ตะกรุดเมตตา 3 ดอก วัดเสาธงทอง,ผ้ายันต์มหาพิชัยสงครามผืนใหญ่ วัดธรรมยาน,เหรียญมงคลถาวร ลพ กวย...

455. เหรียญมงคลถาวรของหลวงพ่อกวยย้อนยุค รุ่น มงคลถาวร ปี 55 ที่จัดสร้างด้วยท่านอาจารย์เฒ่า สุพรรณ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อตอบแทนท่านผู้ร่วมบุญทอดผ้าป่า โดยนำเงินเข้ามูลนิธิหลวงพ่อกวย เพื่ออาหารกลางวันเด็กและการศึกษาของเด็ก
โดยส่วนตัวผมชอบเหรียญรุ่นนี้ที่ อ.เฒ่า สร้างมากกว่าทุกรุ่น เหรียญถูกออกแบบมาสวยมาก องค์หลวงพ่อพิมพ์คมชัด หลังเหรียญยันต์มงกุฎพระพุทธเจ้าก็สวยคมชัดเจน เหรียญใหญ่ มีน้ำหนัก อีกทั้งมวลสารต่างๆที่ อ.เฒ่านำมาสร้างก็ศักดิ์สิทธิ์ หายาก พิธีกรรมการปลุกเสกดี เจตนาการสร้างดี น่าเก็บสะสมครับ หรือว่าจะขอพึ่งบารมีหลวงพ่อกวย ก็หารุ่นนี้ไว้ติดดัวก็จะดีครับ
เนื้อชนวนหลักในการสร้างเหรียญนี้ มาจาก
1. ชนวนพระชัยเชียงรุ้ง หลวงพ่อ สวน วัดนาอุดม หนัก 1 กิโลกรัม
2, ส่วนพระบาทและพระเศียร ของพระพุทธรูปชำรุด ที่หลวงพ่อกวย มอบไว้ให้
3, ชนวนแผ่นยันต์ หนัก 6-7 กิโลกรัม
นอกจากนี้แล้ว ในเหรียญเนื้อนวะโลหะสัมฤทธิ์ชนวนแผ่นยันต์ ท่านอ.เฒ่ายังใส่เหรียญพิเศษเพิ่มลงไปอีกดังนี้
1. เหรียญ หลวงพ่อ ปรง 3 เหรียญ
2. เหรียญ หลวงพ่อ วอน 1 เหรียญ
3. เหรียญ หลงพ่อ โต วัดโพธิ์หอม 7 เหรียญ
4. เหรียญ หลวงพ่อ กวย ดับไฟใต้ 7 เหรียญ
5. เหรียญ แนวหน้าทัพหนึ่ง 3 เหรียญ
6. เหรียญ อาจาร์ยอื่นๆ 37 เหรียญ
7, เหรียญ ปลอดภัย หลวงปู่หล้า วัดป่าตึง 100 เหรียญ ฯลฯ
และเนื้อเหรียญที่พิเศษสุด ที่ท่านอ.เฒ่า สร้างไว้ ก็คือเหรียญมงคลถาวรเนื้อตะกั่ว ซึ่งไม่มีชนวนมวลสารอื่นใดเข้ามาผสมเลย ท่านใช้เนื้อตะกรุดเก่า ที่ท่านเก็บรักษาไว้ นำมาหลอมเป็นเหรียญเนื้อตะกั่วโดยเฉพาะ ได้แก่
1. ตะกรุดหลวงพ่อเฒ่า(ปั้น) วัดคังคาว
2. ตะกรุดหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า
3. ตะกรุดหลวงปู่ปลื้ม วัดสังฆาราม
4. ตะกรุดหลวงปู่วิเวียร วัดดวงแข
5. ตะกรุดมหาจักรพรรดิ์ หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน
เหรียญมงคลถาวรเนื้อตะกั่วนี้ จำนวนสร้างเพียง 108 เหรียญ ท่านแจกกรรมการ ไม่มีจำหน่าย
สำหรับจำนวนการจัดสร้างเหรียญรุ่นนี้ แต่ละเนื้อ เท่าที่ทราบ ปริมาณเหรียญมีดังนี้ (โดยประมาณ)
1. เนื้อนวะโลหะสัมฤทธิ์ชนวนแผ่นยันต์ จำนวน 499 เหรียญ
2. เนื้อสัมฤทธิ์เหลืองชนวนแผ่นยันต์ จำนวน 499 เหรียญ
3. เนื้อสัมฤทธิ์แดงชนวนแผ่นยันต์ จำนวน 499 เหรียญ
4. เนื้อทองแดงรมนาค จำนวน 999 เหรียญ
5. เนื้อทองเหลืองรมทอง จำนวน 3999 เหรียญ
6. เนื้อทองเหลืองรมดำ จำนวน 3999 เหรียญ
7. เนื้อสัตตะอัลปาก้า จำนวน 3000-5000 เหรียญ
8. เนื้อตะกั่วชนวนตะกรุด จำนวน 108 เหรียญ
พิธีปลุกเสก
ปลุกเสกโดยศิษย์ในสาย หลวงพ่อปากคลองมะขามเฒ่า, หลวงพ่อเดิมวัดหนองโพธ์, หลวงพ่อศรีวัดพระปรางค์
เหรียญรุ่นนี้ อาจารย์ชนินท์ร่วมปลุกเสก (อาจารย์ชนินท์ เป็นศิษย์สายครูบาชุ่ม โพธิโก วัดวังมุยลำพูน เป็นศิษย์สายครูบาขันแก้ว วัดสันพระเจ้าแดง ลำพูน เป็นศิษย์หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค และเป็นศิษย์ฆราวาสของคุณหมอสมสุข คงอุไร)ท่านพูดในวันปลุกเสกว่า (หลวงพ่อกวยพูดกับท่านอาจารย์ชนินท์) เหรียญรุ่นนี้ของกูไม่ต้องนำไปให้ใครเสกอีกเด็ดขาดกูกับอาจารย์ของกูเสกให้เต็มที่แล้วแต่กูขอเวลา 3 อึดใจ เหรียญรุ่นนี้ใช้แทนของเดิมได้ วันที่ 13 สิงหาคม 2555 ผู้จัดสร้างเหรียญไปกราบหลวงปู่นาม วัดน้อยชมพู สุพรรณบุรี เลยหอบเอาเหรียญชนวนลองๆไปให้ท่านเสกดูอีกที หลวงปู่นามเอามือจับถุงเหรียญ ท่านถามว่า เหรียญของใคร "แรงจัง" กูเสกไม่เข้า เลยหยุดการปลุกเสกตอนแรกผู้จัดสร้างเหรียญตั้งใจทำพิธีปลุกเสก 74 วัน 74 คืน ถึงคืนวันที่ 30 กันยายน 2555 จึงจะหยุดเสก
( นอกจากเหรียญเนื้อชนวนต่างๆรุ่นมงคลถาวรนี้แล้ว ยังมีรูปถ่ายของหลวงพ่อกวย แบบต่างๆ ที่ท่าน อ.เฒ่า ทำขึ้น เข้าพิธีปลุกเสกเดียวกันกับเหรียญรุ่นนี้ )
รายชื่อพระเกจิหลวงพ่อหลวงปู่ที่ร่วมเสกเหรียญชุดนี้ ที่พอรู้
1. หลวงพ่อมหาสุรศักดิ์ วัดประดู่ สมุทรสงคราม
2. หลวงพ่อหวั่น วัดคลองคูณ พิจิตร
3. หลวงพ่อเร่ง วัดดงแขวน อุทัยธานี
4. หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย อยุธยา
5. หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว อยุธยา
6. หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน ลพบุรี
7. หลวงพ่อวิชา วัดชอนทุเรียน นครสวรรค์
8. หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม นครปฐม
9. หลวงพ่อกำจัด วัดป่าสัก ชัยนาท
เหรียญมงคลถาวร ปี 55 เนื้อนวะโลหะสัมฤทธิ์ชนวนแผ่นยันต์ เนื้อเหรียญจะออกสีดำ สีเข้มๆ จะตอก 2 โค๊ต คือ โค๊ตหนุมาน(เล็ก) ด้านซ้ายมือหลวงพ่อ และโค๊ตยันต์มงกุฎพระเจ้า(เล็ก) ด้านขวามือของหลวงพ่อ หายากสุดๅ เคยมีคนกล่าวว่ารุ่นนี้มีอานุภาพดุจเหรียญรุ่นแรกเลยทีเดียว เหรียญรุ่นแรก ราคาไปไกลแล้ว รุ่นนี้พอที่จะแทนกันได้สำหรับผู้ที่สนใจ สวยเดิม ซีลเดิม มีมาแบ่งปัน 2 เหรียญ (ของแท้แน่นอน ไปบูชาที่อื่นอาจเจอของปลอมของเก๊ โค๊ตใหญ่ โค๊ตกลางนะครับท่าน)
(ปิดเหรียญองค์ซ้ายมือ 1 เหรียญ) เหลือองค์ขวามือ

 

456. เหรียญมงคลถาวร เนื้อสัมฤทธิ์แดงชนวนแผ่นยันต์ (แจกกรรมการ) โค๊ตหนุมานอยู่ด้านซ้ายหลวงพ่อ โค๊ตมงกุฎพระเจ้าอยู่ด้านขวาหลวงพ่อ (ต้องเป็นโค๊ตเล็กเท่านั้น) สวยเดิม ซีลเดิมทุกเหรียญ
ให้บูชาเหรียญละ 3000 รส (มีแบ่ง 3 เหรียญ)

 

457. เหรียญมงคลถาวร เนื้อสัมฤทธิ์เหลืองชนวนแผ่นยันต์ (แจกกรรมการ) โค๊ตหนุมานอยู่ด้านซ้ายหลวงพ่อ โค๊ตมงกุฎพระเจ้าอยู่ด้านขวาหลวงพ่อ (ต้องเป็นโค๊ตเล็กเท่านั้น) สวยเดิม ซีลเดิมทุกเหรียญ
ให้บูชาเหรียญละ 3000 รส (มีแบ่ง 2 เหรียญ)

 

458. เหรียญมงคลถาวร ปี 55 เนื้อสัตตะอัลปาก้า กรรมการ 2 โค๊ต(เล็กเท่านั้น) สวยเดิม ซีลเดิม
ให้บูชา 2500 รส

 

สวัสดีครับ

 

ปิดครับ

 

489. ตะกรุดเมตตา 3 ดอก (ดอกไม้ทองก็เรียก) ต้นกำเนิดหลวงพ่อสนั่น วัดเสาธงทอง อ่างทอง
ประวัติและที่มา
เริ่มต้นตำราการสร้างจากตำราของปู่จัน ท่านจะมีรูปร่างหน้าตาเช่นไร ได้ตำราการสร้างมาจากไหน ไม่มีใครทราบ ว่ากันว่าท่านอยู่ในยุค ร.5 ท่านได้ถ่ายทอดวิชานี้ให้กับท่านปู่ฉุน คนบ้านทับกฤช แล้วปู่ฉุนก็ได้ถ่ายทอดวิชานี้ต่อให้กับลูกชายท่าน และได้สืบต่อวิชานี้มาจนถึงหลวงพ่อสน้่น พระลูกวัดเสาธงทอง ในยุคนั้น
ต่อมาวิชานี้ได้มีผู้มารับสืบทอดต่อเรียนวิชาลงตะกรุดเมตตา 3 ดอกจากท่าน หลายคนทั้งฆราวาสและพระภิกษุ ที่ทำตะกรุดแล้วมีชื่อเสียงในปัจจุบันก็คือ ลพ.พูน วัดบ้านแพนนั้นเอง (ซึ่งท่านมาเปลี่ยนชื่อเป็นตะกรุดดอกไม้ทองในภายหลัง)
แต่วิชานี้ก็ยังคงมีศิษย์เอก ที่เรียนวิชาสืบวิชาตะกรุดเมตตา 3 ดอกโดยตรงจาก ลพ.สนั่น อีก 2 ท่านเป็นพี่น้องกัน เป็นศิษย์ก้นกุฎิ กินนอนกับหลวงพ่อสนั้นมาแต่เล็ก เป็นฆราวาส 1 และเป็นพระภิกษุ 1 คือท่านหลวงตาดำ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า พระอาจารย์ณรงค์ วัดเสาธงทองนั้นเอง ซึ่ง พอจ.ท่านเป็นอุปัฎฐาก และเป็นมือจารตะกรุดเมตตา 3 ดอกให้กับหลวงพ่อสนั่น ตั้งแต่อายุเพียง 16-17 ปี ซึ่งถือได้ว่าปัจจุบันนี้ท่านเป็นท่านเดียวที่สืบทอดวิชานี้โดยตรงจากหลวงพ่อสนั้นเลยทีเดียว
การถ่ายทอดวิชาตะกรุดเมตตาสามดอกของหลวงพ่อสนั่น การถ่ายทอดตำราวิชาให้มีสองแบบ
1.แบบเสียไม่ได้ ส่วนใหญ่ก็จะได้รู้แค่ยันต์ เครื่องบูชาครู คาถาปลุก จะไม่ได้เคล็ดหลายๆอย่างเกี่ยวกับกระตุด คนประเภทนี้เป็นเพียงมาเรียนวิชา แต่ไม่ใช่ศิษย์หลวงพ่อสนั่น เมื่อได้วิชาไปแล้วก็จะหายไปเลย แล้วมักจะทำไม่ตรงตามตำรา
จึงไม่ค่อยจะขลังเท่าที่ควร
2.แบบตั้งใจถ่ายทอดวิชา จะทำพิธีครอบครู เป็นศิษย์อาจารย์ให้ก่อน แล้วจึงถ่ายทอดวิชา จะถ่ายทอดสอนวิชา เกล็ด เคล็ดวิชาให้หมด ไม่ใช่เฉพาะวิชาตะกรุดสามดอกเท่านั้น ยังมีวิชาอื่นอีก คนที่ท่านครอบครูให้ จึงทำวิชาได้ขลัง และไม่กระทำนอกตำรา ผิดไปจากตำรา เดินตามรอยพระอาจารย์
ลักษณะตะกรุดเมตตา 3 ดอก (ของ พจอ.ณรงค์ ว้ดเสาธงทอง)
ท่านจะจารมือและเสกตามตำราที่เรียนมาจาก ลพ.สนั่นโดยตรง เป็นแบบตะกรุดเปลือยทั้งสามดอก ต่อมาภายหลัง น้องชายท่านถักเชือกสีหุ้มให้เพื่อเป็นการแยกแยะอิทธิคุณอานุภาพของตะกรุดที่แตกต่างกันไป 3 ประการตามอานุภาพของตะกรุด ทั้งยังเป็นการรักษาเนื้อตะกรุดไปในตัวด้วย
1. ตะกรุดดอกที่ 1 สีเงิน เป็นเมตตามหานิยมต่อมนุษย์ทั้งหลาย เมื่อเห็นเรามารักใคร่นิยมเราไม่รังเกียจ
2. ตะกรุดดอกที่ 2 สีทอง เป็นมหาเสน่ห์กามราคะ ต่อเพศตรงข้าม
3. ตะกรุดดอกที่ 3 สีน้ำเงิน เป็นเมตตามหานิยม เรียกจิตเรียกใจให้มาคิดถึงเรา อีกทั้งยังเป็นแคล้วคลาดปลอดภัย มีโชคมีลาภวาสนา ปกป้องคุ้มครองทุกประการ
คาถาบูชากำกับตะกรุด
" เมตตาคุณัง อะระหัง เมตตา "
วิธีใช้
เอามือจับที่ตัวตะกรุด แล้วภาวนาว่า "เมตตาคุณังอะระหังเมตตา" หลายๆจบจนใจสบาย แล้วอธิษฐานเอาตามปรารถนา ถ้าต้องการค้าขาย สามารถทำตะกรุดจุ่มน้ำอธิษฐานทำน้ำมนต์ได้ทุกประการ
ที่ผมนำมาให้บูชา เป็นตะกรุดเมตตา 3 ดอก ของ พอจ. ณรงค์ (ชัยณรงค์) ศิษย์เอกสายตรงเรียนจาก ลพ สนั่น วัดเสาธงทอง
มีให้บูชา 4 เส้นๆละ 1250 รส (มีเคล็ดวิชาบอกสำหรับผู้บูชาต่างหากครับ)

 

ปิดครับ

 

490. เหรียญหล่อเปิดโลก รุ่น 3 หลวงพ่อบัวลอย วัดน้อย สิงห์บุรี
ที่มา
เหรียญเปิดโลกของหลวงพ่อบัวลอยวัดน้อยนั้น ปฐมเหตุแห่งการจัดสร้างในครั้งแรกนั้น เป็นคำสั่งบอกของครูบาอาจารย์ในโลกทิพย์ให้สร้างขึ้นมา ท่านมาบอกเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในวันข้างหน้ากับหลวงพ่อและแสดงภาพให้ดูทุกอย่าง ครูบาอาจารย์ท่านจึงให้หลวงพ่อสร้างพระเปิดโลกขึ้นมา เพื่อบรรเทาเหตุการณ์ร้ายๆที่จะเกิดขึ้นแก่ผู้คนได้มาก ก่อนสร้างครูอาจารย์ท่านบอกให้หลวงพ่อไปเอามวลสารสำคัญๆตามที่ต่างๆ และหลวงพ่อท่านก็ได้มวลสารนั้นๆได้ครบอย่างอัศจรรย์ ทั้งที่บางอย่างไม่น่าหามาได้ในช่วงเวลานั้นๆ บางอย่างท่านบอกหลวงพ่อว่าเดี๋ยวจะมีคนเอามาให้ และก็มีมาให้จริงๆตามที่ท่านบอก พอหลวงพ่อท่านสร้างเสร็จ หลวงพ่อท่านก็ได้นำไปให้ครูอาจารย์ที่ท่านเคารพนับถืออธิษฐานจิตให้ด้วยเพื่อความเป็นสิริมงคล และครูบาอาจารย์ที่หลวงพ่อนำไปให้อธิษฐานจิตให้ หลายๆองค์ต่างพูดยืนยันเหมือนกันว่าเหรียญนี้ทำได้ตามความประสงค์ของครูอาจารย์ทางโลกทิพย์ที่บอกเอาไว้ จึงเป็นเครื่องยืนยันในความศักดิ์สิทธิ์ของเหรียญเปิดโลกที่หลวงพ่อท่านได้ทำไว้ตามความประสงค์ของครูบาอาจารย์ทุกอย่าง หลวงพ่อท่านเคยพูดให้ฟังว่า ใครมีไว้บูชาติดตัว จะผ่านเหตุการณ์ไม่ดีต่างๆที่ประสบอยู่ไปได้ และจะมีแต่สิ่งดีๆเข้ามา ท่านบอกว่าพระเปิดโลกนี้ นอกจากจะป้องกันสิ่งไม่ดีต่างๆแล้ว ยังช่วยหนุนดวงคนที่บูชาด้วย หลวงพ่อท่านบอกว่า ไม่ว่าจะรุ่นไหน ก็ใช้ได้เหมือนกันหมด เพราะครูบาอาจารย์ท่านมาทำไว้ให้ดีแล้วเหมือนกันหมดทุกอย่าง
อีกหนึ่งสถานที่อันเป็นมงคลศักดิ์สิทธิ์ที่หลวงพ่อได้นำวัตถุมงคลมงคลต่างๆไปอธิษฐานจิต เมื่อคราวเดินทางไปภาคใต้ ที่เบื้องหน้าพระพุทธทักษิณมิ่งมงคล ซึ่งตั้งอยู่พุทธอุทยานเขากง อ.เมือง จ.นราธิวาส เป็นพระพุทธรูปตั้งเด่นสีทองอร่าม ประดิษฐานในปางปฐมเทศนาขัดสมาธิเพชรอยู่บนยอด เป็นพระพุทธรูปที่งดงามและใหญ่ที่สุดในดินแดนภาคใต้ของสยาม ก่อนมาอธิษฐานจิตหลวงพ่อได้กำหนดฤกษ์ยามมงคลไว้ก่อนที่จะมาสถานที่ตรงนี้ อันต่างจากสถานที่ตรงอื่นๆที่ไปเสกมา... ณ ที่ตรงนี้หลวงพ่อท่านจะเน้นย้ำว่าต้องมาตอนกี่โมง ต้องเสกภายในกี่โมงถึงกี่โมงเพื่อให้ได้ตามฤกษ์ยามที่หลวงพ่อท่านกำหนดไว้ แต่ส่วนตัวก็ไม่ได้ถามหลวงพ่อท่านครับ แต่หลวงพ่อท่านต้องรู้อะไรบางอย่างจึงได้แตกต่างจากที่อื่นๆที่ได้นำวัตถุมงคลไปอธิษฐานจิตมา.....
ลักษณะของเหรียญเปิดโลกรุ่น 3 ที่หลวงพ่อได้ออกแบบทั้งด้านหน้าและด้านหลังครับ
ลักษณะของเหรียญนั้นเป็นทรงไข่ ด้านหน้ามีลักษณะนูนเป็นหลังเต่า มีพระพุทธเจ้าปางเปิดโลกอยู่ตรงกลางเด่นเป็นสง่า ตรงพระบาทมีพระอินทร์พระพรหมอยู่ซ้ายขวา บนพระอังสา(บ่า,ไหล่) มีพระจันทร์กับพระอาทิตย์ ให้เคร็ดทางปกป้องคุ้มครองทั้งกลางวันกลางคืน ตรงพระหัตถ์ทั้งสองข้าง เป็นยันต์นะกินไม่รู้สิ้น ล้อมด้วยพระคาถาเปิดโลก ว่า พุทธัง ธังมัง สังฆัง บังเกิดเปิดโลกโลกวิทู นะมะพะธะพุทโธโลกทิปังอากาสะกะสินัง วิโสทะยิ
ส่วนด้านหลังเหรียญนั้น ตรงกลางเป็นพระยันต์ธรรมราช รอบนอกล้อมด้วย ไตรสรณาคมน์ ด้านบนเป็นยันต์พุท เมตตา ด้านล่างเป็น พ.ศ ปีที่สร้าง ๒๕๖๕ ตามด้วยพรมงคล ลาภ ผล พูน ทวี และชื่อวัดน้อย อินทร์บุรี
ส่วนด้านบนของเหรียญนั้น หลวงพ่อท่านได้ใส่ปฐวีฐาตุเป็นมงกุฏเพชร เด่นสวยงามสง่าเปล่งประกาย ปฐวีธาตุนี้เป็นธาตุเย็น หลวงพ่อท่านทำตามตำรา หนุนธาตุตั้งธาตุให้เกิดอานุภาพศักดิ์สิทธิ์ในตัว
ด้านหลังเหรียญตอกโค๊ต 2 อย่าง คือ ตัว อุ และยันต์พุท เมตตา
เหรียญเปิดโลกรุ่น 3 ของหลวงพ่อบัวลอยนั้น จึงจัดเป็นเหรียญที่มีความงดงามมีเอกลักษณ์ในตัว เป็นเหรียญมีคุณค่าในตัว หลวงพ่อท่านบอกว่าเหรียญนี้ขลังศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่เหรียญยังไม่ได้เสก เพราะหลวงพ่อ ทำด้วยชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ ที่หลวงพ่อเองและครูบาอาจารย์ต่างอธิษฐานประสิทธิไว้ดีแล้วทุกอย่างเป็นเวลานาน จึงนำมาทำพิธีบวงสรวงบอกกล่าวทำเป็นเหรียญขึ้นมา และปลุกเสกอธิษฐานจิตเป็นเวลาหลายปีตั้งแต่ปี 65 - ปลายปี 67
(ขอบคุณท่านเจ้าของข้อมูลมา ณ ที่นี้ด้วยครับ)
ข้อความข้างล่างต่อไปนี้ โปรดใช้วิจารณญานในความเชื่อด้วยนะครับ
เมื่อขอน้อมชมบารมีขอขมาลาโทษแล้วพบกระแสพลังบารมีดังนี้ครับ
1.พบกระแสในการเปิด(แหวก) เป็นพระที่ช่วยเปิดทางด้านกระแสกรรมเก่า (ขจัดปัญหาอุปสรรคที่เกิดจากกรรม) ช่วยให้อุปสรรคในการดำเนินชีวิตค่อยเจือจืดจางลง
2.บำบัดหรือบรรเทาโรคจากกรรม
3.การช่วยเหลือหรืออำนวยชัยโดยเทวดา
4.แคล้วคลาดจากอุบัติเหตุเภทภัยแคล้วคลาดจากอุปสรรคปัญหา
5.ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ
6.คุ้มครอง(ห้าม) สิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายทั้งปวง (ใช้จังหวะนี้ทำความดีเพื่อกลบ ให้ความดีกลบกรรม)
7.ความอุดมสมบูรณ์ความราบรื่น
8.มีกระแสความร่มเย็น (อยู่เย็นเป็นสุข)
9.บารมีพ่อแม่ครูบาอาจารย์ประสิทธิ์
10.กระแสเทพพรหมเทวดาเข้ารักษา
** กระแสพลังงานโดยรวม 100%+++
( ใครที่ทำอะไรติดๆขัดๆ สุขภาพออดๆแอดๆ ทำอะไรก็ลุ่มๆดอนๆ )ให้ใช้พระนี้
Credit อ.จิต อจินไตย
ให้บูชา 650 รส