จัดงานบวชอย่างไรให้ได้บุญ

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 27 มีนาคม 2023.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,535
    ค่าพลัง:
    +26,372
    1992B177-01F8-40E3-BBAA-36EA221B5539.jpeg

    สำหรับในเรื่องของการบวชนั้น ญาติโยมส่วนใหญ่ก็รู้แต่ว่าบวชลูกบวชหลานของตนเองจะได้บุญมาก ได้อานิสงส์มาก แต่ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าอานิสงส์นั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร ? ซึ่งตรงนี้จะต้องบอกกล่าวกันให้ชัดเจนว่า

    การบวชในเบื้องต้นท่านก็ได้อานิสงส์ในทาน ในศีล ในภาวนาไปแล้ว

    เมื่อบรรดาคู่สวดได้กล่าวประกาศท่ามกลางสงฆ์ว่า "อุปสัมปันโน สังเฆนะฯ" บัดนี้ได้อุปสมบทเป็นสงฆ์แล้วนะ อานิสงส์ที่ท่านทั้งหลายจะพึงมีพึงได้ในฐานะผู้เป็นศาสนทายาท สืบทอดอายุพระพุทธศาสนา ก็ได้สมบูรณ์บริบูรณ์ตอนนั้นแล้ว

    การอยู่ต่อของท่านทั้งหลายก็ขึ้นอยู่ที่ว่า เราจะสามารถทำให้อานิสงส์นั้นเพิ่มมากขึ้นหรือว่าลดน้อยถอยลง คำว่าเพิ่มมากขึ้นในที่นี้ก็คือการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ที่ลดน้อยถอยลง นั่นก็คืออาจจะไม่ทำอะไรเลย หรือไม่ก็มีการทำผิดทำพลาด จนกระทั่งติดลบไปก็มี..!

    อานิสงส์ทั้งหลายเหล่านี้ ที่บอกว่าได้มากนั้นเกิดจากอะไร ? ก็เกิดจากการที่บรรดาผู้บวชเข้ามาแล้วต้องยึดถือศีล ๒๒๗ ข้อ ถ้าเปรียบกับการลงทุนในกิจการงานอย่างใดอย่างหนึ่ง ญาติโยมที่ถือศีล ๕ สมมติว่าลงทุนไป ๕ ล้านบาท พระภิกษุสงฆ์ที่ถือศีล ๒๒๗ ข้อ ก็คือลงทุนไป ๒๒๗ ล้านบาท

    ถ้าหากว่าเกิดได้กำไรขึ้นมาเหมือน ๆ กัน ผู้ที่ลงทุนมากย่อมได้กำไรมากกว่าหลายเท่า อานิสงส์ที่ได้มากจึงอยู่ตรงนี้เอง เพราะว่าลงทุนด้วยอานิสงส์ ก็คือการรักษาศีลมากกว่าฆราวาสหลายเท่า ผลบุญที่ได้จึงได้มากกว่าหลายเท่า แต่ถ้าหากว่าท่านไปสร้างเวรสร้างกรรม ผลบาปก็ได้มากกว่าหลายเท่าเช่นกัน..!

    ดังนั้น..การบวชลูกหลานไม่ได้หมายความว่าท่านจะได้บุญได้กุศลอย่างเดียว บรรดาท่านทั้งหลายที่มีการล้มวัวล้มควาย ฆ่าหมูฆ่าไก่ เพื่อที่จะเลี้ยงแขกนั้น สิ่งที่ท่านทำส่วนนี้เป็นบาป ถ้าหากว่าท่านทำบาปมากกว่า บางทีบุญที่ควรได้ก็ไม่สามารถที่จะทานกำลังบาปเอาไว้ได้

    พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ได้ให้คำแนะนำว่า ถ้าจะเลี้ยงแขกในงานบวชก็ให้สั่งโต๊ะจีนมาเลย ทางด้านเจ้าของผู้ที่ทำโต๊ะจีนจะเป็นคนที่จัดการเกี่ยวกับเรื่องข้าวปลาอาหารต่าง ๆ เอง เราจะได้ไม่มีส่วนในเรื่องของบาปในตรงนั้น แต่ถ้าหากว่าท่านเป็นคนไปสั่งว่า จะต้องมีหมู มีเป็ด มีไก่ ถ้าอย่างนั้น ส่วนนี้ก็จะกลายเป็นบาป..!

    ถ้าจะให้ปลอดภัยจริง ๆ ก็ให้เลี้ยงเป็นอาหารมังสวิรัติ โดยที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านบอกว่า แม้แต่ไข่สักฟองก็อย่าได้ไปทุบ เพราะไม่แน่ใจว่าไข่นั้นจะมีเชื้อหรือเปล่า ถ้าหากว่ามีเชื้อ ท่านก็จัดเป็นผู้ที่ฆ่าสัตว์เช่นกัน

    เมื่อเห็นความยากลำบากในตรงจุดนี้แล้ว ท่านทั้งหลายบางทีอาจจะท้อใจไปเลยว่า "การบวชลูกคนหนึ่งทำไมถึงได้ยากเย็นขนาดนี้ ?" ซึ่งตรงนี้ก็ขอกล่าวถึงว่า ถ้าท่านทั้งหลายบวชลูกบวชหลานโดยที่ไม่รู้อะไรเลย ถึงเวลาบวชเข้าไปแล้ว แม้แต่ต้องปฏิบัติตนอย่างไรก็ไม่รู้ ทำผิดทำพลาดไปโดยสบายใจ ไม่รู้ว่าเกิดโทษแก่ตนเอง ถึงเวลาสึกหาลาเพศไป คิดว่าตัวเองได้ผ่านการบวชมาแล้ว ถ้าลักษณะแบบนี้ก็ไปรอตัดสินกันเมื่อยามที่ท่านตายแล้ว..! ว่าโทษทัณฑ์ที่ท่านได้กระทำเอาไว้หนักหนาแค่ไหน ส่วนใหญ่ก็มีอเวจีมหานรกเป็นที่ไป..!

    แต่ว่าท่านที่บวชมาแล้วรู้ว่า ถ้าตั้งใจให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา จะมีอานิสงส์มากมายมหาศาล เพราะว่าตนเองมีศีลถึง ๒๒๗ ข้อเป็นต้นทุน แล้วตั้งใจสวดมนต์ ทำวัตร บิณฑบาต เจริญกรรมฐานเป็นปกติ อานิสงส์ที่จะพึงได้ก็มากเป็นทบทวี ยิ่งกว่าตอนเป็นฆราวาสได้กระทำไป แล้วยิ่งปฏิบัติในศีล สมาธิ ปัญญาอีกด้วย สิ่งที่ท่านจะพึงมีพึงได้ ก็ยิ่งวิเศษเลิศลอยมากขึ้นไปอีก อานิสงส์ที่จะได้มากได้น้อย จึงขึ้นอยู่กับการกระทำของผู้บวชนั่นเอง

    ดังนั้น..ญาติโยมที่ไม่รู้ว่าอานิสงส์หรือว่าบุญที่ได้มากนั้นได้เพราะอะไร ? ขณะเดียวกันก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่ได้ทำนั้นเป็นบาปเป็นกรรมอย่างไร ? ถ้าหากว่าได้ฟังคลิปเสียงนี้แล้ว ก็น่าที่จะพอรู้ได้บ้างว่า การบวชลูกบวชหลานนั้น ควรที่จะทำอย่างไรถึงจะถูกต้อง ไม่ใช่คิดแต่จะเอาหน้าเอาตาของตนเอง

    บางท่านถึงขนาดโปรยทานไปทีหนึ่งเป็นแสน ๆ บาท..! บางท่านก็ถึงขนาดไปเหมาหวยจากบรรดาผู้ขายล็อตเตอรี่มาเป็นเจ้า ๆ มาเลย แล้วเอามาโปรยทานก็มี จัดการเลี้ยงโต๊ะจีนเป็นร้อย ๆ โต๊ะก็มี เรื่องทั้งหลายเหล่านี้นั้น เป็นการลงทุนสูญเปล่าก็มี เพราะว่าสิ่งที่ลงทุนไปนั้นไปก่อกรรมทำเข็ญเสียมากกว่า การที่เราเป็นผู้รู้ดีรู้ชั่ว จึงเป็นบุคคลที่กระทำกันสิ่งอื่น ๆ นั้นได้ลำบากกว่าเขา

    แต่ถ้าท่านทั้งหลายสังเกตจะเห็นว่า ในเรื่องของการให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนานั้น เป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย ถ้าเราจะให้ทานก็แค่ยื่นโยนให้แก่ผู้อื่น แต่การที่เราจะลักขโมยเขานั้น ต้องดูโอกาส ดูเวลา ดูว่าเจ้าของเผลอหรือไม่ ? บางทีก็ต้องออกไปขโมยเวลาดึก ๆ ดื่น ๆ จะเห็นว่าทำได้ยากเป็นอย่างยิ่ง

    การรักษาศีลนั้น ก็แค่เราไม่ไปละเมิดเท่านั้นเอง เป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายมาก แต่ถ้าท่านจะฆ่าสัตว์ หรือว่าฆ่าคน ก็ยังต้องเสียเวลาลงไม้ลงมือ หรือว่าวางแผนการอะไรต่าง ๆ เพราะเกรงว่าจะโดนตอบโต้ โดนทำร้ายคืนมาบ้าง เป็นต้น

    หรือว่าการเจริญภาวนานั้น ท่านก็รักษาใจของตนให้อยู่กับสมาธิตรงหน้า ในขณะที่บุคคลทั่ว ๆ ไปปล่อยให้ใจเตลิดเปิดเปิงไปกับสิ่งต่าง ๆ รอบข้างอยู่เสมอ

    ดังนั้น..ความดีของทาน ของศีล ของภาวนา จึงเป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย แต่ถ้าหากว่าการละเมิด ไม่ยอมให้ทานยังไม่เพียงพอ ยังหยิบฉวยช่วงชิงคนอื่น ไม่รักษาศีลยังไม่พอ ยังมีการฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม พูดโกหกมดเท็จ ดื่มสุรา เสพยาเสพติด สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ทำได้ยากมาก ๆ เราจึงควรที่จะกระทำในสิ่งที่ง่าย ละเว้นในสิ่งที่ยาก ก็จะทำให้ท่านทั้งหลายสามารถสร้างบุญสร้างกุศลแล้ว พึงจะได้อย่างใจของตนเอง ก็คือได้บุญได้กุศลมากสมกับความต้องการ

    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๖๖

    https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=9363

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
    www.watthakhanun.com

    #ชุมชนคุณธรรม #วัดท่าขนุน #watthakhanun
    #ig: wat.thakhanun
    #tiktok: @watthakhanun
    #ชุมชนคุณธรรมวัดท่าขนุน
    #ชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงขับเคลื่อนด้วยพลังบวร
    #พระพุทธศาสนาช่วยโลก #พระสงฆ์ช่วยสังคม
    #พระครูวิลาศกาญจนธรรมดร #พระครูวิลาศกาญจนธรรม #พระอาจารย์เล็ก #หลวงพ่อเล็ก
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...