คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ประสบการณ์พระพุทโธน้อยและของอธิษฐาน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย st-antique, 27 เมษายน 2012.

  1. st-antique

    st-antique ขอบารมีคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม เป็นที่พึ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    18,860
    ค่าพลัง:
    +84,233
    ใครมีประสบการณ์ เกี่ยวกับพระเครื่องหรือของอธิษฐานของ คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม เข้ามาแชร์กันได้ครับ ส่วนตัวผมแล้วนับถือคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม และมีประสบการณ์ตรงจากการบูชาท่าน เลยอยากทราบว่าเพื่อนๆท่านอื่นมีประสบการณ์อะไรกันบ้างที่เกิดจากการบูชาท่าน หรือบูชาพระเครื่องหรือของอธิษฐานของท่านบ้าง เพื่อเป็นการเผยแพร่พุทธคุณของท่านให้แผ่ขยายให้คนที่ไม่มีที่พึ่ง ได้เห็นทางเลือกที่จะช่วยเขาเหล่านั้นได้ เข้ามาร่วมกันแสดงความคิดเห็นกันก็ได้นะครับ ผมจะพยายามรวบรวมและนำความรู้เกี่ยวกับประวัติ การสร้างพระเครื่อง รูปถ่าย ของอธิษฐานของคุณแม่ที่ท่านได้สร้างขึ้นเพื่อให้ลูกหลานและศิษยานุศิษย์ได้นำไปใช้เพื่อความเป็นสิริมงคล และความก้าวหน้าของชีวิต เพื่อเสริมความรู้ให้สมาชิกท่านอื่นได้รู้เพื่อเป็นวิทยาทานครับ

    หมายเหตุ
    ข้อมูลต่างๆที่นำมาลงเพื่อการเผยแพร่นี้ บางส่วนจะมีเนื้อหา มีเอกสารหรือตัวบุคคลที่ให้ข้อมูลอ้างอิงอย่างชัดเจน แต่บางส่วนอาจจะยังขาดความสมบูรณ์ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามข้อมูลข้อเท็จจริงที่ค้นหาได้เพิ่มเติมและใกล้เคียงความจริงมากที่สุด เพราะฉะนั้น ควรมีการอ่านทบทวนในเนื้อหาต่างๆสม่ำเสมอ(การปรับเปลี่ยนเนื้อหาผมจะเข้ามาทำการปรับเปลี่ยนแก้ไข ในส่วนของเนื้อหานั้นๆเลยนะครับเพื่อให้มีความต่อเนื่องและไม่สับสนหรือค้านกันของข้อมูลเดิมและข้อมูลใหม่ ผู้ที่มาศึกษาจะได้เข้าใจง่าย) เมื่ออ่านแล้วควรทำการคิดพิจารณาควบคู่ไปด้วยการใช้หลักการและเหตุผล อย่าเชื่อข้อมูลจากที่ใดที่หนึ่งโดยขาดการพิจารณา เพื่อประโยชน์ในการก่อเกิดความรู้แก่ท่านที่เข้ามาทำการศึกษาทุกท่าน หากมีความผิดพลาดประการใด ทางผู้จัดทำต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้ด้วย


    แต่ก่อนอื่นใด เพื่อนบางท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้อาจจะยังไม่รู้จัก ไม่ทราบว่า คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ท่านเป็นใคร เป็นผู้ที่มีคุณวิเศษใด ทำไมถึงมีคนกล่าวถึงและนับถือท่านกันอย่างกว้างขวาง ลองมาอ่านประวัติท่านกันดูนะครับ ผมเอามาฝากด้วยแล้ว

    ประวัติคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม

    คุณแม่บุญเรือน กลิ่นผกา เกิดเมื่อวันอาทิตย์ เดือน ๔ ปีมะเมียขึ้น ๑๕ ค่ำเวลา ๑๑.๒๐ น. หรือตรงกับวันที่ ๑๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๓๗ ท่านได้กำเนิดในครอบครัว ที่มีฐานะค่อนข้างยากจน มีนายยิ้ม กลิ่นผกา เป็นบิดา และมี นางสวน กลิ่นผกา เป็นมารดา สถานที่เกิดอยู่ที่คลองสามวา อำเภอมีนบุรี จังหวัดพระนคร ต่อมาบิดามารดาของท่านได้ย้ายไปอยู่ที่ตำบลบางปะกอก อำเภอราษฎร์บูรณะ จังหวัดธนบุรี อยู่ในละแวกบ้านชาวสวน และมีฐานะเป็นชาวสวนในเวลาต่อมา คุณแม่บุญเรือน ท่านก็ได้เติบโตมาในละแวกบ้านชาวสวน ที่ตำบลบางปะกอกใหญ่นั่นเอง
    นายยิ้ม บิดาของคุณแม่บุญเรือน มีภรรยาทั้งสิ้น ๓ คน คนแรกก็ได้แก่ นางสวน มีบุตรด้วยกันสองคน คนโตคือ นางทองอยู่ ได้เสียชีวิตไปนานแล้ว คนที่สองก็ได้แก่ คุณแม่บุญเรือน กลิ่นผกานั่นเอง
    ภรรยาคนที่สอง ชื่อนางเทศ มีบุตรด้วยกันสามคน ได้แก่ นายเนื่อง นางทองคำ และนางทิพย์ ซึ่งทั้งสามคนนี้ ถือเป็นพี่น้องร่วมบิดาเดียวกัน
    ภรรยาคนที่สาม ไม่มีใครจำชื่อได้ และไม่มีใครยืนยันว่า นายยิ้ม ได้มีบุตรกับภรรยาคนนี้หรือไม่

    การศึกษาเล่าเรียนและชีวิตในครอบครัว

    ชีวิตในวัยเยาว์ คุณแม่บุญเรือน เป็นผู้ได้รับความรักความทะนุถนอมจากบิดามารดา เป็นอันมาก พอเหมาะสมกับฐานะของครอบครัว ท่านได้รับการศึกษาให้รู้ภาษาไทย พออ่านออกเขียนได้ และเชื่อว่าท่านได้รับการฝึกสอน จากบิดามารดา ให้มีความรอบรู้ และ สามารถทำหน้าที่เป็นแม่บ้านแม่เรือนเป็นอย่างดี พอเหมาะสมกับสมัย เนื่องจากปรากฏต่อมาในภายหลังว่า คุณแม่บุญเรือน มีความสามารถในการทำกับข้าวมีรสอร่อยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นน้ำพริก อาหารจำพวกแกง และ ต้ม ท่านก็สามารถทำได้อย่างดี นอกจากนี้ก็ยังมีความสามารถในการเย็บจักร ตัดเสื้อผ้าได้ เหล่านี้เป็นความสามารถที่เป็นที่ประจักษ์แก่คนที่รู้จักทุกคน

    ฝึกหัดเป็นหมอนวดและสนใจในงานบุญ

    เมื่ออายุราว ๆ ๑๕ ปี ท่านได้รับการฝึกสอนจากในครอบครัว ให้รู้จักการนวด ซึ่งท่านได้ให้ความสนใจอยู่เป็นอันมาก จนในที่สุด ท่านได้รับครอบวิชาหมอนวด และ ตำราหมอนวด จากปู่ของท่าน คืออาจารย์กลิ่น ซึ่งในขณะนั้นถือว่า เป็นหมอนวดผู้มีชื่อเสียง จากการได้รับมอบตำราหมอนวด ทำให้ท่านได้ศึกษาวิธีการนวด จากตำราดังกล่าวจนเกิดความชำนาญ และกลายเป็นแม่หมอผู้มีชื่อเสียงในการนวดต่อมาในภายหลัง
    ขณะเป็นวัยรุ่น ท่านได้รู้จักกับคุณลุงของท่าน คือ หลวงตาพริ้ง ซึ่งเป็นพระภิกษุ อยู่ที่วัดบางปะกอก ด้วยความคุ้นเคยกับหลวงตาพริ้ง ผู้เป็นลุงนั่นเอง ท่านได้เริ่มนำอาหารไปถวายอยู่บ่อย ๆ ทำให้ท่านได้รับการอบรมสั่งสอนให้รู้จักธรรมะ และ คุณธรรมในการดำเนินชีวิต ตามแนวคำสั่งสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านได้เริ่มเลื่อมใสศรัทธา และมีใจรัก ในงานบุญงานกุศลมากขึ้นอันน่าจะถือได้ว่า นี่เป็นปฐมเหตุสำคัญที่ทำให้ท่านบำเพ็ญกรณียกิจเป็นนักบุญในพระพุทธศาสนาในเวลาต่อมา หลวงตาพริ้ง จึงเป็นพระภิกษุที่คุณแม่บุญเรือนมีความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก และวัดบางปะกอกนี้ก็น่าจะเป็นวัดที่ทำให้ท่านเกิดความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา จนนำไปสู่การบำเพ็ญภาวนาในเวลาต่อมา

    ชีวิตสมรสและบุตรธิดา

    เมื่อมีอายุพอสมควร ก็ได้ทำการสมรสกับ ส.ต.ท.จ้อย โตงบุญเติม ซึ่งขณะนั้นเป็นตำรวจประจำสถานีตำรวจนครบาลสัมพันธวงศ์ ได้อยู่กินกันฉันท์สามีภรรยาที่ดีตลอดมา แต่ก็ไม่มิบุตรธิดาด้วยกัน และเนื่องจากไม่มีบุตรธิดาด้วยกัน ทำให้คุณแม่ บุญเรือน โตงบุญเติมได้รับอุปการะเด็กหญิงชายอื่นบ้าง แต่มีผู้ที่ท่านรับอุปการะแต่มีอายุได้ ๖ เดือนจนเติบใหญ่เป็นเวลายาวนานคนหนึ่งในฐานะบุตรบุญธรรมคือ นางอุไร คำวิเทียน จนกระทั่ง นางอุไร มีอายุ ได้ ๑๙ ปีจึงได้สมรสกับ ร.ต.ท.เต็ม คำวิเทียน นางอุไร กับ ร.ต.อ.เต็ม อยู่กินกันมาจนมีบุตรสาวคนหนึ่งชื่อว่า นิดา คำวิเทียน นับว่าเป็นหลานยายที่คุณแม่บุญเรือนให้ความเมตตาเป็นอย่างยิ่ง
    ชีวิตสมรสระหว่างคุณแม่บุญเรือน และ ส.ต.ท.จ้อย โตงบุญเติม อยู่กินกันมา จนกระทั่งในปี ๒๔๗๙ ซึ่งขณะนั้นท่านมีอายุได้ ๔๒ ปี ส.ต.ท.จ้อย ได้ถึงแก่กรรมลง เนื่องจากได้เข้าไปช่วยดับเพลิง เมื่อครั้งเพลิงไหม้ใหญ่ตลาดน้อย อำเภอบางรัก ต่อจากนั้นมา คุณแม่บุญเรือนก็ได้ครองความเป็นโสด บำเพ็ญงานบุญ และได้ใช้นามสกุล โตงบุญเติม ของสามีตลอดมา ในระหว่างครองชิวิตร่วมกับ ส.ต.ท.จ้อย โตงบุญเติม คุณแม่บุญเรือน ได้ประกอบอาชีพตัดเย็บผ้า เป็นการช่วยสามีอีกแรงหนึ่ง และรับรักษาโรคโดยเป็นหมอนวด ซึ่งการเป็นหมอนวดเพื่อรักษาโรคนั้น ท่านทำเป็นการกุศลไม่มีสินจ้าง นอกจากนั้นท่านยังมีความสามารถในการทำคลอด หรือเป็นหมอตำแยแผนโบราณด้วย ซึ่งทำให้ท่านมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมากในขณะนั้น
    ด้านการตัดเย็บเสื้อผ้าด้วยจักรท่านก็ทำได้อย่างดี จนทำให้ครอบครัวท่านมีฐานะที่มั่นคงพอสมควร ในระหว่างนี้ท่านก็ใช้เวลาในการบำเพ็ญบุญ ถือศีล สวดมนต์ ฟังธรรม ด้วยความเคารพเลื่อมใสอย่างแท้จริง ท่านได้ไปประกอบการบุญที่ วัดสัมพันธวงศ์ เป็นประจำ และได้เริ่มฝึกหัดวิปัสสนากัมมัฏฐาน ตั้งแต่มีอายุประมาณ ๓๐ ปี หลัง ส.ต.ท.จ้อย ถึงแก่กรรม ท่านได้ไปพักอยู่ที่โรงเรียนช่างกลสมบุญดี มักกะสันอยู่ระยะหนึ่ง จนกระทั่ง นางอุไร คำวิเทียน บุตรบุญธรรม ได้ทำการสมรสแล้ว ท่านจึงได้ย้ายไปอยู่ บ้านพักของทางราชการ ที่โรงพักกลางต่อไป
    ขณะที่ยังใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับ ส.ต.ท.จ้อย ด้วยความเลื่อมใสในพุทธศาสนา ได้ไปฟังพระสวดมนต์ ฟังธรรมที่วัดสัมพันธวงศ์อยู่บ่อย ๆ ทั้งได้ฝึกหัดทำวิปัสสนากัมมัฐานที่วัดนี้ด้วย ต่อมา ส.ต.ท.จ้อย ผู้เป็นสามี ได้ลาอุปสมบท ที่วัดสัมพันธวงศ์ เป็นเวลา ๑ พรรษา ทำให้คุณแม่บุญเรือน ได้มีความใกล้ชิดและผูกพันในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก เมื่อสามีสึกออกมาแล้ว คุณแม่บุญเรือน ก็ได้ลาสามีบวชเป็นชีและอยู่ปฏิบัติธรรมที่วัด สัมพันธวงศ์ ได้พากเพียรพยายามฝึกวิปัสสนากัมมัฏฐาน ได้อยู่ปฏิบัติที่ศาลาวัดสัมพันธวงศ์ จนทำให้เกิดความเข้าใจ และ ปลอดโปร่งในธรรมะ รักความสงบประกอบการกุศลต่าง ๆ ช่วยปักหมอนสำหรับธรรมาสน์พระสวดปาฏิโมกข์เป็นต้น

    ผลสำเร็จของงานบุญ

    ในระหว่างที่บวชเป็นชีนี่เอง ด้วยความตั้งใจจริง ในการบำเพ็ญเพียร หัดวิปัสสนากัมมัฏฐาน ทำใจให้สงบระงับ ฝึกใจให้แข็งแกร่งแก่กล้า มองเห็นธรรมอันวิเศษของ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังผลให้เป็นที่ทราบในหมู่ผู้ร่วมวิปัสสนาด้วยกัน ว่าคุณแม่บุญเรือนได้สำเร็จแล้วอย่างแท้จริง คือสำเร็จใน จตุตถฌาน หรือ ฌาน ๔ อันประกอบด้วย
    ปฐมฌาน หมายถึง ฌาน ขั้นแรก มีองค์ ๕ คือ ยังมีตรึก เรียกว่า วิตก และ ตรอง เรียกว่า วิจารณ์ เหมือนอารมณ์แห่งจิตของคนสามัญ ซ้ำยังมีปิติ คือ ความอิ่มใจ มีความสุข คือความสบายใจ เกิดแต่ความวิเวก คือ ความเงียบสงบ ประกอบด้วยจิตมีอารมณ์เป็นหนึ่งลงไปได้ เรียกว่า “ เอกัคตา”
    ทุติยฌาน หมายถึง ฌาน ชั้นสอง ซึ่งละวิตกและวิจารณ์ ในปฐมฌานลงไปได้ คงเหลือแต่ ปิติ และ สุขอันเกิดแก่สมาธิกับเอกัคตา
    ตติยฌาน เป็น ฌาน ชั้นสาม คงเหลือแต่องค์สอง คือละปิติเสียได้ คงเหลือแต่สุขและเอกัคตา
    จตุตถฌาน เป็น ฌานสำคัญชั้น ๔ มีองค์ ๒ คือละสุขเสียได้กลายเป็น อุเบกขาคือวางเฉย คู่กับเอกัคตา ฌาน ๔ จัดเป็นรูปสมาบัติ มีรูปธรรมเป็นอารมณ์ สงเคราะห์เข้าไปในรุปาวจรภูมิ

    ฌานทั้ง ๔ นี่แหละที่เชื่อกันว่า คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ได้บำเพ็ญเพียรฝึกปฏิบัติจนประสบความสำเร็จ และด้วยเหตุที่ปรากฏต่อมาว่า คุณแม่บุญเรือน มีความเชี่ยวชาญในวิปัสสนากัมมัฏฐาน จนสามารถจะเข้าวิปัสสนาเมื่อใดก็ได้ และไม่จำเป็นต้องยึดสิ่งมีรูปเป็นอารมณ์ ทั้งอาจเข้าวิปัสสนาโดยลืมตาก็ได้โดยเร็วพลันด้วยเหตุนี้ ทางด้านอรูปฌาน ก็เชื่อว่าท่านสันทัดและบรรลุโดยลักษณะเดียวกัน
    ด้วยความสำเร็จใน จตุตถานนั่นเอง เป็นเหตุให้แม่ชีบุญเรือน เป็นนักเสียสละชั้นยอด มีอารมณ์วางเฉย เป็น อุเบกขา สละความโลภ ความอยากได้ในทรัพย์สินต่าง ๆ อย่างสิ้นเชิง ดังนั้นคนที่รู้จักแม่ชีบุญเรือนมาก่อนก็ดี หรือเพิ่งจะมารู้จักก็ดี จะทราบคติธรรมข้อหนึ่งว่า “ คนที่จะไปหาท่าน จงไปหาด้วยการเป็นผู้รับ ส่วนท่านเป็นผู้ให้ เป็นผู้เสียสละ เป็นผู้บริการ” ท่านไม่ต้องการสิ่งใดของใคร แม้แต่ดอกไม้ ธูปเทียน ทรัพย์สินเงินทองใด ๆ ทั้งสิ้น

    บรรลุอภิญญา ๖

    นอกเหนือจากการสำเร็จใน ฌาน ทั้ง ๔ แล้ว คุณแม่บุญเรือน ได้เพียรพยายามฝึกจิต และสมาธิอย่างแรงกล้า ทั้งได้ประกอบการบุญอันเป็นอานิสงศ์แห่งชีวิตอย่างสูงส่ง จนกล่าวว่าท่านสำเร็จรอบรู้ใน อภิญญา ๖ กล่าวคือ
    ๑. อิทธิวิธี คือแสดงฤทธิ์ได้ ปรากฏว่าแม่ชีบุญเรือนได้กระทำมาแล้วหลายวิธี เช่น อธิษฐานต้นมะม่วง ต้นเล็ก ๆ ให้ออกดอกได้ภายในคืนเดียว ย่นหนทางยาวให้สั้น เดินตากกลางฝนไม่เปียก เรียกฝนให้ตกได้ ขอให้ฝนหยุดตกได้ เป็นต้น
    ๒. ทิพโสต หรือที่เรียกว่าหูทิพ แม่ชีบุญเรือน สามารถบอกเล่าเรื่องราวที่คนอยู่ใกล ๆ พูดกัน ให้คนใกล้ชิดท่านฟังได้อย่างถูกต้อง
    ๓. เจโตปริยญาณ อันได้แก่การกำหนดจิตให้แก่ผู้อื่น ในเวลาที่แม่ชีบุญเรือน สนทนากับใคร ไม่ว่าใครจะคิดหรือจะพูดอะไรกับแม่ชี ท่านก็สามารถทราบได้ด้วย ฌานวิเศษของท่าน
    ๔. บุพเพนิวาสานุสสติ ได้แก่การระลึกชาติได้ เรื่องนี้แม่ชีบุญเรือนได้เคยเล่าเรื่องราว ชาติภพก่อน ๆ ของท่าน ให้ลูก ๆ และคณะศิษย์ ได้ฟัง รวม 3 ชาติ หากจะว่าไปแล้วเรื่องระลึกชาติ เป็นเรื่องที่พิสูจน์ยาก แต่เห็นว่า แม่ชีบุญเรือนเป็นผู้ยึดมั่นในศีล 5 ละปฏิบัติธรรม เป็นอาจินต์ ก็ทำให้เชื่ออย่างมั่นคงว่าสิ่งที่ท่านพูดนั้นเป็นความจริง
    ๕. ทิพจักษุ หรือตาทิพย์ การมองเห็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่พึงประสงค์ แม้ว่าวิ่งนั้นจะอยู่ห่างใกล ต่างบ้านต่างเมืองก็ตาม แต่เรื่องตาทิพย์นี้ แม่ชีบุญเรือน ได้บอกเล่าให้ลูก ๆ ละคณะศิษย์ฟังว่าแม้นว่าท่านจะได้ไว้ แต่ท่านก็คืนให้ไป มิได้นำมาใช้ ทั้งนี้เพราะหากใช้ตาทิพย์แล้ว จะมองเห็นสิ่งปฏิกูลมากมาย ท่านจึงงดเว้นเสีย โดยถือว่าคืนให้ทางธรรม จะมีการนำมาใช้บ้างในยามจำเป็นเท่านั้น
    ๖. อาสวักขยญาณ คือ ทำให้พ้นจาก ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ทำให้ตนพ้นจากสิ่งอันไม่เป็นมงคลทั้งปวง ผู้พ้นจากอาสวะ ย่อมหมายถึงปราศจาก รัก โลภ โกรธ หลง แม่ชีบุญเรือนได้สำเร็จในข้อนี้ จะเห็นได้จากผู้ที่เดินทางมาหาท่านไม่ว่าจะใกล้หรือไกล จะยากดีมีหรือจน ก็จะได้รับความปรานีเสมอเท่าเทียมกัน

    ความสำเร็จในการบำเพ็ญเพียรครั้งแรก

    การบำเพ็ญเพียร ในพระพุทธศาสนา จนสำเร็จ จตุตถฌาน และ อภิญญาฌาน ปรากฏว่าท่านได้ทำสำเร็จครั้งแรก ตั้งแต่ยังบวชเป็นแม่ชีอยู่ที่วัดสัมพันธวงศ์ และ ได้ผลเป็นอิทธฤทธิ์อันเกิดจากการอธิษฐานเป็นครั้งแรกเมื่อราววันขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๖ พ.ศ. ๒๔๗๐ โดยในวันดังกล่าว คุณแม่บุญเรือน ได้กลับไปที่บ้านพักข้าราชการ ที่สถานีตำรวจสัมพันธวงศ์ คืนนั้นเข้านอนไม่หลับจนดึก สามีและบุตรบุญธรรมหลับมีอาการกัดฟันและกรน รู้สึกเกิดธรรมสังเวช และนึกเบื่อ จึงตั้งสัตย์อธิษฐานเข้าไปในศาลา พอสิ้นคำอธิษฐาน ตัวแม่ชีบุญเรือนก็เข้าไปอยู่ในศาลา ดังคำอธิษฐาน โดยที่ตัวท่านเองก็ไม่ทราบว่า ได้ออกจากห้องทางไหน และ เข้าศาลาทางไหน ในครั้งนั้นเพื่อนแม่ชีด้วยกัน ไม่ค่อยจะเชื่อกันนัก จนต่อมา อุบาสิกาฟัก ขอให้อธิษฐานใหม่ และได้ให้นางเล็ก นางคำ นางเทียบ ซึ่งดูเหมือนเป็นเพื่อนแม่ชีดูเป็นพยาน ได้ใส่กลอนประตูหน้าต่างศาลาเสียในคืนวันแรม ๑ ค่ำเดือน ๖ เวลาดึกสงัดปีเดียวกันนั้นเอง แม่ชีบุญเรือนก็ได้อธิษฐานจากสถานีตำรวจสัมพันธวงศ์เข้าไปศาลาได้เช่นเดียวกับคราวก่อน พวกที่คอยดูก็พากันแปลกใจไปตาม ๆ กัน
    ต่อมา แม่ชีบุญเรือน ได้อธิษฐาน ไปเขาวงพระจันทร์ พบพระผู้วิเศษ ขอพระธาตุท่าน ๆ ก็ให้มา ๑ องค์ แล้วได้กลับมาที่เดิมตามคำอธิษฐานพร้อมพระธาตุ การสามารถทำปากิหารย์ดังกล่าวที่ปรากฏขึ้นได้เป็นผลแห่งความสำเร็จครั้งแรก ทำให้ท่านอฺธิษฐานเมื่อเข้าสมาธิ ผ่านที่ปิดล้อม หรือไปที่ ไกล ๆ ได้ชั่วระยะเวลาลัดนิ้วมือเดียว ในขณะนั้นท่านมีอายุเพียง ๓๓ เท่านั้น

    การอธิษฐานของคุณแม่บุญเรือน

    ๑. การอธิษฐานด้วยสัจจวาจา ด้วยความที่แม่ชีเป็นผู้บรรลุ ฌาน ๔ และอภิญญา ๖ ทำให้วาจาของท่านมีอิทธฤทธิ์ ที่จะพูดหรือสั่งการสิ่งใดในทางที่ชอบเกิดผงได้ เช่น อธิษฐานให้หายโรค ให้ร่ำรวยในทางที่ชอบ ให้ปลอดภัยจากอันตราย หรืออาจอธิษฐานให้เป็นไปตามคำอธิษฐานของท่านได้ เช่น ให้ฝนตก หรือให้ฝนหยุด อธิษฐานถวายพระพรแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ
    ๒. อธิษฐานสิ่งของทั่วไป ได้แก่การนำสิ่งของต่าง ๆ มาให้ท่านอธิษฐาน เช่น น้ำ ปูน ไพลเกลือ พริกไทย การอธิษฐานต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ที่นำไปใช้ได้หายจากโรคภัยไข้เจ็บ เช่น อธิษฐานปูนกินหมาก ให้เป็นยาทิพย์ รักษาโรคให้หาย แก้โรคนา ๆ ชนิด เช่น มะเร็ง วัณโรค โรคไต เป็นต้น
    ๓. อธิษฐานของพิเศษเป็นครั้งคราว เช่น อธิษฐาน กรวด ทราย กันไฟไหม้ อธิษฐานก้อนหิน ศิลาน้ำ เพื่อใช้ป้องกันภัยบางประการ โดยเฉพาะศิลาน้ำ ใช้แทนของอธิษฐานของท่าน เวลาวายชนม์ไปแล้ว เมื่อใช้ศิลาน้ำใส่ในน้ำ ก็กลายเป็นน้ำอธิษฐาน ไว้รับประทานแก้และป้องกันโรค ทั้งใช้ป้องกันอันตรายต่าง ๆ ได้ด้วย
    ณ โรงพักกลางนี่เอง ท่านได้ปวารณาตัวในทำนอง ขอช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ให้พ้นจากโรคร้าย และท่านได้เริ่มแนะนำ สั่งสอนธรรม แก่ผู้เลื่อมใสศรัทธา ท่านได้แสดงความปรารถนาที่จะไปช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ทั่วประเทศ ด้วยเหตุนี้ ราว พ.ศ. ๒๔๗๒ ท่านได้ไปอยู่เชียงใหม่ชั่วคราว
    การไปอยู่จังหวัดเชียงใหม่ ท่านไปพำนักอยู่ที่วัดเจดีย์หลวง ท่านได้ปฏิบัติธรรม บำเพ็ญการบุญ และช่วยเหลือผู้ทุกข์ร้อนของผู้มาขอร้อง และได้ช่วยรักษาโรคด้วยการอธิษฐาน ปูนและน้ำ พริกไทย และสิ่งอื่น ๆ อีกมากมาย เช่นมีอยู่คนหนึ่ง อุจจาระผูกมาเป็นแรมปี ถ่ายอุจจาระไม่ออก รักษาแผนปัจจุบันและแผนโบราณเป็นเวลานานก็ไม่หาย ได้มาหาท่าน คุณแม่บุญเรือนได้อธิษฐานพริกไทยให้รับประทาน 3 เม็ดรุ่งขึ้นปรากฏว่า อุจจาระถ่ายคล่อง หายเป็นปกติ ด้วยการบำเพ็ญตัวที่จังหวัดเชียงใหม่นี่เอง ส่งผลให้ชื่อเสียง และเกียรติคุณของคุณแม่โด่งดังเป็นอันมาก จนมีหนังสือพิมพ์นำท่านไปลงข่าวอยู่หลายครั้ง

    กลับกรุงเทพฯ และย้ายไปอยู่บ้านวิสุทธิกษัตริย์

    ด้วยเหตุที่คุณแม่บุญเรือน ต้องทำการบุญ และอธิษฐานจิตอยู่บ่อยครั้ง ทำให้บรรดาสานุศิษย์เห็นว่าเมื่อกลับจากเชียงใหม่แล้ว จะไปอยุ่ที่โรงพักกลางอีกคงไม่เหมาะสม ทั้งไม่สะดวก เมื่อเวลามีผู้ไปหาบำเพ็ญการบุญกับท่าน เป็นการสมควรที่จะอยู่อย่างเอกเทศ ในที่สุด คุณนายพัธนี ได้ร่วมกับศิษย์ที่ใกล้ชิดช่วยกันเป็นผู้สร้างอาคารหลังเล็กขึ้นมาหลังหนึ่ง ในที่ดินคุณนายพัธนีเอง ณ ถนนวิสุทธิกษัตริย์ อยู่ใกล้กับโรงพิมพ์วิบูลย์กิจ บ้านอยู่ลึกจากถนนไป ๒ ถึง ๓ เส้น เป็นที่สงัดเงียบ และมีบริเวณกว้างขวางเพียงพอ อาคารที่สร้างขึ้นนี้เป็นเรือนไม้มีขนาดพอสมควร มีห้องนอน ห้องพระ ห้องครัว ห้องโถงสำหรับผู้บำเพ็ญการบุญ จะร่วมสวดมนต์จำนวนราว ๕๐ คนได้
    เมื่อสร้างเสร็จได้เชิญคุณแม่ให้มาอยู่หลังจากท่านกลับมาจากเชียงใหม่ท่านได้ย้ายมาอยู่ที่บ้านวิสุทธิกษัตริย์ เมื่อราวต้นปี พ.ศ. ๒๔๙๒

    ก่อตั้งสามัคคีวิสุทธิ

    เนื่องจากผู้มาร่วมการบุญกับท่านที่บ้านนี้มากมาย มีผู้เจ็บป่วยที่มาขอให้ท่านรักษา จนหายจากโรคภัยไข้เจ็บเป็นจำนวนมาก คนจำนวนมาก จึงมายอมตัวเป็นศิษย์ เป็นลูก เป็นหลาน ฟังธรรมคำสั่งสอนจากท่าน เมื่อปฏิบัติตามก็ปรากฏว่า ได้รับความสุขทางใจอย่างประหลาด ผู้คนที่มาหาจึงคับคั่งขึ้นตามลำดับ และเพื่อให้ผู้ร่วมการบุและสานุศิษย์ มีความเป็นปึกแผ่น มีชื่อเรียกที่เหมาะสม คุณแม่บุญเรือนจึงขนานนามคณะของท่านว่า “ สามัคคีสุทธิ” และเรียกบ้านที่ท่านอยู่ว่า บ้านสามัคคีวิสุทธิ แต่คนที่คุ้นเคยบางคนจะเรียกว่า”บ้านวิสุทธิกษัตริย์” ก็มีวัตรปฏิบัติทั่วไปที่บ้านสามัคคีวิสุทธิ วันธรรมดา คุณแม่ จะสวดมนต์ไหว้พระเป็นประจำ ทำกัมมัฏฐาน และรักษาโรคภัยไข้เจ็บให้แก่ผู้ป่วยที่มาหา
    วันเสาร์ จะอธิษฐานด้วยสัจจวาจา และสิ่งของให้ผู้ป่วย เช่น ปูน ไพล ผลไม้ พริกไทย หลังจากนั้น ๑๔.๐๐ น.ท่านจะนำสานุศิษย์สวดมนต์เป็นเวลา ๑ ชั่วโมง หลังจากนั้นทำ กัมมัฏฐานเป็นเวลา ๑๕ นาที กว่าจะเสร็จก้ประมาณ ๑๕.๐๐น. เป็นเช่นนี้ทุกวันเสาร์ ตลอดช่วงเวลาที่คุณแม่มีชีวิตอยู่

    งานบุญสำคัญที่บ้านสามัคคีวิสุทธิ

    คุณแม่อยู่ที่บ้านสามัคคีวืสุทธิ ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๘๒ ถึง พ.ศ. ๒๔๘๙ เป็นเวลา ๗ ปี นอกจากการบำเพ็ญการบุญธรรมดาแล้ว ท่านยังได้อธิษฐานธรรมประกอบงานบุญสำคัญ ๆ อีกมากมายหลายครั้ง เช่น
    ๑.ก่อนวันขึ้นปีใหม่ทุกปี คุณแม่จะอธิษฐานธรรมอวยพรให้บรรดา สานุศิษย์ ผู้ร่วมประกอบการบุญกับท่าน
    ๒. ท่านได้อธิษฐานธรรมประจุพระพุทธรูป และ พระเครื่องสำคัญรวมทั้งร่วมสร้างด้วย คือ
    ก. พระพุทโธองค์ใหญ่ ซึ่งได้จัดทำพิธีหล่อสร้างที่วัดสัมพันธวงศ์ จนถวายพระประธานสำเร็จ เมื่อวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๙๖ แล้วสมโภช ต่อมาได้สมโภชที่วัดสัมพันธวงศ์อีก เมื่อวันที่ ๔ ถึง ๑๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๙๙ อัญเชิญไปวัดสารนาถธรรมาราม อำเภอแกลง จังหวัดระยอง เมื่อวันที่ ๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๙๙ เคลื่อนกระบวนเวลา ๐๖.๐๙ น. ถึงวัดสารนาถธรรมารามเวลา ๑๖.๐๐ น. ประดิษฐานอยู่ในอุโบสถวัดสารนาถธรรมารามจนถึงปัจจุบัน คุณแม่ได้อธิษฐานธรรมในการก่อสร้างรวมทั้งการนำไปประดิษฐานโดยตลอด
    ข.พระพุทโธองค์เล็ก ซึ่งได้แก่พระเครื่องที่สร้างขึ้นที่วัดอาวุธกสิตาราม บางพลัดนอก ธนบุรี คุณแม่ได้ร่วมสร้าง และทำพิธีอธิษฐาน เมื่อ ๑๑-๑๒-๑๓ กันยายน พ.ศ. ๒๔๙๔ รวมจำนวน ๑๐๐,๐๐๐ องค์
    พระทั้งสองอย่างนี้ปรากฏว่าได้กลายเป็นพระศักดิ์สิทธิ์ ในระยะต่อมาเป็นอันมาก ทั้งด้านเมตตามหานิยม ป้องกันภัย แคล้วคลาด เจริญโภคสมบัติ กำจัดโรคร้าย (นอกจากโรคกรรมโรคเวร)
    ๓. อธิษฐานถุงเขียวเหนี่ยวทรัพย์ แก่ลูก ๆ และ สานุศิษย์ เมื่อต้นปี พ.ศ. ๒๔๙๘
    นอกจากนี้ก็ยังมีการสรงน้ำพระพุทโธที่บ้านในวันสงกรานต์ทุกปี
    การช่วยรักษาโรคร้ายสำคัญ เช่น ไส้ติ่งอักเสบ แผลปวดบวมต่าง ๆ อัมพาต ในทุกภาคของประเทศไทย จนชื่อเสียงของท่านกระจายไปอย่างกว้างขวาง

    ไปอยู่บ้านนาซาจังหวัดระยอง

    ราวเดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๔๙๘ คุณแม่ได้พาพวกลูก ๆ ไปพักอยู่ที่บ้านพักของนางสาววาย วิทยานุกรณ์ ตำบลปากน้ำประแส อำเภอแกลง จังหวัดระยอง เพื่อปฏิบัติธรรมและอธิษฐานธรรมบางประการ ได้ห้ามสานุศิษย์จากกรุงเทพฯตามไปจนกว่าจะครบเวลา ๑ ปี

    และเมื่อวันที่ ๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๙๙ ลูกหลานและศิษย์ได้ไปรับท่านกลับ โดยไปที่วัดสารนาถธรรมาราม ได้เช่ารถยนต์โดยสารขนาดใหญ่จำนวน ๒ คันไปกันประมาณ ๘๐ คน ได้ร่วมทำบุญสร้างโบสถ์ที่นั่น ค้างที่วัด ๑ คืน รุ่งเช้าวันที่ ๙ มีนาคม ๒๔๙๙ เวลา ๐๖.๐๐ น . จึงได้เดินทางกลับกรุงเทพฯ

    อยู่บ้านพระโขนง

    หลวงแจ่มวิชาสอน เจ้าของบริษัทยาสีฟันวิเศษนิยม ได้สร้างบ้านใหม่ เป็นอาคารไม้หลังใหญ่ มีบริเวณกว้างขวาง เพื่อเป็นที่ปฏิบัติธรรมให้คุณแม่ที่บ้านพระโขนง หลังกลับจากบ้านนาซา อำเภอแกลง จังหวัดระยอง คุณแม่ก็ได้เข้าอยู่ที่บ้านหลังใหม่ในวันที่ ๑๐ มีนาคม และทำพิธีเปิดป้ายเมื่อวันที่ ๑๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๙๙ หลังจากนั้น คุณแม่ท่านก็ได้อาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้จนกระทั่งถึงวันวายชนม์
    ยังมีกิจกรรมต่าง ๆ ที่สำคัญอย่างมากมายที่บ้านหลังนี้ เช่น อธิษฐานธรรมบรรจุที่พระพุทโธองค์กลาง ให้ลูก ๆ และศิษย์ร่วมกันสร้าง พระพุทธรูปทองเหลืองหน้าตักกว้าง ๖ นิ้ว
    และยังมีพิธีเก็บศิลาน้ำ เมื่อ ๓ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๙๙ อธิษฐานศิลาน้ำศักดิ์สิทธืเพื่อป้องกันอันตรายต่าง ๆ ซึ่งในวันดังกล่าวมีผู้ไปร่วมงานประมาณ ๔๐๐ คน
    กิจกรรมต่าง ๆ เช่นการอธิษฐาน การรักษาโรค ท่านทำให้โดยที่ไม่เคยเรียกร้องใด ๆ และกระทำอย่างนี้เรื่อยมาเป็นเวลา ๒๐ กว่าปี บรรดาค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ก็ได้บรรดาเหล่าสานุศิษย์และลูก ๆ ช่วยกันถวายเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายต่าง ๆ

    ช่วงท้ายของชีวิต

    ในปี พ.ศ. ๒๕๐๑ ท่านเริ่มปฏิญาณไม่รับรักษาโรคด้วยวิธีการนวดให้แก่ผู้ชาย เว้นไว้แต่ธรรมจะบันดาล การรักษาโรคในระยะนี้จะเป็นการรักษาโดยอธิษฐานเพียงอย่างเดียว ส่วนการสั่งสอนและอบรมธรรมะยังคงปฏิบัติกันอย่างต่อเนื่อง จนถึงวันก่อนที่ท่านวายชนม์ ๑ วัน
    ประมาณปี พ.ศ. ๒๕๐๖ ท่านเริ่มมีอาการป่วยบ้าง หายบ้าง แต่ก็ยังคงบำเพ็ญการบุญอย่างต่อเนื่อง

    การวางสังขารทิ้งร่างวายชนม์

    นับแต่เดือน มกราคม พ.ศ. ๒๕๐๗ เป็นต้นมา คุณแม่มีอาการป่วยเป็นโรคไต หัวใจอ่อน โลหิตจาง และความดันโลหิตสูง ติดต่อกันมาเป็นลำดับ อาการมีแต่ทรงกับทรุด ท่านไม่ยอมรับการรักษาจากแพทย์ แม้ว่านายแพทย์ปรีดา ล้วนปรีดา กับ แพทย์หญิงวัฒนา ดวงจันทร์ ซึ่งเป็นศิษย์ใกล้ชิดได้อ้อนวอนขอให้รับการรักษาจากแพทย์ โดยวีฉีดยา ให้น้ำเกลือ และกลูโคส และให้รับประทานยาแผนปัจจุบันบ้างเป็นครั้งคราว ท่านก็ไม่ยอม จะพาไปโรงพยาบาลท่านก็ไม่ไป ท่านต้องนอนป่วยลุกนั่งไม่ได้เป็นเวลา ๙ เดือน
    บรรดาศิษย์ได้พากันอ้อนวอนว่า “ คุณแม่ได้อธิษฐานธรรมด้วยสัจจวาจา รักษาโรคร้ายของลูก ๆ หลาน ๆ และคนอื่นให้หายได้ ทำไมเล่าคุณแม่จึงไม่อธิษฐานเพื่อตนเองบ้าง”
    ท่านตอบว่า “ ถ้าแม่อธิษฐานเพื่อตนเอง ก็เท่ากับว่าแม่ยากมีชีวิตอยู่ อยากมีความสุข อยากพบสิ่งใหม่ ๆ บนพื้นพิภพล้วนเป็นกิเลส แม่ทำเช่นนั้นไม่ได้”
    บรรดาบุคคลในคณะสามัคคีวิสุทธิ์ เมื่อได้ยินคำพูดของท่านแล้ว เต็มไปด้วยความเศร้าใจ สะเทือนใจอย่างคาดไม่ถึง นี่ละคือผู้สิ้นอาสวะกิเลศ ผู้บรรลุ อาขยญาณโดยแท้ สมแล้วที่ท่านเป็นนักบุญ เป็นผู้นำในงานบุญของชาวคณะ สามัคคีวิสุทธิ์ที่ท่านก่อตั้งขึ้นมา

    เมื่อวันที่ ๓-๔-๕ กันยายน พ.ศ. ๒๕๐๗ ท่านมีอาการอ่อนเพลียมาก เหนื่อยในเวลาพูด เบื่ออาหาร มีเสมหะเหนียว ๆ ในลำคอ รับประทานอาหารได้เพียง ๒-๓ คำเท่านั้น
    ในวันที่ ๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๐๗ คุณแม่ก็ยังคงทักทายทุกคนอย่างแจ่มใส การสวดมนต์ก็ยังคงปฏิบัติกันเป็นปกติ ไม่เคยมีใครรู้สึกสงสัย และเอะใจเลย ก่อนหน้านี้ประมาณ ๑ สัปดาห์คุณแม่ได้สั่งให้หยุดนาฬิกาเรือนใหญ่ไว้ในเวลา ๑๑ นาฬิกาเศษทั้งสองเรือน โดยท่านให้เหตุผลว่า “หนวกหู”
    แล้ววันสำคัญที่ชาวคณะสามัคคีสุทธิ ได้ประสบความเศร้าโศกรันทดใจ อย่างใหญ่หลวงก็มาถึง เพราะในเวลา ๑๑.๒๐ นาฬิกา ของวันที่ ๗ กันยายน พ.ศ. ๒๕๐๗ คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ได้วางสังขารทิ้งร่างจากไปอย่างไม่มีวันกลับ
    คุณบุญเนื่อง ชิตะโสภณ ได้บันทึกเหตุการณ์ดังกล่าว ไว้ด้วยความเศร้าสลดดังนี้
    “ เช้าวันจันทร์ที่ ๗ กันยายน พ.ศ. ๒๕๐๗ ก่อนเวลา ๑๑.๐๐ น. คุณแม่ยังพูดคุยกับคุณอุไรและหลานนิดาอย่างเคย แต่อาหารไม่ยอมรับประทาน เวลาประมาณ ๑๐.๐๐ น.พี่ละมัย มาเยี่ยมพบว่าอาการอ่อนเพลียมาก หายใจตื้น ไม่คุยหลับตา เอามือขวากุมศีรษะ หายใจช้าลง ชีพจรอ่อนคลำไม่พบ หายใจออกกว่าเข้าระยะสั้น หยุดหายใจสนิทเมื่อเวลา ๑๑.๒๐ นาฬิกา โดยปราศจากอาการทุรนทุรายแต่ประการใด นับว่าท่านไปอย่างสงบจิง ๆ ไม่มีการสั่งเสียใด ๆ”

    เมื่อคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม วายชนม์แล้ว บรรดาคณะสามัคคีวิสุทธิรับแจ้งข่าว ทราบข่าว ต่างหลั่งไหลมากราบศพ เคารพศพ สวดอภิธรรมบำเพ็ญกุศลที่บ้านพระโขนงทุกคืน ได้ร่วมแห่ขบวนศพไปวัดธาตุทอง วันที่ ๑๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๐๗ เวลา ๑๓.๐๐ น. และร่วมบำเพ็ญกุศลศพถึงวันที่ ๑๓ กันยายน และต่อมาทุกวันอาทิตย์อย่างคับคั่งตลอดมาจนกระทั่ง วันที่ ๒๓-๒๔ และวันที่ ๒๕ กันยายน พ.ศ. ๒๕๐๗ อันเป็นวันประชุมเพลิง


    รูปด้านล่าง

    รูปกระดาษผิวเปลือกส้ม เลี่ยมทองพร้อมถุงเขียวเหนี่ยวทรัพย์ มีเงินนับยิ้มกริ่ม
    ซึ่งด้านหลังบรรจุอัฐิธาตุ เกศา ผ้าอธิษฐาน ถุงเขียวเหนี่ยวทรัพย์ มีเงินนับยิ้มกริ่ม ศิลาน้ำ พลอยเสก เหรียญอธิษฐาน และของอธิษฐานอื่นๆของคุณแม่ด้วยครับ ชิ้นนี้ได้นำถวายท่านเจ้าคุณพระอุดมวัฒนมงคล เจ้าอาวาสวัดถ้ำวัฒนมงคล อ.เขาชะเมา จ.ระยอง แล้วครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P2040245.JPG
      P2040245.JPG
      ขนาดไฟล์:
      178.3 KB
      เปิดดู:
      7,706
    • P2040243.JPG
      P2040243.JPG
      ขนาดไฟล์:
      179.7 KB
      เปิดดู:
      8,502
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กันยายน 2018
  2. st-antique

    st-antique ขอบารมีคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม เป็นที่พึ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    18,860
    ค่าพลัง:
    +84,233
    พระพุทโธน้อย พิมพ์เล็กไหล่จุด เนื้อผง(น้ำมัน)

    พระพุทโธน้อย พิมพ์เล็ก ไหล่จุด เนื้อผงน้ำมัน เป็น พระพุทโธน้อย พิมพ์เล็ก อีกหนึ่งพิมพ์ที่มีความสวยงาม และเป็นที่นิยมของผู้ที่ชื่นชอบ พระพุทโธน้อย ของคุณแม่บุญเรือนครับ

    องค์นี้เป็นองค์ที่ผมเก็บไว้ใช้ส่วนตัวครับ

    564845_479572528730511_2129238319_n.jpg 946662_570625252958571_199884213_n.jpg

    ติดตามอ่าน เรื่อง พระพุทโธน้อย ได้ที่หน้า 13 ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 เมษายน 2017
  3. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,040
    [​IMG][​IMG] [​IMG]

    กราบคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม กราบหนึ่ง กราบสอง กราบสาม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 สิงหาคม 2012
  4. st-antique

    st-antique ขอบารมีคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม เป็นที่พึ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    18,860
    ค่าพลัง:
    +84,233
    ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณ Chang_oncb

    เข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความรู้ หรือว่าหากมีพระเครื่องหรือของอธิษฐานของคุณแม่ ก็เอามาโพสให้เพื่อนๆ ได้ชมกันได้นะครับ
     
  5. st-antique

    st-antique ขอบารมีคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม เป็นที่พึ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    18,860
    ค่าพลัง:
    +84,233
    ล็อกเก็ต คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม

    ล็อกเก็ตอันนี้ลูกศิษย์ซึ่งเป็นเจ้าของเดิม ได้นำเกศาของคุณแม่ที่ได้รับไว้มาใส่ที่ด้านหลังด้วย เส้นเกศาของคุณแม่ที่สังเกตเห็นจะมีลักษณะที่ใสมาก บางเส้นใสและสุกแวววาวเหมือนแก้วเลยครับ (การสร้าง ขณะนี้กำลังหาข้อมูลที่แท้จริงอยู่ครับ)

    p3030359-jpg.2659492.jpg p3030360-jpg.2659493.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P3030359.JPG
      P3030359.JPG
      ขนาดไฟล์:
      139.7 KB
      เปิดดู:
      1,634
    • P3030360.JPG
      P3030360.JPG
      ขนาดไฟล์:
      168.2 KB
      เปิดดู:
      1,549
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 เมษายน 2017
  6. st-antique

    st-antique ขอบารมีคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม เป็นที่พึ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    18,860
    ค่าพลัง:
    +84,233
    ถุงเขียว เหนี่ยวทรัพย์ มีเงินนับยิ้มกริ่ม

    อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นสุดยอดของอธิษฐาน ของคุณแม่บุญเรือน ครับ ได้จัดสร้างขึ้นแล้วนำไปอธิษฐานจิตที่วัดพระพุทธบาท จ.สระบุรี ก่อนนำมาแจกจ่ายให้ลูกศิษย์ ที่วัดท่าผา จ.ราชบุรี (***จากรูป คือถุงเขียวที่แจกที่วัดท่าผาครับ***) ได้นำไปใช้เพื่อความก้าวหน้าทางการงาน การเงิน เด่นมากด้านโภคทรัพย์และโชคลาภ ผมมีประสบการณ์ตรง จากถุงเขียวฯของคุณแม่มาหลายครั้งแล้วครับ เดี๋ยวจะมาเล่าสู่กันฟังอีกครั้ง ตอนนี้ขอลงวัตถุมงคลของท่าน เพื่อให้เพื่อนๆ ได้ดู และศึกษาก่อนว่า คุณแม่ฯ ได้สร้างสิ่งมงคลใดไว้ให้ลูกศิษย์ของท่านบ้าง มีของอธิษฐานอีกมากมายหลายอย่างครับ ที่คุณแม่บุญเรือน ได้อธิษฐานจิตไว้ เพื่อให้ลูกศิษย์ได้นำไปใช้ในวาระต่างๆ หากมีโอกาสผมจะขออนุญาตลูกศิษย์คุณแม่ที่ผมนับถือหลายท่าน นำรูปถ่ายของอธิษฐานที่ไม่ค่อยได้พบเห็นมาลงให้เพื่อนๆ ได้ดูกันครับ เพื่อเสริมความรู้ และหากวันหน้าท่านไปพบเจอของเหล่านี้ที่ใดจะได้ไม่ปล่อยเลยไปโดยไม่รู้คุณค่า

    *** เรื่องถุงเหนี่ยวทรัพย์ของ คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ผมขอเวลารวบรวมข้อมูลก่อนนะครับ ตอนนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าแท้จริงเป็นอย่างไร มีถุงเหนี่ยวทรัพย์จำนวนเท่าไหร่ มีกี่สีกันแน่ รอติดตามเนื้อหากันต่อไปนะครับ วันหนึ่งหากรู้ที่แน่ชัดแล้วจะมาแจ้งให้ทราบอีกครั้งครับ***

    ถุงเขียวเหนี่ยวทรัพย์ มีเงินนับยิ้มกริ่ม ยุคต้นของ
    คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ปี 2498 แจกที่วัดท่าผา จ.ราชบุรี

    %B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B9%8C21-4-55%20%2855%29.jpg
    %B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B9%8C21-4-55%20%2854%29.jpg

    ขอขอบคุณ คุณถนอม เมฆลอย(ตูน ดอนเจดีย์) ที่เอื้อเฟื้อภาพเพื่อการเผยแพร่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 เมษายน 2017
  7. st-antique

    st-antique ขอบารมีคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม เป็นที่พึ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    18,860
    ค่าพลัง:
    +84,233
    ถุงเขียว เหนี่ยวทรัพย์ มีเงินนับยิ้มกริ่ม อีกใบครับ

    ถุงเขียวเหนี่ยวทรัพย์ มีเงินนับยิ้มกริ่ม นี้ หากเป็นลูกศิษย์คุณแม่ฯแต่ดั้งเดิมแล้ว และมีของแท้บูชาจะรู้ถึงพุทธคุณอย่างดีครับว่ามีความโดดเด่นด้านโภคทรัพย์ การเงินเป็นอย่างมาก เซียนพระใหญ่ๆก็จะนิยมเก็บไว้ใช้ ที่เคยเห็น คือ คุณบอย ท่าพระจันทร์ โดยเลี่ยมไว้พร้อมกับรูปคุณแม่ฯใส่ตลับทองฝังเพชรสวยงามแขวนบูชาติดตัวอยู่ครับ ราคาเช่าหากันในวงการโดยเฉพาะเซียนใหญ่ๆ สำหรับถุงรุ่นแรกหรือที่นิยมเรียกว่า ถุงเขียวเหนี่ยวทรัพย์ชุดท่าผา (คือถุงเขียวเหนี่ยวทรัพย์ฯที่คุณแม่ฯได้แจกในงานทำบุญที่วัดท่าผา จ.ราชบุรี) จะมีค่าเช่าบูชาที่สูงมาก ราคาหลักหมื่นถึงหลักแสน ถ้าเป็นถุงเหนี่ยวทรัพย์ที่จัดทำและคุณแม่ฯอธิษฐานให้หลังชุดท่าผาจะมีราคาไม่แพงมากเนื่องจากมีจำนวนมากพอสมควร แต่เรื่องพุทธคุณไม่ว่าจะรุ่นแรกหรือรุ่นที่สร้างถัดมา หากผ่านการอธิษฐานโดยคุณแม่ฯแล้วความศักดิ์สิทธิ์ย่อมไม่แตกต่างกันครับ ถ้าจะแตกต่างก็คงแตกต่างที่ค่านิยมของคนที่บูชามากกว่า

    ใบนี้เป็นของเพื่อนผมครับ เป็นรุ่นที่สร้างและอธิษฐานหลังชุดท่าผา ขอเอารูปมาลงให้เพื่อนๆได้ศึกษากัน

    img_0079-jpg.2022786.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0079.JPG
      IMG_0079.JPG
      ขนาดไฟล์:
      143.4 KB
      เปิดดู:
      1,433
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 เมษายน 2017
  8. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,040
    [​IMG][​IMG] [​IMG]

    กราบคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม กราบหนึ่ง กราบสอง กราบสาม ข้าพเจ้าไม่เคยรู้จักคุุณแม่มาก่อน และไม่เคยมีวัตถุมงคลของคุณแม่ แต่เข้ามากราบไหว้ เพราะเคารพศรัทธาในพระอริยะเจ้า เช่นคุณแม่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 สิงหาคม 2012
  9. st-antique

    st-antique ขอบารมีคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม เป็นที่พึ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    18,860
    ค่าพลัง:
    +84,233
    อนุโมทนา ครับ คุณ Chang_oncb


    อนุโมทนา ครับ คุณ Chang_oncb
    ยินดีครับ การกราบไหว้ผู้ที่ควรกราบไหว้ ถือได้ว่าเป็นสิริมงคลแก่ตัวเราเองครับ
     
  10. สมาธิ7689

    สมาธิ7689 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    428
    ค่าพลัง:
    +1,253
    มีเยอะจังเลยครับ น่าอิจฉาๆๆ
    ที่มีอยู่ (ทันไม่ทันไม่แน่ใจ แต่รู้กรอบสีส้มหาข้อมูลอยู่ครับ)

    เพิ่มรูปครับ หลังเรียบ ...และรูปคุณแม่ ของชอบส่วนตัว บังเอิญได้มา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SANY0481.JPG
      SANY0481.JPG
      ขนาดไฟล์:
      86.2 KB
      เปิดดู:
      1,485
    • SANY0594.JPG
      SANY0594.JPG
      ขนาดไฟล์:
      84.7 KB
      เปิดดู:
      1,528
    • SANY0595.JPG
      SANY0595.JPG
      ขนาดไฟล์:
      92 KB
      เปิดดู:
      1,303
    • SANY0419.jpg
      SANY0419.jpg
      ขนาดไฟล์:
      135.4 KB
      เปิดดู:
      1,382
    • SANY0420.jpg
      SANY0420.jpg
      ขนาดไฟล์:
      144.7 KB
      เปิดดู:
      1,234
    • SANY0674.JPG
      SANY0674.JPG
      ขนาดไฟล์:
      110 KB
      เปิดดู:
      1,580
    • SANY0675.JPG
      SANY0675.JPG
      ขนาดไฟล์:
      86 KB
      เปิดดู:
      1,287
    • P1010015.JPG
      P1010015.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.5 MB
      เปิดดู:
      1,397
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤษภาคม 2012
  11. st-antique

    st-antique ขอบารมีคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม เป็นที่พึ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    18,860
    ค่าพลัง:
    +84,233
    ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณสมาธิ7689

    ขอบคุณครับที่เข้ามาเยี่ยมชม อย่าอิจฉาเลยครับ ค่อยๆเก็บสะสมเดี๋ยวก็ได้มากเองครับ ของผมที่มีก็เช่าหามาไม่นานนี่เองครับ โชคดีที่ได้รู้จักพี่ใจดีคนหนึ่งแบ่งให้มาใช้ ส่วนใหญ่จะได้ของสวยๆมาครับ เพราะพี่เขาแนะนำว่าหากจะเก็บของคุณแม่ ตอนนี้ของสวยๆยังเยอะ ราคาก็ยังไม่สูงมาก ให้เลือกเก็บของสวยๆครับอย่าใจร้อนผมก็ค่อยๆเก็บมาเรื่อยๆ ได้เท่าที่เห็นนี่แหละครับ ไม่มากมายอะไร แต่ที่ดีใจที่สุดคือการได้รูปคุณแม่ ที่เป็นกระดาษหนังช้าง และถุงเขียว เหนี่ยวทรัพย์ฯ ของคุณแม่มาใช้ครับ


    เรื่องรูปคุณแม่ ในกรอบสีส้ม ผมก็ไม่กล้าฟันธงครับต้องให้พี่อีกคนที่เป็นลูกศิษย์และรู้ประวัติรูปต่างๆของคุณแม่ช่วยดูครับ เท่าที่รู้รูปนี้จะเรียกว่ารูปลายเซ็นต์ครับ ส่วนพระมงคลมหาลาภ นี่แท้แน่นอน แถมยังได้เกศาคุณแม่ฯมาด้วย นี่สุดยอดเลยครับ หากมีประสบการณ์ที่เกิดจากการบูชาคุณแม่ อย่าลืมเข้ามาแลกเปลี่ยนให้เพื่อนสมาชิกท่านอื่นๆได้ทราบกันบ้างนะครับ

    ขอบารมีคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ช่วยให้คุณสมาธิ7689 ประสบความสุข ความก้าวหน้า ในชีวิตการงาน การเงิน และให้ได้ของคุณแม่ ที่สวยๆมาบูชาอีกมากๆครับ
     
  12. vavakoko

    vavakoko เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    422
    ค่าพลัง:
    +1,191
    กราบคุณเเม่บุญเรือนครับ รออ่านอยู่ลงอีกเรื่อยๆนะครับ
     
  13. st-antique

    st-antique ขอบารมีคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม เป็นที่พึ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    18,860
    ค่าพลัง:
    +84,233
    ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณvavakoko

    ยินดีครับ แต่ต้องขอออกตัวก่อนนะครับว่าผมก็ไม่ได้เก่งมากมายอะไรหรอกครับ ที่เอามาลงก็ได้จากการศึกษามา พยายามจะลงรูปวัตถุมงคล ของคุณแม่ ท่านให้มากครับ เพราะคนทั่วไปจะได้ทราบว่าจริงๆแล้ว พระเครื่อง วัตถุมงคล และของอธิษฐานของคุณแม่ ยังมีอีกมากมายหลายอย่าง ที่ดีดี ถูกปกปิดกันอยู่เงียบๆก็มี อยากให้ของเหล่านี้ได้เป็นที่ประจักษ์เพื่อเผยแพร่ลูกศิษย์ที่นับถือท่านจะได้นำมาใช้ให้เกิดความก้าวหน้าของชีวิตต่อไปครับ

    ขอบารมีธรรมของ คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม คุ้มครองรักษา คุณvavakoko ให้ประสบความสุข ความเจริญก้าวหน้าในชีวิต หน้าที่การงาน การเงิน นะครับ
     
  14. st-antique

    st-antique ขอบารมีคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม เป็นที่พึ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    18,860
    ค่าพลัง:
    +84,233
    รูปขอบแสตมป์ คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม หายากมากครับ

    b-25-04-12-23-14-05-jpg.2023208.jpg
    ขอบพระคุณ พี่นก บ้านดอน และคุณก้องเกียรติ จันทร์แก้ว ที่เอื้อเฟื้อภาพ เพื่อการเผยแพร่
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 เมษายน 2017
  15. st-antique

    st-antique ขอบารมีคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม เป็นที่พึ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    18,860
    ค่าพลัง:
    +84,233
    พระพุทโธน้อย พิมพ์ใหญ่จีวรแซม ยันต์พิมพ์จัมโบ้ เนื้อดินผสมผงพุทธคุณ ปี 2494

    2813272-1dcf9-jpg.2757965.jpg 2813272-2e1a6-jpg.2757966.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 เมษายน 2017
  16. st-antique

    st-antique ขอบารมีคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม เป็นที่พึ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    18,860
    ค่าพลัง:
    +84,233
    ประสบการณ์ จากการบูชาคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม

    (เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญานในการอ่าน)

    หลังจากที่ได้ลงรูปภาพวัตถุมงคลคุณแม่ มาพอประมาณ วันนี้เลยหาโอกาสมาแบ่งปันประสบการณ์ดีดี ที่เกิดขึ้นกับตัวผมเองจากการ บูชา ถุงเขียวเหนี่ยวทรัพย์ มีเงินนับยิ้มกริ่ม ครับ ประมาณสองปีก่อนหน้านี้ผมเองก็ได้ยินชื่อเสียงของคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม มาพอประมาณ แต่ยังไม่ได้สนใจมากนัก เพราะช่วงนั้นผมกำลังศึกษาและเก็บสะสมพระเครื่องของ หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล อยู่ กอปรกับผมเคยโทรหาร้านพระเครื่องเพื่อจะเช่าพระพุทโธน้อย ของคุณแม่ฯ ราคาที่ได้ทราบตอนนั้น องค์ละ 3,500 - 4,000 บาท พระสวยมากครับแต่คงยังไม่ถึงเวลาหรือผมไม่มีบุญที่จะได้บูชาของคุณแม่หรืออย่างไรไม่ทราบจึงไม่ได้เช่าบูชามาในตอนนั้น จนเวลาล่วงเลยไปประมาณปีกว่า ผมก็ได้กลับมาศึกษาประวัติของคุณแม่ อย่างจริงจังและคิดที่จะหาเช่าบูชาวัตถุมงคลของท่านมาบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล และต้องการให้การงานที่ทำอยู่ก้าวหน้ายิ่งขึ้นไป (ผมทำธุรกิจส่วนตัวกับเพื่อนๆครับ ค้าขายอะไรประมาณนี้ แต่ด้วยสถานการณ์ต่างๆช่วงน้ำท่วมทำให้การค้าขายลดลงไป ยอดขายไม่ดีการเงินเริ่มไม่คล่องตัวเหมือนเดิม จึงนึกถึงคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ขึ้นมาครับ)ผมก็ลองหาข้อมูลวัตถุมงคลของท่านอย่างจริงจังอีกครั้ง ว่าจะเช่าหาอะไรมาใช้เพื่อให้เกิดพุทธคุณตรงกับงานที่ตัวเองทำมากที่สุด โทรสอบถามจากร้านที่ให้เช่าพระเครื่องคุณแม่ก็หลายร้าน ส่วนใหญ่ก็แนะนำพระพุทโธน้อย กันทั้งหมด ผมก็พยายามหาข้อมูลอีกว่าแท้จริงแล้ว เซียนพระที่ว่านับถือคุณแม่จริงๆแล้วใช่วัตถุมงคลอะไรของท่าน จนวันหนึ่งผมได้เห็นถุงเขียวเหนี่ยวทรัพย์ฯ ที่หน้าเวป เลยเข้าไปดูข้อมูลแต่ไม่ค่อยมีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องถุงเขียวนี้เท่าไหร่ แต่ก็นึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อปลายปีได้ดูรายการคนอวดผี ตอนที่ คุณบอย ท่าพระจันทร์ มาออกรายการเล่าประสบการณ์ที่เกิดจากการบูชาคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม แล้วมีช่วงที่ต้องโชว์พระที่แขวนอยู่ บอย ท่าพระจันทร์ บอกว่าเขาแขวนรูปคุณแม่บุญเรือน ซึ่งเป็นรุูปลายเซ็นต์ เลี่ยมทองฝังเพชรสวยงามมาก ซึ่งพอสังเกตุให้ดีด้านหลังรูปเป็นถุงเขียวฯครับ แต่คุณบอย ไม่ได้บอกว่าคืออะไร อาจจะเป็นเพราะพิธีกรไม่ได้ถามก็ได้เลยไม่มีการบอก แล้วคุณบอย ยังบอกอีกว่า ที่ร้านเขาจะไม่ได้ให้เช่าพระพุทโธ แต่เขาจะเช่าไว้เพื่อแจกให้คนอื่น เพียงเท่านี้ผมเลยรู้แล้วว่าผมควรจะเช่าหาวัตถุมงคลอะไรของคุณแม่มาใช้ ผมหาข้อมูลร้านที่ให้เช่าพระของคุณแม่ ทันทีว่าร้านไหนมีถุงเขียวให้เช่าบ้าง หาได้หลายร้านแต่ส่วนใหญ่จะโชว์ของทั้งสิ้น ร้านที่มีก็ให้เช่าราคาสูงโด่ง จนผมก็ไม่มีปัญญาเช่าหา ผมก็เลยอธิษฐานต่อคุณแม่ว่า ตัวลูกนับถือคุณแม่ อยากจะได้ถุงเขียวฯของคุณแม่มาเพื่อบูชาให้ธุรกิจและชีวิตดีขึ้น หากคุณแม่มีเมตตาขอให้ลูกหาถุงเขียวได้ในราคาที่ไม่แพงเกินไป สามารถเช่าหาได้ด้วยเถิด หลังจากอธิษฐานแล้วผมก็ลองหาข้อมูลใหม่อีก จนมาเจอร้านหนึ่งซึ่งมีถุงเขียวอยู่พอดี โทรถามราคาไม่แพงจริงๆครับ ข้างในถุงยังมีของอธิษฐานจากลูกศิษย์คนเก่าอยู่หลายรายการด้วยครับจนผมตกลงเลยว่าจะเช่าโดยแทบไม่ต้องคิดอะไรเลย และนัดรับของเช้าวันถัดไป พอถึงเวลานัดผมก็เจอกับพี่ที่เป็นเจ้าของร้าน พี่เขาใจดีมากครับ ให้ข้อมูลความรู้ต่างๆเกี่ยวกับคุณแม่กับผมอย่างดี ความเป็นมาของถุงเขียวฯ พระพุทโธ และวัตถุมงคลหลายอย่างที่คุณแม่สร้างขึ้น พอช่วงเวลาจะจ่ายเงินจริงพี่เขาลดราคาเช่าให้ผมอีก 1000 บาทครับ ผมล่ะอึ้งเลยดีใจมากครับที่ได้เช่าของที่ถูกลงมาอีก แต่ครั้งนี้ผมก็ยังโชคดีอีกชั้นครับ คือ ได้เช่าพระพุทโธน้อย สภาพสวยมาก อีก 2 องค์ ในราคาที่เท่ากับเมื่อสองปีก่อนคือ องค์ละ 3,500 บาทเท่านั้น พระพุทโธน้อย สององค์นี้ผมตั้งใจเช่าไปให้น้องชายกับน้องสะใภ้ จ่ายเงินเสร็จก็แยกย้ายกันกลับ ผมก็เดินทางกลับไปที่ตัวเมืองชลบุรีเพื่อซื้อของเตรียมจัดงานครบรอบวันตายคุณแม่ผม ครบ 2 ปี ขึ้นรถไปก็สตาร์ทรถแล้วก็นำถุงเขียวฯกับพระพุทโธน้อยที่บูชามาใส่ในมือบอกกล่าวคุณแม่ฯว่าลูกหลานคนนี้ทำมาหากินด้วยความสุจริต แต่ด้วยภาวะน้ำท่วมทำให้การค้าขายไม่ดี จึงได้แสวงหาครูอาจารย์เมตตาอนุเคราะห์ มาเจอคุณแม่ฯวันนี้ขอบารมีคุณแม่ฯเมตตาแสดงให้เห็นว่าเป็นครูบาอาจารย์ที่เมตตา เกื้อหนุนลูกหลานคนนี้ได้จริงด้วยเถิดจะได้เดินหน้าทำมาหากินอย่างเต็มที่ ไม่ต้องพะวงใดใดอีก หลังจากนั้นก็ขับรถไปซื้อของ ช่วงขับรถกำลังจะกลับไม่น่าจะเกิน 30 นาทีหลังจากที่ได้อธิษฐานก็มีโทรศัพท์จากลูกค้าที่เคยซื้อของร้านผม แต่หายไปนานมากจนไม่คิดว่าจะติดต่อมาแล้ว ก็โทรมาสั่งของร้านผมเป็นจำนวนเงินเกินที่ผมเช่าของคุณแม่มาเมื่อกี๋นี้ซะอีก และพอกลับถึงบ้าน ก็มีลูกค้าติดต่อเข้ามาสั่งของอีกหลายรายการ เป็นเงินหลายหมื่นบาทเลยทีเดียว หลังจากนั้นกิจการของร้านผมที่ทำร่วมกับเพื่อนๆก็มียอดขายขยับขึ้นมาจนปัจจุบันสภาวะที่ร้านค้าคล่องตัวแล้วครับ นับจากวันที่ผมเช่าบูชาของคุณแม่มาถึงวันนี้เพียงแค่ 2 เดือนเองครับ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ สำหรับผมตอนนี้นับถือคุณแม่อย่างเต็มใจ และขอพรท่านบ่อยๆครับ แต่ก็ไม่ลืมที่จะสวดมนต์ รักษาศีล ทำตัวเป็นคนดีตามที่คุณแม่ท่านคอยสั่งสอนลูกศิษย์เมื่อตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ครับ ประสบการณ์ของผมอาจจะไม่ได้โลดโผนมากมาย แต่ก็อยากจะแชร์ให้เพื่อนได้รู้และมั่นใจ เผื่อที่ใครบางคนกำลังหาที่พึ่งทางใจในการดำเนินชีวิต ผมอยากให้ลองคิดถึงคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม อุบาสิกาผู้สูงส่งด้วยบารมีธรรมท่านนี้ด้วยครับ วันนี้คงพอแค่นี้ก่อน เดี๋ยวมีประการณ์ดีดีอีก จะเข้ามาเล่าให้เพื่อนๆฟังใหม่นะครับ ส่วนเพื่อนๆท่านใดมีประสบการณ์ดีดี ก็อย่าเก็บงำไว้คนเดียวนะครับ นำมาบอกเล่าให้ฟังกันบ้างเพื่อเป็นการเผยแพร่เกียรติคุณของคุณแม่บุญเรือน ให้คนอื่นได้รับรู้มากขึ้นครับ

    ศิษย์คนนี้ขอกราบ คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ด้วยใจเคารพยิ่งครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ตุลาคม 2017
  17. st-antique

    st-antique ขอบารมีคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม เป็นที่พึ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    18,860
    ค่าพลัง:
    +84,233
    พระพุทโธน้อย พิมพ์ใหญ่หน้าจัมโบ้(หูขีด) เนื้อผงพุทธคุณ ปี 2494

    พระพุทโธน้อย พิมพ์ใหญ่หน้าจัมโบ้(หูขีด) เป็นอีกพิมพ์หนึ่งของพิมพ์ใหญ่ สันนิษฐานว่าเดิมทีผู้แกะพิมพ์จะทำการแกะพิมพ์ให้ออกมาเหมือนกับพิมพ์จัมโบ้ไว้หลายๆแม่พิมพ์เพื่อจะได้สะดวกในการกดพิมพ์พระและสามารถกดช่วยกันได้หลายคน แต่อาจจะด้วยความรีบหรือลืมพิจารณารายละเอียดแม่พิมพ์จึงทำให้ลืมแกะส่วนหน้าอกให้มีมิติเช่นเดียวกับพิมพ์จัมโบ้ แต่หน้าตาและขนาดองค์พระเหมือนกับพิมพ์จัมโบ้ทุกประการ ถึงจะไม่ใช่พิมพ์จัมโบ้ที่นิยมของวงการแต่ด้วยความสวยงามของหน้าตาและองค์พระ พิมพ์ใหญ่หน้าจัมโบ้(หูขีด)นี้จึงได้รับความนิยมรองลงมาจากพิมพ์จัมโบ้และถือเป็นพิมพ์ที่ค่อนข้างหายากอีกพิมพ์หนึ่งครับ


    1535429_731734313514330_218271734341616843_n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 เมษายน 2017
  18. q2499

    q2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    687
    ค่าพลัง:
    +1,844
    ขอบคุณครับที่นำมาเล่าสู่กันฟังผมจะได้เข้ามาเรียนรู้จากพี่บ่อยครับ
     
  19. jaguarnusing

    jaguarnusing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2011
    โพสต์:
    4,901
    ค่าพลัง:
    +15,583
    เฝ้าติดตามครับ :cool:
     
  20. แมวธนู

    แมวธนู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    327
    ค่าพลัง:
    +856
    คุณแม่บุญเรือน ท่านสุดยอดครับ
    ผมนับถือหมดใจโดยไร้ข้อกังขาใดๆทั้งสิ้น
    ท่านคือทองแท้ๆ ที่ไม่ย้อระย้ากับไฟแห่งการพิสูจน์เพื่อขอชมบารมีจากผู้นับถือ

    ของจริงต้องแบบนี้ !!!!

    ไม่ใช่บางที่ ซึ่งเอะอะก็อ้าง เดี๋ยวเป็นการลบหลู่ครู โน้นนี้นั่น
    ทองแท้ ย่อมไม่กลัวการพิสูจน์
    เก่งจริง ย่อมไม่ยี้หร่ากับทุกการทดสอบ
    ของจริง กล้าจริง แน่จริง ต้องคุณแม่บุญเรือน
    ฉันใด ฉันนั้น

    ต้องขอโทษด้วยถ้าคำพูดผม มันไปขัดหูใครบางคน
    แต่สิ่งที่พูด เป็นสิ่งที่ออกมาจากใจ

    ผมไม่เชื่ออะไรง่าย แถมออกแนวชอบลองของด้วยซ้ำ
    แต่พอมาเจอ คุณแม่บุญเรือน .... ความ"พยศ"ที่ฝั่งอยู่ในกมลสันดานของผม มันกลับกลายเป็น คำว่า "สิโรราบ" แทน

    จากไม่เคยรู้จักคุณแม่... ทุกวันนี้ พระเครื่องที่ผมอาราธนาติดตัวไปเสมอเวลาทำงาน จะมีเฉพาะ สายคุณแม่บุญเรือนเท่านั้น

    พระสายอื่นอาจจะเช่ามาบ้างเพื่อชื่นชม หรือเพื่อแจกจ่าย หรือหลงตามกระแส หรืออื่นๆ

    แต่ของคุณแม่บุญเรือน ผม"เชื่อ" ผม"ศรัทธา" และมีไว้เพื่อ"บูชา"

    เพราะจนแล้วจนรอด สำหรับผม ... พระ & หลวงพ่อที่ผมนับถือด้วยใจจริงๆจะไม่เยอะ
    ซึ่งคุณแม่บุญเรือน คืออันดับต้นๆในนั้น

    ไว้จะเอารูปมาให้ชม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 เมษายน 2012

แชร์หน้านี้

Loading...