หลวงพ่อสำเร็จศักดิสิทธิ / มหาโจร 5 จำพวก

ในห้อง 'ประวัติและนิทานธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย supatorn, 12 สิงหาคม 2017.

  1. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,481
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,096
    พระกิมพิลเถระ l ผู้สลดใจในความแปรเปลี่ยน #ฟังธรรมก่อนนอน #ชาดก500ชาติ #พระพุทธเจ้า

    v6-OcpZ3qMdI1B_OHU6jT5iVRJqhUVrON1ajY0qpYcl6PhDi-7MKz_UYHBryTICrQPtRcg=s48-c-k-c0x00ffffff-no-rj.jpg
    อาจารย์ธนากร ปุสวงศ์

    Jul 31, 2025

    *พระกิมพิลเถระ* ผู้ซึ่งได้บำเพ็ญบุญมาตั้งแต่อดีตชาติในสมัยพระพุทธเจ้ากกุสันธะ โดยได้ *บูชาพระธาตุด้วยดอกสน* และได้รับผลบุญคือได้ไปเกิดใน *สวรรค์ชั้นดาวดึงส์* ก่อนจะเวียนว่ายในเทวโลกและมนุษยโลก ในชาติปัจจุบัน ท่านได้มาเกิดใน *ตระกูลศากยะ* และได้ *ออกบวช* พร้อมกับพระราชกุมารท่านอื่นๆ ภายหลังการเห็น *สตรีงามเสื่อมโทรมลงตามวัย* ทำให้ท่านเกิดความสังเวชและบรรลุ *พระอรหัตต์* คำสอนของพระพุทธเจ้าที่ทรงชี้แนะให้พระกิมพิลเถระทราบถึง *เหตุปัจจัยที่ทำให้พระศาสนาดำรงอยู่ได้* และการอยู่ร่วมกันอย่างปรองดองของพระกิมพิลเถระกับพระเถระรูปอื่นๆ
     
  2. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,481
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,096
    พระภัคคุเถระ l ผู้บรรลุธรรมเพราะหกล้ม #ฟังธรรมก่อนนอน #ชาดก500ชาติ #พระพุทธเจ้า #พระไตรปิฏก

    อาจารย์ธนากร ปุสวงศ์
    Jul 30, 2025

    *ชีวประวัติของพระภคุเถระ* ผู้ซึ่งบรรลุอรหัตผลในสมัยพุทธกาลของพระโคตมะพุทธเจ้า หลังจากการเวียนว่ายตายเกิดหลายภพชาติ. ในชาตินี้ พระภคุเถระได้ออกบวชพร้อมกับพระสงฆ์องค์สำคัญหลายรูป และได้บรรลุธรรมในขณะที่ทำความเพียรแล้วหกล้ม ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ท่านพิจารณาธรรมจนหลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวง. ข้อความยังกล่าวถึงเหตุการณ์ที่พระพุทธเจ้าได้ทรงสอบถามพระภคุเถระและพระสงฆ์รูปอื่นๆ เกี่ยวกับความยินดีในการประพฤติพรหมจรรย์ และทรงแสดงเหตุผลเบื้องหลังการพยากรณ์ธรรมเพื่อประโยชน์สุขของพุทธบริษัท. เรื่องราวนี้เน้นย้ำถึง *ความศรัทธาและการปฏิบัติธรรม* ที่นำไปสู่การบรรลุธรรมขั้นสูงสุด.
     
  3. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,481
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,096
    พระชัมพุกเถระ "ว่าด้วย นักบวชผู้หลอกลวงมหาชน" #ฟังธรรมก่อนนอน #ชาดก500ชาติ #พระพุทธเจ้า

    อาจารย์ธนากร ปุสวงศ์
    Jul 27, 2025
    เรื่องราวกล่าวถึง *พระชัมพุกเถระ* อดีตอาชีวกเปลือย นักบวชผู้หลอกลวงผู้ซึ่งในอดีตกาลสมัยพระพุทธเจ้ากัสสปะ เคยเป็นพระเถระที่ริษยาและตระหนี่ต่อพระอรหันต์ จนทำกรรมชั่วกล่าวร้าย ทำให้เมื่อตายไปได้ไปเกิดในนรก และกลับมาเกิดเป็นสัตว์ที่กินอุจจาระและมูตร อีกทั้งยังเกิดเป็นอาชีวกที่กินคูตรวม 500 ชาติ ในสมัยพระพุทธเจ้าโคตมะ พระราชพุกะได้ถือกำเนิดขึ้นใหม่และยังคงประพฤติตนแปลกประหลาด เช่น การกินอุจจาระ, เปลือยกาย, และนอนบนพื้นดิน เขาได้หลอกลวงผู้คนว่าเป็นผู้มีตบะสูง จนกระทั่งพระพุทธเจ้าเสด็จมาโปรด ทรงเปิดเผยความจริงถึงพฤติกรรมและอดีตกรรมของเขา หลังจากนั้น พระราชพุกะเกิดความสลดใจและได้บรรลุพระอรหันต์ กลายเป็นภิกษุในพุทธศาสนา และแสดงอิทธิฤทธิ์ให้ประชาชนเห็นถึงความเหนือกว่าของพระพุทธเจ้าและพระธรรม
     
  4. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,481
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,096
    ทีฆาวุกุมาร l "ผู้ไม่จองเวร" #ทีฆีติโกสลชาดก #นิทานชาดก #ชาดก500ชาติ #พระพุทธเจ้า

    อาจารย์ธนากร ปุสวงศ์
    Aug 11, 2025

    เรื่องราวจากพระไตรปิฎก *บอกเล่าถึงเจ้าชายทีฆาวุ ผู้ไม่จองเวร* โดยเริ่มต้นด้วยการที่ *พระเจ้าพรหมทัตทรงเข้ายึดครองแคว้นโกศล* และสังหารพระเจ้าทีคิติกับพระมเหสี ซึ่งเป็นบิดามารดาของทีฆาวุ. แม้ทีฆาวุกุมารจะมีความแค้น แต่ก็ *ยึดมั่นในคำสอนของบิดา* ที่ว่า "เวรย่อมระงับได้ด้วยการไม่จองเวร" เมื่อมีโอกาสสังหารพระเจ้าพรหมทัต เขากลับละเว้นและ *เลือกที่จะให้อภัย* สุดท้าย *เหตุการณ์นี้นำไปสู่การคืนราชสมบัติ* ให้แก่ทีฆาวุ และทั้งสองก็ **อยู่ร่วมกันโดยปราศจากความอาฆาต**. ในเรื่องทีฆาวุกุมาร *การจองเวร* หมายถึง การผูกใจเจ็บและมุ่งมั่นที่จะแก้แค้นหรือตอบโต้ความเสียหายที่ได้รับ ซึ่งในเรื่องนี้สะท้อนผ่านความขัดแย้งระหว่างพระเจ้าพรหมทัตกับพระเจ้าทีคิติ และความรู้สึกของทีฆาวุกุมารที่มีต่อพระเจ้าพรหมทัตหลังจากที่พระองค์ปลงพระชนม์พระราชบิดาและพระราชมารดาของทีฆาวุกุมาร ประเด็นสำคัญเกี่ยวกับ *การจองเวร* ที่ปรากฏในเรื่องมีดังนี้:
    • **วงจรแห่งความอาฆาต**: เรื่องราวแสดงให้เห็นว่า หากทีฆาวุกุมารเลือกที่จะจองเวรด้วยการปลงพระชนม์พระเจ้าพรหมทัต ก็จะเกิดการตอบโต้ไปมาไม่สิ้นสุด ทีฆาวุกุมารอธิบายว่า "ถ้าข้าพระองค์คิดว่าพระองค์ทรงปลงพระชนม์พระราชบิดามารดาของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จึงปลงพระชนม์ของพระองค์เสีย พวกคนที่จงรักภักดีต่อพระองค์ก็จะพึงปลงชีวิตของข้าพระองค์ ส่วนพวกคนที่ชอบฆ่าพระองค์ก็จะพึงปลงชีวิตพวกคนเหล่านั้น **เวรจึงไม่ระงับลงได้ด้วยเวรอย่างนี้**"
    • **คำสอนของพระราชบิดา**: พระเจ้าทีคิติได้ตรัสสอนทีฆาวุกุมารในวาระสุดท้ายของพระชนม์ชีพว่า "**เวรทั้งหลายย่อมไม่ระงับด้วยเวรเลย แต่ย่อมระงับได้ด้วยความไม่ผูกเวร**" คำสอนนี้เป็นหลักคิดสำคัญที่ทีฆาวุกุมารยึดถือและเป็นตัวช่วยเตือนสติไม่ให้เขาจองเวร
    • **การเอาชนะความรู้สึกจองเวร**: ทีฆาวุกุมารมีความคิดที่จะจองเวรถึง 3 ครั้ง โดยการชักพระขรรค์ขึ้นจากฝักเมื่อมีโอกาสที่จะปลงพระชนม์พระเจ้าพรหมทัตที่กำลังบรรทมอยู่ แต่ทุกครั้งเขาก็สามารถระงับความแค้นไว้ได้ด้วยการระลึกถึงพระดำรัสของพระราชบิดา นี่แสดงให้เห็นถึงการต่อสู้ภายในจิตใจและการเลือกที่จะไม่จองเวร
    • *ความหมายของการ "ไม่เห็นยาว"**: ทีฆาวุกุมารอธิบายคำว่า "**อย่าเห็นยาว**" ที่พระราชบิดาตรัสไว้ว่า หมายถึง **อย่าได้ทำเวรให้ยาวออกไป* หรืออย่าให้เวรนั้นดำเนินต่อไปไม่สิ้นสุด
    • *การระงับเวรด้วย "ความไม่ผูกเวร"**: จุดสูงสุดของเรื่องคือเมื่อทีฆาวุกุมารและพระเจ้าพรหมทัตต่างฝ่ายต่างมอบชีวิตให้แก่กันและกัน และสาบานว่าจะไม่คิดทรยศต่อกัน ผลลัพธ์คือ **เวรนั้นระงับลงด้วยความไม่ผูกเวร* การกระทำนี้ไม่ใช่เพียงการให้อภัย แต่เป็นการยุติวงจรของความแค้นโดยสิ้นเชิง
    • **ผลลัพธ์ของการไม่จองเวร**: การที่ทีฆาวุกุมารไม่จองเวรทำให้พระเจ้าพรหมทัตทรงมอบราชสมบัติของพระเจ้าทีคิติคืนให้ และยังประทานพระราชธิดาให้แก่ทีฆาวุกุมารอีกด้วย สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าการไม่จองเวรนำมาซึ่งสันติภาพ การคืนดี และผลลัพธ์ที่ดีในที่สุด
    โดยสรุปแล้ว การจองเวรตามที่ปรากฏในเรื่องทีฆาวุกุมาร คือการสานต่อความแค้น ซึ่งจะนำไปสู่ความไม่สงบและวงจรแห่งการแก้แค้นที่ไม่รู้จบ และเรื่องนี้เน้นย้ำถึงหลักธรรมที่ว่า *เวรจะระงับได้ด้วยการไม่จองเวรหรือความไม่ผูกเวรเท่านั้น* ดังคำกล่าวที่ว่า "สัญญมะโต เวรัง นะจียติ ผู้ระมัดระวังอยู่ ย่อมไม่ก่อเวร"
     
  5. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,481
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,096
    ทีปิชาดก l ที่มาของคำว่า "แพะรับบาป" #นิทานชาดก #พระพุทธเจ้า #พระไตรปิฏก #คนตื่นธรรม

    อาจารย์ธนากร ปุสวงศ์
    Jul 21, 2025
    เรื่องราวของ *ทีปิชาดก* ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพระไตรปิฎก ที่พระพุทธเจ้าทรงเทศนาเกี่ยวกับ *อันตรายของการเผชิญหน้ากับคนพาล* พระองค์ทรงเล่าเรื่อง *แม่แพะที่ต้องเผชิญหน้ากับเสือเหลือง* ในสองเหตุการณ์ที่แตกต่างกัน โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของ *สติปัญญาและอุบายในการเอาชีวิตรอด* และชี้ให้เห็นว่า *ผู้ประทุษร้ายมักไม่รับฟังเหตุผล* แต่จะมุ่งทำร้ายผู้อื่นไม่ว่ากรณีใดก็ตาม เรื่องราวนี้สอนให้เห็นถึงความจำเป็นในการ *หลีกเลี่ยงคนพาล* และการใช้ปัญญาเมื่อต้องเผชิญหน้ากับอันตราย.
     
  6. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    53,481
    กระทู้เรื่องเด่น:
    170
    ค่าพลัง:
    +33,096
    มหาโจร 5 จำพวก "พระภิกษุปล้นศาสนา" #พระวินัยปิฏก #ชาดก500ชาติ #พระพุทธเจ้า #พระไตรปิฏก

    อาจารย์ธนากร ปุสวงศ์
    Aug 2, 2025

    ในพระไตรปิฎก เล่มที่ 1 วินัยปิฎก เล่มที่ 1 มหาวิภังค์ ภาค 1 ได้กล่าวถึง *"มหาโจร 5 จำพวก"* ที่ปรากฏอยู่ในโลก พระผู้มีพระภาคได้ทรงจำแนกประเภทของมหาโจรเหล่านี้ โดยเปรียบเทียบพฤติกรรมของมหาโจรทางโลกกับพฤติกรรมของภิกษุผู้เลวทรามในพระธรรมวินัย ดังนี้:
    • *มหาโจรจำพวกที่ 1: ผู้มุ่งหวังลาภสักการะและบริวาร*
    • เหมือนมหาโจรบางคนในโลกนี้ที่ปรารถนาให้ตนเป็นผู้มีบริวารเป็นร้อยหรือเป็นพันคน แวดล้อมแล้วเที่ยวไปในหมู่บ้าน ตำบล และเมืองหลวง เพื่อเบียดเบียน ตัด หรือเผาผลาญผู้อื่น.
    • ในทำนองเดียวกัน ภิกษุผู้เลวทรามบางรูปในพระธรรมวินัยนี้ก็ปรารถนาว่า เมื่อใดหนอตนจึงจะเป็นผู้มีภิกษุรูปอื่นแวดล้อมเป็นร้อยหรือเป็นพันรูป และเที่ยวจาริกไปในหมู่บ้าน ตำบล และเมืองหลวง ได้รับการสักการะ เคารพนับถือ บูชา ยำเกรงจากคฤหัสถ์และบรรพชิต ได้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัชบริขาร (ปัจจัยสี่) และในที่สุดก็เป็นไปตามปรารถนา.
    • *มหาโจรจำพวกที่ 2: ผู้ยกตนเอง*
    • คือภิกษุผู้เลวทรามบางรูปในพระธรรมวินัยนี้ เมื่อได้เล่าเรียนพระธรรมวินัยที่พระตถาคตประกาศแล้ว ก็ยกตนเองขึ้น.
    • *มหาโจรจำพวกที่ 3: ผู้กำจัดเพื่อนพรหมจารีด้วยเรื่องอันหามูลมิได้*
    • คือภิกษุผู้เลวทรามบางรูปในพระธรรมวินัยนี้ ย่อมตามกำจัดเพื่อนพรหมจารีผู้หมดจด ผู้ประพฤติพรหมจรรย์อันบริสุทธิ์อยู่ ด้วยธรรมอันเป็นข้าศึกแก่พรหมจรรย์ อันหาเหตุผลหรือมูลความจริงมิได้.
    • *มหาโจรจำพวกที่ 4: ผู้โกงหรือเบียดบังเอาของสงฆ์หรือของคฤหัสถ์*
    • คือภิกษุผู้เลวทรามบางรูปในพระธรรมวินัยนี้ ย่อมทรงข้อเครียด (หมายถึง เบียดเบียน หรือฉ้อโกง) ของจากคฤหัสถ์ทั้งหลาย หรือเบียดบังเอาคุณพันธ์ุกรุรูปบริขารของสงฆ์.
    • สิ่งของที่กล่าวถึงได้แก่ พื้นที่อาราม วิหาร พื้นที่วิหาร เตียง ตั่ง ธูป หมอน หม้อโลหะ อ่างโลหะ กระถางโลหะ กระทะโลหะ มีด ขวาน ผึ่ง จอบ สว่าน เถาวัลย์ ไม้ไผ่ หญ้ามุงกระต่าย หญ้ากล้อง หญ้าสามัญ ดินเหนียว เครื่องไม้ และเครื่องดิน.
    • *มหาโจรจำพวกที่ 5: ผู้กล่าวอวดอุตตริมนุสสธรรมที่ไม่มีอยู่ ไม่เป็นจริง*
    • คือภิกษุผู้กล่าวอวดอุตตริมนุสสธรรมอันไม่มีอยู่ อันไม่เป็นจริง (คือความรู้ความเห็นอย่างประเสริฐอย่างสามารถ) โดยน้อมเข้ามาในตนว่า "ข้าพเจ้ารู้อย่างนี้ ข้าพเจ้าเห็นอย่างนี้".
    • พระพุทธองค์ทรงกล่าวว่า **นี่คือมหาโจรในโลก พร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก ในหมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณพราหมณ์ เทวดา และมนุษย์**.
    • เหตุผลที่กล่าวเช่นนั้น เพราะภิกษุนั้นฉันข้าวของของชาวแว่นแคว้นด้วยอาการแห่งคนขโมย. การกระทำเช่นนี้ถือว่าร้ายแรงกว่าการฉันก้อนเหล็กแดงดั่งเปลวไฟเสียอีก.
    • หากภิกษุใดไม่รู้แต่กล่าวอวดว่ารู้ ไม่เห็นแต่กล่าวอวดว่าเห็น และต่อมาได้สารภาพว่าตนได้กล่าวเท็จป่าวๆ **ภิกษุรูปนั้นย่อมเป็นปราชิก หาความเป็นภิกษุไม่ (หา สังวาส มิ ได้)**. สิกขาบทนี้เป็นอันพระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติไว้.
     

แชร์หน้านี้

Loading...