Featured เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๖๘

Discussion in 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' started by iamfu, Aug 7, 2025 at 6:36 PM.

Thread Status:
Not open for further replies.
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด Staff Member ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    Joined:
    Sep 25, 2008
    Messages:
    22,731
    Featured Threads:
    2,834
    Ratings:
    +26,691
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๖๘


     

    Attached Files:

    • อนุโมทนา อนุโมทนา x 1
    • List
  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด Staff Member ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    Joined:
    Sep 25, 2008
    Messages:
    22,731
    Featured Threads:
    2,834
    Ratings:
    +26,691
    วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๗ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ กระผม/อาตมภาพเดินทางไปยังวัดอินทาราม (วัดตลุก) หมู่ที่ ๑ ตำบลตลุก อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท เพื่อทำการตรวจยกหมู่บ้านตลุกขึ้นเป็นหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบ ตามปีงบประมาณ ๒๕๖๘ พอไปถึงก็เจอหลวงพ่อมานพ (พระครูวิธูรชัยกิจ) เจ้าคณะอำเภอสรรพยา เจ้าของพื้นที่มารอต้อนรับอยู่แล้ว เมื่อกราบไหว้ทักทายกันแล้ว กระผม/อาตมภาพก็เดินดูสถานที่ต่าง ๆ รอบวัดตลุกแห่งนี้

    ก่อนที่จะเลี้ยวเข้าวัดมีเสียงบอกว่าให้ไปกราบสังขารหลวงพ่อชม (พระครูธรรมวิทย์โสภณ) วัดตลุกด้วย กระผม/อาตมภาพบอกกับน้องเล็กแล้ว เมื่อเดินขึ้นไปยังมณฑป ก็เห็นมีรูปปั้นอดีตเจ้าอาวาสวัดตลุก อย่างหลวงพ่ออ่ำ (พระครูสถิตย์สมณวัตร) หลวงพ่อชม เป็นต้น เมื่อกราบสักการะเสร็จเรียบร้อยก็ขึ้นไปยังศาลาการเปรียญ เพื่อดูการจัดสถานที่ในการตรวจประเมิน ปรากฏว่าบนศาลาการเปรียญแห่งนี้ มีสังขารหลวงพ่อชมอยู่ในโลงแก้ว ให้ญาติโยมทั้งหลายได้กราบได้ไหว้กัน เหมือนสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ มิน่าล่ะ..ถึงได้มีเสียงบอกว่าให้ไปกราบหลวงพ่อชมท่านด้วย..!

    วัดตลุกนี้สร้างมาแต่โบร่ำโบราณ น่าจะประมาณยุครัชกาลที่ ๕ โดยหลวงพ่ออ่ำ อดีตเจ้าอาวาส ถาวรวัตถุหลายอย่างภายในวัด ไม่ว่าจะเป็นหอไตรก็ดี อาคารเรียนปริยัติธรรมหรือว่าตึกขาวก็ตาม ยังเป็นอาคารแบบเก่าโบราณ ก็คือหอไตรก็ยังสร้างอยู่ในกลางน้ำ เป็นทรงไทยโบราณ ส่วนตัวตึกขาวนั้นเป็นอาคารทรงโคโลเนียลหรือที่บางท่านเรียกทรงเรเนซองส์ ซึ่งเป็นอาคารลักษณะยอดนิยมในสมัยรัชกาลที่ ๕ ของเรา แสดงว่าวัดนี้มีมาแต่ดั้งแต่เดิมแล้ว

    ส่วนที่กระผม/อาตมภาพชอบใจมากที่สุดก็คือต้นจัน ต้นจันในที่นี้ไม่ใช่ต้นจันทน์หอม ต้นจันทน์แดง หรือว่าต้นจันทน์ขาว หากแต่เป็นต้นอินจันต่างหาก ที่นี่ต้นเตี้ยขนาดเอื้อมมือแตะลูกได้ถึงเลย ที่วัดท่าขนุนถึงจะมีอยู่ ๓ - ๔ ต้น แต่ละต้นก็อายุหลายร้อยปี ลูกก็เหลือโตกว่าหัวแม่มือไม่เท่าไรเท่านั้น เนื่องเพราะว่าต้นไม้ยิ่งเก่าแก่ ลูกก็จะยิ่งเล็กลงไปเรื่อย ๆ พร้อมกับไม่สามารถถ่ายรูปได้ด้วย เนื่องเพราะว่าอยู่สูงมาก ถึงขนาดแม่ไก่ขึ้นไปวางไข่บนคาคบ เมื่อฟักเป็นตัวแล้วพาลูกกระโดดลงมา ลูกไก่ถึงกับเสียชีวิตไปเลย..!
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด Staff Member ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    Joined:
    Sep 25, 2008
    Messages:
    22,731
    Featured Threads:
    2,834
    Ratings:
    +26,691
    เมื่อมาเจอต้นจันที่นี่อยู่เตี้ยชนิดเอากล้องจ่อลูกได้ ก็เลยถ่ายรูปแบบเพลิดเพลินมาก จากนั้นก็ไปเดินดูเต็นท์นิทรรศการ ซึ่งเขาได้จัดเอาไว้ ส่วนใหญ่ก็เป็นของดีพื้นบ้านตลุกแห่งนี้เอง ไม่ว่าจะเป็นข้าวต้มมัด ไม่ว่าจะเป็นขนมตาล ตลอดจนกระทั่งงานฝีมือต่าง ๆ แบบชาวบ้าน ๆ ซึ่งเห็นทีไรก็รู้สึกคุ้นเคย เนื่องเพราะว่ากระผม/อาตมภาพก็เป็นเด็กบ้านนอกเช่นกัน สิ่งทั้งหลายเหล่านี้อยู่ในวิถีชีวิตมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย

    คำว่า ตลุก ในที่นี้เป็นภาษาโบราณก็คือแอ่งน้ำที่ค่อนข้างจะใหญ่ ถ้าหากว่าใหญ่กว่านั้นก็จะเป็นหนองน้ำ ถ้าใหญ่กว่าหนองน้ำก็จะเป็นทะเลสาบ คำว่าหนองน้ำสมัยโบราณก็ไม่ค่อยได้เรียกว่าหนองน้ำ แต่เรียกว่าตระพัง

    ดังนั้น..ไม่ว่าจะตลุกหรือว่าตระพังก็ต้องเกี่ยวข้องกับน้ำ เพียงแต่ให้เราเข้าใจว่าตลุกเป็นแหล่งน้ำที่ไม่ใหญ่มากนัก ถ้าตระพังก็เป็นแหล่งน้ำที่ใหญ่ขึ้น สำหรับใช้ในชุมชน แต่ถ้าหากว่าเป็นทะเลสาบ บางทีก็กินพื้นที่ไปหลาย ๆ หมู่บ้านเลย เรื่องพวกนี้เราจำเป็นที่จะต้องบอกกล่าวกันเอาไว้บ้าง ไม่เช่นนั้นเด็กรุ่นใหม่ ๆ ก็จะไม่เข้าใจ

    แม้แต่พระเดชพระคุณหลวงพ่อโพไซดอน - พระเทพสมุทรวัชราจารย์ (จรัล สิริธมฺโม) ของกระผม/อาตมภาพ ท่านยังถามว่า "มันอ่านว่าตะหลุก หรือตะลุกกันแน่ ?" ต้องเรียนถวายท่านว่า "อ่านว่าตะหลุกครับหลวงพ่อ การใช้อักษรกลางนำอักษรต่ำให้ออกเป็นเสียงเอกครับ แต่ถ้าหากว่าใช้อักษรสูงนำอักษรต่ำ ให้ออกเสียงเป็นจัตวา อย่างเช่นว่าสยาม (สะ-หยาม) เป็นต้น แต่เนื่องจากว่าบางคำแม้จะเป็นอักษรสูงนำอักษรต่ำ อย่างเช่นว่าอัจฉรา (อัด-ฉะ-หรา) คนก็มักจะอ่านว่าอัด-ฉะ-รา ตามภาษาบาลีเสียนี่ ฝรั่งที่มาเรียนภาษาไทยถึงได้ปวดหัวมาก เนื่องเพราะไม่เข้าใจว่าเขามีทั้งการอ่านตามรูปแบบอักขระ ไวยากรณ์ และมีการอ่านทั้งตามความนิยม" ทำเอาหลวงพ่อโพไซดอนท่านตบหลังกระผม/อาตมภาพแทนคำขอบคุณเสียฉาดใหญ่..!

    เหตุที่กระผม/อาตมภาพเรียกหลวงพ่อพระเทพสมุทรวัชราจารย์ เจ้าคณะจังหวัดสมุทรปราการ รักษาการประธานโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ด้วยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ในฐานะประธานขับเคลื่อนโครงการหนกลางว่า "หลวงพ่อโพไซดอน" เนื่องเพราะว่าท่านคือ "เทพสมุทร" ซึ่งก็คือเทพโพไซดอนของต่างประเทศเขานั่นเอง..!
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด Staff Member ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    Joined:
    Sep 25, 2008
    Messages:
    22,731
    Featured Threads:
    2,834
    Ratings:
    +26,691
    เมื่อพวกเราดูสถานที่กันจนกระทั่งครบถ้วนแล้ว ก็ได้ไปฉันเพลร่วมกับพระเถรานุเถระของทางจังหวัดชัยนาทแห่งนี้ โดยมีดร.พระมหาฐิติวัชร์ หรือพระครูวิธานสุตาภิรม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง วัดพระบรมธาตุ วรวิหาร เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดชัยนาท มากราบด้วยความดีอกดีใจว่า กระผม/อาตมภาพอุตส่าห์เดินทางมาร่วมงานด้วย จึงได้ยกบัตรประจำตัวให้ท่านดู บอกว่า "ไม่มาก็ไม่ได้ เพราะถ้าไม่มาก็ไม่มีคนให้คะแนน..!" ทำเอาท่านหัวเราะเป็นการใหญ่

    เมื่อฉันเพลเสร็จแล้ว พวกเราก็ไปรวมตัวกันที่อุโบสถวัดตลุกแห่งนี้ เพื่อกราบสักการะพระประธาน ตลอดจนกระทั่งเจริญพระพุทธมนต์ถวายตามธรรมเนียมของคณะกรรมการโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ครั้นเมื่อได้เวลาก็ออกไปชมนิทรรศการต่าง ๆ ซึ่งหลวงพ่อช้าง - พระเดชพระคุณพระราชวชิรกิจจาทร (ยุวชน เขมปญฺโญ ป.ธ. ๖) เจ้าคณะจังหวัดชัยนาท ที่ไม่ทราบว่าเดินทางมาถึงตอนไหน เจอหน้าก็จับมือจับไม้เขย่าเป็นการใหญ่ ด้วยความดีใจที่เป็นบุคคลคอเดียวกัน คำว่าคอเดียวกันในที่นี้ก็คือทำแต่งาน ไม่สนใจว่าเจ้านายท่านจะให้คุณงามความดียศถาบรรดาศักดิ์อะไรหรือไม่ ทำไปเรื่อย ๆ จนกว่าท่านจะเห็นใจก็ให้มาเอง ประมาณนั้น..!

    พวกเราช่วยกันซื้อข้าวซื้อของ เหมาจนกระทั่งหมดไปเป็นเต็นท์ ๆ จากนั้นไปดูการแสดงทางวัฒนธรรม โดยเด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านวังไก่เถื่อน ที่มาแสดงการรำกลองยาวประยุกต์ กระผม/อาตมภาพก็ยังสงสัยว่าประยุกต์ตรงไหน ? ปรากฏว่าเขาสามารถใช้วงโยธวาทิต เล่นดนตรีประยุกต์กับกลองยาวได้ "เหมือนผีกับโลง" ก็คือไปได้ชนิดเข้ากันดีมาก..!

    เมื่อหลวงพ่อโพไซดอนแจกรางวัลให้กับเด็กนักเรียนแล้ว พวกเราก็ไปดูนิทรรศการ "ธรรมนาวา วัง" หลักธรรมพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว แล้วถึงได้เข้าสู่ที่ประเมิน ทำพิธีกรรมไปตามขั้นตอนต่าง ๆ

    ที่นี่รู้สึกว่าขั้นตอนจะกระชับมาก เนื่องเพราะว่าบรรดา "มเหสักโข" ต่าง ๆ นั้น เขาเอาเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น อย่างเช่นว่าเจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ เจ้าอาวาส ถัดจากนั้น ฝ่ายบ้านเมืองก็คือรองผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ แล้วก็ผู้ใหญ่บ้าน ไม่เหมือนกับบางแห่งที่ผู้เข้าสักการะองค์ประธาน บางทีก็มีถึง ๒๐ กว่ารูป/คน..! ทำให้เสียเวลาไปนานมาก พวกเราก็ถ้อยทีถ้อยอาศัย ในการตรวจประเมิน ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงแก้ไข หรือให้ข้อแนะนำต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ เพื่อให้ทางบ้านตลุกแห่งนี้ สามารถรักษามาตรฐานของตนเองเอาไว้ได้ และทำให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด Staff Member ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    Joined:
    Sep 25, 2008
    Messages:
    22,731
    Featured Threads:
    2,834
    Ratings:
    +26,691
    ครั้นปิดประเมินตอนเกือบ ๔ โมงเย็นแล้ว กระผม/อาตมภาพก็เดินทางเข้าไปยังวัดโพธิลังการ์ จังหวัดสิงห์บุรี เพื่อที่จะไปรักษาสุขภาพกับท่านอาจารย์บ๊ะ (พระอาจารย์ศิริชัย ชยธมฺโม) และขอค้างที่นี่ ๑ คืน เนื่องเพราะว่าพรุ่งนี้ต้องไปตรวจประเมินที่จังหวัดอุทัยธานี โดยเป็นการตรวจประเมินภาคเช้า ถ้าเดินทางกลับก็คงต้องออกตั้งแต่ตี ๓ ตี ๔ อีกตามเคย ปรากฏว่ามาถึง เจอท่านอาจารย์พระมหาเอ (พระมหานันทวัฒน์ เขมธมฺโม ป.ธ.๖) และคณะ มาซ่อมสุขภาพอยู่เหมือนกัน เมื่อถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง ท่านทำมือให้ดูประมาณว่า "หนักมาก แต่ยังพอไหว" ก็รู้สึกเบาใจขึ้น

    กระผม/อาตมภาพเข้าไปให้ท่านอาจารย์บ๊ะทำการซ่อมสุขภาพ โดยเฉพาะสายตาที่เป็นต้อหิน แล้วตอนนี้ประสาทด้านล่างก็แทบจะใช้การอะไรไม่ได้ เหลือบตามองต่ำแล้วไม่เห็นอะไร ได้แต่มองตรงและมองด้านข้าง หรือเหลือบขึ้นด้านบนเท่านั้น ซึ่งท่านอาจารย์บ๊ะบอกว่าไม่เป็นไร พอที่จะรักษาประคับประคองกันไปได้ มั่นใจว่ากระผม/อาตมภาพมรณภาพก่อนสายตาที่จะบอดสนิท ฟังแล้วก็รู้สึกมีกำลังใจขึ้นมานิดหนึ่ง..!

    กระผม/อาตมภาพจึงได้เข้าพักยังสถานที่ซึ่งท่านได้เตรียมไว้ให้ แล้วก็เปลี่ยนผ้าเก่า มอบหมายให้น้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) นำไปเข้าเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญใกล้ ๆ วัด เพื่อที่จะได้มีผ้าใหม่เอาไว้เปลี่ยน ส่วนตนเองเมื่อสรงน้ำแล้ว ก็มาทำการบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนสำหรับญาติโยมทั้งหลาย ก่อนที่จะหมดสภาพอีกตามเคย

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันพฤหัสบดีที่ ๗ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
Thread Status:
Not open for further replies.

Share This Page

Loading...