กระแส"พญานาค"กับข้อเท็จจริงบางอย่าง(มีคลิป) คนที่ไม่เชื่อควรดูด้วยดุลพินิจ

ต้องขออภัยท่านอจ.นพ
...ผมเข้าไปอ่านใหม่
ยอมรับว่าตอนนั่นอ่านแล้ว"สับสน"
*ผมเข้าใจผิดเองครับ*

ข้อความตามที่ท่านส่งมา มีดังนี้...
"....เมื่อวานปล่อยปลาบึก ๔ ตัว
ที่วัดป่าธรรมอุทยาน
ดันชิงตายไปก่อนตัวหนึ่งเหลือ ๓
ตัวยาว๒๐ เซนต์ได้
ถ้ารอดคงได้เห็นปลาบึกตัวใหญ่แน่ที่วัด
และงานกฐินเยอะ ไม่ต้องห่วง
เด่วมีซองมาถึงที่บ้านนั่นหละ
มีโอกาสได้ทำบุญก็จัดโล้ด
ถือว่าช่วยค่าน้ำค่าไฟ จิปาถะวัดไป
สบายใจดี ^_^

ยาดมมีโอกาสจะส่งไปให้ลองดมดูเด้อ
ว่างๆก่อนที่อยู่เดิมมีอยู่ ^_^

555 อ่านแล้วเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเรื่องเดียวกัน
ตอนนี้ "เข้าใจแล้วครับ"

แต่สิ่งที่ได้ไปหลังอ่านแล้วคือ...
413
43
20

**งวดหน้าขอล้างตา...รัวๆ**

 

อนุโมทนา สาธุ

วันไหนผ่านไปปากช่อง
จะแวะไปทำบุญสร้างพระมหาเจดีย์
และกราบนมัสการหลวงพ่อครับ
เด๋วจะเอารูปมาฝากเพิ่มเติม
...น่าจะก่อน หรือหลังๆปีใหม่

แต่วันนี้ผมขอเลขที่บ/ช
...ทำบุญก่อนครับ
น้องพี่ป้าน้าอา...เชิญร่วมบุญด้วยกันครับ

อนุโมทนา สาธุ

 

ทำไมรูปที่พี่นพลง ทำให้ผมปิ๊งแว๊บในทางปฏิบัตินะ รูปน้ำนิ่งประกายแสง เปลวไฟที่เป็นน้ำ หลุมดำ ดูแค่นี้ผมคงต้องไปฝึกกรรมฐานเพิ่มละ ฟิตๆๆๆ ฮึกเหิมๆๆๆ

 

ซองกฐินหมายถึง
มีคนเดินมาแจกให้ถึงบ้านครับ
เพราะส่วนตัวก็ได้รับเหมือนกัน
แม้ไม่มีใครอยู่ เค้าก็เสียบไว้ครับ
อย่างว่าเป็นช่วงธรรมเนียมประเพณีพอดี


ไม่อยากขัดศรัทธา แว๊นมา
เพื่องานนี้เฉพาะ ^_^

ปล เหมือนจะเปลี่ยนท่านที่ดูแลบัญชีแล้วนะครับ ตอนแรกมีธนาคารมากกว่านี้
คนดูแลก็บัญชีอื่นครับ

 

ถามๆ เฮียนภหน่อยนะฮาฟฟฟ ><?
..
ถ้าหากว่าเราฝันว่าเราวิ่งหนีผี เเล้วขณะวิ่งเรากำลังภาวนา นะโมพุทธายะ อยู่ คือเราภาวนาก่อนหลับ พอหลับไปจิตมันยังภาวนาต่อในฝัน เเบบนี้จะถือว่าเป็นการทำร้ายวิญญาณที่เค้าวิ่งตามเรามาหรือไม่คะ แต่เค้ายังวิ่งตามเราอยู่เเบบนี้เเสดงว่าเค้าไม่ได้บาดเจ็บอะไร เราก็ไม่บาปใช่ไม๊คะ
..
..

..
รูปที่มีออร่าฟุ้งๆ เเต่ละรูปมันเเตกต่างกันยังไงอ่ะคะ
เเล้วในมือเค้าถืออะไรเอาไว้หรือคะ ^__^?
คล้ายๆ จักร หรือดวงแก้วอัลไลสักอย่าง
..
..
หนูเคยภาวนาเเล้วมีสีทองฟุ้งๆ
ลักษณะคล้ายๆ เเบบนี้อ่ะค่ะเฮียนพ
..

..
..
แค่อยากรู้ แค่ถามดู..ยู้ฮูววว 5555
กราบบบบบบบบบบ ^_^

 

ถ้าวิ่งหนีผีแสดงว่าเรากลัวตาย
บอกได้ว่ายังยึดร่างกายอยู่
ยิ่งไม่อุทิศส่วนกุศลก่อนแล้ววิ่ง
แสดงว่าไม่มีเมตตาและกลัวตาย
สรุปคือ ตกเมตตาและการยึดกาย
พวกนี้เรื่องธรรมดา


รูปที่มีภาพคนทั้งหมดคือเคล็ดวิชา
ที่เรียนมาจากทางภาคส่วนภพภูมิ
มันเหมือนคัมภีร์ที่ย่อเคล็ดวิชา
เอามาลงเป็นภาพนั่นหละ
คือถ้าฝึกเองชาตินี้อาจไม่สำเร็จ
แต่ถ้าเข้าใจเคล็ด ก็จะสำเร็จได้ไม่นาน

แบบหยาบๆพอเล่าได้คือ
เริ่มจาก ภาพบนขวา บนมือคือพลังงาน
สีแทนกสิณกองต่างๆ
สีขาวคือตำแหน่งในกายที่ต้องเปิด
จะทำให้ต่อไปยังภาพกลางขวาสุดได้
ซึ่งสามารถดึงเอาพลังงานภายนอกมาร่วมได้
ส่วนนี้มีฐานมาจากภาพขวาล่างสุด
ไฟเป็นน้ำ บอกว่าสามารถเอาน้ำมารวมกับไฟได้ และน้ำก็เป็นธาตุไฟได้
ล่างขวาสุดคือคล้ายปฎิภาคนิมิตน้ำ
ที่จะต้องปั่นให้ได้ก่อน. ฯลฯ

ฝั่งซ้ายต่อจากขวา ถ้าอะไรผ่าน
ก็สามารถสร้างให้เกิดเป็นอะไรที่มีในรูปขึ้นมาได้ตามลำดับของมันเอง ซึ่งบางอย่าง
ใช้ตัดสายใยวิญญาณได้
บุคคลที่สร้าได้จะรู้เองว่าใช้ทำอะไรได้บ้าง
พวกนี้สามารถทำให้คนจับต้องได้นะ
ไม่ใช่ในฝันหรือมโนนะบอกไว้ก่อน
แต่ตาปกติจะมองไม่เห็น แต่ผีเห็น
และคนสัมผัสได้ ^_^

ที่เหลือเช่นล่างกลางคือการประพฤติตน
คือสันโดษ สงบ แต่พร้อมเสมอ อะไรอย่างนี้
กลางคือ มีผู้รับรู้ในสิ่งที่ทำ
ถ้ามอง โดยทำตานิ่งๆ
ภาพจะเคลื่อนไหวได้

ที่เหลือคือท่านๆทั้งหลาย
ที่เคยพบ เคยเจอ เคยมาสอน
มีบางท่านมาแบบให้เห็นตาเปล่าๆก็มี
บางท่านมาเตือนก็มี มาให้กำลังใจก็มี
ความจริงมีอีกหลายท่าน
แต่ไม่สามารถหารูปได้
เพราะไม่มีบันทึกไว้บนโลก
บางท่านก็ไม่เหมาะที่จะมาลง
เพราะท่านอยู่เบื้องหลัง
ประมานนี้ ทำนองนี้

โม้มากแระ แว๊นต่อดีกว่า. ^_^

 

..
..
สุดยอดดดเรยย รูปเดียวครอบจักรวาล
อ่าน 3 รอบวนไป เข้าใจเเล้วคร้าฟฟ อิอิ
รูปซ้ายบนสุด แบบมาเวลเลเวลสูงสุด
ธนูจักรสามง่ามขึ้นมาเต็มเบยย

 

พูดถึงเรื่องสอบตก ล่าสุดก็เพิ่งสอบตกมาเหมือนกันครับ ตกทั้งเรื่องเมตตา ทั้งเรื่องความโกรธ เอิ้กๆ สู้พัดกันอย่างเมามันเลยครับ ต่างคนต่างไม่ยอมแพ้เลย เอิ้กๆ

 

สอบได้เรื่องตลก
สอบตกเรื่องธรรมดา
ถ้าไม่มีมาให้ทดสอบเลย
นั่นหละ ต้องพิจารณาตัวเองแระ ๕๕๕

แว๊นต่ออีกแระ

 

..
หวายย!! เฮียเเว๊นตอนจะเที่ยงคืนเนี้ยน้าาา ><
กระสือ กระหัง ผีปอป ผีโพงเต็มสองข้างทางเบย

 

Tips & Tricks (วรรคทอง)
หน้า 32 ลำดับที่ 624
(ข้อสงสัย 9...การนำลูกพล๊าสติกกลมคละสี
แล้วเทลงไปในเครื่องมือ(ตามคลิป)
สีต่างๆสามารถแยกสีได้เอง
...มันเกี่ยวกับอนุภาค โมเลกุล
หรือพลังงานชนิดใด)

[QUOTE="nopphakan,said]

ทั่วๆไปปกติ ในวัตถุมันมีแรงดึงดูด
มีกระแสพลังงาน
บ้างเรียกแรงเฉยๆ อยู่ในตัวเองอยู่แล้ว
มีน้อยมีมากก็แล้วแต่
และมันก็ดึงดูดเข้าหากันปกติอยู่แล้ว
ภายใต้แรงโน้มถ่วง..
เราเรียกแรงโน้มถ่วงนี้ว่า
กาวิตรอน ซึ่งมันยังไม่สามารถตรวจจับได้
ที่พอมองเห็นได้ มักจะเป็นรูปทรงกลม
เปรียบเหมือนที่ดวงจันทร์หมุนรอบโลก
โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์ อะไรประมาณนี้

พวกนี้ ในลักษณะที่เป็นวงกลม
ถึงจะมองภาพได้ชัด
เพราะว่า ยังพอมองเห็นการหมุนและการเคลื่อนที่
ของมันได้ภายใต้แรงโน้มถ่วง
เอาวงกลม ๒ ก้อนมาวาง
และเอาก้อนสี่เหลื่ยม ๒ ก้อนมาวาง
ภายในแรงโน้มถ่วงเดียวกัน
เราจะเห็นการเคลื่อนที่ของวงกลมได้ดีกว่า
แม้จะรู้ว่าในสี่เหลื่ยมมันก็มีแรง
พอมองภาพออกไหม

คุ้นๆไหม ในวงกลมมีศูนย์กลาง มันคล้ายๆสลัก
คือมันทำให้วงกลมเคลื่อนนี้
แต่ตัวมันไม่เคลื่อนไปไหน......
ซ่อนอยู่รอบๆกายเรา
บ้างก็เรียกว่าจิต
ซึ่งแล้วแต่จะให้คำจำกัดความ

เพียงแต่ในระบบกระแสพลังงาน
ในจักรวาลนี้ มันก็จะมีทั้งที่ผลักกัน
ที่เห็นแล้วไม่ถูกธาตุ หรือไม่ชอบหน้ากัน
และดึงดูดกันที่เหมือนคุยถูกคอ
ถูกธาตุอะไรก็ว่าไป

ทางวิทย์คือกรณีที่เป็นวัตถุ
คือ การแลกเปลี่ยนอนุภาคของโปรตรอน
ระหว่างวัตถุกับวัตถุ
สังเกตุว่า มันเพิ่มสนามพลังได้
เช่น ถูกธาตุ กลายเป็นถูกคอ พอนึกออกไหม
ไม่ถูกธาตุกลายเป็น คิดไม่ดี คิดทำร้ายกัน
พอเห็นภาพอีกเนาะ

ส่วนที่เป็นแรงพวกนี้เป็นกิริยาของ อนุภาคบัวซอง
ซึ่งมันมีความสามารถในการเพิ่มสนามพลังได้
(ความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น หรือการคิดไม่ดีต่อกัน)
แต่ที่ชาวโลกรู้จักกันดี ของอนุภาคบัวซอง
เรารู้จักในนามของสนามแม่เหล็กไฟฟ้า
หรือสนามแรงโน้มถ่วงที่ทำให้เรายืนได้บนโลกใบนี้
เพราะมันเห็นในภาพรวมได้ดีกว่า........

เนื่องจาก กิริยาปกติ ของอนุภาค บัวซอง
ในเรื่องความสามารถในการเพิ่มสนามพลังได้
บ้านเราเรียกจึงง่ายๆว่าพวกมีกำลังจิต
ทางจีนเรียก จอมยุทธ ห่มเหลืองเกจิ
ในหนังเรียก พวกเจได พวกธิส ก็ว่ากันไป
ส่วนใครจะมีความสามารถ
ในการรวบรวมแรงได้มากกว่ากันก็สุดแล้วแต่
แต่ทางวิทย์เรียกแรงคู่ควบ หรือคำว่าแรง หรือ อนัตกิริยา
บ้านเราเรียกว่า กำลังจิต อภิญญา
ความสามารถพิเศษ อะไรประมาณนี้หละ

แต่ในทางละเอียด มันคือการที่...
...อิเลคตรอนในวัตถุมันถูกจับได้
เพราะนิวเคลียร์ในอะตอม ซึ่งเป็นผลมาจาก
โปรตรอนระหว่างวัตถุทั้ง ๒
มันแลกเปลี่ยนอนุภาคซึ่งกันและกันปกติ

เขียนให้งงเล่น
นึกไม่ออกในทางปฏิบัติ เรียกการที่จิตจับอะไรบางอย่างได้
(คือ ที่นิวเคลียร์ในอะไรตอม มันจับอิเลคตรอนได้)
เลยส่งตัววิญญานออกไปเชื่อมกระแสภายนอก
(แลกเปลี่ยนโปรตรอนซึ่งกันและกัน)
หรือการที่มีวิญญานภายนอกส่ง(โปรตรอนภายนอกส่งมาแลกเปลี่ยนกันโปรตรอนภายใน)เข้ามาเชื่อมกัน.....

ถ้าคิดอะไรไม่ออก
ทั่วไป เราจะรู้ว่า อะตอม ประกอบไปด้วยนิวเคลียร์ที่มันอยู่ตรงกลาง
หรือเป็นศูนย์กลางอะตอม และ อิเลคตรอนเนาะ ตามGoogle

เอาประมาณนี้ หละ โม้มากยิ่งงง

 

"....ซองกฐินหมายถึง
มีคนเดินมาแจกให้ถึงบ้านครับ...."

555 เพิ่งรู้...ขอบคุณครับ

วันนี้...วันดี
เช้าตรู่โอนปัจจัยไปร่วมบุญวัดป่าธรรมอุทยาน






จากนั่นเดินข้ามไปร่วมงานแต่งลูกสาวเพื่อนบ้าน

 

Tips & Tricks
หน้า 32 ลำดับที่ # 640

[QUOTE="nopphakan, post: 10776972,]

เขตที่มีแม่น้ำ มีป่าอุดมสมบูรณ์
ซ้ายและขวามักเป็นรูปพยานาค
โครงหน้าแตกต่างกัน
ตามรูปหน้าคนสมัยยุคนั้นๆ
ถ้าลองสังเกตุดู
ยุคพระเจ้าวรมันที่ ๗
สมัยนั้นอาศัยตามเขา ทำการเกษตร
มีโรงสีข้าวขนาดเล็กๆของเค้าเอง
มีระบบการผันน้ำด้วย
กังหันโครงไม้ไผ่นี่หละ
สมัยนั้นหลังคามุงจาก
(คนสมัยนั้นเคยพาไปเยี่ยมชม ๕๕๕)

แถวทะเลทราย ก็มาในในรูปแบบหนึ่ง
ที่เหมือนกัน ตรงกลางจะเป็นอะไรที่
ยุคนั้นเคารพสูงสุด
แต่เค้าจะเน้นในเรื่องของพลังงาน
ที่เกี่ยวข้องกับระบบจักรวาลเป็นหลัก

เมื่อก่อน เค้าจะถือพระมหากษัตริย์เป็นที่สุด
ต่างกันที่เครื่องประดับที่เพิ่มขึ้นในแต่ละยุค
สังเกตุวัตถุมงคลสมัยก่อน จะมีเครื่องประดับ

นับถืออะไรก็สร้างวัตถุออกตามนั้น

แต่ถ้าเป็นยุคพระเจ้าอโศกฯ
ที่เดิมตำรา แยกเป็น ๙ สายแต่เดิมนั้น
จะมีแต่ตำรามาในหีบ ประเทศไทยมาขึ้น
ฝั่งที่นครศรีธรรมราช
จะไม่มีรูปปั้นอะไรเลยนะครับ

และตำรายุคแรก ที่สังคยานา
หลังดับขันธ์ปรินิพพาน ๓ เดือน
มีการ ทรงจำพระสูตรโดยพระอานนท์.
ทรงจำพระวินัยโดยพระอุบาลี
มีพระมหากัสสปะเป็นประธาน ไม่มีพระอภิธรรม.
หลังจากนั้นผ่านไป ๓๐๐ ปีมีการสังคายนาใหม่
ถูกรุกรานอีก ๘๐๐ ปี
คงอนุมานได้ว่าจะถูกเสริมจากใครบ้าง
เพราะมีมากมายหลายลัทธิ

แต่พระอภิธรรมเข้ามาแทรก
ในงานศพก่อนเบื้องต้น แล้วก็แตกๆ เติมๆ
แต่งๆ ดัดแปลงกันเรื่อยมา ตามยุคตามสมัย
อะไรที่พระอานนท์ ไม่ได้บันทึกไว้
หากมาเพิ่มมาเสริม แล้วมาอ้างว่าเป็น
คำสอนพระพุทธเจ้า จะทำให้
สัญญา ทิฐิ สติ วิปลาสได้ทุกราย
วิปลาสคือมองต่าง เห็นต่าง
คิดต่างจากคนอื่นๆเค้า

ส่วนฝันก็คือสัญญาในจิตเราเองนั้นหละ
กำลังสติมากขึ้นเก่งก็รู้เอง
เสื้อผ้า พิธีการก็ตามยุคตามสมัย
ความฝันมีแบบเราแค่ดูเฉยๆ
กับเรามีส่วนร่วมได้ ไม่เกินนี้

จบ นิทาน

 

*ใครที่ติดตามข่าวนี้เมื่อ 3 อาทิตย์ก่อน*
เรื่องการพิสูจน์ความขลังของเหรียญบาทหลังครุฑปี 2517
...วันนี้มีคำตอบแล้ว
----------------------------------

เจ้าหน้าที่อุทยานเขาใหญ่ เล่าอาถรรพ์ลี้ลับที่เจอมาร่วม30ปี มีเด็กกับฝรั่งหายไปตัวไปในอุทยาน ก่อนพบศพหนุ่มหน้าลายในป่าลึก!
Publish 2018-11-18 12:57:03

จากกรณีที่ นายธนทัต ติยพงศ์พัฒนา อายุ22ปี บ้าน 696 หมู่6 ถนนรัตนธิภิธาน ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ที่มีโรคประจำตัวคือ ไบโพล่าร์ ซึ่งเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งนายธนทัต ได้ออกจากบ้าน หลังจากมีปากเสียงทะเลาะกับแม่ เลยเก็บของออกจากบ้าน โดยบอกเเม่ว่า จะไปเดินป่า ที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ซึ่งมีกระเเสข่าวลือกันว่า นายธนทัตต้องการพิสูจน์ความขลังของเหรียญบาทหลังครุฑปี 2517 ซึ่งเชื่อว่าหากพกเหรียญดังกล่าวติดตัวจะทำไม่ให้หลงป่า

ซึ่งจากการพบศพ นายธนทัต ติยพงศ์พัฒนา ในบริเวณอุทยานเเห่งชาติเขาใหญ่ ทาง นางปรารถนา วิสุทธิกุ มารดาได้ทราบเรื่องเเละได้เดินทางมายัง อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เเล้ว ซึ่ง นางปรารถนา อยู่ในอาการโศกเศร้า ร้องไห้ ต้องมีคนคอยพยุงเดิน ยังทำใจไม่ได้ หลังจากทราบข่าวว่า ลูกชายอันเป็นที่รักได้กลายเป็นร่างไร้วิญญาณ พร้อมกับเตรียมนำศพไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป

นอกจากนี้ ในส่วนของ ผู้ได้พบศพของนายธนทัต คนเเรก คือ ไกด์นำนักท่องเที่ยว จากนั้นทางเจ้าหน้าที่อุทยานฯเขาใหญ่ จึงได้นำกำลังเข้าไปตรวจสอบ พบว่ามีสภาพถูกสัตว์กัดแทะจนเหลือแค่ครึ่งตัว คาดว่าน่าจะเป็นหมาใน นอกจากนี้ยังพบสัมภาระทั้งเสื้อผ้า รองเท้าผ้าใบสีแดง ซองยา






โดยสถานที่พบศพคือ อยู่ในป่าข้างเส้นทางศึกษาธรรมชาติ เส้นที่ 4 (ดงติ้ว-มอสิงห์โต) ลึกเข้ามาประมาณ 30 เมตร ห่างจากอ่างเก็บน้ำประมาณ 100 เมตร โดยเจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นพื้นที่ดังกล่าวเเล้ว เเละได้เเจ้งไปยังเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เเละเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเข้าตรวจสอบหาสาเหตุการเสียชีวิตที่เเท้จริง
ล่าสุดในวันนี้ (18/11/2561) นายวัชรากร นามสีฐาน นายกสมาคมอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเขาใหญ่ ได้เล่าเหตุการณ์ เมื่อ 30 ปี ที่ผ่านมาถึงปัจจุบัน เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ขึ้นไปท่องเที่ยวบนอุทยานฯเขาใหญ่ แล้วออกเดินป่าตามลำพังไม่แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ แล้วเกิดหลงป่า

โดยเมื่อ 10ปีที่แล้วนั้น ผู้ปกครองพาลูกสาววัย 7 ขวบ มาเที่ยวแล้วลูกสาวหลายตัวไปบริเวณ น้ำตกกองแก้ว หลังที่ทำการอุทยานฯ เจ้าหน้าที่ออกค้นหาไม่พบ 4 วัน จนญาตินำธูปเทียนมาขอขมาเจ้าป่า ไม่กี่ชั่วโมงก็พบเด็กนั่งพิงก้อนหิน ในที่โล่งจุดที่เจ้าหน้าที่เคยเดินค้นหาไป-มา และเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมามีชาวต่างชาติ ชาย-หญิง 2 คน หายตัวในป่าหลายวัน บริเวณน้ำตกเหวสุวัต

ก่อนจะมาเป็นรายล่าสุดนั่นก็คือ หนุ่ม ป่วยเป็นไพโบล่าร์ โดยเจ้าหน้าที่เชื่อกันว่า ไม่เคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เจ้าป่าเจ้าเขา ถึงเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น









ขอบคุณ
บิ๊กเกรียน
ปากช่องไทม์

เรียบเรียงโดย
เอกสิทธิ์ ชูวารี

ขอบคุณที่มา www.tnews.co.th

 

แว๊นต่อไปเยี่ยมพี่เขยที่โรงบาลหล่มหน่อย
ไว้มีอะไร ถ้ามีคนถามจะมาโม้ให้ฟัง
เปลี่ยนแนวเล็กน้อยวันนี้

ไปไหม แอม ถ้ารถแนวนี้
กะชากวัยกลับสู่ยุคเยาวชน ๕๕๕

 

..
..
ไปหมดดดดดดด 555
คันนี้เท่ห์มากก ไมเฮียมีหลายคันจุงงง

 

..
..
โหยย หมาไนแทะจนเหลือครึ่งเดียว
เวรกรรมไรเนี่ยยย น่ากลัวมากก
ขอให้ไปดีนะคะ สาธุๆๆ

 

เรื่องนี้เคยเขียนลงในกระทู้พลังจิต
เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเมื่อ 15 ปีที่ผ่านมา

ผมเห็นว่าน่าสนใจในการศึกษาค้นหา...
...เหตุแห่ง"กรรม" หรือ"กรรมลิขิต"
หรืออะไรที่เกี่ยวข้องกับ"กรรม"
หรืออะไรที่บางท่านรู้...แต่ผมไม่รู้
หรือมันเป็นแค่เรื่อง "บังเอิญ"

*วันนี้ผมนำมาเรียบเรียงใหม่*
แต่ยังคงเนื้อหาหลักๆไว้ 99 %


จะชน จะชน แล้วชนจนได้(ชื่อใหม่)

วันหนึ่งใกล้พลบค่ำเมื่อประมาณปี 2545
ขณะที่ผมขับรถติดไฟแดงคันแรก
ตรงสี่แยกหนึ่งในตัวเมืองชุมพร
บริเวณนั่นแสงไฟจากริมถนนค่อนข้างมืด..สลัวๆ
...พอไฟเขียวขึ้นมา
ผมจึงหักพวงมาลัยเพื่อ...เลี้ยวขวา
...วินาทีนั่นมีผู้หญิงถีบจักรยานตัดผ่านหน้ารถ
อย่างกระชั้นชิด...ห่างไม่เกินเมตร
ผมรีบเหยียบเบรคกะทันหัน
แต่เพราะมันใกล้มากๆ
หน้ารถจึงไปสะกิดจักรยานของเขาเล็กน้อย
เขาประคองตัวได้อย่างฉิวเฉียด
...หันหลังมอง..ยกมือเชิงขอโทษ
แล้วรีบถีบจักรยานออกไป
ช่วงนั่นจะว่าผมใจลอยหรือประมาทก็ไม่ใช่
...เพราะเขาตัดผ่านหน้ารถกระชั้นชิด
หรืออาจเป็นเพราะหล่อนเหม่อลอยซะเอง
ผมจึงบีบแตรใส่และบ่นว่า
“ไอ้บ้า จะตายหรือไง”

....เช้าวันรุ่งขึ้น
ผมขับรถออกจากชุมพรเพื่อเข้ากรุงเทพ
ประมาณเที่ยงแวะวิ่งสายในเลียบชายหาด
...ตรงอำเภอเขาสามร้อยยอด
ขณะที่ขับรถบนทางลูกรังแคบๆพอรถสวน
เพลินชมวิวชายหาดแบบสโลไลฟ์
ประมาณวิ่งๆ หยุดๆ ขับไปช้าๆเยี่ยงเต่า
ตลอดทางไม่มีรถวิ่งสวนเลย...

ขับเพลินๆชมวิวทะเลได้พักใหญ่
ได้เกิดเรื่องไม่คาดคิด...
จู่ๆแว๊บๆเห็นตัวเงินตัวทองตัวใหญ่
กำลังคืบคลานอยู่ตำแหน่งล้อหน้าขวามือ
ถ้าเสี้ยววินาทีไม่เห็นมันก่อน
ไม่ว่ารถวิ่งไปช้าๆหรือเร็วขึ้น...
...จะโดนทับตายแน่นอน
...ไม่ล้อหน้าก็ล้อหลัง
นอกจากรอดเพราะปาฎิหาริย์...
ที่มันบังเอิญอยู่หว่างล้อเท่านั่น

...ผมแปลกใจคือตอนที่มันคลานอยู่กลางถนน
ทำไมผมมองไม่เห็น...ทั้งที่อยูู่ด้านชมวิวทะเล
เมื่อแว๊บๆเห็น...ผมจึงเหยียบเบรคเท่าที่เหยียบทัน
มองไปที่กระจกหน้า...
...ไม่เห็นตัวมันแล้ว
คือมันอยู่ใต้ล้อหน้านั่นแหละ
หลังจากหยุดรถรอดูสักพัก
เห็นมันค่อยๆคืบคลานออกจาก...ด้านซ้าย
เหมือนมันไม่ตื่นรถตื่นคนเลย
ไซด์ใหญ่มากๆเท่าที่เคยเห็นมา
...น่าจะเป็นปู่เงินปู่ทอง
เออ...ยังนับว่าโชคดีที่ไม่ทับมันตายคาล้อ

หลังจากรอดจากการทำบาป
ผมก็ขับรถออกมาวิ่งสายหลักเพชรเกษม
ขณะใกล้ถึงอำเภอหัวหิน
บริเวณสามแยกปากทางเข้าหาดเขาเต่า
...ขณะที่ขับรถด้วยความเร็ว100-110
ได้เกิดเหตุไม่คาดคิด โดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
เพราะจู่ๆมีอะไรไม่รู้...
...ตกลงมา...กระแทกกระจกหน้ารถซ้ายมืออย่างจัง
...เสียงดัง "ทึ๊บ" พร้อมทิ้งรอยคราบขาวขุ่นบนกระจก
ผมสะดุ้ง...รถส่ายนิดหน่อย พอตั้งสติได้
รีบเหยียบเบรคทันที(ดีที่ไม่มีรถตามมา)
หันมองไปที่กระจกหลัง ห่างออกไป 20-30 ม.
เห็นคล้ายๆตัวอะไรสีขาวๆกองอยู่ตรงข้างถนน
ผมจึงจอดรถข้างทาง
เดินไปดูใกล้ๆจึงรู้ว่าเป็นนกกระยางใหญ่
เห็นมันแน่นิ่งมีเลือดไหลออกมา
ช่วงนั่นผมรู้สึกเสียใจที่ไม่อาจช่วยอะไรได้
...ทำได้แค่ขออโหสิกรรม
...ให้ไปสู่ภพภูมิที่ดีกว่า...




(ขอบคุณ...ภาพประกอบจากคุณTeo)


เรื่องราวที่เกิดขึ้น แม้ผ่านไปกว่า 10 ปี
แต่วันนี้ยังเป็นปริศนาคาใจที่ผมหาคำตอบไม่ได้
ว่าเหตุใดภายใน 18 ชั่วโมง(1 วัน)
ได้เกิดเหตุการณ์นาทีชีวิตที่คล้ายคลึงกันถึง 3 ครั้ง

จนในที่สุด...นกกะยางเคราะห์ร้าย
โผบินมาจากฝากฟ้าไหนไม่รู้

"ต้องมารับกรรมบางอย่างแทน"

...เมื่อนั่งทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
รู้สึกว่าเป็นอะไรที่แปลก

ค่ำคืนขับรถเฉียดชนคน(เฉี่ยวถูกเล็กน้อย)

ก่อนเที่ยงอีกวันหวิดทับเหี้ยตัวใหญ่

บ่ายๆ..นกกระยางบินมาชนกระจกหน้ารถตายคาที่

ทั้ง 3 เหตุการณ์เกิดขึ้นภายใน 1 วัน(18 ชม.)

คน-เหี้ย-นก...ล้วนเป็นสัตว์ใหญ่ในตระกูลนั่นๆ

เหมือนเป็นลางบอกเหตุบางอย่าง
หรือที่สุดคือการฟาดเคราะห์ร้าย
โดยมีชีวิตสัตว์อื่นมาทดแทน
หรืออาจเป็นเรื่องบังเอิญที่แสนจะบังเอิญ


สุดท้ายรบกวนท่านอจ.นพ(อีกแล้ว)ว่า

คำว่า”บังเอิญ”ที่เคยใช้คือคำว่า”ปัจจัยบุญ”

แต่ถ้าเป็นกรณีเหตุการณ์ที่เล่ามาทั้งหมด

จะบอกว่าเหตุมาจาก “ปัจจัยบุญ”

...คงไม่ถูกต้องใช่ไหมครับ

...แล้วควรจะเรียกว่าอะไรครับ
*แล้วทำไมจึงบังเอิญเกิดเหตุคล้ายกันเช่นนี้*

ขอบคุณครับ

 

วันนี้ขอโม้เรื่องราวแปลกๆ กับวัตถุมงคลที่ผมแขวนให้ฟังครับ
มันมักจะเกิดเรื่องแปลกๆ กับวัตถุมงคลชุดนึง ที่ผมมีอยู่ชุดนึง ชื่อ ต.ก ม.ห.ส.ท เวลาที่ผมจะใส่เข้า Office ในใจมักจะมี เสียงขอร้อง อย่าใส่ชุดนี้ได้มั๊ย เดี๋ยวคนอื่น จะมีผลกระทบ ขอให้ใส่ชุดอื่นแทน *หมายเหตุที่ Office มีคนปากไวมากมาย และ ต.ก ม.ห.ส.ท ก็ขึ้นชื่อเรื่อง counter* แรกๆก็ทำไม่สนใจ หลังเล่น ๆ ส่ง สัญญาณ ถี่ๆ รำคาญ เลยเปลี่ยนไปเป็น พระ ค.ข แทน แต่แปลกไม่มี สัญญาณ รบกวนเลย

 

เก็บได้เมื่อวานนี้คะ อยู่ที่พื้นดินตรงข้างฟุตบาท
สาธุๆ