พลังเอกภพยูเรอัส

พี่ชัยวัฒน์รอแป้บนึงน๊าา

เดี๋ยวเค้าเป่าให้ใจเยนๆๆน๊า

ฟู่ ฟู่ ๆๆ

:z1

 

ใครมีวิธีเช็คพลังจากหิน แร่ต่างๆบ้างครับ
ว่าไหนดี ไม่ดี

 

วิธีเช็คหิน
คุณnarmai ก็ น่าจะ รู้ อยุ่ แล้ว นะ
ทำเหมือน ตอน สแกน คนป่วย นั่นแหละ
น้อมใจ เข้าไป คุย กับเค้า

ทำบ่อยๆ ก้ จะ เข้าใจได้ เอง
ใหม่ ๆ ก็ ได้บ้างไม่ได้บ้าง
หรือ ได้คำตอบ แบบ ไม่ ค่อยแน่ใจ จน กระทั่ง ทำบ่อยๆ หมั่นสังเกต
ก็ จะ ร้อง อ๋อ..... มันเป็น อย่างนี้ เอง

............................
เริ่มต้น ก็ น้อนใจ ไปที่ วัตถุ นั้น
ขอดู ขอชม ...
มีพลัง หรือไม่
มีพลังดี หรือ ไม่ดี
ต่อๆ ไป พอเริ่มได้ แล้ว ก็ จะ ได้ เพิ่มขึ้น เอง ทีละน้อย จนชำนาญ
เหมือน พวก เพื่อนๆ เค้าแหละ.............. 55

 

เอา เรื่องราว และ แง่ มุม ต่างๆ ทั้งด้าน การเรียน เรื่องพลังยูเรอัส บ้าง การรักษา บ้าง
การสัมผัสพลัง บ้าง
แล้ว ก็ เรื่อง สรรพเพเหระ มาเล่า ไป แทบทุกวัน

ก็ ไม่รู้ ว่า มี ใคร สนใจ บ้างหรือ เปล่า

เพราะ ไม่ ค่อย จะได้ รับ การ ตอบรับ กลับมา......

ปุ่ม อนุโมธนา.... เค้า เอาไว้ อ่าน แล้ว ชอบ ก็ กด... เหมือน เสียงตบมือ

ความเงียบ นี่........... มันเหมือน .. เรา นั่งบ่น ..อยู่ คนเดียว..... 55

.................................

 

ชอบเรื่องการเรียนพลังยูเรอัส ครับ

 

สองสามวัน ที่ผ่านมา
ไป นั่งตากฝน ตอน ดึก... ก็ ไม่ ได้ เจตนา หรอก แต่ทำไงได้ ฝน มันตก นี่

แต่ ก็ ไม่ ได้ ใส่ใจอะไร... เพราะ ผมเอง ไม่ ได้ กลัว หวัด อยู่ แล้ว
ไม่ เป็นหวัด มานาน หลายปี แล้ว

กลับ มา ก็ ปกติ
นอน หลับสบาย... ฝนตก แอร์ ก็ เย็นสบาย
เจ้ากรรม วันนั้น แอร์ มันแรง ได้ยางไง ก็ ไม่รู้ ลมแอร์ มันเปล่า ที่ปลายเท้า

ตื่นขึ้นมา มีอาการ หวัด คัดจมูก น้ำมูกไหล... แพ้ อากาศ ละมั้ง

ก็ ช่างมัน ก็ ดี ไม่ ได้ เป็นหวัด มานาน แล้ว .... รับกรรม ซะมั้ง
ก็ ปล่อย ให้ มันเป็น ไป ... ( ไม่ รักษา ตัวเอง )
จน บ่าย จนเย็น...

ขืนปล่อย ไป อย่างนี้ คง เป็นหวัด จริงๆ ละ ที นี้ ......

ก็ ไม่ อยาก เป็น หรอก นะ ลงมือ รักษา ตัว เอง ดี กว่า

การ ที่ ทดลอง เป็นหวัด ดู บ้าง
ก็ ทำให้ เรา เอง ได้ ความรู้ เรื่องหวัด ขึนมา อีก ครั้ง ( หลัง จาก ที่ ไม่ ได้เป็นมานาน)

ติดตาม ความรู้สึก เข้าไป ตามทางเดินลมหายใจ
ดู ซิว่า หวัด มันทำอะไร เราบ้าง

น้ำมูกใสๆ มัน คื่อ น้ำตา นี่ เอง มิน่า ตา ฉ่ำ เครืองตา นิดๆ
แน่นจมูก อ๋อ มัน มี อะไร ในโพรง จมูก เหมือน วาว์ล หลี่ ให้ รู เล็กลง มันถึง แน่นจมูก
ไม่แน่ ใจ ว่าเค้าเรียกว่า ต่อม อาดีนอย หรือเปล่า
แต่ผม เข้าใจว่า มันหน้าตา ไม่เหมือนต่อม สักเท่าไหร่
มันเหมือนหูรูด เปิดกว้างได้ หุบได้ คล้ายก้น เด็ก เสียมากกว่า....55
ตรงนี้ เค้า เรียกอะไร.... ใคร รู้ ช่วย บอกที

แล้ว พอ มี น้ำมูก ข้นๆ.... แปลว่า มีการอับเสก แล้ว ติดเชื้อด้วยหรือเปล่า
มิ น่า เล่า
ถ้าไป หาหมอ เค้าถึง ให้ ยาฆ่าเชื้อ
เรา เอง ก็ ไม่ กินยา ดู ต่อ............. ขอกันดี ๆ อยาก ทำร้าย กัน เลย นะ เป็นมิตร ต่อกัน เถิด นะ..... น่าจะดี กว่า

พอเริ่ม รักษาตนเอง ได้ ความรู้สึก แบบ ชัดเจน อีก เรื่อง หนึ่ง

ขอพลังรักษา ลงมา
ไหลอาบ ซู่ มา จน ขนหัวลูก ซู่ ไล่ลงมา เลย

อาการ แน่นจมูก น้ำมูก ไหล ก็ พลัน หายไป สิ้น.....

แต่ พอ ผ่านอารมภ์ นี้ไป ก็ กลับ เป็นใหม่... แปลว่า ยังไม่ หายขาด

เอ๊ะ...... ลองนึก ถึง อารมภ์ ที่ หายหวัด อย่าง ตะก๊ ใหม่ ( ไม่ขอพลัง แค่นึกถึง ตอนหาย)

ไม่ มีอาการ ซู่ ซ่า.................ใดๆ เพราะ ไม่ ได้ ขอรับพลัง
พอทรงอารมภ์ ได้....................... ทุกอย่าง ก็ เป็นปกติ ได้ อีก

กลับ มา อีก ที .... ก็
มัน ก็ มาเป็น หวัด เหมือนเดิม ..... หาย เพราะ

........... อ๋อ................
1. รับพลัง รักษา ก็ หายได้
2. ทรงอารมภ์ ของ การ หายหวัด....ก็ หายได้

แต่ ต้อง รับ ให้ นาน พอ นะ ไม่ ใช่ แค่ แว๊บ เดียว
ก็ เหมือนกินยา ไม่ ครบ ไม่ได้ ตาม ขนาด......



...............................................

ผลพลอยได้ มา อีก

การที่คน นอนกรน...... มัน น่ารำคาญ
ตัว คน ที่นอนกรน เอง.... ก็ นอน หลับ ไม่ สนิท
คนที่ อยู่ ข้างๆ ........... ก็ รำคาญ .. เสียง นอนกรน

ทีนี้จะ ทำอย่างไร
ทางการแพทย์ ปัจจุบัน เค้า บอกมาว่า มัน เป็ฯ มาจาก ทางเดินลมหายใจ ช่วง ต่ำลงมาจาก โคนลิ้น มัน หย่อน
ทำให้ เวลานอนหลับ มัน หย่อน ลงมา ทำให้ ทางเดินลม มัน เล็กแคบ ลง
การหายใจ ก็ ติด ขัด หรือ น้อยลง
เจ้า เนื้อ หย่อนๆ นี่ แหละ เวลา ที่มีลม วิ่งผ่าน มัน ก็ กระพือๆ ทำให้ เกิดเสียง
คืก.....คาก...... เป็นเสียงนอนกรน.... ไง..

ถ้าเป็น เช่นนี้ แพทย์ สมัยใหม่ เค้า ทำการผ่าตัด หรือ ถ้าไม่มาก ก็ ยิงเลเซอร์
ก็ รักษาหายได้
ลองไป พบแพทย์ ที่ ร.พ. ดู...............


หากจะให้ หมอมือเปล่า รักษา เห็น ที ว่า จะ ทุ รัก ทุ เร เอาการ
ต้อง อ้าปาก กว้างๆ ให้ ล้วงมือ ลงไป ในลำคอ
แตะ ตรง ใต้ โคนลิ้น ...... 55

ผม ล้อ เล่น ... นะ..... ใคร จะ อ้าปาก ให้ กว้าง ถึง เพียง นั้น

...................................

ยังมี อาการ กรน ที่ ไม่ ได้ เกิด ขึ้น จาก ตรง นี้ อีก .. นะ
ผม ก็ เพิ่ง จะรู้........................

เดี๋ยว จะมาเล่า ต่อ...
ขอพัก ยก ไป ทำงาน ก่อน...จ้า

 

โอ อยากเรียน ๆ ไว้เอามารักษาตัวเอง กับรักษาคนที่เรารักบ้าง
สุ๊ดยอด..

 

อาการกรน อีก แบบ
ที่ ไม่ ได้ เกิด จาก สาเหตุ ใน ช่อง คอ

มัน เกิด จาก เจ้า หู รูด ใน โพรง จมูก นี่แหละ
เจ้าหูรุด ในโพรง จมูก นี่ แหละ

เวลา เรา เป็นหวัด คัด จมูก หายใจ ไม่ ออก ก็ เจ้าหูรูด ตรงนี้ แหละ มัน ปิด มันอุด ไว้

สำหรับ บางคน เวลา นอน
เจ้าหูรูด ตัวดี นี่ แหละ มัน ก็ หรี่ ลงมา ทำให้ การหายใจ ไม่ สะดวก
เป็นหนักเข้า
มัน ก็ เกิดเสียง หายใจ สะดุด ๆๆๆๆ คึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เหมือน กัน อาการ นอน กรน

.......................................

เรา ก็ มั่ว หลง เข้าใจผิด มาเสียนาน.....

จน ต้อง ตื่น ขึ้นมา ดู ตัว เอง นอนกรน ว่า มัน กรน ท่านไหน ........หว่า
พอ ตื่น มัน ก็ เลิก กรน
เฮ้อ........... ไม่ง่าย นัก


ทำให้ ไป โทษ โคนลิ้น ในช่องคอ มานาน หลายปี ...
เพิ่ง จะ จับ ตัว ต้น เหตุ เจอ... จริงๆ ... ไม่กี่วัน มานี่ เอง..

เจ้า ตัวนี้ เอง...... หูรูด ในโพรง จมูก .....

ทำผิด แล้ว แกล้ง ทำเงียบ ปล่อยให้เรา ไปโทษ คนอื่น อยุ่ได้ ตั้งนาน.......55

 

พี่ดาวผมยังไม่เคยเรียนสแกนคนป่วยซะที
เคยแต่แสกนตัวเองตอนเรียนระดับสอง
อิิอิิิิิิิิิิิ


ผมได้้้้วัตถุมงคงมาชิ้น1 เค้าเรียนกันว่าปฐวีธาตุ ผมก็พึ่งเคยเห็นแหละครับ
เลยเอามาฝากพี่ดาว ดูหน่อยครับว่าเป็นอย่างไรบ้าง

 

ถามอย่างนี้ ก็ คงต้องตอบ
ตามความคิดเห็น ของผม นะ.....

ถ้าดู เรื่องพลัง ... ผมรู้สึกว่า มัน ยัง สะดุด ขรุขระ ไม่ ราบรื่น
เหมือน ลม ที่ เป็นฟอง ฟู่ แบบ อีโนใส่น้ำ นั่นแหละ

ทีนี้ จะ เอา ไว้ ทำอะไร ดี ละ.........55
ตรง นี้ ผม ก็ ตอบ ว่า ไม่ รู้ ครับ


ขอขยาย ความ เรื่อง คำว่า " ปฐวีธาตุ" สักหน่อย

ปฐวี แปลว่า พื้นดิน , ดิน

ดังนั้น ปฐวีธาตุ ก็ คง หมาย ถึง ของที่ ได้ จากดิน เก็บมา จากพื้น อะไร ทำนองนี้

ดัง ตัวอย่างเช่น
ท่านเจ้าคุณนร (วัดเทพศิรินทร์) ท่านเคย เก็บหิน ที่ ก้อน กลมมน ดูดี
มา อธิฐานจิต แล้ว แจก ให้ ญาติโยม
เรียกว่า ปฐวีธาตุ


เพราะ ฉะนั้น คำว่า ปฐวีธาตุ ไม่ ต้อง ถามต่อ ว่า ทำมาจากอะไร

 

ว้าว..... พี่ดาวรู้รายละเอียดเยอะจัง
ก็อันนี้แหละที่เค้าบอกว่าหลวงปู่แหวนกับเจ้าคุณ นอ อธิฐานจิต อายุก็สมัยพ่อผมยังเป็นวัยรุ่นเลย

ฟังเค้าเค้าเล่าให้ฟังบอกว่าทำสมัยสงครามโลก ไว้ป้องกันปะรัมมะนู แบบที่ญี่ปุ่นถูกกระทำ

 

ขอความกรุณาคุณดาวทะเลทรายช่วยส่งพลังรักษาท่านนี้หน่อยครับ
ชื่อ นาย วิทัต พุทธรักษา เป็นเบาหวาน ความดันครับ ตอนนี้นอนรักษาตัวอยุ่ที่ ร.พ.ท่าใหม่อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรีครับ ตอนเบาหวานขึ้นมีแผลอยู่ที่บริเวณนิ้วเท้าด้านซ้าย ตอนนี้ได้ตัดนิ้ว ก้อยและนิ่วนางออกแล้วครับ แผลก็ยังไม่ค่อยดียังเขียวๆอยู่ หมอบอกว่าถ้ายังเขียวอยู่ก็มีโอกาศที่จะต้องตัดอีกครับ ขอความกรุณาคุณดาวและเพื่อๆชาวพลังยูเรอัสด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ
[/ATTACH]

 

รับทราบ ครับ คุณ audi
พวกเรา ช่วย กัน รักษา ไป อาการ ก็ น่าจะ ดี ขึ้น ครับ

และ ขอให้ คุณ audi ช่วย บอก แก่ คนป่วย ด้วยว่า
1. พวกเรา ได้ ช่วยกัน ส่งพลัง รักษา ให้
2. หาก คนป่วย รู้สึก ขอคุณ ก็ ให้ กล่าว ขอบคุณ ด้วย (แม้นว่า เราจะ ได้ยิน หรือไม่ก็ตาม )
ตรง นี้ มิใช่ว่า จะ ทวงบุญคุณ แต่ เป็น การแสดง ความ สำนึก ต่อผู้ที่ ปรารถนาดี
3. ให้ ขอขมา ต่อ เจ้ากรรมนายเวร ที่ ทำให้ เจ็บป่วย เป็นโรคเบาหวาน
ทำโดย กล่าว ออกเสียง , ก้มกราบ พื้น ได้ ก็จะดี , ทำเป็นประจำ ทุกวัน
4. ควรสร้างบุญกุศล , สร้างความดี , เพิ่มขึ้น
5. การรักษา ต้องใช้ เวลา ต่อเนื่อง และ ยาวนาน
ถ้า ไม่เบื่อ ไปเสียก่อน ( ทั้ง คนรักษา และ คนป่วย)
ดังนั้น ควรให้ ผู้ ป่วย เข้ามา ขอรับการรักษา เอง ได้ ก็ จะดี , จะได้ สื่อสารกันโดยตรง

 

การรักษา เบาหวาน
โดยประสบการ ที่ รักษา กัน ต่อเนื่อง จน ดี ขึ้น ( ไม่ได้หาย 100%) ไป ตรวจ ก็ ยังเป็นอยู่ แต่ ดี ขึ้นๆ จน ใช้ชีวิต ปกติ ได้

ต้อง รักษา กัน แทบทุกวัน ส่งพลัง ให้เขา
คนป่วย ก็ ขยันมา รับการรักษา ด้วยความเต็มใจ
ก็ มารักษา จน รับรู้ ถึง พลัง ได้ ว่า วันนี้ เรา ให้พลัง เค้า มากน้อย หนักเบา ขนาดไหน

รักษา กันไป จน เค้า เดินลมปราณ เอง ได้ แหละ
( ผม ไม่ได้ สอน เค้าเดินลมปราณ นะ ) เค้ารู้ เอง จาก กระแสพลัง ที่ เราส่งไปให้
เค้า ก็ ติดตาม สังเกต จน รู้


ทำอย่างนี้ ไป สามสี่ เดือน หรือมากกว่านั้น ( นานจนผม เอง ก็ จำไม่ได้ ว่าเริ่มรักษากันวันไหน)

การมารักษา ต่อหน้า นี่ ... ผม ว่าดี
ได้ พูดคุย และ แนะนำ กันไป ทุกๆ วัน จน เค้าเอง ก็ จะเข้าใจ
ว่าเรา ทำอะไร ให้ เขา
ผล เป็นอย่างไร , มีองค์ประกอบ ที่ เกี่ยวข้อง อย่างไร ฯลฯ

สรุป ว่า เค้า ก็ ดี ขึ้น จน เหมือนคน ปกติ ( แต่ ไปตรวจ ก็ ยังคงมี เบาหวานอยู่นะ)

 

ขอให้หายเร็วๆนะคะ
เห็นคนป่วยเป็นแผลแล้วรู้สึกสงสารจัง
..
T_T

 

ผู้ป่วยท่านนี้ เคยมีกรรมกับสุนัขมาก่อนในอดีตชาติ จากข้อมูลภาพที่ส่งมา
เป็นภาพการให้อาหารสุนัข โดยมียาเบื่อผสมลงไปด้วย
ขอให้ผู้ป่วยระลึกขอขมากรรม ต่อสุนัข และทำบุญอุทิศกุศลไปให้
ด้วยการทำบุญปล่อยชีวิตสัตว์ (ปลาที่ขายในตลาดสด หรือ โคกระบือ)
เป็นเวลา ๓ เดือน เดือนละครั้ง ถวายสังฆทานมีไตรจีวร แทนการบวช ๑ ครั้ง
และให้ทำน้ำบุญ (น้ำสะอาด ๑ แก้ว หรือ ๑ ขัน ) โดยตั้งจิตอธิษฐานดังนี้

ขอให้บุญกุศลที่ข้าพเจ้าทำมา ลงสู่น้ำแก้วนี้ ให้เป็นน้ำบุญของข้าพเจ้า
ขอส่งน้ำบุญนี้ ให้กับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังให้ผล ให้ได้รับกุศลและอโหสิกรรมให้ ข้าพเจ้าจะทำบุญอุทิศกุศลไปให้อีก ขอให้พระแม่คงคา พระแม่ธรณีเป็นสักขีพยาน ในการส่งน้ำบุญนี้

จากนั้นการส่งพลังรักษาก็จะมีประสิทธิผลยิ่งขึ้น

มียาแก้เบาหวานอยู่ขนานหนึ่ง ลองเข้าไปอ่านในกระทู้นี้ดูนะครับ

http://palungjit.org/threads/ยารักษาโรคเบาหวาน-ฯลฯหมอนิด-นำมาเผยแพร่เป็นกุศล.240342/





ได้ผลประการใดแจ้งให้ทราบด้วยนะครับ

 

ขอคุณพี่ เม้าส์
ที่แวะ เข้ามา แนะนำ การรักษา ครับ.... สาธุ



สมควร แก่ นามว่า จอมยุทธ จักระ 8.......................55

 

เห็นด้วยกับพี่ดาว
นอกจากพี่เม้าส์จะน่ารักแล้ว ยังใจดีมากด้วยคะ
:z1

 

ตัวจริง ของพี่ เม้าส์
เค้า ก็ น่ารัก จริงๆ นะ

เป็นพี่ ที่ น่ารัก ที่สุด คนหนึ่ง ในวงการ นี้ เลย ละ

มีอะไร ก็ คุย กับ พี่ เค้าได้
ปรึกษา ได้ ให้คำแนะนำ ได้ ดี ทีเดียว

ก็ กะว่า ว่างๆ จะ ไป ปรึกษา เรื่อง โครงการ ทำ ฟาร์มกังหันลม... สักหน่อย

เรื่องที่....ยัง ขาดงบ อยู่ นิดหน่อย ให้ พี่ เค้า ช่วย เติมงบ ให้ เต็ม ที............ 55

 

วัดระฆังโฆสิตาราม ก.ท.ม.

วันนี้ พอมี เวลาว่าง
ต้องไป นั่งรอรับ เจ้าลูกสาวคนเล็ก เวลา มันยังเหลือ ตั้ง สองชั่วโมง

นึกอยาก ไปไหว้พระที่ วัดระฆัง
เร็ว เท่าความคิด.............. เลี้ยว ซ้าย เลี้ยวขวา ... ถึงถนนอิสระภาพ
อีกนิด ก็ จะถึง ประตูทางเข้าวัด แล้ว...... เจ้ากรรมจริง ติดไฟแดง จากแยกศิริราช ยาวมา
ถึง นี่ เชียวหรือ
ตัดสินใจ ว่า ไม่ เลี้ยวรถ เข้าวัด ดีกว่า...( คิดว่า คง หาที่จอดรถยาก)
เลี้ยวซ้าย ไป หาที่จอดรถ ในนันทอุทยาน ( กองทัพเรือ ) ดีกว่า เดินไกลหน่อย แต่ชัวร์

อันที่ จริง แล้ว ขอ บอก อย่าง ไม่อาย ว่า ผม เอง ไม่เคย ไป วัดระฆัง เลย จริงๆๆ

ทั้งๆ ที่ สมัยเด็ก ๆ ก็ เคย นั่งรถเมล ผ่าน แทบทุกวัน

พอ เดิน จากที่จอดรถ นันทอุทยาน มาถึง ปากทางเข้าวัด
( คนอื่น จะจอดรถ ตามผม ก็ได้นะ แต่ ห้าม ด่า หรือ บ่น ว่า นายดาว มันนะ)
ระยะทาง ประมาณ สัก 1 กิโลเมตร.......55

ในวัด เค้าก็ มีทีจอดรถ อยู่ แหละ แต่ ในใจ ก็ คิดว่า คง คับแคบ
พอเข้าไป ก็ จริง มีที่จอดรถ ได้ ตรงหน้าท่าน้ำ สัก 50 คัน
ที่จอดเต็ม แออัดมาก

ดีแล้ว ที่ผม ไม่ เข้ามาจอด........ ยิ้มในใจ มิเสียแรง ที่ เดินมาซะ ไกล

ถ้าเข้าทางท่าน้ำ ผ่านประตู กลับเข้ามา
ด้านขวา จะพบ วิหาร พระมาลัย
เป็นพระพุทธรูป ปาง พระมาลัย (ถือพัด) องต์ นี้ เป็นพระพุทธรูป เก่าแก่ อายุ ประมาณ 300 ปี โดยประมาณ
ที่คนสมัยนี้ เรียกสั้นๆ ว่าพระไลย์
แล้ว ก็ จะกลาย เป็นพระศรี อาริยเมตไตร

ก็ ตาม แต่ จะ เข้าใจ กัน นะครับ.....




เข้าไป กราบ ขอพร จากท่าน..................

ชื่นใจ ครับ.. พระบารมี ที่ สัมผัสได้ เย็น ชื่นใจ เย็น บนศรีษะ เลย ( จักระ 7 )


วิหารด้านซ้าย เป็น วิหาร ที่ ประดิษฐาน รูปปั้น
ท่านเจ้าประคุณ สมเด็จพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี




พระอุโบสถ ใหญ่ อยู่ ตรงด้านหน้า
ภายใน กว้างขวาง
พระประธาน ท่านงาม สง่า สงบ
เป็นที่ น่าเคารพ สักการะ ยิ่ง



วันนี้ เป็นวันเสาร์
มี ผู้คน มาวัด กัน ไม่น้อย มาไหว้พระ ทำบุญ ถวายสังฆทาน
บางคน ก็ มานั่งหลับตา ทำสมาธิ

แต่ในพระอุโบสถ ถึง จะ มากไปด้วย ผู้ คน ที่ เข้ามา กราบพระ เดินเข้า ออกไม่ ขาดสาย

แต่ ผม กลับ อยาก นั่ง สมาธิ
ในพระอุโบสถ นี้ สักหน่อย..... ( คน เยอะ ก็ ช่าง เถิด)

ก่อน จะ นั่ง ก็ หยิบ นาฬิกามา ดู ก่อน (เพราะเวลามีจำกัด เดี๋ยวต้องกลับไปรับลูก)
ตั้ง ใจ ไว้ ก่อนว่า จะนั่ง ไม่ เกิน ครึง ชั่วโมง

ก็ นั่ง ไป
ก็ จริง นะ .......ทั้งเสียง ทั้งผู้คน รอบ ข้าง มิได้ เป็นที่ รบกวน ในการทำสมาธิ แม้นแต่น้อย

เสร็จ สรรพ ก็ กราบลา พระประธาน ท่าน

เดิน สำรวจ รอบๆ วัด สักหน่อย ตามภาษา คนไม่ เคยมา

เดินออกไป ถึงท่าน้ำ
..................... มี แม่ค้า ขาย ปลา นก อาหารปลา อยู่ มากมาย

มาวัด ได้ ทำบุญ ซื้อที่ดิน ทำทางเข้าวัด , ทำบุญสร้างอาคารปฏิบัติธรรม และที่จอดรถ ,ทำบุญค่าไฟฟ้า ฯ
วันนี้ ทำบุญ ไป หลาย อย่าง

ปล่อยปลา อีกสัก หน่อยน่าจะดี




เดิน ไป สำรวจที่ท่าน้ำ ก่อน ว่า ท่าจะ ปล่อยปลา
ลงไป ถึงริมน้ำได้ สะดวก ไหม
โอโห.....

ปลาสวาย ตัวโตๆ เต็มไป หมด... แบบว่า รู้ งาน ว่าจะมีคนมาให้อาหาร
ปลา สวาย เยอะ จริงๆ...........
เต็ม ไปหมด รายรอบ ท่าน้ำ เรียกว่า เห็นปลา จน ไม่ เห็น น้ำ ซะละ มั้ง





แล้ว ถ้า ข้า ฯ เจ้า ปล่อย ปลา ตัวเล็กๆ ลงไป
พวก ปลา สวาย มัน จะ เข้าใจ ไหม .... ว่า ผม จะ ปล่อย ปลา เหล่านี้ ให้ รอดชีวิต

.................. เฮ้อ คิด แล้ว ให้ หวาด เสียว

ว่า เจ้า ปลา ตัวเล็ก ตัวน้อย ที่ เรา จะ ปล่อย ลงน้ำ หวังให้ มันรอดชีวิต

จะ กลาย เป็น ทำบุญ ให้ อาหารปลา ตัวใหญ่
และ ทำบาป ฆ่าปลา ตัวเล็ก ซะ หรือ เปล่า.....................

คิดได้ ดั้งนั้นแล้ว

ก็ พยายาม มอง ไป ทางซ้าย ทางขวา ว่า มี ทางเดิน ทะลุ ออกไป ทางไหนได้อีกหรือเปล่า
หา ท่าน้ำ ข้าง เคียง

เพื่อว่าจะ ได้ ปล่อยปลา ได้ อย่างปลอดภัย ก็ไม่มี ทางไป ติดกำแพง กั้นหมด

ไม่ ได้ ก็ ไม่ ต้องทำ
เป็นอันว่า วันนี้ ได้ แค่ ทำบุญ กับ วัด วาอาราม บำรุงพระศาสนา

ไม่ได้ ปล่อยปลา
............................. ก็ ไม่เป็นไร
ดีกว่า ปล่อยปลา ให้ได้ เป็นอิสระ สัก สองวินาที แล้ว โดนปลาใหญ่ กิน เป็นอาหาร

...................... 55