กระแส"พญานาค"กับข้อเท็จจริงบางอย่าง(มีคลิป) คนที่ไม่เชื่อควรดูด้วยดุลพินิจ

เข้าฌาน แล้วจิตเรามันนิ่งครับ จดจ่ออยู่กับความนิ่ง เลยไม่ได้สนใจอาการเจ็บปวดนั้นมาก...

ผมเองนับถือคนที่เขานั่งแป๊ปเดียวแล้วเข้าฌาน 4 ได้มากกว่า ทำกันยังไง ผมนั่ง 2-3 ชั่วโมงต่อครั้ง ยังไม่ได้เลย

 

ผมเชื่อครับว่าเจ็บจริง 555

ส่วนตัวเคยเจอเหตุการณ์ที่ฝันแล้ว เกิดความรู้สึกตอนลืมตาเหมือนกัน เป็นการฝันนะ ไม่ใช่อาการครึ่งหลับครึ่งตื่น ต้องแยกกันก่่อน เดี๋ยวเล่าให้ฟัง...

ฝันว่าได้ไปที่วัด หรือสำนักปฏิบัติธรรม ไม่แน่ใจ ไปกับกลุ่มๆหนึ่งคล้ายๆทัวร์ พากันเดินไปเที่ยวรอบๆสถานที่นั้น จนไปถึงจุดๆหนึ่งซึ่งมันจะเหมือนให้เราเลือกว่าสนใจด้านไหน เช่น อภิญญา ฌาน รักษาศีล ทำบุญ นิพพาน ฯลฯ เป็นชั้นๆขึ้นไป จากล่างขึ้นบน แล้วบอกด้วยนะว่า ทำบุญ - รักษาศีล อันนี้จะอยู่ชั้นสวรรค์ ฌาน - อภิญญา อันนี้อยู่ชั้นพรหม นิพพาน - รู้ๆกันอยู่ ผมเองเลยตัดสินใจเลือกอภิญญา เพราะผมสนใจเรื่องนี้ ในฝันนะ แล้วก็มีคนส่วนหนึ่งเลือก บางส่วนก็ไม่เลือก บอกว่าไม่ได้สนใจอะไรเลย ไปที่อื่นดีกว่า แล้วก็เดินออกไป จากนั้นในฝันปรากฏเป็นภาพ 2 ภาพ

ภาพแรก - คนกลุ่มที่ไม่เลือกโดนควบคุมตัวไปสถานที่มืดๆแห่งหนึ่ง โดนมัดมือเอาไว้ แล้วมีคนพาไป

ภาพสอง - ตัดมาที่ตัวเอง เกิดแสงสีขาววงกลมใหญ่ๆขึ้นมา แล้วดูดเราเข้าไป แล้วเกิดความรู้สึกแบบนี้ https://prnt.sc/w8qeib (ไม่รู้จะเอาภาพจากไหน แต่ดูหนังสยบฟ้าฯ แล้วมันเหมือนเราตอนนั้น เลยเอามา 555) ความรู้สึกตอนนั้นคือเหมือนโดนดูดเข้าไปแล้วมีแต่ความสุข เย็น สบาย แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย มันเป็นความรู้สึกสุขแบบสุดๆ ผมเองไม่รู้จะอธิบายยังไงเหมือนกันเอาเป็นว่ามันมีแต่ความสุข หลังจากนั้นผมตื่นขึ้นมาจากฝัน ความรู้สึกนั้นมันก็ยังมีอยู่เหมือนกัน แต่เบาบางลงไปมาก เกือบจะหมด

เล่าให้ฟังเล่นๆ...

น่าแปลกใจเหมือนกัน ทำไมตื่นจากฝันแล้วยังมีความรู้สึกในฝันติดมาด้วย 5555 ผมก็เชื่อคุณ Higtmax นะ ว่ามันยังมีความรู้สึกเจ็บนั่นจริงๆ อิอิ

 

เรานั่งแค่อุปจารสมาธิยังไม่ถึงเลย 5 นาทีหลังแทบขาด

 

คุณนี่จิตใจแน่วแน่ดีจัง (เราก็ชอบเรื่องแบบนี้นะแต่ไม่ฝึก)
- เราเคยถามหลวงปู่ ว่าทำไงจะหลุดพ้นทำไงจะเกิดในยุคพระศรีฯ นู๋ไม่ค่อยมีปัญญาขอแบบง่ายๆเลยนะหลวงปู่ (พูดกับอากาศนะ55) ตกกลางคืนฝันว่าลูกพี่ลูกน้องเราเดินมาพูดข้างๆหูว่า "ลืมความสุขความทุกข์บนโลกมนุษย์ให้หมดนะ"
ตื่นมาก็คิดว่าง่ายจัง แค่ลืม (สมกับความโง่)
- พอเราตัดสินใจว่าฉันจะไม่ว่าใครหน้าไหนทั้งสิ้น อือหือ กลายเป็นว่าโดนด่า โดนว่าในเรื่องที่เราไม่ผิดได้เป็นชั่วโมง และหลายๆครั้งด้วย ไม่เข้าใจจริงๆ
(ถ้าเป็นเราเลือกนิพพาน ชีวิตต้องเจอทุกข์หนักมากแน่ แค่นี้ก็จะแย่ล่ะ..)
ปล.บ่นไปงั้นแหละ ช่วงนี้ชีวิตระทวย

 

".....พอเราตัดสินใจว่าฉันจะไม่ว่าใครหน้าไหนทั้งสิ้น อือหือ กลายเป็นว่าโดนด่า โดนว่าในเรื่องที่เราไม่ผิดได้เป็นชั่วโมง และหลายๆครั้งด้วย ไม่เข้าใจจริงๆ
(ถ้าเป็นเราเลือกนิพพาน ชีวิตต้องเจอทุกข์หนักมากแน่ แค่นี้ก็จะแย่ล่ะ..)
ปล.บ่นไปงั้นแหละ ช่วงนี้ชีวิตระทวย....."
(ง่าวต๋าย)


"ส่งกำลังใจมาให้ครับ"
...ขอให้เข้มแข็งทั้งกายใจ

ที่ฝันนั่นน่าจะถูกต้องแล้ว
ยึดไว้เป็นคติเตือนใจได้ดี
(ส่วนตัวผมขอจำไว้ใช้ด้วย)
แม้จะทำยาก
แต่เวลาเข้าตาจนอาจช่วยบรรเทาได้บ้าง

"ลืมความสุขความทุกข์บนโลกมนุษย์ให้หมดนะ"

 

ไม่ทราบว่า...
".....เป็นการฝันนะ ไม่ใช่อาการครึ่งหลับครึ่งตื่น ต้องแยกกันก่อน....."
มีความแตกต่างกันอย่างใด ?

เพราะเมื่อคืนประมาณตี4
ผมก็ฝันติดตา(ฝันชัดเจน)เรื่องวัดเหมือนกัน
(เด๋วเล่าให้ฟัง)

 

**กลางวันโชคร้ายหลายเรื่อง กลางคืนฝันดี(มาก)*

(24-12-63)เช้าเมื่อวานสวดมนต์ไหว้พระตามปกติ
เริ่มสวดก็รู้สึกว่าไม่มีสมาธิ
อยากรีบสวดให้จบๆ(แบบขอไปที)
เพราะมีธุระบางอย่างรออยู่
ขณะที่สวดบทพระมหาจักรพรรดิ
จำไม่ได้ว่าสวดไป2หรือ3จบ
(แต่ในใจก็พอรู้ว่าน่าจะแค่2จบ)
...แต่เพราะใจรีบร้อนเกินจึงขอจบแค่นี้
พอสวดเสร็จลุกขึ้น...จิตสำนึกเตือนตัวเองว่า
"เออ...ผิดนะ...ไม่ดีเลยเรา"

คล้องหลังแค่1ชม.
กลับมีเรื่องตึงตังเล็กน้อยกับคนในครอบครัว
ทั้งๆที่เป็นเรื่องนิดเดียวไม่มีสาระอะไรเลย
(จากเหตุความรีบร้อนที่เราต้องทำงานบางอย่าง)
(จึงบ่นในใจ)เออ...ทำไมๆๆ ใครมาแกล้งว่ะ
...แล้วมุ่งไปที่เจ้ากรรมนายเวรที่ชอบแวะมาบ่อย

ช่วงเที่ยงหยุดพักไปจับจ่ายซื้อของด้วยเวลาจำกัด
...ตามร้านใกล้บ้าน
กำลังถอยรถเข้าที่จอด
**เคระๆๆๆ**เสียงท้ายรถกระแทกเบาๆอะไรบางอย่าง
รีบลงไปดู เออซวยเลย...
แต่ยังโชคดีแค่เป็นรอยขีดขวนเล็กๆ

อีก10นาทีขับรถเข้าซอยถัดไป
เพื่อซื้อไข่ไก่ที่ร้านเฟรซมาร์ท
พอเสร็จสรรพ...ค่อยๆขับรถถอยหลังออกมา
**โครม** เสียงท้ายรถไปอัดเข้ากับเก๋งมาสด้าที่จอดตรงข้าม
ในใจคิด...ไม่รอดแน่ๆเลยตูคราวนี้
จึงรีบลงไปดู แล้วขอโทษ...
พร้อมบอกใจเย็นๆ..รับผิดชอบทุกอย่าง
รถติดในซอยยาวเลย...ถ่ายรูป...แล้วแยกรถ
ประกันมา....จบเรื่องซวยๆ...เสียเวลากว่า2ชม.

กลับมาที่บ้านจึงนั่งสรุปต้นเหตุทั้งหมดที่เกิดขึ้น
มาจาก..."ทำอะไรรีบร้อนเกินจะนำภัยมาสู่ตน"
เออ...รีบจนกระทั่งลืมแขวนพระออกไป

**เออ...ความฝันพรุ่งนี้เช้าค่อยมาเล่าต่อนะคับ**
(คือรีบ...มีงานเล็กน้อยที่ต้องทำก่อน)

 

ขอแยกเป็น 3 แบบนะครับ ตามประสบการณ์ของตัวเอง คือมันจะมี

- แบบฝันทั่วๆไป

- ฝันรู้ตัว (Lucid dream)

- สภาะกึ่งหลับกึ่งตื่น หรือช่วงที่กายละเอียดแยกออกมานิดหน่อย พอจะได้ยินโลกวิญญาณบ้าง

เอาเท่าที่สังเกตมานะครับ

- สภาวะครึ่งหลับครึ่งตื่น

มันจะรู้ตัวได้ชัดเจนกว่า เรามีสติอยู่กับมันตลอด ตั้งแต่ช่วงที่กายละเอียดมันอยู่ในร่าง จนมันออกมาเจอวิญญาณ อาการเรียงลำดับได้ประมาณนี้

1. ช่วงที่จิตมันนิ่งๆ

2. ร่างกาย (กายหยาบ) เราเริ่มมีความรู้สึกอ่อนเพลีย

3. ่ร่างเราเริ่มมีความรู้สึกเบา ละเอียดมากขึ้น

4. ตอนหลับตาอยู่ จะมีความรู้สึกเหมือนเกิดอาการหมุน หรือบางทีรู้สึกเหมือนจิตดำดิ่งลงไปในความนิ่ง แล้วช่วงนั้นจะเกิดความรู้สึกว่าเราไม่หายใจ และกายละเอียดเราจะมีความรู้สึกเหมือนแยกออก

5. หลังจากออกมาแล้ว กายเราจะมีความรู้สึกเบา ละเอียด ไม่หายใจ บางทีจะหลุดออกมา แต่ส่วนใหญ่ 90% มันจะไม่หลุด จะยังอยู่แนบกายหยาบ ความรู้สึกไม่อึดอัด หรืออยากหายใจเลย และได้ยินเสียง หรือแตะต้องตัวกับวิญญาณที่มาหาได้ บางทีก็สื่อสารกับเขาได้ บางทีก็ไม่ได้ อันนี้คงแล้วแต่กำลังสมาธิ หรือสภาพจิตของเราในตอนนั้นๆมั้งครับ...

(บางทีเวลามันหลุดออกมา มันอาจจะหลุด แล้วลอยออกมาเลยก็ได้ จะมีความรู้สึกเหมือนเราลอยเหนือพื้นประมาณ 1 เมตร แต่ปกติจะไม่หลุด มันจะติดๆกับกายหยาบอยู่ซะส่วนใหญ่ หรือบางทีถ้าจะหลุด จะมีวิญญาณดวงนึง เอามือมากดทับไว้ อันนี้โดยปกติคนส่วนใหญ่จะไม่รู้ เพราะร่างกายจะขยับไม่ได้ ต้องฝึกสมาธิบ่อยๆมันจะเริ่มขยับได้เอง แล้วจะรู้ว่ามีมือกดเราไว้อยู่)

ถ้าลองสักเกตดู เวลามีวิญญาณมาสื่อ แล้วเราได้ยินเสียง หรือโดนแตะต้องตัว พอกลับเข้าร่างมันจะยังมีอาการนั้นๆชัดเจนอยู่ เหมือนเพิ่งเกิดขึ้น

- ส่วนความฝันจะแตกต่างกัน เพราะมันจะไม่เกิดเหตุการณ์ตามลำดับขั้นแบบที่กล่าวมาซะส่วนใหญ่ มันจะเข้าไปในเหตุการณ์ในฝันนั้นๆเลย ผมจะ

- ส่วนการฝันรู้ตัว หรือ (Licid dream) อันนี้เราจะเหมือนมีสติในตอนฝัน อาจจะมีขั้นตอนการเกิดแบบค่อยๆออกมา แบบครึ่งหลับครึ่งตื่นก็ได้ หรือไม่มีก็ได้ สภาวะนี้จะมีความรู้สึกเหมือนเราถอดกายได้จริงๆ แต่ไม่ใช่ความจริง เพราะมันเป็นการถอดกายออกมาได้ในฝัน ผมเคยมีประสบการณ์คล้ายๆการถอดกาย เพียงแต่ตอนออกมาแล้วมันดันไปโผล่ที่อื่น ที่บ้านๆนึงที่ไม่ใช่บ้านจริงในปัจจุบัน หลังจากนั้น ลอยออกไปข้างนอกบ้าน เลาะไปดูเรื่อยๆ มันเป็นชุมชน/หมู่บ้านใน สมัยโบราณ เลยรู้ฃว่ามันไม่ใช่ความจริง คงเป็นความฝัน เพียงแต่อาการมันเหมือนจะถอดกายได้จริงแต่ไม่ใช่

ปล. ผิดถูกไม่แน่ใจนะครับ ตามความเข้าใจและประสบการณ์ของตัวเอง ลองใช้วิจารณญาณ

 

คราวนี้นิมิตว่า มีงูสีขาวมาอาศัยอยู่ตรงรอยแผลที่โดนผ่า

 

ว่างๆ ว่าจะรับสมัคร นาคีนาคามาอารักษขา พระกริ่งสะท้านไตร ที่มีพระบรมธาตุของผู้เป็นเลิศทั้งสามภพ

 

มันทำยากจริงค่ะ นู๋ลองแล้ว มันเหมือนเรากดไว้พอเจอเหตุการณ์ที่ขั้นกว่า สติหลุดนู๋ด่าแขกไปแล้ว 1 / ด่ายามไป 1 / ด่าร้านถ่ายเอกสารไป 1 / ระยะเวลาห่างกันประมาณ 1 เดือน เหมือนเราสะสมไว้ แล้วไปลงทีเดียว เลยพิจารณาแล้วจริงๆมันก็ต้องมีศีล สมาธิ ปัญญาแหละ ที่ให้ลืมก็น่าจะหมายถึงละให้ได้ละมั้ง (ความซวยความไม่ได้ดั่งใจนี่เป็นอะไรที่พิจารณาในชีวิตได้ดีมากเลยคะ)

 

แล้วหลับตาปุ๊ปฝันปั๊บ นี่คือฝันแบบรู้ตัวไหม หลับตาปุ๊ปภาพเหตุการณ์ขึ้นมา พอลืมตา หลับตาฝันต่ออีก ลืมตาหลับตาบางทีเหตุการณ์เปลี่ยนบางทีก็ไม่เปลี่ยน

 

**กลางวันโชคร้ายหลายเด้ง**
**กลางคืนฝันดีมากๆ**
(มาเล่าให้ฟังต่อจากช่วงเช้า)

เรื่องความฝันตอนตี 4
(แค่เป็นความฝันสั้นๆ...2ฉากจบ)

ฉากแรก...เริ่มต้นที่ฝั่งธนย่านวงเวียนใหญ่
ฉับพลันเปลี่ยนเป็นฉากที่2...
ตัวเองเข้าไปในวัดแห่งหนึ่ง
เห็นเจ้าประคุณสมเด็จฯพุฒาจารย์โตนั่งอยู่บนอาสนะ
ใบหน้าท่านเงียบขรึมตามรูปที่เคยเห็น
มีย่าม/หรือถุงอยู่ข้างๆกายท่าน
ผมจึงเดินเข้าไปพบท่าน
ช่วงหนึ่งชำเลืองมองเข้าไปในถุง/ย่าม
เห็นมีพระสมเด็จอยู่ในถุงจำนวนหนึ่ง
ในใจ(ในฝัน)จึงคิดว่า....
ถ้าท่านหยิบมาให้สักองค์ก็คงดี
พอคิดจบ...ท่านสมเด็จเหมือนรู้
สักครู่เห็นท่านล้วงเข้าไปในถุง
หยิบพระสมเด็จวัดระฆังใส่ถุงพล๊าสติดมาให้1องค์
(ในฝันผมรู้สึกปลื้มปิติเป็นอย่างยิ่ง)

(ภาพจาก สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร)



...ฝันสั้นๆเพียงแค่นี้
แต่เป็นความฝันที่ชัดเจนเหมือนเกิดขึ้นจริง
...ตื่นขึ้นมายังรู้สึกสุขใจ

หลังจากนั่นผมนั่งคิด...
สงสัยว่าทำไมท่านสมเด็จโตถึงเข้าฝัน
...ทั้งที่ปกติผมจะรู้สึกเฉยๆ
(วันนี้ขอกราบขมาโทษที่ปกติไม่เคยรำลึกถึงท่านเลย)
ทั้งที่มีพระเครื่องพิมพ์คล้ายวัดระฆัง2-3องค์
แต่ไม่เคยนำไปสุ่มตรวจจากเซียนพระเลย
ช่วงนั่นได้มาจากลุงที่ทำงาน...นานมาแล้วๆๆๆ
แต่ที่แน่ชัดคือคนงานอีกคนได้มาแค่1องค์(น่าจะเป็นคนโชคดี)
เอาพระไปตรวจที่ท่าพระจันทร์ปรากฏว่าเป็นสมเด็จบางขุนพรหม
เซียนพระที่ส่องขอเช่าในราคาหลายหมื่น...แต่ไม่ปล่อย

เช่นเดียวกับลป.ดู่ที่ผมเคยเฉยๆเมื่อปีก่อนๆ
แต่หลังจากได้ประจักษ์เหตุการณ์บางอย่างด้วยตัวเอง
จนทุกวันนี้ผมไปไหนพกแต่ลป.ทวด-ลป.ดู่

จำได้ว่าใครคนหนึ่งที่นี่เคยพูดถึงลป.ดู่
ผมจึงนำมาเปรียบเทียบความฝันเมื่อคืนนี้
ประมาณว่า "น่าจะถึงวาระอะไรบางอย่าง"
...สมเด็จโตจึงมาเข้าฝันเพื่อดลใจให้เกิดศรัทธา
กราบบูชาสมเด็จพุฒาจารย์โตอย่างเป็นรูปธรรม
เพื่อความเป็นสิริมงคล ตลอดปีใหม่ 2564 นี้


(แก้ไข---เพิ่มรูปภาพ)

 

**ความบังเอิญไม่มีในโลก
ทุกสิ่งเกิดขึ้นล้วนมีเหตุ-ปัจจัย
เมื่อถึงวาระท่านจักได้พบและศรัทธา**


********************************************


ชีวประวัติย่อสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต)
คอลัมน์พระเครื่อง

25 พ.ค. 2563-10:45 น.

ชีวประวัติย่อสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต) : คอลัมน์ ชมรมพระเครื่อง

ชีวประวัติย่อสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต) - สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) แห่งวัดระฆังโฆสิตาราม มีนามเดิมว่า “โต” ถือกำเนิดในสมัยรัชกาลที่ 1 วันพฤหัสบดีที่ 17 เมษายนพ.ศ.2331 ที่บ้านไก่จ้น อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา

นามโยมบิดาไม่ปรากฏชัดเจน โยมมารดาชื่อ เกตุ โยมตาชื่อ ไชย ต่อมาโยมมารดาได้ย้ายมาอยู่ที่ ต.ไชโย จ.อ่างทอง ครั้นพอท่านสอนเดิน มารดาได้ย้ายอีกครั้งมาอยู่ที่บ้าน 9. บางขุนพรหม กทม. ภายหลังท่านจึงได้สร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ไว้ ณ ตำบลทั้งสามเป็นอนุสรณ์

การศึกษาอักษรสมัย เจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้เล่าเรียนในสำนักเจ้าคุณอรัญญิก (แก้ว) แห่งวัดอินทรวิหาร บางขุนพรหม ครั้นต่อมา เมื่อเจ้าประคุณสมเด็จฯ อายุได้ 12 ปีในปีพ.ศ.2343 ได้บรรพชาเป็นสามเณร

โดยมี เจ้าคุณบวรวิริยะเถระ (อยู่) เจ้าอาวาสวัดสังเวชวิศยาราม (เดิมคือวัดบางลำพูบน) เป็นพระอุปัชฌาย์ เข้าใจว่า เจ้าประคุณสมเด็จฯ ท่านบรรพชาที่วัดอินทรวิหาร จนกระทั่งสามเณรโตย้ายสำนักมาอยู่ที่วัดระฆังฯ เพื่อศึกษาพระปริยัติธรรม กล่าวกันว่าท่านได้เล่าเรียนจากสำนัก สมเด็จพระพุทธ โฆษาจารย์ (นาค) วัดระฆังฯ เป็นพื้น

และได้เรียนต่อกับ สมเด็จพระสังฆราช (ศุข) วัดมหาธาตุ อีกด้วย สามเณรโตมักจะได้รับคำชมเชยจากครูบาอาจารย์ว่ามีความทรงจำดีเยี่ยม อีกทั้งมีปฏิภาณเป็นยอด นอกจากนี้ท่านยังได้ศึกษาวิปัสสนาธุระอีกด้วย
ครั้งเมื่ออายุครบอุปสมบทในปีพ.ศ.2350 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับเป็นพระราชธุระให้เป็นนาคหลวงอุปสมบท ณ วัดศรีรัตนศาสดาราม โดยมี สมเด็จพระสังฆราช (สุข) วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ (องค์มหาสังฆปริณายกที่ 2 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์) ทรงเป็นพระอุปัชฌาย์

ซึ่งในสมัยนั้นยังไม่เคยมีปรากฏว่าสามัญชนได้รับพระกรุณาให้เป็นนาคหลวงและอุปสมบทได้ที่พระอารามหลวงในพระบรมมหาราชวังนี้ หลังจากนั้นเจ้าประคุณสมเด็จฯ ยังได้ศึกษากัมมัฏฐานและมหา พุทธาคมจากสมเด็จพระสังฆราช (สุก ไก่เถื่อน) ในสมัยที่ท่านยังดำรงสมณศักดิ์เป็นพระญาณสังวร ครองวัดราชสิทธาราม (วัดพลับ)

สมณศักดิ์ เจ้าประคุณสมเด็จฯ เป็นผู้ไม่ปรารถนายศศักดิ์ แม้ เรียนรู้พระปริยัติธรรมก็ไม่เข้าแปลหนังสือเป็นเปรียญ และไม่ ยอมรับฐานานุกรม เล่ากันว่าในสมัยรัชกาลที่ 3 ท่านเกรงว่าจะได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ จึงมักหลบไปต่างจังหวัดอยู่เนืองๆ

จนถึงรัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จะทรงแต่งตั้งท่านเป็นพระราชาคณะ ท่านจึงไม่ขัด กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงทราบว่าคุณธรรมของท่านยิ่งยอดเพียงใด จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นพระราชาคณะที่พระธรรมกิตติ เมื่อปีพ.ศ.2395
ขณะนั้นเจ้าประคุณสมเด็จฯ อายุได้ 65 ปี ต่อมาอีก 2 ปี คือปีพ.ศ.2397 ก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็น พระราชาคณะชั้นผู้ใหญ่ที่พระเทพกวี ครั้งต่อมาเมื่อสมเด็จพุฒาจารย์ (สน) วัดสระเกศ มรณภาพ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาให้เป็นที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ เมื่อวันที่ 8 กันยายน พ.ศ.2407

Powered by Streamlyn

ในการสร้างพระสมเด็จฯ นั้น ท่านเจ้าคุณธรรมถาวร (ช่วง จันทโชติ) ศิษย์ผู้ใกล้ชิดเจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้เล่าและมีการจดบันทึกโดย นายกนก สัชชุกร ว่า เจ้าประคุณสมเด็จฯได้ร่วมสร้างในปีพ.ศ. 2409 และได้มีหลวงวิจารณ์เจียรนัย ช่างทองหลวงในราชสำนักรัชกาลที่ 4 ได้แกะแม่พิมพ์ถวาย

และได้แนะนำให้ใช้น้ำมันตตั้งอิ้วผสมเนื้อปูนเปลือกหอยในการสร้างพระสมเด็จฯ ด้วย แม่พิมพ์ที่แกะถวายมีแม่พิมพ์หมวดพิมพ์ใหญ่ พิมพ์ทรงเจดีย์ หมวดพิมพ์ฐานแซม และพิมพ์เกศบัวตูม เจ้าประคุณสมเด็จฯ ก็สร้างมาตั้งแต่ปีพ.ศ.2409 เรื่อยๆ มา

พระสมเด็จฯ ที่เป็นพิมพ์มาตรฐานเหล่านี้ เป็นพระสมเด็จฯ ที่มีผู้นิยมเป็นมาตรฐาน และมีมูลค่ารองรับ จากการจดบันทึกทำให้เรารู้ว่าเจ้าประคุณสมเด็จฯ สร้างพระเรื่อยๆ มาวันละเล็กละน้อย หลังจากที่ท่านฉันภัตตาหารเพลเสร็จแล้ว และมีผู้มาช่วยตำผสมเนื้อพระ กดพิมพ์พระไปเรื่อยๆ เมื่อได้พระจำนวนพอสมควร

เจ้าประคุณสมเด็จฯ ก็จะนำพระไปปลุกเสกของท่านเอง แล้วท่านก็แจกพระของท่านไปเรื่อยๆ เช่น ท่านออกไปบิณฑบาต ท่านก็จะนำพระไปแจกด้วยเสมอ แล้วก็มีการสร้างพระต่อกันไปอีก พระสมเด็จฯ วัดระฆังฯ จึงไม่สามารถระบุจำนวนที่แท้จริงได้เนื่องจากไม่ได้กำหนดว่าจะสร้างจำนวนเท่าใด

มีข้อสังเกตอย่างหนึ่งว่า เมื่อปีพ.ศ.2411 เสมียนตราด้วงได้บูรณะวัดบางขุนพรหม ใน (วัดใหม่อมตรส) และได้เข้ามากราบเรียนขอให้เจ้าประคุณสมเด็จฯ สร้างพระให้เพื่อบรรจุในองค์พระเจดีย์ใหญ่ ที่กำลังจะสร้างขึ้น เจ้าประคุณสมเด็จฯ ก็อนุญาต

และเริ่มสร้างพระเครื่องของวัดบางขุนพรหมใน (วัดใหม่อมตรส) ดังนั้น พระสมเด็จฯ วัดระฆังฯ อาจจะหยุดสร้างในปีพ.ศ.2411 ก็อาจจะเป็นได้ ดังที่ได้กล่าวมา พระสมเด็จวัดบางขุนพรหมได้บรรจุไว้ในองค์พระเจดีย์ในปีพ.ศ.2413

เจ้าประคุณสมเด็จฯ ถึงชีพิตักษัย เมื่อวันเสาร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ.2415 เวลา 24.00 น. ณ หอสวดมนต์ วัดระฆังโฆสิตาราม สิริอายุได้ 85 ปี พรรษาที่ 65

วันนี้ผมก็ได้นำรูปพระสมเด็จฯ วัดระฆังฯ พิมพ์ใหญ่ ที่ถูกต้องตามมาตรฐานที่มีมูลค่ารองรับ มาให้ชมทั้งด้านหน้า และด้านหลังครับ
ด้วยความจริงใจ
แทน ท่าพระจันทร์


ขอขอบคุณ
คุณแทน ท่าพระจันทร์

และแหล่งที่มา
นสพ.ข่าวสดออนไลน์
https://www.khaosod.co.th/

 

ปรากฏการณ์ประหลาด ณ.งานยกฉัตรองค์พระหน้าตัก 10 เมตร len flare ฝุ่น น้ำค้าง หรืออะไร

 

วัดเจ็ดยอด วัดที่สังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ 8 ของโลก (ตามตำนาน) ต้นโพธิใหญ่ม้ากกกก

 

ผมไม่แน่ใจนะ รอคุณนพฯ มาตอบ ท่านหายไปไหนแล้วไม่รู้ หลายวันเลย สงสัยเก็บตัวฝึกอภิญญา 555

แต่เอาตามความเข้าใจส่วนตัวนะ น่าจะเป็นการฝันทั่วๆไป เพราะการฝันรู้ตัวคือ การฝันคล้ายๆเรามีสติอยู่ในนั้นอ่ะครับ มีความรู้สึกเหมือนมีชีวิตอยู่ในนั้นจริงๆ แบบไม่ได้ฝัน แต่เป็นการฝัน งงไหม? อิอิ

 

ไปวัดมาเหรอครับ? วันนี้ผมก็ไปมาเหมือนกัน กระทู้นี้มีแต่คนจิตใจใฝ่บุญกุศลจริงๆ

 

จุ๊ๆๆๆ (((พี่เค้าต้องบอกว่าไม่ต้องไม่สนใจ ให้เจริญสติในชีวิตประจำวัน ดูลมหายใจเข้าออก เห็นอะไรให้ทิ้ง อย่าไปยึด ไม่งั้นฝึกอีก10ปีก็ไม่ได้อะไร เครเนอะ^_^))) คิกๆๆ ถ้าเรามีครูบาร์อาจารย์ต้องโดนเฆี่ยนหลังลายแล้วเนี่ยสอนไม่จำ แต่ก็พูดได้ในนี้เท่านั้นแหละ เล่าให้เพื่อนฟังเพื่อนจะพาไปหาพระเพื่อนบอกโดนของแน่ๆ 55