ผมได้ปล่อยปลาช่อน ปลาหมอ ปลาดุก ให้ทานชีวิตสัตว์ ขอทุกท่านอนุโทนาร่วมกันครับ สาธุ แม้ปลาามันยังรู้ เมืีอปล่อลงคลองแล้วมันยังว่ายวนมาหาเรา มันไม่ได้แสดงความหวาดกลัวเรา มันรุ้ถึงความเมตตาที่เราช่วยมัน สัตว์มันก้มีจิตใจเหมือนเรา มันว่ายมาที่มือตอนตักน้ำ เราเอามือตักน้ำคลองขึ้นมาอุทิสบุญ เราอุทิสให้เจ้ากรรมและเทวดาของเขาให้ช่วยให้สัตว์พวกนั้นปลอดภัยพ้นทุกข์ ชีวิตเราไม่ได้อยากไดัอะไร บุญที่ทำนี่เพืีอสรรพสัตว์ไม่ใช่ตัวเรา มันแปลกครับ ผมรู้สึกแบบนี้มาพักใหญ่แล้ว เมืีอกัอนนี่ทำบุญนี่จะขอให้ตนเองสมปราถนาโน่นนึ่นั้น ขอให้ตนเองมีความสุข แต่ปัจจุบัน การทำบุญกุศล ความดี เราทำแล้วคือปราถนาให้ผุ้อื่นพ้นทุกข์มีความสุข เวลาอธิฐานกัให้ผู้อื่น เวลาอุทิยก้ให้ผู้อื่น ความอยากให้ตนนั่นไม่มีแลัว หลวงพ่อกวย ท่านนิมิตบอกว่า ทำต่อไปลูก มีครูใหญ่ พระพุทธะ มีลป ทวด สมเด็จโต ลป ปานวัดคลองด่าน ลป ปานวัดบางนมโค ลป คล้าย วัดสวนขัน ลพ ฤาษี ลิงดำวัดท่าซุงท่านคอยหนุน หมั่นสร้างความดี จงมีจิตเมตตาเพื่อสงเคราะห์สรรพสัตว์ เพราะมันเป้นหน้าที่ของเรา ที่ต้องทำและทำสั่งสมเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเต็มและสำเร็จตามที่ได้ตั้งปณิธานไว้ ครับ สาธุ
บุคคลผุ้เกิดมาเพื่อสร้างบารมี ย่อมเป็นผู้เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม ประโยชน์แก่ผู้อื่นเป็นสำคัญ ชีวิตจึงเกิดมาเพื่อเป้นผู้ให้ ผุ้เสียสละ ชีวิตจึงไม่ได้มีอยุ่เพืีอตนเอง จิตจึงเปี่ยมด้วยเมตตาส่งเคราะห์ผู้อื่น อันความสุขสบายส่วนตนจึงไม่มีความต้องการและสำคัญอันใดเลย กามราคะทั้งหลายเป้นของปุถุชนผุ้ยังหลง ใจที่เป็นนาย กายเป็นบ่าว แต่แท้จริงสรรพสัตว์ทั้งหลายล้วนถูก กามราคาอุปทานเป้นนายของจิตครอบงำจิตให้ตกอยู่เช่นนี้มายาวนานจนยากจะถอนออกหลุดพ้น เมื่อใดที่มีดวงตาเห็นธรรม ก้ย่อมมีหนทางสว่างหลุดพ้นทุกข์ได้ อย่าปล่อยให้ชีวิตผ่านไปโดยไร้ค่า หมั่นสั่งสมสร้างกุศล สติปัญญา นำพาให้พ้นทุกข์ครับ สาธุ
ชีวิตนี้ไม่เที่ยง ความสุขทุกข์ไม่เที่ยง ปล่อยวางสรรพะสิ่ง ดำรงจิตตั้งอยู่ในธรรม ไม่มีอะไรให้ยึดมั่น สักแต่ว่าทำหน้าที่ ประคองจิตสุ่มรรคผล ดำรงตนอยุ่ด้วยสีลด้วยธรรม รักษาไว้ซึ่งพรหมจรรย อันบริสุทธิ์ มีวิมุติเป็นวิหารธรรม นำพาจิต สู่แดนพระนิพพาน
ความละเอียดของสมาธิต้องฝึกฝนหมั่นปฏิบัติ สติที่ตามรู้ กาย เวทนา ก็ดีที่ตามรู้จิตและธรรมารมณ์ที่ปรากฎก็ดี เป้นของละเอียด การเข้าไปรุ้เป้นของจริงที่เกิดดับ ความละเอียดของสมาธิต้องใช้เวลาในการฝึกฝน ทุกอย่างเกิดขึ้นตั้งอยุ่ดับไป ในขณะที่เราเดินสติ ทำสมาธิวิปัสสนาเข้าสุ่ฐานทั้งสี่ ขันธ์ห้า ก้ทำหน้าที่ควบคุ่ไปด้วย รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ย่อมแสดงอัตลักษณ์ของมัน มันทำหน้าที่ของมัน ธรรมทั้งปวงที่ปรากฎ หยาบ ปานกลาง ละเอียด ก้ล้วนมีต้นกำเนิดจากขันธ์ทั้งสิ้น ความรุ้แจ้งในขันธ์ห้านี้เองคือความรุ้แจ้งในทุกข์ ดังนั้นผู้ปฏิบัติจึงนัอมเอาขันธ์ห้านี้มีเป้น ธรรมมะเครื่องพิจารณาให้แยบคาย สัจจะธรรมย่อมปรากฎ ผุ้ใดมีสติปัญญารู้แจ้งและตัดขาดจากขันธ์ ไม่ยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ห้านี้ได้ย่อมพบแสงสว่างคือความหลุดพ้นทุกข์
สัมมาทิฏฐิ คือความเห็นชอบ คือมีความเห็นที่ถูกต้อง หรือมีทัศนะคติที่ถูกต้อง คือมีความเห็นที่เป้นไปเพื่อความดีงาม เพื่อประโยชน์ ทัั้งในปัจจุบันหรืออนาคต
เรื่องต่างๆ บางเรื่องต้องทำในปัจจุบัน ไม่ต้องสนใจอดีต อนาคต บางเรืีองต้องทำในอนาคต ปัจจุบันยังไม่จำเป็นต้องทำ เพราะยังไม่มีความเกึ่ยวข้องอะไร การจำแนกสิ่งต่างๆอาศัยสติ สมาธิและปัญญาเป้นเครื่องช่วย อย่าปล่อยให้สิ่งต่างๆไปครอบงำจนขาดสติ ไม่แยกแยะ เมื่อนั้นก็จะหลงทาง หลงผิด ก้าวเดินไปไม่ถูถ ชีวิตจึงอาจตกสูู่หนทางชั่วได้
ประคองจิต ให้สงบนิ่ง เพื่อจะได้เปิดดวงตาแห่งธรรม เมื่อเปิดแล้ว การเห็นต่างๆก้จะชัดเจน เมื่อเห้นสรรพสิ่งได้อย่างชัดเจน การคิดวิเคราะห์ การรู้เท่าทัน ทางโลก กิเลสมันก้ไม่มีอำนาจครอบงำเรา เมื่อเป้นเช่นนึ้ การดำเนินชีวิตของเราก้จะก้าวไปถูกทาง และมีความสงบสุข
ปัญหาทางโลกมีมากมาย เราไม่สามารถแก้ไข้ได้ทั้งหมด แต่เมื่อใดที่เรามีสติปัญญามากพอ เราก้หลุดพ้นได้ ปัญหาทางโลกทุกปัญหาไม่ได้มีไว้ให้เป้นทุกข์ แต่ทุกข์ทางโลกทั้งหลายมีทางออกหรือทางหลุดพ้นทุกข์ได้ ถ้าเรารู้วิธีถูกต้อง และทำได้ถูกต้องตามวิธีที่ถูกต้องที่เรารู้นั้น นิโรธก็้ปรากฏ ความทุุกข์ทั้งหลายก้ดับลง
ธรรมะวันนี้ ที่คุณก้องกล่าวเป็นเรื่องที่ผมกำลังเจออยู่เลยครับ ผมเลยขอสอบถามครับ 1.ผมกำลังหลงทางครับ ผมควรไปทำอาชีพอะไรครับ หรือผมยังคงต้องเป็นพนักงานกินเงินเดือนไปตลอดครับ 2.ถ้าต้องเป็นลูกจ้างตลอดไป ผมควรย้ายงานไหมครับ ผมไม่มีจุดหมายปลายทางของชีวิตเลยครับ ผมอยากมีความสามารถและอยู่ในสายอาชีพที่เกี่ยวกับคนมีเซนส์แล้วได้ช่วยเหลือคน ผมพยายามฝึกฝนมาเกือบ 15 ปี สุดท้ายก็ไม่มีอะไร ผมอยากทำงานอยู่กับอะไรที่เป็นประโยชน์ช่วยเหลือคนไปด้วยเลี้ยงตัวเองไปด้วย คืออยู่กับสิ่งที่เราชอบ แต่ทุกวันนี้ผมยังเติบโตไปในสายงานทางโลก ที่สังคมในนั้นยังต้องวนเวียน ต้องเข้าหาทางกิเลส ผมเหนื่อยจังเลยครับ...นะโม โพธิสัตโต กษิติครรภ์ โพธิสัตโต อภิปูยาจามิ
คุณอายุ20 ปลายๆถือว่ายังไม่มาดแต่ก็ฝึกฝนมาพอสมควรมีพื้นฐานพอใช้ได้จึงไม่ใช่เรืีองยาก การที่ยังหาเป้าหมายไม่เจอจึงไม่แปลกครับ เมื่อใดที่อายุ32 ปีไแแล้วก้จะรู้เอง ตอนนี้ยังคงต้องทำงานเลี้ยงชีพไปก่อน ควบคู่กับการปฎิบัติศึกษาไปเรื่อยๆ ศีล สมาธิ ปัญญาเป้นหนทางเดียวที่จะนำจิตสู่ความเป้นอริยะจิต อยู่กับโลกมายาอย่างรุ้เท่าทันจึงเป้นสิ่งที่ต้องฝึกฝน และทำต่อไปครับ
ทุกอย่างมีเวลาของมัน จงใช้เวลาที่มีอย่างคุ้มค่า แบ่งเวลาที่มีให้ดี วางแผนชีวิตที่มีค่อยๆก้าวไปตามลำดับ เรียนรู้กายใจตนให้มาก ย่อมค้นพบตนเองและเป้าหมายในที่สุด
การรู้ของจิต เป้นสิ่งที่อาศัยการฝึกฝน การฝึกฝนอาศัยทั่งของเก่าของใหม่ ดังนั้นเมื่อเรามีความเพียรมีขันติ การฝึกฝนเราย่อมเจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้นไป ปัญหาจึงอยู่ที่เราต้องมีความเชื่อความศรัทธา ปัญญา ย่อมปรากฎเอง การที่เราสร้างเหตุไว้สมควรแล้ว ผลย่อมปรากฏรับรุ้ไก็เอง เป็นปัจจัตตัง ของบุคคล ก้เท่านั้นเอง
ปุถุชนย่อมมีความปราถนาความต้องการไม่มีที่สิ้นสุด ส่วนพระอริยะมีความต้องการเพียงสิ่งเดียวคือความสงบสุขที่ขาวสะอาดหลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวง ดังนั้น พระอริยะจึงก้าวเดินด้วยมรรคแปด อย่างไม่ลังเลสงสัย เมื่อใดที่ท่านเจริญก้าวหน้าในมรรคแปดกระทำกิจในอริยะมรรคได้บรรลุสมบูรณ์แล้วเมืีอนั้นความปราถนาที่ได้ตั้งไว้ก็บรรลุสมปราถนา กิจทั้งหลายจึงจบสิ้น จึงเป็นผุ้หลุดพ้นจากทุกข์ เป็นผู้อยู่เหนือโลก พ้นจากโลกีวิสัย มีจิตดำรงอยู่ด้วยธรรมอันเป็นโลกุตระเป้นปกตินิรันดร์ .
เมื่อวันหยุดที่ผ่านมาผมได้ไปทำบุญ5วัด และได้ร่วมบุญกฐิน วัดสมาน ขอทุกท่านอนุโมทนาร่วมกันครับ สาธุ ครับ