิดสร้างให้ตัวเองเสียก่อน จะมาขอนั่นขอนี่ มันจะได้อย่างไร” ตั้งแต่วันนั้นมาข้าพเจ้าไม่เคยคิดขออะไรเลย ตั้งหน้าตั้งตาทำกรรมฐาน

8.ท่านบอกว่า “คาถามันไม่ขลัง คาถานี่มันเป็นบทภาวนาทำให้จิตข้ามฟาก เป็นสะพานเท่านั้น พอข้ามแล้วไม่มีคาถา คาถานี่มันไม่ขลังหรอก มันขลังที่จิตใจมันถึง ถ้าจิตใจไม่ถึงใช้ไม่ได้” อาตมาก็บอกกับท่านว่าผมมาอยู่ที่นี่ ๖ เดือน เดี๋ยวแบกข้าวสาร เดี๋ยวแบกมะพร้าว เดี๋ยวเงินก็ไหลมา กับข้าวก็มีไม่รู้จักหมดจักสิ้น เป็นเพราะอะไร หลวงพ่อตอบอาตมาจำมาทุกวันนี้ว่า “ทำใจให้มันงอก ถ้าใจงอก จิตงอก จิตไม่หดแล้ว เงินไหลนอง ทองไหลมา ถ้าใจหดเงินไหลออก ทองไหลออก” อย่างแม่ครูหวานใจ ชูกร จิตท่านงอก จิตท่านสดใสสะอาดเหมือนดวงแก้วปราศจากโลภ โกรธ หลง ไม่มีอะไรพะวงอยู่ในดวงใจ โยมโปรดจำไว้อย่าทำใจให้เศร้าหมอง ทำใจให้สบาย ทำใจให้งอก คิดอะไรก็ได้ แก้วสารพัดนึกอยู่ที่นี่

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : http://metharung-background.blogspot.com/2014/12/blog-post_6.html

 

สวัสดีปีใหม่ไทย ๒๕๕๘ ครับ​

 

คาถาบูชาพระสีวลี ฉบับหลวงพ่อกวย (ลายมือหลวงพ่อ)

​

คาถาบูชาพระอุปคุต

อุปะคุตโต จะ มะหาเถโร สัมพุทเธ นะ วิยากะโต มารัญจะ มาระพะลัญจะ โสอิทา นิมะหาเถโร นะมัสสิตตะวา ปะติฏฐิโต

อะหัง วันทามิ อิทาเนวะ อุปะคุตตัง จะมะหาเถรัง ยัง ยัง อุปะทะวัง ชาตัง วิธัง เสติ อะเสสะโต มะหาลาภัง ภะวันตุเม ฯ

คาถาบทนี้ สวดบูชาพระอุปคุตทุกวัน จะบัลดลให้บังเกิดโชคลาภ ทรัพย์สินเงินทองมากมาย และป้องกันภัยอันตรายทั้งปวงแก่ผู้บูชา


คำบูชาขอลาภพระอุปคุต

มหาอุปคุตโต จะ มหาลาโภ พุทโธลาภัง สัพเพชะนา พะหูชะนา ราชาปุริโส อิถีโยมานัง นะโม โจรา

เมตตาจิตตัง เอหิจิตติจิตตัง ปิยังมะมะ สะเทวะกัง สะพรหมมะกัง มนุสสานัง สัพพะลาภัง ภะวันตุ เม ฯ

เอหิจิตติจิตตัง พันธะนัง อุปะคุโต จะ มหาเถโร พุทธะสาวะกะ อานุภาเวนะ มาระวิชะยะ นิระภะยะ เตชะปุญณะตา

จะเทวะตานัมปิ มะนุสสานันปิ เอหิจิตตัง ปิยังมะมะ อิมังกายะ พันธะนัง อะทิถามิ ปะอัยยิสสุตัง อุปัจสะอิ


คาถาบูชาพระสังกัจจายน์

กัจจานะ จะ มหาเถโร พุธโธ พุทธานัง พุทธะตัง พุทธัญจะ พุทธะ สุภา สิตัง พุทธะตัง สะมะนุปปัตโต พุทธะ โชตัง นะ มามิหัง ปิโยเทวะ มะนุสสานัง ปิโยพรหม นะ มุตตะโม ปิโยนาคะ สุปันนานัง ปิยินทะริยัง นะ มามิหัง สัพเพชะนา พะหูชะนา ปุริโสชะนา อิถีชะนา ราชาภาคินิ จิตตัง อาคัจฉาหิ ปิยังมามะฯ


คาถาบูชาขอลาภพระสังกัจจายน์

กัจจายะนะ มะหาเถโร เทวะตานะระ ปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ มะหาลาภัง ภะวันตุ เม

ลาเภนะ อุตะโมโหติ โสระโห ปัจจะยาทิมหิ มะหาลาภัง สัพพะลาภา สะทาโสตถิ ภะวันตุ เม



เครดิต : เวบเมตตาโฮมเพจ

 

ให้ความช่วยเหลือค่าอาหาร หรืออื่นๆ ที่จำเป็น (โครงการบุญครั้งที่ 2)

ตามที่ผมได้เปิดโครงการให้ความช่วยเหลือค่าอาหาร หรืออื่นๆ ที่จำเป็น (โครงการบุญครั้งที่ 1) อ้างอิงที่โพสต์นี้ : http://metharung.blogspot.com/2014/01/blog-post_9.html

ในโครงการบุญครั้งที่ 1 นั้น ผมได้ช่วยเหลือเป็นจำนวน 10 ท่าน ได้ช่วยเหลือเป็นค่าอาหาร ให้มีข้าวกินหรืออื่นๆ และปิดโครงการบุญดั่งกล่าวไปแล้วในช่วงปลายเดือนตุลาคม 2557 ภายหลังการปิดโครงการบุญดั่งกล่าว ก็พบว่ายังมีอีกหลายท่านที่ส่งอีเมล์มาขอความช่วยเหลือ

เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2558 มีท่านผู้ใจบุญท่านหนึ่ง แจ้งความประสงค์มาว่า อยากร่วมโครงการบุญช่วยเหลือค่าอาหาร ซึ่งได้พูดคุยตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ผมจึงเปิดโพสต์ให้ความช่วยเหลือค่าอาหาร หรืออื่นๆ ที่จำเป็น (โครงการบุญครั้งที่ 2)

ข้อสรุปโครงการบุญครั้งที่ 2 :
1.ช่วยเหลือค่าอาหาร หรืออื่นๆ ที่จำเป็น โดยใน 1 เดือนจะช่วยเหลือเป็นจำนวน 3 ท่าน
2.จะช่วยเหลือท่านละ 500 บาท หรือตามความเหมาะสมจากการพิจารณา
3.ใน 2 ท่านนั้นใช้ทุนของท่านผู้ใจบุญ อีก 1 ท่านใช้ทุนของผม
4.ถ้าใน 1 เดือนช่วยเหลือได้ไม่ครบ 3 คน ก็จะทบไปยังเดือนถัดๆ ไป หรือตามความเหมาะสมจากการพิจารณา
5.โครงการบุญครั้งที่ 2 นี้ ช่วยเหลือเพียงแค่ท่านละ 1 ครั้งนะครับ
6.โครงการบุญครั้งที่ 2 นี้ จะช่วยเหลือเป็นจำนวน 15 ท่าน/คน นะครับ เมื่อครบ 15 ท่านแล้ว ก็จะปิดโครงการบุญครับ
7.**ถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลงในภายหลัง เช่น การเพิ่มหรือลดเงินช่วยเหลือ, การเพิ่มหรือลดจำนวนคนที่จะช่วย หรืออื่นๆ ก็จะแจ้งให้ทราบในโพสต์นี้

รายละเอียดเพิ่มเติมอ่านได้ที่ : http://metharung.blogspot.com/2015/04/2.html

 

ทำความดีกับผู้สูงอายุ

เมื่อหลายวันก่อน ช่วงหัวเช้า จะเดินไปหาซื้ออาหารที่ตลาด เจอผู้สูงวัยท่านหนึ่ง อยู่ข้างริมถนน บอกผมว่า ช่วยพาเขาข้ามถนนหน่อย เขาบอกตามองไม่ค่อยเห็น(อาจจะมองเห็นใกล้ๆ ได้ แต่ไกลๆ มองไม่ค่อยเห็น) คุณลุงบอกว่า รอมาหลายนาทีแล้ว หาคนช่วยพาข้ามถนนยังไม่ได้ พอเห็นผมก็เรียกบอกผมว่า พาเขาข้ามถนนหน่อย ผมก็โอเค พาคุณลุงข้ามถนนจากอีกฝั่งหนึ่งไปยังอีกฝั่งหนึ่ง (ถนนฝั่งละ 2.5 เลน รวม 2 ฝั่งก็คือ 5 เลน)

นานๆ ผมถึงจะมีโอกาสได้ทำความดีกับผู้สูงอายุ ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน นึกแล้วก็ชื่นใจ

เมื่อวานก่อน (29 เมษายน) คุณลุงท่านหนึ่งที่มีบ้านอยู่ไ่ม่ไกลกันนัก ก็มาคุยกับพี่สาว ช่วงนั้นผมตัดเล็บอยู่ เมื่อคุณลุงคุยธุระกับพี่สาวเสร็จแล้ว ก็บอกผมว่าช่วยตัดเล็บให้เขาหน่อย เมื่อผมตัดเล็บเสร็จ ผมก็ช่วยตัดเล็บให้คุณลุง เมื่อตัดเล็บให้คุณลุงแล้ว คุณลุงบอกขอบใจ

"การมีชีวิตอยู่ เป็นหน้าที่สำหรับบุคคลที่ยังมีชีวิตอยู่" คำกล่าวของหลวงปู่พุทธทาส

การมีชีวิตอยู่ เจอทั้งความสุขและความทุกข์ ชีวิตการเกิดเมื่อมีกายสังขารแล้ว ก็อยู่ที่เจ้าตัว ว่าจะเลือกทำกรรมดีหรือกรรมชั่ว

 

แจกภาพหลวงปู่ใหญ่ (หลวงปู่เทพโลกอุดร)

แจกรูปภาพหลวงปู่ใหญ่ (หลวงปู่เทพโลกอุดร) ให้บุคคลที่มีความศรัทธาหลวงปู่ใหญ่ ได้นำไปบูชา เพื่อความเป็นศิริมงคลแห่งชีวิต

ประกาศแจกในกระทู้นี้ จำนวน 3 รูป ท่านที่สนใจอยากขอรับไปบูชา ก็ติดต่อหาผมได้ที่ : metharung@gmail.com

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมและดูภาพหลวงปู่ใหญ่(ภาพสี) ได้ที่ :
http://metharung-background.blogspot.com/2015/05/blog-post_28.html

 

​

คาถาบูชาหลวงปู่ใหญ่ (หลวงปู่เทพโลกอุดร)

โย อะริโย มะหาเถโร อะระหัง อะภิญญาธะโร

ปะฎิสัมภิทัปปัตโต เตวิชโช พุทธะสาวะโก

พะหู เมตตาทิวาสะโน มะหาเถรานุสาสะโก

อะมะตัญเญวะ สุชีวะติ อะภินันที คุหาวะนัง

โส โลกุตตะโร นาโม อัมเหหิ อะภิปูชิโต

อิธะ ฐานูปะมาคัมมะ กุสะเล โน นิโยชะเย

ปุตตะเมวะ ปิยัง เทสี มัคคะผะลัง วะ เทสสะติ

ปะระมะสารีริกะธาตุ วะชิรัญจาปิวานิตัง

โส โลเก จะ อุปปันโน เอเกเนวะ หิตังกะโล

อะยัง โน โข ปุญญะลาโภ อัปปะมัตโต ภะเวตัพโพ

สาธุกันตัง อะนุกะริสสามะ ยัง วะเรนะ สุภาสิตัง

โลกุตตะโร จะ มะหาเถโร เทวะตานะระปูชิโน

โลกุตตะระคุณัง เอตัง อะหัง วันทามิ ตัง สะทา

มะหาเถรานุภาเวนะ สุขัง โสตถี ภะวันตุเม

 

ความทุกข์อย่างละเอียด กิเลสตัญหาเจอกิเลสตัญหา

พุทธวจน
ภิกษุทั้งหลาย ! ถ้าภรรยาและสามีทั้งสอง พึงหวังพบกันและกัน
ทั้งในปัจจุบัน และในสัมปรายภพ ทั้งสองเทียว
พึงเป็นผู้ มีศรัทธาเสมอกัน
มีศีลเสมอกัน
มีจาคะเสมอกัน
มีปัญญาเสมอกัน
ภรรยาและสามีทั้งสองนั้น ย่อมได้พบกันและกันทั้งในปัจจุบัน
ทั้งในสัมปรายภพ ภรรยาและสามีทั้งสองเป็นผู้มีศรัทธา
รู้ความประสงค์ของผู้ขอ มีความสำรวมเป็นอยู่โดยธรรม
เจรจาคำที่น่ารักแก่กันและกัน ย่อมมีความเจริญรุ่งเรืองมาก
มีความผาสุกทั้งสองฝ่าย มีศีลเสมอกัน รักใคร่กันมาก
ไม่มีใจร้ายต่อกัน ประพฤติธรรมในโลกนี้แล้ว
ทั้งสองเป็นผู้มีศีล และวัตร (การปฏิบัติ) เสมอกัน
ย่อมเป็นผู้เสวยกามารมณ์ เพลิดเพลินบันเทิงใจอยู่ในเทวโลก.

(บาลี) จตุกฺก. อํ. ๒๑/๘๑/๕๖.

...

คู่รักหรือสามีภรรยาที่อยู่ด้วยกันมา แล้วตระหนักอย่างลึกซึ้งว่า คนที่เรารักหรือคู่สมรสของเรานั้นเป็น "คู่แท้" ของเราในทุก ๆ ด้านอย่างที่เคยนึกปรารถนามาโดยตลอด และเมื่อพบแล้วก็หวังจะให้เขาหรือเธอยังคงเป็นคู่แท้ตลอดไปจนถึงชาติหน้าหรือชาติไหน ๆ ก็ตาม ความปรารถนานี้จะเป็นจริงได้อย่างไร พระุพุทธเจ้าทรงให้แนวทางไว้ว่า คู่รักหรือสามีภรรยาจะต้องปฏิบัติตามหลักการ "๔ ส" นี้

๑. มีศรัทธาต่อกัน คือ เคารพนับถือในลัทธิศาสนา สิ่งเคารพบูชา มีแนวคิด ความเชื่อถือ ความสนใจในเรื่องต่าง ๆ อย่างเดียวกัน (มีรสนิยมใกล้เคียงกัน เช่น อ่านหนังสือ ดูภาพยนตร์แนวเดียวกัน ชอบธรรมชาิติเหมือนกัน โดยสรุปคือ มีไลฟ์สไตล์ใกล้เคียงกัน) นอกจากนี้ยังต้องมีความหนักแน่นเสมอกัน ปรับตัวเข้าหากันได้ ยอมลงให้กันได้ในเรื่องศาสนา อุดมคติ หรือรสนิยมทางจิตวิญญาณ

๒. มีศีลเสมอกัน คือ ความประพฤติ มีศีลธรรม จรรยามารยาทพอเหมาะสมสอดคล้องไปกันได้ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ มีพื้นฐานการศึกษาอบรมใกล้เคียงกัน หรืออยู่ในระดับเดียวกัน

๓. มีจาคะเสมอกัน คือ มีความเืือื้อเฟื้อเผื่อแผ่ โอบอ้อมอารี มีใจกว้าง เสียสละ และพร้อมที่จะช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่นในระดับที่เสมอกัน มีความเห็นกลมกลืน ไม่ขัดแย้ง

๔. มีปัญญาสมกัน คือ ใช้ปัญญาเป็นเข็มทิศในการครองคู่ ไม่ใช่อารมณ์หรือความถือตนเป็นศูนย์กลางมาเป็นบรรทัดฐานในการใช้ชีวิตคู่ จะตัดสินใจอะไรต้องปรึกษาหารือกันด้วยเหตุผล มีความเข้าอกเข้าใจและถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน

หากต่างฝ่ายต่างเกื้อกูลกันด้วยดีดังกล่าวแล้ว แม้ไม่ได้ตั้งความหวังว่าจะต้องพบกันทุกภพชาิติ แต่ความดีงามที่ทำต่อกันไว้จะเป็นตัวจัดสรรให้พบกันโดยอัตโนมัติ ทั้งนี้เป็นไปตามกฎธรรมชาิติที่ว่า "ดีดูดดี" และ "เลวดูดเลว"

เมื่อภูมิชั้นของคุณธรรมและระดับสติปัญญามีความสอดคล้องกัน ธรรมชาติจะจัดสรรให้การพบกันทุกภพชาติของคู่แท้นั้นดำเนินต่อไป หรืออาจกล่าวได้ว่า ธรรมชาติเขา "จัดให้" นั่นเอง

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : เมื่อกิเลสตัญหาเจอกิเลสตัญหา

 

รวยแล้วได้อะไร รวยแล้วอยากทำอะไร

การใช้กำลังบุญมากเกิน ก็ไม่ค่อยดีนัก เช่น การเบิกบุญเก่า เพื่อช่วยให้เรื่องใดเรื่องหนึ่ง ประสบความสำเร็จ เพราะบุญเก่านั้น มีโอกาสลดลง เช่น การอธิษฐานเบิกบุญจากวัตถุทาน วิหารทาน สังฆทาน

ในประสบการณ์ที่ผมสวดคาถาเงินล้าน และมีการตักบาตรวิระทะโยบ่อยๆ พบว่าการเงินค่อนข้างคล่องตัว หรือมีคนซื้ออาหารหรือขนมให้

คาถาเงินล้าน

#89
*** สวดให้ได้ 9 จบอย่างน้อย ติดต่อกัน 6 เดือน ว่างๆสวดให้มากๆ 100 จบ 200 จบ300 จบยิ่งดี และต้องถวายสังฆทานหรือหยอดเงินสะสมเพื่อนำไปถวายฯทุกๆวันอย่าให้ขาด
*** ไม่รู้ ที่หลวงพ่อบอก คือ เฉพาะคนที่ไม่เคารพพระรัตนไตรเท่านั้นที่ใช้ไม่ได้ผล หรือไม่คุณก็คงทำไม่จริง .... อีกข้อ คือเฉพาะคุณให้ขอขมาพระรัตนไตรต่อหน้าพระพุทธรูปก่อนสวดมนต์ทุกครั้ง
*** ผมสวดมา เกิน 1 ปี การเงินคล่องตัวมาก แต่มีข้อสังเกตว่าต้องใส่บาตหรือทำสังฆทานทุกวันนะครับ
*** วิธีผมนะครับ
*** ตั้งนะโม 3 จบ ***
ว่า "พุทธะ มะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม (วิระทะโย....สวาโหม - 3จบ)"...เป็นการบูชาครู คือ พระคาถาที่หลวงปู่ปานท่านสอนให้สวดเป็นองค์แรก
*** แล้วว่า นาสังสิโม พรหมมา จะมหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ
พรหมมา จะ มหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุ เม
มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุ เม
มิเตพาหุหะติ
พุทธะ มะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม
สัมปะติจฉามิ(หรือสัมปะติตฉามิ)
เพ็ง เพ็ง พา พา หา หา ฤา ฤา (ว่า 9 จบ)
*** ตื่นนอน ให้นั่งสมาธิทันที พอจิตสงบดีสักพัก ก็ว่าคาถาเลย แผ่เมตตาแล้วก็อุทิศส่วนกุศล ว่างๆก็สวด

#94
"สวดโดยใจ ต้องสงบ ไม่หวังผลว่า ต้องได้เดี๋ยวนี้
ต้องมาช่วยเร็วๆ คือ ความศักดิ์สิทธิ์ของคาถานี้มีจริง หากท่านใดยังไม่ได้ผล ให้ทำใจใหม่ค่ะ ให้ใจไม่หวังอะไรมาก ก่อนสวดให้อาราธนา พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พระปัจเจกพุทธเจ้า ท่านครูผึ้ง หลวงพ่อปานวัดบางนมโค ให้ท่านมาโปรด อธิษฐาน ขอความคล่องตัวด้านการเงิน แค่นี้ค่ะ ไม่ใช่ขอให้รวยๆ ไม่นาน จะเห็นผลค่ะ ดิฉันได้พบความศักดิ์ของคาถานี้มาแล้วค่ะ"

#100
ขอยืนยันว่าคาถาเงินล้านให้ผลที่สุดถึงที่สุด พันเปอร์เซ็นต์ ล้านเปอร์เซ็นต์ครับ ให้ภาวนาเป็นพุทธานุสสติไปเรื่อย ๆ สบาย ๆ ใจใส ๆ ห้ามหวังผล ห้ามอยากครับ เพราะเป็นตัวกิเลสที่จะขวางไม่ให้อานุภาพพระคาถาส่งผลครับ ขอให้ภาวนาทุกวัน ควบกับพระคำข้าว พระหางหมาก และถวายสังฆทาน บริจาคทานทุก ๆ เดือน ขอให้ยึดคำที่ว่า "ยิ่งให้ ยิ่งได้" ครับ แล้วจะรู้เอง เห็นเองแน่นอน ยืนยัน ไม่เคยมั่นใจอะไรเท่านี้เลยครับ


ขอบคุณข้อมูลจาก : ประสบการณ์ท่องและอานุภาพคาถาเงินล้านวัดท่าซุง


เวบอื่นๆ ที่ควรเข้าไปอ่าน :

1.คาถาเงินล้าน และ ที่มาของ คาถาเงินล้าน :
http://audio.palungjit.org/forums/%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99.33/

2.ขอพรกับหลวงพ่อเงินไหลมาเทมา (แม่ชีทศพร ชี้ทางรวย) :
http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=1020

 

โครงการบุญช่วยเหลือค่าอาหาร หรืออื่นๆ ที่จำเป็น (อ้างอิงโพสต์ #49) ประจำเดือนกรกฎาคม 2558 ได้ช่วยเหลือแบบเต็มกำลัง นึกย้อนดูแล้วก็ชื่นใจ แม้จะลำบากผมบ้าง ที่จะต้องกลั่นกรองคนที่ส่งอีเมล์มาขอความช่วยเหลือ ต้องโทรเข้าไปคุยตรวจสอบ ตั้งแต่ทำโครงการบุญครั้งที่ 1 จวบจนถึงปัจจุบันคือโครงการบุญครั้งที่ 2 ได้รับรู้เรื่องราวของผู้คน เรื่องปัญหาสังคม สรุปแล้วก็คือช่วยเท่าที่จะช่วยได้ บางคนหรือบางครอบครัวเขาก็มีรายได้ต่อเดือนมากกว่าผมอีก แต่เขามีภาระเยอะ ยังลำบาก ผู้คนต่างๆ ส่งอีเมล์มาขอความช่วยเหลือจำนวนค่อนข้างมาก ผมเองสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง รายได้ก็แค่พอกินพอใช้ เงินแสนผมยังไม่มีเลยครับ ยาราคาแพงๆ ผมยังไม่กล้าซื้อเลย แต่ก็เจียดเงินส่วนหนึ่งมาช่วยเหลือผู้คน ถามว่ากลัวถูกหลอกไหม จากประสบการณ์โครงการบุญครั้งที่ 1 ที่ผ่านมา เคยถูกหลอกก็มี แม้เขาจะเขียนในประโยคเกือบสุดท้ายมาว่า "ขอยืนยันกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่าได้พูดความจริง" แต่จากประสบการณ์ตั้งแต่ทำโครงการบุญครั้งที่ 1 จวบจนถึงปัจจุบัน พบว่าคนที่ลำบากจริงๆ ก็มี คนที่ไม่มีเงินกินข้าวจริงๆ ก็มี คนที่เขาอดข้าวมาหลายมื้อก็มีจริง

ผมเคยผ่านความยากลำบากมากมาก่อน เคยอด เคยหิวมาก่อน เข้าใจดีในความทุกข์เหล่านี้

ตอนนี้ผมยังมีชีวิตอยู่ แม้ร่างกายจะไม่ค่อยแข็งแรง ยามที่ผมตักอาหารใส่ปาก ที่ผ่านมาผมเคยคิดหลายครั้งว่า คนที่ลำบาก ไม่มีเงินกินข้าวนั้นน่าสงสาร เพราะผมเคยผ่านมาแล้ว ผมจึงพยายามช่วยเท่าที่จะช่วยได้

 

วันนี้(8 สิงหาคม 2558) ได้โอนเงินช่วยเหลือท่านหนึ่ง เป็นจำนวนเงิน 500 บาท ซึ่งเป็นทุนของท่านผู้ใจบุญ รายล่าสุดนี้เขาบอกว่าท้องได้ 8 เดือน ตกงาน เหลือเงินอยู่ 400 บาทสุดท้าย เขาเครียดเงินค่าข้าว ค่านมลูก ค่าไฟฟ้า แฟนก็ทิ้ง เขาแจ้งบอกว่า "นอนร้องไห้ทุกวันทุกคืนไม่รู้จะขอความช่วยเหลือจากไหน แต่โชคดีที่ Search เจอโครงการบุญของผม"

ผมอ่านอีเมล์ของเขาแล้ว ก็สงสาร โทรเข้าไปคุยก็รับรู้รายละเอียดเพิ่มขึ้น ก็เลยโอนเงินช่วยเหลือเขาเป็นจำนวน 500 บาท

คนที่ไม่เคยเจอความทุกข์แบบนั้นมาก่อน หรือไม่เคยทุกข์เรื่องไม่มีเงินกินข้าว จะไม่รู้ว่าความทุกข์อย่างนั้นเป็นอย่างไร คนที่มีจิตคิดช่วยเหลือคน เพราะอาจเคยผ่านเรื่องแบบนั้นหรือเคยทุกข์ต่างๆ นาๆ มาก่อน อย่างที่ผมเคยทุกข์หลายอย่างในอดีต

คือโครงการบุญช่วยเหลือค่าอาหาร หรืออื่นๆ ที่จำเป็น (โครงการบุญครั้งที่ 2) ได้ช่วยเหลือคนเป็นจำนวน 12 ท่านแล้ว ซึ่งที่ผมตั้งใจไว้คือจะช่วยอยู่ที่ 16 ท่าน วันใดที่ผมปิดโครงการบุญหรือได้ละสังขารแล้ว ก็ไม่ได้ช่วยคนแบบนี้อีก และโพสต์ช่วยเหลือคนของผม ก็เป็นโพสต์เจ้าเดียวในเมืองไทย ที่อาสาช่วยคนแบบนี้ หาก search ด้วยคำว่า "ไม่มีเงินกินข้าว" จะพบเวบนี้ในหน้าแรกของ Google ในลำดับที่ 4

อ้างอิงโพสต์ : http://metharung.blogspot.com/2015/04/2.html

 

รวมความรู้ขายสินค้าออนไลน์, ขายของออนไลน์ให้รวย

การขายสินค้าออนไลน์ สามารถทำเงินได้จริง

การจะขายสินค้าออไลน์ มีหลักการต่างๆ ดังนี้ :

1.เลือกชนิดสินค้าที่จะขาย สินค้านั้นมีมากมาย สินค้าที่สามารถทำเงินในลำดับต้นๆ เช่น เครื่องนุ่งห่ม เสื้อผ้า ของใช้สตรี เครื่องสำอาง บำรุงผิว รองเท้า สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ที่นอน นาฬิกา อาหารเสริม ยาบำรุงร่างกาย วัตถุมงคล ฯลฯ

2.สร้างเวบที่จะใช้ขายสินค้า อาจใช้เวบสำเร็จรูป เช่น welove...., Lnwsho.. หากมีความสามารถมากกว่านั้นก็ทำเวบของตนเองขึ้นมา

3.ถ้าไม่มีเวบเป็นของตนเอง ก็อาศัย Social Network เช่น Facebook หรืออาศัยเวบใหญ่ๆ ดังๆ

4.พยายามหาบทความมาลงไว้ในเวบ เพื่อเป็นการสร้างฐานข้อมูล และเพื่อการอินเด็กซ์ในฐานข้อมูลของ Search Engine

5.มีบัญชีธนาคารให้ลูกค้าโอนเงินประมาณ 2-5 บัญชีธนาคาร ควรเลือกใช้ธนาคารที่มีผู้คนนิยมใช้กันมาก เช่น ธนาคารกรุงเทพ ไทยพาณิชย์ กรุงไทย เป็นต้น และควรเปิดเป็นบัญชีธนาคารแบบออนไลน์ เพื่อความสะดวกในการเช็คยอดเงิน หรือสมัคร sms เตือนเงินเข้าจากธนาคาร

6.จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ

7.ประชาสัมพันธ์ตามเวบต่างๆ ดังนี้...



อ่านความรู้เพิ่มเติมได้ที่ => รวมความรู้ขายสินค้าออนไลน์, ขายของออนไลน์ให้รวย

 

ความไม่สิ้นสุดแห่งทุกข์

เมื่อยังไม่นิพพาน ก็ยังต้องมาเกิดอีก

สุขติของเทวดาคือภพมนุษย์ สิ่งที่เทวดาหรือนางฟ้าปรารถนาจะไปเกิด คือการได้เกิดเป็นมนุษย์ เพราะการเป็นมนุษย์สามารถบำเพ็ญเพียรเพื่อการหลุดพ้นได้ดีกว่าภพภูมิอื่นๆ เพราะการเป็นมนุษย์นั้นมีกายหยาบ คือสังขาร ทำให้ครบองค์ ภพที่มีแต่กายทิพย์ต้องใช้เวลาบำเพ็ญยาวนานมาก

บางคนเมื่อหมดบุญจากความเป็นมนุษย์ ไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน เช่น สุนัข แมว หรืออื่นๆ บางดวงจิตก็ไปใช้กรรมในนรกยาวนานหลายร้อยปี บางดวงจิตก็ไปเสวยบุญอยู่บนสวรรค์ยาวนาน เมื่อหมดกรรมจากภูมินรก หรือหมดบุญแห่งความเป็นเทพ-เทวดา ก็ยังต้องมาเกิดอีก

ดวงจิตที่ได้มาเกิดเป็นมนุษย์นับว่ามีความโชคดีมาก ภพมนุษย์หรือสัตว์เดรัจฉาน เป็นภพสังขารที่มีจิตครอง คือมีดวงจิตอาศัยอยู่ในร่างกายนั้น

คนเข้าใจธรรมจะรู้ว่า เรามาอาศัยสังขารอยู่ชั่วคราว สังขารไม่ใช่ของเรา วันหนึ่งในอนาคตก็ต้องแยกจากกัน

เมื่อดวงจิตได้มาเกิดแล้ว หากไปเป็นมนุษย์ก็จะเป็นเหมือนมนุษย์ทั่วไป คือมี 2 ขา 2 แขน เมื่อเดินลำตัวจะตั้งฉากกับพื้นดิน มีความรู้สึกอย่างมนุษย์ มีการเคลื่อนไหวและพละกำลังแบบมนุษย์

ส่วนที่มาเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน เช่น เป็นสุนัข ก็จะมี 4 ขา เมื่อเดินลำตัวจะขนานกับพื้นดิน มีความรู้สึกอย่างสุนัข มีการเคลื่อนไหวและพละกำลังแบบสุนัข


เรื่องราวตายแล้วเกิด เป็นเรื่องราวทั่วไป แต่เพราะคนเราส่วนใหญ่ระลึกชาติไม่ได้ หรือไม่มีญาณรู้ ก็เลยไม่รู้ว่าคนหรือสัตว์ที่ไม่รู้จักมาก่อน แต่ชอบมาคุยหรือชอบอยู่ใกล้เรา เขาเป็นใครกันหนอ?

อาจมีบางท่านที่ได้เคยอ่านประวัติหรือรู้ประวัติของแม่ใหญ่ วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี ซึ่งหลวงพ่อจรัญยกย่องแม่ใหญ่ ว่าเป็นนักปฏิบัติธรรมที่เก่งมาก แม่ใหญ่เคยปฏิบัติธรรมเข้าสมาบัติติดต่อกันยาวนานถึง 72 ชั่วโมง ในประวัติของแม่ใหญ่ที่ผมรู้นั้น จะมีสุนัขอยู่ตัวหนึ่งที่ชอบมาคลุกคลีกับแม่ใหญ่ ไม่ยอมไปไหน จะอยู่เฝ้าแม่ใหญ่ตลอด ภายหลังแม่ใหญ่ได้กำหนดจิตดู ถึงได้รู้ว่าหมาตัวดังกล่าวก็คือสามีที่ได้จากไป และไปเกิดเป็นสุนัขตัวดังกล่าว แม่ใหญ่จึงเลี้ยงดูสุนัขตัวดังกล่าวเป็นอย่างดี เหตุที่สามีแม่ใหญ่เกิดเป็นสุนัข เพราะสมัยที่เขามีชีวิตเป็นมนุษย์ชอบขวางการทำบุญของแม่ใหญ่ กรรมจากการขวางทางบุญของคนอื่น เมื่อหมดบุญจากความเป็นมนุษย์ ก็เกิดเป็นสุนัข และชอบอยู่ใกล้แม่ใหญ่

​

วันนี้ผมได้ดูภาพยนต์ฝรั่ง ทางช่อง 7 เรื่อง "ฟลุค เกิดใหม่เป็นหมา" ดูๆ ไปน้ำตาก็ไหลไปหลายที และเข้าใจดีเรื่องการระลึกชาติ ไม่เพียงแต่มนุษย์จะระลึกชาติได้ สัตว์อย่างหมาก็อาจระลึกชาติได้ ดังนั้นคนหรือสัตว์ที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อน และได้มาพบหรือทักทายกัน หรืออยู่ใกล้ไม่ยอมไปสักที เขาหรือสัตว์ตัวนั้นอาจเคยเป็นบุคคลที่เราเคยรักมาก และเขาจากไปเกิดใหม่ อยู่ในครอบครัวอื่น หรืออาจเป็นหมาหรือแมวที่อยู่ใกล้ๆ ตัวคุณ

 

แวะมาดูกระทู้ครับ ผมได้สมัครสมาชิก Premium และได้รับการปรับสถานะเป็น สมาชิก Premium เรียบร้อยแล้ว ท่านผู้สนใจก็แวะเข้าไปอุดหนุนบ้างนะครับ หรือแวะไปเยี่ยมชม ก็เป็นกำลังใจเช่นกันครับ

 

คาถาเมตตามหาลาภ

สุเมรังกะ นะมุมะอุ มะอะอุ มุมะมูนมามา

สัพเพชะนา พะหูชะนา สัพเพทิสา

เมตตาสุขัง จะ มหาลาภัง ปิยัง มะมะ
​

คาถาเมตตามหาลาภ ที่หลวงปู่ผ่าน ปัญญาปทีโป วัดป่าปทีปปุญญาราม อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร เมตตาบอกให้แก่ลูกศิษย์ไปท่องไว้ค้าขาย เกิดลาภโภคทรัพย์ ฯลฯ


เครดิต : http://metharung-background.blogspot.com/2015/08/blog-post.html

 

อายุมากช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ถ้าไม่มีคนคอยเฝ้าดูแลก็ยากอีกเหมือนกัน ข้าพเจ้าเคยไปพบเจอมาแล้ว

 

ไม่ได้คาดหวังหรอกครับ ว่าจะมีอายุอยู่ได้กี่ปี ได้สัก 60 ปี ก็เป็นบุญแล้วครับ

เมียก็ไม่มี ลูกก็ไม่มี แก่ตัวอาจลำบากหน่อย แต่อย่าไปยึดมากกับสังขารและชีวิต

"อดีตคือความฝัน ปัจจุบันคือความจริง อนาคตคือสิ่งที่ไม่แน่นอน"

 

ยาเทวดา ยาอายุวัฒนะ ตำหรับหลวงปู่เรือง ถ้ำพระอรหันต์ เขาสามยอด อ.เมือง จ.ลพบุรี

ให้เอาดอกจัน 1 บาท, พระวาน 1 บาท, กานพูล 1 บาท, สมุลแว้ง 1 บาท, มหาหิงคุ์ 1 บาท, ชะเอมเทศ 1 บาท, ลูกจันทร์ 1 บาท, พริกไทยร่อน 1 บาท, หัสคุณเทศ 1 บาท

ยาทั้ง 9 อย่างนี้ หนักเท่าๆกัน ทำเป็นผงละลายน้ำผึ้ง รับประทานก่อนเข้านอน ขนาดปลายนิ้วก้อย รับประทาน 1 เดือน โรคภัยไข้เจ็บจะหายหมด กลับเป็นหนุ่มเป็นสาว


เครดิต : ประวัติหลวงปู่เรือง อาภัสสโร ปูชนีธรรมสถานเขาสามยอด อ.เมือง จ.ลพบุรี

 

คำขอขมาพระรัตนตรัย, ครูบาอาจารย์, สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และผู้มีพระคุณ

(นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ 3 จบ)

สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต อุกาสะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเตฯ

หากข้าพเจ้า จงใจหรือประมาทพลาดพลั้ง ล่วงเกิน พระพุทธ พระธรรม พระอรหันต์ทุกพระองค์ พระอริยสงฆ์เจ้า ครูบาอาจารย์ ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย รวมถึงผู้มีพระคุณ จะด้วย กาย วาจา ใจ ก็ดี ขอได้โปรดอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าด้วย ข้าพเจ้าขอถอนความพยาบาท ความอาฆาต ข้าพเจ้าขอถอนคำสาปแช่งในทุกชาติทุกภพ ขอให้ข้าพเจ้าพ้นจากคำสาปแช่งของปวงชน ของเจ้ากรรมนายเวร ขอบุญบารมี ในอดีตกาลที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน จงส่งผลให้ข้าพเจ้า จงเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ลาภ ยศ สุข สติ ปัญญา ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ อุปสรรคใดๆ โรคภัยใดๆ ขอให้มลายสิ้นไป ขอให้ข้าพเจ้ามีความสว่างทั้งทางโลก ทางธรรม ตั้งแต่บัดนี้ตราบเข้าสู่พระนิพพานเทอญ


หมายเหตุ : สำหรับท่านที่เจอปัญญาชีวิต คิดไม่ค่อยออก ขายของไม่ค่อยดี การเงินไม่ค่อยคล่อง ก็แนะนำให้กล่าวคำขอขมาพระรัตนตรัย, ครูบาอาจารย์, สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และผู้มีพระคุณ