กระแส"พญานาค"กับข้อเท็จจริงบางอย่าง(มีคลิป) คนที่ไม่เชื่อควรดูด้วยดุลพินิจ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย 9@Phonlee, 1 กุมภาพันธ์ 2018.

  1. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,886
    ค่าพลัง:
    +4,720
    วัดธาตุมหาชัย ต.มหาชัย อ.ปลาปาก จ.นครพนม
    (หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ)
    อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอปลาปาก
    และอดีตเจ้าอาวาส วัดธาตุมหาชัย


    _oc=AQmmYqPkAxQrF5xZiQ8VElK_wQkyvQ5-5iea15sukopgTmhUncz0vLIaKMoEeLISbpM&_nc_ht=scontent.fbkk12-2.jpg

    32387146_1651698934944446_6439328086163980288_n.jpg

    หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ มีชื่อสกุลว่า คำพันธ์ ศรีสุวงศ์ เกิดเมื่อวันที่ ๑๐ มกราคม พ.ศ.๒๔๕๘ ตรงกับวันจันทร์ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๒ ปีเถาะ ที่บ้านหนองหอยใหญ่ หมู่ที่ ๔ ต.นาแก อ.นาแก จ.นครพนม โดยมีเชื้อสายมาจากจังหวัดร้อยเอ็ด บ้านไผ่อินทรีย์ บ้านนะสะ มีโยมบิดาชื่อ นายเคน โยมมารดา ชื่อนางล้อม และมีน้องสาว ชื่อคำพวง เมื่อตอนหลวงปู่อายุได้ ๕ ปี โยมบิดาเสียชีวิต โยมมารดาได้แต่งงานใหม่กับพ่อเลี้ยงชื่อ นายแสง ซึ่งรักท่านและน้องสาวมาก และท่านยังมีน้องร่วมมารดาอีก 4 คน คือ นางสด วงษ์ผาบุตร, นายมาด แสนสุภา, นางสวย แสนสุภา และนางกดชา เสนาช่วย

    หลวงปู่คำพันธ์ฯ ได้เข้าอุปสมบทเป็นพระภิกษุครั้งแรกเมื่ออายุ ระหว่าง ๒๐-๒๔ ปี โดยมีท่านพระครูสัจจาภิราม (ญาท่านพิม) วัดธาตุศรีคุณ อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม เจ้าคณะอำเภอนาแกองค์แรก เป็นอุปัชฌาย์ และได้อุปสมบทครั้งที่สอง เมื่อวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๔๘๘ ในขณะที่มีอายุได้ ๓๐ ปี โดยมีท่านพระครูนาครธรรมนิเทศ (ญาท่านหน่าน) โพธิ์ชัย บ้านต้นแหน อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม เจ้าคณะอำเภอนาแกองค์ที่สอง เป็นอุปัชฌาย์ และการอุปสมบทครั้งนี้ หลวงปู่คำพันธ์ฯ ได้เรียนกรรมฐานจาก “หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล” ในช่วงที่เดินธุดงค์ผ่านมายังจังหวัดนครพนม หากครั้งไหนหลวงปู่ฯ ติดขัดในข้อกรรมฐานจะไปปรึกษา “หลวงปู่กินรี จันทิโย” ที่บ้านฝั่งแดง อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม และศึกษากับผ้าขาวครุฑ (ที่จังหวัดเลย) ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของ “ญาท่านสำเร็จลุน”

    ผ้าขาวครุฑ ท่านเป็นคนจากบ้านหนองหอย และเป็นญาติกับหลวงปู่คำพันธ์ฯ ด้วย โดยกระดูกของท่านส่วนหนึ่ง หลวงปู่คำพันธ์ฯ ได้นำมาไว้ที่ “วัดส้างพระอินทร์” สำหรับการสอนกรรมฐานของทั้งสามท่านนั้น มีการสอนที่เหมือนกัน คือใช้คำภาวนาพุทโธ สอนสติ ปัฏิฐาน ๔ โดย “หลวงปู่คำพันธ์ฯ” ตั้งใจปฏิบัติเองจนสามารถเห็นพระอินทร์ในสมาธิ วันหนึ่งขณะที่หลวงปู่คำพันธ์ฯ นั่งสมาธิท่านได้พบกับพระอินทร์ หลวงปู่ฯ ได้ถามว่า “พระอินทร์มาทำไม” พระอินทร์ตอบว่า “มานิมนต์สามเณรขึ้นสวรรค์ในวันแรม ๑ ค่ำ (คือพรุ่งนี้)” หลวงปู่ฯ กลัวตายจึงนั่งภาวนาเดินจงกรมทั้งคืนจนเหนื่อย และได้นอนหลับไป สักพักหลวงปู่คำพันธ์ฯ สะดุ้งตื่นกลางดึก และเห็นสิ่งของเครื่องใช้ทุกชิ้นตั้งอยู่ที่เดิม ท่านจึงปลุกพระองค์ที่นอนอยู่ข้างๆ ให้ตื่นขึ้น เพราะท่านนึกว่าตายแล้ว

    จากนั้นหลวงปู่คำพันธ์ฯ ได้บอกกับพระอีกองค์ว่า หากท่านตายให้ตัดนิ้วชี้ทั้งซ้ายและขวา นำไปตากแห้งและส่งไปให้พ่อแม่ของท่าน แต่นับจากวันนั้นท่านก็ยังมีชีวิตอยู่ และอีกครั้งหนึ่งหลวงปู่คำพันธ์ฯ ได้นั่งกรรมฐานแล้วเห็นแสงสว่างเหมือนกับหลอดไฟตกลงมาจากฟ้า และกลายเป็นบันไดให้เดินขึ้นสวรรค์ ท่านได้อธิษฐานด้วยจิตที่แข็งกล้าเพื่อหวังจะได้ปีนขึ้นไปบนสวรรค์ได้สำเร็จ แต่บันไดนั้นกลับเลือนหายไป ตั้งแต่นั้นมาท่านจึงรู้วิธีแก้อารมณ์ กรรมฐาน รู้จักวิปัสนูกิเลส และได้สอนกรรมฐานให้แก่ผู้อื่นได้ จนมีลูกศิษย์ทั่วทุกสารทิศให้ความเลื่อมใสศรัทธา นับถือจนมีชื่อเสียงมาจนถึงทุกวันนี้



    ?d=AQC7M-5RydkGzFF8&w=476&h=249&url=https%3A%2F%2Fi.ytimg.com%2Fvi%2FYhs5kg-ifSw%2Fmaxresdefault.jpg

    พระสุนทรธรรมากรหรือหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ อตีตเจ้าอาวาสวัดธาตุมหาชัยอำเภอปลาปาก จังหวัดนครพนม ท่านมีความผูกพันกับพญานาคมาก หลวงปู่คำพันธ์กล่าวว่าทางฝั่งไทยและฝั่งลาวต่างมีกษัตริย์แห่งนาคราช หรือนาคาธิบดี แยกปกครองดูแล

    ฝั่งไทยคือพญาศรีสุทโธนาคราช(นาคาธิบดีศรีสุทโธ)เป็นกษัตริย์พญานาคฝั่งไทยเป็นพญานาคหนึ่งเศียร
    _oc=AQkaZRjTXvTvidjZwV2hmzpV8L0RunCotgZr93yqz_AuYb8MvHU0tunktL3RXS2TR64&_nc_ht=scontent.fbkk12-4.jpg


    ฝั่งลาวคือพญาศรีสัตตนาคราช (นาคาธิบดีสีสัตตนาคบาดาล)ซึ่งเชื่อว่าเป็นกษัตริย์แห่งพญานาคฝั่งลาวเป็นพญานาคเจ็ดเศียร
    c_oc=AQk_9Q1Lk0HlkeUHT_wkmKML-xV4BpOgY6G5ezWBlO9wdEdKNYZf0DbkWVaOeU_vHgo&_nc_ht=scontent.fbkk8-2.jpg




    การไหว้พระธาตุ ถือเป็นการเสริมสร้างสิริมงคลให้แก่ชีวิตเป็นอย่างยิ่ง เพราะการบูชาพระธาตุ อันเป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะนำมาซึ่งความสุข ความเจริญมาสู่ผู้ที่บูชา รวมทั้งอานิสงส์ผลบุญที่ได้จากการกราบไหว้บูชา ยิ่งหากใครบูชาด้วยจิตใจศรัทธาอันบริสุทธิ์ และหมั่นกราบไหว้เมื่อมีโอกาส อานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ของพระธาตุ จะดลบันดาลให้เกิดสิริมงคลในชีวิตแก่ตัวผู้บูชา
    _oc=AQkCn-WyAzC8Qr1fHgjh5xyO-D_7VNTK0o2ZXdV3mLmwAxuExww9LBxRkP0AXe8lRQM&_nc_ht=scontent.fbkk13-1.jpg



    "ยันต์สมปรารถนา หลวงปู่คำพันธ์"
    ที่มาของยันต์หลวงปู่คำพันธ์นั้น หลวงปู่ได้มาจากการศึกษาอักษรจารึกบนแผ่นศิลา ใต้ฐานองค์พระธาตุพนม ซึ่งค้นพบหลังจากพระธาตุพนมล้มลง เมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๘ โดยหลวงปู่คำพันธ์กล่าวไว้ว่า "ภาษาจารึกเป็นภาษาสวรรค์" ทั้งนี้หลวงปู่ได้นำมาปรับแต่งและเขียนยันต์ขึ้นมาใหม่ เพราะท่านธรรมอีสาน อักษรขอม อักษรไทยน้อย อ่านเขียนได้คล่องแคล่วและมีความชำนาญ โดยใช้ชื่อว่า "ยันต์สมปรารถนา"
    _oc=AQkIlD0cYoX9j3RG8BqhyCGaXb2584eeSCZpjdMDwv_lYad_WoU6GkrklnMJcjlNsek&_nc_ht=scontent.fbkk12-1.jpg
    _oc=AQlVqpbsksaLU3et_B65PCTi1GXVSxxBL1zb7LF7XObpBRfo4Vtvzsm49qQA7jCN8kM&_nc_ht=scontent.fbkk12-3.jpg
    _oc=AQmKsFfn-SWYabM4E2MvgXC9lhiI5HiqB0t22EmiCRfVpC71x-2rlR5tRiRz1YEwvGQ&_nc_ht=scontent.fbkk12-4.jpg



    หินปฐวีธาตุ
    ธาตุกายสิทธิ์ ของหลวงปู่คำพันธ์
    เกจิอาจารย์ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันนั้นยอมรับว่าหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญญา คือพระอภิญญาที่สามารถอธิษฐานจิตลงเม็ดหินแล้วอธิษฐานใช้ได้สารพัดนึก จนได้รับฉายาจากพระลูกศิษย์และประชาชนทั้วประเทศว่า "เทพเจ้าแห่งลุ่มแม่น้ำโขง"
    c_oc=AQmonpes3D09IID3Zgkdd5aRGI--Hbp_-x8r0LTTdwNEYh62MdhL3IQ2guuZ7W6lhQA&_nc_ht=scontent.fbkk8-4.jpg
    การบูชาปฐวีธาตุ
    หลวงปู่สั่งว่า เมื่อได้ปฐวีธาตุมาแล้วถ้าจะบูชาติดตัวก็พยายามเลี่ยมแบบเปิดหน้า เปิดหลังให้ปฐวีธาตุได้สัมผัสกับไอของร่างกาย ธาตุจะดึงดูดซึ่งกันและกันปรารถนาสิ่งใดก็ให้ตั้งจิตเอา ปฐวีธาตุช่วยได้ แต่ถ้าบูชาอยู่กับบ้าน ให้เอาปฐวีธาตุแช่น้ำสะอาดตั้งบูชาไว้บนที่สูง ใส่น้ำอบ น้ำหอมผสมลงในน้ำเป็นการบูชา ลอยด้วยดอกมะลิหรือดอกไม้หอมอื่นก็ได้ จุดธูปบูชา 7 ดอก สวดบทพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ แล้วต่อด้วยพระคาถานี้
    “ หิตะหิรา มันทิโล กะสิรา กะละลาสติ โสจะถิโห คะเนตะเน ” ( 3จบ ) แล้วตั้งจิตระลึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุณมารดา บิดาคุณครูบาอาจารย์ พระคุณของหลวงปู่คำพันธ์ โฆษปัญโญ เหล่าพญานาคผู้รักษาองค์พระธาตุพนมและพระธาตุมหาชัย และทั้งที่สถิตอยู่ในลำน้ำโขงปรารถนาสิ่งใดก็อธิษฐานเอา หลวงปู่บอกว่า ปฐวีธาตุมีคุณวิเศษครอบจักรวาลมีทุกข์ร้อนสิ่งใดก็ให้บอกกล่าว สามารถช่วยเหลือได้จริง



    safe_image.php?d=AQCP0Nc3WNRlsM_D&w=600&h=600&url=fbstaging%3A%2F%2Fgraph.facebook.jpg
    หลวงปู่คำพันธ์ มรณภาพ มรณภาพ พระสุนทรธรรมากร (หลวงปู่คำพัน โฆสปัญโญ) ได้มรณภาพลงดัวยอาการอันสงบ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน 2546 เวลาประมาณ 02.00 น.
    ที่วัดธาตุมหาชัย สิริรวมอายุ ๘๘ ปี ๗๑ พรรษา



    ที่มา...Facebook วัดธาตุมหาชัย
     
  2. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,342
    ค่าพลัง:
    +4,818
    เฮ้อ พักนี้เจอมรสุม หลายเรื่อง เอาเปรียบจาก เพื่อนมนุาย์ด้วยกัน กำลังท้อๆ ก็เหลือบไปเห็นเหรียญตระกรุดเมเนื้อเงิน ของหลวงพี่ อ.น วัด ท.ซ ก็หยิบมาพิจารณา ว่า จะอาธนาดีมั๊ยอยู่หลายตลบ เพราะ วัตถุมงคล พวก ตะกรุดเม มหาสะท้อน นั้น ทำงานโดย อัตโนมัติ ไม่สนว่า จะเป็นคนที่เรารักหรือศัตรู ถ้าหากมีการกระทบก็จะทำงานทันที สุดท้ายก็ตัดสินใจอารธนา เพราะคิดว่าเขาไม่เกรงน้ำใจเรา เราก็จะตอบแทนเขาดุจนั้นบ้าง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,886
    ค่าพลัง:
    +4,720

    "หลวงพี่ อ.น วัด ท.ซ "

    วัดท่าซุง หรือครับ
    แล้วหลวงพี่ อ.น คือท่านไหนครับ ?
     
  4. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,886
    ค่าพลัง:
    +4,720
    ประวัติวัดป่ามหาชัย
    ต.มหาชัย อ.ปลาปาก จ.นครพนม
    (หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ)
    อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอปลาปาก
    และอดีตเจ้าอาวาส วัดธาตุมหาชัย




    2010-09-21_222738.jpg
    ภาพประกอบ หนองดินดับ หรือ หนองขี้หมาจอก
    ประวัดป่ามหาชัย (โดยสังเขป)
    บริเวณที่สร้างวัดป่าแห่งนี้ แต่ก่อนเป็นป่ารกรัฏ ไม่มีถนนตัดผ่าน มีหนองน้ำอยู่แห่งหนึ่ง
    ชาวบ้านเรียกว่า “หนองดินดับ” หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “หนองขี้หมาจอก”
    เพราะมีสุนัขจิ้งจอกอาศัยอยู่มาก เป็นสถานที่น่ากลัว แม้แต่ตอนกลางวัน
    ชาวบ้านก็ไม่กล้าเข้ามาในสถานที่หนองน้ำนี้มากนัก หนองน้ำนี้
    มีบริเวณกว้างเป็นปริมณฑล มีน้ำตลอดปีแต่ไม่ลึก

    หลวงปู่เล่าให้ฟังว่า ในขณะดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะตำบลมหาชัย
    และเป็นเจ้าอาวาสวัดธาตุมหาชัยอยู่นั้น เมื่อไปประชุมด้วยกิจของคณะสงฆ์ที่ตัวอำเภอ
    จะต้องเดินผ่านไปเพราะไม่มีทางรถ ในการเดินไปประชุมที่อำเภอปลาปากนั้น
    จะต้องเดินผ่านบริเวณหนองขี้หมาจอกนี้ทุกครั้ง เมื่อเดินมาถึงบริเวณนี้ครั้งใด
    จิตหลวงปู่ก็จะแวะชมสถานที่แห่งนี้ทุกครั้ง และมีความรู้สึกแช่มชื่นบากเบินใจตลอดทุกครั้ง
    เหมือนกับว่าสถานที่แห่งนี้จะเป็นที่กำเนิดพระอริยสงฆ์
    2010-09-21_224554%20copy.jpg
    วัดป่ามหาชัย
    หลายเดือนผ่านมา หลวงปู่ได้บอกให้ลูกศิษย์ของท่าน
    ที่เป็นพระภิกษุสามเณรและฆราวาสให้ไปลองนั่งสมาธิบริเวณนั้นดู
    พอลูกศิษย์ทั้งหลายไปถึงที่นั้น ขณะที่พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน
    พวกลูกศิษย์ก็ได้พบงูใหญ่สีดำตัวหนึ่ง ขณะเลื้อยขึ้นจากหนองน้ำนั้น
    แล้วก็เลื้อยเข้าป่าทางทิศตะวันออก

    พอรุ่งเช้า ลูกศิษย์ทั้งหลาย ก็พากันกลับวัดเล่าเรื่องงูใหญ่สีดำให้หลวงปู่ฟัง
    หลวงปู่ได้เกิดความรู้สึกว่า สถานที่แห่งนี้เคยเป็นสถานที่พญานาคเคยอยู่อาศัย
    จึงคิดจะสร้างวัดขึ้นมา 2010-09-21_230950.jpg
    2010-09-21_232902.jpg
    ศาลาหลังเดิมวัดป่ามหาชัย

    วันต่อมา หลวงปู่ได้สอบถามชาวบ้านถึงที่ดินบริเวณนี้
    ก็ได้ทราบว่าเป็นที่ทำเลเลี้ยงสัตว์ของชาวบ้านวังม่วง
    หลวงปู่ได้ให้โยมไปเชิญผู้ใหญ่บ้านวังม่วงมาพบ เพื่อปรารภเรื่องที่ดิน
    ที่จะสร้างวัด โยมผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านวังม่วงเห็นสมควรด้วย
    ก็เลยอนุโมทนายกที่ดินผืนนี้ให้กับหลวงปู่สร้างวัดขึ้นมา

    ได้นำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมสภาตำบลโดยกำหนดบริเวณวัดเป็นเนื้อที่ ๔๗ ไร่ (ปัจจุบัน ๘๐ไร่)
    ่และมีมติกันว่า ให้ชาวบ้านทุกหมู่บ้านในตำบลมหาชัย สร้างกุฏิถวายหมู่บ้านละ ๑ หลัง
    มติที่ประชุมลงวันที่ ๕ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๒๗ และกุฏิหลังแรกที่สร้างขึ้น
    วันที่ ๒๘ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๒๗ โดยคณะศรัทธาชาวบ้านถาวร โดยการนำของนายคันธนา อินราช
    ตั้งชื่อกุฏิหลังนี้ว่า “กุฏิถาวรราษฎร์เนรมิต” เพราะสร้างเสร็จภายในวันเดียว

    ต่อจากนั้นกุฏิแต่ละหมู่บ้านต่างๆที่อยู่ในเขตตำบลมหาชัยบ้านมหาชัยบ้านดอนกลาง
    บ้านทันสมัยบ้านวังม่วงบ้านหนองบัวบ้านห้วยไหล่ได้สร้างถวายหลวงปู่จนครบทุกหมู่บ้าน
    ต่อมามีญาติโยมจากหมู่บ้านต่างๆก็ได้มาสร้างกุฏิถวาย
    2010-09-21_234106.jpg
    ภาพงานปฏิบัติธรรมกรรมฐาน วัดป่ามหาชัย
    หลวงปู่ได้ตั้งชื่อวัดว่า “วัดป่าอรัญญคาม” ซึ่งแปลว่า “วัดที่มีหมู่บ้านและป่าล้อมรอบ”
    คือวัดแห่งนี้ตั้งอยู่ระหว่างกลางแต่ละหมู่บ้าน แต่ละหมู่บ้านห่างจากวัดประมาณ ๓ กิโลเมตร
    เมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๙ หลวงปู่ได้นำพาศิษยานุศิษย์ ทั้งบรรพชิตและฆราวาส ปฏิบัติธรรมกรรมฐาน
    โดยกำหนดเอา ขึ้น ๑๐ ค่ำเดือน ๒ ของทุกปี รวมเวลา ๑๕ คืน ๑๕ วัน

    หลักปฏิบัติกรรมฐาน ยึดตามแนว หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
    คือ กำหนด ภาวนา พุทโธ มีพระภิกษุสามเณร อุบาสก อุบสิกา ในเขตตำบลมหาชัย
    เข้าร่วมปฏิบัติธรรม เมื่อคนมาปฏิบัติธรรม เห็นผลแห่งการปฏิบัติ ก็บอกต่อไปกันไป
    ในปีต่อมา ก็มีพระภิกษุสามเณร อุบาสก-อุบาสิกา ในเขตอำเภอ ในจังหวัด
    ต่างจังหวัด ทั่วประเทศ
    หลวงปู่ได้สร้างแนวคิดแนวทางปฏิบัติแก่พระสงฆ์ในจังหวัดนครพนม
    เริ่มมีการจัดการปฏิบัติธรรมในหลายที่และคนก็สนใจการปฏิบัติธรรมมากขึ้นตามลำดับ
    2010-09-22_000507.jpg
    พระสุนทรธรรมากร (หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ)
    จาริกเผยแผ่ธรรมนำปฏิบัติ
    หลวงปู่ได้พาศิษยานุศิษย์ จัดปฏิบัติธรรมสัญจรหลายที่
    เช่น วัดสร้างพระอินทร์ อำเภอนาแก, ป่าช้าบ้านพุ่มแก อำเภอนาแก,
    วัดโฆสมังคลาราม ตำบลโคกสว่าง อำเภอปลาปาก

    เป็นพระอาจารย์ใหญ่สายกรรมฐาน
    หลายวัดเริ่มมีการจัดงานปฏิบัติธรรมกรรมฐานขึ้น และได้นิมนต์
    หลวงปู่ไปบรรยายธรรม สอนกรรมฐาน

    เมื่อวันที่ ๑๕ เดือน กันยายน พ.ศ.๒๕๓๗
    หลวงปู่ได้ทำหนังสือขออนุญาตสร้างวัด ได้รับความเห็นชอบจากมหาเถรสมาคม
    และกระทรวงศึกษาธิการ ประกาศตั้งขึ้นเป็นวัดในพระพุทธศาสนามีนามว่า “วัดป่ามหาชัย”
    ประกาศ ณ วันที่ ๘ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๓๘
     
  5. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,342
    ค่าพลัง:
    +4,818
    หลวงพี่อนันต์ วัดท่าซุงครับ
     
  6. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,886
    ค่าพลัง:
    +4,720
    พญานาคทั้ง ๕ ณ พระธาตุมหาชัย

    " เมื่อหลวงปู่คำพันธ์สร้างพระธาตุมหาชัย ด้วยแรงศรัทธาอันแรงกล้าที่จะสร้างมหาเจดีย์ ช่วงท่านอธิษฐานขอสร้างพระธาตุมหาชัย แรงอธิษฐานอันบริสุทธิ์แรงไปถึงสามโลก จนพญานาคผู้เป็นใหญ่ในเมืองบาดาลได้มอบให้เสนา ๕ ตน ผู้มีอิทธฤทธิ์เหนือพญานาคธรรมดาและให้ผลกับผู้ที่เชื่อถือสักการบูชามาปกปักรักษาพระธาตุมหาชัยแห่งนี้ ซึ่งพญานาคทั้ง ๕ ตน คือ ชะยะนาคราช ยะสะนาคราช โภคะนาคราช พะละนาคราช และ สุขะนาคราช "

    c_oc=AQl3oWad1UhaJBBhqZo-tPLsH2j6sgUhbgOUmet764slVrTQEP2iWXR9P8V0EB3--5o&_nc_ht=scontent.fbkk8-2.jpg

    _oc=AQkKwhis1aUNG5wbnt08EFz5uLIeGsAOopK4srnqx0i4ZQr34Bx9gM5gLwG6Bi5wxck&_nc_ht=scontent.fbkk12-1.jpg

    _oc=AQlCYQfCjlknmlxVRp9E6uePHEDnD309iR7OWkc_jR9JcVoI48SeXNc2sYxHM75zZxE&_nc_ht=scontent.fbkk12-1.jpg
    _oc=AQlxHK1T6dMm9ZlUAl3BpDLPsFC2EqpVJ3RkiB0xhFGJjNo_EpR93maH6bMfLg4Dw6M&_nc_ht=scontent.fbkk12-4.jpg



    จากหนังสือ "อมตะพระเกจิ เทพเจ้าแห่งลุ่มแม่น้ำโขง"
     
  7. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,886
    ค่าพลัง:
    +4,720
    พิพิธภัณฑ์พระสุนทรธรรมากร วัดธาตุมหาชัย

    พระธนเดช จิระธัมโม เล่าให้ฟังว่า พิพิธภัณฑ์พระสุนทรธรรมากร หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ อดีตเจ้าอาวาสผู้ก่อตั้งวัดแห่งนี้ มีความเชื่อกันว่าสามารถสื่อสารกับพญานาคได้ จึงได้สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึง ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับวังนาคิน ทำมาจากหินศิลาแลง ภายในมีประติมากรรมชีวประวัติของหลวงปู่ที่เป็นฝีมือของชาวบ้านเอง นับว่ามีความสวยงามไม่แพ้ช่างฝีมือเลย

    _oc=AQlCYQfCjlknmlxVRp9E6uePHEDnD309iR7OWkc_jR9JcVoI48SeXNc2sYxHM75zZxE&_nc_ht=scontent.fbkk12-1.jpg

    _oc=AQnuye0yItNtbdfsqImhvO9ZMpdlN6Nwl1vlCbBj9_G8BDcJVValNfSrMoArAy9-aZE&_nc_ht=scontent.fbkk12-4.jpg
     
  8. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,886
    ค่าพลัง:
    +4,720
    ชื่อวัดธาตุมหาชัย

    วัดธาตุมหาชัย แต่เดิมในการตั้งวัดครั้งแรกมีชื่อว่า วัดโฆษการาม บ้านมหาชัย ตำบลปลาปาก อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๕ ได้เปลี่ยนเป็นวัดมหาชัย และเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๑ ได้เปลี่ยนใหม่อีกครั้งเป็นวัดธาตุมหาชัย เพราะถือเอาพระธาตุเป็นสัญญาลักษณ์สำคัญมาโดยชื่อนี้จนถึงปัจจุบัน

    พระพุทธไชยสิทธิ์
    ภายในพระอุโบสถวัดธาตุมหาชัย ประดิษฐานพระประธานคือ พระพุทธไชยสิทธิ์ เป็นพระพุทธรูปอันศักดิ์สิทธิ์ และยังมีประติมากรรมที่สวยงาม จากพระพุทธรูปปางห้ามญาติที่แกะสลักจากไม้ต้นสะเดาหวานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย ขณะเดียวกัน ภายในพระอุโบสถยังมีภาพจิตรกรรม แสดงเรื่องราวการสร้างบ้านมหาชัย และการสร้างพระธาตุมหาชัย และที่สำคัญคือ วัดธาตุมหาชัย เป็นสถานที่จำพรรษาของหลวงปู่คำพันธ์โฆสปัญโญ พระคณาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบและเชื่อกันว่า ท่านคือพระอริยสงฆ์ผู้เปี่ยมไปด้วยบารมีแห่งดินแดนอีสานอีกท่านหนึ่ง

    _oc=AQkT8Ft_1SSTXsEpIr62EhOuVUHbxJSSQusQ4QwZovBETaIbkJgf1Xy5JdqwkhLLJB0&_nc_ht=scontent.fbkk12-1.jpg
    _oc=AQlxHK1T6dMm9ZlUAl3BpDLPsFC2EqpVJ3RkiB0xhFGJjNo_EpR93maH6bMfLg4Dw6M&_nc_ht=scontent.fbkk12-4.jpg
     
  9. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,886
    ค่าพลัง:
    +4,720
    พระธาตุมหาชัยองค์เดิม

    สร้างเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2518 โดยดำริของหลวงปู่ หลังจาก
    ที่หลวงปู่ได้นำพาญาติโยมมาสร้างบ้านมหาชัย และสร้างวัดโฆษการาม ต่อมาจึงดำริที่จะสร้างพระธาตุขึ้น
    เพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางจิตใจของชาวพุทธ โดยได้รับความร่วมมือจากญาติโยม
    ชาวตำบลมหาชัยทุกหมู่บ้านได้นำเอาหินลูกรัง และดินมากองรวมกันให้เป็นเนินสูงเพื่อจะให้เป็นฐานพระธาตุ
    จนได้เนินสูงพอสมควร ต่อมาได้มีหน่วยงานของทางราชการมาช่วย เช่น หน่วยงานเร่งรัดพัฒนาชนบท (ร.พ.ช.) ได้นำรถแทรกเตอร์มา
    ช่วยทำฐานพระธาตุเพียงหยาบๆ จนได้ฐานพระธาตุกว้าง 17 เมตร ยาว 23 เมตร สูง 4.50 เมตร การสร้างพระธาตุหลวงปู่
    ได้ดำเนินการสร้างแบบค่อยเป็นค่อยไป อาศัยกำลังจากญาติโยมและพระภิกษุสามเณรในวัด
    c_oc=AQn2nE3qy-CI98nWPJxazGIuIg1-rz0ABukCOIV-1d8_NYvmqZ5SpELy-odMJ00aYWc&_nc_ht=scontent.fbkk8-3.jpg
     
  10. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,886
    ค่าพลัง:
    +4,720
    องค์พระธาตุมหาชัย

    เป็นปูชนียสถานที่สำคัญยิ่งแห่งหนึ่ง เพราะเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันต์สารีริกธาตุ ภายในพระอุโบสถนอกจากพระประธานคือ พระพุทธไชยสิทธิ์แล้วยังมีพระพุทธรูปปางห้ามญาติสลักจากไม้ต้นสะเดาหวานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และภาพเขียนบนฝาผนังอุโบสถแสดงพุทธประวัติ มีลวดลายศิลปกรรมที่งดงามมากในภาคอีสาน

    c_oc=AQnn1-PRJD_IKRAQMDmKPGfajSHW2KfRlBm6bUpIyTgGopR2N3aAzLxj2aLIxBlXdgw&_nc_ht=scontent.fbkk8-2.jpg


    พระธาตุประจำวันพุธ
    พระธาตุมหาชัย
    ประดิษฐานอยู่ที่วัดพระธาตุมหาชัย ต.มหาชัย อ.ปลาปาก บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตสารีริกธาตุ ของพระอัญญาโกนทัญญะ พระสารีบุตร และพระอนุรุทร บริเวณใกล้เคียงยังมีพระพุทธรูปสลักจากไม้ต้นสะเดาหวาน ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และภาพเขียนฝาผนังอุโบสถ แสดงพุทธประวัติ อันงดงาม และหาชมได้ยากยิ่งในภาคอีสาน ผู้ที่ไปนมัสการพระธาตุแห่งนี้ ได้จะรับอานิสงส์ประสบชัยชนะในชีวิต

    c_oc=AQn-0zb2XeD6JHa5MhFv-tN6lSc4nnz_Ldo9FMKYjpzKd9gJg2H4-akdppIQ41eoRB0&_nc_ht=scontent.fbkk8-3.jpg

    _oc=AQmaaa0OdC1qeU_aWDyycya_3Ng_ZIWzcYfdxHM6CYYUFTrSpViRNPi3wQJUHjbqgU8&_nc_ht=scontent.fbkk12-3.jpg



    ที่มา....
    FB วัดธาตุมหาชัย
     
  11. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,886
    ค่าพลัง:
    +4,720
    ขออนุญาตย้อนเล่าเรื่อง24สาวงาม
    ผู้ร่วมคัดเลือกเพื่อเข้าประกวด Miss Thailand World
    เดินทางมาทำบุญเวียนเทียนวันอาสาฬหบูชา
    ที่วัดป่าภูหายหลง เขาใหญ่ (อีกครั้ง)

    เหตุเพราะวันนั่น...
    ตรงกับวันสำคัญทางพุทธศาสนา
    "วันอาสาฬหบูชา"(ก่อนวันเข้าพรรษา1วัน)
    บังเอิญมีกลุ่มเมฆคล้ายพญานาค
    ปรากฏบนท้องฟ้า...
    หรือที่ผมเรียกว่า*ความบังเอิญทางธรรมชาติ*
    ...ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันที่สาวงาม24คน
    กำลังก้าวย่างเดินขึ้นบันไดพญานาค

    75490 - Copy - Copy.jpg
    75492 - Copy (2).jpg

    ที่นำเกล็ดเล็กเกล็ดน้อย"สนุกๆ"
    ...มาเล่าสู่การฟัง
    เหตุเพราะเมื่ออิงตำนานพญานาค
    ...ที่เล่าขานสืบต่อๆกันมา
    พญานาคติดจิตข้ามภพชาติในด้านความรัก
    มีจิตพะวง...ผูกติดกับความรักในอดีตชาติ
    หรือ มีความรู้สึกรักชอบของสวยๆงามๆ
    รวมทั้ง...เหล่าลูกหลานพญานาค
    ที่ชาติภพนี้ได้เกิดเป็นมนุษย์
    ถึงแม้จะอยู่ต่างภพ ต่างภูมิ
    เมื่อถึงวาระได้พบเจอกัน...
    จะเกิดความรู้สึกถูกอกถูกใจซึ่งกันและกัน

    ขณะเดียวกันชาติภพพญานาค
    เป็นภูมิที่มีอิทธิฤทธิ์
    และฝักใฝ่ศรัทธา ปกป้องพุทธศาสนา
    ตั้งแต่สมัยพุทธกาล
    ...จนถึงกาลปัจจุบัน

    การเกิดกลุ่มเมฆดูคล้ายพญานาค
    ...ในวันเวลาที่ตรงกันดังกล่าว

    จึง(อาจ)เป็นไปได้
    ...ตามที่กล่าวข้างบนคือ
    หนึ่ง...เรื่องของความรัก...รักชอบของสวยงาม
    สอง...อิงตามตำนานพญานาคกับพุทธศาสนา
    อันได้แก่...
    "พญานาคปกป้องพุทธองค์"
    "พญานาคหนีแอบบวช"


    แต่วันนั่น...ขอมาแค่ "แอบเฝ้ามอง"
    ...อาจจะมาเฝ้ามองใครสักคน ?
    ...และขณะเดียวกันก็มา

    "เฝ้าดูแลพุทธศาสนาไปในตัว"

    หรืออาจเป็นความ"บังเอิญ"(อีกครั้ง)

    ที่นำมาเล่าสู่กันฟังในเช้าวันนี้
    ...แค่เป็นความเชื่อส่วนบุคคล นะคร๊าบ

    เปิดดูไฟล์ 5008212

    เปิดดูไฟล์ 5008216
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กรกฎาคม 2019
  12. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,886
    ค่าพลัง:
    +4,720
    24 สาว “มิสไทยแลนด์เวิลด์” ใส่ชุดไทยเดินขึ้นเขา เวียนเทียนวันอาสาฬหบูชา
    เผยแพร่: 16 ก.ค. 2562 22:03 ปรับปรุง: 16 ก.ค. 2562 22:09 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    562000007001701.jpg




    ชมเต็มอิ่ม บรรยากาศผู้เข้าประกวด “มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2019” เก็บตัวทำกิจกรรม ทำปุ๋ยนม ย่ำดิน รีดนมวัว ใส่ชุดไทยเดินขึ้นเขาวัดป่า เวียนเทียนวันอาสาฬหบูชา สวยละลายงดงามแบบหญิงไทย


    24 ผู้เข้าประกวด “มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2019” เก็บตัวทำกิจกรรมนอกสถานที่วันแรกสุดประทับใจ โดยช่วงเช้าตรู่ 24 ผู้เข้าประกวดฯ พร้อมกันที่อาคารมาลีนนท์ช่อง 3 ก่อนนั่งรถยนต์ ฮุนได เอชวัน เดินทางไปยังที่หมาย องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี ที่เรียกได้ว่าเป็นฟาร์มโคนมแห่งแรกของประเทศไทย ต้นกำเนิดอาชีพโคนมพระราชทาน โดยในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงริเริ่ม หลังจากเดินทางไปเยือนประเทศเดนมาร์ก

    ซึ่งเมื่อไปถึงฟาร์มโคนมฯ มี นายบุญจันทร์ เจริญรัมย์ ตำแหน่ง หัวหน้าองค์การส่งเสริมฟาร์มโคนมแห่งประเทศไทย(อ.ส.ค.) ให้การต้อนรับ พร้อมบอกเล่าประวัติความเป็นมาของฟาร์มโคนมฯ แห่งนี้ ก่อน 24 ผู้เข้าประกวดดี๊ด๊านั่งรถรางท่ามกลางวิวทิวทัศน์เขียวขจีไปยังจุดแรก “ศูนย์กสิกรธรรมชาติ” โดยแบ่งเป็นออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกทำปุ๋ยนม ที่จะมีนมบางกล่องที่ไม่ผ่านมาตรฐานของทางฟาร์ม นำมาทำเป็นปุ๋ยนมวัว เพื่อเป็นอาหารให้แก่พืชและต้นไม้ต่อไป กลุ่มที่ 2 เรียนรู้ขั้นตอนการทำอิฐดิน โดยใช้เท้าย่ำดิน และเมื่อได้อิฐดิน จะนำไปทำเป็นบ้านดิน ถือเป็นการช่วยลดโลกร้อนอีกทางหนึ่ง จากนั้นทั้งหมดนั่งรถรางไปยังจุดที่สอง อาคารประวัติศาสตร์ 1962 เพื่อเรียนรู้การรีดนมวัว โดยวิทยากรให้ความรู้เกี่ยวกับการรีดนมวัวทีละขั้นตอน ก่อนให้ทั้งหมดแบ่งกลุ่มลงมือรีดนมวัวอย่างจริงจัง

    จากนั้นทั้งหมดขึ้นรถรางเพื่อไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตนมไทย-เดนมาร์ค และเครื่องจักร (High-Speed) เป็นอันจบกิจกรรม งานนี้หลังจากจบกิจกรรมผู้เข้าประกวดทั้งหมดต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าประทับใจทุกกิจกรรม นอกจากสนุกสนาน ยังได้ทำกิจกรรมที่มีประโยชน์ เข้าใจเกษตรกรไทยมากขึ้น กว่าจะมีผลผลิตให้เราได้รับประทานต้องผ่านหลายขั้นตอน และที่นี่ถือเป็นแหล่งเรียนรู้เชิงเกษตรที่ทรงคุณค่า สามารถมาเที่ยวมาลงมือทำได้ทั้งครอบครัว

    ตอนเย็นสาวงามแต่งกายด้วยชุดไทยสวยงาม เดินทางขึ้นเขาไปยังวัดป่าภูหายหลง เพื่อสักการะขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์เอาฤกษ์เอาชัย พร้อมทำกิจกรรมเวียนเทียนเนื่องในวันอาสาฬหบูชา จบวันไปแบบอิ่มบุญอิ่มใจ เรียกว่าวันนี้มีกิจกรรมดีๆ ให้ผู้เข้าประกวดได้ร่วมกันทำตลอดทั้งวัน

    562000007001702.jpg
    562000007001703.jpg
    562000007001704.jpg
    562000007001705.jpg
    562000007001706.jpg
    562000007001707.jpg
    562000007001708.jpg
    562000007001709.jpg
    562000007001710.jpg
    562000007001711.jpg
    562000007001712.jpg
    562000007001713.jpg


    562000007001714.jpg
    562000007001715.jpg
    562000007001716.jpg
    562000007001717.jpg
    562000007001718.jpg
    562000007001719.jpg
    562000007001720.jpg

    ขอขอบคุณที่มา
    นสพ.ผู้จัดการออนไลน์
     
  13. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,886
    ค่าพลัง:
    +4,720
    เช้าวันนี้ขอนำคลิปวิดีโอ
    "ปริศนาเส้นทางหมายเลข 8 สู่วัดป่าภูหายหลง"
    ...มาให้ทุกท่านได้ชม




    หมายเหตุ
    ณ วันนี้ พระครูบรรพตสมานคุณ
    หรือ พระอาจารย์ประพันธ์ อนาวิโล (หลวงพ่อสุ่ม)
    เจ้าอาวาสวัดป่าภูหายหลง
    ท่านมีดำริห์จะสร้างพระพุทธรูปทองเหลือง
    "พระพุทธมงคลทวีชัย" หน้าตักกว้าง 9 นิ้ว
    จำนวน 8 องค์ ประดิษฐ์ฐานเคียงข้าง...
    ระหว่างบันไดทั้ง2ฝั่งที่ขึ้นสู่พระวิหาร
    ทั้งซ้ายและขวาฝั่งละ4องค์ (ประมาณตามรูป)
    87668.jpg

    1508111064723 - Copy.jpg
    2252019_๑๙๐๕๒๒_0007.jpg
    87646.jpg
    เปิดดูไฟล์ 5009354

    จึงขอเชิญชวนสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาทุกท่าน
    ร่วมทำบุญสมทบทุนได้ที่
    วัดป่าภูหายหลง ต.วังกะทะ อ.ปากช่อง(เขาใหญ่)
    จะเดินทางไปด้วยตนเอง
    หรือที่ชื่อบัญชี
    วัดป่าภูหายหลง
    เลขที่บัญชีออมทรัพย์ 303-0-58587-5
    ธนาคารกรุงไทย สาขาปากช่อง

    หรือท่านใดที่ประสงค์รับเป็นเจ้าภาพทั้งองค์
    เชิญโทรติดต่อโดยตรงที่พระอาจารย์สุ่ม
    โทร 081-2917676
    หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กระทู้นี้

    ขออนุโมทนาบุญตลอดไป
    สาธุๆๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กรกฎาคม 2019
  14. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,886
    ค่าพลัง:
    +4,720
    ประวัติวัดป่าภูหายหลง
    และประวัติโดยสังเขปพระครูบรรพตสมานคุณ
    หรือพระอาจารย์ประพันธ์ อนาวิโล (พระอาจารย์สุ่ม)

    ประวัติวัดป่าภูหายหลง
    เมื่อประมาณ 60-70 ปีที่แล้ว สภาพภูมิประเทศแถบวัดป่าภูหายหลงแห่งนี้ ซี่งประกอบไปด้วยหมู่บ้าน 3 แห่งคือ หมู่บ้านซับสำราญ หมู่บ้านเขากอย และหมู่บ้านเพิ่มสมบัติ มีลักษณะเป็นเทือกเขาและป่าทึบ การคมนาคมเป็นไปด้วยความยากลำบากยิ่ง ทำให้โอกาสในการทำบุญของชาวบ้านลดน้อยลงตามไปด้วยเนื่องจากวัดที่มีอยู่ในละแวกนั้นก็อยู่อีกหมู่บ้านหนึ่งห่างไกลกันมาก นานๆ ครั้งจึงจะมีพระธุดงค์ที่แสวงหาความวิเวกมาโปรดชาวบ้านพอให้ได้ปิติในผลบุญบ้าง
    ต่อมาได้มีพระรูปหนึ่งเดินธุดงค์ผ่านมา ชื่อ พระอาจารย์หลง (ไม่ทราบฉายา) ชาวบ้านเกิดความศรัทธายิ่งและอยากให้ท่านเป็นหลักของจิตใจ จึงได้อาราธนาพระอาจารย์หลงให้ท่านจำพรรษาที่ภูเขากอย (บางคนก็เรียกว่าภูเขาหลงเนื่องจากเป็นชื่อที่ปรากฏในแผนที่ทหาร) โดยชาวบ้านได้ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างเสนาสนะเป็นที่พักสงฆ์ และทำทางขี้นลงเขาให้พระภิกษุเพื่อความสะดวกในการปฏิบัติศาสนกิจ โดยตั้งชื่อวัดว่า วัดภูเขากอย เมื่อปี พ.ศ.2482

    ชาวบ้านทั้ง 3 หมู่บ้านได้ผลัดเวียนกันขึ้นมาดูแลวัดและอุปัฐากพระภิกษุสงฆ์อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด การพัฒนาก็มีมากขึ้นตามไปด้วยทั้งการพัฒนาวัดและการพัฒนาทางด้านจิตใจของชาวบ้านเนื่องจากพากันขึ้นมาบำเพ็ญบุญปฏิบัติธรรมเพิ่มมากขึ้นด้วย

    เมื่อประมาณปี พ.ศ.2506 นิคมสร้างตนเองลำตะคอง กรมประชาสงเคราะห์ได้เข้ามาจัดสรรที่ดินให้กับประชาชนเพื่อทำการเกษตร แต่เนื่องจากวัดภูเขากอยได้ตั้งขึ้นมาก่อนและด้วยพื้นที่ของภูเขามีความลาดชันสูง ไม่สามารถทำการเกษตรได้ ทางนิคมสร้างตนเองจึงได้เว้นพื้นที่ของภูเขากอยทั้งหมดให้กับทางวัดได้ใช้ในการปฏิบัติศาสนกิจ ดูแลรักษา และพัฒนาให้เกิดสาธารณะประโยชน์กับ 3 หมู่บ้าน
    ต่อมาประมาณเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2542 พระอาจารย์ประพันธ์ อนาวิโล (ครูจารย์สุ่ม) ซึ่งเป็นศิษย์หลวงปู่หล้า เขมปัตโต แห่งวัดป่าภูจ้อก้อ จ.มุกดาหาร ได้มีโอกาสมาพำนักที่วัดแห่งนี้ ซึ่งสภาพตอนนั้นเป็นทุ่งหญ้าคา มีต้นไม้เล็กๆ ขึ้นประปราย เสนาสนะมีเพียงกุฏิและศาลาหลังเล็กๆ ไม่มีพระประจำวัดนานแล้ว ชาวบ้านนำโดยผู้ใหญ่ประหัส ทองจันเอกจึงได้อาราธนาพระอาจารย์ประพันธ์ให้เป็นหลักศาสนาและศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านทั้ง 3 หมู่บ้าน

    พระอาจารย์ประพันธ์ อนาวิโล จึงได้ตั้งชื่อวัดขึ้นมาใหม่เพื่อความเป็นสิริมงคลว่า วัดป่าภูหายหลง อันมีความหมายว่า เป็นดินแดนแห่งความหลุดพ้นจากความหลงทั้งปวง นั่นหมายถึงพุทธบริษัท 4 ที่มาปฏิบัติธรรมจะมองโลกตามความเป็นจริง ไม่หลงมัวเมาอยู่ในกิเลสตัณหา โลภะ (โลภ) โทสะ (โกรธ) โมหะ (หลง) หลุดพ้นจากความทุกข์ ความไม่เที่ยง และความไม่มีตัวตน (ความหลงในอัตตา) ก้าวข้ามล่วงพ้นทะเลหลง มุ่งตรงสู่พระนิพพานต่อไป




    พระครูบรรพตสมานคุณ
    หรือพระอาจารย์ประพันธ์ อนาวิโล(พระอาจารย์สุ่ม)
    เจ้าอาวาสวัดป่าภูหายหลง

    wjf12 - Copy.jpg


    9jzy8.jpg
    มีชาติกำเนิดในตระกูล " โพธิ์พุ่ม "
    เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2505
    ที่บ้านกุดจิก ตำบลบงใต้ อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร
    โยมบิดาชื่อ นายอ่าง ( บาง ) โพธิ์พุ่ม
    โยมมารดาชื่อ นางผง โพธิ์พุ่ม ( นามสกุลเดิมวงอนันต์ )
    ท่านมีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน 6 คน เป็นหญิง 4 คน มีลำดับดังนี้

    1. พระอาจารย์ประพันธ์ อนาวิโล ( สุ่ม โพธิ์พุ่ม )
    2. นายประทุม โพธิ์พุ่ม
    3. นางประเทือง ศรีโทมี
    4. นางบุญเรือง ชุมดาว
    5. นางบุญทัย โพธิ์พุ่ม
    6. นางวริยา โพธิ์พุ่ม

    พระอาจารย์ประพันธ์ อนาวิโล เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์
    จึงได้อุปสมบท ณ อุโบสถวัดประชานิยม ตำบลหนองหลวง
    อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร
    เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2525 โดยมี

    พระครูสาสน์ดกศล เป็นพระอุปัชฌาย์
    พระสง่า ปญญากโร เป็นพระกรรมวาจารย์
    พระบุญหลั่น จนทวโส เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    ได้รับฉายาว่า " อนาวิโล "

    หลังจากอุปสมบทแล้วในพรรษาแรกได้จำที่วัดธาตุฝุ่น บ้านคำเจริญ ตำบลค้อใต้ อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร
    พรรษาที่ 2 ได้มาจำพรรษาที่วัดป่าดอนธาตุปูรณี บ้านวังทอง ตำบลวังทอง อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี
    พรรษาที่ 3 ได้มาจำพรรษาที่วัดธาตุฝุ่น บ้านคำเจริญ ตำบลค้อใต้ อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร
    พรรษาที่ 4 ได้มาจำพรรษาที่วัดป่าเขาคลองกลาง บ้านคลองกลาง ตำบลสองพี่น้อง อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี
    พรรษาที่ 5 ถึงพรรษาที่ 16 ได้มาจำพรรษาที่วัดป่าบรรพตคีรี ( ภูจ้อก้อ ) ตำบลหนองสูงใต้ อำเภอหนองสูง จังหวัดมุกดาหาร

    ตลอดระยะเวลา 12 ปี ที่ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดป่าบรรพตคีรี ( ภูจ้อก้อ ) ตำบลหนองสูงใต้ อำเภอหนองสูง จังหวัดมุกดาหาร พระครูบรรพตสมานคุณ (พระอาจารย์ประพันธ์ อนาวิโล) ได้ดูแลปรนนิบัติรับใช้และปฏิบัติธรรม อยู่กับหลวงปู่หล้า เขมปตโต จนหลวงปู่มรณภาพเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2539 พระอาจารย์ประพันธ์ อนาวิโล ยังคงจำพรรษาที่นี่ต่ออีก 2 ปี จนถึงปี พ.ศ. 2542 จึงได้ไปจำพรรษาที่วัดเวฬุวัน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี นับเป็นพรรษาที่ 17

    ปี พ.ศ. 2542 พระอาจารย์วิชาและคณะศรัทธา ได้นิมนต์พระอาจารย์ประพันธ์ อนาวิโล รับมาจำพรรษาที่สำนักสงฆ์วัดป่าภูหายหลง หมู่ที่ 11 บ้านซับสำราญ ตำบลวังกะทะ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา และเป็นเจ้าอาวาสสืบมาจนถึงปัจจุบัน

    ตำแหน่งหน้าที่ และสมณศักดิ์ทางการพระศาสนา

    21 เมษายน 2546 เป็นพระปลัดประพันธ์ อนาวิโล
    1 เมษายน 2547 เป็นเจ้าอาวาสวัดป่าภูหายหลง
    9 ธันวาคม 2548 เป็นพระครูวินัยธร ประพันธ์ อนาวิโล
    1 กรกฏาคม 2550 เป็นเจ้าคณะตำบลวังกะทะ เขต 1 ( ธรรมยุติ )
    5 ธันวาคม 2552 เป็นพระครูบรรพตสมานคุณ (พระอาจารย์ประพันธ์ อนาวิโล)



    ขอขอบคุณ...
    รูปภาพจาก...เวปแก่นทอง

     
  15. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,220
    ค่าพลัง:
    +10,114
    เมื่อวานฝันน เลยได้ไปวัดกุฏีดาวเลย สนุกเร้าใจมากครับ
     
  16. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,886
    ค่าพลัง:
    +4,720

    เชื่อแหละ...ว่าต้องเร้าใจจิงๆ
    ตื่นขึ้นมาหัวใจคงเต้นระทึก
    เพราะ "วัดกุฎีดาว" อยุธยา
    เป็นวัดเก่าแก่ที่ซ่อนอาถรรยพ์
    เคยอ่านเจอบทความต่างๆ...สนุกมากๆ
    เด๋วค้นหา...ดึงมาให้อ่านนะคร๊าบ

    อย่างงั้นน้องเอกก็ช่วยเล่าความฝันให้ฟังหน่อยจิ
     
  17. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,886
    ค่าพลัง:
    +4,720
    เด๋วเช้าวันนี้ขอต่อเรื่อง.....
    วัดธาตุมหาชัย นครพนม...อีกสักหน่อย
    เกี่ยวกับสถานที่น่าท่องเที่ยว"
    ...ในอีกมุมที่น่าสนใจให้อ่าน


    ***********************************
    สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดนครพนม

    หอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์
    หอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์ เป็นสัญลักษณ์ อีกแห่งหนึ่งของเมืองนครพนมโดดเด่นเป็นสง่า ตัวอาคารถูกทาสีด้วยสีชมพูอ่อนสะดุดตา หากใครมาตัวเมืองนครพนมต้องไม่พลาด หอนาฬิกาแห่งนี้ถูกสร้างโดยชาวเวียดนามที่อาศัยอยู่ในจังหวัดนครพนม เพื่อเป็นที่ระลึกก่อนย้ายกลับเวียดนามตามท่านโฮจิมินห์ หลังชนะสงครามภายในประเทศ เมื่อครั้งฝรั่งเศสพ่ายแพ้ในสงครามเดียนเบียนฟู ชาวเวียดนามที่ลี้ภัยมาอาศัยในนครพนมได้ร่วมกันสร้างหอนาฬิกาขึ้นเพื่อระลึกถึงไมตรีจิตของคนไทย สร้างเมื่อ พ.ศ.2503 สูงประมาณ 50 เมตร จุดนี้เป็นเหมือนการขอบคุ

    _oc=AQkeYyHAUNKFUrG0v8HJDr-eV-CP7feVHZF9pptSHSyijLa2QShxHsr8-8VXG2vKulQ&_nc_ht=scontent.fbkk12-4.jpg
    _oc=AQlt1tBkWQCq_xslCk_V19eg2ionXt0L03WRLGEv_44J4jXP9xB5JWoDI5ZfYWzi470&_nc_ht=scontent.fbkk12-4.jpg

    สะพานมิตรภาพไทย-ลาว 3 นครพนม
    สะพานมิตรภาพไทย-ลาว 3 เป็นสะพานที่เชื่อมต่อระหว่างประเทศไทย (นครพนม) กับประเทศลาว(คำม่วน) พื้นที่ฝั่งไทยที่บ้านห้อม ตำบลอาจสามารถ อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนมฝั่งลาวอยู่ที่บ้านเวินใต้ เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน เป็นสะพานที่มีความสวยงามมากอีกแห่งหนึ่งในประเทศไทย มีวิวข้างหลังเป็นภาพภูเขาหินปูนของประเทศไทยลาวลูกน้อยใหญ่ที่เรียงรายสลับซับซ้อน บริเวณด้านล่างสะพานมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นสะพานได้จากข้างล่าง ตั้งอยู่ริมฝั่งโขงสามารถมาเดินเล่นพักผ่อนรับลมเย็น ที่พัดมาจากฝั่งลาว

    _oc=AQmollJOUicKN9M0NnFgqfJpBST8xis3oxx1SeB9YR8dTuJddIR4GsEcfh0DaWLgy7M&_nc_ht=scontent.fbkk12-4.jpg
    c_oc=AQnJxVf-jIhULyKQN6O6CgYu2T_G0iHs5P-odnpmFgmOtWmgwsG0XwrboHRUWh2HxPc&_nc_ht=scontent.fbkk8-3.jpg
    _oc=AQmt15McJKF3RUvl0sT9j0vX0huUgNhUim9JIVKkiKbjQvOBL-MGPpiNvSdgL7GDk64&_nc_ht=scontent.fbkk12-1.jpg

    หาดทรายทองศรีโคตรบูร
    หาดทรายทองศรีโคตรบูร หรือ หาดทรายริมน้ำโขง ที่ ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดนครพนม เป็นปรากฎการณ์ทาง ธรรมชาติที่เกิด ขึ้นในช่วงฤดูแล้งประมาณเดือนกุมภาพันธ์ – พฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่แม่น้ำโขงลดระดับเกิดเป็นหาดทรายสวยกลางลำน้ำโขง ยาวหลายกิโลเมตร เหมาะสำหรับเป็นที่พักผ่อน หย่อนใจ และชม ความงามของธรรมชาติ สำหรับจุดที่สามารถชมวิวของ หาดทรายทองได้อย่างงดงามในปัจจุบัน คือ สวนสาธารณะและหาดทรายทองศรีโคตรบูร และบริเวณโรงแรมนครพนมริเวอร์วิว ซึ่งได้จัดพื้นที่สำหรับลงไปเดินชมหาดทรายทอง รวมถึงสามารถชมวิวได้จากระเบียงหน้าห้องพัก ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับชมหาดทรายคือ ในช่วงเช้า และช่วงเย็น เพราะจะได้แสงสีทองของพระอาทิตย์ส่องกระทบผืนทรายและผืนน้ำ

    _oc=AQkclhLwjpVCUqdt6HWG3QlfFk2JZ6Gjp_wYMls0-fAzFmR6y_TIydxdQ0NWSkT6p1Y&_nc_ht=scontent.fbkk12-2.jpg
    _oc=AQmcSAdgZQ3PLFuFcMtpuLbrpPuFL4yYqUGmkeGiCqX9NhKc1p_3GyhFZcnLwohrZpI&_nc_ht=scontent.fbkk12-2.jpg
    _oc=AQm3QfLrGK1x2parKKHoC9cC6b5_19S8zSDl9PYRrEuBKUOeYMwDASfwQSpUnwfAHwA&_nc_ht=scontent.fbkk12-3.jpg



    (ขอบคุณที่มา...
    เพจวัดธาตุมหาชัย)
     
  18. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,886
    ค่าพลัง:
    +4,720
    Tips & Tricks (วรรคทอง)
    หน้า 156 ลำดับที่ #3102

    อาจารย์นพเล่าเรื่องภัยธรรมชาติ
    ดิน น้ำ ลม และไฟ ต่างๆ บนโลกนี้
    "น่าสนใจมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ"

    ["nopphakan, post: 10911285]
    ทั่วไปนะครับเรื่องภัยธรรมชาติต่างๆ ที่เกิดจาก
    ดิน น้ำ ลม และไฟ ต่างๆ บนโลกนี้
    ทางด้านวิชาการ จะมีแบบจำลอง
    เพื่อใช้พยากรณ์ล่วงหน้าได้เป็น
    หลักหลายสิบปีอยู่แล้วปกติครับ.......
    เช่น เรื่อง การระเบิดภูเขาไฟ แม่นระดับหลักนาที

    เรื่อง ของพายุต่างๆนั้น มีรายชื่อพายุเรียง
    ตั้งอักษร์ A-Z

    เรื่อง ไฟป่า เป็นสถิติ มีความเชื่อมั่นสูง
    พูดง่ายๆว่า มีโอกาสเกิดขึ้นได้...
    แม้แต่ในประเทศไทย เราจะพบกับคำว่า
    บริเวณนี้ ''ไหม้ทุกปี''

    เรื่องปริมาณน้ำ แบบจำลอง บอกได้ล่วงหน้าเป็นหลัก
    ไม่ต่ำกว่า ๒๐ ปี.......เคยเรียนมา มีสมการที่ใช้คำนวณได้
    อยู่ใน วิชา Advance Math. สมัยเรียน ป.โท ครับ...
    แต่ลืมแล้วหละครับ เพราะมันเป็นวิชาบังคับต้องเรียนร่วม
    กับกับทุกสาขาในแขนงเดียวกัน....สมการมันบอก
    ได้แม้กระทั่งปริมาณของน้ำฝน ที่จะตกในอนาคตครับ....

    เรื่องโอกาสในการเกิดแผ่นดินไหวในบริเวนต่างๆ
    โอกาสเกิดคลื่นยักษ์ คลื่นสึนามิ พวกนี้
    เราดูจากแผนที่ ที่เรียกว่า ไซด์ซิมิคแมพ ได้ครับ
    คลื่นวิหนึ่ง ไปได้ ๒ ถึง ๓ กิโล(วัดกันได้ครับ)
    หลักๆเกิดจากแผ่นดินแยก กับ ซ้อนทับกัน....

    สังเกตุอะไรได้ไหมว่า ภัยธรรมชาติเหล่านี้
    โลกนี้มีทฤษฏีรองรับไว้แล้ว.....จากฐานข้อมูล
    ที่มี ณ ช่วงเวลาที่ทำการทดลองและวิจัย
    แน่นอนว่า มันรวมในเรื่อง ของสภาพแวดล้อม
    ทางธรรมชาติ สภาพแวดล้อมของบริเวณ
    พื้นที่ที่สำรวจ แน่นอนว่า ในอนาคตมันย่อม
    มีการเปลี่ยนแปลงได้อยู่แล้ว....
    ดังนั้น ทฤษฎีต่างๆ แบบจำลองที่พยากรณ์ได้
    มันไม่ได้ ถูกต้องที่สุด แต่มันดีที่สุดแล้ว ณ เวลานั้นๆ...

    ดังนั้น หากใครซักคน จะมาพยากรณ์ในเรื่อง
    ภัยธรรมชาติ ภัยภิบัติ จากทฤษฏี ฐานข้อมูลต่างๆ

    ให้พูดอย่างไร ก็จะสามารถตีให้ถูกได้หมด
    เพียงแต่ มากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเองครับ...

    แต่ที่แปลกกันก็คือ ชอบเอามาพูดในเรื่องของความเชื่อ
    ในเรื่องของสิ่งเหนือธรรมชาติ บ้างก็โยงมาในเรื่องของ
    ศาสนา เรื่องการเมือง เรื่องภิภพ ต่างดาว อวกาศ
    ผู้วิเศษต่างๆที่เกี่ยวข้อง ที่หนักคือ โยงเข้ามากลาย
    เป็นตนเองที่กลายเป็นผู้วิเศษ ผู้พยากรณ์ฯลฯ
    อะไรต่างๆนาๆ....มันเลยกลายเป็นฟ้องว่า
    เราเองนั่นหละ...ที่ไม่เข้าใจธรรมชาติตรงนี้
    อยู่กับธรรมชาติบนโลกใบนี้อย่างไม่เข้าใจ
    หลักการที่มันเหตุและผล ในตัวมันเองครับ.....

    ดังนั้น เรื่องทำนองนี้ จะเป็นเรื่องที่ยังมาไม่ถึง......
    ผู้ที่มีความสามารถในการ คาดการณ์ รู้เห็นอนาคตได้
    จึงมักไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องแบบนี้ครับ.......
    แม้จะพูดให้ฟัง ผู้รับฟัง ก็ไม่ควรจะไปยึด
    ในสิ่งที่ได้ยิน....เพราะมันจะกลายเป็นวิตกจริต
    เด่วก็ได้ ไปซื้อที่ บนภูเขา สร้างบ้าน
    เสร็จพวก เกร๊งกำไร จากการขายที่ไป ๕๕๕
    (นึกแล้วเสียดาย น่าจะมีที่บนเขาเยอะๆ ๕๕๕)

    เพราะ อนาคตมันเปลี่ยนแปลงได้เสมอ
    ไม่เหมือนอดีต....พอนึกภาพออกไหม.....

    เนื่องจากสภาพแวดล้อม ทางธรรมชาติ
    มันสามารถเปลี่ยนแปลงได้ หลักๆก็คือ
    มนุษย์นี่หละครับ...ที่เป็นต้นเหตุให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
    ด้วยเรา ได้นำเอาทรัพยากรทางธรรมชาติต่างๆ
    ที่มันเป็นส่วนในการสร้างสมดุลย์ทางธรรมชาติปกตินั้น
    เอามาใช้งานในด้านต่างๆ เป็นเหตุให้ระบบของธรรม
    ชาติตรงนี้ มันมีการเปลี่ยนแปลง...

    มันก็เปรียบเสมือน เป็นการทำให้สมการในแบบจำลอง
    มีค่าเปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากข้อมูลมันเปลี่ยน
    ดังนั้น เมื่อสมการเปลี่ยนเพราะข้อมูล ผลที่ได้
    ของสมการก็เปลี่ยนแปลงไป อาจจะเร็วขึ้นคือ
    ภัยธรรมชาติเกิดเร็วขึ้น เช่นภูเข้าไฟระเบิดปกติ
    จะ ๕๐ ปีอาจเหลือ ๑๐ ปี หรือ ช้าลงก็ได้
    ไม่ว่าจะคลื่นยักษ์ ปริมาณน้ำ ขนาดพายุ ความรุนแรง
    จะสามารถออกมาในทางที่ให้ ค่าที่เพิ่มขึ้น หรือ ลดลง
    เป็นไปได้ทั้งสองทางครับ.....


    ดังนั้นแล้ว ในทางปฏิบัติ จึงมีคำสอนขึ้นมาว่า

    '' รู้ก็ให้รู้ ให้เห็นแต่ของเราคนเดียวนี่หละ
    ไม่มีใครรู้ ใครเห็นเหมือนเรา ก็ไม่ต้องให้
    ใครเค้ารู้ด้วยหรอก..............

    แล้วค่อยมาดูว่า มันเกิดจากอะไร
    จากเหตุ ๑ จากเหตุ ๒ จากเหตุ ๓ เหตุ ๔ เป็นต้น ''
    มันก็จะทำให้เรายังอยู่ในเส้นทางได้....
    อยู่ร่วมกับธรรมชาติ ได้อย่างแยบยลต่อไป
    หรือ แค่พอฮาๆ ขำๆ ก็ว่ากันไป.........

    ปล. ถ้า รู้อดีต รู้อนาคต รู้อะไร ของบุคคล สัตว์ สิ่งของ ฯลฯ
    รู้ได้ก็ปล่อยให้มันรู้ไป แต่ไม่ต้องไปอะไรๆกับมัน
    คือรู้แล้วก็แล้วไป.....รู้แล้วก็ทิ้งไป.

    ถ้ามันไม่รู้ ก็ไม่ต้องไปอยากรู้อะไรๆกับมัน
    ให้แล้วๆไป. พูดง่าย คือ ช่างมัน....

    ให้รู้จัก แล้วๆไป ไม่อะไรๆกับมัน
    ไม่ว่าจะรู้หรือไม่รู้อะไร แล้วก็ทิ้งมันไป

    ต่อไปมันจะรู้หรือไม่รู้ ตามธรรมชาติของมันเอง
    และมันจะละเอียดลึกขึ้นได้ของมันเองตามลำดับ
    โดยที่ เราจะไม่ไปอะไรกับมัน
    และก็จะเป็นคนปกติทั่วๆไป
    ที่ใช้ชีวิต ร่วมกับโลกได้อย่างแยบยลนั่นเอง.......

    ทุกเรื่องนั่นหละ ที่ต้องแล้วๆไปให้เป็น
    และไม่อะไรกับมัน เราก็จะเริ่มเข้าวิถี
    การรู้ตามธรรมชาติ ของเนื้อหาเดิมแท้
    ของจิตเราได้เอง ทุกคนนั้นหละครับ......

    (ขอบคุณครับ ท่านอจ.นพ)
     
  19. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,886
    ค่าพลัง:
    +4,720
    มาตามนัด
    วัดกุฎีดาว อยุธยา
    "ตามรอยขุมสมบัติอาถรรพ์"

    เร้าใจ สนุก ฟังเพลิน

     
  20. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,220
    ค่าพลัง:
    +10,114
    ฝัน 29-07-2562
    ข้าพเจ้าฝันว่าไปสถานที่แห่งนึง สถานที่แห่งนี้มีแต่คนใส่ชุดขาวหมดเลย เสื้อกับกางเกงขาวหมด จากนั้นก็มีคนรู้จักผมเดินไปเดินมา สักพักมีคนบอกกับผมว่า "ไอ้หนุ่มช่วยเอาทองคำไปทำบุญให้ที ทำบุญให้กับชายผู้นี้ที ผู้ชายคนนี้เสียสละเพื่อส่วนรวม" ในใจผมคิดว่าใครว่ะ แล้วให้ไปทำที่ไหน ผมรู้สึกว่าเหมือนทองอยู่ในธนาคารไทยพาณิชย์ แต่ในฝันธนาคารปิด และลุงคนนั้นก็บอกว่าเด็กเอ็งก็รู้

    ก่อนหน้านี้พี่ที่ผมรู้จักเค้าก็ได้ไปวัดกุฏีดาวมา และมาคุยกับผมและเพื่อนก็คุยกับผมก่อนผมฝัน ผมเลยคิดว่าอาจฝันหลอกกะได้มั้ง ประมาณว่าเก็บไปฝัน จึงนำเรื่องไปเล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนของผมพอฟังก็ได้บอกว่า ตอนมันตื่นมันรู้สึกอยากไปอยุธยา แต่มันอยากไปลพบุรีไปไหว้พระที่นั้น ผมเลยตั้งจิตว่าหากฝันนี้เป็นฝันหลอกขอให้ไม่ได้ไป แต่ถ้าหากเป็นฝันจริงขอให้ดลใจเพื่อนให้ได้ไป สรุปก็ได้ไป ไปราวๆๆ บ่าย2-3 ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...