พระสิวลีลป.โต๊ะเสกขุนแผนยอดขุนพล ลพ สวาทวัดโป่งจันทร์ล๊อคเก็ตและขุนแผนรุ่นแรกลพ.สม โพธิ์ทอง

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Jumbo A, 17 สิงหาคม 2022.

  1. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,719
    ค่าพลัง:
    +21,337
    1934762_1220395924655982_4507988873218024095_n.jpg
    พระครูสัจจานุรักษ์"หลวงพ่อเที่ยง ปภังกโร"
    วัดพระพุทธบาทเขากระโดง. อ.เมือง จ.บุรีรัมย์

    "พระครูสัจจานุรักษ์" หรือ "หลวงพ่อเที่ยง ปภังกโร" พระเกจิชื่อดังและพระนักพัฒนา ที่ชาวอีสานใต้ให้ความเลื่อมใสศรัทธา เนื่องจากเป็นพระเถระที่มีเมตตา ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เคร่งครัดในพระธรรมวินัย

    ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทเขากระโดง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์

    มีนามเดิม เที่ยง อารมณ์ เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 1 ม.ค. 2484 ที่บ้านเลขที่ 108 หมู่ที่ 12 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์

    ในวัยเด็กมีความขยันหมั่นเพียร กตัญญูต่อบิดามารดา ช่วยกิจการงานทุกอย่าง ทำนา หว่านกล้า เก็บเกี่ยวข้าว ด้วยความอุตสาหะอดทน

    จบการศึกษาชั้นประถมปีที่ 4 ที่โรงเรียนในหมู่บ้าน จากนั้นก็ช่วยพ่อแม่ทำไร่ทำนามาตลอด

    กระทั่งอายุ 29 ปี เข้าพิธีอุปสมบท ที่ วัดอิสาณ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 10 พ.ค. 2513 มีพระเมธีธรรมาภรณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์, หลวงพ่อบุญมา ปัญญาปโชโต เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และหลวงพ่อจำรัส เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายานาม ปภังกโร

    หลังอุปสมบท ย้ายมาอยู่จำพรรษาที่วัดพระพุทธบาทเขากระโดง ตั้งใจขยันหมั่นเพียรศึกษาพระปริยัติธรรม ด้วยเป็นผู้มีความวิริยะสูง จดท่องแม่นยำยิ่งนัก ทั้งฝักใฝ่หาความรู้ เพียรหาครูบาอาจารย์อย่างไม่ลดละแม้จะไกลไปยาก ก็อุตส่าห์ดั้นด้นเดินทางไป

    ศึกษาวิทยาคมและวิปัสสนากรรมฐานจากหลวงพ่อบุญมาอยู่หลายปี จนมีความเชี่ยวชาญ ซึ่งหลวงพ่อบุญมาได้แนะนำว่า "ถ้าจะบรรลุถึงธรรมปฏิบัติที่แท้จริงแล้วจะต้องออกธุดงค์ เพื่อหาความวิเวกฝึกจิตสมาธิให้กล้าแข็ง"

    ท่านจึงออกเดินธุดงค์จาริกหาความวิเวกไปตามป่าดงดิบทั้งไทย พม่า และเขมร ต่อมาหลวงพ่อบุญมาถึงแก่มรณภาพ ท่านเดินทางกลับมาเพื่อช่วยจัดการเกี่ยวกับศพหลวงพ่อบุญมา กระทั่งพระอธิการบุญเย็น พระอาวุโสในวัดได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสรูปต่อมา

    หลังจากนั้น หลวงพ่อเที่ยงออกท่องธุดงค์อีก คราวนี้ขึ้นไปทางเหนือ จุดหมายปลายทาง คือ ฝั่งเมียวดี ประเทศพม่า ผ่านทางแม่สอด จ.ตาก แล้วข้ามฟากมุ่งสู่ยอดดอยลิ้นกี่ ฝั่งเมียวดี เข้ากัมมัฏฐานรักษาศีลปฏิบัติธรรมอยู่ที่นั่นเป็นเวลาเกือบปี
    วันหนึ่ง ท่านได้พบกับพระภิกษุชาวลาวรูปหนึ่งชื่อว่า หลวงพ่อมหาตันอ่อน เป็นพระเถระจากเมืองเวียงจันทน์ ซึ่งเชี่ยวชาญในวิทยาคม ท่านทั้งสองได้แลกเปลี่ยนวิชาความรู้กัน และความรู้ด้านปฏิบัติสมถะสำหรับในด้านวิทยาคม

    ครั้นพอออกพรรษา หลวงพ่อเที่ยงแบกกลดคู่ชีพธุดงค์มุ่งหน้าสู่เขาพระวิหาร เพื่อบำเพ็ญเพียร และได้พบกับพระเถระเขมรระดับเกจิหลายรูปด้วยกัน และฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาด้านวิชาอาคม

    หลวงพ่อเที่ยงธุดงค์เข้าไปในเขมรพร้อมกับพระอาจารย์อุทัยเพื่อนสหธรรมิก พบกับพระเกจิอาจารย์ขมังเวทชาวเขมรได้รับความเมตตาสั่งสอนถ่ายทอดวิทยาคมต่างๆ อย่างไม่ปิดบัง

    สำหรับวัดพระพุทธบาทเขากระโดง ตั้งอยู่เชิงเขากระโดง ซึ่งเป็นวนอุทยาน ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย

    เริ่มสร้างเมื่อปี พ.ศ.2498 โดยหลวงพ่อบุญมา อาจารย์สอนวิปัสสนากัมมัฏฐาน ในที่ดิน 5 ไร่

    หลวงพ่อบุญมาชักชวนประชาชนพระภิกษุ-สามเณรร่วมกันพัฒนาบนยอดเขาและทางขึ้นเขา

    หลังหลวงพ่อบุญมามรณภาพ ต่อมา วัดพระพุทธบาทเขากระโดง ได้รับประกาศตั้งเป็นวัดถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อปี พ.ศ.2521
    เถระจากเมืองเวียงจันทน์ ซึ่งเชี่ยวชาญในวิทยาคม ท่านทั้งสองได้แลกเปลี่ยนวิชาความรู้กัน และความรู้ด้านปฏิบัติสมถะสำหรับในด้านวิทยาคม

    ครั้นพอออกพรรษา หลวงพ่อเที่ยงแบกกลดคู่ชีพธุดงค์มุ่งหน้าสู่เขาพระวิหาร เพื่อบำเพ็ญเพียร และได้พบกับพระเถระเขมรระดับเกจิหลายรูปด้วยกัน และฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาด้านวิชาอาคม

    หลวงพ่อเที่ยงธุดงค์เข้าไปในเขมรพร้อมกับพระอาจารย์อุทัยเพื่อนสหธรรมิก พบกับพระเกจิอาจารย์ขมังเวทชาวเขมรได้รับความเมตตาสั่งสอนถ่ายทอดวิทยาคมต่างๆ อย่างไม่ปิดบัง

    สำหรับวัดพระพุทธบาทเขากระโดง ตั้งอยู่เชิงเขากระโดง ซึ่งเป็นวนอุทยาน ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย

    เริ่มสร้างเมื่อปี พ.ศ.2498 โดยหลวงพ่อบุญมา อาจารย์สอนวิปัสสนากัมมัฏฐาน ในที่ดิน 5 ไร่

    หลวงพ่อบุญมาชักชวนประชาชนพระภิกษุ-สามเณรร่วมกันพัฒนาบนยอดเขาและทางขึ้นเขา

    หลังหลวงพ่อบุญมามรณภาพ ต่อมา วัดพระพุทธบาทเขากระโดง ได้รับประกาศตั้งเป็นวัดถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อปี พ.ศ.2521 ส่วนหลวงพ่อเที่ยงได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ที่ พระครูสัจจานุรักษ์

    สานต่อภารกิจสร้างอุโบสถต่อจากหลวงพ่อบุญมาจนแล้วเสร็จ และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมายาว 29 เมตร พร้อมกับได้สร้างและพัฒนาถาวรวัตถุต่างๆ ภายในบริเวณวัด ทำให้วัดได้เจริญขึ้นมาตามลำดับ

    ด้านการสร้างวัตถุมงคลของหลวงพ่อเที่ยง ไม่ได้จัดสร้างบ่อยนัก นานครั้งในวาระพิเศษ จึงจะมีการจัดสร้างสักครั้งหนึ่ง ท่านจะเน้นคำสอนให้ลูกศิษย์นำไปปฏิบัติมากกว่า แต่จะอนุญาตให้ศิษย์ใกล้ชิดสร้างขึ้นเป็นพิเศษ ทำให้วัตถุมงคลของท่านมีจำนวนไม่มากนัก แต่ปรากฏว่าได้รับความนิยมไม่แพ้กัน

    หลวงพ่อเที่ยงมีอุปนิสัยส่วนตัวสมถะเรียบง่าย รักสันโดษ ชอบอยู่ตามป่าเขา

    ด้วยมีจิตใจตั้งมั่น ปฏิบัติธรรมตามแนวทางแห่งองค์พระศาสดา ดำเนินชีวิตไปสู่ความถูกต้องดีงามเป็นประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติส่วนรวม

    ช่วงบั้นปลายชีวิตของหลวงพ่อเที่ยง มีอาการอาพาธบ่อยครั้ง ด้วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงมานานหลายปี ต้องเข้าออกโรงพยาบาลเป็นประจำ

    กระทั่งเมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 3 มี.ค. น้องสาวของหลวงพ่อเที่ยงและหลานเข้ามาอุปัฏฐากที่กุฏิ เพื่อทำภัตตาหารถวายหลวงพ่อทุกเช้า ตะโกนเรียกหลวงพ่อหลายครั้ง แต่ไม่มีเสียงตอบรับ จึงงัดประตูกุฏิเข้าไป พบร่างหลวงพ่อมีอาการชักเกร็ง น้ำลายฟูมปาก และหมดสติ

    จึงเรียกรถพยาบาล นำร่างหลวงพ่อส่งโรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ คณะแพทย์รับหลวงพ่อรักษาในห้องไอซียู จนเวลา 02.46 น. คืนวันที่ 7 มี.ค. 2559 จึงมรณภาพอย่างสงบ สิริอายุ 75 ปี 2 เดือน 7 วัน พรรษา 46

    พระใบฎีกาทระนง ธนปัญโญ รองเจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทเขากระโดง กล่าวว่า การบำเพ็ญกุศลศพหลวงพ่อเที่ยง จะมีพิธีสวดพระอภิธรรมทุกวัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 7 มี.ค. เป็นเวลา 9 คืน จากนั้นจะมีพิธีบรรจุศพหลวงพ่อเที่ยงไว้ในโลงหีบมุก เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้สักการะ
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    เหรียญนั่งพานหลวงพ่อเที่ยง วัดพระพุทธบาทเขากระโดง มีรอยจารอักขระลายมือหลวงพ่อ ให้บูชา300บาท ค่าจัดส่ง30บาท ระบบflashหรือ j&tหรือเคอรี่

    IMG_20221007_132059.jpg IMG_20221007_132126.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ตุลาคม 2022
  2. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,719
    ค่าพลัง:
    +21,337
    วันนี้จัดส่ง Kerry
    PEX114100000203 ลาดกระบัง
    PEX114100000204 บ้านไร่
    ขอบคุณครับ
     
  3. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,719
    ค่าพลัง:
    +21,337
    1310793-34006.jpg

    สำหรับประวัติของ "หลวงปู่ลุน" มีนามเดิมว่า คำพอง ราวงษ์ เกิดเมื่อวัน 28 กุมภาพันธ์ 2478 ที่ บ้านหนองแวง ต.กุดธาตุ (เดิม ต.บ้านโคก) อ.หนองนาคำ (เดิม อ.ภูเวียง) จ.ขอนแก่น บิดาชื่อนายจันทา ราวงษ์ มารดาชื่อ นางปัด ราวงษ์ โดยมีอาชีพเกษตรกรรม ในวัยเด็กหลวงปู่ได้ช่วยพ่อแม่ทำเกษตรกรรม จนอายุได้ 18 ปี จึงเข้าบรรพชาเป็นสามเณร ในปี 2496 กับหลวงปู่ทองคำ กตปุญโญ ที่วัดโพนแพง อ.หนองนาคำ จ.ขอนแก่น และเมื่อปี 2498 เข้าอุปสมบทที่วัดโพธยาวาส บ้านหัวนาหมอ ต.กุดธาตุ อ.หนองนาคำ จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2498 โดยมีเจ้าอธิการปุ้ย สุมโน เป็นพระอุปัชฌาย์ พระไพบูลย์ ปณีโต วัดโพธยาวาส เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการทองคำ กตปุญโญ วัดโพนแพง เป็นพระอนุสาวาจาจารย์ ได้รับฉายาว่า สีลคุโณ
    "หลวงปู่ลุน" ออกธุดงค์เมื่อปี พ.ศ. 2500 ซึ่งในขณะนั้นบวชได้เพียง 2 พรรษา โดยเดินทางไปทางแถบ จ.หนองบัวลำภู จ.อุดรธานี ธุดงค์เข้าที่อำเภอชนบท ได้ฝากตัวเป็นศิษย์ตาประขาว และธุดงค์ต่อ จ.สกลนคร จนถึง จ.นครพนม ข้ามไปที่ สปป.ลาว จนถึงสุวรรณเขต จาริกธุดงค์ไปศึกษาวิชาธรรมธาตุโลกุตตรัง วิชาว่านยาสมุนไพร และยอดวิชาธรรมต่างๆ สายวิชาขององค์สำเร็จลุน ที่หอพระคัมภีร์ วังเวินไซ แขวงจำปาศักดิ์ และได้ศึกษาสรรพวิชาอาคมการฝึกฝนจิตจากองค์มหาฤาษีคำผงแห่งสุวรรณเขต ธุดงค์ถึงภูเขาควาย ได้ฝากตัวเป็นศิษย์องค์สำเร็จแก้ว (สหธรรมมิกองค์สำเร็จลุน) และองค์สำเร็จหงษ์ ศึกษาวิชาพระเวทวิทยาคมจากอาจารย์ฆราวาสผู้เรืองวิชาในยุคนั้นหลายท่านจนแตกฉาน ได้รับขนานนามว่า "บรมครูธรรมแห่งอีสาน"... อ่านต่อที่ : https://d.dailynews.co.th/regional/828086/
    พระขุนแผนยอดขุนพล หลวงปู่ลุน วัดโพนแพง บ้านหนองแวง ต.กุดธาตุ อ.หนองนาคำ จ.ขอนแก่น ปี 2545

    โดยหลวงปู่ลุนวัดโพนแพง ยอดพระเกจิขมังเวทย์แห่งแดนอีสาน ท่านเป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ มีวิชาทางด้านถอนของแก้คุณไสย ไม่ว่าจะโดนน้ำมันพรายก็ดี โดนเสน่ห์ก็ดี ถูกกระทำต่างๆ ปราบผี ไล่ผี รดน้ำมนต์ แก้เสนียดจัญไร เป็นที่พึ่งพิงของชาวบ้าน

    พระขุนแผนยอดขุนพลของหลวงปู่ เด่นทางมหาอำนาจ วาสนา บารมี คุมลูกน้อง วัตถุมงคลของท่านเข้มขลังด้วยพุทธคุณ น่าสะสมบูชาอย่างมาก หลวงปู่ลุนวัดโพนแพง ยอดพระเกจิขมังเวทย์แห่งแดนอีสาน ท่านเป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ มีวิชาทางด้านถอนของแก้คุณไสย ไม่ว่าจะโดนน้ำมันพรายก็ดี โดนเสน่ห์ก็ดี ถูกกระทำต่างๆ ปราบผี ไล่ผี รดน้ำมนต์ แก้เสนียดจัญไร เป็นที่พึ่งพิงของชาวบ้าน

    ขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    พระขุนแผนยอดขุนพลหลวงปู่หรุ่นให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่ง 30 บาทระบบ flash หรือj&t หรือ kerry
    IMG_20221008_020739.jpg
    IMG_20221008_020756.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ตุลาคม 2022
  4. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,719
    ค่าพลัง:
    +21,337
    1665170971373.jpg
    พระเถระผู้ใหญ่พูดถึงหลวงปู่ขวัญ
    คำพูดที่ฮือฮามากในช่วงนั้น(20 กว่าปีมาแล้ว) คือคำพูดของหลวงพ่อเกษม เขมโก ที่คนพิจิตรมักจะพูดถึงคือ มีคนพิจิตรไปกราบหลวงพ่อเกษมแล้วหลวงพ่อเกษมพูดว่า "มาทำไมถึงที่นี่ ที่พิจิตรก็มีหลวงพ่อขวัญ" ประโยคนี้แม้แต่ "คุณฉวีวรรณ ขจรประศาสน์" ภริยาท่านพลตรีสนั่น ขจรประศาสน์ ยังเคยพูดกับผมในช่วงนั้นเลย ซึ่งช่วงนั้นเสธฯหนั่นกำลังเป็น ม.ท.1 ด้วย คุณฉวีวรรณเล่าให้ผมฟังว่า "ป้าได้ไปกราบหลวงพ่อขวัญมาแล้ว ไปเช่าแหวนท่านมาด้วย หลวงพ่อเกษมยังบอกให้ไปกราบหลวงพ่อขวัญเลย" (ผมเพิ่มเติมว่าหลวงพ่อขวัญท่านเคยไปเรียนวิชาทำน้ำมันสมุนไพรคุณพระรักษา ที่ จ.ลำปาง ครับ) ครั้งหนึ่งมีพิธีปลุกเสกพระหลวงพ่อเงิน ที่วัดบางคลาน ผมมีโอกาสได้รับ-ส่งหลวงพ่ออุตตมะจากสนามบินพิษณุโลกและวัดบางคลาน(ทำให้มี บุญได้พาหลวงพ่อมาพักผ่อนที่บ้านหลังเสร็จพิธีด้วย) ในครั้งนั้นผมจึงถวายแหวนหลวงพ่อขวัญเป็นที่ระลึกกับหลวงพ่ออุตตมะด้วย หลังจากนั้นผมได้ไปกราบหลวงพ่ออุตตมะที่พุทธมนฑลสาย 2 หลวงพ่อหยิบแหวนหลวงพ่อขวัญแล้วพูดกับผมว่า "ของดีนะ" แล้วท่านก็เอาแหวนของหลวงพ่อขวัญมอบให้กับลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดกับท่าน โดยใส่แหวนให้ที่นิ้วด้วยมือของหลวงพ่อเอง แต่ปรากฏว่าแหวนหลวมไป หลวงพ่อท่านก็หาด้ายมาพันที่ท้องวงแหวนให้ เมื่อหลวงพ่อพันด้ายเสร็จก็เอาแหวนมาใส่ให้ด้วยมือของท่านเองอีก คราวนี้ใส่ได้พอดี หลวงพ่ออุตตมะท่านยิ้มแล้วบอกว่า "ของดีนะใส่ติดตัวไว้นะ" แค่นี้ก็คงพอแล้วนะครับ แต่เท่าที่ทราบก็ยังมีครูบาอาจารย์อีกหลายองค์ที่พูดถึงหลวงปู่ขวัญอีกเช่น หลวงปู่ครูบาหล้าตาทิพย์, หลวงพ่อแพ, หลวงพ่อฤาษีลิงดำ(หลวงพ่อท่านมอบข้าวตอกพระร่วงให้หลวงพ่อขวัญด้วย) แต่บังเอิญผมไม่มีข้อมูลอ้างอิงครับ ท่านที่มีข้อมูลตรงนี้กรุณาเล่าให้ฟังบ้างนะครับ

    1665170983594.jpg
    ปาฏิหาริย์หลวงพ่อขวัญ

    ผมได้คุยกับคนคนนี้เองเลย เขาชื่อสิบเอกสมพงษ์ ปัญญาพิมพ์ ตอนนั้นเป็นทหารอยู่ที่ลพบุรี เขามากราบขอบคุณหลวงปู่ ซึ่งได้ช่วยชีวิตเขาไว้โดยรายนี้เป็นพลร่มป่าหวาย ไปฝึกโดดร่มบังเอิญร่มขาดกลางอากาศร่วงลง ในตอนนั้นเขาไม่ได้ใส่อะไรนอกจากแหวนตะกร้อหลวงพ่อขวัญเท่านั้น เขาจึงเชื่อว่าหลวงพ่อขวัญเป็นผู้ช่วยชีวิตเขา ตอนนั้นเขาเพิ่งออกจากโรง พยาบาลกระโหลกเขายังไม่เต็มเลย ยังเห็นสมองเต้นตุบๆ ที่ศรีษะของเขา ผมถามว่าถ้าปรกติกรณีแบบนี้จะเป็นอย่างไร เขาบอกว่า "เอาปิ๊ปเก็บเศษเนื้อของผมได้เลยครับ" รายละเอียดจาก คมชัดลึก

    นางมาลัย ปัญญาพิมพ์ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 127/79 ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ จ.พิษณุโลก เล่าถึงอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่ขวัญว่า เมื่อประมาณปี 2539 จ.ส.อ.สมพงษ์ ปัญญาพิมพ์ อายุ 41 ปี สามี ซึ่งเป็นทหารสังกัดกองทัพน้อยที่ 3 ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ จ.พิษณุโลก ไปฝึกหลักสูตรเปลี่ยนแบบร่มที่ จ.ลพบุรี โดยขณะฝึกนั้นสามีโดดร่มลงมาจากเครื่องบิน และเมื่อมาถึงระยะ 5,500 ฟิต สามีกระชากร่ม แต่ร่มไม่กางออก แม้แต่ร่มช่วยก็ไม่ทำงาน "ตอนนั้นสามีบอกความรู้สึกได้เพียงว่า คงไม่รอดแน่ เนื่องจากระยะที่สูงมาก จึงเพียงนึกถึงหลวงปู่ขวัญและคุณพ่อคุณแม่ โดยในตัวมีเพียงแหวนรุ่นหัวสิงห์ของหลวงปู่ขวัญเท่านั้น หลังจากนั้นก็เก็บคองอเข่าตามหลักสูตรที่เรียนมา เมื่อตกมาถึงพื้นก็หมดสติไป" นางมาลัย กล่าว นางมาลัย ยังกล่าวอีกว่า เพื่อนทหารช่วยกันนำสามีส่งโรงพยาบาล โดยแพทย์บอกว่า ให้ทำใจ เพราะโอกาสที่รอดมีน้อยมาก หรือหากรอดชีวิตก็มิสิทธิเป็นคนปัญญาอ่อน เพราะสมองกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง แขนทั้งสองข้างหัก แต่หลังจากอยู่ในห้องไอซียูไม่ถึง 8 วัน สามีก็ฟื้น โดยอาการเหมือนคนไม่ได้เป็นอะไรเลย ซึ่งแพทย์ยังงง โดยเฉพาะแขนที่หักก่อนหน้านั้น เมื่อแพทย์จะผ่าตัด
    กลับพบว่า แขนไม่ได้เป็นอะไรเลย ทุกอย่างปกติเหมือนคนทั่วไป ทั้งนี้จากอุบัติเหตุดังกล่าวสามีนอนอยู่ในโรงพยาบาลเพียง 23 วันเท่านั้น นางมาลัย ยังเล่าอีกว่า หลังจากที่สามีหาย ได้สอบถามคนในครอบครัวจึงทราบว่า บิดาของตนไปขอร้องให้หลวงปู่ขวัญช่วย โดยเขียนชื่อที่อยู่จริงของโรงพยาบาลที่สามีนอนรักษา หลังจากนั้นจึงทราบว่าหลวงปู่ท่านได้นำชื่อมาเพ่งกระแสจิต จนทำให้อาการของสามีหายดีในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งข่าวดังกล่าวดังไปทั่วประเทศ โดยช่วงนั้นสามีของตนเองไปออกรายการทีวีหลายรายการ อย่างไรก็ตาม นับแต่นั้นมาตนและสามีจะไปเยี่ยมหลวงปู่ขวัญทุกอาทิตย์เป็นประจำตลอดมา และการจากไปของท่านคงไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นความรู้สึกได้

    *-* อ้างอิงข้อมูลจาก http://www.bankaraoke.com/bbs/viewthread.php?tid=1844&extra=page=1

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    เหรียญหลวงพ่อขวัญวัดบ้านไร่รุ่นสร้างโรงพยาบาลให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่ง 30 บาทระบบ flash หรือ j&t หรือเคอรี่
    IMG_20221008_023349.jpg IMG_20221008_023407.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ตุลาคม 2022
  5. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,719
    ค่าพลัง:
    +21,337
    วันนี้จัดส่ง flash
    TH03023AB4782B บางกรวย
    ขอบคุณครับ
    จะให้ส่งแบบไหน แจ้งมาได้ครับ ถ้าจะเฉพาะเจาะจง จะพยายามทำให้ครับ flash j&t kerry ไปรษณีย์ไทย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ตุลาคม 2022
  6. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,719
    ค่าพลัง:
    +21,337
    1663510014375.jpg
    เพชรน้ำหนึ่งอีกท่านพระครูอุดมศีลาภรณ์
    หลวงปู่เสาร์ ติสฺสปญฺโญ วัดกุดเวียน
    ตำบลบุ่งขี้เหล็ก อำเภอสูงเนิน นครราชสีมา
    #คติธรรมหลวงปู่เสาร์
    ทุกข์ไม่ทำ ทำไม่ทุกข์
    ทุกข์ไม่พูด พูดไม่ทุกข์
    ทุกข์ไม่คิด คิดไม่ทุกข์
    ทำพูดคิด ไม่ติดทุกข์
    สัมภาษณ์ชาวบ้านที่ศรัทธา
    หลวงปู่เสาร์ ติสฺสปญฺโญ
    เปิดดูไฟล์ 6022302
    หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา
    หลวงพ่อคูณการนั่งยอง หรือการพูดด้วยภาษาโบราณใช้คำว่า “กู-มึง” และพูดตรงๆ มีความจริงใจ ไม่โอ้อวด หรือไม่แสดงอิทธิปาฏิหาริย์ให้ผู้คนเข้าใจผิดติดในอวิชชา คนถึงศรัทธาท่านมากเพราะท่าน ไม่โอ้อวดดีท่านเดียว
    อย่างคนในอำเภอสูงเนินไปหาท่านท่านจะพูดเสมอว่า
    #พวกมึงมาหากูทำไมไปหาของดีบ้านมึงปะไร #หลวงพี่เสาร์วัดกุดเวียนเก่งกว่ากูอีก
    #ประวัติพระครูอุดมศีลาภรณ์
    หรือหลวงปู่เสาร์ ติสสปัญโญ
    อดีตเจ้าอาวาสวัดกุดเวียน ต.บุ่งขี้เหล็ก
    อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบล
    หลวงปู่เสาร์ เดิมชื่อเสาร์ เกิดเมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2455 เป็นบุตรของนายคำและนางอุมา อยู่ที่บ้านลิ้นจี่ อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ บรรพชาเป็นสามเณรเมื่อปี พ.ศ.2474 ขณะมีอายุ 18 ปี และอุปสมบทเป็นพระภิกษุสงฆ์เมื่อปี พ.ศ.2476 โดยมีหลวงปู่ฉิม ธัมมรตโน เป็นพระอุปัชฌาย์ ที่วัดบ้านเมืองหลวง ต.เมืองหลวง อ.ห้วยทับทัน ในช่วงนั้นมีญาติโยมชาว อ.สูงเนิน นิมนต์มาพัฒนาวัดกุดเวียน ซึ่งเป็นวัดร้างตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ.2478 กระทั่งปัจจุบันวัดกุดเวียนมีความเจริญรุ่งเรือง และเป็นที่ศรัทธาของลูกศิษย์ลูกหา เป็นพระเถระผู้ใหญ่ที่ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ แห่งวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ให้ความเคารพ นับถือหลวงปู่เสาร์เป็นอาจารย์ นอกจากนี้ หลวงปู่เสาร์จัด สร้างวัตถุมงคล ไม่ว่าจะเป็นพระเครื่อง เหรียญ ตะกรุดโทน ตะกรุดมหารูด ตะกรุดใบลาน ตะกรุดเมตตามหานิยม สมเด็จแช่น้ำมนต์ด้วยสายรุ้ง ตลับขี้ผึ้ง พระผงสมเด็จ พระปิดตา และผ้ายันต์ โดยเฉพาะเหรียญปี พ.ศ.2511 ที่หลวงปู่สร้างขึ้น เป็นรุ่นแรก และเป็นที่ต้องการของเซียนพระ
    1663510058662.jpg


    หลวง ปู่เสาร์ วัดกุดเวียน อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ได้ถึงกาลมรณะภาพด้วยอาการอันสงบ เมื่อเวลา13.28 น. บ่ายวันเสาร์ที่ 29 กันยายน 2550 ที่ห้อง CCUอาคารเฉลิมพระเกียรติ รพ.มหาราช
    หลัง จากที่หลวงปู่เสาร์ ซึ่งมีอายุ 96 ปี (ท่านเกิด 10มกราคม 2454 แต่ในทะเบียนเกิดแจ้ง 2455) ได้ป่วยด้วยโรคชรา มีปัญหาเรื่องต่อมลูกหมาก จนต้องเข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาลอยู่เป็นประจำ ในช่วง 1-2 ปี กระทั่งหลังสุด หลวงปู่เพิ่งออกจากโรงพยาบาลกลับไปพักฟื้นที่วัดกุดเวียนเมื่อวันพุธที่26ก.ย2550 ก่อนจะกลับเข้ารับการรักษาตัวอีกครั้งในช่วงค่ำวันศุกร์ และได้ละสังขารไปในที่สุด
    สรีระของหลวงปู่เสาร์ อยู่ที่โรงพยาบาลมหาราช (อาทิตย์ 30 กย2550) ทางคณะศิษย์ได้นำศพของหลวงปู่เสาร์กลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดกุดเวียน ในเวลา13.00 น.
    สำหรับกำหนดการณ์พระราชทานเพลิงศพหลวงปู่เสาร์นั้น จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 – 15 มกราคม 2555 ที่วัดกุดเวียน ต.บุ่งขี้เหล็ก อ.สูงเนิน โดยในวันที่ 13 - 14 มกราคมประกอบพิธีสวดพระอภิธรรมศพ และในวันที่ 15 มกราคม 2555 พระราชทานเพลิงศพ

    ก่อนปี พ.ศ 2500 #คนรู้จักมากหลวงปู่เสาร์รักษาโรค
    #อหิวาตกโรคหรือโรคห่า โรคระบาดในอำเภอสูงเนิน
    ช่วงนั้นท่านเมตรตารักษาให้หาย ทำให้ชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทางไปวัดกุดเวียนเดินทางลำบากคนยังเดินทางไปหาท่าน
    #หลวงปู่เสาร์ท่านได้สูตรยาต่างๆจากพระธุดงค์ #พระภิกษุสมัยก่อนเวลาท่านออก #ธุดงค์ไปยังป่าเขาลำเนาไพร
    #ท่านจะมียาสมุนไพร
    #ป้องกันโรคพกติดย่ามไปด้วย
    หลวงปู่เสาร์ท่านใฝ่เรียนจึงศึกษาและเขียนเป็นตำรายาติดไว้รักษาโรคให้ญาติโยม สมัยก่อนยังไม่เจริญ
    (อหิวาตกโรค หรือ โรคห่า (อังกฤษ: cholera) คือ โรคระบาดชนิดหนึ่ง เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Vibrio cholerae ที่ลำไส้เล็ก ผู้ป่วยจะมีอาการท้องร่วงเป็นน้ำและอาเจียนเป็นหลัก เรียกว่า "ลงราก" จึงเรียกโรคนี้ว่า "โรคลงราก" ก็มี และถ้าเกิดแก่สัตว์เลี้ยง เช่น เป็ด ไก่ วัว ควาย เรียก "กลี" ร่างกายจะขับน้ำออกมาเป็นจำนวนมาก ในผู้ป่วยรุนแรงอาจทำให้มีผิวสีออกเทา-น้ำเงินได้ การแพร่เชื้อเกิดขึ้นจากการดื่มน้ำหรือกินอาหารที่ปนเปื้อนอุจจาระของผู้ติดเชื้อเป็นหลัก ซึ่งผู้นั้นแม้ไม่มีอาการก็สามารถแพร่เชื้อได้)
    รู้ความจริงว่า ผู้การสมชาติมีหลวงปู่เสาร์ คุ้มตัวตลอดเวลาในเวียดนาม
    อะไรที่ผู้การสมชาติถือไว้ตลอด สงครามของสำคัญนั้นคือ "น้ำมัน" บรรจุไว้ในขวดเล็กๆพกใส่ในกระเป๋าเสื้อ น้ำมันนี้มีคุณลักษณะพิเศษ สามารถพยากรณ์เหตุร้ายเหตุดีที่จะเกิดขึ้นได้เมื่อใด จะออกปฏิบัติการ จะลาดตระเวน หรือจะอะไรก็แล้วแต่ ผู้การสมชาติจะเอาน้ำมันมาอธิษฐานดู ถ้าหากน้ำมันเดือดเป็นฟองพล่านเป็นอันแน่ใจได้ว่า มีการปะทะแน่ ถ้าไม่เดือด ขึ้นฟอง คงสภาพอยู่ตามปรกติ ก็แปลว่าปฏิบัติการเที่ยวนี้ปลอดโปร่ง
    ผู้การสมชาติบอกว่าทุกครั้งที่น้ำมันเดือดขึ้นฟอง ต้องมีเรื่องปะทะกับเวียดกงทุกที
    ซึ่งเมื่อเตือนลูกน้องให้ระวังตัวจงดี ลูกน้องเชื่อถือกันทุกคน ด้วยเห็นจริงมาตลอด กลายเป็นพระร่วงวาจาสิทธิ์แห่งเวียดนามไป
    ว่ากันว่า หลวงปู่เสาร์สำเร็จน้ำมัน ซึ่งนอกจากจะบอกเหตุล่วงหน้า ทั้งร้ายหรือดี แล้วก็ยังมีคุณลักษณะคุ้มกันเภทภัย เช่นเดียวกับตะกรุดอีกด้วย การสร้างเสกน้ำมันแบบนี้มองย้อนหลังไปไกลๆ ยังคิดไม่ออกว่ามีใครทำได้ เหมือนอย่างนี้ ความสำเร็จ ในการสร้างเสกเครื่องมือเตือนภัยเห็นจะมีอยู่ที่วัดกุดเวียนเท่านั้น
    ซึ่งแม้ทุกวันนี้ยังเป็นที่คร้ามเกรง ของมวลชนชาวขลัง เป็นไสยวิชช์ที่หลากหลาย ดุจสายน้ำถ่ายทอดกันได้ แม้ชาวบ้านทั่วไปใช่แต่พระ
    ขึ้นชื่อลือชาว่า เก่งในสายวิชชาทำร้ายคน แม้ทุกวันนี้ยังพอจะเห็นได้ ตามแถบชายแดนไทย-เขมร ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ เป็นของเล่นของชาวบ้าน ที่ล้อเล่นไม่ได้เพราะว่าทำให้ถึงเป็นถึงตายได้ไม่ยาก
    เมื่อเก่งในวิชชาทำร้ายคน แล้วไหนเลย จะไม่เก่งในวิชชาช่วยคน
    นี่แหละเขมรแท้
    เมื่อถ่ายทอด ทั้งดีทั้งร้ายแล้ว ก็เป็นเรื่องที่จะเลือกกรรมดี หรือกรรมชั่ว ศีลของพระ ย่อมนำไปทางดี กิเลสตัณหาของปุถุชน ย่อมนำไปทางชั่วได้ง่าย
    อาจารย์คูณถ่ายทอดไสยวิชช์ให้หลวงปู่ ตั้งแต่หลวงปู่มีอายุได้ 20 กว่าปี หลวงปู่ได้นำมาช่วยคนจนทุกวันนี้
    ไม่ ได้ถามหลวงปู่ว่าน้ำมันเตือนภัยนี้เป็นอาจารย์คูณถ่ายทอดหรือเปล่า หลวงปู่เสาร์ ติสฺปญฺโญ กับหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปญฺโญ เหมือนกันตรงที่มีอาจารย์เป็นฆราวาส
    เก่งทั้งคู่เลย
    ทั้ง 2 ท่าน เป็นเยี่ยงเสือ ไม่ขอเนื้อใครกิน ถ้าสร้างเองแล้วย่อมเสกเอง ไม่พึ่งใคร อยาก บอกว่า ถ้าเป็น ผู้ที่ชอบความสงบเงียบกริบ ไม่กระโตกกระตาก ให้เลี้ยวเข้าวัดกุดเวียน ต.บุ่งขี้เหล็ก อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา
    1663510068927.jpg
    จะไปตามล่าหาของขลัง หรือจะไปปลีกวิเวกแบบไหน ก็ตามใจ บางทีถนนขลัง สายใหม่ อาจตัดเข้าสู่วัดกุดเวียน เมื่อไหร่ก็ได้ใครจะรู้....
    ขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    ตะกรุดใบลาน หลวงปู่เสาร์ วัดกุดเวียน เป็นใบลานเก่า จารอักขระ นำมาม้วนทำตะกรุด ให้หลวงปู่ปลุกเสกอธิฐานจิต ของดีมีประสพการณ์ ปัจจุบัน หาเครื่องรางวัตถุมงคลแบบนี้จะจัดสร้างยากเต็มที
    ให้บูชา
    800 บาทครับ ค่าจัดส่ง 30 บาทระบบflashหรือ j&tหรือkerry (ปิดรายการ)
    IMG_20220918_212217.jpg IMG_20220918_212310.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ตุลาคม 2022
  7. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    4,983
    ค่าพลัง:
    +5,390
    ขอจองครับ
     
  8. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,719
    ค่าพลัง:
    +21,337
    ลูกอมผง หลวงปู่เสาร์ วัดกุดเวียน
    ให้บูชา 250 บาทค่าจัดส่ง 30 บาทระบบ flash หรือ j&t หรือ เคอรี่(ปิดรายการ)
    IMG_20220918_225407.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ตุลาคม 2022
  9. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,719
    ค่าพลัง:
    +21,337
    รับทราบครับ ขอบคุณครับ
     
  10. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,921
    ค่าพลัง:
    +6,837
    ขอจองครับ
     
  11. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,719
    ค่าพลัง:
    +21,337
    รับทราบครับ ขอบคุณครับ
     
  12. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,719
    ค่าพลัง:
    +21,337
    ประวัติโดยย่อหลวงปู่ภาท่านเคยเป็นศิษย์เอกของหลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่า หลวงปู่ภาท่านเกิดประมาณปี2416ท่านเป็นมหาดเล็กของกรมหลวงชุมพร ท่านได้ติดตามกรมหลวงชุมพรเสด็จมาหาหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าจังหวัดชัยนาทอยู่บ่อยๆเลยฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่ศุข หลวงปู่ภาท่านบวชเป็นพระตอนอายุเยอะแล้ว และได้เล่าเรียนวิชากับหลวงปู่ศุข จนมาจำพรรษาอยู่วัดเทพพนมบูรณะวัดเทพพนม
    ท่านมรณะภาพประมาณปี2533มรณะภาพอายุประมาณ116ปี ถือว่าเป็นพระเกจิอีกท่านหนึ่งที่อายุยืน เทียบกับพระเกจิท่านอื่นๆที่ดังๆถือว่าก็ไม่แพ้กันเลยเรื่องความศักศิษย์แต่ไม่เป็นที่โด่งดังอย่างเช่นท่านอื่นๆเท่านั้นเอง
    #เกิดประมาณปี2416มรณะภาพอายุประมาณ116ปีสร้างเหรียญนี้ประมาณปี2516ชื้อรุ่นที่เรียกกันว่ารุ่นM16มีพิธีการปลุกเสกใหญ่มีหลายเกจิในยุคนั้นมาร่วมปลุกเสกด้วย ปล.ทีชื่อรุ่นM16เพราะว่าลูกศิษย์ท่านส่วนมากเป็นทหารและได้นำปืนM16มาลองยิงเหรียญรุ่นนี้ที่บริเวณหลังวัดและยิงไม่ออก เหรียญรุ่นนี้ชาวบ้านในพื้นที่ก็เลยเรียกว่ารุ่นM16(ตอนผมบวชเป็นพระอยู่ที่วัดเทพพนมผมได้รับฟังมาจากหลวงพ่อบุญส่งโดยตรงและก็ได้รับฟังมาจากปากชาวบ้านคนเฒ่าคนแก่ในพื้นที่พูดเล่ามาด้วยครับแต่พระของหลวงปู่ก็มีหลายรุ่นและดีทุกรุ่นนะครับ ขอบคุณครับ)
    ถ้าผิดพลาดประการใดต้องขออภัยชี้แนะด้วยครับ
    ประวัติ วัดเทพพนม
    วัดเทพพนม ตั้งวัดเมื่อวันที่ ๙ เมษายน พ. ศ. ๒๕๑๒ เดิมเป็นที่ดินของพ่อกา แม่แป้นกัณหาวารี ได้ถวายที่ดินให้สร้างวัดจำนวน ๓๒ ไร่ หลังจากนั้นชาวบ้านได้ช่วยกันก่อสร้างมาโดยลำดับเดิมชาวบ้านเรียกวัดนี้ว่า“ วัดสูงเนิน ” เพราะตั้งอยู่บนเนินเขา ต่อมาได้ขออนุญาตสร้างวัดโดยนายบุญมี กัณหาวารี เป็นผู้ขออนุญาต ได้รับอนุญาตให้สร้างวัดเมื่อวันที่ ๒๐ ตุลาคม พ. ศ. ๒๕๑๐ วัดเทพพนม มีพระประธานในอุโบสถปางคันธารราฐ ซึ่งได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี ในรัชกาลที่ ๗ ในสมัยที่พระอธิการภา ธมฺมทินฺโน ซึ่งพระคันธารราฐองค์นี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สร้าง และได้พระราชทาน ณ วังสุโขทัย ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ พ. ศ. ๒๕๑๗ เขตวิสุงคามสีมา กว้าง ๔๐ เมตรยาว ๘0 เมตร การบริหารและการปกครอง มีเจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน คือ พระครูนิวาสวุฒิคุณ เจ้าคณะตำบลลำพยนต์
    สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดินที่ตั้งวัดมีเนื้อที่ ๓๒ ไร่ อาคารเสนาสนะ ประกอบด้วย อุโบสถ กว้าง ๔๐ เมตร ยาว ๘๐ เมตร สร้างเมื่อ พ. ศ. ๒๕๑๗ ศาลาการเปรียญ กว้าง ๔๐ เมตร ยาว ๘๐ เมตร สร้างเมื่อ พ. ศ. ๒๕๒๗ หอสวดมนต์ กว้าง 5 เมตร ยาว ๔ เมตร สร้างเมื่อ พ. ศ. ๒๕๔๒ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก กุฏิสงฆ์ จำนวน ๑๑ หลัง เป็นอาคารไม้ ๔ หลัง อาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ ๑ หลัง อาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ๖ หลัง วิหาร กว้าง 5 เมตร ยาว ๔ เมตร สร้างเมื่อ พ. ศ. ๒๕๕๒ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ศาลาบำเพ็ญกุศล จำนวน ๑ หลัง สร้างเมื่อ พ. ศ. ๒๕๓๗ เป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ นอกจากนี้มี ฌาปนสถาน ๑ หลัง หอระฆัง ๑ หลัง หอกลอง ๑ หลัง โรงครัว ๑ หลัง เรือนเก็บพัสดุ ๑ หลัง
    อาณาเขต
    ทิศเหนือ: จดถนนพหลโยธิน
    ทิศใต้: จดภูเขา
    ทิศตะวันออก: จดถนนสาธารณะ
    ทิศตะวันตก: จดหมู่บ้าน
    เจ้าอาวาส วัดเทพพนม
    พระครูนิวาสวุฒิคุณ
    วัตถุมงคล วัดเทพพนม
    มีพระประธานประจำอุโบสถ ปางคันธารราฐ ขนาดหน้าตักกว้าง ๗๐ นิ้ว สูง ๔๕ นิ้ว สร้างเมื่อ พ. ศ. ๒๕๒๕ พระประธานประจำศาลาการเปรียญ ปางสมาธิ ขนาดหน้าตักกว้าง ๔๕ นิ้ว สูง ๖๕ นิ้ว สร้างเมื่อ พ. ศ. ๒๕๓๖
    ที่อยู่ วัดเทพพนม
    A: ตั้งอยู่หมู่ที่ ๖ ตำบลลำพยนต์ อำเภอตากฟ้า จังหวัดนครสวรรค์ #cr.ประวัติวัดจากgoogle
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    พระสมเด็จนาคปรกคะแนนหลวงปู่ภา ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่ง 30 บาท flash หรือ j&t

    IMG_20220913_163212.jpg IMG_20220913_163230.jpg
     
  13. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,719
    ค่าพลัง:
    +21,337
    ประวัติ หลวงพ่อมุ่ย วัดป่าระกำเหนือ
    ประวัติ หลวงพ่อมุ่ย วัดป่าระกำเหนือ
    หลวงพ่อมุ่ย วัดป่าระกำเหนือ
    หลวงพ่อมุ่ย เป็นที่เคารพของลูกศิษย์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านอย่าง มาเลเซียสิงคโปร์ และฮ่องกง ท่านเปรียบเสมือน “อริยสงฆ์แห่งแดนทักษิณ” ใครที่เคยไปกราบสักการะท่านจะรู้ว่า ท่านมีวัตรปฏิบัติที่เคร่งครัดมาก ถวายเงินทองท่านจะไม่รับอย่างเด็ดขาด

    1230650524.jpg
    รูปหลวงพ่อมุ่ย วัดป่าระกำเหนือ

    ประวัติหลวงพ่อมุ่ย จนฺทสุวณฺโณ หรือ "พระครูนิโครธจรรยานุยุต แห่งวัดป่าระกำเหนือ"
    นามเดิมของท่านชื่อมุ่ย ทองอุ่น บิดาชื่อ นายทองเสน ทองอุ่น มารดาชื่อ นางคงแก้ว ทองอุ่น ท่านเกิดเมื่อวันอังคารที่ ๔ เมษายน 2442 ณ บ้านป่าระกำ หมู่ที่ 6 ตำบลป่าระกำ อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ท่านมีพี่น้องทั้งหมด 8 คน หลวงพ่อมุ่ยเป็นบุตรคนที่สองของตระกูล ทองอุ่น

    พระครูนิโครธจรรยานุยุต (มุ่ย จนฺทสุวณฺโณ)
    หลวงพ่อมุ่ย ได้บรรพชาอุปสมบท เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2462 ณ วัดป่าระกำเหนือ อำเภอปากพนัง และได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูนิโครธจรรยานุยุต เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๔๙๘ และในปี พ.ศ. ๒๔๗๗ ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส วัดป่าระกำเหนือและเจ้าคณะตำบลป่าระกำ ในปีเดียวกัน

    1230650639.jpg
    วัดป่าระกำเหนือ

    หลวงพ่อมุ่ย ได้ไปศึกษาด้านวิปัสสนาธุระกับอาจารย์จืด และอาจารย์ศักดิ์ วัดถ้ำเขาพลู อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร และได้ออกธุดงค์วัตรในป่าลึกแถบจังหวัดชุมพรประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และราชบุรี เป็นเวลาหลายปี ร่วมกับหลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย จังหวัดชุมพร ซึ่งเป็นพระสหธรรมิก ที่รักใคร่นับถือกันมาก
    หลวงพ่อมุ่ย เป็นพระวิปัสสนาธุระ ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เคร่งครัดในพระธรรมวินัยเป็นเลิศ นอกจากนั้นยังมีความรู้ด้านต่าง ๆ อีกมาก เป็นหมอยาสมุนไพร เป็นผู้รู้เวทมนต์คาถา เป็นพระนักเทศน์ เป็นพระเกจิอาจารย์ที่เคารพนับถือของคนทั่วไป

    หลวงพ่อมุ่ย นับเป็นพระเถระที่มากด้วยเมตตาบารมีล้ำเลิศของภาคใต้ ที่ประพฤติพรหมจรรย์ มั่นคงยาวนานปี ศีลาจารวัตรเรียบร้อย เป็นที่เคารพนับถือของญาติมิตรและศิษยานุศิษย์ ตลอดจนบุคคลทั่วไป
    นับเป็นพระสุปฏิปันโนรูปหนึ่งของเมืองนครศรีธรรมราช ที่ทรงคุณธรรม อย่างสูงส่ง มีอัธยาศัยโอบอ้อมอารีเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อคนทุกระดับชั้น เพราะเหตุนี้เองชาวบ้านจึงขนานนามให้ท่านเปรียบเสมือน “อริยสงฆ์แห่งแดนทักษิณ” อย่างแท้จริง

    หลวงพ่อมุ่ย ท่านมีวัตรปฏิบัติที่เคร่งครัดมากในพระธรรมวินัยมาก หลวงพ่อมุ่ยท่านจะไม่จับต้องเงินทอง และไม่สะสมสมบัติของมีค่า ในกุฏิของท่านจึงไม่มีของมีค่าอะไรเลย ใครถวายอะไรให้ท่าน หากมีคนอื่นมาขอต่อท่านก็จะยกให้ทันทีโดยไม่มีความเสียดายอะไรทั้งสิ้น หลวงพ่อมุ่ย ท่านฉันเอกา (มื้อเดียวใน ๑ วัน) หลวงพ่อมุ่ย ท่านจำพรรษาอยู่หลายวัด แต่วัดที่ส่วนใหญ่ผู้คนรู้จักกันคือ วัดป่าระกำเหนือ และ วัดบางบูชา เนื่องจากท่านได้สร้างพระเครื่องจนเป็นที่โด่งดังและหลายๆคนต้องการคือ พระปิดตาน้ำนมควาย พระปิดตาพ่อท่านมุ่ย จะสร้างทั้งวัดบางบูชาและวัดป่าระกำเหนือ

    1230650630.jpg
    รูปหลวงพ่อมุ่ย วัดป่าระกำเหนือ

    หลวงพ่อมุ่ย เป็นหนึ่งในพระเกจิอาจารย์ในพิธีพุทธาภิเษก จตุคามรามเทพ รุ่นแรก ปี ๒๕๓๐ พระเครื่องและวัตถุมงคลของพ่อท่านมุ่ย แต่ละชนิดแต่ละรุ่น เช่นพระปิดตา พระพิมพ์ประทานพร ลูกอม หลวงพ่อจะปลุกเสกเดี่ยว ทั้งนั้น ตามหลักของพระเกจิสายใต้สมัยก่อน คือบินเดี่ยว ไม่มั่นใจไม่สร้าง เพราะมั่นใจในวิชาความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมาอย่างมั่นใจ และได้ปลุกเสกอยู่นานเป็นปีหรือหลายปี จึงจะมอบให้คนนำไปบูชา เพราะท่านทำด้วยใจรักและศรัทธามั่น ก่อนนำวัตถุมงคลไปใช้ พ่อท่านท้าให้นำไปลองก่อน ถ้าไม่มั่นใจจะไม่ยอมให้ใครเอาไปใช้

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    เหรียญหลวงพ่อมุ่ยวัดป่าระกำเหนือ 2538 ให้บูชา 150 บาทค่าจัดส่ง 30 บาทระบบแฟลชหรือ j&t หรือเคอรี่(ปิดรายการ)
    IMG_20221009_184448.jpg IMG_20221009_184551.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ตุลาคม 2022
  14. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,719
    ค่าพลัง:
    +21,337
    ครูบาอินคำ-อินทวัณโณ.jpg

    ในช่วงเยาว์วัย ท่านเป็นเด็กเรียบร้อย ไม่ซุกซนเหมือนเด็กทั่วไป ว่านอนสอนง่าย ชอบเข้าไปเล่นและสนทนากับพระภิกษุ–สามเณรภายในวัดใกล้บ้าน (วัดไชยสถาน) จึงมีความผูกพันกับวัดแห่งนี้มาตั้งแต่เด็ก

    ครั้นเมื่ออายุถึงเกณฑ์เข้าเรียน เข้าศึกษาที่โรงเรียนประชาบาลจนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และไม่ได้เรียนต่อเนื่องจากครอบครัวมีฐานะยากจน

    สนใจศึกษาพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นทุนเดิม จึงขออนุญาตครอบครัวบวชสามเณร เมื่ออายุได้ 17 ปี เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.2488 โดยมีพระครูสิทธิวรกุล วัดศรีคำชมภูเป็นพระอุปัชฌาย์ จำพรรษาอยู่ที่วัดไชยสถาน เป็นลูกศิษย์ของครูบาคันธวงศ์ คันธวังโส เจ้าอาวาสวัดไชยสถาน เรียนรู้วิธีการรักษาโรคด้วยยาสมุนไพร

    อายุครบ 21 ปี เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 8 พ.ค.2492 ศึกษาพระธรรมวินัยและตำรายาสมุนไพรจนมีความเชี่ยวชาญ

    ต่อมาในปี พ.ศ.2492 ครูบาคันธวงศ์ มรณภาพลง ท่านจึงขึ้นเป็นผู้รักษาการ เจ้าอาวาสวัดไชยสถาน ซึ่งท่านทำหน้าที่ในตำแหน่งนี้ได้เป็นอย่างดี จนกระทั่งได้รับตราตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดไชยสถานอย่างสมบูรณ์ เมื่อปี พ.ศ.2496

    ในห้วงเวลานั้น หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ได้รับความเคารพและกล่าวขานไปทั่วประเทศ เมื่อปี พ.ศ.2516 ครูบาอินคำ มีความตั้งใจไปกราบนมัสการหลวงปู่แหวน จึงให้คนรถและลูกศิษย์ ขับพาท่านไปยังวัดดอยแม่ปั๋ง เชียงใหม่ ด้วยในขณะนั้นถนนหนทางยังไม่สะดวกสบายเหมือนในปัจจุบัน กว่าจะไปถึงวัดดอยแม่ปั๋งก็ลำบากยากเข็ญ

    แต่พอไปถึงหลวงปู่แหวน เห็นถึงความตั้งใจ จึงรับเป็นศิษย์และสอนวิชาวิปัสสนากัมมัฏฐานให้

    ครูบาอินคำ อยู่ปรนนิบัติหลวงปู่แหวนระยะหนึ่ง ก่อนขอตัวกลับไปดูแลวัดไชยสถาน นำความรู้ด้านวิปัสสนาจากหลวงปู่แหวน ปฏิบัติและสั่งสอนแก่ญาติโยม

    ครูบาอินคำ เป็นพระนักพัฒนา ศึกษาหาความรู้ทั้งทางโลกและทางธรรม ทางธรรมท่านเป็นนักธรรมชั้นเอก ทั้งยังเป็นครูสอนพระปริยัติธรรม และกรรมการตรวจข้อสอบที่วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร

    ส่วนทางโลกท่านเข้าอบรมครูที่วัดสามพระยา กรุงเทพฯ มา 4 สมัย ด้านเวชศาสตร์มีภูมิความรู้ จนสามารถผลิตและปรุงยา รักษาให้ผู้ตกทุกข์ได้ยากหายจากโรคภัยอยู่เสมอ ไม่ว่าคนป่วยจะรวยหรือยากจน ท่านรักษาให้อย่างเท่าเทียมกัน

    พัฒนาวัดไชยสถาน รวมทั้งถาวรสถานที่สร้างความเจริญให้แก่วัดและชุมชน

    ทั้งยังเป็นพระนักคิด นักพัฒนา เผยแผ่พระพุทธศาสนาทั้งในและต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง จีน หรือ สหรัฐอเมริกา ทำให้มีลูกศิษย์มากมายนิมนต์ท่านไปเทศนายังประเทศต่างๆ

    นอกจากนี้ ยังเป็นพระเกจิ วัตถุมงคลที่สร้างไว้ ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

    พ.ศ.2523 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตร ในราชทินนามที่ พระครูวรวรรณาภรณ์

    พ.ศ.2559 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ พระมงคลสิริ

    ละสังขารลง เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 25 พ.ย.2561 สิริอายุ 91 ปี พรรษา 71
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    เหรียญพระพิฆเนศหลวงปู่ครูบาอินทร์คำวัดไชยสถานเลี่ยมพรัอมให้บูชา 170 บาทค่าจัดส่ง 30 บาทระบบ flash หรือ j&t หรือเคอรี่

    IMG_20221009_190733.jpg IMG_20221009_190749.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ตุลาคม 2022
  15. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,719
    ค่าพลัง:
    +21,337
    1665318218307.jpg
    เหรียญของ ท่าน มีประสบการณ์แทบจะทุกรุ่น แตกต่างกันไป มีทั้งรู้และไม่รู้บ้าง ที่รู้ก็บอกต่อๆกันมา
    รุ่นนี้ปลุกเสกขณะปั๊มเหรียญ
    ได้คุยกับพรรคพวกที่เคยสนิทกับ หลวงพ่อสง่า ได้เล่าให้ฟัง (คนนี้เป็นที่เชื่อถือได้จากคนที่เล่นพระใน โพธาราม ขออนุญาติไม่เอ่ยนาม)
    เหรียญรุ่นก็อดอาร์มี่ รุ่นนี้ปั๊มเหรียญออกมาไม่ได้ ปั๊มออกมาไม่ได้ หลวงพ่อสง่า ต้องปลุกเสกแท่นปั๊มขณะปั๊มเหรียญไปด้วย จึงทำให้พระรุ่นนี้มีน้อย และมีหมุนเวียนไม่เยอะ เนื้อนวะ ได้ประมาณ 2000 องค์ เนื้อตะกั่ว หลักร้อยองค์ เนื้อเงิน สร้างน้อยมากและส่วนมากจะอยู่กับ นายตำรวจยศสูงๆ

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    เหรียญหลวงพ่อสง่าก๊อตอามี่ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่ง 30 บาทระบบ flash หรือ j&t หรือเคอรี่(ปิดรายการ)
    IMG_20221009_192626.jpg IMG_20221009_192648.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ตุลาคม 2022
  16. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,921
    ค่าพลัง:
    +6,837
    ขอจองครับ
     
  17. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,719
    ค่าพลัง:
    +21,337
    หลวงปู่เครื่อง-สุภัทโท-เทพเจ้าเมืองดอกลำดวน.jpg
    อัตโนประวัติ
    “หลวงปู่เครื่อง สุภัทโท” หรือ “พระมงคลวุฒ” อดีตเจ้าอาวาสวัดสระกำแพงใหญ่ ต.สระกำแพงใหญ่ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ และอดีตพระเกจิชื่อดัง-พระนักพัฒนาที่ชาวอีสานใต้ต่างให้ความเลื่อมใสศรัทธากันเป็นอย่างดียิ่ง ด้วยความเป็นพระเถระที่มีเมตตาธรรมขั้นสูง เคร่งครัดในพระธรรมวินัย เข้มขลังในวิทยาคมศักดิ์สิทธิ์ด้านเมตตามหานิยม เป็นที่พึ่งพิงทางจิตใจแก่ผู้ประสบทุกข์ร้อนเดือดร้อนทั้งหลาย

    หลวงปู่เครื่อง สุภัทโท มีนามเดิมว่า เครื่อง ประถมบุตร เกิดเมื่อวันที่ ๑๕ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๔๕๓ ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๘ ปีจอ ณ บ้านค้อกำแพง (ปัจจุบันคือ บ้านหนองแปน) หมู่ที่ ๓ ต.สระกำแพงใหญ่ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ โยมบิดา-โยมมารดาชื่อ นายสอน และนางยม ประถมบุตร ครอบครัวประกอบอาชีพทำนา ฐานะค่อนข้างยากจน มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันทั้งหมด ๑๔ คน ท่านเป็นบุตรคนที่ ๔ แต่พี่น้องเสียชีวิตไปในวัยเยาว์ ๖ คน คงเหลืออยู่เพียง ๘ คน ซึ่งมีรายชื่อตามลำดับ
    ๑. หลวงตาสุ สุปญโญ
    ๒. นายเถ้า ประถมบุตร
    ๓. หลวงปู่เครื่อง สุภัทโท
    ๔. นายนิล ประถมบุตร
    ๕. นายสา ประถมบุตร
    ๖. นางบุญจันทร์ ชูกำแพง
    ๗. นายบัวทอง ประถมบุตร (สันทัสถ์) ป.ธ. ๕ ผู้ช่วยสรรพากรจังหวัด
    ๘. ไม่ปรากฏนาม

    ◎ การศึกษาเบื้องต้น
    สมัยนั้นการศึกษาเล่าเรียนยังไม่เจริญเท่าที่ควร ในวัยเด็กเมื่อท่านอายุได้ ๘ ปี ได้ศึกษาเล่าเรียนหนังสือไทย ประถม ก. กา อยู่กับลุงเกษ ประถมบุตร ซึ่งเป็นครูสอนอยู่กับบ้านตอนเย็นหรือตอนกลางคืนเวลาว่างๆ เท่านั้น จึงทำให้การเรียนของท่านพออ่านออกเขียนได้

    ครั้นต่อมาท่านอายุได้ ๑๕ ปี เมื่อปี พ.ศ.๒๔๖๗ ได้เข้าโรงเรียนรัฐบาลที่วัดสระกำแพงใหญ่ มีพี่น้องเข้าโรงเรียนพร้อมกันทั้ง ๓ คน เพราะไม่มีใครช่วยพ่อแม่ทำงานเกษตรกรรมและเลี้ยงสัตว์ โยมพ่อของท่านตั้งกติกาให้เปลี่ยนกันไปโรงเรียนคนละ ๗ วัน ทั้งนี้ทำให้หลวงปู่เครื่อง เรียนหนังสือไม่ได้เต็มที่เสียเวลาเรียน เรียนไม่ทันเพื่อน

    ครั้นเวลาผ่านไป ทางราชการและครูไม่ยอมให้เปลี่ยนกันเรียน แต่ก็ต้องเปลี่ยนกันเรียนอยู่นั่นเอง เพราะเหตุดังกล่าวแล้วนั้น เมื่อหลวงปู่เครื่องมาโรงเรียนวันไหนจึงต้องถูกครูตีทุกวันเพราะเป็นการผิดกฎโรงเรียน จำเป็นก็ต้องทนอยู่ในสภาพนั้น ในเวลานั้นหลวงปู่เครื่องท่านเล่าว่าไม่รู้จะเชื่อฟังใครดี

    ผลที่สุด หลวงปู่ท่านก็ต้องหาอุบายแอบหนีญาติมาโรงเรียนคนเดียว ก็ทำให้มีความรู้ดีขึ้นกว่าแต่ก่อน ซึ่งระยะนั้นท่านกำลังสนใจในการศึกษาเล่าเรียนหาความรู้เพิ่มเติมด้วยดี กอปรด้วยความขยันหมั่นเพียรยิ่งนัก ท่านเรียนได้ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ เท่านั้น ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ เรียนได้ครึ่งปี ทางราชการมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายใหม่ ผู้มีอายุได้ ๑๘ ปี ให้เสียค่าเล่าเรียนประถมศึกษาคนละ ๔ บาท เงิน ๔ บาทสมัยนั้นมีค่ามากนัก ด้วยความจำเป็น ท่านจึงต้องพ้นสภาพการเป็นนักเรียนตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

    ต่อมาก็ได้อยู่ช่วยทำกิจการงานครอบครัวอย่างหนักเอาเบาสู้ ทำงานบ้านช่วยพ่อแม่ รับผิดชอบในหน้าที่ของผู้หญิงทุกอย่าง ตักน้ำตำข้าว เก็บผักหักฟืน หุงต้มเก็บหม่อนป้อนไหม ถอนกล้า ไถนา ปักดำ ทุกแขนงจนเกิดความเบื่อหน่าย จะไปเที่ยวเล่นตามเพื่อนบ้านก็ไม่มีเวลา
    การบรรพชาและอุปสมบท
    พอท่านอายุได้ ๑๘ ปี ได้กราบลาบุพการีเพื่อบรรพชาเป็นสามเณร แต่โยมบิดา-โยมมารดาของท่านไม่อนุญาต ครั้นมีอายุครบ ๒๑ ปีบริบูรณ์ ได้กราบลาบุพการีและญาติพี่น้องเพื่ออุปสมบท ครั้งนี้โยมบิดาไม่ขัดใจ แต่โยมมารดายังป่วยเป็นโรคปอดบวม อาการหนักอยู่มาก ซึ่งป่วยมาได้ ๓ ปีแล้ว

    ท่านจึงได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดสำโรงน้อย หมู่ ๖ ต.หนองห้าง อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ โดยมีพระครูเทวราชกวีวรญาณ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์ใบฎีกาชม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์พรหมมา เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “สุภัทโท” ซึ่งแปลว่า “ผู้ประพฤติงาม”

    หลังเข้าพิธีอุปสมบทเพียง ๒ สัปดาห์ โยมมารดาซึ่งล้มป่วยหนักได้เสียชีวิตลง ทำให้ท่านต้องช่วยเป็นธุระจัดการงานศพมารดาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนไปอยู่จำพรรษาวัดบ้านค้อ ต.กำแพง อ.อุทุมพรพิสัย ผ่านพ้นวันออกพรรษา บรรดาญาติพี่น้องได้มาเกลี้ยกล่อมให้ท่านลาสิกขาเพื่อมาเลี้ยงน้อง แต่ท่านเกิดความเบื่อหน่ายในชีวิตปุถุชน ตั้งใจอุทิศชีวิตให้บวรพระพุทธศาสนา แสวงหาทางหลุดพ้นทุกข์

    ก่อนหน้านั้นท่านได้ไปปรึกษาหารือกับคุณปู่ของท่าน คุณปู่ให้ข้อคิดว่า ถ้าท่านจะสึกออกมาเลี้ยงน้องนั้นไม่ดี ช่วยเขาไม่ได้หรอก แสวงหาทางพ้นทุกข์ดีกว่า คงเป็นทางช่วยตัวเองได้ คุณปู่ท่านให้ข้อคิดดังนี้ ฟังแล้วมีเหตุมีผลดี ท่านจึงตัดสินใจปฏิบัติตาม

    ◎ การศึกษามูลกัจจายน์และพระปริยัติธรรม
    ต่อมา ท่านตัดสินใจเดินทางไปวัดทุ่งไชย เพื่อจุดประสงค์ว่าจะไปศึกษาเล่าเรียนคำภีร์มูลกัจจายน์ ไปอยู่ได้ ๒ เดือน เข้าไปกราบนมัสการท่านอาจารย์ใหญ่ ท่านบอกว่าในระยะนี้ไม่ได้สอน เลิกทำการสอนมานานแล้ว เพราะนักเรียนน้อย ไม่มีพระเณรสนใจเรียนมูลเดิม จึงนมัสการลากลับวัดเดิมอีก

    ครั้นต่อมา คุณอาของหลวงปู่เครื่อง ก็นำพาเดินทางไปวัดท้องหล่มใหญ่ จ.มหาสารคาม พอไปถึงเจ้าอาวาสก็ลาสิกขาไปเสียแล้ว เพราะหาพระเณรที่สนใจศึกษาไม่มี ท่านจึงได้เดินทางต่อไปที่วัดบ้านยางใหญ่ ต.เมืองแคน อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ ฝากตัวเป็นศิษย์กับพระอุปัชฌาย์สาย เจ้าอาวาส เพื่อขอเรียนบาลีและคัมภีร์มูลกัจจายน์ พระอุปัชฌาย์สาย เอ็นดูลูกศิษย์คนนี้มาก ด้วยผลการเรียนเป็นที่น่าพอใจ ท่านเรียนได้ดี ทั้งในการแปลภาษาบาลีเป็นประโยคคล่องแคล่วและใส่สัมพันธ์ด้วย เริ่มตั้งแต่การสนธิ เป็นต้นไป นานๆ เข้าพระอุปัชฌาย์สาย ปล่อยให้ท่านแปลด้วยตนเองเป็นประโยคๆ ไป
    ครั้นกาลต่อมา สหธรรมมิกที่เรียนด้วยกันปรึกษาหารือกันว่า การเรียนคัมภีร์มูลกัจจายน์สมัยนี้เขาไม่นิยมเสียแล้ว หลวงปู่บอกว่าตอนนี้กิเลสเป็นเจ้าเรือนมากระซิบให้หลงงมงายไปเสียอีก ท่านจึงได้พิจารณาใคร่ครวญดูเหตุผลแล้ว จึงกราบนมัสการลาพระอุปัชฌาย์สาย ไปเรียนบาลีไวยากรณ์ หวังเอาพระเปรียญกับเขาบ้าง

    เมื่อวันที่ ๑๙ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๗๗ ท่านจึงได้ออกเดินทางไปอยู่วัดหลวงเมืองอุบล อ.เมือง จ.อุบลราชธานี เพื่อเข้าศึกษาบาลีไวยากรณ์ และนักธรรม

    พ.ศ.๒๔๗๙ สอบได้นักธรรมชั้นตรี

    พ.ศ.๒๔๘๐ สอบได้นักธรรมชั้นโท

    พอสอบได้เสร็จก็ป่วยเป็นโรคเหน็บชา ในตอนนั้นท่านได้นัดหมายกันกับเพื่อนพระองค์หนึ่ง คือท่านมหาบุญมา แสนทวีสุข เป็นเพื่อนรักกันมากที่สุด นัดหมายกันว่าจะย้ายไปเรียนหนังสืออยู่กรุงเทพฯ ท่านว่าเหมือนมีพญามารมาตัดรอนท่าน คือเจ้ากรรมนายเวร กิเลสมาพันผูก คือ บรรดาญาติพี่น้องห้ามไม่ให้ไป โดยเหตุผลดังกล่าวจึงเป็นอุปสรรคมาขัดขวางไม่ให้ไปศึกษา ท่านว่าคงจะเนื่องด้วยผลกรรมของท่านสร้างมาจึงเสียผลที่ท่านควรไป

    เมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๘๑ ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดพงษ์พรต ต.หนองกว้าง อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ เป็นเวลา ๑๑ ปี ในระหว่างนั้น พ.ศ.๒๔๘๓ สอบได้นักธรรมชั้นเอก

    ◎ ศึกษาด้านสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน
    ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดพงษ์พรต ต่อมาไม่นาน ก็ได้ดำริว่า คันถธุระไม่เป็นของพ้นทุกข์ มีแต่ธรรมปฏิบัติเท่านั้น จึงออกเดินทางไปศึกษาด้านสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน ทราบว่า ท่านอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ จำพรรษาอยู่จังหวัดอุบลราชธานี จึงออกเดินทางไปพบท่าน ได้ฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาพื้นฐานงานวิปัสสนากัมมัฏฐานกับท่านอยู่ระยะหนึ่ง ต่อมาจึงได้กลับมา อ.อุทุมพรพิสัย อีกครั้ง และพำนักจำพรรษาอยู่ที่วัดสระกำแพงใหญ่

    ขณะนั้นมีพระอุปัชฌาย์คำ จันทโชโต เป็นเจ้าอาวาสวัดสระกำแพงใหญ่ กำลังร่วมกันสร้างสาธารณูปโภคอยู่หลายอย่าง เป็นเหตุให้ญาติโยมได้โอกาสอาราธนานิมนต์ให้อยู่เป็นแรงงานสำคัญ เช่น มีการสร้างรอยพระพุทธบาทจำลอง วิหารลอย ที่ว่าการอำเภออุทุมพรพิสัย สถานีตำรวจ และสถานีอนามัย โดยมีนายพวง สีบุญลือ นายอำเภออุทุมพรพิสัย (ในขณะนั้น) เป็นแม่แรงใหญ่ฝ่ายฆราวาส จนกระทั่งที่ว่าการอำเภออุทุมพรพิสัย และสิ่งก่อสร้างดังกล่าวเสร็จสิ้นลง ทางอำเภอและประชาชนได้จัดงานฉลองขึ้นใหญ่โตโด่งดังไปทั่ว
    ส่วนท่านเองยังต้องการแสวงหาการปฏิบัติทางด้านวิปัสสนากัมมัฏฐาน ต้องการศึกษาในชั้นสูงสุดต่อไป พอเสร็จงานฉลองจึงบอกลาญาติโยม ออกเดินธุดงค์ไปจังหวัดลพบุรี ได้พักที่สำนักหลวงปู่คำมี พุทฺธสโร เพื่อศึกษาธรรมปฏิบัติ ได้สมาทานธุดงควัตร ถือพระกัมมัฏฐาน ทำสมาธิ ได้รับรสธรรมจากหลวงปู่คำมี เป็นที่ปลื้มอกปลื้มใจ ปีติเยือกเย็น และสงบใจลงไปมาก

    หลังจากนั้นก็ได้ออกเดินธุดงค์ไปยังจังหวัดต่างๆ เมื่อไปถึงวัดป่าสระพง อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา สมาทานธุดงควัตรแล้วเดินทางไปยังถ้ำสบม่วง (ซับมืด) อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นถ้ำมีอากาศหนาวเย็น อยู่ในเขาและป่าทึบ พร้อมกับเพื่อนพรหมจรรย์อีก ๕ รูป ได้อยู่บำเพ็ญกัมมัฏฐานภายในถ้ำนั้นหลายเดือน จึงเกิดเป็นไข้ป่าทุกรูป รักษาไม่หายถึงกับมรณภาพลงในถ้ำนั้นไป ๓ รูป ต่อมาหลวงปู่เครื่อง กับเพื่อนอีกรูปแยกทางกันไป

    ท่านเองปีนเขาขึ้นมาตามเถาวัลย์ ไปพบฝรั่งที่ควบคุมงานก่อสร้างถนนมิตรภาพ อยู่ขณะนั้น ได้ยามา ๖ เม็ด กินก็หายป่วย จากนี้ได้เดินธุดงค์ ไปจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ไปแห่งใดก็มีญาติโยมพุทธบริษัทให้การต้อนรับอย่างคับคั่ง นำข้าวปลาอาหารมาทำบุญมากมาย แต่ท่านก็ไม่ติดที่อยู่ เดินทางต่อไปเรื่อยๆ

    ◎ ศึกษาธรรมจากหลวงพ่อสด
    กระทั่งถึงปี พ.ศ.๒๔๙๔ เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ไปขอเรียนวิชาธรรมกายจากหลวงพ่อเจ้าคุณ พระเทพมงคลมุนี (หลวงพ่อสด จนฺทสโร) วัดปากน้ำภาษีเจริญ ตั้งใจทำสมาธิประพฤติแนววิชาธรรมกายอยู่ ๓ วัน ก็อำลาจากไป หลวงพ่อสดถึงกับประกาศในหมู่ศิษย์ของท่านว่า หลวงปู่เครื่องได้บรรลุวิชาธรรมกายแล้วอำลาจากไป

    จากนั้นท่านก็ตั้งใจปฏิบัติสมาธิกัมมัฏฐานตามป่า ถ้ำ ภูเขา อีกหลายแห่งด้วยความมุ่งมั่นมานะพยายามอย่างเต็มที่ ได้พบภาพนิมิตต่างๆ มากมาย เป็นงูบ้าง เป็นเสือบ้าง เป็นช้างบ้าง จะเข้ามาทำร้าย ซึ่งเป็นภาพนิมิตประหลาดๆ พิกลพิการไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ท่านไม่กลัวไม่หวาดหวั่น ควบคุมสติพิจารณา พยายามตีความด้วยปัญญา สามารถรู้ไปถึงอริยสัจธรรมแก่นแท้ได้
    เทพเจ้าผู้มีเมตตาแห่งอีสานใต้
    วันที่ ๑๕ กรกฎาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันเกิดของหลวงปู่เครื่อง คณะศิษยานุศิษย์ทั้งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ นักการเมือง พ่อค้า ประชาชน ที่ให้ความเคารพและศรัทธาหลวงปู่อย่างแรงกล้านับแสนคน จะพากันเดินทางไปวัดสระกำแพงใหญ่ เพื่อร่วมกันอวยพรวันคล้ายวันเกิดและขอพรอันเป็นสิริมงคลไม่เคยขาด กระทั่งกลายเป็นงานใหญ่ แม้ว่าหลวงปู่จะไม่ต้องการให้จัดเอิกเกริกใหญ่โต แต่ปฏิเสธศรัทธาของบรรดาคณะศิษยานุศิษย์มิได้

    หลวงปู่เครื่อง เป็นพระสงฆ์ผู้มักน้อยถือสันโดษ ไม่ยินดีในตำแหน่งและสมณศักดิ์สงฆ์ แม้ท่านจะได้รับการเสนอให้เป็น ท่านก็ปฏิเสธไม่ยอมรับ ด้วยคุณงามความดีจึงทำให้ท่านเป็นพระเถระที่ชาวศรีสะเกษให้ความเลื่อมใสศรัทธาดุจดังเทพเจ้ามายาวนาน ทุกครั้งเวลามีผู้ประสบทุกข์ร้อนใจ ล้วนแต่พากันไปกราบหาท่าน ให้ประพรมน้ำมนต์ขจัดปัดเป่าให้ทุกข์ภัยต่างๆ สลายคลาย สร้างความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
    เทพเจ้าผู้มีเมตตาแห่งอีสานใต้
    วันที่ ๑๕ กรกฎาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันเกิดของหลวงปู่เครื่อง คณะศิษยานุศิษย์ทั้งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ นักการเมือง พ่อค้า ประชาชน ที่ให้ความเคารพและศรัทธาหลวงปู่อย่างแรงกล้านับแสนคน จะพากันเดินทางไปวัดสระกำแพงใหญ่ เพื่อร่วมกันอวยพรวันคล้ายวันเกิดและขอพรอันเป็นสิริมงคลไม่เคยขาด กระทั่งกลายเป็นงานใหญ่ แม้ว่าหลวงปู่จะไม่ต้องการให้จัดเอิกเกริกใหญ่โต แต่ปฏิเสธศรัทธาของบรรดาคณะศิษยานุศิษย์มิได้

    หลวงปู่เครื่อง เป็นพระสงฆ์ผู้มักน้อยถือสันโดษ ไม่ยินดีในตำแหน่งและสมณศักดิ์สงฆ์ แม้ท่านจะได้รับการเสนอให้เป็น ท่านก็ปฏิเสธไม่ยอมรับ ด้วยคุณงามความดีจึงทำให้ท่านเป็นพระเถระที่ชาวศรีสะเกษให้ความเลื่อมใสศรัทธาดุจดังเทพเจ้ามายาวนาน ทุกครั้งเวลามีผู้ประสบทุกข์ร้อนใจ ล้วนแต่พากันไปกราบหาท่าน ให้ประพรมน้ำมนต์ขจัดปัดเป่าให้ทุกข์ภัยต่างๆ สลายคลาย สร้างความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
    ตราบจนถึงเมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๔ ท่านจึงเดินทางกลับมาตุภูมิบ้านเกิดเมืองนอนอีกครั้ง และได้รับอาราธนาให้พำนักจำพรรษา ณ วัดสระกำแพงใหญ่ ภายหลังจากที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดสระกำแพงใหญ่ จึงได้พำนักจำพรรษาอยู่ที่วัดเพื่อเป็นเสาหลักให้แก่พระภิกษุ สามเณร ตลอดจนประชาชนที่อยู่โดยรอบวัด

    ด้วยเหตุที่หลวงปู่เครื่องเป็นพระนักปฏิบัติ เคยเป็นศิษย์หลวงพ่อสด จนฺทสโร วัดปากน้ำภาษีเจริญ มาก่อน ประกอบกับเคยธุดงค์ไปตามป่าเขาหลายแห่งในประเทศไทย เมื่อหลวงปู่เครื่องสร้างวัตถุมงคลออกมาแจกจ่ายบูชาให้แก่เหล่าพุทธศาสนิกชนทั่วไป ตลอดจนบรรดาคณะศิษยานุศิษย์ จึงมีความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์เป็นพิเศษ เป็นที่เชื่อถือเพื่อเสาะแสวงหามาครอบครอง

    ◎ ลำดับสมณศักดิ์และงานปกครองคณะสงฆ์

    พ.ศ.๒๔๘๐ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลกำแพง อ.อุทุมพรพิสัย และได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการตรวจข้อสอบประโยคนักธรรมชั้นตรี

    พ.ศ.๒๔๘๑ ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดพงษ์พรต อ.อุทุมพรพิสัย เป็นเวลา ๑๑ ปี

    พ.ศ.๒๔๘๘ ได้รับแต่งตั้งเป็นพระคณาธิการ องค์การศึกษา อ.อุทุมพรพิสัย

    พ.ศ.๒๔๙๐ ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์

    พ.ศ.๒๔๙๔ ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดสระกำแพงใหญ่ จนกระทั่งมรณภาพเมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๑ (ท่านเป็นเจ้าอาวาสรูปที่ ๗ ต่อจากพระอุปัชฌาย์คำ จันทโชโต ที่ได้มรณภาพลง โดยท่านได้เข้ามาพำนักจำพรรษาที่วัดสระกำแพงใหญ่แห่งนี้ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๐)

    เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๐ เนื่องในวโรกาสมหามงคลสมัยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ ๘๐ พรรษา พระอธิการเครื่อง สุภทฺโท ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ “พระมงคลวุฒ”

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    เหรียญหล่อหลวงปู่เครื่องครบรอบ 90 ปีให้บูชา150 บาทค่าจัดส่ง 30 บาทระบบ flash หรือ j&t หรือเคอรี่

    IMG_20221009_194359.jpg IMG_20221009_194420.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ตุลาคม 2022
  18. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,719
    ค่าพลัง:
    +21,337
    c91be655009f82f234935058c41be89e.jpg

    พระมงคลธรรมภาณี มีนามเดิมว่า มัง รัตนโสม เกิดเมื่อวันที่ ๑๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๕๐ ที่บ้านท่าแค ตำบลท่าแค อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี


    บรรพชาอุปสมบท

    บรรพชา เมื่ออายุ ๑๗ ปี ณ วัดสิริจันทรนิมิตรวรวิหาร จังหวัดลพบุรี โดยมี พระอมราภิรักขิต เป็นพระอุปัชฌาย์

    ขณะเป็นสามเณรได้มีโอกาสฟังธรรมจาก หลาวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ที่วัดสิริจันทรนิมิต จึงมีความเชื่อมั่นในพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้ามากยิ่งขึ้น

    อุปสมบท เมื่อวันที่ ๑๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๐ ณ วัดสิริจันทรนิมิตรวรวิหาร โดยมี พระครูศีลวรคุณ (อ่ำ ภทฺธราวุทฺโธ) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอมราภิรักขิต (ไชย) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูวินัยธรปลื้ม เป็นพระอนุสาวนาจารย์
    พระมงคลธรรมภาณี (มัง มงฺคโล) ละสังขารเมื่อวันที่ ๒๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๓๙ พระราชเพลิงศพ เมื่อวันพุธที่ ๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๐ ในครั้งนั้น ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปพระราชเพลิงศพหลวงปู่มัง ณ เมรุวัดเทพกุญชร อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี
    พระมงคลธรรมภาณี (หลวงปู่มัง) วัดเทพกุญชรวราราม อ.เมือง จ.ลพบุรี ท่านเก่งเงียบ ๆ ท่านมีความเมตตาเป็นอย่างมาก มีคนมักนำเหรียญไปให้ท่านจาร ลูกศิษย์และพระลูกวัดก็คอยกันเพราะท่านเหนื่อยพยายามเอาเหล็กจารไปซ่อนบ้าง ถึงไม่มีเหล็กจารท่านก็หยิบกรรไกรปลายแหลมมาจารให้ด้วยความเมตตา โดยเฉพาะท่านจะไม่ใช้เงินด้วยครับ วัตถุมงคลของท่าน ถ้ายุคต้นก็จะเป็น สมเด็จ,หลวงพ่อโป้,นางและขุนแผน สร้างปี 2480 กว่าๆ ยุคหลังจะเป็นประเภพอุดผงยาใต้ฐาน ทั้งเนื้อ ทองคำ,เงิน ,ทองแดงและเนื้อผง หนังสือท่านเคยทำจำหน่าย 1 เล่มครับ ทางวัดจัดทำเองแต่น่าจะหมดไปจากวัดนานแล้ว หลวงปู่มัง มังคโล ( พระครูมงคลภาณี ) เกิด 11 เมย 2450 ท่านบวชเณรตั้งแต่อาย 17 ปี ที่วัดสิริจันทรนิมิต ต่อมาได้ฝากตัวเป็นศิษย์กับพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ ( จันทร สิริจันโท) และพระคณุศีลวรคุณ (อ่ำ ภทราวุโธ) ขณะเป็นสามเณรได้มีโอกาสฟังธรรมจาก หลาวงปู่มั่น ภูริทัตโต จึงมีความเชื่อมั่นในพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้ามากยิ่งขึ้น จนได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในปี 2470 ฝ่ายธรรมยุตนิกาย ได้ศึกษาพระธรรม ตลอดจนออกธุดงค์เรื่อยมาจนในปี 2475 ได้มาอยู่วัดมณีชลขันธ์ ปี 2479 มาอยู่วัดเทพกุญชร เป็นเจ้าอาวาส และที่สุดเป็นเจ้าคณะจังหวัดลพบุรี-สระบุรี (ธรรมยุต ) ท่านเป็นพระที่บริสุทธิ์เป็นที่เคารพเลื่อมใสของลูกศิษย์เป็นอย่างมาก ท่านสร้างพระมากมาย เป็นที่นิยมในจังหวัดลพบุรีครับ

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    เหรียญหลวงปู่มังปี 2536ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่ง 30 บาทระบบ flash หรือ j&t หรือ kerry
    IMG_20221010_005845.jpg IMG_20221010_005909.jpg

     
  19. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,719
    ค่าพลัง:
    +21,337
    98461158697803_1_1024x768_.jpg
    มีนามเดิมว่าสวัสดิ์ เฉลิมพงษ์ เกิดวันศุกร์ที่ 18 มี.ค.2451 ตรงกับวันแรม 13 ค่ำ เดือน 4 ปีระกา เวลา 04.07 น.

    วัยเยาว์ท่านเป็นเด็กที่ขยันในการศึกษาและใฝ่ใจในทางธรรม เมื่ออายุ 24 ปี เข้าพิธีอุปสมบท ที่วัดดอกไม้ ต.คลองโค อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ มีหลวงพ่อกล่อม เป็นพระอุปัชฌาย์

    อยู่อุปัฏฐากรับใช้พระอุปัชฌาย์อยู่ 2 พรรษา แล้วออกเดินธุดงค์สั่งสมหาประสบการณ์ในทางธรรมไปตามสถานที่ต่างๆ อาทิ ภาคเหนือ ภาคอีสาน ก่อนข้ามไปศึกษาหาวิชายังเขตประเทศกัมพูชา

    จนถึง พ.ศ.2479 จำพรรษาที่วัดกำแพง จ.ชลบุรี ศึกษาภาษาบาลีที่สำนักเรียนวัดราษฎร์บำรุง จนสามารถสอบนักธรรมเอกเปรียญธรรม 3 ประโยค ได้สำเร็จในปี พ.ศ.2498 ก่อนมาเป็นเจ้าอาวาสวัดชากนิมิตรวิทยา อ.บ้านบึง

    พอถึง พ.ศ.2528 สร้างสำนักวิปัสสนาเม้าสุขา จากนั้น พ.ศ.2530 ย้ายมาเป็นเจ้าอาวาสวัดบึงบวรสถิตย์ และเป็นเจ้าคณะอำเภอบ้านบึง จนถึง พ.ศ.2542 ได้รับยกขึ้นเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอบ้านบึง

    อุปนิสัยนั้น บรรดาศิษย์ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า ท่านเป็นพระสงฆ์ที่สมถะเรียบง่าย มีความเมตตา

    จัดสร้างสาธารณสถานต่างๆ ไว้มากมาย รวมทั้งให้ความสำคัญกับการศึกษาของเด็กและเยาวชนด้วยการจัดตั้งโรงเรียนสอนเด็กวันอาทิตย์ โรงเรียนสอนเด็กอ่อนก่อนเกณฑ์ในวัด

    รวมทั้งตั้งสถานที่ปฏิบัติธรรมเพื่อหล่อหลอมจิตใจชาวบ้าน โดยสอนวิปัสสนากัมมัฏฐานตลอดมาตั้งแต่พรรษาแรก พิมพ์หนังสือการปฏิบัติธรรมแจกเป็นธรรมทานจำนวนหลายหมื่นเล่ม ซึ่งในช่วงที่ปฏิบัติงานอยู่ในคณะสงฆ์อำเภอบ้านบึง ได้นำพระทั่วทั้งอำเภอออกปฏิบัติธุดงค์เป็นเวลาประมาณ 1 เดือนเป็นประจำตลอดมา และนำสิ่งของไปช่วยอุทกภัย วาตภัยทุกปี ทั้งภาคใต้ ภาคอีสาน และภาคกลาง

    ปฏิบัติหน้าที่ปกครองคณะสงฆ์อย่างเคร่งครัด เป็นแบบอย่างให้คณะสงฆ์ในปกครองปฏิบัติตาม

    เหตุแห่งการมรณภาพ หลวงพ่อสวัสดิ์ ได้รับกิจนิมนต์เดินทางด้วยรถยนต์ไปทางภาคเหนือ ที่ อ.งาว จ.ลำปาง

    ขณะเดินทางกลับวัด เมื่อวันที่ 1 เม.ย.2546 เวลา 10.00 น. มรณภาพอย่างกะทันหันด้วยอาการสงบ บนรถยนต์ สิริอายุ 96 ปี

    ถือเป็นพระเกจิที่มีชื่อเสียงของ จ.ชลบุรี มีลูกศิษย์ลูกหาทั่วประเทศโดยเฉพาะนักการเมืองท้องถิ่น ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ เคารพนับถือมาก

    วัตถุมงคลก็เป็นที่นิยมหลายรุ่น อาทิ กริ่งพระเจ้าตากสินกู้ชาติ เหรียญยันต์กลับ รูปเหมือนพระปิดตา เครื่องรางมีปลาตะเพียน ไก่ และวัตถุมงคลที่ นายบุญมา บุญเลิศวณิชย์ จัดสร้างถวายอีก 19 รุ่น อาทิ รุ่นสมเด็จขาโต๊ะ, พระปิดตาเนื้อผง, พระหลวงปู่ทวด, พระขุนแผน เป็นต้น

    การจากไปอย่างกะทันหันของหลวงพ่อสวัสดิ์ จึงสร้างความโศกเศร้าแก่ศิษยานุศิษย์เป็นอย่างยิ่ง
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    เหรียญหล่อหลังยันต์กลับรุ่นแรกหลวงพ่อสวัสดิ์ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่ง 30 บาทระบบflashหรือ j&t หรือเคอรี่(ปิดรายการ)
    IMG_20221010_005922.jpg
    IMG_20221010_005942.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ตุลาคม 2022
  20. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,719
    ค่าพลัง:
    +21,337
    1664824648901 (1).jpg
    ประวัติโดยย่อของหลวงพ่อวิชัย(ทึม)ผาสุโกเจ้าอาวาสวัดเขาสว่างวงษ์ ต.สนามแจง อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรีผู้สืบทอดวิชาฝังเข็มทอง"จตุราวุธ"แห่งถําวัวแดง จ.เลย หนึ่งเดียวในประเทศไทย หลวงพ่อวิชัยท่านเป็นชาวบ้านหมี่โดยกําเนิด ตอนที่ท่านเป็นฆราวาสท่านเป็นคนจริงคนหนึ่ง ก่อนที่ท่านจะบวชเพราะเบื่อในชีวิตฆราวาส ท่านเคยเดินทางไปกราบหลวงพ่อพรหม ถาวโรที่วัดช่องแคเพื่อขอของดีป้องกันตัว ซึ่งหลวงพ่อพรหมก็ให้ความเมตตาต่อท่าน ก่อนที่ท่านจะกลับหลวงพ่อพรหมได้เรียกท่านให้เข้าไปหาและเอามือลูบหัวท่านแล้วบอกกับท่านว่าให้บวชซะถ้าไม่บวชเอ็งก็ติดคุก และมอบตําราคาถาอาคมให้กับท่านมาเล่มหนึ่งซึ่งหลวงพ่อวิชัยท่านบอกว่าเป็นตําราด้านคงกระพันมหาอุดซึ่งหลวงพ่อวิชัยท่านก็เก็บรักษาไว้อย่างดี หลังจากนั้นคําพูดของหลวงพ่อพรหมก็เป็นจริง หลวงพ่อวิชัยท่านต้องคดียิงคู่อริท่านต่อสู้คดีอยู่ 3เดือน จึงหลุดพ้นคดี หลวงพ่อวิชัยท่านบวชเมื่ออายุ 23 ปี ณ.อุโบสถวัดเขาวงกฏ เมื่อครั้งอดีตกาลวัดเขาวงกฏเปรียบเหมือนตักศิลา ด้านวิปัสนากัมฐาน โดยมีเกจิอาจารย์ที่เป็นเลิศด้านวิปัสนากัมฐาน นามว่าหลวงปู่เพา พุทธสโร เป็นเจ้าอาวาส หลวงพ่อวิชัยท่านจึงได้รําเรียนวิปัสนากัมฐานจากวัดเขาวงกฏโดยมีหลวงปู่บกเจ้าอาวาสที่สืบทอดต่อๆมาให้ความเมตตาอบรมสั่งสอนจนสําเร็จ หลังจากนั้นท่านจึงกราบลาหลวงปู่บกพระอุปฌาย์ออกธุดงค์หาสถานที่สงบเพื่อฝึกฝนสมาธิ และเสาะหาเกจิอาจารย์ที่มีวิชาเพื่อฝากตัวเป็นลูกศิษย์ ท่านเดินธุดงค์จนถึง หมู่บ้านแห่งหนึ่งในเขตจ.เลยติดรอยต่อกับประเทศลาว ท่านได้พบกับอาจารย์สําลีซึ่งเป็นฆราวาสที่เก่งกล้าด้านสรรพวิชาไสยเวทย์ท่านหนึ่งอายุประมาณ 90ปี ท่าน จึงเข้าไปขอฝากตัวเป็นศิษย์ขอเรียนวิชา ซึ่งอาจารย์สําลีท่านก็เมตตารับเป็นลูกศิษย์โดยพาหลวงพ่อวิชัยไปที่ถําวัวแดงเพื่อให้หลวงพ่อวิชัยได้ฝึกสมาธิและรําเรียนสรรพวิชาไสย์เวทย์ โดยที่อาจารย์สําลีท่านได้ขนตําราทั้งหมดที่มีอยู่มาให้หลวงพ่อวิชัยรําเรียน จนสำเร็จ
    ขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    เหรียญรุ่น๑หลวงพ่อวิชัย ผาสุโกอาจารย์ทึม บ้านหมี่จังหวัดลพบุรี
    ให้บูชา
    300 บาทค่าจัดส่ง 30 บาทระบบ flash หรือ j&t หรือ kerry

    IMG_20221010_113620.jpg IMG_20221010_113639.jpg

    พระหูยานเหล็กน้ำพี้รุ่น๑หลวงพ่อวิชัย ผาสุโกอาจารย์ทึม บ้านหมี่จังหวัดลพบุรี
    ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่ง 30 บาทระบบ flash หรือ j&t หรือ kerry


    IMG_20221005_031442.jpg IMG_20221005_031500.jpg IMG_20221005_031412.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ตุลาคม 2022

แชร์หน้านี้

Loading...