บทความให้กำลังใจ(รู้เท่าทันภาพตัวตน)

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย supatorn, 8 พฤษภาคม 2017.

  1. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,564
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    BeCool.gif
     
  2. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,564
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    SelfLove.jpg
     
  3. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,564
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    AJLlDp2Hb9kV7Fro5GflMUeYlqDIh5aj6Sge9RyjcQ=s88-mo-c-c0xffffffff-rj-k-no.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2023
  4. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,564
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    Happilyenough.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Maui.jpg
      Maui.jpg
      ขนาดไฟล์:
      117.8 KB
      เปิดดู:
      279
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กรกฎาคม 2018
  5. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,564
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    e2041.jpg
     
  6. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,564
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    570616-LPTHANA_04.jpg
     
  7. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,564
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    ถ้า"ปล่อยวาง"จะไม่มีอารมณ์เศร้าค่ะ "เช่นนั้นเอง"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มิถุนายน 2018
  8. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,564
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    LpBuddhatasNiceRelax.jpg
     
  9. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,564
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    e658.jpg
    คำถาม : โดนแฟนทิ้ง และทุกข์เพราะชีวิตคู่

    1.หนูโดนแฟนทิ้งตลอดเลย ถามว่าชีวิตทำกรรมอะไรมา แก้ด้วยวิธีไหน
    2.ถ้าชีวิตคู่ทำให้เราทุกข์เราควรทำอย่างไร
    ตอบ :

    2 ข้อนี้เป็นคำถามในทำนองเดียวกัน คือเรื่องเกี่ยวกับชีวิตคู่ จะต่างกันก็เพียงแต่ว่า คนหนึ่งกำลังอยากจะมีพันธะ ส่วนอีกคนหนึ่งกำลังทุกข์กับพันธะที่ตัวเองมี

    พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ทำนองว่า “ครอบครัวเป็นเครื่องผูกที่แก้ให้หลุดได้ยากกว่าเครื่องพันธนาการใด ๆ ในโลก” คำกล่าวนี้จริงแท้ทีเดียว โซ่ ตรวน กุญแจมืออะไรก็แล้วแต่ แม้จะดูแข็งแรง แน่นหนา แต่ก็สามารถตัดทำลายได้ง่าย ต่างจากครอบครัว สามี บุตร ภรรยา ที่แม้จะไม่แข็งแรงเท่า แต่ก็พันธนาการแต่ละคนไว้ด้วยกันอย่างเหนียวแน่น ไม่ว่าตัวจะอยู่ใกล้หรือไกลกันแค่ไหน ก็ยังห่วงใย ผูกพัน รัก และคิดถึงในกันและกันเสมอ ต่อให้ทะเลาะเบาะแว้งโมโหโกรธากันขนาดไหน ลึก ๆ แล้วก็ยังตัดกันไม่ขาดอยู่ดี ความเยื่อใยที่มีนี่แหละ ที่พระองค์เรียกว่าพันธนาการ ดังนั้น การจะทำให้ชีวิตครอบครัวมีความสุขจึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

    จึงมีคำกล่าวไว้ว่า เวลาจะเลือกใครมาเป็นคู่ครองต้องดูให้รอบคอบทั้ง 2 ระยะ จะได้ไม่พลาดเสียใจในภายหลัง ดูอย่างข้าวของเครื่องใช้ เช่น โทรศัพท์ รถยนต์ นาฬิกา ถ้วยโถโอชามทั้งหลาย มันก็มีระยะสำคัญ 2 ระยะเหมือนกัน คือระยะ “ขาย” กับระยะ “ใช้” ตอนขาย เขาก็พยายามทำให้รูปร่าง สีสัน หีบห่อ ดูน่าสนใจ ทั้งขัดทั้งถูให้ดูงามตา แต่พอซื้อมาแล้ว มันจะใช้ได้ดี ทนทาน คุ้มค่า สมราคาเหมือนอย่างที่เห็นหรือไม่ ก็ต้องมาดูที่ระยะใช้อีกที คนจะมาแต่งงานเป็นสามีภรรยากันได้ ก็ต้องดู 2 ระยะเหมือนกัน คือ ระยะ “แต่ง” กับระยะ “งาน” ระยะแต่งคือช่วงคบหาดูใจ ซึ่งต่างคนต่างก็แต่งให้ตนเองดูดี ทั้งยิ้มแย้มแจ่มใส พยายามเอาอกเอาใจ ยอมอะไรได้ก็ยอม ระยะนี้จึงเหมือนของที่ใส่ในตู้โชว์ ที่ดูยากมากว่าคุณภาพจะดีหรือไม่ดี

    เมื่อตกลงใจแต่งงานกันแล้วจึงเริ่มเข้าสู่ระยะ “งาน” คือต่างฝ่ายต่างต้องทำงานของตัว สามีก็ต้องทำหน้าที่ของสามีที่ดี ภรรยาก็ทำหน้าที่ของภรรยาที่ดี ตอนนี้ละที่จะเริ่มเผยตัวตนที่แท้จริงให้เห็นว่าดีกันจริงหรือเปล่า จึงได้บอกว่าต้องดูกันดี ๆ เพราะถ้าไม่พอใจในภายหลัง เราจะเอาไปเปลี่ยนหรือคืนเหมือนสินค้าก็ทำไม่ได้

    สามีภรรยาที่ดีตามหลักการ ก็ควรจะมีคุณงามความดี มีศีลมีธรรมเสมอกัน ให้สมกับที่ได้ “สมรส” กันมา สมก็คือ เหมาะกัน เข้ากัน เสมอกัน ส่วนรส หมายถึงรสแห่งธรรมหรือความดีงามในตัว เช่น

    1. มีศรัทธา นำคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาเป็นหลักในการดำเนินชีวิต

    2. มีศีล ความประพฤติดี ไม่ดื่มเหล้า เจ้าชู้ เล่นการพนัน

    3. มีทิฐิเสมอกัน คือ รู้และเข้าใจเรื่องบุญ บาป กฎแห่งกรรม ตามจริง

    ทั้ง 2 ฝ่าย ต้องดีเสมอกันในเรื่องเหล่านี้ แล้วต้องทำหน้าที่ของตนเองให้สมบูรณ์ คือ ฝ่ายสามีก็ต้องยกย่อง ไม่ดูหมิ่น ไม่เจ้าชู้นอกใจ หมั่นซื้อของขวัญให้ในโอกาสต่างๆ ภาระภายในบ้านก็ยกให้ภรรยาเป็นใหญ่ ฝ่ายภรรยาก็ต้องดูแลงานในบ้านให้ดี อย่าให้บกพร่อง คอยเอื้อเฟื้อคนที่แวดล้อมสามี ไม่เจ้าชู้นอกใจ ดูแลเงินค่าใช้จ่ายของครอบครัวให้เหมาะสม ขยันขันแข็ง ไม่ขี้เกียจ เป็นต้น
    :- http://www.dmc.tv/page_print.php?p=บทความให้กำลังใจ/บทความให้กำลังใจ-ตอนที่-4.html
     
  10. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,564
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    em_free.jpg
    ภาพปริศนาธรรม ของ พระภิกษุอีมานูเอล เชอร์แมน

    ชื่อ "พ้นแล้วโว้ย (Free is Now!)"
    ท่านอาจารย์พุทธทาส ตีความหมาย ภาพปริศนาธรรมนี้ว่า
    "พ้นแล้วโว้ย (Free is Now)"

    บัดนี้เมฆ ลอยพ้น ยอดเจดีย์
    ทั้งโรงโบสถ์ มากมี และวิหาร
    เมฆรวมตัว เป็นภาพ พิสดาร
    บอกอาการ "พ้นแล้วโว้ย โปรยยิ้มมา"

    ตะโกนร้อง บอกสหาย สิ้นทั้งผอง
    ว่าไม่ต้อง เสียเที่ยว เที่ยวค้นหา
    อนันตสุข ในโลกนี้ ที่หวังมา
    เหมือนเที่ยวหา หนวดเต่า ตายเปล่าแล

    สุขแท้จริง จิตไม่วิ่ง ไปตามโลก
    อยู่เหนือความ ทุกข์โศก ทุกกระแส
    มือเท้าเหนี่ยว เหนี่ยวขึ้นไป คล้ายตุ๊กแก
    ไม่อยู่แค่ พื้นโบสถ์ โปรดคิดดู

    ลอยเหนือยอด โบสถ์ไป ในเวหา
    ลอยพ้นไป เหนือฟ้า ที่เทพอยู่
    ถึงความว่าง ห่างพ้น จากตัวกู
    ไม่มีอยู่ ไม่มีตาย สมหมายเอยฯ

    :- http://www.buddhadasa.com/shermann/shermann_photo5.html
     
  11. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,564
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    นิทานธรรมะ เรื่อง เสื้อแห่งความสุข
    มีเรื่องเล่าว่า พระราชาองค์หนึ่ง ทรงวิตกกังวลต่อความมั่นคงแห่งราชสมบัติ ความวิตกนี้ได้กลายเป็นเรื่องติดแน่นฝังลึก ลุกลามเกาะกินจนเกิดความเครียด บรรทมไม่หลับ ทุกข์หนักถึงขั้นประชวร วันหนึ่งทรงได้รับคำแนะนำว่า ถ้าจะแก้ความทุกข์นี้ให้ได้ จะต้องเอาเสื้อของคนที่มีความสุขที่สุดมาสวมใส่ จึงรับสั่งให้อำมาตย์ผู้หนึ่งไปแสวงหาเสื้อดังกล่าวนั้น แต่ไม่ว่าจะไปขอยืมจากเชื้อพระวงศ์หรือขุนนางผู้ใหญ่คนไหน ๆ ก็ได้คำตอบเหมือนกันว่า ตัวข้าพเจ้าแม้จะมีเงินทองและยศศักดิ์ถึงเพียงนี้แล้ว แต่ในชีวิตจริงก็หามีความสุขไม่ ในที่สุดก็จำต้องออกไปเสาะหาตามบ้านเรือนของราษฎร แต่คนทั้งหลายก็ตอบเหมือน ๆ กันอีกว่า ชีวิตนี้ยังไม่เคยมีความสุขจริง ๆ สักที อำมาตย์เริ่มท้อใจไม่คิดว่าคนมีความสุขจะหาได้ยากอย่างนี้ คงจะไม่ได้เสื้อที่ต้องการเป็นแน่
    วันหนึ่ง ขณะที่อำมาตย์พาคณะไปสำรวจถึงนอกกำแพงเมือง จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงคนร้องตะโกนมาจากที่ไกลว่า "มีความสุขเหลือเกิน มีความสุขเหลือเกิน"
    จึงสั่งให้ทหารรับใช้วิ่งไปทางเสียงนั้นพร้อมกำชับว่า ให้เอาเสื้อของมันมาให้ได้ ครู่เดียวทหารผู้นั้นก็วิ่งกลับมามือเปล่า แล้วรายงานว่า คนที่ตะโกนว่า มีความสุขเหลือเกิน นั้น ที่แท้เป็นขอทาน อำมาตย์ผู้เป็นหัวหน้าคิดว่าถึงเป็นเสื้อขอทานก็ต้องเอามาให้ได้ แล้วออกวิ่งไปยังที่นั้น แต่พอไปถึงก็ต้องยืนงงทำอะไรไม่ถูก เพราะขอทานผู้นั้นไม่มีแม้แต่เสื้อจะใส่ แต่ที่มีความสุขถึงกับตะโกนออกไปก็เพราะวันนี้มีผู้ใจบุญให้อาหารกินอย่างดีจนอิ่มหนำสำราญเท่านั้นเอง

    สำหรับมนุษย์ปุถุชนอย่างเรานี้ ยศศักดิ์ก็หมายปอง เงินทองก็จำเป็น จึงไม่มีเลยที่ไม่ไขว่คว้า เมื่อวิถีชีวิตเกี่ยวพันหมกมุ่นอยู่กับเรื่องเหล่านี้นานเข้าก็กลายเป็นความเคยชินติดแน่น พอเอ่ยถึงความสุข ความนึกคิดก็แล่นไปที่เงินทองยศศักดิ์ก่อนอย่างอื่น ทำให้ลืมไปว่า ต่อให้มีสิ่งที่ต้องการครบถ้วนสารพัด ชีวิตก็หามีความสุขไม่ ถ้าไม่มีอีกสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง สิ่งนั้นคือคำว่า "พอ"

    ที่มา : http://tammastory.blogspot.com/2015/05/blog-post_60.html
     
  12. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,564
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    Listen.jpg
     
  13. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,564
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    49.โปรแกรมความรัก
    (โปรแกรมความรัก สำหรับใครบางคน หรือทุกคนที่กำลังต้องการ)

    ช่างเทคนิค : ฮัลโหล สวัสดีครับ มีอะไรให้รับใช้ครับ
    ลูกค้า : ดิฉันได้นั่งนึกดูแล้วคิดว่า โปรแกรมความรัก นี่ก็น่าสนใจ ดีนะคะ คุณช่วยกรุณาแนะนำดิฉันหน่อยได้ไหมคะว่าจะลงโปรแกรมนี้ยังไง
    ช่างเทคนิค : ด้วยความยินดีครับ ไม่ทราบว่าพร้อมที่จะลงโปรแกรม หรือยังครับ
    ลูกค้า : อืม... ไม่รู้เหมือนกันคะ บอกตามตรงว่าดิฉันไม่ค่อยรู้ เรื่องคอมพิวเตอร์เท่าไร แต่ดิฉันคิดว่าน่าจะพร้อมคะ ไม่ทราบว่าต้องเริ่มทำยังไงบ้างคะ
    ช่างเทคนิค : อันดับแรกเลยคุณต้องเปิดใจคุณก่อนครับ
    ลูกค้า : ไม่มีปัญหาคะ แต่ว่าตอนนี้ฉันเปิดใช้โปรแกรมอื่นอยู่ด้วย ไม่ทราบว่าจะมีปัญหาในการติดตั้งไหมคะ ถ้าฉันไม่ได้ปิดโปรแกรมพวกนี้
    ช่างเทคนิค : ไม่ทราบว่าโปรแกรมอะไรหรือครับที่กำลังเปิดใช้งานอยู่
    ลูกค้า : เดี๋ยวขอดิฉันดูนิดนึงนะคะ อืม... ก็มีโปรแกรม "ความเจ็บปวดในอดีต" "การไม่เห็น คุณค่าของตัวเอง", "ความริษยา", "ความขุ่นเคือง" และก็ "โปรแกรมความโกรธ" ทั้งหมดที่เปิดก็มีเท่านี้คะ
    ช่างเทคนิค : ไม่มีปัญหาครับ โปรแกรมความรักจะค่อยๆลบความเจ็บปวดในอดีตออกจากระบบปฏิบัติการครับ มันอาจจะคงอยู่ในหน่วยความทรงจำแต่ว่าจะไม่รบกวนการทำงานของโปรแกรมอื่นๆครับไม่ต้องกังวล สำหรับโปรแกรมการไม่เห็นคุณค่าของตัวเองนั้นจะค่อยๆหายไปเอง เพราะส่วนประกอบส่วนหนึ่งของโปรแกรมความรัก คือการเห็นคุณค่าของตนเอง ส่วนนี้จะค่อยๆเข้ามาแทนที่อย่างช้าๆ จนการไม่เห็นคุณค่าตัวเองหมดไป แต่ว่าคุณเองจะต้องปิดโปรแกรมความริษยา ความขุ่นเคืองและ ความโกรธลง เพราะโปรแกรมพวกนี้จะขัดขวางไม่ให้โปรแกรมความรักสามารถติดตั้งได้ รบกวนช่วยปิดโปรแกรมพวกนี้ ก่อนได้ไหมครับ
    ลูกค้า : บอกตามตรงเลยนะคะ ดิฉันไม่รู้จริงๆคะว่าจะปิดโปรแกรมพวกนี้ยังไง
    ช่างเทคนิค : เข้าไปที่ Start Menu นะครับแล้วเรียกโปรแกรมการให้อภัยขึ้นมา ต้องเปิดโปรแกรมนี้เรื่อยๆจนกว่าความริษยา, ความขุ่นเคืองและก็ความโกรธจะถูกลบออกไปจนหมด
    ลูกค้า : ได้คะ.... เสร็จแล้วคะ ตอนนี้โปรแกรมความรักเริ่มที่จะติดตั้งอัตโนมัติแล้วคะ แต่เอ.. นี่เป็นปกติของโปรแกรมใช่ไหมคะที่ติดตั้งด้วยตัวมันเอง
    ช่างเทคนิค : ใช่ครับ แต่อย่าลืมนะครับว่านี่เป็นเพียงโปรแกรมพื้นฐานเท่านั้น คุณจะต้องติดต่อกับหัวใจดวงอื่นๆเพื่อที่จะได้ upgrade โปรแกรมความรักให้มี version ที่สูงขึ้น
    ลูกค้า : อุ้ย.... มีข้อความผิดพลาดขึ้นที่หน้าจอ บอกว่า "โปรแกรมไม่สามารถติดต่อออกไปสู่ภายนอกได้" ดิฉันควรทำยังไงดีคะ
    ช่างเทคนิค : ไม่ต้องตกใจครับ นั่นแสดงว่า ตอนนี้โปรแกรมความรักได้ติดตั้งอยู่ภายในใจคุณเรียบร้อยแล้วครับ แต่ที่โปรแกรมยังไม่สามารถใช้งานได้ ก็เพราะว่าคุณต้องเริ่มรักตัวคุณเองก่อน จากนั้นคุณถึงจะรักคนอื่นได้
    ลูกค้า : แล้วดิฉันควรจะทำยังไงคะ
    ช่างเทคนิค : คุณช่วยเลื่อนการยอมรับตัวเองลงมาหน่อยได้ไหมครับ จากนั้นให้คลิกที่ไฟล์ "การยกโทษให้ตนเอง" "การรู้ถึงคุณค่าของตัวเอง" และ "การยอมรับถึงความจำกัดในตัวคุณ"
    ลูกค้า : ได้คะ... เสร็จแล้วคะ
    ช่างเทคนิค : OK ครับ. จากนั้นก็ Copy ไฟล์พวกนี้เข้ามาในไดเร็กทอรี่ >"ใจฉัน" ระบบจะทำการจัดการไฟล์ที่มีปัญหารวมทั้งแก้ไขโปรแกรมต่างๆที่มีข้อผิดพลาด แต่ว่าคุณจะต้องลบไฟล์ "การพูดถึงตัวเองในแง่ลบ" และ "ไฟล์การตัดสินผู้อื่น" ออกจากทุกๆไดเร็กทอรี่นะครับ และอย่าลืมเข้าไปลบอีกที ใน Recycle Bin นะครับ เพื่อให้มั่นใจว่าไฟล์พวกนี้ถูกลบจนหมดและไม่มีทางกลับเข้ามาทำความยุ่งยากได้อีก
    ลูกค้า : ทราบแล้วคะ เอ๊ะ!! มีไฟล์ใหม่ๆเกิดขึ้นในหัวใจตั้งเยอะคะ " ยิ้ม " กำลังวิ่งเล่นอยู่บนหน้าจอ "สันติสุข" และ "ความยินดี" กำลัง Copy ตัวเองอยู่ทั่วไป ภายในใจฉัน นี่เป็นปกติหรือเปล่า คะ
    ช่างเทคนิค : ครับ บางครั้งสำหรับบางคน อาจต้องใช้เวลาหน่อย แต่ท้ายที่สุด สิ่งนี้จะเกิดขึ้นในเวลาที่เหมาะสม ตอนนี้โปรแกรมความรักได้ติดตั้งและเปิดใช้งานเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ มีอีกอย่างหนึ่งที่อยากจะบอกก่อนที่จะวางสายครับ ความรักเป็นโปรแกรมให้เปล่า อย่าลืมแบ่งปันให้คนอื่นนะครับ ความรักที่คุณให้ไปจะไม่เหมือนกันในแต่ละคน และความรักนี้จะถูกส่งต่อไปยังคนอื่นๆและส่วนหนึ่งก็จะกลับคืนมาสู่ตัวคุณด้วย และเมื่อนั้น ความรักของคุณก็จะมีการพัฒนาขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง
    ลูกค้า : ดิฉันให้สัญญาคะว่าจะแบ่งปันโปรแกรมความรักให้กับคนอื่นๆ รบกวนขอทราบชื่อของคุณหน่อยได้ไหมคะ
    ช่างเทคนิค : เรียกผมว่า"ผู้ชันสูตรจิตใจ" หรือ "เราเป็น"(I AM) ก็ได้ครับ คนส่วนใหญ่คิดว่าพวกเขาจะต้องไปตรวจสุขภาพจิตใจปีละครั้ง เพื่อให้หัวใจเขามีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง แต่ผู้ที่สร้างใจ(ผมเอง)ขอแนะนำว่าไม่จำเป็น เพียงแต่คุณคอยหมั่นดูแลความรักให้คงอยู่ในแต่ละวันก็เพียงพอแล้วครับ
    แปลโดย พายุแห่งความเปรมปรีดิ์
    :- http://irrigation.rid.go.th/rid15/ppn/General/Pakinaka/49.htm
     
  14. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,564
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    เมื่อ “ละ” ได้ ใจก็สัมผัสสุข…เข็ม – ลภัสรดา ช่วยเกื้อ
    “ถ้าชีวิตคนหนึ่งคนเปรียบเหมือนหนังสือหนึ่งเล่ม
    ตอนจบของหนังสือเล่มนั้นจะสุขหรือเศร้า เราคือผู้ประพันธ์”
    น่ี่คือหนึ่งในข้อความที่คุณ เข็ม – ลภัสรดา ช่วยเกื้อ โพสต์ลงเฟซบุ๊ก
    ซึ่งเราเห็นว่าสะท้อนถึงชีวิตของเธอที่วันนี้เลือกประพันธ์ให้มีความสุข

    ที่ผ่านมาเราอาจคุ้นตากับบทบาทการเป็นนักแสดงที่มักได้บทร้ายชนิดเชือดเฉือน หรือการเป็นนางแบบสุดเปรี้ยวและมั่นใจ หลายคนจึงประหลาดใจเมื่อได้เห็นภาพชีวิตที่เรียบง่ายและข้อความแฝงแง่คิดธรรมะในเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมของเธอ

    “จริง ๆ เข็มหันมาสนใจธรรมะและเปลี่ยนมาใช้ชีวิตเรียบง่ายแบบนี้มาหลายปีแล้ว แต่คนไม่ค่อยได้เห็นมุมนี้” เธอเริ่มต้นเล่าก่อนลงลึกถึงเรื่องราวการค้นหาชีวิต

    ชีวิตในวันวาน
    ตอนเด็ก ๆ เข็มค่อนข้างเรียบร้อย ไม่ค่อยกล้าแสดงออก แต่เป็นนักกีฬา เล่นกีฬาเกือบทุกอย่าง เวลาได้เล่นกีฬากับเพื่อน ๆ ก็สนุกสนานเฮฮาเหมือนกับเด็กวัยเดียวกัน แต่ถ้าอยู่ที่บ้าน อยู่ในกลุ่มญาติ เข็มมักเงียบและเก็บตัว คุณแม่จึงพยายามส่งเสริมให้ไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ลองประกวดเวทีนั้นเวทีนี้ เราก็พยายามไปให้ตลอด

    พอเป็นวัยรุ่น น้าจึงชวนให้ลองไปประกวดนางแบบ ในใจตอนนั้นก็ไม่ได้อยากไปนัก แต่ก็ยอมตามใจน้าและตกลงไปประกวด ครั้งนั้นเข็มตกรอบ แต่ พี่อุ๊บ – วิริยะ พาไปประกวดมิสมอเตอร์โชว์และได้รางวัลชนะเลิศ พี่หน่อง – อรุโณชา ซึ่งเป็นหนึ่งในกรรมการส่งข่าวให้ อาจิ๋ม– มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช ว่าดูท่าทางเข็มน่าจะอยู่กับค่ายได้ อาจิ๋มจึงเรียกเข็มเข้าไปคุยและทดสอบการแสดง ตอนทดสอบเราเกร็งมาก แต่สุดท้ายก็ผ่าน อีกไม่กี่วันต่อมาอาจิ๋มก็พาไปตัดผม ซื้อเสื้อผ้า และดูแลอย่างดี อาจิ๋มเป็นผู้ใหญ่ที่เข็มเคารพรักมากที่สุดท่านหนึ่ง ท่านเข้าใจและให้กำลังใจเข็มมาตลอดจนถึงทุกวันนี้

    เข็มเข้าวงการตั้งแต่อายุ 16 ตอนแรกก็ยังคงเป็นเด็กเงียบ ๆ เวลาไปทำงานก็นั่งอยู่คนเดียว ไม่ค่อยกล้าพูด เหมือนเราเข้าสังคมไม่เป็น ไม่รู้จะคุยอะไรดี และเป็นอย่างนี้หลายปี คนรอบข้างมักบอกว่า เราหน้าดุ ไม่ค่อยคุยกับใคร ซึ่งเข็มก็เป็นตัวเองแบบนี้มาตลอด แม้ไม่ใช่คนที่พูดคุยเยอะ แต่ตั้งใจทำงาน

    พอเริ่มอยู่ในวงการนานหน่อย เราก็เริ่มดื้อ และขึ้นชื่อว่าเป็นเด็กดื้อในบ้านของอาจิ๋ม ยอมรับว่าตอนนั้นเราแสบจริง ๆ อาจเป็นเพราะการเป็นดารานักแสดงเรามักถูกสปอยล์ได้ง่าย เช่น บทต้องมาถึงมือ เสื้อผ้าไม่สวยไม่ใส่ ทำให้หลงระเริงไปกับสิ่งเหล่านี้ ใครทำอะไรไม่ถูกใจก็อาละวาดและสร้างวีรกรรมไม่ดีไว้ค่อนข้างเยอะ ไม่เว้นแม้แต่กับนักข่าว

    หลายครั้งที่เข็มเห็นปาปารัซซี่แอบถ่ายรูปในเวลาส่วนตัว เข็มจะเดินตามเข้าไปถามเอาเรื่องเขาเลยว่า “พี่ถ่ายอะไร จะลบหรือไม่ลบ” เวลานั้นเข็มไม่ได้คิดว่าเมื่อเรามีอาชีพนี้ความเป็นส่วนตัวบางอย่างต้องถูกตีแผ่ออกไป เวลาที่ไม่ชอบอะไร เราจะซัดเลย เป็นคนตรงมาก ไม่ยอมให้ใครทำในสิ่งที่เราคิดว่าไม่ถูกต้อง จึงมีข่าวไม่ค่อยดีเป็นส่วนใหญ่ คนที่ไม่รู้จักก็มองว่าเราเป็นคนแรง ๆ ก็ต้องยอมรับว่าตอนนั้นก็แรงจริง ๆ และอารมณ์ยังร้อนมากด้วย

    โชคดีมากที่ขนาดทำนิสัยไม่ดีแบบนี้ แต่ผู้ใหญ่ก็ยังให้งานอยู่เรื่อย ๆ พี่นักข่าวก็ไม่ได้แบนเรา ส่วนหนึ่งอาจเพราะทำงานด้วยกันมานาน จนเริ่มรู้ว่าเข็มเป็นคนแบบไหน เข็มจึงมีงานในวงการเรื่อยมาทั้งในบทบาทของนักแสดงและนางแบบซึ่งเป็นงานที่รักทั้งคู่

    จุดเปลี่ยนจากการเห็นทุกข์ของคนอื่น
    ตั้งแต่เข้าวงการเข็มรับงานไม่เคยพักมาเป็นเวลานานจนวันหนึ่งรู้สึกเบื่อ หมดความสนุก เหมือนกับคนที่ทำงานเดิมซ้ำ ๆ จนรู้สึกจำเจ จึงหยุดรับงานทุกอย่างในวันที่กำลังพีคที่สุด แล้วก็ไปเที่ยวเล่นเป็นเวลา 2 ปีโดยไม่สนใจงานใด ๆ ทั้งสิ้น

    สองปีที่หายไปนั้น เข็มเที่ยวเล่นจริง ๆ ในหนึ่งสัปดาห์ต้องมีเที่ยวสักห้าวัน ทั้งไปต่างจังหวัด ต่างประเทศ และไปสังสรรค์กับเพื่อน กระหน่ำช็อปปิ้ง ซื้อของแบรนด์เนมเป็นว่าเล่น เชื่อไหมคะว่าสองปีนั้นเงินเก็บหายไปเป็นหลักล้านและยังเสียรายได้ไปอีกเยอะมากเช่นกัน

    เข็มสนุกกับการใช้ชีวิตอย่างนั้น จนมีช่วงหนึ่งโทร.ไปหาเพื่อนคนไหน เพื่อนก็บอกว่า ไม่ว่าง ทำงานอยู่ หรือไม่ก็พรุ่งนี้มีงาน ทุกคนพูดแบบนี้จนเรารู้สึกว่า ทุกคนทำงาน แล้วเราทำอะไรอยู่

    จังหวะนั้นมีพี่คนหนึ่งชวนไปวัด เข็มว่างอยู่จึงไปกับเขา พอไปถึงที่วัดก็ได้เข้าไปนั่งฟังพระอาจารย์ตอบปัญหาญาติโยม คนหนึ่งผัวมีเมียน้อย อีกคนก็บ้านจะโดนยึด อีกคนป่วย อีกคนมีปัญหาเรื่องค้าขาย ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นล้วนมีแต่ความทุกข์ พอฟังแล้วก็คิดได้ว่า ชีวิตเราดีมากเลยนะ แล้วที่ผ่านมาเราทำอะไรอยู่

    เมื่อพระอาจารย์ชวนให้เข็มหาเวลามาปฏิบัติที่วัด เข็มก็ไม่ลังเล รีบกลับไปเก็บของมาปฏิบัติธรรมที่วัดเป็นครั้งแรกในชีวิต เพราะก่อนหน้านี้เข็มเคยแต่ใส่บาตรตอนเช้าและเข้าวัดทำบุญไหว้พระ แต่ไม่เคยปฏิบัติเสียที

    ครั้งนั้นเข็มมาอยู่ที่วัด 3 คืน ปักกลดนอนเสื่ออยู่ที่ลานจอดรถของวัด สวดมนต์ทั้งวันทั้งคืน เพราะต้องสวดอิติปิโสฯให้ครบ 108 จบ กว่าจะครบใช้เวลาเกือบสองวัน แต่ระหว่างที่ปากสวดท่องนั้น ใจกลับไม่ได้อยู่กับบทสวดเลย สักแต่ว่าท่องให้จบ เพราะทั้งเหนื่อยและขี้เกียจมาก

    กลับจากวัดครั้งนั้น เข็มเริ่มสนใจพุทธศาสนามากขึ้น แต่เป็นความสนใจที่ไปเน้นเรื่องการประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ ไม่ว่ามีงานไกลแค่ไหนก็ไป ช่วงนั้นเน้นเรื่องนี้หนักมาก จนอยู่ดี ๆ วันหนึ่งไม่รู้เพราะอะไร เข็มนึกอยากลองไปอยู่วัดเงียบ ๆ คนเดียว จึงไปที่เชียงใหม่ ไปปฏิบัติรักษาศีล 8 คนเดียวที่วัดป่าดาราภิรมย์

    เวลานั้นเข็มสัมผัสได้ถึงความสงบ จึงเข้าไปกราบพระอาจารย์ บอกท่านว่าอยากฟังพระอาจารย์สอนเรื่องการปฏิบัติ แต่ท่านแนะนำว่า “โยมลองปฏิบัติเองดู โยมทำได้ และทำได้ดีด้วย”

    เข็มรักษาศีล 8 ปิดวาจาอยู่ที่วัดสามวันสองคืน ได้อยู่กับตัวเองอย่างแท้จริง ได้ทบทวนว่าที่ผ่านมาตัวเองทำอะไรลงไปบ้าง ได้มองตัวเองโดยไม่ไปยุ่งกับคนอื่น ยิ่งได้ปิดวาจาก็เท่ากับไม่ไปต่อกรรมกับใคร หากใครพูดไม่ดีเราก็ไม่ตอบกลับ ทุกอย่างให้จบที่เรา เมื่อถอดรองเท้าเดินก็ให้รู้ว่าเท้าสัมผัสอะไรอยู่ แม้ต้องเหยียบย่ำลงไปในน้ำสกปรกหรือโคลน ก็ให้รู้ว่าแค่เป็นน้ำ ไม่นำมาปรุงต่อ

    สามวันสองคืนที่อยู่ที่นี่ เข็มได้สัมผัสกับความสงบที่แท้จริง และรู้แน่ว่านี่คือทางของเรา

    capture-20180704-150945.png
     
  15. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,564
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    (cont.)
    ชีวิตที่เบาลง
    หลังจากกลับมาจากวัดครั้งนั้นรู้สึกได้เลยว่าตัวเองเปลี่ยนไป พูดน้อยลง มีสติมากขึ้น เวลาอารมณ์โกรธเกิดขึ้น สติจะมาเร็วมาก ทำให้เรารู้ตัวและดับอารมณ์นั้นได้อย่างรวดเร็ว ทุกอย่างในชีวิตก็เบาลง

    เข็มเริ่มศึกษาพระพุทธศาสนาอย่างจริงจัง ส่วนมากจากการอ่านหนังสือ ฟังธรรมะจากยูทูบ ได้รู้แก่นแท้ของพระพุทธศาสนา และนำหลักธรรมคำสอนมาปฏิบัติในชีวิต ได้เข้าใจว่าทุกอย่างไม่มีตัวตน ทำให้เข็มเริ่ม “ละ” และสละหลายอย่างในชีวิตไปทีละน้อย

    จากที่เคยใช้ของแบรนด์เนมหัวจรดเท้าก็เริ่มเปลี่ยนมาใช้เสื้อผ้าธรรมดา เพราะรู้แล้วว่าที่ผ่านมาเราไปยึดติดกับมัน เราไปปรุงว่ามันสวย มันแพง แต่พอเราไม่ยึดติด และรู้ว่าเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เรามีไว้เพื่อใช้ทำอะไร เราใช้ของธรรมดาก็ได้ แต่ละครั้งที่จะซื้อของ เข็มชั่งใจเสมอว่าจำเป็นหรือแค่ต้องการ เพราะทุกสิ่งในชีวิตที่มีควรมาจากความจำเป็นเท่านั้น การใช้ชีวิตและการแต่งตัวของเข็มจึงเปลี่ยนไป เน้นความเรียบง่าย ไม่เหมือนเมื่อก่อนเลยแม้แต่น้อย

    แต่การเปลี่ยนแปลงที่ว่านี้ทำให้เข็มต้องเหนื่อยมากในช่วงแรก เพราะเมื่อยังต้องทำงานในวงการเหมือนเดิม การแยกให้ชัดระหว่างชีวิตในจอกับนอกจอไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะมีความคาดหวังจากสังคมอยู่มาก พอเป็นชีวิตจริงที่เราเริ่มสละทุกอย่าง อยู่กับความเรียบง่ายธรรมดา แต่งตัวธรรมดา ๆ ในแบบที่เราพอใจออกไปนอกบ้าน ก็มักเจอกับสายตาที่คอยมองสำรวจวัตถุบนตัวอยู่เสมอ ซึ่งทำให้เข็มอึดอัดมากเหมือนกัน

    ที่ผ่านมาเข็มศึกษาและปฏิบัติตามหลักคำสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้าเสมอ สองปีมานี้เข็มเป็นตัวของตัวเองเต็มที่ มีความสุขที่เป็นแบบนี้ ใครจะมองก็มองไป ใครจะปรุงก็ปรุงไป เราไม่รับ เราไม่ทุกข์ เพราะตอนแรกคนมักมองว่าเข็มสร้างภาพหรือเปล่า หรือมีบางคนบอกว่า เข้าวัดขนาดนี้ ทำไมยังดื่มเหล้าอยู่ล่ะ เข็มก็รู้สึกว่า บางทีก็เป็นเพียงการสังสรรค์ บางคนละได้ถือว่าดี แม้เรายังมีดื่มบ้างแต่รู้ตัวว่าดื่มน้อยลงไปมาก เข็มคิดว่ามันก็จะค่อย ๆ ลดลงไปเอง

    เข็มเข้าใจนะที่คนมองว่าเราสร้างภาพหรือแกล้งเป็นคนดี เพราะเราเคยไม่ดีมากมาก่อน แล้วมาได้ขนาดนี้คนคงจะงง เราจึงต้องใช้ความเพียรอย่างมาก จนวันหนึ่งคนก็รู้ว่าเราเป็นแบบนี้จริง ๆ เข็มดีใจที่คนได้เห็นอีกมุมหนึ่งของเราที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้กันนัก

    เข็มคุยกับแม่บ่อย ๆ ว่า “แม่ หนูอารมณ์เบาลงไหม หนูดีใจมากเลยนะที่มาได้ขนาดนี้” แม่ก็ดีใจด้วย และสัมผัสได้ว่าเราเปลี่ยนไป

    ก่อนหน้านี้เข็มไม่ค่อยได้อยู่กับพ่อแม่อย่างเต็มที่ แต่7 ปีที่ผ่านมาเข็มได้กลับมาอยู่กับท่าน เป็นการอยู่ด้วยกันและดูแลความรู้สึกของท่านมากกว่าเดิม เมื่อก่อนเราให้ท่านแค่เงิน แต่ความรู้สึกตกหล่นไป พออยู่ใกล้พระพุทธศาสนาเราจะรู้เองว่าหน้าที่ที่ลูกควรทำคืออะไร แทนที่จะเอาเวลาออกไปข้างนอก ไปอยู่กับเพื่อน เราก็อยู่บ้านดีกว่า หาอะไรทำที่บ้าน เอาความสุขมาไว้ที่บ้าน ไม่ต้องออกไปไหน พ่อแม่ก็มีความสุข จนหลัง ๆ แม่แอบพูดว่า “ลูก ลูกปล่อยแม่บ้างก็ได้นะ” (หัวเราะ)

    วางแผนไปใช้ชีวิตเรียบง่ายที่เชียงใหม่
    ความคิดที่จะย้ายไปใช้ชีวิตเรียบง่ายอยู่ที่เชียงใหม่เริ่มมาจากที่ได้ใกล้ชิดกับพระพุทธศาสนา ทำให้รู้สึกว่าอยาก “ละ” เพราะทุกอย่างไม่มีตัวตน เราใช้ชีวิตมาเยอะ ผ่านการแข่งขันในชีวิตมาแล้ว แต่ท้ายที่สุดชีวิตก็ไม่มีอะไรเป็นของเรา จึงอยากละชีวิตเดิม และเลือกไปใช้ชีวิตเรียบง่าย มีอาชีพที่พอเลี้ยงปากเลี้ยงท้องดูแลตัวเองได้ที่นั่น

    เข็มมองหาที่ไว้สักไร่สองไร่ ตั้งใจเปิดเป็นโฮสเทลเล็ก ๆ 3 – 4 ห้อง ให้เข็มดูแลได้เอง ไม่เป็นภาระตัวเอง แล้วก็จะปลูกผักสวนครัว เอาไว้กินและพอเหลือขายได้บ้าง และตั้งใจว่าจะเรียนทำขนมอย่างจริงจังเพื่อเปิดบ้านให้เด็ก ๆ มาเรียนวันเสาร์อาทิตย์ และอยากมีร้านเล็ก ๆ ที่รวบรวมของกินของฝากทำมือ

    ตอนแรกตั้งใจว่าจะไปในปีนี้ แต่มีถ่ายละคร ก็ทำงานปัจจุบันตรงหน้าให้ดีก่อน วางแผนไว้ว่าเร็วที่สุดคงเป็นปีหน้า เพราะตอนนี้ก็อายุ 36 แล้ว อยากย้ายไปก่อนอายุ 40 ถ้าไปหลังจากนี้อาจไม่มีพลังมากพอที่จะทำสิ่งต่าง ๆ ตามที่วางแผนไว้ แต่ทั้งนี้งานในวงการก็ยังทำอยู่ ไม่ทิ้งไปไหน เพราะเป็นอาชีพที่เข็มรักและสร้างให้เรามีวันนี้ เข็มมีทุกอย่างเพราะคุณผู้ชม ถ้าผู้ชมอยากดูเราเล่นละครอยู่ก็จะเล่นละครต่อไป
     
  16. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,564
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    capture-20180704-150907.png
    “ละ” ได้ ใจก็เป็นสุข
    เมื่อศึกษาธรรมมาเรื่อย ๆ เข็มจึงเข้าใจและมองทุกอย่างเป็นเรื่องธรรมชาติ ถ้าเราไม่รับสิ่งที่มากระทบ สิ่งเหล่านั้นก็ทำอะไรเราไม่ได้ การที่เราเกิดมานั้น แม้ร่างกายก็ยังไม่ใช่ของเรา แล้วจะไปยึดติดกับคนและสิ่งต่าง ๆ ทำไม เราควรอยู่กับตัวเองให้เยอะ ดีกว่าไปมองคนอื่น ถ้ามองตัวเองเยอะ ๆ ความสุขจะเกิดขึ้นที่ตัวเราเอง

    ทุกวันนี้เข็มก็ยังเป็นคนธรรมดาที่ยังมีความรู้สึกโลภ โกรธ หลง แต่มีสติเร็วขึ้น ทำให้ดับความรู้สึกพวกนี้ได้เร็ว และอะไรที่ไม่ใช่เรื่องของเรา เราก็ปล่อยวาง ไม่เก็บมาคิดไม่เก็บมาทุกข์ พอละและวาง เราก็มีความสุขขึ้นมาทันที เรียกว่าธรรมะและศีลธรรมเข้ามาอยู่ในการดำเนินชีวิตทุกอย่าง ทำให้เข็มสัมผัสได้ถึงความสุขที่อิ่มใจ ไม่เหมือนสุขที่เคยฟุ้งหรือปรุงขึ้นมาเอง

    เข็มขอบคุณตัวตนในอดีตเสมอ เราต้องขอบคุณเขานะ เพราะถ้าไม่มีเขา เราคงไม่ได้มาอยู่ตรงนี้ เราก็ยังใช้ชีวิตเสเพลไปเรื่อย ๆ ถ้าเขาคนนั้นไม่ได้ใช้ชีวิตสุดโต่งในทุกเรื่องให้เราได้เห็น เข็มคิดว่าตัวเองได้มาเจอธรรมะเร็วนะ ได้เจอตั้งแต่อายุ 29 ในขณะที่ชีวิตอยู่ท่ามกลางสีสันมากมาย และได้เจอโดยเราไม่ได้มีทุกข์หนัก หรือสูญเสียคนที่รักไปก่อน แต่เราเห็นความทุกข์ของคนอื่นสะท้อนมามองตัวเอง ทำให้ได้รู้ว่าตัวเองโชคดีแค่ไหน ทุกวันนี้จึงมีแต่คำว่าขอบคุณกับตัวตนที่เราเคยเป็น และขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่เข้ามาในชีวิต

    ความสุขในชีวิตวันนี้คือ การเพียรใช้หลักศีลธรรมในการประคองชีวิต เมื่อถึงเวลาทำงานก็ออกไปทำงานตรงหน้าอย่างเต็มที่และทำให้ดีที่สุด พอกลับมาบ้านก็เป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตเรียบง่ายที่สุด ตื่นเช้ามาก็ได้ทำอาหารไปใส่บาตร มีเวลาก็นั่งนิ่ง ๆ ดูใจไป ฟังธรรมะ อ่านหนังสือ มีข้อคิดที่ตกผลึกได้ก็โพสต์ลงเฟซบุ๊ก ช่วงนี้กำลังพยายามอ่านพระไตรปิฎก เพราะอยากศึกษาแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา อ่านเพื่อให้ได้รู้ สามเดือนมานี้เพิ่งอ่านไปได้สามร้อยกว่าหน้า เพราะต้องค่อย ๆ ทำความเข้าใจ

    เข็มเชื่อว่าชีวิตของเรามีความสุขได้ง่าย ๆ แค่ลอง “ละ” สิ่งต่าง ๆ ออกไป ละที่จะไปมีความสุขข้างนอก ละที่จะไปรับความสขุ จากคนอื่น ละแม้กระทั่งทรัพย์สินที่มีติดตัวอยู่มากมาย

    เพียงลอง “ละ” บางอย่างในชีวิตดูบ้าง แล้วคุณจะสัมผัสได้ถึงความสุขเช่นกัน

    เมื่อชีวิตมันธรรมดา
    ก็จงใช้ให้เป็นธรรมดา
    การดิ้นรนแสวงหาไม่ใช่คำตอบ
    ที่ถูกต้องนักบนหลักศีลธรรม
    — ลภัสรดา ช่วยเกื้อ

    ที่มา : นิตยสาร Secret ฉบับที่ 233
    เรื่อง : เชิญพร คงมา
    ภาพ : สรยุทธ พุ่มภักดี
    Secret Magazine (Thailand)
     
  17. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,564
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    Silent.jpg
     
  18. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,564
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    สดุดีพยาบาล
    ยังจำตลอดกาล

    Chalermkrung
    Published on Oct 2, 2013
     
  19. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +3,207

    มิตรภาพเป็นสิ่งที่สวยงามที่สุดไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบไหน

    ความไม่ประมาทเป็นหนทางการดำเนินชีวิตที่ดีที่สุด

    images (9).jpeg
     
  20. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,564
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    allMatter.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...