ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

อนุโมทนากับการทำบุญของคุณเกษมและคณะด้วยค่ะ
เหตุที่จะทำบุญนั้นเป็นเรื่องดี ไม่ว่าประเทศไทยในอนาคตจะมีภัยแล้วคุณจึงทำ เพื่อไม่ให้เกิดขึ้น หรือมันไม่เกิดขึ้นอยู่แล้ว แต่คุณก็ทำไป แล้วมันจะอะไรกันนักหนาเชียวคะ ถ้าการกระทำที่คุณเกษมและคณะจะทำนั้น เป็นเรื่องดี ดังนั้นจึงเห็นว่าไม่น่าเสียหายอะไรนะคะ
อนุโมทนากับคุณเกษมและคณะอีกครั้งค่ะ

 

ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ

 

ขออนุโมทนาบุญกุศลกับ อ.ศักดา สกุลพนารักษ์ และคณะ ด้วยค่ะ

 

สาธุครับ

 

อนุโมทนาสาธุกับทุกๆคนด้วยนะคะ

 

คาร์บอนไดออกไซด์ในขณะนี้สูงที่สุดในรอบ 6 เแสนปี
หมวดข่าว > ข่าวต่างประเทศ

ปารีส 25 พ.ย.- ผลการวิจัยน้ำแข็งบริเวณขั้วโลกใต้พบว่า คาร์บอนไดออกไซด์ ก๊าซสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน ขณะนี้มีระดับสูงที่สุดในรอบ 650,000 ปี โดยมีปริมาณสูงกว่าระดับสูงสุดในอดีตถึงร้อยละ 27
ผลการศึกษานี้ได้จากการขุดแกนน้ำแข็งลึกที่สุดในโลกในบริเวณที่เรียกว่า โดมคอนคอร์เดีย หรือโดมซี ทางตะวันออกของขั้วโลกใต้ เป็นบริเวณที่มีอุณหภูมิติดลบ 54 องศาเซลเซียส ตลอดทั้งปี คณะนักวิทยาศาสตร์ยุโรปขุดลึกลงไปถึง 1,000 กิโลเมตร เพื่อนำแกนน้ำแข็งอายุ 650,000 ปี ขึ้นมาวิเคราะห์ ประเมินอายุได้จากชั้นของหิมะที่ตกทับถมกันในแต่ละปี

ผลการวิเคราะห์ฟองก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในแกนน้ำแข็งโบราณนี้ พบว่าตลอด 650,000 ปีที่ผ่านมา ไม่มีช่วงเวลาใดเลยที่ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มีความเข้มข้นเทียบเท่าระดับปัจจุบันที่สูงถึง 380 ส่วน ต่อ 1 ล้านส่วน นักวิจัยระบุว่า ในยุคก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรมนั้น ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มีความเข้มข้นเพียง 278 ส่วน ต่อ 1 ล้านส่วน แต่ความเข้มข้นในปัจจุบันสูงกว่าระดับสูงสุดที่พบในช่วง 650,000 ปีที่ผ่านมา ถึงร้อยละ 27

ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา อุณหภูมิโลกสูงขึ้นเฉลี่ย 0.2 องศาเซลเซียส คิดเป็น 100 เท่า ของการเพิ่มขึ้นในอัตราปกติสำหรับช่วงเวลาสั้น ๆ เช่นนี้ คาดกันว่าปีนี้จะเป็นปีที่อุณหภูมิโลกสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ด้วย นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า โลกยังขาดความมุ่งมั่นทางการเมืองในการแก้ปัญหาโลกร้อน ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อเลี่ยงไม่ให้ระบบสภาพอากาศเกิดความเสียหายในระยะยาว ในกรณีที่เลวร้ายที่สุดนั้น ภาวะโลกร้อนอาจทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้น เมืองชายฝั่งจมหาย เกิดน้ำท่วม ภาวะแห้งแล้ง พายุรุนแรง และเกิดคลื่นผู้ลี้ภัยหนีสภาพอากาศจำนวนหลายสิบล้านคน.

-สำนักข่าวไทย MCOT
[ 2005-11-25 : 09:29:15 ]
http://tna.mcot.net/search.php?type=2

 

แหล่งข่าวทางการทูตระบุอิหร่านเตรียมผลิตนิวเคลียร์

แหล่งข่าวทางการทูตและหน่วยข่าวกรองระบุ อิหร่านกำลังเดินหน้าเตรียมเพิ่มสมรรถนะแร่ธาตุยูเรเนียมเพื่อผลิตเชื้อเพลิงนิวเคลียร์

บรรดาเจ้าหน้าที่ทางการทูต ต่างให้ความเห็นนอกรอบการประชุม ของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือ IAEA ซึ่งมีขึ้นที่กรุงเวียนนา ว่า มีรายงานข่าวกรองที่เชื่อถือได้ระบุว่า อิหร่านกำลังเตรียมเริ่มดำเนินการเสริมสมรรถนะแร่ธาตุยูเรเนียม ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะนำไปสู่การพัฒนาเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ ที่โรงงานนิวเคลียร์ใต้ดินในเมืองนาทานซ์ เพียงแต่ยังไม่ทราบเท่านั้นว่า การดำเนินการดังกล่าวจะเริ่มขึ้นเมื่อใด

ทั้งนี้ หากอิหร่านมีแผนดำเนินการจริงก็อาจส่งผลเสียต่อความตั้งใจของรัสเซีย ที่พยายามหาทางคลี่คลายปัญหานิวเคลียร์อิหร่าน โดยยื่นข้อเสนอให้อิหร่านยกหน้าที่การผลิตแร่ยูเรเนียม สำหรับใช้ในโรงงานนิวเคลียร์ ให้รัสเซียทำหน้าที่ผลิตแทน เพื่อป้องกันอิหร่านนำเอาแร่ยูเรเนียมดังกล่าว ไปเป็นส่วนสำคัญในการสร้างอาวุธนิวเคลียร์


จากสำนักข่าวไทย ออนไลน์ MCOT
http://tna.mcot.net/search.php?type=2

 

ปริศนาธรรม โดยคุณ 12 Punna

ปีเก่ากำลังจะผ่านไป ปีใหม่กำลังจะมา
เดือน 11 อากาศเริ่มเย็น ผู้คนเริ่มยินดี
มาเดือน 12 ผู้คนเริ่ม จับจ่าย ซื้อของ
เริ่มหาโปรแกม ที่เที่ยว น่ามีความสุขจริง
แต่ทำไม ขึ้น10ค่ำเดือน1ปีระกา ไม่รู้เป็นไร
มา ขึ้น11ค่ำ เดือน1ปีระกา ก็น่าคิด
บุญมี บุญส่ง กรรมมี กรรมส่ง บุญป้องได้
อยู่สูง ก็ อย่าลง อยู่ต่ำ ก็ อยู่ รัง เชื่อแล้วจะดี
ไม่เชื่อ ก็ ตามสบาย บุญมี ขอให้ คุ้ม
กรรมมี ขอให้ รอด ใคร แปลได้ ก็ บุญ
ใคร แปล ไม่ได้ ก็ คิดหนัก

ขอให้โชคดีทุกท่าน ที่เขียนมานี้ พูดตรงๆๆไม่ได้ ในเมื่อพูดตรงๆๆ ไม่ได้ ก็ ใบ้ แบบนี้ละกัน ใครรู้คำตอบแล้ว ก็เก็บไว้ในใจ แล้วทำตามที่
บอกแล้ว จะดีเอง
<!-- / message --><!-- edit note -->

 

พื้นที่แบบไหน เสี่ยงภัย "หลุมยุบ"


หลังจากเกิดเหตุการณ์สึนามิ ดูเหมือนบ้านเราจะมีข่าวเกี่ยวกับธรณีวิทยาตามมาเป็นระยะ โดยปรากฏการณ์ที่สำคัญและน่ารู้ไว้ก็คือ หลุมยุบ ซึ่งจากสถิติของกรมทรัพยากรธรณีพบว่า ภายในเวลาราว 1 เดือนหลังธรณีพิบัติภัยครั้งนั้น ก็ได้เกิดหลุมยุบอย่างน้อย 16 แห่ง ทางแถบภาคใต้ในจังหวัดตรัง สตูล กระบี่ พัทลุง สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช
หลุมยุบ (sinkhole) เป็นหลุมหรือแอ่งบนพื้นดิน มักจะมีลักษณะค่อนข้างกลม และมีขนาด (เส้นผ่านศูนย์กลาง) ได้ตั้งแต่ไม่กี่เมตร ไปจนถึงราว 200 เมตรกว่าๆ หลุมไซส์เล็กอาจลึกแค่เพียงไม่กี่เมตร ส่วนหลุมไซส์ใหญ่อาจลึกนับสิบเมตร อย่างเช่น หลุมยุบขนาดยักษ์ที่เคยเกิดที่วินเทอร์ พาร์ค รัฐฟลอริดา ในอเมริกา ระหว่างวันที่ 8-9 พฤษภาคม พ.ศ.2524 นั้น มีขนาดถึง 100 เมตร และลึกถึง 35 เมตร ทำบ้านพังไปทั้งหลัง สระว่ายน้ำหนึ่งสระ และรถยับเยินไปหลายคัน
นักธรณีวิทยาบอกว่า หลุมยุบเกิดได้ 3 แบบ ใหญ่ๆ แบบแรกเกิดในพื้นที่ซึ่งใต้ผิวดินเป็นหินที่น้ำสามารถชะละลายได้ เช่น หินเกลือ หินยิปซัม และหินปูน ในกรณีของหลุมยุบในหินปูนซึ่งพบค่อนข้างบ่อยนั้น น้ำบาดาลเป็นตัวการหมายเลขหนึ่ง โดยมีกลไกซับซ้อนเล็กน้อย นั่นคือ น้ำบาดาลจะละลายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปก่อน เกิดเป็นกรดคาร์บอนิก (carbonic acid) อ่อนๆ จากนั้นกรดคาร์บอนิกนี้จะทำปฏิกิริยากับแคลไซต์ (สารประกอบแคลเซียมคาร์บอเนต) ในหินปูน จนได้แคลเซียมคาร์บอเนต (calcium carbonate) ซึ่งละลายในน้ำได้
เมื่อหินปูนใต้ผิวดินถูกชะละลายไปมากเข้าจนถึงจุดหนึ่งก็จะรับน้ำหนักดินที่อยู่ด้านบนไม่ไหว และทรุดตัวพังลงมาเป็นหลุมยุบ เนื่องจากหลุมยุบแบบนี้เกิดแบบค่อยเป็นค่อยไป จึงมักจะค่อนข้างตื้น และลาดเอียงไม่มากนัก
ส่วนหลุมยุบแบบที่สองนั้นดุดันและรุนแรงกว่า เพราะเกิดจาก "เพดาน" หรือส่วนบนของโพรงหรือถ้ำใต้ดินถล่มลงมา หลุมยุบแบบนี้เริ่มจากการที่เพดานของโพรงถ้ำแตกร้าว (เช่น โดนแผ่นดินไหวเขย่า) โดยต่อมาเมื่อแรงดันของน้ำหรืออากาศที่อยู่ข้างในโพรงหรือถ้ำใต้ดินเกิดการเปลี่ยนแปลง ก็จะทำให้เพดานแตกหักและยุบตัวลง ทั้งนี้ก่อนยุบตัวมักจะเกิดเสียงดัง (เนื่องจากเพดานแตกร้าว) หรือบางแห่งอาจมีน้ำทะลักพุ่งขึ้นมาก่อนที่จะยุบตัวลงไป หลุมยุบแบบโพรงถล่มมักจะลึกและมีขอบสูงชันกว่าหลุมยุบแบบแรก เนื่องจากหลุมยุบแบบโพรงถล่มนี้ค่อนข้างรุนแรง ดังนั้นในพื้นที่ไหนที่กะว่าจะสร้างบ้านแปลงเมือง ก็จำเป็นต้องสำรวจว่าบริเวณใต้ดินมีโพรงถ้ำเป็นภัยแฝงเร้นอยู่หรือไม่
ส่วนหลุมยุบแบบสุดท้ายอาจจะเกิดในบริเวณที่มีการทำเกลือโดยวิธีการสูบน้ำเกลือขึ้นมาจากใต้ดิน โพรงเกลือใต้ดินเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดหลุมยุบบนผิวดิน ในบ้านเราพบหลุมยุบแบบนี้ทางภาคอีสาน เช่น ขอนแก่นและนครราชสีมา
ใครสนใจข้อมูลเพิ่มเติม ลองแวะไปที่เวบของกรมทรัพยากรธรณีที่ http://www.dmr.go.th แล้วคลิกเข้าไปอ่านเรื่องหลุมยุบ หรือจะโทรสอบถามผ่านฮอตไลน์สายด่วนเบอร์ (02) 202-3939 และ (02) 202-3842 ก็ได้ แม้โอกาสจะถูกธรณีสูบเพราะหลุมยุบจะไม่มากก็ตาม แต่รู้ไว้เพื่อสอนเด็กๆ และเตือนญาติสนิทมิตรสหายที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงก็จะช่วยให้อุ่นใจขึ้นไม่น้อยเลย

http://www.bangkokbiznews.com/scitech/2005/0203/news.php?news=column_16417187.html

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ผวา!ดินภูเก็ตยุบตัวลึกเกือบ 2 เมตรหลังฝนตกหนัก</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>26 พฤศจิกายน 2548 21:23 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เกิดแผ่นดินยุบตัวลึกเกือบ 2 เมตร กว้าง 70 เซนติเมตร เขตอำเภอเมืองภูเก็ต หลังฝนตกลงมาอย่างหนักตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้รถยนต์ของชาวบ้านตกลงไปได้รับความเสียหายเล็กน้อย 1 คัน เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบป้องกันอันตรายแล้ว

เมื่อเวลา 16.30 น.วันนี้ (26 พ.ย.) เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลฉลอง ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า เกิดเหตุแผ่นดินยุบตัว บริเวณหน้าออมทรัพย์ยนต์ เลขที่ 26/35 ทางเข้าหมู่บ้านโชคทิพย์ ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ขณะรถยนต์ของลูกค้าร้านออมทรัพย์ยนต์กำลังถอยหลังออกจากร้าน ส่งผลให้รถยนต์คันดังกล่าวตกลงไปได้รับความเสียหายเล็กน้อย

จากการตรวจสอบพบหลุมกว้างประมาณ 70 เซนติเมตร ลึก 1.80 เมตร อยู่ห่างจากหน้าร้านออมทรัพย์ยนต์ประมาณ 6 เมตร

น.ส.มยุเรศ จอนทอง เจ้าของร้านออมทรัพย์ยนต์ กล่าวว่า ไม่คิดว่าแผ่นดินจุดดังกล่าวจะยุบตัวลง เพราะเป็นดินแน่น แต่คาดว่าน่าจะเกิดจากกระแสน้ำใต้ดินกัดเซาะ หลังเกิดฝนตกลงมาอย่างหนักตลอดทั้งวันที่ผ่านมา จนถึงช่วงเช้าวันนี้ (26 พ.ย.) จากการสังเกตเห็นว่า ใต้ดินเป็นโพรง แต่ไม่พบรอยร้าวมาถึงตัวบ้าน ขณะนี้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบแล้ว เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตรายเป็นวงกว้างมากกว่านี้

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เพียงตนเท่านั้นตื่นตระหนก แต่ประชาชนพื้นที่ใกล้เคียงเกิดความหวาดกลัวอย่างมาก เพราะเหตุการณ์ลักษณะนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ประกอบกับช่วง 1 ปี ที่ผ่านมาขณะที่รถบรรทุกขนาดใหญ่ขับผ่านจะรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงด้วย แต่คิดว่าเป็นเรื่องปกติไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับเหตุแผ่นดินยุบตัวแต่อย่างใด แต่เพื่อความไม่ปลอดภัย ขณะนี้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเข้าตรวจสอบแล้ว

ขณะที่นายมานิตย์ วงศ์ทอง สมาชิกสภา องค์การบริหารส่วนตำบลฉลอง กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่นำสิ่งกีดขวางมากั้นไว้ เพื่อป้องกันคนเข้าใกล้ เกรงว่าแผ่นดินจะยุบลงไปอีกจะได้รับอันตราย โดยในวันพรุ่งนี้จะนำดินและอิฐมาถม เพื่อความปลอดภัย พร้อมกับประสานให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบหาสาเหตุที่เกิดขึ้นแล้ว แต่คาดว่าไม่น่าเกิดจากเหตุการณ์รุนแรง น่าจะเพียงถูกกระแสน้ำใต้ดินกัดเซาะเท่านั้น.

ที่มาhttp://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9480000163515

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ใต้จมหนัก พระพุทธรูปมีน้ำตา
<HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->ลือเป็นอาเพศ! ประมงเรือล่ม 15ตังเกลอยคอ อุตุชี้ฝนยังไม่ซา

<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
พระร้องไห้- พระพุทธกิตติสิริชัย พระพุทธรูปที่ตั้งอยู่บนยอดเขาธงชัย บ้านกรูด จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีคราบคล้ายน้ำพระเนตรไหลออกมา ชาวบ้านเชื่อเป็นสิ่งบอกเหตุก่อนจะเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ ตามข่าว

</TD></TR></TBODY></TABLE>สถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ยังวิกฤตหนัก ฮือฮาพระพุทธกิตติสิริชัยหลั่งน้ำตา เผยเป็นองค์พระที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเขาที่ประจวบฯ ชาวบ้านลือเป็นอาเพศและลางที่ทำให้น้ำท่วม ขณะที่เรือประมงล่มในอ่าวไทยบริเวณใกล้เกาะเต่า จนท.เร่งช่วยชีวิต 15 ตังเกที่ลอยคอ ส่วน จ.นครฯ ดีเจ.คนดังไปดูบ่อปลาเจอน้ำซัดติดข้ามคืน ต้องช่วยออกมาได้อย่างระทึก อุตุฯเตือนใต้ยังมีฝนถล่ม








พระพุทธกิตติสิริชัยหลั่งน้ำตา

นายจีรวุฒิ แจวสกุล นายกเทศมนตรีตำบลบ้านกรูด กล่าวว่า ขณะนี้ได้ทำการสำรวจทั้งความเสียหายของประชาชนและสาธารณูปโภคพบว่า มีค่าความเสียหายในขณะนี้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท มีบ้านที่ถูกน้ำพัดลงทะเลไปจำนวน 31 หลังคาเรือน บ้านจำนวนมากเกิดความเสียหาย เรือประมงอีกมากกว่า 30 ลำอับปาง ที่สำคัญอุปกรณ์ในการทำประมงของชาวประมงแทบทั้งหมดสูญหายไปกับน้ำ นอกจากนี้ยังมีถนนเลียบชายหาดเกิดความเสียหายแทบทั้งเส้น ซึ่งบ้านกรูดปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญรองมาจากอำเภอหัวหิน ดังนั้นจะต้องเร่งทำการฟื้นฟูอย่างเต็มที่แต่คงต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ชาวบ้านกรูดพบว่าที่องค์พระพุทธกิตติสิริชัย ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาธงชัย พระเนตรได้มีคราบคล้ายน้ำตาไหลออกมา เป็นที่แปลกใจของชาวบ้านและนักท่องเที่ยว บางรายกล่าวว่า อาจจะเป็นสิ่งบอกเหตุก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ และทำให้ชาวบ้านกรูดได้รับผลกระทบจำนวนมาก

ที่มา http://www.matichon.co.th

พระพุทธกิติศิริชัย (หลวงพ่อใหญ่)

เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ศิลปะคันธาระ เป็นพระพุทธรูปที่ได้รูปแบบการสร้างที่ได้รับอิทธิพลจากกรีก เผยแพร่เข้าไปในประเทศอินเดีย การสร้างได้รับแรงศรัทธาจากชาวบ้านกรูด และจังหวัดใกล้เคียงร่วมใจกันสร้างถวายแด่ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสมีพระชนมายุครบรอบ 60พรรษา สมเด็จพระสังฆราชทรงประทานนามพระพุทธรูปองค์นี้ว่า "พระพุทธกิตติสิริชัย" หันพระพักตร์ออกสู่ทะเล เพื่อให้ชาวเรือชาวประมงที่ออกเรือ ได้เคารพสักการะบูชาเพื่อเป็นสิริมงคล คุ้มครองป้องกัน ภยันตรายต่างๆที่เกิดขึ้น และถือได้ว่าเป็นพุทธองค์ที่มีขนาดใหญ่และสวยงามมากองค์หนึ่งของประเทศไทย

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=1><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>
http://www.baanklangaowresort.com/intro.htm

 

อยากที่อ. ศักดาพูดพยานาคจะทำให้เกิดน้ำท่วมมันก็เป็นจริงแล้วนะ ถึงไม่ 15 จังหวัดแต่ก็ทำให้มันให้คนที่มีสติให้รู้นะครับ แล้วรอดูอีกนะเดือน 12 นี่จะเกิดอีกแน่แล้วลองดูกัน

 

ภัยพิบัติจะไม่เกิดขึ้นในสมัย ร.9 นี้อย่างแน่นอน

ภัยพิบัติจะไม่เกิดในสมัย ร.9 นี้อย่างแน่นอน ..

<HR SIZE=1><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="80%" align=center bgColor=white border=1><TBODY><TR><TD bgColor=white>

มีเพื่อนของผมคนหนึ่ง มีสัมผัสที่ 6 อะไรที่เธอสงสัย มักจะเห็นภาพเสมอ ทั้ง ๆ ที่ขณะเห็นภาพนั้นไม่ได้นั่งสมาธิ ยืนอยู่เฉย ๆ บางครั้งก็เห็นภาพ แต่มีครั้งหนึ่งเธอเห็นภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยพระเจ้าตากสิน ร.1 - ร.9 ซึ่งหลายอย่างเป็นสิ่งที่คนทั่วไปไม่ทราบมาก่อน ช่วงรัชกาลที่ 9 เธอบอกว่าเห็นเป็นสีขาว ส่วนหลัง ร.9 เธอบอกว่าเห็นเป็นสีดำสนิท ดำยิ่งกว่าเมฆฝนดำ ๆ เสียอีก เธอบอกว่าเป็นภัยพิบัติ เห็นเป็นโคลนหมุนได้ สูงลิ่วยิ่งกว่าตึกใบหยก (สูงมาก ๆ) มันหมุนและกวาดทุกอย่างจนกลายเป็นพายุโคลน หลังจากสิ้นภัยพิบัติ ในประเทศไทยจะมีคนรอดชีวิตเพียงแค่ 1 ใน 3 ของ 66 ล้าน หลังจากนั้นจะเข้าสู่ยุควิไล

ลืมบอกไปว่า เธอบอกว่าคนที่รอด 1 ใน 3 นั้น หลายท่านก็กลายเป็นคนบ้า จนจำอะไรไม่ได้ (เสียสติ เพราะตกใจสุดขีดกับเหตุการณ์อันไม่คาดฝัน ว่ามันจะเกิดขึ้นได้บนโลกใบนี้)

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

เพื่อนของผมท่านนี้ ตอนก่อนเกิดสึนามิ เธอก็บอกว่าได้เห็นภาพและได้ยินเสียงคนร้องไห้ระงมขึ้นก่อนที่จะเกิดเหตุหนึ่งวัน ทั้ง ๆ ที่ตอนเธอเห็นภาพ เธอกำลังยืนอยู่เฉย ๆ และไม่ได้นั่งสมาธิด้วย เธอบอกว่ากำลังดูทีวีอยู่ จู่ ๆ ก็เห็นภาพ แล้วรุ่งขึ้น วันที่ 26 ธันวาคม 247 มันก็เกิด..






ที่มา : http://www.thaimisc.com/freewebboard/php/vboard.php?user=worldwar31

และ

http://free.hostdepartment.com/f/flashthai/

 

เมื่อประมาณเดือนมิถุนายน 2548 ที่ผ่านมานี้ผมได้มีโอกาสไปกราบนมัสการหลวงปู่เกลี้ยงที่วัดโนนแกดจ.ศรีษะเกษมา ท่านได้ยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่าจะมีภัยพิบัติใหญ่อีกปลายปีนี้แน่นอนซึ่งท่านได้เคยบอกมาแล้วครั้งก่อนเมื่อประมาณกลางปี 2545 ว่าจะเกิดเหตการณ์ภัยพิบัติปลายปี 2547 และ ปลายปี 2548 ซึ่งปลายปี 2547 ก็เกิดไปแล้วต้องรอดูว่าปลายปี 2548 จะเกิดขึ้นหรือไม่ ในความรู้สึกที่ผมได้รับในขณะนั่งสมาธิเมื่อประมาณเดือนกันยายนที่ผ่านมาผมได้ยินเสียงบอกว่า 7 ธันวา แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นอะไร ผมคิดว่าอาจจะเป็นวันที่เกิดภัยพิบัติตามที่หลวงปู่เกลี้ยงท่านบอกมาก็เป็นได้และถ้าเกิดขึ้นจริงปีพ.ศ.2549 ยิ่งหน้ากลัวยิ่งขึ้นเพราะจะเกิดภัยพิบัติอื่นๆอีกเต็มไปหมดในปี 2549 ถึงกลางปี 2550 ผู้คนบนโลกจะล้มตายกันเป็นจำนวนมากจะมีชีวิตเหลือรอดเพียงครึ่งเดียว ภัยพิบัติอื่นๆที่หล่วงปู่ท่านบอกมีแทบทุกอย่าง พายุ น้ำท่วมฉับพลัน แผ่นดินยุบจมหายไปในทะเล โรคร้ายต่างๆระบาดไปทั่ว คนที่รอดส่วนหนึ่งก็สติฟั่นเฟือนเป็นบ้ากันมากมายในปี 2550 ระบบเงินตราทั่วโลกเป็นง่อยไม่มีใครเชื่อถือค่าเงินกันเลยต้องใช้ทองคำเป็นตัวแลกเปลี่ยนสินค้า เรื่องราคาหุ้นไม่ต้องพูดถึงมีมูลค่าเป็นเศษกระดาษเท่านั้นเอง ขอให้พวกเราจงใช้เวลาที่เหลืออันน้อยนี้สร้างบุญกุศลให้กับตัวของท่านเองหากมีชีวิตรอดได้ก็ขอให้ท่านช่วยเหลือกันไปตามสภาพการณ์นั้นๆจงอย่าเห็นแก่ตัวโดยไม่คิดช่วยผู้อื่นเลยขอให้ช่วยกันสร้างระบบการอยู่ร่วมกันใหม่เป็นธรรมาภิบาลกันจริงๆสักที

 

ภูเขาไฟหิมะ (ภูเขาไฟเซนต์เฮเลนประทุอีกแล้ว)

<TABLE height=500 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780><TBODY><TR><TD vAlign=top width=125>
<!-- End Vote ประเด็นร้อน -->








<!-- a href="/advertise/musicgarden/index.php" target="_blank"><img src ="/advertise/musicgarden/images/music120.gif" border="1" align="absmiddle" style="border-color=#000000;">



<!--Library--><!--End Library-->



</TD><!--จบ banner left--><!--Middle--><TD vAlign=top width=530 bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=5 width="98%"><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TD vAlign=top align=left>[FONT=Tahoma,]
ภูเขาไฟหิมะ

กรมสำรวจธรณีวิทยา สหรัฐ เผยแพร่ภาพกองหินและหิมะพุ่งฟุ้งตลบขึ้นมาจากภูเขาไฟเซนต์เฮเลน เป็นภาพการระเบิดในระดับปกติ เมื่อ 15 พ.ย. ที่ผ่านมา ที่ความสูง 1,300 ฟุตจากยอดเขา สภาพทั่วไปภายในปากปล่องมีสายลาวาดันขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ร่วมกับแผ่นดินไหวระดับต่ำ ก๊าซภูเขาไฟและไอน้ำบวกกับขี้เถ้าปริมาณไม่มาก แตกต่างอย่างลิบลับกับการระเบิดอย่างรุนแรงเมื่อ 18 พ.ค.2523 ซึ่งทำให้พื้นที่ป่าหลายพันเอเคอร์ราบเป็นหน้ากลอง คร่าชีวิตคนถึง 57 ราย (ภาพ-เอเอฟพี) [/FONT]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

จากหนังสือพิมพ์ข่าวสด วันที่ 03 ธันวาคม พ.ศ. 2548 ปีที่ 15 ฉบับที่ 5483

 

วิเคราะห์ข่าว จาก The thainews

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=text vAlign=top>ความสูญเสียจากภัยพิบัติ</TD><TD vAlign=top width=20 rowSpan=3></TD></TR><TR><TD class=text vAlign=top height=20></TD></TR><TR><TD class=text vAlign=top><DD>องค์การระหว่างประเทศและประเทศต่างๆ หันมาเอาใจใส่ต่อปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติของโลกมากขึ้น หลังจากที่โลกได้เจอภัยพิบัติทางธรรมชาติติดต่อกันหลายครั้งหลายคราว ก่อให้เกิดความสูญเสียอย่างมหาศาลต่อชีวิตและทรัพย์สิน <DD>โดยเฉพาะจากกรณีคลื่นยักษ์สึนามิทางตะวันออกของมหาสมุทรอินเดีย และพายุเฮอร์ริเคนที่ถล่มเมืองนิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนา สหรัฐฯ อีกทั้งภัยพิบัติจากน้ำท่วมในเอเชียตะวันออก <DD>สหพันธ์กาชาดสากลได้ออกรายงานภัยพิบัติโลกปี 2548 เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2548 สรุปว่าคนทั่วโลกตายจากภัยพิบัติทางธรรมชาติของโลกในปี 2547 ที่ผ่านมาสูงถึง 250,000 คน สูงกว่าปี 2546 ถึง 3 เท่า และสูงกว่าปี 2545 ถึง 10 เท่า หรือมากกว่าสถิติระหว่างปี 2537-2546 รวมกัน 3 เท่า <DD>นอกเหนือจากคนที่เสียชีวิตและสูญหายแล้ว ในปี 2547 คนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติตามธรรมชาติมี 146 ล้านคน ต่ำกว่าทศวรรษก่อนซึ่งมีรวมกัน 258 ล้านคน <DD>การที่มีคนตายในปีที่แล้วมาก ส่วนใหญ่เกิดจากกรณีคลื่นยักษ์สึนามิที่พัดถล่มเกาะสุมาตรา โดยเฉพาะเมืองอาเจะห์ จังหวัดทางฝั่งทะเลอันดามันของไทย เลยไปถึงจังหวัดชายฝั่งบางแห่งของอินเดียและศรีลังกา ที่ทำให้คนตายและสูญหายรวมกันทั้งหมดประมาณ 232,010 คน และมีคนที่ได้รับผลกระทบอีกจำนวนมากที่บาดเจ็บทางกายและใจ และไร้ที่อยู่ <DD>รวมถึงการเกิดอุทกภัยในจีน อินเดีย และบังกลาเทศ ซึ่งมีประชาชน 110,000 คน ได้รับผลกระทบ <DD>สำหรับปี 2548 ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน จากข้อมูลภัยพิบัติทางธรรมชาติทั่วโลกที่พอจะค้นหาได้ พบว่าเกิดน้ำท่วมมากที่สุดในทุกทวีปถึง 23 ครั้ง รองลงมาเป็นพายุ 8 ครั้ง แผ่นดินไหว 2 ครั้ง ภูเขาไฟระเบิดหรือคุกรุ่น 2 ครั้ง และไฟป่า 2 ครั้ง <DD>สำหรับทวีปเอเชียที่เกี่ยวข้องกับไทยโดยตรงปรากฏว่ามีทั้งน้ำท่วม พายุไต้ฝุ่น ไฟป่า แผ่นดินไหว น้ำท่วมหนักเกิดขึ้นในอินเดีย ปากีสถาน บังกลาเทศ เนปาล พม่า จีน ไทย ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวเนื่องจากพายุไต้ฝุ่น เช่น ตาลิมในจีน ดอมเรยในเวียดนาม <DD>สำหรับปีนี้ประเทศชายฝั่งแปซิฟิกด้านเอเชียเจอพายุเข้าไปแล้ว 19 ลูก เท่ากับฝั่งแอตแลนติก มากที่สุดในรอบหลายสิบปี ไฟป่าเกิดขึ้นในอินโดนีเซีย ซึ่งเกิดเป็นประจำทุกปี หมอกควันแผ่คลุมประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย และชายแดนภาคใต้ของไทย เกิดแผ่นดินไหวในอินโดนีเซียและในเอเชียใต้ แต่ไม่ใหญ่พอที่จะทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิเช่นวันที่ 26 ธันวาคม 2547 <DD>อย่างไรก็ดี ภัยพิบัติทางธรรมชาติไม่ใช่ฆาตกรรายใหญ่ที่สุดของโลก ฆาตกรที่ใหญ่กว่าภัยพิบัติทางธรรมชาติคือโรคเอดส์ในทวีปแอฟริกา เมื่อปี 2547 มีคนตายจากโรคเอดส์ 2.2 ล้านคน และมีคนติดเชื้ออีก 25 ล้านคน โรคระบาด ความแห้งแล้ง การขาดสารอาหาร การสาธารณสุขไม่ดี ขาดน้ำสะอาดเพื่ออุปโภคบริโภค ความยากจน เป็นสาเหตุที่ทำให้คนตายมากกว่าภัยพิบัติทางธรรมชาติเสียอีก <DD>เราจะป้องกันและลดความสูญเสียจากภัยพิบัตินี้ได้อย่างไรบ้าง <DD>ภัยพิบัติที่เกิดจากธรรมชาติเป็นเรื่องที่มนุษย์ยังหาทางควบคุมไม่ได้ แม้กำลังพยายามอยู่ก็ตาม เช่น แผ่นดินไหว พายุไต้ฝุ่น น้ำท่วม ไม่เหมือนกับภัยพิบัติที่เกิดขึ้นจากมนุษย์ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าจะแก้ไขได้ หากได้ทำกันอย่างจริงจัง เมื่อเราไม่สามารถห้ามธรรมชาติได้ แต่เราสามารถที่จะลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นได้ หากมีการบริหารจัดการที่ดี <DD>มาตรการที่ดีที่สุดในการสู้กับภัยพิบัติทางธรรมชาติคือการข่าว ข่าวมีบทบาทสำคัญต่อการบริหารจัดการผลกระทบต่อประชาชนที่เกิดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ โดยเฉพาะการสร้างเครือข่ายเตือนภัยล่วงหน้าแบบครบวงจรที่มีประสิทธิภาพ และมีระบบการติดต่อสื่อสารที่รวดเร็วและเข้าใจกันดี ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยพิบัติจากธรรมชาติต้องการข่าว เช่นเดียวกับต้องการอาหาร น้ำ ยารักษาโรค ที่พักอาศัย การข่าวสามารถที่จะรักษาชีวิตของประชาชนและทรัพยากรไว้ได้ การขาดข่าวสารทำให้คนตกเป็นเหยื่อของธรรมชาติมากขึ้น <DD>การข่าวเป็นวิธีการที่จะสู้กับภัยธรรมชาติได้ดีที่สุด แต่ข่าวนั้นต้องถูกต้อง ทันเวลา เพื่อนำไปกำหนดมาตรการในการสู้กับภัยพิบัติดังกล่าว ข่าวที่ไม่ถูกต้องอาจนำไปสู่การใช้มาตรการที่ไม่เหมาะสม และอาจเป็นอันตรายมากกว่า การข่าวที่ดีทำให้เราสามารถหลีกเลี่ยงหรือลดความเสียหาย และมีมาตรการช่วยเหลือที่ดี ทันเวลา <DD>ภัยพิบัติทางธรรมชาติบางอย่างเราจะรู้ก็ต่อเมื่อเกิดขึ้นแล้ว เช่น แผ่นดินไหว เป็นต้น แต่จากสถิติในรอบ 200 ปี พอจะบอกได้ว่าแผ่นดินไหวเกิดขึ้นที่จุดใดของโลกมากที่สุด ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นบริเวณรอยต่อของแผ่นผิวโลก เพราะฉะนั้นคนที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงจึงมีความเสี่ยงมากกว่าคนอื่นที่เราจำเป็นต้องให้ข้อมูลและมาตรการ <DD>แต่กรณีพายุไต้ฝุ่นเฮอร์ริเคน หรือทอร์นาโด แล้วแต่จะเรียกตามแต่ละพื้นที่ คลื่นความร้อน พายุหิมะ สามารถทราบล่วงหน้าตั้งแต่การก่อตัว ทิศทางที่จะผ่าน ดังนั้น จึงสามารถแจ้งเตือนได้ล่วงหน้า และหาทางป้องกันภัยพิบัติได้ เช่นเดียวกับกรณีน้ำท่วม ดินถล่ม ไฟป่า เพื่อลดความเสียหายและหาทางช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันท่วงที <DD>การให้ความรู้แก่ประชาชนในหมู่บ้าน แก่เด็กในโรงเรียน การสร้างเครือข่ายการแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าเป็นเรื่องจำเป็น อาทิ การใช้ศูนย์กระจายเสียงประจำหมู่บ้าน การใช้เครื่องกระจายเสียงติดรถวิ่งแจ้งเตือนประชาชน และกระทำผ่านสื่อโทรทัศน์ วิทยุ ฯลฯ <DD>ภัยพิบัติจากคลื่นยักษ์สึนามิถือเป็นบทเรียนสำคัญของประเทศไทยที่เราต้องเรียนรู้ เพื่อให้สามารถบริหารจัดการความเสียหายจากภัยพิบัติทำนองนี้ได้ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นคลื่นยักษ์เท่านั้น (จันทร์ 10 ตุลาคม 2548)</DD>
ที่มาhttp://www.the-thainews.com/analized/inter/int101048_1.htm
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

รายงานข่าวประจำวันนี้( 4 ธ.ค.2548 ) จาก MCOT.Net

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="95%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headline-bold>เกิดแผ่นดินไหวถึง 2 ครั้ง ที่เชียงใหม่</TD></TR><TR><TD class=text-normal-th bgColor=#e9e9f3>เชียงใหม่ 4 ธ.ค.- ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือแจ้งว่า เมื่อเวลา 16.34 น. วันนี้ (4 ธ.ค.) เกิดแผ่นดินไหว แรงสั่นสะเทือนขนาด 4.1 ริกเตอร์ ศูนย์กลางอยู่ที่รอยต่ออำเภอเมือง และอำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเวลา 16.58 น. เกิดเหตุแผ่นดินไหวอีกครั้งในตำแหน่งเดิม ขนาดความแรง 2 ริกเตอร์ ซึ่งเป็นอาฟเตอร์ช็อก ประชาชนที่อยู่อาศัยบริเวณดังกล่าวรู้สึกได้และตื่นตระหนกวิ่งออกมานอกบ้านเรือนเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ นางสาวภัทราวรรณ สดุดี ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ศูนย์วัดความสั่นสะเทือนแผ่นดินไหวแจ้งเหตุเข้ามาอย่างไม่เป็นทางการ รอการออกประกาศที่ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นคาดการณ์จุดศูนย์กลางอยู่ที่ อ.เมืองและ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ และยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือความเสียหาย ล่าสุดศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือได้ออกประกาศแผ่นดินไหวศูนย์กลางที่จังหวัดเชียงใหม่อย่างเป็นทางการดังกล่าวแล้ว.- สำนักข่าวไทย


[ 2005-12-04 : 18:24:30 ]

</TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="95%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headline-bold>ฝนตกหนักทำสมุยเสียหายกว่า 400 ล้านบาท</TD></TR><TR><TD class=text-normal-th bgColor=#e9e9f3>สุราษฎร์ธานี 4 ธ.ค.- สถานการณ์ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักติดต่อกันหลายวันในพื้นที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ล่าสุดถนนทุกสายถูกน้ำท่วมขังสูงประมาณ 30 ซม. โดยเฉพาะที่ถนนริมหาดบ้านเฉวง ย่านเศรษฐกิจการท่องเที่ยว และข้างตลาดชุมชนบ้านแหลมดิน ระดับน้ำสูงประมาณ 40 ซม. เจ้าหน้าที่ได้เร่งตั้งกระสอบทราย และเครื่องสูบน้ำ พร้อมทั้งขุดลอกคูคลองต่าง ๆ เพื่อระบายน้ำลงสู่ทะเล แต่ยังไม่ได้ผล เนื่องจากมีปริมาณน้ำฝนจำนวนมากประกอบกับน้ำในอ่างเก็บน้ำพรุเฉวง ไหลล้น และพื้นดินมีความอิ่มตัว ซึ่งนายวรากร รัตนรักษ์ นายกเทศบาลตำบลเกาะสมุย กล่าวว่า สามารถติดตั้งเครื่องสูบน้ำได้เพียง 7 ตัว เนื่องจากสถานที่ติดตั้งเครื่องสูบน้ำมีจำกัด เพราะติดขัด บ้านเรือนประชาชน โรงแรม บังกาโลต่าง ๆ ที่ก่อสร้างและถมดินขึ้นสูงจากถนน ขณะนี้ถนนรอบเกาะและถนนเชื่อมระหว่างชุมชนต่าง ๆ ถูกกระแสน้ำกัดเซาะได้ความเสียหายเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้มีความเสียหายด้านเศรษฐกิจมากกว่า 400 ล้านบาทแล้ว.- สำนักข่าวไทย


[ 2005-12-04 : 16:49:38 ]


</TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="95%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headline-bold>เตือนน้ำท่วมภาคใต้</TD></TR><TR><TD class=text-normal-th bgColor=#e9e9f3>สำนักข่าวไทย 4 ธ.ค. - กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศฉบับที่ 10 (166/2548) เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ว่า มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนัก เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งได้ในบางพื้นที่ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระนอง ชุมพร และสุราษฎร์ธานี ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยในจังหวัดดังกล่าวระวังอันตรายจากภัยน้ำท่วม ส่วนในอ่าวไทย ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในช่วงวันที่ 4-8 ธันวาคม 2548 อนึ่ง ความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนจะปกคลุมถึงประเทศไทยตอนบนในวันที่ 5 ธันวาคม 2548 ทำให้มีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป และอุณหภูมิจะลดลงได้ 3-5 องศา กับมีลมแรง. – สำนักข่าวไทย


[ 2005-12-04 : 10:39:30 ]


</TD></TR></TBODY></TABLE>

ที่มาhttp://www.mcot.net/mcot/default.html#

 

ข่าวต่างประเทศประจำวันนี้( 4 ธ.ค.2548 ) จาก MCOT.Net
ข่าวต่างประเทศ


<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="95%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headline-bold>เกิดแผ่นดินไหว 5.5 ริกเตอร์ที่ญี่ปุ่น</TD></TR><TR><TD class=text-normal-th bgColor=#e9e9f3>โตเกียว 4 ธ.ค.- เกิดแผ่นดินไหววัดความรุนแรงได้ 5.5 ริกเตอร์ที่ภาคใต้ของญี่ปุ่นในวันนี้ ขณะนี้ยังไม่มีรายงานความเสียหาย แต่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาระบุว่า จะไม่เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ รายงานระบุว่าแรงสั่นสะเทือนเกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.57 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 23.57 น.ของวันเสาร์ตามเวลาในไทย ศูนย์กลางอยู่ในทะเลรอบ ๆ หมู่เกาะอามามิ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากกรุงโตเกียวไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ 1,300 กิโลเมตร .- สำนักข่าวไทย



[ 2005-12-04 : 10:13:08 ]
</TD></TR></TBODY></TABLE>
นครเวนิซ ถูกกระหน่ำด้วยพายุฝนและพายุหิมะ
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="95%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headline-bold></TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD class=text-normal-th bgColor=#e9e9f3>

เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ส่วนใหญ่ของนครเวนิซ ขณะที่ตอนกลางและภาคเหนือของอิตาลีถูกกระหน่ำด้วยพายุฝนและพายุหิมะ
พายุหิมะเป็นผลให้เส้นทางคมนาคมขนส่งในบริเวณภาคเหนือของประเทศถูกตัดขาด โดยเฉพาะที่เมืองมิลาน ซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจ
ขณะเดียวกันฝนซึ่งตกลงมาอย่างหนักในภาคกลาง ประกอบกับน้ำทะเลที่หนุนสูงทำให้พื้นที่กว่าร้อยละ 70 ของนครเวนิซจมอยู่ใต้น้ำ
อีกด้านหนึ่งที่เมืองลิกูเรีย มีรายงานเรือสินค้าล่มจากลมพายุที่บริเวณแนวเขื่อนนอกชายฝั่ง โดยเจ้าหน้าที่เกรงว่า อาจเกิดการรั่วไหลของน้ำมันกว่า 14,000 ลิตร ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง



[ 2005-12-04 : 14:10:42 ]
</TD></TR></TBODY></TABLE>
ข่าวต่างประเทศ

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="95%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headline-bold>ทั่วโลกพร้อมใจประท้วงโลกร้อนในวันนี้</TD></TR><TR><TD class=text-normal-th bgColor=#e9e9f3>มอนทรีออล 3 ธ.ค.

 

เชื้อไฟแห่งสงคราม​

ข่าวต่างประเทศ

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="95%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headline-bold>เนทันยาฮูเรียกร้องให้อิสราเอลจัดการโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน

</TD></TR><TR><TD class=text-normal-th bgColor=#e9e9f3>เยรูซาเลม 5 ธ.ค.

 

ตั้งข้อสังเกตุบางวันอากาศร้อนบางวันก็หนาวทั้งที่เป็นหน้าหนาวเกิดอะไรขึ้น
กับธรรมชาติเป็นไปได้ใหมอาจจะมีความเกี่ยวข้องกัยการกลับขั้วแม่เหล็กโลก
ซึ่งกำลังจะเริ่มต้น