ติดตามสถานะการณ์

“โอทอปน้ำมันเถื่อนใต้” เส้นเลือดใหญ่หล่อเลี้ยง “นักการเมือง-ขรก.-นายทุน” ยันชาวบ้านร้านตลาดครบถ้วน!
เผยแพร่: 28 มิ.ย. 2562 14:05 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

โดย... ศูนย์ข่าวภาคใต้



น้ำมันเถื่อนริมทางที่ถือเป็นสินค้าโอทอปภาคใต้ไปแล้ว

อะไรเอ่ย? สินค้าที่ลักลอบนำเข้ามาจากมาเลเซีย แล้วสร้างรายได้ให้ทั้งนักการเมือง ข้าราชการ นายทุนเป็นกอบเป็นกำ ยังเกลี่ยรายได้ให้ผู้ค้ารายย่อยมากมาย แถมชาวบ้านร้านตลาดก็ได้รับอานิสงส์ไปถ้วนทั่วด้วย คนในภูมิภาคอื่นๆ อาจจะหาคำตอบได้ยาก แต่สำหรับคนปักษ์ใต้คงไม่ลังเลที่จะตอบว่า…

“น้ำมันเถื่อน” ทั้งชนิดเบนซินและดีเซล?!

น้ำมันเชื้อเพลิงที่ซื้อหาได้ทั้งในปั๊มและในคลังฝั่งมาเลเซียหลักๆ มีเพียง 2 ชนิดคือ เบนซินกับดีเซล และรัฐบาลเสือเหลืองก็ไม่ได้บวกภาษีเข้าไปแม้แต่สลึงเดียวอย่างที่รัฐบาลไทยทำมาตลอด เพราะต้องการให้ประชาชนของเขาได้ใช้น้ำมันในราคาถูกจริงๆ แบบไม่มีอะไรแอบแฝงหรือถ่ายเทเข้าพกเข้าห่อใคร

เวลานี้รัฐบาลมาเลเซียผลักดันราคาขายน้ำมันเบนซินไม่ว่าชนิด 95 หรือ 97 ให้ประชาชนได้ใช้ในราคาเฉลี่ยไม่เกิน 20 บาท/ลิตร ด้านดีเซลลดลงอีกเฉลี่ยแค่ 18 บาท/ลิตร แต่พอหันกลับมาดูราคาน้ำมันในไทยเรากลับเป็นที่น่าตกใจยิ่ง เพราะเฉลี่ยแล้วไม่ว่าจะน้ำมันชนิดไหน เบนซินไร้สารตะกั่วหรือผสมแก๊สโซฮอลล์ ดีเซลที่มีส่วนผสมไบโอดีเซลด้วยหรือไม่ ซึ่งไม่ว่า 91, 95, 97 หรือ E 20 หรือ E 85 ล้วนมีราคามากกว่าที่มาเลเซียเกิน 10 บาท/ลิตรทั้งนั้น

ตัวอย่างเช่น ในไทยเราน้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่วเฉลี่ย 35 บาท/ลิตร ส่วนดีเซลขายกันอยู่ที่เฉลี่ย 28 บาท/ลิตร หรือบางครั้งขยับขึ้นไปถึงกว่า 30 บาท/ลิตรก็มี โดยอ้างว่าเป็นไปตามการขึ้น-ลงของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก และราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่ตลาดสิงคโปร์

จึงเห็นชัดเจนว่า เมื่อนายทุนสามารถลักลอบนำเข้าน้ำมันเถื่อนจากมาเลเซียเข้ามาขายในบ้านเราได้ พวกเขาจะได้กำไรจากส่วนต่างของราคาทันทีอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 10 บาท/ลิตร ซึ่งในภาคใต้มีขบวนการน้ำมันเถื่อนอยู่มากมาย และแต่ละรายก็ลักลอบขนกันวันละหลายแสนลิตร ถ้านายทุนรายใดสามารถขนเข้ามาได้แค่วันละจิ๊บๆ 100,000 ลิตร นั่นก็หมายความว่าวันนั้นพวกเขาจะมีกำไรไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาทแน่นอน



กวาดล้างเท่าไหรไม่ยักกับหมด

นี่เป็นการฉายภาพขบวนการลักลอบนำเข้าน้ำมันจากมาเลเซียแค่ผ่านเส้นทาง “บก” ที่ก็กระจุกตัวอยู่แต่ในจังหวัดภาคใต้ตอนล่างเท่านั้น ยังไม่ได้เลยรวมไปถึงเส้นทาง “ทะเล” ซึ่งว่ากันว่าเป็นนายทุนรายใหญ่และมีเส้นสายโยงใยใหญ่โตกว่ามากต่อมาย แถมกระจายไปในแทบทุกจังหวัดชายทะเลภาคใต้

ด้วยเหตุนี้เองที่ทำขบวนการลักลอบนำเข้าน้ำมันเถื่อนทางบก จึงมักใช้จังหวัดที่อยู่ประชิดติดกับเส้นเขตแดนไทย-มาเลเซียในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างเป็นฐานที่มั่น ดังนั้นในพื้นที่ จ.สงขลา จ.สตูล และ จ.นราธิวาส จึงมีปรากฏการค้าน้ำมันเถื่อนกันอย่างคึกคัก เพราะเพียงข้ามแดนเข้าไปยังมาเลเซียแค่ 1-2 กิโลเมตรก็สามารถหาซื้อน้ำมันจากปั๊มและคลังเพื่อขนข้ามกลับมายังไทยได้แล้ว

สำหรับใน จ.สงขลา ต้องยกให้พื้นที่ของ ต.ปาดังเบซาร์ และ ต.ทุ่งหมอ ในความรับผิดชอบของ อ.สะเดา เป็นแหล่งที่ขบวนการน้ำมันเถื่อนลงทุนสร้าง “โกดังขนาดใหญ่” เพื่อใช้เก็บกักน้ำมันเถื่อนให้ได้มากที่สุด แม้แต่ในเขตเทศบาลตำบลปาดังเบซาร์ อันเป็นที่ตั้งของ สภ.ปาดังเบซาร์และสำนักงานศุลกากรปาดังเบซาร์ ก็เต็มไปด้วยโกดังน้ำมันเถื่อนที่นายทุนทำขึ้นเพื่อเป็นที่เก็บกักน้ำมันลักลอบนำเข้าขนาดใหญ่ ก่อนจะขนถ่ายใส่รถบรรทุกไปส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ 9 จังหวัดของภาคใต้

เช่นเดียวกับในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก อ.ตากใบ. ของ จ.นราธิวาส และที่ อ.ควนโดน จ.สตูล ซึ่งก็มีการสร้าง “โกดังขนาดใหญ่” เพื่อใช้รวบรวมน้ำมันเถื่อนมาเก็บกักไว้ก่อนกระจายต่อให้พ่อค้ารายย่อยเช่นกัน จนกลายเป็นว่านทุกพื้นที่เหล่านั้นและผู้คนในพื้นที่ต่างมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าน้ำมันนอกระบบนี้ไปด้วย โดยปริยายได้ กลายเป็นองคาพยพหนึ่งของนายทุนผู้อยู่เบื้องหลังการลับลอบค้ามันเถื่อนในจังหวัดชายแดนภาคใต้

อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงการที่จะลักลอบนำเข้าน้ำมันเถื่อนจากมาเลเซียข้ามมายังไทยก็ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายดาย เนื่องจากต้องใช้รถยนต์ดัดแปลงไปบรรทุกเข้ามา ซึ่งจะทำอย่างเปิดเผยไม่ได้ แล้วอย่างไรเสียการเข้า-ออกก็ต้องผ่านช่องทางของ “ด่านตรวจศุลกากร” เพราะเส้นทางธรรมชาติอื่นๆ ไม่มีเส้นทางให้รถยนต์ข้าม แถมรอบๆ ด้านชายแดนก็มีการสร้างกำแพงกันไว้ทั้งหมด



กวาดล้างเท่าไหรไม่ยักกับหมด

วิธีการของขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนจึงต้องใช้รถยนต์กระบะดัดแปลงให้สามารถติดตั้ง “เซฟ” เพื่อซุกซ่อนน้ำมันไว้ ซึ่งจะมีอู่รถยนต์หลายแห่งที่รับดัดแปลงในราคาคันละประมาณ 50,000 บาทขึ้นไป ซึ่งบรรทุกน้ำมันได้เที่ยวละตั้งแต่ 1,000 ลิตร ไปจนถึงสูงสุดถึง 3,000 ลิตร

แล้วเมื่อต้องผ่านด่านศุลกากรทั้งตอนออกและเข้าต้องมีวิธีการอย่างไร สามารถเข้า-ออกได้วันละกี่ครั้ง แล้วทำอย่างไรไม่ให้เป็นที่สังเกตหรือสะดุดตาผู้คน และโดยเฉพาะกับเจ้าหน้าที่ไม่ให้เกิดความสงสัยนั้น ปัญหาเหล่านี้ขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนเขารู้ว่าจะต้องพึ่งพา “นายหน้า” เข้ามาจัดการให้ เพียงยอมเสียค่าใช้จ่ายในอัตรา 1 บาทต่อ 1 ลิตร แถมหากมีเหตุผิดพลาดอะไรเกิดขึ้น บรรดานายหน้าจะเข้าไปรับผิดชอบเองทั้งหมด พร้อมกับกันเอาคนในขบวนการและเจ้าหน้าที่ออกไปไม่ให้มีส่วนเกี่ยวข้อง

ความจริงแล้วรูปแบบการใช้ “นายหน้า” เข้าไปจัดการแทนในลักษณะนี้ ไม่ใช่เกิดขึ้นกับเฉพาะการลักลอบน้ำเข้าน้ำมันเถื่อนเท่านั้น แต่โยงใยไปในทุกขบบวนการขนสินค้าเถื่อนอื่นๆ และมีแทรกไปในทุกด่านชายแดนและทุกเมืองชายแดนด้วย

เมื่อผ่านจากด้านชายแดนระหว่างประเทศเข้ามาได้แล้ว นำน้ำมันเถื่อนที่ลักลอบนำเข้ามาก็จะถูกนำไปเก็บไว้ในโกดังที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในเมืองชายแดนต่างๆ จากนั้นก็จะมีระบบกระจายให้ถึงมือผู้บริโภคในหลายจังหวัดของภาคใต้ ด้วยการใช้รถกระบะบรรทุกไปส่งเฉลี่ยคันละ 2,000-3,000 ลิตร โดยขั้นตอนนี้ผู้ขับขี่รถกระบะดังกล่าวจะถูกเรียกว่า “ตีนผี” เพราะต้องทำเวลาและรู้เส้นทางหลบหลีกเป็นอย่างดี



กองทัพมดที่ใช้เส้นทางลักลอบขนทางบก

เป็นที่น่าสังเกตว่ารถกระบะบรรทุกน้ำมันเถื่อนส่งผู้ค้ารายย่อยทั่วภาคใต้เหล่านี้ต้องวิ่งบนถนนหลวง ซึ่งก็ต้องผ่านโรงพัก ผ่านจุดตรวจ ผ่านด่านความมั่นคง ด่านตำรวจทางหลวงและอื่นๆ อีกมากมาย ทำไม่จึงไม่เคยปรากฎข่าวการจับกุมจากเจ้าหน้าที่เหล่านั้น แต่กลับเคยมีแต่ข่าวว่า “ทหารชุดปฏิบัติการภัยแทรกซ้อน” เท่านั้นที่ได้สร้างผลงานการจับกุมไว้บ้าง


ประเด็นเหล่านี้ก็เป็นเรื่องที่ “นายหน้า” อีกเช่นกันที่เข้าไปบริหารจัดการให้ทั้งในเรื่องของการแจ้ง “ทะเบียนรถ” และการ “จ่ายภาษีที่ไม่มีใบเสร็จ” ตามข้อตกลงคันละเท่าไหร่ต่อเดือน ไม่เพียงเท่านั้นตามปั๊มและร้านค้ารายย่อยต่างๆ ที่กระจายอยู่ในหลายจังหวัดของภาคใต้ก็ต้องมีภาระค่าใช่จ่ายให้นายหน้าตกราว 500 บาท/เดือนเป็นอย่างน้อย หรือหากมีประมาณสินค้าหมุนเวียนมากๆ ก็อาจจะขยับไปถึง 5,000 บาท/เดือนก็มี

เป็นที่รับรู้กันว่า น้ำมันเถื่อนที่ลักลอบนำเข้ามาจากมาเลเซียแค่กระจายในจังหวัดต่างๆ ของภาคใต้ ปรากฏว่าขนเข้ามาได้จำนวนมากเท่าไหร่ก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด ที่สำคัญผู้บริโภคจำนวนมานิยมใช้นำมันเถื่อนเหล่านั้นด้วยความพึ่งพอใจเสียด้วย เพราะเมื่อเปรียบเทียบกับน้ำมันถูกกฎหมายตามปั๊มหรือสถานบริการต่างๆ มีราคาถูกไม่ต่ำกว่า 3 บาท/ลิตรเป็นอย่างน้อย

ดังนั้นจึงอย่าได้แปลกใจที่เวลานี้เป็นที่รับรู้กันกว้างขวางว่า น้ำมันเถื่อนกล่าวเป็น “สินค้าโอทอป” ของภาคใสต้ไปแล้ว เพราะสามารถเห็นปั๊มเถื่อน เห็นการกระจายในรูปบรรจุแกลอนหรือบรรจุขวดวางขายตามร้านโชห่วยแบบเกลื่อนกลาดไปทั่วทุกเส้นทางชนบทและทุกมุมในเขตเมือง บางถนนหนทางหรือบางย่านถูกเรียกว่าเป็น “ถนนน้ำมันโอทอป” หรือ “ถิ่นน้ำมันโอทอป” ไปเลยก็มี



เรือประมงดัดแปลงที่ลักลอบขนได้คราวละมากๆ

ข้อมูลข้างต้นคือเรื่องราวของขบวนการค้าน้ำเถื่อนทางบกเท่านั้น ส่วนขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนทางทะเลจะเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งนายทุนส่วนใหญ่เป็น “นักการเมือง” ในจังหวัดที่ติดกับชายฝั่งทะเลนั้น เช่น สงขลา สตูล นราธิวาส ตรัง นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี เป็นต้น และนายทุนเหล่านี้ส่วนใหญ่จะมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกิจการประมงอยู่ในมือด้วย เช่น โรงน้ำแข็ง โรงงานปลาป่น โรงงาตนปลากระป๋อง มีเพียงน้อยรายเท่านั้นที่เป็นผู้ค้าน้ำมันเถื่อนโดยเฉพาะ

นายทุนกลุ่มค้าน้ำมันเถื่อนทางทะเลเหล่านี้มักจะสั่งซื้อน้ำมันจากโรงกลั่นที่สิงคโปร์หรือมาเลเซียโดยตรง แล้วนำใส่เรือมาจอดเรือลอยลำในน่านน้ำสากล ซึ่งอาจะเข้ามาในน่านน้ำไทยบ้างครั้งในช่วงที่ทหารเรือเผอเรอ โดยจะลอยลำขายน้ำมันเถื่อนให้กับเรือประมงดัดแปลงที่ซื้อแล้วนำมาขึ้นฝั่งอีกทอดหนึ่ง จากนั้นส่งน้ำมันให้กับลูกค้าที่ส่วนมากจะเน้นลูกค้ารายใหญ่ที่ใช้รถบรรทุก 10 ล้อหรือ 6 ล้อมารับน้ำมันจากท่าเรือเถื่อนไปเอง เพื่อส่งให้กับลูกค้าที่ส่วนใหญ่เป็นปั๊มน้ำมันและโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่

ทั้งหมดทั้งปวงทำให้เห็นภาพชัดเจนว่า ขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างไร ทำให้รัฐบาลไทยสูญเสียเงินภาษีไปปีละไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท ขบวนการเหล่านี้ที่เติบโตได้เป็นเพราะเจ้าหน้าที่รัฐผู้รักษากฎหมายไม่ได้ทำหน้าที่ หากเจ้าหน้าที่รัฐทุกหน่วยไม่ว่าจะเป็นศุลกากร สรรพสามิต ตำรวจและทหาร ต่างทำตามหน้าที่อย่างจริงจัง เชื่อว่าขบวนการน้ำมันเถื่อนก็จะถึงจุดสิ้นสุดแน่นอน

https://mgronline.com/south/detail/...eBxzltD17DwT5K4NdJktp-m1Z95Ar8eKT8SjUNYFcXNls

 

George Nammour

หลุมยุบในนาโปลี: รถบรรทุกถูกกลืน, อพยพผู้อยู่อาศัย - เนเปิ้ล อิตาลี

http://www.meteoweb.eu/2019/07/voragine-napoletano-camion-inghiottito-case-evacuate/1280179/?fbclid=IwAR2p9K5IGUSEsdkomvjFeBApCpy3W9DUpAKC7tuqA8a1jXmZYDxnwHdXJmk

http://poleshift.ning.com/profiles/blog/show?id=3863141%3ABlogPost%3A371430&xg_source=activity&page=1#comments

 

น้ำท่วมหนักที่รัสเซีย เสียชีวิตแล้ว 18 ราย
หมวดข่าว:ต่างประเทศ วันที่ 03 ก.ค. 62 เวลา 14:20:51 น.

อุทกภัยใหญ่ในพื้นที่ไซบีเรียของรัสเซียตั้งแต่ปลายเดือนที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้คร่าชีวิตประชาชนไปแล้ว 18 ราย และสูญหายอีกหลายสิบคน

ชาวรัสเซียอย่างน้อย 1 หมื่นคน ใน 50 หมู่บ้าน ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลสาบไบคาล ในเขตอีร์คูตสก์ (IRKUTSK) ทางตอนใต้ของเขตไซบีเรีย ต้องประสบภัยน้ำท่วมหนัก ระดับน้ำสูงจนเกือบมิดหลังคาบ้านและเสาไฟข้างทาง หลังเกิดฝนตกหนักจนทำให้ระดับน้ำในทะเลสาบไบคาลและแม่น้ำเอ่อล้นฝั่ง บ้านเรือนกว่า 4 พันหลังได้รับความเสียหายตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา และจนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยดังกล่าวแล้ว 18 ราย สูญหายอีก 17 คน มีผู้บาดเจ็บ 1 พัน 303 คน

ทางการรัสเซียประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ประสบอุทกภัยแล้ว และเตือนว่าสถานการณ์อาจเลวร้ายลงหากฝนยังตกต่อเนื่อง ด้านผู้ประสบภัยวิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐว่า ไม่ประกาศเตือนภัยรับมือน้ำท่วมทำให้ต้องสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้เดินทางลงพื้นที่ประสบภัยทันทีหลังกลับจากการประชุมสุดยอด G-20 ที่เมืองโอซาก้าของญี่ปุ่นเมื่อวานนี้ พร้อมทั้งสั่งกองทัพเร่งช่วยเหลือและเยียวยาประชาชนโดยเร็วที่สุด


http://news.ch3thailand.com/abroad/...wYlp9WqIWL6lWMavk_FOYZwGa-90zBCreH4VL51LvBwBU

 

Thairath

มือปั่นเบาๆ 15 นาที ได้ใช้ไฟฟ้า 220 โวลท์ 500 วัตต์ นาน 6-8 ชม.คนรู้ข่าวสั่งจองเพียบ

 

ขอรับบริจาคเลือดช่วยเด็ก 9 เดือน ป่วยไข้เลือดออก อาการโคม่า http://news.ch3thailand.com/local/98586

#ข่าวช่อง3 #Ch3ThailandNews

 

สดๆ ร้อน ข่าวทลายโกดังครีมของ ราชินี บาร์เรีย เน็ตไอดอลคนดัง พบเครื่องสำอางเถื่อนทั้งล็อต

 

Kike Santillana
น้ำท่วมในอินเดีย
รถยนต์ลอยน้ำ เนื่องจากการไหลท่วมอย่างรุนแรงในมุมไบ ประเทศอินเดีย คลื่นขนาดใหญ่และถนนแยกออกจากกัน
2019/07/03

 

วันที่ 3 ก.ค. 62 ดีเปรสชั่น ถล่ม จ.ชลบุรี !! พายุถล่ม บ้านเรือนของประชาชนพังยับ เกือบทั้งตำบลของ อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี รถยนต์ได้รับความเสียหาย เสาไฟฟ้าหักโค่นหลายสิบต้น ชาวบ้านต้องอยู่ในความมืด ขณะฝนยังตกอยู่ตลอดเวลา
เมื่อกลางดึกของคืนที่ผ่านมา ได้เกิดพายุดีเปรสชั่น พัดถล่มในหลายพื้นที่ของอำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี พอหลังจากที่ลมและฝนสงบพบว่า ตำบลบ้านช้าง หมู่ 4 - 7 และ หมู่ 5 ตำบลนามะตูม อำเภอพนัสนิคม บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย ริมถนนสาย พนัสนิคม - หนองเสม็ด ใกล้เคียงวัดเนินหลังเต่า
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ ที่บ้านเลขที่ 18/1 หมู่ที่ 7 ตำบลบ้านช้าง อำเภอพนัสนิคม ซึ่งเป็นบ้านของนายอุดม - นาง สุจิน แพงดี เปิดเป็นอู่ซ่อมรถ ปรากฏว่าหลังคาของอาคารพานิชย์ ถูกแรงลมพายุพัดหอบหลังคาแมททัลชีทร่วงลงมาทับรถยนต์ 2 คัน นอกจากนี้แรงลมยังพัดต้นลำไยที่มีอายุกว่า 100 ปีที่เจ้าของบ้านปลูกเอาไว้หักโค่นทับรถยนต์ที่ลูกค้านำมาซ่อมได้รับความเสียหาย 6 คัน ฤทธิ์ของพายุ ยังได้พัดหลังคาบ้าน และโครงสร้างพังถล่มทับรถแบคโฮเล็กอีก 1 คัน ข้าวของภายในบ้าน รวมถึงเครื่องมือช่าง เปียกฝนได้รับความเสียหาย ภายในบ้าน ไม่สามารถหลับนอนได้ทั้งหมด 4 หลัง
สอบถามรัตชัย สาบุญ อายุ 31 ปี กู้ภัยสว่างเหตุ เจ้าของบ้านเลขที่18/3 เล่าว่า ตนอยู่นอกบ้านมีเพื่อนบ้านโทรมาบอกว่าพายุทั้งฝนและลมพัดบ้านได้รับความเสียหาย จึงได้รีบมาดูพบบ้านตัวเองถูกลมพัดหลังคาพัง จากการสำรวจพื้นที่ ยังพบอีกหลายหลังประกอบไปด้วย หมู่ 4 – 7 ตำบลบ้านช้าง และหมู่ 5 ตำบลนามะตูม อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ชาวบ้านก็เดือดร้อนกันหมดเพราะไม่มีไฟฟ้าใช้และยังได้รับแจ้งรายงานเพิ่มเติมด้วยว่ามีผู้บาดเจ็บที่กำลังทำงานอยู่ภายในโรงงานผลิตธูป จำนวน 5 คน ถูกนำตัวส่ง โรงพยาบาลพนัสนิคมแล้ว ซึ่งหลังจากนี้คงต้องรอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบพร้อมกับช่วยเหลือเยียวยา ถึงผลกระทบกับภัยธรรมชาติต่อไป
สงสัย V.1
Cr:สงสัย V.1 /หน่วยกู้ภัยสว่างเหตุ จุดหัวถนน

 

ปกติไหม?

ภาพจากAlien Skies

 

#นักล่าปลาแซลมอน ภาพชีวิตสัตว์หาดูยาก เมื่อฝูงหมีสีน้ำตาลออกมาล่าปลาแซลมอนในอุทยานแห่งชาติรัฐอะแลสกา หลังสิ้นสุดฤดูจำศีลที่ยาวนาน #ThaiPBSnews

 

ไก่อู มีเหนาะ ๆ เฉียด 40 ล้าน เมีย 103 ล้าน
ป.ป.ช. เปิดกรุ ไก่อู มีเหนาะๆ เฉียด 40 ล้าน ปล่อยกู้ 5 ล้าน ส่วนของคู่สมรส 103 ล้าน พบ นาฬิกา-เครื่องประดับ 74 รายการ 67 ล้าน
#คมชัดลึก #ป.ป.ช. เปิดกรุ ไก่อู

 

“เจ้าชายอาหรับ”เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้า“กาซิมี”สิ้นพระชนม์อย่างไม่คาดฝันที่กรุงลอนดอน
#ข่าวเจาะลึกทันเหตุการณ์ #เจ้าชายอาหรับสิ้นพระชนม์ #ที่กรุงลอนดอน #ข่าวต่างประเทศ

 

BRIEF: ประธานาธิบดีเม็กซิโก บอกว่า อยากยกเลิกและลดบทบาทของกองทัพ เพื่อประกาศว่านี่คือประเทศที่รักสันติภาพ
.
ประธานาธิบดีเม็กซิโก อันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ เคยประกาศลดเงินเดือนตัวเองลง 60 เปอร์เซ็นต์ เคยสั่งให้ขายเครื่องบินประจำตำแหน่ง มาวันนี้ เขาเผยความในใจว่าอยากจะยุบกองทัพ
.
“ถ้ามันขึ้นอยู่กับผม ผมอยากจะยกเลิกกองทัพและเปลี่ยนให้ National Guard ทำหน้าที่แทน เพื่อประกาศว่าเม็กซิโกคือประเทศที่รักสันติภาพ และไม่ต้องการกองกำลัง และถ้าจำเป็นจริงๆ การป้องกันประเทศคือสิ่งที่ทำโดยคนทุกคน” ผู้นำเม็กซิโก ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ La Jornada
.
อย่างไรก็ดี โลเปซ โอบราดอร์ ยอมรับว่านี่คือความตั้งใจของเขาเท่านั้น และมันคงจะเป็นจริงได้ยาก เพราะนโยบายแบบนี้มันขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคนอื่นๆ ด้วย “ผมทำไม่ได้เพราะมีความเห็นที่ต่อต้านอยู่” เขากล่าว
.
ตามความตั้งใจของประธานาธิบดีเม็กซิโก ถ้ายกเลิกกองทัพไปแล้วจริงๆ เขาจะให้ส่วนงานต่างๆ ลดลงไปขึ้นตรงกับ Nation Guard ที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นมาซึ่งขับเคลื่อนด้วยคนกว่า 70,000 คน และทำงานโดยกำลังของตำรวจเป็นหลัก
.
ตามรายงานระบุว่า ที่ผ่านมาบทบาทของกองทัพเม็กซิโกนั้น มีส่วนเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่างประเทศและเรื่องชายแดนเป็นสำคัญ อย่างไรก็ดี กองทัพก็ได้มาดูแลจัดการเรื่องปัญหายาเสพติดในประเทศเป็นอีกหนึ่งภารกิจด้วยเช่นกัน นับตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นมา
.
.
อ้างอิงจาก

https://www.reuters.com/article/us-...ike-to-disband-the-nations-army-idUSKCN1TW31K

https://www.independent.co.uk/news/...z-obrador-national-guard-police-a8983811.html

https://www.aljazeera.com/news/2018...resident-luxurious-plane-181203070149474.html

#Brief #TheMATTER

 

John Traczyk

สนามแม่เหล็กของโลกประสบกับแรงกดดันด้านกลางคืนอย่างไม่น่าเชื่อ (ตรงข้ามกับดวงอาทิตย์) ระหว่าง 00:00 - 06:00 UTC. (7:00 - 13:00 น.ตามเวลาประเทศไทย) ในวันที่ 3 กรกฎาคม 2019

(ด้วยเหตุผลบางอย่างฉันไม่เห็นภาพเหล่านี้ในโพสต์นี้)



Earth's magnetopause experienced an incredible amount of night side pressure (opposite the Sun) between 00:00 and 06:00 UTC July 3, 2019.


(For some reason I can't see these images in this post?)

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

เรากำลังใช้ชีวิตในภาพยนตร์ Geo-Tornado; Tornado ใน Liaoning Kaiyuan ประเทศจีน # 3 กรกฎาคม

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

วิดีโอที่น่าทึ่ง การปะทุของภูเขาไฟ stromboli อิตาลี #3 ก. ค.

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

วิดีโออื่นๆ การปะทุของภูเขาไฟ stromboli อิตาลี #3 ก. ค.

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

เรากำลังใช้ชีวิตในภาพยนตร์ Geo-Tornado Tornado ใน Liaoning Kaiyuan ประเทศจีน # 3 กรกฎาคม #วีดีโอ

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

ดาวตกที่เห็นในท้องฟ้าของฟลอริด้า #3 ก. ค.

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

ภูเขาไฟ Stromboli ในอิตาลีเข้าสู่กิจกรรมหลังจาก 53 ปีของการไม่ใช้งาน นักปีนเขาที่อยู่ในสถานที่เสียชีวิตและนักท่องเที่ยวหลายคนได้รับบาดเจ็บ # 3 กรกฎาคม