เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

เล่าด้วยภาพ

เอาอีกหน่อย เดี๋ยวค่อยบรรยายละเอียด หยิบเจอตรงนี้ เอาตรงนี้ แต่ต้องเอาตั้งแต่สร้างเขื่อนก่อน สร้างแพเหล็ก แต่ยังหยิบไม่เจอ

แต่เอาตั้งแต่หลังคา มา หลัง บุด้วยฟรอยน่ะครับ ลงทุนหน่อยกันความร้อน ผมไม่ชอบพวกใยแก้ว เพราะนานไป ใยจะสลายและเป็นฝุ่นได้ครับ

แพกลางน้ำแบบนี้ ได้อยู่สักหลัง ปูเสื่อนอนรับลมเย็นๆ สบายใจครับ แต่ไม่มีวาสนาพอครับ



รูปแรกนี่ ถ่ายไปทางทิศเหนือ เห็นภูเขามาเป็น ฉาก ต้นตำนาน พยุหคีรี ( พยุห แปลว่าขบวน หมู่ กองทัพ ขบวนของหมู่ภูเขา ) ที่มาของคำน่ะครับ วิวสวยมากมองยาวออกไปจะเห็นคุ้งน้ำ ที่โค้งมาหาวัด คุ้งนี้ก็คือ ต้น ตำนาน คุ้งมัทรี ครับ พระนางมัทรี คือ พระชายาของพระเวสสันดร ที่ทำให้ การบำเพ็ญมหาทานบารมีของพระเวสสันดร บรรลุผล ทรงเป็นพระมารดา ของ กัญหา ชาลี นี่เอง

ส่วนทำไมถึงมีชื่อคุ้งมัทรี อันนี้เกิดไม่ทัน ลืมถามหลวงตา แต่บริเวณนี้ในยุคก่อน ก่อนหลวงตาจะมาอยู่ ( ท่านอยู่วัด สำโรงไปทางใต้ของวัดใหม่มาก่อนประมาณ สัก สามสี่ กิโล ท่านย้ายมาหลายวัด เพราะชอบสันโดษ ) บริเวณคุ้งมัทรีนี้ ห่างไกลมาก หลวงตาบอกว่าเป็นบริเวณที่ ผู้ร้ายที่โดนอาญาบ้านเมืองจะหนีมาอยู่ชุมนุมกัน เพราะไกลจากบ้านเมืองมาก ตำรวจมา ก็หนีง่ายเพราะมีหลายทาง หนีเข้าป่า หรือ เข้าไปในบึง ในเขตอำเภออุทัยที่เป็นบริเวณป่ากว้างใหญ่ บริเวณบึงใหญ่นี้ เคยมีการทำปืนเถื่อนมาก จนทางการ เปลี่ยนให้ไปทำอย่างอื่นแทน เช่นมีด สะแกกรัง อันมีชื่อเสียง ของช่างตุ่มช่างทิน หรือ ทำเครื่องมือเกษตรกรรม



เครื่องบนทั้งหมด เป็นไม้สักทองครับ ทอดเทียบกับแพเดิม แพเดิม หลวงตาใช้ที่นี่ มารับผ้ากฐินครับ



แม้แต่ กระเบื้องก็เป็น ไม้สักทองเอามาตัดเป็นแผ่นๆและเอามาปูน่ะครับ หายากมาก เป็นไม้สักทองทั้งชุด



มีรูป ผม และ เพื่อนวิศวกรใหญ่ ในรูป ที่ช่วยคุมแบบ แพฯ ให้เป็นไปตามหลักวิศวกรรม และ จินตนาการ ของ อาจารย์ อนันต์ และ ความประสงค์ของหลวงตา ครับ หลวงตาท่านพอใจแพนี้มากครับ

 

​

 

​

เหรียญพัดยศ หลวงตาเล็ก วัดใหม่ฯ​

 

ภาพนี่สวยงามมากครับ

เหรียญรุ่น สอง วัดสร้าง พัดยศ พิเศษ สร้างก่อนหล่อ พระพุทธสิหิงค์ หลายปี พระพุทธรูปด้านหลัง ปางสมาธิมาเหมือนกัน ตามสไตล์ หลวงตา ที่รู้อะไรก่อน ....ทุกครั้งไม่มีพลาด

ส่วนยันต์เจ้าคุณ นรฯ ยันต์น้ำเต้า มะ อะ อุ พ ฆ อ ( หมายถึงสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ และ อุล่าง ( ความหมายถึงเจ้าคุณ อุดม )

เจ้าคุณอุดม สร้างความดีมาตลอด มาโดยข้อหาจับยัด ต้องสึกมาเป็นทิด ข้อหา เครื่องราชฯ ตอนท่านสร้างวัด สร้างวัตถุมงคลเจ้าคุณนรฯแจก ท่านเอาตัว อุ มาลงไว้ใต้ยันต์ หมายถึงท่านสร้าง

ท่านเจ้าคุณนรฯ ท่านได้ เมตตาทำนายไว้ก่อนว่าท่านเจ้าคุณ อุดม จะ เดือดร้อนเพราะบริวาร

เหรียญนี้ มีปริศนาซ่อนไว้หลายชั้น ค่อยๆคิดไปน่ะครับ ท่านเจ้าคุณนรฯ เคยรู้จักหลวงปู่บุดดา ท่านเจ้าคุณนรฯ เป็นพระธรรมยุต ส่วนหลวงปู่บุดดาเป็นพระมหานิกาย พอมารู้จักกัน ท่านเจ้าคุณนรฯ เห็น หลวงปู่บุดดา เป็นเหมือนพญานกอินทรีย์ ในป่าใหญ่ โบยบินไปไหนตามอิสสระ แสวงหา โมกธรรมและสันโดษ ( หลวงปู่บุดดา ท่านสำเร็จมาก่อนหน้าแล้ว ) เลยต้องการ จะตามหลวงปู่บุดดาไป แต่ พระเดชพระคุณ สมเด็จพุฒโฆษาจารย์ ไม่ทรงอนุญาตให้ไป ( ตอนนั้นผมเข้าใจว่า ท่านเจ้าคุณนรฯ อาจจะยังอายุไม่มาก พึ่งพ้นนวกะมา น่าจะบวชมา ๖ ปี )

หลวงตาเล็กน่าจะเ็ป็นพระยุคเดียวกับหลวงปู่ บุดดา เป็นพระภิกษุ ๕ แผ่นดินเหมือนกัน แต่หลวงตาอ่อนอาวุโสกว่า อย่างน้อย ๑ รอบ การแยกมหานิกายของหลวงปู่บุดดา น่าจะเกิดไม่นานหลังจากที่ พระบาทสมเด็จ รัชกาลที่ ๔ ทรง แยก ออกเป็นสองนิกาย

ผมเองก็ไม่ทราบว่า หลวงตาไปเกี่ยวข้องกับท่านเจ้าคุณนรฯได้อย่างไร??? ท่านถึงเอายันต์น้ำเต้าของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ และ เจ้าคุณนรฯมาไว้ หลังเหรียญรุ่น ๑ และ รุ่น ๒ แต่ เหรียญสองรุ่นนี้สำคัญครับ เพราะหลวงตาท่านมีดำริห์ และมี นัยยะ ซ่อนอยู่ น่าจะมีอะไร ซ่อนๆอยู่ด้วย ยันต์ท่านเองมีเพียบ แต่ไม่เอา และ เหรียญรุ่น ๑ ออกมาหลังเจ้าคุณนร ฯ ล่ะสังขารในปีเดียวกัน เรียกว่าไล่ตามกันมา ยุคนั้น หลวงตามาที่วัดใหม่แล้ว ยังไม่มีคนที่เรียกว่า คนใน ไปเป็นคณะศิษย์แน่นอน ส่วนใหญ่น่าจะยังเป็นวุ้นอยู่ ท่านอยู่ที่นั่นเงียบๆ ทำเหรียญแจก ซึ่งคงเป็นชาวบ้านแถวนั้น ยังไม่มีคนมารู้จักท่านมากมายอย่างไร

ท่านแม่ชีก็ไปเจอหลวงตา หลังปี ๒๕๓๕ มาแล้ว ซึ่งหลัง เหรียญรุ่น แรก ร่วม ยี่สิบกว่าปี

ส่วนหลวงปู่บุดดาก็ไม่แน่ใจว่ามาเกี่ยวข้องกับ หลวงตาตรงไหน แต่ หลวงปู่บุดดา ท่านสนิทสนมกับ หลวงพ่อวัดท่าซุงมากครับ จนครั้งหนึ่งคนคิดว่าเป็นหลวงพ่อ ฤาษีลิงขาว แต่ด้วยวัยที่ต่างกันมาก ข่าวลือจึงหยุดไปเอง

 

​

 

​

เรื่องเกี่ยวกับผี ปีศาจ หลวงตาเล็ก เคยเล่าให้ฟังหลายครั้ง มีอยู่ครั้งหนึ่งท่านเตือนว่าแถวแยกพยุหะคีรี ผ่านไปแถวนั้นให้ระวังปีศาจแรงมาก อีกครั้งหนึ่งท่านเตือนว่า ขับรถออกไปจากวัดใหม่ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นห้ามหยุดแวะ เป็นอันขาด แม้จะมีคนมายืนโบกมือ ห้ามหยุด

 

​

บอกตรง ๆ ปัจจุบันนี้ คบกับผี มากกว่าคบกับคน ผีไม่โกหกหลอกลวง ผีต่อหน้าเป็นอย่างไร ลับหลังเป็นอย่างนั้น ไม่เหมือนคน ต่อหน้าอีกอย่าง ลับหลังอีกอย่าง คบกับผีดีกว่าคบกับคน

 

มาหน้าตาแบบนี้ ...แหะๆ ก็ทำใจคบยากหน่อย ต้องหลับตา

 

เดินทางไปต่างจังหวัดบ่อยมาก ทั่วประเทศไทย ไ่ม่มีถนนสายไหนที่ไม่มีคนตาย จึงได้ตั้งจิตอธิษฐานทุกครั้งว่า "อิทัง ปุญญพลัง บุญใด กุศลใดที่ข้าพเจ้าได้สร้างสม มาดีแล้วแต่อดีตชาติ จนถึงปัจจุบันในวันนี้ และที่จะได้กระทำต่อไปในอนาคต จะยังเกิดประโยสช์ ความสุข แก่ข้าพเจ้าเพียงใด ข้าพเจ้าขออุทิศ ส่วนบุญส่วนกุศลทั้งหลายเหล่านั้น ให้กับสรรพสัตว์ทั้งหลาย ดวงวิญญาณทั้งหลาย ที่เสียชีวิตไปแล้วตรงทางเลี้ยว ทางโค้ง ทางแยก ทางตรง ทางขึ้นลงสะพาน ขอจงได้ร่วมรับรู้่ ร่วมโมทนา ร่วมเป็นเจ้าภาพ ได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับที่ข้าพเจ้าจะถึงได้รับเทอญ อิทธิ ฤทธิ พุทธนิมัตตัง ขอเดชะ เดชัง ขอเดช เดชะ จงมาเป็นที่พึ่ง แก่ มะ อะ อุ นี้ ด้วยเถิด "

 

พระผงรูปเหมือน หลวงพ่อทรง

พระเนื้อผงกดพิมพ์ในวัดศาลาดิน (มอญ)​

คุณพี เสาวภา เจ้าของภาพและพระ

 

มนุษย์ เจ็ดชื่อ อวตารเจ็ดหน้า หนังดังน่าติดตาม

 

มากราบหลวงตาเล็ก หลวงพ่อทรง หลวงปู่อั๊บ เอาฤกษ์ เอาชัย ก่อนไปทำงาน​

 

มากราบ พระประธานประจำแพโบสถ์น้ำ หลวงตาเล็ก วัดใหม่​

 

กราบ กราบ กราบ หลวงตาเล็ก หลวงพ่อทรง หลวงปู่อั๊บ

 

มากราบหลวงตาเล็ก วัดใหม่ เอาฤกษ์ เอาชัย ก่อนไปทำงาน กราบ กราบ กราบ ​

 

กราบ กราบ กราบ หลวงตาเล็ก หลวงพ่อทรง ครูบาอาจารย์ทุกองค์ทุกท่านค่ะ

 

สีผึ้งพระอินทร์ หลวงตาเล็ก วัดใหม่ฯ

​

คุณพี เสาวภา เจ้าของภาพและสีผึ้งพระอินทร์

 

พระผงพิมพ์ดำ ฝังแร่โคตรเศรษฐี ที่คุณราชันย์ขาวส่งข่าวมาถึง คุณพี เสาวภา

ขออนุญาตยกมาจากห้องประมูลทำบุญค่ะ​

 

เรื่องยันต์น้ำเต้านี้

ต้นทางเลยมาจาก สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ พระอุปัชฌาย์ ของ ท่านเจ้าคุณนรฯ

คำว่า พ ฆ อ น่าเป็นชื่อย่อของท่านนี่เอง จากคำว่า สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ เหมือนนามปากกา ท่านเจ้าคุณนรฯ เลยให้นำมาประดิษฐ์ที่หลังวัตถุมงคล

ถ้าลองย้อนไปแล้ว ประวัติ ของ สมเด็จพระุพุทธโฆาจารย์ ( เจริญ ญาณวรเถร ) น่าสนใจมากครับ ท่านมีความเกี่ยวข้องกับพระ ที่สุดยอดในยุคหลายท่าน เช่น พระเทพสิทธาจารย์ ( จันทร์ เขมมิโย ) หรือ เจ้าคุณปู่ของชาวหนองคาย

มันก็ให้น่าแปลกใจ ที่หลวงตาเล็ก เชิญยันต์นี้มาไว้ที่หลังเหรียญของท่านเหมือนกันครับ

ต้องมี นัยยะ แน่นอนครับ

 

ไปดึงมาอีกที เอาว่ามีจริง รู้ลึก หรือ รู้ลวง อ่านกันเอาเองน่ะจ้ะ...แหะๆ