ห้องแมวยิ้ม สัพเพ เหระ อะไรก็เอามาลงกระทู้นี้ได้ครับ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย zalievan, 9 ธันวาคม 2018.

  1. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    "พวกเราต้องอดทน โดยเฉพาะอดทนต่อความอยากได้ผล"

    พวกเรามีบุญ เกิดในแผ่นดินที่ยังมีธรรมะอยู่ อดทนนะ อดทน พากเพียรเข้า หลวงพ่อไม่ใช่คนเก่งหรอก แต่หลวงพ่อเป็นคนที่ทนมากเลยในการฝึกตัวเอง อาศัยความอดทน ตามรู้ตามดู อดทนที่สำคัญอันหนึ่งก็คือ ทนต่อความอยากได้ผลสำเร็จ ตัวนี้ยากที่สุดเลยนะ ต้องภาวนาจนวันหนึ่งน่ะมันถอดใจเลยว่า โอ้..ไม่มีปัญญาแล้ว ไม่สามารถทำให้ผ่านด่านอันนี้ได้แล้วนะ ใจมันยอมรับความจริงแล้วว่า ไม่มีทางทำเลยนะ สู้จนหมดสติหมดปัญญาเลยนะ มันถึงจะผ่านได้ เป็นเรื่องแปลกจริงๆนะ
    ถ้ายังมีแรงต่อสู้อยู่ ยังไม่ผ่านหรอก แต่อาศัยแรงที่ต่อสู้นั้น มาเจริญสติ มารู้กายรู้ใจไปนี่แหละ ถึงวันที่เขาพอนะ เขาจะหยุดความปรุงแต่งลงชั่วขณะนะ ถ้าหยุดลงได้จริงๆนะ จิตพรากออกจากความปรุงแต่งได้จริงๆ แล้วไม่เข้ามาปนกันอีกนะ ก็หมดธุระกันตรงนั้น ขันธ์ส่วนขันธ์นะ จิตส่วนจิต ไม่เกี่ยวข้องกัน ก็ไม่ได้ยึดถือจิตไว้ด้วย
    ไม่ใช่ธรรมะที่เหลือวิสัยที่มนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งจะทำได้ อดทนนะ อดทน อดทนต่อความขี้เกียจ อดทนต่อความอยากดี อยากบรรลุเร็วๆ คอยรู้ทันเข้า

    หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
    แสดงธรรมที่ศาลากาญจนาภิเษก (ศาลาลุงชิน) ครั้งที่ ๓๒
    เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๖ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๒
     
  2. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    "ทรัพย์สินเงินทองของเรานั้น ถ้าเราไม่ทำทาน มันก็จะต้องหมดไปในทางอื่น ทำทานนั้นมันหมดไปจริง แต่มันยังเหลืออยู่ที่ใจของเรา ฉะนั้นเราก็ควรจะทำทานให้มันเหลือติดอยู่ในใจ..."

    คติธรรม..
    พระสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์
    (ท่านพ่อลี ธมฺมธโร)

    วัดอโศการาม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ
     
  3. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    การทำทาน

    ทำก้เพื่อ สังเกต จิตที่จะมีเหตุให้กลับไปเกิด
    ด้วยกุสลวิบสด

    เมื่อกำหนดรู้ จิตที่จะมีเหตุให้เวียนไปเกิด
    อีกได้ชัด จะเกิดการรู้ทุกขสัจจ จะเกิดการ
    ละสมุทัย เหตุกุสลที่พาไปเกิดนั้น เรียกว่า
    การสลัด สลัดคืนไม่เหลือเชื้อ!

    โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง....

    สลัดคืนไม่เหลือเชื้อ!

    แล้ว อาสัยสภาวะที่ระลึกได้ ในอาการของจิต
    ที่เปนขณะ "สลัดคืนไม่เหลือเชื้อ!" ได้แม่นยำ(ถิร
    สัญญา - หลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมชโช) จึง เกิดสติ

    อาสัย สติ ตัวที่ระลึกจาก สภาวะ สลัดคืนไม่เกบือเขื้อ

    ยกขึ้นเปน การอาสัยวิเวก อาสัยวิราคะ น้อมไป
    เพื่อโวสัคคะ(ไม่สัดบัดกลับหลัง มานั่งสุขใจ
    เย็นกาย) ยกเข้าสู่ โพชฌงค์ เริ่มต้นนับหนึ่ง
    การ ภาวนาเปน หรือ มั่วนิ่มลูบคลำทาน สีล พรต
     
  4. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    **ชื่อของมารดาและบิดา**
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย มารดาและบิดาเป็นผู้อันบุตรทั้งหลายของตระกูลเหล่าใดบูชาแล้วภายในเรือน ตระกูลเหล่านั้น ชื่อว่ามีพรหม
    มารดาและบิดา เป็นผู้อันบุตรทั้งหลายของตระกูลเหล่าใดบูชาแล้วภายในเรือน ตระกูลเหล่านั้นชื่อว่ามีบุรพาจารย์
    มารดาและบิดา เป็นผู้อันบุตรทั้งหลายของตระกูลเหล่าใดบูชาแล้วภายในเรือน ตระกูลเหล่านั้นชื่อว่ามีบุรพเทพ
    มารดาและบิดาเป็นผู้อันบุตรทั้งหลายของตระกูลเหล่าใดบูชาแล้วภายในเรือน ตระกูลเหล่านั้นชื่อว่ามีอาหุเนยยบุคคล
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย คำว่าพรหม บุรพาจารย์ บุรพเทพ อาหุเนยยบุคคล นี้เป็นชื่อของมารดาและบิดา

    ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะมารดาและบิดาเป็นผู้มีอุปการะมาก เป็นผู้ประคบประหงมเลี้ยงดูบุตร เป็นผู้แสดงโลกนี้
    แก่บุตร ฯ
    มารดาและบิดาผู้อนุเคราะห์แก่บุตร ท่านเรียกว่า พรหมบุรพาจารย์ และอาหุเนยยบุคคลของบุตรทั้งหลาย
    เพราะเหตุนั้นแหละ บุตรผู้เป็นบัณฑิตพึงนอบน้อม พึงสักการะท่านด้วยข้าว น้ำ ผ้านุ่งห่ม ที่นอน ที่นั่ง อบกาย ให้อาบน้ำและชำระเท้า
    เพราะเหตุที่บุตรผู้เป็นบัณฑิตได้บำรุงบำเรอใน มารดาและบิดา บัณฑิตทั้งหลายย่อมสรรเสริญเขา ครั้นเขาละโลกนี้ไปแล้ว ย่อมบันเทิงในโลกสวรรค์ ฯ

    สพรหมสูตร[๖๓]
    พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๑ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๓
     
  5. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    บุคคลผู้เกิดมาในวัฏสงสาร ผู้มีตาใสแจ๋วน่ะ ตลอดถึง 90 ปี ก็ยังสนเข็มได้ ก็เพราะเคยถวายแสงสว่างแต่ชาติก่อน
    นางอุบลวรรณา เอาดอกบัวไปถวายพระปัจเจก เกิดมาภพใดชาติใด ขอให้ข้าพเจ้ามีสีเหมือนดอกบัว นางอุบลวรรณาก็ต้องมีสีเหมือนดอกบัวมาตั้ง 500 ชาติ
    วรรณา..วรรณะ แปลว่าสี วรรณะ แปลว่าสีกาย ,อุบล..อุปะละ อุบลแปลว่า ดอกบัว นางท่องเที่ยวในวัฏสงสาร นานไปนานมาก็เข้าสู่พระนิพพาน เฝ้าพระบรมศาสดา
    นางอุบลวรรณา กับนางกัณหาก็อันเดียวกัน แต่คนละชาติ นางกัณหาชาติเป็นพระเวสสันดร นางอุบลวรรณาเป็นชาติสุดท้าย ชาติสุดท้ายที่เข้าสู่พระนิพพาน ก็นางเก่านั่นเอง...

    หลวงปู่หล้า เขมปัตโต
     
  6. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    " พึงสักการะท่านด้วยข้าว น้ำ ผ้านุ่งห่ม ที่นอน ที่นั่ง อบกาย ให้อาบน้ำและชำระเท้า "

    เปนไฉน?

    แม่จ๋าขอตัง เดี๋ยว หนู จะปายฉื้อ ..... มา สักการะ
    บูชา บำรุงแม่ พ่อ อะฮับ .....(พูดไป เอามือ นวด
    ไป ลิ้นก้กระดกจะจ๋าไป สำตัฐว่า แม่ยิ้มได้ ให้
    เงินล้วนเปน ความพอใจ ที่ลูกสู้ชีวิตทนหายใจอยู่
    ก้เพื่อแม่.....)

    ฤา


    ปล.เว้นแต่เปน มหากาลี ก้จะตอบว่า.ใช่ ไม่แปลก
     
  7. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล
    พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่านั้นทูลรับสนองพระผู้มีพระภาคแล้ว
    พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย จักษุเป็นของไม่เที่ยง สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา สิ่งใดเป็นอนัตตาสิ่งนั้น ท่านทั้งหลายพึงเห็นด้วยปัญญาอันชอบ ตามความเป็นจริงอย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา
    หูเป็นของไม่เที่ยง ฯลฯ
    จมูกเป็นของไม่เที่ยง ฯลฯ
    ลิ้นเป็นของไม่เที่ยง ฯลฯ
    กายเป็นของไม่เที่ยง ฯลฯ
    ใจเป็นของไม่เที่ยง สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา สิ่งใดเป็นอนัตตา สิ่งนั้นท่านทั้งหลายพึงเห็นด้วยปัญญาอันชอบตามความเป็นจริงอย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว เห็นอยู่อย่างนี้ ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในจักษุ ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในหู ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในจมูก ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในลิ้น ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในกาย ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในใจ เมื่อเบื่อหน่าย ย่อมคลายกำหนัด
    เพราะคลายกำหนัด ย่อมหลุดพ้น เมื่อหลุดพ้นแล้ว ย่อมมีญาณหยั่งรู้ว่าหลุดพ้นแล้ว รู้ชัดว่าชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี ฯ

    อัชฌัตติกอนิจจสูตร
    พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๘ [๑]
     
  8. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    พยต เจ้าขา

    ริมฝีปากบน ของ อะฮั้น เที่ยงหรือไม่เที่ยง ฮ้าวว์ ( เผยอปากให้ดูชัดๆ )

    แล้ว คิคิ

    สะดือ อะฮั้นเที่ยงหรือไม่เที่ยง อะฮ้าววว์ ( เลิกผ้าให้เหน ดุดือ นิดเดียว..นิดเดียว..นิดเดียว จี จีนะ แต่ที่เหน อย่างอื่นจุ่นๆ ....เอิ่มมม อย่าวอกแวกหละ)

    แล้ว ถ้า ดุดือ มะเที่ยง เหนือไป สามนื้ว.จะเที่ยงได้อย่างไร


    ไม่ใช่ เฮีย! ส่งมาเกอะ หรือ ฮ้าาาาว์



    ปล. อย่างอื่นจุ่นๆ น้องๆ หนูๆ อย่าไกลนะ
    คนบางคนบนโลก อาจมี ฝี เปนติ่ง เปนตุ่ม
     
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    5861263c9.jpg

    คำสำคัญ...ของครูบาอาจารย์ท่านชัดเจนแจ่มแจ้งนัก

    " ธรรมะใดใด ก็ไร้ค่า ถ้าไม่ทำ"
     
  10. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    จะเชิดชูธรรมขนาดไหน
    หากยังยกศาสนาอื่นเหนือกว่า


    ก้เปนได้แค่......ลิ้นของผู้มีเล็บงาม

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มกราคม 2019
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    “ตรีเอกภาพ”
    556000008413701.jpg
    พุทธศาสนา และ คริสต์ศาสนา มีความเชื่อในปรัชญา“ตรีเอกานุภาพ”หรือ “ตรีเอกภาพ” (ภาษาอังกฤษ: Trinity).

    คำว่า พระไตรรัตน์ หรือพระรัตนตรัย ซึ่งแปลว่า แก้วทั้งสามนั้น ในวงพุทธศาสนา ใช้หมายเอาวัตถุที่สำคัญที่สุดสามอย่าง คือ พระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ ทั้งสามนั้นเป็นอันเดียวกัน

    คริสต์ศาสนาเชื่อว่า พระเจ้าผู้เป็นเอกานุภาพ ผู้เป็นตัวตนในขณะเดียวกันและตลอดไป ภายในรูปของพระภาคสามพระภาค: พระเจ้าผู้เป็นพระบิดา พระบุตรผู้มาเกิดเป็นพระเยซู และพระวิญญาณบริสุทธิ์ (Holy Spirit).


    ที่มา http://oknation.nationtv.tv/blog/syukri/2008/06/13/entry-1
     
  12. SegaMegaHyperSuperCyberNeptune

    SegaMegaHyperSuperCyberNeptune "โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกระทู้ผม"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4,087
    ค่าพลัง:
    +3,394
    ตรีเอกานุภาพนี่ก๊อปพระไตรศาสนาพุทธรึเปล่ามี 3 อย่างเหมือนกัน
     
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เรื่องนี้ผมได้เคยสอบถาม อ.ฮั้วโต๋ แล้วครับ ท่านยืนยันว่า ตรีเอกานุภาพ คือพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ จริงแท้แน่นอนครับ
     
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    พระเจ้าจักรพรรดิ จุติลงมาเพื่อยกยอพระพุทธศาสนาเท่านั้น

    S530916p1.jpg


    บทนำ

    ถ้าท่านได้ติดตามข่าวโลกมาโดยตลอด จะทราบว่า ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 (1992 A.D.) เป็นต้นมา ได้มีทั้ง ภัยพิบัติ ภูมิอากาศผิดปกติ ความแปลกประหลาดของเหตุการณต่างๆ์ ได้เกิดขึ้นบนโลกอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านั้น ตรงกับพยากรณ์โบราณที่กล่าวถึงการมาปรากฏของพระจักรพรรดิโลกในปัจจุบัน เรื่องราวเหล่านี้มีอยู่ในพระพุทธศาสนา ศาสนาและลัทธิที่สำคัญๆ ของโลก รวมทั้งคำทำนายของผู้ที่เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก เช่น นอสตราดามุส ไอแซฮ์ เป็นต้น ซึ่งคำทำนายดังกล่าวมีอายุมาแล้วนับหลายพันหลายร้อยปี และยังเป็นที่สังเกตว่า คำทำนายที่มีมา ถึงแม้จะต่างทั้งสถานที่และเวลาของผู้บ่งบอกเรื่องการมาปรากฏของพระจักรพรรดิในปัจจุบันนั้น ยังเป็นเรื่องราวเดียวกันและสนับสนุนซึ่งกันและกันอีกด้วย

    พระจักรพรรดิในปัจจุบัน

    พระจักรพรรดิที่กล่าวถึง มีชื่อเรียกแตกต่างกันไปตามภาษาของชนชาตินั้นๆ เช่น พระพุทธเจ้าโคตมตรัสตอบคำถามของพระสารีบุตรเถระ ที่ทูลถามการมาปรากฏของพระจักรพรรดิในภายภาคหน้า ในขณะที่พระพุทธองค์และหมู่สงฆ์พักอยู่ ณ บริเวณใต้ร่มไทร ริมฝั่งน้ำโรฮานิ ขณะเดินทางไปยังกรุงกบิลพัสดุ์ ซึ่งพระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า พระจักรพรรดิ พระนามว่า "พระเมตฺเตฺย" หมายถึงเพื่อนแท้ จะมาปรากฏภายในยุคภัทรกัป หรือกัปอันประเสริฐที่เจริญยิ่งในปัจจุบัน โดยมีพระพุทธเจ้ามากที่สุดถึง 5 พระองค์ มีพระพุทธเจ้าโคตม เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์ที่ 4 และเมตฺเตฺยจะเป็นพระองค์สุดท้าย (คนไทยเรียกว่าพระศรีอริยเมตไตรย หรือพระศรีอารย์ เป็นต้น)

    พระจักรพรรดิจะสอนไม่เฉพาะมนุษย์ทั่วไป แต่ยังสอนเหล่าเทพเทวดานางฟ้าทั้งหลาย โดยพระเมตฺเตยฺยจะรอบรู้สรรพสิ่งในจักรวาลเสมือนอยู่ตรงหน้า เป็นผู้รู้ถึงเทพผู้สร้างสรรพสิ่ง เทพทั้งหลาย และมาร(จากเรื่องพระจักรพรรดิผู้มีสำเนียงดั่งสิงห์) จากศาสนาและลัทธิอื่นได้บ่งสนับสนุนซึ่งกันและกัน เช่น พระจักรพรรดิมีความรู้ป้องกันตนที่เหนือกว่าบุคคลทั้งหลาย (อิสลาม) และความรู้นี้มีอยู่ในพระจักรพรรดิเท่านั้น (ขงจื้อ) เป็นต้น พระจักรพรรดิจุติ(ใช้กับเทพ) เพื่อทะนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้อยู่ครบพุทธกาล พ.ศ. 5000 (จากพุทธทำนาย) และนำผู้คนสร้างสันติสุขและสันติภาพที่แท้จริงขึ้นบนโลกสืบต่อกันตลอดไปไม่มีที่สิ้นสุด

    ตัวอย่างพยากรณ์ช่วงเวลาของพระจักรพรรดิ

    ตามหลักฐานรูปธรรมในการปรากฏของพระจักรพรรดิมีดังนี้

    1. ไอแซฮ์ (กว่า 200 ปี ก่อนพุทธกาล) ในช่วง พ.ศ. 2482-2488 เป็นช่วงการจุติของพระจักรพรรดิ นอกจากนี้ไอแซฮ์ ได้บ่งชื่อ คุณสมบัติ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงชีวิตของพระจักรพรรดิ และที่อยู่ในปัจจุบันไว้อย่างชัดเจน

    2. พุทธทำนาย ปี พ.ศ. 2534 จะเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าสู่การเป็นพระจักรพรรดิ และเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในเวลาต่อมา โดยพระพุทธองค์เน้นถึงผู้คนทั้งหลาย ถ้าไม่ละเว้นมิจฉาทิฐิ จะเกิดการทำลายล้างโลกขึ้นในปี พ.ศ. 2556 โดยพุทธทำนายบ่งถึง เมื่อล่วงได้ ๒๕๐๘ ปี (ในวงเล็บ ปี พ.ศ. ไทยคือ ปีมะเส็ง พ.ศ. 2556) ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล (โลกามหาวินาศ ใช้เวลาถึง 7 ปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาตรงกับศาสนาคริสต์) ครั้นล่วงได้ ๒๕๑๕ (ปีชวด พ.ศ. 2563 ) นับพ้นระยะปี ๓๐ ปี (จาก พ.ศ. 2533 - 2563) พวกอธรรม คือพวกที่ไม่ตั้งอยู่ในศีลในสัตย์ ไร้ซึ่งศีลธรรมนั้นจะหมดสิ้น เพราะพวกมิจฉาทิฐิจะดับสูญไปจากโลก อธรรมแพ้ในที่สุด (เหตุการณ์ในปี พ.ศ. 2563) ดูกรอานนท์ ตถาคตสงสารสัตว์ เวลานั้นพลโลกยังเหลือน้อยเต็มที

    3. นอสตราดามุส (กว่า 450 ปี มาแล้ว) บ่งในปี พ.ศ. 2535 (1992 A.D.) ในคืนวันพระจันทร์เต็มดวง พระจักรพรรดิได้ล่วงรู้ความรู้ที่ไม่มีผู้อื่นใดสามารถทราบได้ (พระจักรพรรดิใช้เวลาถึง 64 ปี ในการค้นหาความจริงที่ไม่มีผู้ใดเคยทราบมาก่อน) สำหรับนอสตราดามุสได้บ่งบอกเรื่องราวของพระจักรพรรดิไว้ เช่น เมืองที่จุติคือ กรุงเทพมหานคร เวลาจุติกลางคืน ชีวิต ความเป็นอยู่และความเป็นไปต่างๆ ตลอดจนที่อยู่ของพระจักรพรรดิในปัจจุบัน (ตรงกับพยากรณ์ของไอแซฮ์ ข้อ 1 เมื่อ 2700 ปีมาแล้ว) คำทำนายของนอสตราดามุสเกี่ยวกับพระจักรพรรดิมีมากประมาณ 20 คำทำนาย โดยกระจัดกระจายอยู่ในบทต่างทั้ง 10 บท แต่ละบทมีคำทำนาย 4 บรรทัดอยู่ 100 คำทำนาย คำทำนายต่างๆ จะไม่เรียงกัน

    ความลับของนอสตราดามุส
    พระจักรพรรดิเปิดเผยว่า ถ้าคำทำนายใดไม่สามารถจบได้ใน 4 บรรทัด นอสตราดามุส จะเขียนต่อไปอีก 4 บรรทัด หรือ เพิ่มต่อไปอีกจนกว่าจะจบคำทำนายที่นอสตราดามุสต้องการ

    วัตถุประสงค์ที่นอสตราดามุสเขียนคำทำนาย
    เพื่อให้พระจักรพรรดิได้ใช้ในการพิสูจน์ข้อเท็จจริงต่อชาวโลก

    ข้อควรคิด
    คำทำนายของนอสตราดามุสอยู่รอดยืนยาวมาถึงปัจจุบันได้อย่างน่าประหลาดใจ คงด้วยเหตุผลเรื่องพระจักรพรรดิเป็นสำคัญ

    4. ชาวมายัน(Mayan)และชาวแอซ์เท็ค(Aztec) (เชื่อว่าก่อนพุทธกาล) บ่ง พ.ศ. 2555 (21 ธันวาคม 2012 A.D.) คือการสิ้นกลียุค และเข้าสู่ยุคใหม่ คือกฤดายุคหรือยุคทองนั้น จะเกิดการล้างโลกขึ้นโดยพลังของดวงอาทิตย์ (การล้างโลกตรงกับความเชื่อของชาวคริสต์ เรื่องการพิพากษามนุษย์ในครั้งสุดท้ายของพระเจ้า) และตรงกับความเข้าใจของนาซ่า สหรัฐอเมริกาและนักวิทยาศาสตร์ทั่วไป

    5. มนุษย์ต่างดาวได้ส่งข้อความมาถึงพระจักรพรรดิด้วย ในรูปของภาษาคอมพิวเตอร์ ASCII เมื่อ 15 สิงหาคม 2545 (ในปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำของโลกยอมรับว่ามนุษย์ต่างดาวมีตัวตนจริง)

    นี่เป็นเพียงตัวอย่างพยากรณ์เล็กน้อย แต่ควรสังเกตว่า ปี พ.ศ. ของผู้พยากรณ์ทั้งหลาย ที่ผู้บ่งคำทำนายมาจากต่างสถานที่และเวลา แต่คำพยากรณ์มีความสอดคล้องต่อเนื่องกัน สนับสนุนกัน โดยมีเหตุผลของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเดียวกัน และอยู่ในช่วงชีวิตของพระจักรพรรดิ สรุปได้เช่น

    นอสตราดามุสบ่งบอก พ.ศ. 2535 เป็นปีที่พระจักรพรรดิรู้ความลับของจักรวาลต่างๆ ได้ด้วยตนเอง ในปี 2555 เป็นทางสองแพร่ง พระจักรพรรดิออกช่วยผู้คน หรือโลกามหาวินาศเกิดขึ้น หรือจะปะปนกัน ย่อมขึ้นอยู่กับมนุษย์เอง เวลาอันสำคัญยิ่งนี้ มายันทำนายต่างกับพุทธทำนายเพียง 10 วัน คือมายันบ่ง 21 ธันวาคม 2555 พระพุทธเจ้าตรัส พ.ศ. 2556

    ข้อสังเกต
    คำพยากรณ์ต่างๆ ที่ผ่านมาแล้ว มีความถูกต้องมาโดยตลอด โปรดพึงสังวรว่า คำพยากรณ์ในอนาคตอันใกล้นี้ไม่ควรมีอะไรผิดพลาด นอสตราดามุสบ่งถึงพระเจ้าจะทำให้พยากรณ์สมบูรณ์

    ถ้าจะรวมคำพยากรณ์เรื่องพระจักรพรรดิทั้งหมดแล้ว ควรมีมากถึง 40-50 คำทำนาย ซึ่งแน่นอนที่ผู้ไม่ใช่พระจักรพรรดิพระองค์จริงจะไม่สามารถแอบอ้างได้

    เหตุการณ์ตามพยากรณ์

    ที่เกิดขึ้นแล้ว ขอยกเป็นตัวอย่างเช่น

    1. วัวขาวของอเมริกันอินเดียน เกิดปี พ.ศ. 2537 คำทำนายบ่งไว้ว่า สันติสุขที่แท้จริงจะเกิดขึ้น

    2. วัวแดงของชาวยิว เกิดปี พ.ศ. 2539 ซึ่งเป็นการนำหน้ามาก่อนพระจักรพรรดิ

    3. ESE & NASA แสดงดาวพระเคราะห์เข้าแถว พ.ศ. 2543 ตรงกับตำนานของฮินดู ใน Vishnu-Purana เกี่ยวกับถึงเวลาที่พระนารายณ์อวตารเป็นเกากีหรือพระจักรพรรดิ เพื่อมาล้างความชั่วร้ายและนำโลกเข้าสู่กฤดายุคหรือยุคทองตลอดไป

    4. พระจันทร์แดง ปี พ.ศ. 2543 คำพยากรณ์จะเกิดขึ้นเพื่อแสดงถึงพระจักรพรรดิปรากฏขึ้นแล้ว (ภาพของไทยรัฐได้จากนิวซีแลนด์ ประเทศไทยมีเมฆปกคลุมทั่วประเทศ มองไม่เห็น ฝรั่ง ญี่ปุ่นถ่ายภาพสด)

    ในปัจจุบัน มีเรื่องราวแปลกประหลาดเกิดขึ้นทั่วโลก บ้างเกี่ยวข้องกับคำทำนายการปรากฏของพระจักรพรรดิ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหล่านี้ นักวิทยาศาสตร์ไม่สามารถหาคำตอบได้ ผู้ที่พยายามตอบ เป็นไปโดยขาดหลักการและเหตุผล เช่น เมื่อปี 2554 การตายของนก และปลาจำนวนมาก ที่มีเวลาใกล้เคียงกันที่มลรัฐอาร์คันซอ สหรัฐอเมริกา และได้เกิดขึ้นที่รัฐอื่นและในประเทศอื่นๆ แม้เรื่องปลาวาฬถูกนำมาวางไว้บนทุ่งหญ้าชายฝั่งประเทศอังกฤษ ห่างจากฝั่งถึง 800 เมตร มีผู้กล่าวว่า น้ำขึ้นพัดพาเข้ามานั้น ถ้าเป็นจริงหมู่บ้านชายฝั่งแถวนั้นต้องเป็นข่าวใหญ่ เพราะคงไม่ไต้ตั้งอยู่ในบริเวณนั้นอีกต่อไป รวมทั้งผู้คนสูญหายอีกต่างหาก เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดต่างๆ ได้เกิดขึ้นแล้วหยุดไป มีเหตุการณ์ใหม่เกิดขึ้นต่อมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเร็วๆ นี้เกิดเสียงประหลาดขึ้นในหลายประเทศ และไม่มีนักวิทยาศาสตร์ใดแสดงตนมากล่าวว่าเสียงนั้นเป็นอะไร การวิเคราะห์ข้อมูลพอทำได้ทางหนึ่ง แต่ไปติดหลักการโต้แย้งขึ้นอีกทางหนึ่ง สรุปคือหาคำตอบไม่ได้

    จากการวิเคราะห์เรื่องราวที่เกิดขึ้นต่างๆ เห็นได้ว่า เป็นเรื่องของการพยากรณ์ได้เตือนมนุษย์ว่า ความประมาทในพยากรณ์จะนำไปสู่โลกามหาวินาศในที่สุด เพราะเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติต่างๆ ที่สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงในหลายๆ ประเทศ ผู้คนเสียชีวิตมากมาย ทรัพย์สมบัติเสียหาย หรือการผิดแปลกไปของภูมิอากาศ ได้เป็นไปตามพยากรณ์มาอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ. 2535

    การหยุดภัยพิบัติทำได้ แต่ทำไมไม่มีผู้สนใจ

    เรื่องราวของวิธีการหยุดภัยพิบัติต่างๆ สามารถทำได้ด้วยการพิสูจน์ความจริงของพระจักรพรรดิ ด้วยหลักกาลามสูตร ๑๐ และหลักการทางวิทยาศาสตร์ และหนังสือที่กล่าวถึงเรื่องนี้ ได้ถูกส่งไปยังสื่อ และผู้สมควรได้รับข้อมูลมาแต่ พ.ศ. 2535 จนถึงปัจจุบัน แต่ไม่มีผลใดเกิดขึ้น

    พระจักรพรรดิไม่ต้องการและต้องการ

    พระจักรพรรดิ ไม่ต้องการ - ตำแหน่ง การยกย่องสรรเสริญ ทรัพย์สิน เงินทอง สิ่งตอบแทน การเป็นผู้นำ การเรียกพระจักรพรรดิเพื่อความสอดคล้องกับพยากรณ์และความเข้าใจในขณะนี้เท่านั้น

    พระจักรพรรดิ ต้องการ - เป็นเพื่อนกับผู้มีคุณธรรม ให้มนุษย์มีคุณธรรม และ หาหนทางให้มนุษย์ได้สร้างสันติสุขและสันติภาพขึ้นบนโลกให้ได้ ตามพยากรณ์กำหนดไว้ว่า พระจักรพรรดิมีช่วงชีวิตเหลืออยู่อีก 3 ปี จากนี้

    ทั้งพระจักรพรรดิและพวกเราทีช่วยกัน ได้พยายามอย่างยิ่งจะให้มีการพิสูจน์ข้อเท็จจริงขึ้น เพื่อประโยชน์ของผู้คนทั้งหลายมาโดยตลอด แต่ไม่เกิดผลอันใด และเหตุการณ์ขณะนี้ ชี้ถึงการล้างโลกอธรรมใกล้เข้ามาทุกที คามคำพยากรณ์บ่งว่า 9 ใน 10 คน จะต้องถูกกวาดล้างไปจากโลก เหลือเพียง 1 คน พระพุทธเจ้าตรัสว่าผู้คนเหลือน้อยนิดที่จะมีโอกาสเข้าสู่กฤดายุค และผู้ที่ถูกกวาดล้างจะถูกพิจารณาโทษ โทษที่เห็นได้ชัดเจนคือความมีมิจฉาทิฐิ ความเห็นแก่ตน และโทษดังกล่าวมีความรุนแรงกว่าที่ใครๆ จะคาดคิดถึง


    ที่มา http://www.selfwisdom.net/true messiah/2555-2556_พระจักรพรรดิ.html
     
  15. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    แล้วที่ท่านดาราแฟร์บอกว่า..จะมีพายุเกิดขึ้นในประเทศไทยอีก3ลูก..นี่เรื่องจริงหรือเปล่าท่านเกษม...ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้รีบเกิดในเร็วๆนี้ก่อนสัก2ลูกนะ...จะได้แน่ใจว่าเป็นเรื่องจริง...ถ้าพายุนั้นเป็นภัยพิบัติของพระเจ้าจักรพรรดิ...เราก็ฝากทุกท่านไปบอกพระเจ้าจักรพรรดิให้ด้วยนะ...รีบๆสั่งจักรวาลและรีบให้จักรแก้วปรากฏด้วยเราขี้เกียจรอนาน...
     
  16. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    อยู่ระยอง4ปี..ไม่เคยเป็นไข้เลย..มาอยู่บ้านไม่นานเป็นไข้แล้ว3ครั้ง...ก่อนเราจะตายขอชมพายุใหญ่..และภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นบนโลกให้จบก่อนได้มั๊ย...และที่สำคัญคือรอภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นในแผ่นดินไทยนี้แหละ ถ้าได้ชมแม้ต้องตายก็คุ้ม...
     
  17. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    สิ่งใดไม่เที่ยง..
    สิ่งนั้นเป็นทุกข์..
    สิ่งใดเป็นทุกข์..
    สิ่งนั้นเป็นอนัตตา..





    **ผู้มีปัญญาพิจารณาประโยคนี้แล้วคงเห็นตามเป็นจริงได้ไม่ยาก**
     
  18. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    ดูรายการเจาะประเด็น..เรื่องพระเด่นหลงป่า...เห็นกริยามารยาท อ.จาตุรงค์ นักศาสนานี่กวนตีนน่าดูเลยเชียว...มีความรู้ทางโลกแล้วคิดว่าตัวเองเก่ง...
     
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    อ้าว....ก็ท่านสงบ ถือดวงจิตจักรพรรดิเอาไว้แล้วนี่ครับ แล้วจะให้กระผมไปบอกใครอีกเล่าครับ ใจเย็นๆครับท่านสงบ ตอนนี้อากาศในโลกนี้ก็วิปริตแปรปรวนอย่างมาก ที่ออสเตรเลียอากาศร้อนจัดถึง 47 องศาเซลเซียสเข้าไปแล้ว และที่ดอยอินทนนท์ของไทยเราอากาศก็เย็นจัด -2 องศาเซลเซียส เมื่อร้อนกับหนาวมาปะทะกัน ในไม่ข้านี้ก็ย่อมเกิดพายุใหญ่ตามมาอย่างแน่นอนครับท่านสงบ
     
  20. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    **พราหมณ์ภารทวาชโคตร**

    บุคคลฆ่าอะไรได้ ย่อมนอนเป็นสุข ฆ่าอะไรได้ ย่อมไม่เศร้าโศก ข้าแต่พระโคดม พระองค์ย่อมชอบใจการฆ่าธรรมอะไรเป็นธรรมอันเอก ฯ

    พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า
    บุคคลฆ่าความโกรธได้ย่อมนอนเป็นสุข ฆ่าความโกรธได้ย่อมไม่เศร้าโศก
    ดูกรพราหมณ์ พระอริยะเจ้าทั้งหลายย่อมสรรเสริญการฆ่าความโกรธ อันมีมูลเป็นพิษ มีที่สุดอันคืนคลาย เพราะว่าบุคคลฆ่าความโกรธนั้นได้แล้ว ย่อมไม่เศร้าโศก ฯ

    ธนัญชานีสูตรที่ ๑
    พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๗
    [๖๒๘] - [๖๒๙]
     

แชร์หน้านี้

Loading...