บุญใหญ่ที่พระพุทธเจ้าสอนเราก็คือ ทาน ศีล ภาวนา ในบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ นั่นเอง

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 10 มีนาคม 2023.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,489
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,535
    ค่าพลัง:
    +26,372
    E52AD649-F68A-4926-A582-A98D0335ACB6.jpeg

    วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๙ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ เป็นวันที่สองของโครงการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานของเจ้าสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัด ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ วันนี้ได้รับความเมตตาจากพระเดชพระคุณหลวงปู่พระธรรมพุทธิมงคล (สอิ้ง สิรินนฺโท ป.ธ.๘) เจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร จังหวัดสุพรรณบุรี ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๔ ท่านเดินทางมาเป็นวิทยากรบรรยายให้ในช่วงบ่าย

    พระเดชพระคุณหลวงปู่ท่านก็อายุกาลพรรษาถึง ๙๐ ปีแล้ว ช่วงสองปีที่ผ่านมาก็เจ็บไข้ได้ป่วยจนกระทั่งไม่สามารถที่จะรับกิจนิมนต์ที่ไหนได้ แต่เมื่อทราบว่ามีการปฏิบัติธรรมของเจ้าสำนักปฏิบัติธรรมทั้ง ๑๒๐ สำนัก ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ ท่านก็เต็มใจที่จะมาบรรยายถวายความรู้ให้ โดยมีรถประจำตัวซึ่งมีบุคคลช่วยเข็นเข้ามาให้จนถึงกลางศาลา

    แม้ว่าหลวงปู่ท่านจะอายุกาลพรรษามาก แต่ด้วยความที่เคยทำหน้าที่ปกครองคณะสงฆ์ถึงระดับเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี เคยเรียนบาลีจนสอบได้เปรียญธรรม ๘ ประโยค และที่สำคัญก็คือท่านปฏิบัติธรรมแบบสัมมาอะระหังตามสายของหลวงพ่อสด วัดปากน้ำภาษีเจริญ

    เมื่อครั้งแรก ๆ ที่กระผม/อาตมภาพจับได้ว่าหลวงปู่ท่านเป็นพระกรรมฐาน แล้วกระซิบถามท่านว่า "ใช่อย่างที่กระผมว่าหรือไม่ ?" หลวงปู่ท่านตอบด้วยการเขกหัวให้โป๊กเบ้อเร่อ..! แล้วหลังจากนั้นเป็นต้นมา เจอหน้าเมื่อไรก็ได้มะเหงกเป็นรางวัล พร้อมกับกำชับว่า "เอ็งอย่าเที่ยวไปบอกใครเชียวนะ"

    งวดนี้เมื่อท่านทราบว่าเจ้าสำนักปฏิบัติธรรมทั้งหมดนั้นมาปฏิบัติรวมกัน ท่านก็อยากที่จะแนะนำแนวทางการปฏิบัติกรรมฐานให้ จึงได้เมตตาเดินทางมาบรรยายถวายความรู้ โดยที่บอกกล่าวแก่เจ้าสำนักปฏิบัติธรรมทั้งหมดว่า ข้อใหญ่ใจความที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนพวกเราก็คือ ให้สร้างกองบุญการกุศลจนกว่าจะหลุดพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพาน บุญใหญ่ที่พระพุทธเจ้าสอนเราก็คือ ทาน ศีล ภาวนา ในบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ นั่นเอง

    โดยการที่เราจะพิจารณาว่าข้อธรรมคำสอนนั้นใช่ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือไม่ ? หลวงปู่ท่านให้ตั้งข้อสังเกตว่า สิ่งที่พระพุทธเจ้าให้เราทำนั้นเป็นของง่าย แต่สิ่งที่พระพุทธเจ้าห้ามไม่ให้เราทำนั้นเป็นของยาก ดังนั้น..เราจึงควรที่จะทำของง่าย อย่าไปทำของยาก

    อย่างเช่นว่าการให้ทานนั้นเป็นของง่าย แต่การลักขโมยฉกฉวยช่วงชิงของคนอื่นนั้นเป็นของที่ทำได้ยาก การให้ทาน เรานึกอยากให้เมื่อไรเราก็ให้ได้เลย แต่การที่จะลักขโมยคนอื่นนั้น ต้องดูลู่ทาง ดูเวลาที่เหมาะสม ดูว่าเมื่อไรเจ้าของจะเผลอ ดูว่ามีคนและสัตว์เฝ้ารักษาหรือไม่ ? เป็นต้น

    หรืออย่างเช่นว่าพระองค์สั่งเราห้ามฆ่าสัตว์ การที่เราไม่ฆ่าสัตว์ก็คือไม่ต้องลงทุนอะไรเลย เพียงแต่งดเว้นการฆ่าเท่านั้น แต่ถ้าเราต้องไปฆ่าคน ไปฆ่าวัว ไปฆ่าควาย เป็นการกระทำที่ยากเป็นอย่างยิ่ง สิ่งที่พระพุทธเจ้าให้ทำจึงเป็นของง่าย สิ่งที่พระพุทธเจ้าห้ามทำจึงเป็นของยาก

    ที่สำคัญที่สุดสำหรับนักปฏิบัติก็คือให้เจริญเมตตาอยู่เสมอ เพราะว่าจิตใจของเราเหมือนกับปลา เมตตาเหมือนกับน้ำสะอาดที่ชุ่มเย็น ปลาสามารถอยู่อาศัยเจริญเติบโตได้ดี ถ้าหากว่าเราไปโกรธคนอื่น ก็กลายเป็นเอาน้ำเดือดมาใส่ใจ ปลาก็ย่อมจะต้องเดือดร้อนจนถึงขนาดตายไปเลยก็มี หรือว่าถ้าเราเกลียดคนอื่น ก็เอาน้ำเน่ามาใส่ใจ ปลาที่ไหนจะอยู่ได้นาน ? ท่านถึงได้เปรียบเอาไว้ว่า กำลังใจเหมือนกับปลา เมตตาเหมือนกับน้ำ ปลากับน้ำต้องอยู่ด้วยกัน จึงจะทำให้เราประสบความสำเร็จในการปฏิบัติธรรมได้ง่าย

    หลักการปฏิบัติธรรมก็ให้ยึดในแนวของโพชฌงค์ ๗ ก็คือประกอบไปด้วย "สติสัมโพชฌงค์" ระลึกรู้อยู่เสมอว่าเราจะตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติธรรม ในส่วนของ "ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์" ก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก อยากจะทำข้อไหนก็เลือกหยิบจับเอาข้อธรรมที่เราปฏิบัติได้ง่ายขึ้นมาแล้วลงมือทำ ซึ่งก็คือ "วิริยสัมโพชฌงค์" เมื่อพากเพียรทำไปก็จะเกิด "ปีติสัมโพชฌงค์" ความอิ่มเอิบใจ แล้วประกอบไปด้วย "ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์" ก็คือความสงบย่อมเกิดขึ้น

    "สมาธิสัมโพชฌงค์" ความที่จิตใจตั้งมั่น ทำให้กิเลสแทรกแซงไม่ได้ก็เกิดขึ้น ก่อให้เกิด "อุเบกขาสัมโพชฌงค์" ก็คือการปล่อยวาง ไม่ยินดียินร้ายทั้งในสิ่งที่ดีและสิ่งที่ชั่ว เราก็จะสามารถดึงกำลังใจของเราให้ห่างไกลจากกิเลส ถ้าหากว่าห่างไกลออกมามาก ๆ ไม่ไปปรุงไปแต่ง ท้ายที่สุดก็จะส่งผลให้พวกเราทั้งหลาย สามารถหลุดพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพานได้

    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๙ มีนาคม ๒๕๖๖

    https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=9333

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
    www.watthakhanun.com

    #ชุมชนคุณธรรม #วัดท่าขนุน #watthakhanun
    #ig: wat.thakhanun
    #tiktok: @watthakhanun
    #ชุมชนคุณธรรมวัดท่าขนุน
    #ชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงขับเคลื่อนด้วยพลังบวร
    #พระพุทธศาสนาช่วยโลก #พระสงฆ์ช่วยสังคม
    #พระครูวิลาศกาญจนธรรมดร #พระครูวิลาศกาญจนธรรม #พระอาจารย์เล็ก #หลวงพ่อเล็ก
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...