ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,996
    ค่าพลัง:
    +97,150
    บานปลายแล้ว! “ออสโล” ออกมาส่งเสียงหลังบ.พลังงานยักษ์ใหญ่แดนไวกิ้งประกาศบอยคอต "ไม่เติมน้ำมัน” ให้เรือรบอเมริกันเซ่น “วิกฤตทรัมป์-เซเลนสกี”
    .
    .
    .
    .
    .
    เอเจนซีส์/เอพี/MGRออนไลน์ – ออสโลล่าสุดออกแถลงเพื่อให้สถานการณ์ความตึงเครียดลดลงหลังบริษัทเชื้อเพลิงและการขนส่งยักษ์ใหญ่แดนไวกิ้ง Haltbakk Bunkers ก่อนหน้าสั่งบอยคอตประกาศไม่เติมเชื้อเพลิงให้เรือรบอเมริกันหลังประธานาธิบดีอเมริกัน โดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ช่วยยูเครนที่หมายถึงยุโรป แสดงวาทะตามอย่างปูตินอ้างระเบิดลง เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ต่อหน้ากล้องทีวีทำหวั่นไหวทั่วทั้งแดนนอร์ดิก
    .
    นิวสวีคของสหรัฐฯรายงานวันอาทิตย์(2 มี.ค)ว่า กลายเป็นสิ่งที่ร้อนแรงไปทั่วยุโรปเมื่อการปะทะคารมระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ และ ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ในทำเนียบขาววันศุกร์(28 ก.พ)วงแตกเกิดปะทะคารมโดยเฉพาะผู้นำยูเครนกล่าวต่อทรัมป์โดยอ้างอิงทรานสคริปต์จากการรายงานของเอพีว่า
    .
    “ทรัมป์มีมหาสมุทรที่ยอดเยี่ยมและจะยังไม่รู้สึกอะไรในเวลานี้ แต่จะรู้สึกในอนาคต" ทำให้ผู้นำสหรัฐฯประกาศว่า "อย่ามาบอกว่าผมต้องรู้สึกอย่างไร” และทรัมป์กล่าวต่อว่า คุณไม่อยู่ในจุดที่จะสามารถสั่งให้คนอื่นต้องรู้สึกอย่างไร พวกเราจะมีความรู้สึกที่ยอดเยียม" และส่งผลทำให้เซเลนสกีตอบออกมาว่า "คุณจะรู้สึกได้ถึงอิทธิพล"
    .
    นิวสวีคชี้ว่าการตัดสินใจของ Haltbakk Bunker ในการตัดความสัมพันธ์กับกองทัพเรือสหรัฐฯกลายเป็นหนึ่งในการแสดงความเคลื่อนไหวแรกในการต่อต้านทางการเมืองและเศรษฐกิจต่อทรัมป์ โดยเฉพาะต่อจุดยืนของเขาในสงครามยูเครน-รัสเซียที่กำลังเดินหน้า
    .
    ทั้งนี้ Haltbakk Bunkers เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่นอร์เวย์ด้านเชื้อเพลิงทางการเดินเรือโดยมี กันเนอร์ แกรน (Gunnar Gran) เป็นเจ้าของได้โพสต์แถลงการณ์เรียกร้องไปทั้งประธานาธิบดีทรัมป์และรองประธานาธิบดีของเขา เจดี. แวนซ์ โดยกล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในทำเนียบขาววันศุกร์(28 ก.พ)ที่มีประธานาธิบดียูเครนเป็นแขกนั้นเป็นโชว์ที่เส็งเครงมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาผ่านการถ่ายทอดสดทางทีวีทีเดียว
    .
    อย่างไรก็ตามโพสต์ดังกล่าวถูกลบไปและเฟซบุ๊กของบริษัทออฟไลน์พร้อมกับภาพแคปหน้าจอข้อความโพสต์ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลกโซเชียลมีเดีย
    .
    บริษัทเชื้อเพลิงทางการเดินเรือนอร์เวย์ Haltbakk Bunkers กล่าวยกย่องต่อเซเลนสกีว่า “ขอยกเครดิตมหาศาลให้แก่ประธานาธิบดีแห่งยูเครนในการควบคุมตัวเองและสงบเยือกเย็นถึงแม้จะโดน USA เล่นแทงข้างหลังกลางทีวี”
    .
    และเสริมต่อว่า “ทำให้พวกเราสะอิดสะเอียนและส่งผลทำให้พวกเราตัดสินใจในการหยุด(โดยใช้คำในตัวพิมพ์ใหญ่ STOP)การเติมเชื้อเพลิงให้กองกำลังอเมริกันในนอร์เวย์และเรือของพวกเขาที่เข้ามาจอดเทียบท่านอร์เวย์”
    .
    การโพสต์ยังกล่าวต่อว่า “ไม่มีเชื้อเพลิงให้พวกอเมริกัน!”
    .
    โพสต์ดังกล่าวยังกระตุ้นให้บริษัทนอเวย์และบริษัทยุโรปให้บอยคอตสหรัฐฯตาม
    .
    ซีอีโอแกรนได้ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า “จะไม่มีแม้แต่ลิตรเดียวที่จะส่งไปจนกว่าทรัมป์จะออกจากตำแหน่ง” พร้อมชี้ว่าทางบริษัทให้บริการเชื้อเพลิงร่วม 3 ล้านลิตรให้เรือรบอเมริกันในปี 2024 สมัยอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน
    .
    นิวสวีครายงานว่า อย่างไรก็ตามรัฐมนตรีกลาโหมนอร์เวย์ออกมายืนยันว่า กองกำลังสหรัฐฯจะไม่พบกับความติดขัด พร้อมชี้ว่า ทหารอเมริกันจะยังคงได้รับปัจจัยและการสนับสนุนตามความต้องการจากนอร์เวย์
    .
    "พวกเราได้เห็นรายงานแสดงความวิตกเกี่ยวกัยการสนับสนุนเรือรบนาวีสหรัฐฯในนอร์เวย์ สิ่งนี้ไม่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลนอร์เวย์" รัฐมนตรีกลาโหมนอร์เวย์ ทอเร ซันด์วิค (Tore Sandvik)
    .
    ทั้งนี้มีผู้นำยุโรปมากมายรวมถึงผู้นำองค์กรระหว่างประเทศรวม ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุเอล มาครง และนายกรัฐมนตรีโปแลนด์ โดนัลด์ ทัสก์ ได้ออกแถลงการณ์ในทันทีเพื่อสนับสนุนประธานาธิบดีเซเลนสกีที่โดนขัดจังหวะบ่อยครั้งในการหารือร่วมกับทรัมป์และเขาถูกดูหมิ่นระหว่างหารือผ่านทางหน้าจอโทรทัศน์วันศุกร์(28 ก.พ)
    https://www.facebook.com/share/p/1H8TwHKcHD/
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,996
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทรัมป์ตั้งค่ายกล "กำแพงภาษี" จีน 20%! จากที่เคยประกาศ 10% แต่ถึงเวลาจริง เกินหยั่งคาด ปราดขึ้นเป็น 2 เท่า! ตระหง่านทันที 4 มี.ค. นี้! วานนี้ จีนเพิ่งตั้งป้อมจะตอบโต้ จู่โจมสินค้าเกษตรและอาหารนำเข้าจากอเมริกาบ้าง แต่นั่นเพื่อสางแค้นแค่สำหรับ 10% แต่ถ้าพรวดเป็น 20% งี้ จีนจะพลิกตำราพิชัยสงครามหน้าไหนมาจัดกระบวนทัพฝ่าค่ายกลกำแพงภาษีพญาอินทรีอเมริกา หรือเกรงว่าต้องงัด {ฝ่ามือพิชิตมังกร 18 ท่า} ออกใช้แล้ว
    "กำแพงภาษีช่างง่ายดายนัก อาวุธนี้เร็วและเปี่ยมประสิทธิภาพยิ่ง นำพามาซึ่งความยุติธรรมในใต้หล้า" ทรัมป์คำรามลั่นปฐพี

    "ผู้ใดเอาเปรียบแผ่นดินข้า จักต้องชดใช้จ่ายมาด้วยราคาแสนแพง"

    "พวกมันมิอาจกล้ำกรายมาฉกชิงสมบัติเราและช่วงชิงเอางานการของชาวประชาเราไปได้อีก พวกมันจะไม่มีวันมาเอาฐานผลิตและเอาธุรกิจออกไปจากดินแดนเรา"

    "พวกมันมิอาจลอยนวลได้อีกต่อไป! จักต้องถูกพิพากษา!"

    ถามก๊วยเจ๋งหรือยัง?

    หมายเหตุ
    1.) กำแพงภาษีแคนาดา&เม็กซิโก ไม่พลิกโผ ตามแผนเดิม 25% เริ่มต้น 4 มี.ค. 2025
    2.) อเมริกาหยุดแจกความช่วยเหลือให้ยูเครนทั้งหมดทั้งสิ้นทุกรูปแบบหลังจากเซเลนสกี้บังอาจตวาดใส่ทรัมป์กลับที่ทำเนียบขาว วันศุกร์ที่ผ่านมา

    จบ

    แต่จีน "ไม่จบ" แน่
    ดูว่าจะประมือกับกระบวนท่าของอเมริกายังไง
    ติดตามได้วันนี้ ในโรงละครแห่งโลกมนุษย์

    https://www.bloomberg.com/news/arti...on-canada-mexico-and-china?srnd=homepage-asia
    https://www.bloomberg.com/news/arti...after-clash-with-zelenskiy?srnd=homepage-asia

    https://www.facebook.com/share/p/1Dna45h5c9/
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,996
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วิจัยจากจุฬาชี้ #คนละครึ่ง ประสิทธิภาพ กระตุ้นเศรษฐกิจต่ำ ทุก 1 บาทที่รัฐช่วย สร้างการบริโภคใหม่แค่ 40 สตางค์ ที่เหลือเก็บ หรือ ซื้อสิ่งที่ต้องการอยู่แล้ว
    .
    รองศาสตราจารย์ (รศ.) อธิภัทร มุทิตาเจริญ คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้สัมภาษณ์ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า จากงานวิจัยชิ้นล่าสุด พบว่าโครงการคนละครึ่งสามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย (SME) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยร้านค้าขนาดเล็กที่เข้าร่วมโครงการมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ กลไกสำคัญของความสำเร็จนี้คือการขยายฐานลูกค้าใหม่ให้แก่ร้านค้า ซึ่งช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจและกระจายรายได้สู่ผู้ประกอบการรายย่อย
    .
    อย่างไรก็ตาม ในงานวิจัยชุดที่สอง ซึ่งมุ่งศึกษาผลกระทบต่อการบริโภคของครัวเรือน กลับพบว่าโครงการไม่ได้มีประสิทธิภาพมากนักในแง่ของการกระตุ้นการบริโภคโดยรวม รศ.อธิภัทร เปิดเผยว่า จากการศึกษาพบว่าทุก 1 บาทของงบประมาณที่รัฐลงทุนในโครงการ ส่งผลให้เกิดการบริโภคใหม่เพียง 0.4 บาทเท่านั้น
    .
    สาเหตุสำคัญของประสิทธิภาพที่ต่ำในการกระตุ้นการบริโภค เนื่องมาจากผู้เข้าร่วมโครงการมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยลดการซื้ออาหารจากร้านค้าที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการบริโภคมากกว่าการเพิ่มปริมาณการบริโภคโดยรวม
    .
    "โครงการคนละครึ่งประสบความสำเร็จในการสนับสนุน SME และขยายฐานลูกค้าใหม่ให้กับร้านค้าเล็ก แต่หากพิจารณาในแง่ของการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการบริโภค โครงการนี้ยังมีข้อจำกัด เนื่องจากเกิดการโยกย้ายการบริโภคมากกว่าการสร้างการบริโภคใหม่" รศ.อธิภัทร กล่าว
    .
    .
    ลิงก์งานวิจัย : https://www.tandfonline.com/doi/full/10.1080/13504851.2024.2446477
    .
    #กรุงเทพธุรกิจ #InsightForOpportunities #กรุงเทพธุรกิจEconomic

    https://www.facebook.com/share/1EZdEUvBNy/
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,996
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทำไม ไอเอ็มเอฟ ห่วงเศรษฐกิจไทย
    .
    [เรื่อง: ดร.บัณฑิต นิจถาวร | เศรษฐศาสตร์บัณฑิต]
    .
    ไอเอ็มเอฟ ชื่อนี้คนไทยทั้งประเทศรู้จักดีเพราะเป็นองค์กรที่มีบทบาทมากช่วงเศรษฐกิจไทยเกิดวิกฤติปี 2540 ทั้งบทบาทในแง่นโยบายและในแง่ความช่วยเหลือด้านการเงิน
    .
    ซึ่งแม้วิกฤติจะจบไปนานแล้ว แต่ในฐานะที่เราเป็นประเทศสมาชิก ไอเอ็มเอฟก็จะส่งทีมมาประเมินเศรษฐกิจไทยเป็นประจำทุกปีเหมือนประเทศสมาชิกอื่นๆ และรายงานความเห็นต่อคณะกรรมการบริหารของไอเอ็มเอฟเพื่อพิจารณา โดยในรายงานจะมีส่วนหนึ่งที่เป็นความเห็นของเจ้าหน้าที่ไอเอ็มเอฟที่มาประเมิน (Staff Appraisal) ว่ามองเศรษฐกิจไทยอย่างไร
    .
    ในความเห็นของผมเป็นส่วนที่สําคัญที่สุด วันนี้จึงขอสรุปความเห็นของทีมไอเอ็มเอฟล่าสุดที่ประเมินเศรษฐกิจไทยจากรายงานที่นําเสนอคณะกรรมการบริหารไอเอ็มเอฟเมื่อวันที่ 11 ก.พ.โดยจะสรุปแบบอ่านระหว่างบรรทัด เพื่อให้ทราบความห่วงใยลึกๆของไอเอ็มเอฟต่อเศรษฐกิจไทยขณะนี้ นี่คือประเด็นที่จะเขียนวันนี้
    .
    ในความเห็นของผม ความห่วงใยของทีมไอเอ็มเอฟต่อเศรษฐกิจไทยสรุปได้สามประเด็น
    .
    หนึ่ง ห่วงว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวในอัตราที่ตํ่าต่อไป และอาจขยายตัวในอัตราที่ตํ่าลงมากขึ้นไปอีก จากที่อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยตํ่ากว่าอัตราการขยายตัวของประเทศเพื่อนบ้านเกือบทุกประเทศเป็นเวลานาน
    .
    ซึ่งสาเหตุหลักมาจากความอ่อนแอในโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศที่ทําให้เศรษฐกิจไทยมีข้อจํากัดและไม่สามารถขับเคลื่อนการขยายตัวในอัตราที่สูงขึ้นได้
    .
    ผลคือเศรษฐกิจขาดความเข้มแข็งที่จะเผชิญแรงกระทบที่เป็นลบจากภายนอก (เช่น วิกฤติโควิดที่เศรษฐกิจไทยขยายตัวติดลบและฟื้นช้า) ขณะที่กําลังซื้อในประเทศอ่อนแอจนทําให้อัตราเงินเฟ้อในประเทศไทยอยู่ในระดับตํ่ามาตลอด
    .
    คือเศรษฐกิจในประเทศไม่มีพลัง เมื่อมองไปข้างหน้าท่ามกลางความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจโลกที่จะมีมากขึ้น ข้อจํากัดเหล่านี้อาจทําให้การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยลดตํ่าลงมากขึ้นไปอีก นี่คือความห่วงใย
    .
    จุดที่ต้องแก้ไขในความเห็นของไอเอ็มเอฟ (ซึ่งตรงกับความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ทั่วไป) คือต้องปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ ซึ่งไอเอ็มเอฟใช้คําว่า Resolute Structural Reform คือปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจอย่างเด็ดเดี่ยวกล้าหาญ
    .
    โดยเป้าหมายหลักคือเพิ่มผลิตภาพหรือความสามารถในการผลิตของประเทศและเพิ่มการแข่งขันในระบบเศรษฐกิจ
    .
    โดยสิ่งที่ต้องทําในความเห็นของไอเอ็มเอฟเรียงตามลําดับความสำคัญ อันดับแรกคือ ปฏิรูปเพื่อเพิ่มการแข่งขันในระบบเศรษฐกิจให้มีมากขึ้น และเปิดกว้างเศรษฐกิจ (openness) ให้ปลอดจากหรือลดการควบคุมของภาคทางการ
    .
    ประเด็นนี้ชัดเจนว่าไอเอ็มเอฟมองปัจจัยสําคัญที่ทําให้เศรษฐกิจไทยไม่โต คือการแทรกแซงระบบเศรษฐกิจของภาครัฐที่ส่งผลให้การแข่งขันในระบบเศรษฐกิจมีน้อยลง การผูกขาดและการมีอํานาจเหนือตลาดของผู้เล่นรายใหญ่มีมากขึ้น ทําให้ภาคเอกชนอื่นๆ ไม่อยากลงทุน และเมื่อภาคธุรกิจไม่ลงทุน เศรษฐกิจของประเทศก็ไม่โต
    .
    อันดับสองที่ต้องทํา คือลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทั้งด้านกายภาพและด้าน ICT เทคโนโลยี รวมทั้งยกระดับและปรับทักษะกําลังแรงงานของประเทศ เพื่อให้ภาคการผลิตและภาคส่งออกของประเทศสามารถนําดิจิทัลเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน
    .
    ส่วนอันดับสามที่ต้องทํา คือปฏิรูปเรื่องธรรมาภิบาล ทั้งในภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะการทุจริตคอร์รัปชันในภาครัฐสะท้อนจากดัชนี CPI หรือดัชนีการรับรู้คอร์รัปชันที่แย่ลงต่อเนื่อง ซึ่งไอเอ็มเอฟมองว่าคอร์รัปชันเป็นข้อจํากัดตัวแม่ (Critical Constraint) ที่ทําให้เศรษฐกิจไทยไม่โต
    .
    เห็นได้ว่าทั้งสามเรื่องที่ไอเอ็มเอฟชี้ว่าควรปฏิรูปอย่างจริงจังนั้นสําคัญจริงๆ ต่อเศรษฐกิจไทย แต่ความตั้งใจหรือความพยายามที่จะทําอะไรจริงจังโดยภาครัฐ คือรัฐบาลและระบบราชการ มีน้อยมาก ทำให้ความเสี่ยงที่อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจเราจากนี้ไปจะยิ่งถดถอยลงมากขึ้นจึงมีสูง
    .
    ความห่วงใยที่สอง คือห่วงความเปราะบางของฐานะการคลังของประเทศและสถานการณ์หนี้ในภาคเอกชน โดยเฉพาะหนี้ภาคครัวเรือน ทั้งสองเรื่องนี้ถ้าไม่ดูแลจริงจังก็อาจเป็นความเสี่ยงที่นำประเทศไปสู่ปัญหาเสถียรภาพหรือวิกฤติเศรษฐกิจในอนาคตได้
    .
    ประเด็นนี้แม้ไอเอ็มเอฟไม่ได้เขียนชัดเจนในรายงาน แต่เป็นที่ทราบกันดีว่าสาเหตุของวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในทุกประเทศคือการก่อหนี้ที่เกินความสามารถที่จะชําระคืน ทั้งในภาครัฐและเอกชน
    .
    ไอเอ็มเอฟจึงยํ้าประเด็นนี้ในรายงานประเทศไทย ซึ่งสําหรับหนี้ภาครัฐ ไอเอ็มเอฟมองว่ารัฐบาลควรลดการก่อหนี้ลงเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว
    .
    โดยใช้จ่ายตํ่ากว่างบประมาณหรือเปลี่ยนการใช้จ่ายจากการกระตุ้นหรือแจกเงินเป็นการเพิ่มผลิตภาพ หรือดูแลภาคสังคมเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับการเติบโตของเศรษฐกิจและลดอัตราส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีในระยะยาว
    .
    พร้อมห่วงว่าภาครัฐขาดกฎเกณฑ์ที่จะควบคุมการใช้จ่ายทําให้การก่อหนี้ไม่มีตัวควบคุม เช่น ไม่มีข้อมูลให้ทราบถึงภาระต่อการคลังที่เกิดจากการแทรกแซงของรัฐบาลเพื่อตรึงราคาหรืออุดหนุน เพราะภาระเหล่านี้มักกระจายอยู่ในหน่วยงานต่างๆ ไม่มีการบันทึกหรือติดตาม
    .
    สําหรับหนี้ครัวเรือน ไอเอ็มเอฟมองว่าการลดดอกเบี้ยจะช่วยทําให้ความสามารถในการชําระหนี้ของครัวเรือนดีขึ้น รวมทั้งลดความเสี่ยงสําหรับการก่อหนี้ใหม่
    .
    ส่วนโยบายการเงินควรพร้อมยืดหยุ่นตามข้อมูลและสถานการณ์ที่เปลี่ยน ซึ่งความเป็นอิสระของธนาคารกลางในการทําหน้าที่และการสื่อสารที่ชัดเจนคือ กุญแจที่จะรักษาความเชื่อมั่นและประสิทธิภาพของนโยบายการเงิน
    .
    ความห่วงใยที่สาม คือห่วงความสามารถของเศรษฐกิจที่จะปรับตัวเมื่อมีปัจจัยลบจากภายนอกเข้ามากระทบ ทําให้ความเสียหายรุนแรงมากกว่าที่ควร ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความเปราะบางที่เศรษฐกิจมี ทั้งจากอัตราการขยายตัวที่ตํ่าและโครงสร้างเศรษฐกิจที่อ่อนแอ
    .
    แต่อีกส่วนเป็นผลจากนโยบายของรัฐเอง คือการแทรกแซงเศรษฐกิจโดยภาครัฐ ที่สร้างข้อจํากัดต่อกลไกตลาดและการปรับตัวของเศรษฐกิจ จนมีผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ
    .
    ประเด็นหลังนี้ชัดเจนจากตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัดประเทศเราที่เกินดุลต่อเนื่อง การเกินดุลสะท้อนว่าเศรษฐกิจลงทุนน้อยกว่าออม และที่การลงทุนในประเทศมีน้อย
    .
    ส่วนหนึ่งก็เพราะการแทรกแซงของรัฐด้วยมาตรการภาษีหรือการอุดหนุนต่างๆ รวมถึงการทุจริตคอร์รัปชัน ที่บิดเบือนกลไกตลาด บิดเบือนการจัดสรรทรัพยากรเศรษฐกิจ ทำให้การแข่งขันลดลง สิ่งเหล่านี้ลดแรงจูงใจที่ภาคธุรกิจทั้งในและต่างประเทศจะลงทุน
    .
    นี่คือความห่วงใยของไอเอ็มเอฟต่อเศรษฐกิจไทยถ้าเราอ่านระหว่างบรรทัด ซึ่งผมเห็นด้วย และอยากสรุปว่าหัวใจของปัญหาเศรษฐกิจที่ประเทศเรามีจริงๆ ในความเห็นของผม ที่ทําให้เศรษฐกิจไทยโตตํ่าต่อเนื่อง และประเทศดูเหมือนถอยหลังตลอดเวลาไม่ก้าวหน้า
    .
    ทั้งหมดอยู่ที่บทบาทของภาครัฐในระบบเศรษฐกิจ ทั้งการทำหน้าที่ประจําวันและการออกนโยบาย ที่เน้นการแทรกแซงเศรษฐกิจเป็นหลักและสร้างปัญหาตามมามากมาย
    .
    ผลคือเศรษฐกิจไทยขยายตัวตํ่าต่อเนื่อง คนในประเทศขาดโอกาส ความเหลื่อมลํ้ามีสูง และเศรษฐกิจทั้งระบบไม่มีความเข้มแข็งที่จะยืนหรือปรับตัวเมื่อถูกกระทบด้วยปัจจัยลบจากภายนอก นี่คือเศรษฐกิจประเทศเราขณะนี้
    .
    .
    #กรุงเทพธุรกิจ #InsightforOpportunities #กรุงเทพธุรกิจEconomic

    https://www.facebook.com/share/p/14tvouLNqh/
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,996
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทรัมป์ระงับความช่วยเหลือทางทหารทั้งหมดแก่ยูเครนชั่วคราว
    .
    ประธานาธิบดีทรัมป์ระงับความช่วยเหลือทางทหารทั้งหมดแก่ยูเครนชั่วคราวหลังทะเลาะกันหนักที่ห้องรูปไข่ของประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
    .
    สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานโดยอ้างอิงเเหล่งข่าวในทำเนียบขาววันนี้ (4 มี.ค.) ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้ระงับความช่วยเหลือทางทหารทั้งหมดแก่ยูเครนชั่วคราว หลังจากมีความขัดแย้งกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
    .
    เจ้าหน้าที่ซึ่งขอไม่เปิดเผยชื่อกล่าวว่า
    .
    "ประธานาธิบดีได้แสดงจุดยืนชัดเจนว่าเขามุ่งเน้นสันติภาพ เราต้องการให้พันธมิตรของเรามุ่งมั่นต่อเป้าหมายนี้เช่นกัน (ความสงบสุข) เรากำลังระงับและทบทวนความช่วยเหลือของเราเพื่อให้มั่นใจว่ามันกำลังมีส่วนช่วยในการแก้ไขปัญหา"
    .
    .
    #กรุงเทพธุรกิจ #InsightForOpportunities #กรุงเทพธุรกิจGeopolitics

    https://www.facebook.com/share/p/1HSoX2GB5o/
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,996
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทรัมป์ เซ็นแล้ว เก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนเพิ่มเป็น 20%
    .
    #ทรัมป์ อาศัยอำนาจตามกฎหมายฉุกเฉินทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ สั่งเก็บ #ภาษีนำเข้า #สินค้าจีน เพิ่มจาก 10% เป็น 20% อ้างจีนไม่แก้ปัญหาลักลอบนำเข้ายาเสพติดสังเคราะห์
    .
    การเพิ่มภาษีครั้งนี้เป็นการปรับปรุงคำสั่งบริหารที่ออกเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งกำหนดอัตราภาษีเริ่มต้นที่ 10% โดยทำเนียบขาวระบุว่า หลังจากประเมินการดำเนินการของจีนในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา พบว่า "สาธารณรัฐประชาชนจีนไม่ได้ดำเนินการอย่างเพียงพอเพื่อบรรเทาวิกฤตยาเสพติดผิดกฎหมายผ่านการบังคับใช้กฎหมายร่วมกัน และวิกฤตยังไม่ได้บรรเทาลง"
    .
    คำสั่งฉบับนี้อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติอำนาจทางเศรษฐกิจฉุกเฉินระหว่างประเทศ ซึ่งให้อำนาจประธานาธิบดีในการใช้มาตรการทางเศรษฐกิจเพื่อรับมือกับภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ

    https://www.facebook.com/share/1P7v2HEbhz/
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,996
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ถ้อยแถลงของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี เมื่อวันจันทร์(3มี.ค.) ที่บอกว่าข้อตกลงยุติสงครามกับรัสเซีย "ยังอยู่ห่างไกลมากๆ" ได้เรียกปฏิกิริยาตอบโตอย่างดุเดือดมาจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ท่าทีแข็งกร้าวไม่ยอมประนีประนอมใดๆ ทั้งที่เจ้าตัวก็ยังคาดหวังได้รับแรงสนับสนุนจากอเมริกาต่อไป
    "อเมริกาจะไม่ทนอีกต่อไป" ประธานาธิบดีสำหรัฐฯโพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์ ก่อนกล่าวหา เซเลนสกี ว่าไม่ต้องการสันติภาพ
    ที่ประชุมซัมมิตของบรรดาผู้นำยุโรปส่วนใหญ่ในกรุงลอนดอน เมื่อวันอาทิตย์(2มี.ค.) เห็นพ้องในแผน 4 ข้อ สำหรับรับประกันการป้องกันตนเองของยูเครน ในกรณีที่มีข้อตกลงสันติภาพกับรัสเซีย
    อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ บอกว่า "บางทีมันอาจไม่ใช่การป่าวประกาศที่ดีนัก ในแง่ของการพยายามโชว์ความเข้มแข็งให้รัสเซียเห็น พวกเขากำลังคิดอะไรกันอยู่?" ทรัมป์บอก ดูเหมือนเป็นการพาดพิงที่ประชุมซัมมิตที่จัดขึ้น 2 วันหลังจากเขาเปิดศึกวิวาทะกับเซเลนสกี ในห้องทำงานรูปไข่
    การประชุมนี้ ซึ่งมี เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร เป็นเจ้าภาพ มีเจตนาเพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนยูเครน และพยายามลดความเห็นต่างในหมู่ประเทศตะวันตก เกี่ยวกับยูเครน ในขณะที่สหราชอาณาจักรและฝรั่งเศส บอกว่าพวกเขากำลังทำงานหาทางออกที่นำโดยยุโรป ต่อวิกฤตความขัดแย้งในยูเครน
    กระนั้นหลังการประชุม เซเลนสกี บอกว่าข้อตกลงยุติสงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซีย "ยังคงห่างไกลมากๆ" แต่ระบุเขาคาดหมายว่าสหรัฐฯจะยังคงให้การสนับสนุนยูเครน แม้เขามีความสัมพันธ์มึนตึงกับทรัมป์
    "ผมเชื่อว่ายูเครนมีความเป็นมิตรที่เข้มแข็งเพียงพอกับสหรัฐอเมริกา" เซเลนสกี บอกในวันอาทิตย์(2ก.พ.) แต่ในจันทร์(3ก.พ.) ทรัมป์ ตอบโต้ด้วยการเน้นย้ำว่าจากมุมมองของเขา เซเลนสกีกำลังยืนขวางทางการเจรจาสันติภาพ
    "มันเป็นถ้อยแถลงที่เลวร้ายที่สุดของเซเลนสกี และอเมริกาจะไม่ทนอีกต่อไป นั่นคือสิ่งที่ผมกำลังพูด ชายคนนี้ไม่ต้องการสันติภาพ ตราบใดที่เขามีสหรัฐฯสนับสนุน" ทรัมป์เขียนบนทรัตช์โซเชียล สื่อสังคมออนไลน์ของเขาเอง
    ระหว่างแถลงข่าวในเวลาต่อมาในวันจันทร์(3ก.พ.) ทรัมป์เน้นย้ำมุมมองของเขาที่ว่า เซเลนสกี "ควรสำนึกบุญคุณมากกว่านี้" สำหรับความช่วยเหลือที่ได้รับจากสหรัฐฯในช่วง 3 ปี นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบ
    ระหว่างเผชิญหน้ากันต่อหน้ากล้องในห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาวเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ทั้ง ทรัมป์ และ เจดี แวนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต่างขุ่นเคืองในสิ่งที่พวกเขามองว่า เซเลนสกี ไม่รู้จักสำนึกบุญคุณ
    ศึกวิวาทะดังกล่าว นั่นหมายความว่าไม่มีการลงนามในข้อตกลงหนึ่งซึ่งจะเปิดทางให้สหรัฐฯเข้าถึงทรัพยากรแพร่หายากของยูเครน อย่างไรก็ตามระหว่างการแถลงข่าวในวันจันทร์(3มี.ค.) ทรัมป์ ไม่เชื่อว่าข้อตกลงดังกล่าวปิดตายแล้ว และบอกว่าเขาจะให้ข้อมูลอัพเดทอีกครั้ง เกี่ยวกับข้อตกลงนี้ในช่วงเย็นวันอังคาร(4มี.ค.)
    ตามหลังการประชุมซัมมิตในลอนดอน ทางสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศส บ่งชี้ว่า "พันมิตรยุโรปมีความตั้งใจปกป้องยูเครน" แต่กลับไม่ให้รายละเอียดใดๆ
    สตาร์เมอร์บอกว่าแนวคิดส่งกำลังพลเข้าไปยังยูเครน ซึ่งรวมถึงทหารราบในภาคพื้นและเครื่องบินบนอากาศ ได้รับการสนับสนุนจากหลายฝ่าย แต่เขาพูดอย่างระมัดระวัง ปล่อยให้แต่ละชาติไปพูดคุยหารือเป็นการภายในในประเด็นนี้
    บรรดาชาติแถบสแกนดิเนเวีย ส่งสัญญาณว่าเขาสนับสนุนความคิดนี้ แต่มีเงื่อนไขว่ามันต้องได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ
    ความเคลื่อนไหวของยุโรป มีขึ้นตามหลังการกลับลำนโยบายของสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์ เขาบอกว่าเขาต้องการยุติสงครามและได้มีการพูดคุยทางโทรศัพท์ยืดยาวกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย และมีการเปิดโต๊ะเจรจากับมอสโก ที่กันไม่ให้ยูเครนเข้าร่วม
    ทรัมป์ ก่อความกังวลแก่บรรดาพันธมิตรตะวันตก ด้วยการบอกว่าเขาไว้ใจปูติน และกล่าวหา เซเลนสกี เป็นเผด็จการและถึงขั้นชี้ว่ายูเครนเป็นคนเริ่มสงคราม ไม่ใช่รัสเซีย
    (ที่มา:บีบีซี)
    https://www.facebook.com/share/p/1A8joRzF9w/
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,996
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ออกคำสั่งให้ระงับความช่วยเหลือทางทหารทั้งหมดที่มอบแก่ยูเครน เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงกลาโหมอเมริการายหนึ่งเปิดเผยกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กในวันจันทร์(3มี.ค.) ยกระดับกดดันประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ไม่กี่วันหลังจากโต้เถียงกันอย่างเผ็ดร้อนในห้องทำงานรูปไข่ ที่ก่อข้อสงสัยเกี่ยวกับแรงสนับสนุนของอเมริกาที่มีต่อเคียฟ
    บลูมเบิร์กอ้างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเพนตากอน ระบุว่าความช่วยเหลือทางทหารทั้งหมดที่สหรัฐฯมอบแก่ยูคเรน จะถูกระงับไว้จนกว่า ทรัมป์ ได้ข้อสรุปว่าพวกผู้นำยูเครนกำลังพยายามอย่างแท้จริงในการมุ่งหน้าสู่สันติภาพ
    อ้างอิงข้อมูลจากสถาบันคีลเพื่อการศึกษาเศรษฐกิจโลก (Kiel Institute for the World Economy) พบว่าสหรัฐฯได้มอบความช่วยเหลือแก่ยูเครนไปแล้วกว่า 119,800 ล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่รัสเซียเริ่มเปิดฉากรุกรานเต็มรูปแบบในปี 2022 ในนั้นแบ่งเป็นเงินช่วยเหลือทางทหาร 67,100 ล้านดอลลาร์, ความช่วยเหลือทางการเงิน 49,000 ล้านดอลลาร์ และความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม 3,600 ล้านดอลลาร์
    คำสั่งระงับครั้งนี้ไม่ใช่แค่ส่งผลกระทบกับความช่วยเหลือในอนาคตเท่านั้น แต่มันยังรวมถึงบรรดาอาวุธที่อยู่ระหว่างการขนส่ง ในนั้นรวมถึงการลำเลียงทั้งทางอากาศยานและทางเรือ เช่นเดียวกับยุทโธปกรณ์ต่างๆที่รอการขนย้ายในโปแลนด์
    การตัดสินใจครั้งนี้มีขึ้นตามหลังการประชุมที่เต็มไปด้วยศึกวิวาทะอันดุเดือดระหว่าง ทรัมป์ กับ เซเลนสกี ที่ห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาว หลังจากทั้ง 2 ฝ่าย เห็นต่างกันเกี่ยวกับความช่วยเหลือทางทหาร และจุดยืนทางยุทธศาสตร์ของยูเครนที่โหมกระพือความตึงเครียด
    ตามหลังการพบปะหารือดังกล่าว ทรัมป์ บอกว่า เซเลนสกี "ไม่พร้อมสำหรับสันติภาพ"
    "เขาไม่ให้ความเคารพสหรัฐอเมริกา ในห้องทำงานรูปไข่อันทรงเกียรติ เขาสามารถกลับมาได้ เมื่อเขาพร้อมสำหรับสันติภาพ" ทรัมป์ โพสต์ข้อความบนทรัตช์โซเชียล ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์
    ทำเนียบขาวไม่ได้เจาะจงว่ายูเครนจำเป็นต้องดำเนินการเช่นไร เพื่อกอบกู้เงินช่วยเหลือทางทหารจากสหรัฐฯ ทำให้กรอบเวลาและเงื่อนไขสำหรับการคืนชีพความช่วยเหลือด้านการทหาร ตกอยู่ในความไม่แน่นอน
    เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวรายหนึ่ง ซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม เปิดเผยกับเอเอฟพีว่า ทรัมป์ คาดหวังว่า เซเลนสกี จะมุ่งมั่นเจรจาข้อตกลงสันติภาพเพื่อยุติสงคราม พร้อมระบุว่าอเมริกา "กำลังระงับและทบทวนความช่วยเหลือด้านการทหาร เพื่อรับประกันว่ามันจะเป็นตัวสนับสนุนทางออกหนึ่งๆ"
    (ที่มา:เคียฟอินดิเพนเดนท์/บลูมเบิร์ก/อาร์ทีนิวส์)
    https://www.facebook.com/share/p/18Q8hv8WXj/
     

แชร์หน้านี้

Loading...