รู้จากตำราความรู้เอาไปละกิเลสไม่ได้

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย Muang99, 9 กรกฎาคม 2014.

  1. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,432
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,550
    [​IMG]

    น้ำหมักนะครับ ส่วนผสมตามที่ระบุไว้ในหน้ากระดาษ อายุน้ำหมัก 6 ปี ผู้ทำหรือเจ้าของสูตรเป็นครูที่เกษียณแล้ว อายุประมาณ 70 ปี ทำน้ำหมักและดื่มมา 4 ปีแล้ว แต่ก่อนเขาเป็นโรคภูมิแพ้ฝุ่นชอล์ค หลังจากดื่มน้ำหมักมาเรื่อยๆ ร่างกายก็แข็งแรงขึ้น เพื่อนๆ ยังทักว่าเหมือนคนอายุ 50 สามารถขับรถรับส่งลูกหลาน ทำงานบ้านเองทุกอย่าง

    ท่านใดสนใจ อยากได้น้ำหมักไปกินเพื่อสุขภาพ ก็ติดต่อหาผมทาง PM นะครับ
     
  2. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,432
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,550
    [​IMG]

    ครั้งหนึ่งได้เคยไปกราบหลวงพ่อใหญ่ วัดไทรม้าใต้ จ.นนทบุรี

    ประสบการณ์ได้พบเจอผู้มีอภิญญา และเรื่องเล่าโดยผู้มีอภิญญา ส่วนที่ 4

    1.เมื่อนานหลายปีผ่านมาแล้ว สมัยที่ผมพักอาศัยอยู่ที่จ.นนทบุรี ผมและคุณป้า(ผู้มีอภิญญา) ได้เคยไปกราบ-ไปทำบุญ กับหลวงพ่อใหญ่ วัดไทรม้าใต้ จ.นนทบุรี เมื่อได้เข้าไปกราบหลวงพ่อใหญ่ จุดธูป เทียน กล่าวคำบูชา และปิดทองคำเปลวเรียบร้อยแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่มักจะทำกัน ก็คือการขอโชคลาภ คุณป้าได้เขย่าเซียมซี เมื่อออกมายังหน้าวิหารหลวงพ่อใหญ่ จู่ๆ ก็มีคนขายล็อตเตอร์รี่มาจากไหนก็ไม่รู้ คุณป้าก็เลยซื้อล๊อตเตอร์รี่ 1 ใบ ตามเลขที่ได้มาจากการเขย่าเซียมซี่ ถ้าจำไม่ผิดก็คือเลข 25

    ผลการออกรางวัลในงวดนั้น เลขท้าย 2 ตัวคือ 25 ทำให้คุณป้าถูกรางวัล ท่านบอกว่าดีใจมาก

    คุณป้า(ผู้มีอภิญญา) เคยเล่าให้ผมฟังในภายหลังว่า ช่วงที่อยู่ที่วิหารหลวงพ่อใหญ่ ท่านได้มองดูหลวงพ่อใหญ่(พระพุทธรูปเก่าแก่ที่ศักดิ์สิทธิ์ อายุประมาณ 700 ปี) คุณป้าบอกว่ามองเห็นเทพหรือเทวดาที่อยู่ในองค์หลวงพ่อใหญ่ และเห็นท่านมีน้ำตาไหล การที่เทพหรือเทวดาน้ำตาไหล คงมีความหมายในบางสิ่ง

    สำหรับท่านที่ใฝ่การทำบุญ หรืออยากแสวงหาโชคลาภ ก็แนะนำให้ลองไปกราบ-ทำบุญกับหลวงพ่อใหญ่(พระพุทธรูปเก่าแก่ที่ศักดิ์สิทธิ์) วัดไทรม้าใต้ จ.นนทบุรี


    [​IMG]

    2.ท่านผู้มีอภิญญาได้เคยเล่าให้ผมฟังว่า ในอดีตเมื่อนานมาแล้ว ท่านและญาติธรรมได้แสวงบุญ ทำบุญตามวัดในภาคอีสาน วัดแห่งหนึ่งที่ท่านและญาติธรรมได้ไปทำบุญคือวัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี

    เมื่อเดินทางไปถึงที่วัด ขณะที่ยังอยู่ที่หน้าศาลา ช่วงนั้นไม่ค่อยมีผู้คน หลวงตากวักมือเรียกคุณป้า(ท่านผู้มีอภิญญา) ท่านก็เลยเข้าไปกราบหลวงตา และถามหลวงตาว่าเรียกโยมใช่ไหม หลวงตาบอกว่าใช่ หลวงตาได้ทักทาย ว่ามาจากไหน คุณป้าบอกว่ามาจากกรุงเทพฯ..... คุณป้าได้สนทนากับหลวงตาอยู่พักหนึ่ง ช่วงหลังของการสนทนา หลวงตากล่าวว่า "โยมนี่ ไม่ธรรมดา"

    3.ในสมัยที่ผมเคยบวช และจำวัดอยู่ที่สำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ติดภูลังกา จ.นครพนม ภายหลังที่ผมได้สึกกลับมาเป็นฆราวาส ผมได้เคยถามท่านผู้มีอภิญญา ว่าลักษณะที่อยู่อาศัยของเจ้าที่ที่ภูลังกา เป็นอย่างไร ท่านกล่าวว่า เห็นเป็นปราสาทเวียงวัง หลายชั้น สวยงามมาก เจ้าที่ที่ภูลังกาในความเข้าใจของผมคิดว่าส่วนหนึ่งเป็นชาวลับแล อีกส่วนเป็นเหล่าพญานาค ซึ่งอาจเป็นมิติที่ซ้อนกัน แต่อยู่ในสถานที่เดียวกันหรือติดกัน

    4.ครั้งหนึ่งท่านเคยเล่าให้ผมฟังว่าได้ไปปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวัน ในวันพระนั้้น ซึ่งหลวงพ่อจะลงเทศน์ มีพญานาคแปลงกายเป็นมนุษย์ ขึ้นมากราบหลวงพ่อ พญานาคที่แปลงกายเป็นมนุษย์รูปร่างกำยำ น่าเกรงขาม พญานาคที่แปลงกายเป็นมนุษย์ได้กราบ 4 ทิศ หลวงพ่อท่านทักว่า "เป็นอย่างไรบ้างท่านพญานาค" มนุษย์พญานาคจะไม่เอ่ยปากพูด แต่คงสื่อสารทางจิตกับหลวงพ่อ

    5.เมื่อนานมากผ่านมาแล้ว สมัยที่ผมอยู่ที่นนทบุรี ช่วงนั้นผมหางานจนเหนื่อย ผมได้เคยไปสวดพระคาถาชินบัญชร ที่วัดระฆังโฆสิตารามฯ บางครั้งก็เข้าไปกราบพระประธานที่โบสถ์แล้วก็กลับบ้าน

    มีอยู่ช่วงหนึ่งได้เคยสนทนากับท่านผู้มีอภิญญา ท่านบอกผมว่าสมเด็จโตท่านสื่อมาบอกว่า ไอ้หนุ่ม(หมายถึงผม)คนนี้มาสวดพระคาถาชินบัญชร เสร็จแล้วก็กลับ สมเด็จโตบอกท่านผู้มีอภิญญาว่า บอกให้ไอ้หนุ่มคนนั้นเขียนชื่อนามสกุลและวันเดือนปีเกิด แล้วให้ไปวางที่....

    ครั้งหนึ่งท่านผู้มีอภิญญาเคยบอกผมว่า การสวดคาถาชินบัญชรนั้น มักจะเห็นเป็นแสงสีทอง ช่วงหลังๆ ผมไม่ค่อยได้สงสัยในการสวดคาถาชินบัญชรแล้วจะมีแสงสีทองปรากฎ และพระสมเด็จที่โด่งดัง ก็จะเห็นเป็นแสงสีทอง เพราะรู้และเข้าใจดี คนที่สวดคาถาชินบัญชรหรือบูชาพระสมเด็จ มักจะมีความเจริญรุ่งเรือง

    6.ท่านผู้มีอภิญญาได้เคยเล่าให้ผมฟังว่า ในอดีตที่ผ่านมานานมากแล้ว ท่านได้นิมิตเห็นหลวงพี่รูปหนึ่งให้อาหารแก่สัตว์ต่างๆ ในวันรุ่งขึ้นท่านได้พบกับหลวงพี่ที่มาพักอาศัยอยู่ในบริเวณที่ไม่ไกลกันนัก และได้สนทนากัน และท่านได้เล่าว่าได้นิมิตเห็นหลวงพี่ให้อาหารแก่สัตว์ต่างๆ หลวงพี่กล่าวตอบว่าท่านได้แผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลให้แก่สรรพสัตว์

    หลวงพี่ท่านมีญาณหยั่งรู้มาก ได้แนะนำให้ท่านผู้มีอภิญญามาปฏิบัติธรรม และเป็นครั้งแรกที่ท่านผู้มีอภิญญาได้นั่งสมาธิเพชร โดยการสอนของหลวงพี่ การนั่งสมาธิเพชรนั้นยากมาก ใครเคยนั่งสมาธิเพชร จะรู้ว่าเวทนาแบบมหาสุดๆๆๆ


    เครดิต : http://metharung-background.blogspot.com/2015/04/4.html
     
  3. bulldogs

    bulldogs สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +26
    :cool:
     
  4. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,432
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,550
    ขอพรหลวงพ่อทันใจ วัดพระธาตุดอยคำ จ.เชียงใหม่

    [​IMG]

    วัดพระธาตุดอยคำ ตั้งอยู่บนดอยคำ มีอายุกว่า 1,300 ปี
    และถือว่าเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในจังหวัดเชียงใหม่

    วัดพระธาตุดอยคำ ตั้งอยู่บริเวณด้านหลังของอุทยานหลวงราชพฤกษ์
    ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 10 กิโลเมตร

    วัดพระธาตุดอยคำสร้างในรัชสมัยพระนางจามเทวีกษัตริย์แห่งหริภุญชัย โดยพระโอรสทั้ง 2 เป็นผู้สร้างในปี พ.ศ. 1230 ประกอบด้วยเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ศาลาการเปรียญกุฏิสงฆ์ และพระพุทธรูปปูนปั้น เดิมชื่อวัดสุวรรณบรรพต แต่ชาวบ้านเรียกว่า "วัดดอยคำ"

    พ.ศ. 2509 ขณะนั้นวัดพระธาตุดอยคำเป็นวัดร้าง ต่อมากรุแตกชาวบ้านพบโบราณวัตถุหลายชิ้น เช่น พระรอดหลวง พระหินทรายปิดทององค์ใหญ่ พระสามหมอ (เนื้อดิน) ซึ่งนำมาประดิษฐานไว้ ณ วัดพระธาตุดอยคำ พระธาตุดอยคำนอกจากจะเป็นที่สักการบูชาของคนท้องถิ่นแล้ว ยังเป็นสัญลักษณ์อีกแห่งหนึ่งของการบินไทยที่ใช้กำหนดพื้นที่ทางสายตา ก่อนที่จะนำเครื่องบินลงจอดที่สนามบินเชียงใหม่

    [​IMG]

    หลวงพ่อทันใจ แห่งวัดพระธาตุดอยคำ ซึ่งสร้างขึ้นในรัชสมัย พญากือนา กษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านนา
    ปัจจุบันมีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์
    หลายต่อหลายครั้งที่มีผู้เดินทางมาขอพร บนบาน แล้ว ประสบความสำเร็จ
    และได้เดินทางกลับมาถวายดอกมะลิเพื่อแก้บน

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    บันไดนี้ถือเป็นอีกเส้นทางที่จะขึ้นมาที่วัดพระธาตุดอยคำ
    ในกรณีที่เราไม่ได้ขับรถขึ้นมา

    [​IMG]

    การเดินทางสู่วัดพระธาตุดอยคำ

    การเดินทางไปวัดพระธาตุดอยคำ สามารถเดินทางไปวัดพระธาตุดอยคำได้ 3 ทางคือ

    เข้าทางถนนเลียบคลองชลประทาน แยกจากถนนเชิงดอยบริเวณตลาดต้นพะยอมไปทางทิศใต้ประมาณ 6 กิโลเมตร วัดพระธาตุดอยคำจะอยู่ด้านขวา
    ไปตามถนนสาย เชียงใหม่ - ฮอด เป็นระยะทางประมาณ 9 กิโลเมตร จากสี่แยกสนามบิน และมีทางแยกเลี้ยวขวาสู่ศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 7 เข้าไปอีก 4 กิโลเมตร ซึ่งจากเส้นทางนี้บริเวณวัดจะอยู่ในเขตของศูนย์ขยายพันธุ์พืช
    จากจุดนี้ จะเดินทางตามเส้นทางสี่แยกสะเมิง ถนนเชียงใหม่ - หางดง ไปตามเส้นทางเรียบคลองชลประทาน จะมีป้ายบอกข้ามคลองไปทางตำบลแม่เหียะ ไปทางเดียวกับสวนราชพฤกษ์ หรือเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี และศูนย์วิจัยเกษตรฯ

    การเดินทางขึ้นไปวัดพระธาตุดอยคำ
    มี 2 ทาง คือ ทางซ้ายจะเป็นทางขึ้นโดยรถยนต์ ส่วนทางขวาจะเป็นทางเดินขึ้นโดยบันได

    ข้อมูลติดต่อ
    วัดพระธาตุดอยคำ ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
    Tel. 053-248604 , 053-248607

    เครดิต : วัดพระธาตุดอยคำ เชียงใหม่ ขอพรหลวงพ่อทันใจ
     
  5. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,432
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,550
    [​IMG]

    ประชาชน ทึ่งความศักดิ์สิทธิ์องค์หลวงพ่อทันใจวัดพระธาตุดอยคำ นำพวงมาลัยดอกมะลิมาแก้บน โดยเฉพาะหลังวันหวยออก มีคนถูกหวย หลายล้านบาท พวงมาลัยนับหมื่นล้นกุฎิ ขณะที่อีกหลายสาขาอาชีพต่างประสบความสำเร็จโดยทั่วกัน จนพวงมาลัยดอกมะลิขาดตลาดแย่งกันซื้อนำมาแก้บน

    เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.56 ที่วัดพระธาตุดอยคำ หมู่ที่ 3 ต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ (หลังพืชสวนโลก)ได้มีประชาชนจำนวนมากหลั่งไหลขึ้นไปกราบองค์หลงพ่อทันใจและนำพวงมาลัยดอกมะลิไปแก้บนเนื่องจากมีคนถูกหวยงวดในงวดวันที่ 1 ธ.ค.56 ที่ผ่านมาจำนวนมาก เดินทางมาแก้บนอย่างไม่ขาดสาย จนพวงมาลัยดอกมะลิหลายหมื่นพวงล้นกุฎิหลวงพ่อทันใจ
    จากการสอบถามนายประดิษฐ์ (หนานนนท์) มังสาสติ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 ถ.ชลประทาน ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ทำงานบริษัทเชียงใหม่ราชพฤกษ์ดีซาย กล่าวว่าตนเองได้นำพวงมาลัยดอกมะลิจำนวน 58 พวงเท่าอายุตนเอง มาแก้บนองค์หลวงพ่อทันใจ เนื่องจากปลายเดือนที่ผ่านมาได้ขึ้นมาอธิฐานขอให้ถูกหวย พอกลับบ้านได้ฝันเห็นผู้หญิงท้องบอกให้ซื้อเลข 168 จึงนำไปซื้อก็ถูกหวยจึงถูก 3 ตัวหัวที่รางวัลที่ 1จริง ได้เงินมา 9แสนกว่าบาท วันนี้จึงนำพวงมาลัยดอกมะลินำมาแก้บนดังกล่าว โดยตัวเองพร้อมทั้งครอบครัวญาติพี่น้องต่างเลื่ยมใสศรัทธาองค์หลวงพ่อทันใจเป็นอย่างมากได้บูชาเหรียญหลวงพ่อทันใจ ตั้งแต่รุ่นที่ 1-3 มาห้อยติดตัวตลอดเวลา และนำไปแจกให้กับบรรดาญาติพี่น้อง นำไปติดตัวปรากฎว่าอธิฐานแล้วประสบความสำเร็จกันทุกคน ซึ่งก่อนหน้านั้นตนเองก็เคยถูกหวยมาหลายต่อหลายงวดได้เงินแค่หลักหมื่น แต่งวดนี้ได้เป็นแสนจึงถือโอกาสมาแก้บนแต่กว่าจะหาพวงมาลัยดอกมะลินำมาแก้บนได้ก็แสนยากเพราะขาดตลาดมีคนไปกว้านซื้อนำมาแก้บนองค์หลวงพ่อทันใจแต่ละวันก็แทบหมด

    ขณะที่นายจตุรงค์ ธนพัฒนวงศ์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 545/39 ถ.จรัสสนิทวงศ์ ซอยจรัส 37 แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ ได้นำพวงมาลัยดอกมะลิจำนวน 200 พวงนำมาแก้บนองค์หลวงพ่อทันใจ เนื่องจากได้ขึ้นมาอธิฐานขอพรแล้วหลายครั้งก็ประสบความสำเร็จไม่ว่าในหน้าที่การงาน และโชคลาภ ซึ่งก็สำเร็จดังที่ปราถนา หลังจากสำเร็จแต่ละครั้งก็จะนำพวงมาลัยดอกมะลิมาแก้บนอยู่เป็นประจำ

    ด้านนายอานนท์ ปวนแก้ว อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 หมู่ที่ 8 ต.โป่งงาม อ.แม่สาย จ.เชียงราย ได้นำพวงมาลัยดอกมะลิ จำนวน 99 พวง มาแก้บนเช่นกัน หลังจากขึ้นมาจุดธูปอธิฐานขอพระองค์หลวงพ่อทันใจให้ได้เลื่อนตำแหน่ง ขอได้ประมาณ 15 วัน ก็สำเร็จ เวลาผ่านไป 2 เดือนจึงหาเวลาว่างมาแก้บนและอธิฐานขอพรอีกถ้าสำเร็จก็จะมาแก้บน

    ต่อมามีนางสาวอนุรักษ์ อินชื่น อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 399/200 หมู่ที่ 1 ต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นำพวงมาลัยดอกมะลิจำนวน 200 พวง มาแก้บนหลังจากเมื่อประมาณ 1 อาทิตย์ก่อนได้มาอธิฐานให้ขายบ้านได้แล้วก็สำเร็จรวดเร็วทันใจจริง ๆ ซึ่งก่อนหน้านั้นก็ขึ้นมาขอให้องค์หลวงพ่อทันใจช่วยให้ขายที่ดิน ไม่ถึง 1 อาทิตย์ ก็สำเร็จ ดังที่หวัง จึงเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก

    อีกรายหนึ่งนายธเนษฐ ปุณธนจิรายุ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ที่ 9 ต.บ้านกลาง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ เป็นอีกรายหนึ่งที่ถูกหวยเลข 168 สามตัวหัวรางวัลที่ 1 และถูกเลข 95 สองตัวท้ายรางวัลที่ 1นำพวงมาลัยดอกมะลิจำนวน 90 พวงมาแก้บนหลังจากที่มาอธิฐานขอพรจากองค์หลวงพ่อทันใจแล้วกลับบ้านไปฝันมีชายชรามาบอกตัวเลขดังกล่าว จึงนำ ไปซื้อหวยได้เงินมา 150,000 บาท จึงถือโอกาสเดินทางมาแก้บนและอธิฐานขอพรเพิ่มอีก ทั้งนี้ตลอดทั้งวันได้มีประชาชนหลั่งไหลนำพวงมาลัยดอกมะลิมาแก้บนอย่างไม่ขาดสาย ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ต่างก็ทึ่งในความศักดิ์สิทธิ์ต่อองค์หลวงพ่อทันใจ บางรายไม่ได้มาด้วยตัวเองเพราะติดธุระต่างประเทศก็จะให้เพื่อนทางเมืองไทยมาแก้บนแทนไว้ก่อน พอมีโอกาสก็จะเดินทางมาด้วยตนเอง

    เครดิต : คนแห่ถวายพวงดอกมะลิ-แก้บนกับหลวงพ่อทันใจ
     
  6. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,432
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,550
    [​IMG]

    นักธุรกิจหนุ่ม บินจากหาดใหญ่สู่เชียงใหม่ แก้บนมะลิแสนพวง องค์หลวงพ่อทันใจ วัดพระธาตุดอยคำ เชียงใหม่ หลังจุดธูปขอไม่ถึง 7 วัน ขายที่ดินได้ 40 ล้าน เชื่อเกิดจากแรงอธิษฐาน ...

    เมื่อเวลา 09.09 น. วันที่ 3 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดพระธาตุดอยคำ (หลังพืชสวนโลก) หมู่ 3 ต.แม่เหียะ อ.เมือง เชียงใหม่ ได้มีนักธุรกิจหนุ่ม จาก อ.หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เดินทางขึ้นเหนือเพื่อมาแก้บน องค์หลวงพ่อทันใจ ที่โด่งดังอันศักดิ์สิทธิ์ เนื้อปูนขนาดหน้าตัก 12 นิ้ว สูง 16 นิ้ว ตั้งอยู่ในพระวิหารโดยเฉพาะที่ทางวัดจัดทำขึ้นข้างพระธาตุ โดยแก้บนด้วยพวงดอกมะลิ จำนวน 1 แสนพวง ที่วัด ได้พบ นายชาลี (ขอสงวนนามสกุลและที่อยู่) อายุ 45 ปี นักธุรกิจหนุ่มชาว อ.หาดใหญ่ กำลังช่วยจัดวางดอกมะลิ ที่มีจำนวนมากอยู่ 1 แสนพวง เพื่อแก้บนองค์หลวงพ่อทันใจ โดยมีเจ้าหน้าที่ของทางวัดช่วยกันจัดวาง เพราะมีจำนวนมาก

    [​IMG]

    โดย นายชาลี ได้เปิดเผยว่า ตนเองพักอาศัยอยู่ที่ อ.หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ก่อนหน้านี้เคยประกาศขายที่ดิน จำนวน 1 ไร่ จำนวน 40 ล้านบาท โดยประกาศขายมานานแล้วก็ยังขายไม่ได้ จนมาเห็นข่าวนักธุรกิจสาว บนขอให้องค์หลวงพ่อทันใจช่วยเหลือ กรณีที่ถูกลูกน้องเอาเงินไป 40 ล้าน มาคืนให้จนสำเร็จ จากนั้นได้มาแก้บนด้วยดอกมะลิ จำนวน 99,999 พวง หลังจากเห็นข่าวจากสื่อต่างๆ จึงได้จุดธูปสามดอกบนบาน ที่ อ.หาดใหญ่ ไม่ถึง 7 วัน ที่ดินดังกล่าวขายได้ทันที จึงเดินทางมาแก้บน

    โดยมะลิที่ซื้อมานั้น ตนเองสั่งซื้อมาจากตลาดสี่มุมเมือง กรุงเทพฯ จำนวน 1 แสนพวง วันนี้จึงพาครอบครัวเดินทางขึ้นเครื่องบิน มาแก้บนองค์หลวงพ่อทันใจทันที ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับองค์หลวงพ่อทันใจ มีอายุมากกว่า 500 ปี โดยคนที่มาบนในเรื่องต่างๆ ไม่ขาดสาย ไม่ว่าจะเป็นโชคลาภ หน้าที่การงาน การค้าขาย ประสบความสำเร็จมากันจำนวนมาก จึงนำพวงมาลัยดอกมะลิขึ้นมาแก้บนเนืองแน่นทุกวัน

    เครดิต : ขอไม่ถึง 7 วัน ขายที่ได้ 40 ล้าน! หนุ่มแก้บนมะลิแสนพวง 'หลวงพ่อทันใจ'
     
  7. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,432
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,550
    สำหรับท่านที่ติดขัดด้านการเงิน ลองขอโชค ขอลาภ กับหลวงพ่อทันใจดูนะครับ

    จุดธูปสามดอกบนบานที่บ้าน ถ้าสำเร็จจะถวายพวงมาลัยกี่พวง ก็ไปคิดกันเอาเอง เมื่อสำเร็จแล้วต้องเดินทางไปถวายพวงมาลัยกับหลวงพ่อทันใจ ที่วัดพระธาตุดอยคำนะครับ

    คนอื่นบนให้ขายที่ 40 ล้านได้ และถวายพวงมาลัย 99,999 พวง ถ้าบนให้ถูกล๊ํอตเตอร์รี่หรือถูกหวย ได้เงิน 2-3 แสนบาท ควรต้องถวายพวงมาลัยกี่พวง?
     
  8. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,432
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,550
    [​IMG]

    ประสบการณ์ได้พบเจอผู้มีอภิญญา และเรื่องเล่าโดยผู้มีอภิญญา ส่วนที่ 5

    1.ครั้งหนึ่ง ท่านเล่าว่า ในอดีตที่ผ่านมานานแล้วได้ไปกราบหลวงปู่หิน ปภังกโร วัดโพธาราม จ.ขอนแก่น หลวงปู่หินเคยบอกท่านผู้มีอภิญญาว่า "ช่วยรักษาให้หน่อย" ซึ่งแสดงว่าหลวงปู่หิน ท่านคงรู้ว่าท่านผู้มีอภิญญา อาจสามารถรักษาโรคให้กับหลวงปู่หินได้

    อีกครั้งหนึ่งท่านไปกราบหลวงปู่สี วัดเขาชะโงก(วัดพระพุทธฉาย) จ.นครนายก ช่วงขณะที่หลวงปู่คุยกับโยมผู้ชาย หลวงปู่นอนอยู่ แต่เมื่อท่านผู้มีอภิญญาได้เข้าไปในกุฎิ หลวงปู่สีก็ลุกขึ้น และกล่าวกับท่านผู้มีอภิญญาว่า "ช่วยรักษาให้หน่อย"

    บุคคลที่สำเร็จวิชาการรักษาโรคทางทิพย์ หรือได้รับการถ่ายทอดวิชามาจากครูบาอาจารย์ทางทิพย์ บุคคลเหล่านั้นบางคนจะมีสิ่งที่ปรากฎตรงฝ่ามือ เป็นสิ่งที่สามารถเคลื่อนไหวได้ (ไม่ใช่รูปดอกบัว)

    2.ในอดีตครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว ท่านได้เล่าว่าได้ไปทำบุญที่วัดแห่งหนึ่ง (ใกล้สนามหลวง) ท่านบอกว่าได้ไปนั่งสมาธิอยู่หน้าองค์พระ ผ่านไปไม่นาน ก็ได้ยินเสียงพญานาค พญานาคบอกว่า "ตามหาลูกมานานแล้ว" และท่านพญานาคได้ให้เลข 3 ตัวแก่ผู้มีอภิญญา แต่ผู้มีอภิญญาซื้อหวยไม่ค่อยเป็น ก็เลยไม่ได้ซื้อ เลข 3 ตัวที่พญานาคให้มานั้น ในงวดนั้นออกตรงแป๊ะ 3 ตัวท้ายรางวัลที่หนึ่ง

    3.ครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว ผมได้คุยโทรศัพท์กับสาวท่านหนึ่ง เมื่อคุยกับสาวท่านดั่งกล่าวเสร็จแล้ว ได้โทรหาท่านผู้มีอภิญญา ท่านก็พูดแซว ซึ่งเป็นประโยคเดียวกันกับที่ผมพึ่งคุยกับสาวคนดั่งกล่าว ประโยคดั่งกล่าวผมจำไม่ค่อยได้แล้ว อาจเป็นลักษณะ "น้อง...ดูแลสุขภาพ...."

    ผมมาคิดในภายหลังว่า ท่านผู้มีอภิญญารู้ได้อย่างไร ซึ่งผมคิดว่าคงน่าจะเป็นอภิญญาหูทิพย์ (การหยั่งรู้ในสิ่งที่มนุษย์หรือสัตว์คุยกัน)

    เรื่องอภิญญาเป็นเรื่องที่มีอยู่จริง ในประสบการณ์ของผม ได้พบเจอ-ได้เห็น-ได้ยินได้ฟัง สิ่งมหัศจรรย์, เรื่องเกี่ยวกับอภิญญา-อิทธิฤทธิ์-แปลก-เหลือเชื่อ เกินกว่าที่คนธรรมดาทั่วไปจะเข้าใจ มากพอสมควร ในบางเรื่องไม่สามารถเปิดเผยได้ บางเรื่องไม่สมควรเปิดเผย บางเรื่องผู้เป็นเจ้าของเรื่องหรือต้นเรื่องไม่ให้เปิดเผย เช่น เรื่องผู้ทรงอิทธิฤทธิ์ สามารถหายตัวและไปปรากฎกายด้วยกายหยาบ ในทุกที่ที่อยากไป, บุคคลผู้มีบุพกรรมกับ..... เมื่อยามลำบาก เพียงเอ่ยปากหรืออธิษฐานขอ อยู่ๆ เงินธนบัตรก็จะปรากฎขึ้น จำนวนมากพอสมควร, บุคคลผู้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คอยบอกเหตุที่จะเกิดล่วงหน้า เป็นต้น

    อภิญญานั้นอยู่เหนือกาลเวลาและระยะทาง การที่คนมีญาณหรือหมอดูคนมีญาณ ชอบไปดูคนโน้นคนนี้ สิ่งหนึ่งที่จะต้องจำเอาไว้ก็คือเรื่องการย้อนญาณ ว่าคนที่เก่งๆ กว่ายังมีอยู่อีกมาก ในอดีตบางครั้งผมก็ขอให้ท่านผู้มีอภิญญาย้อนเวลากลับไปดูว่า เมื่อผ่านมาหลายวันแล้วนั้น คนมีญาณมาดูผม ซึ่งได้จดวันเวลาไว้ ท่านย้อนญาณกลับไปดูและบอกว่าเป็นนักปฏิบัติธรรม แต่งกาย.. รูปร่าง ระดับญาณ...

    ส่วนเรื่องการอยู่เหนือระยะทาง เช่น การใช้ญาณ-อภิญญา ดูสถานที่มีทองคำดำหรือน้ำมันดิบ หรือก๊าซธรรมชาติ ในชั้นดินลึก 2-3 กิโลเมตร จัดว่าเป็นเรื่องธรรมดา


    เรื่องราวเกี่ยวกับประสบการณ์ได้พบเจอผู้มีอภิญญา และเรื่องเล่าโดยผู้มีอภิญญา คิดว่าพอสมควรแก่เวลา ก็จะเขียนเล่าให้อ่านแต่เพียงเท่านี้



    เครดิต : http://metharung-background.blogspot.com/2015/07/5.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤศจิกายน 2015
  9. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,432
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,550
    ดูให้รู้ : มะเร็ง รักษาได้

    <center><iframe width="640" height="360" src="https://www.youtube.com/embed/63TcdNzc4lc?feature=player_detailpage" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 พฤศจิกายน 2015
  10. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,432
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,550
    ดูให้รู้ : เรื่องต้องห้ามในญี่ปุ่น

    <iframe width="640" height="360" src="https://www.youtube.com/embed/3VlTxnYTBrg?feature=player_detailpage" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>​
     
  11. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,432
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,550
    ลาก่อนมนุษย์เงินเดือน หันปลูก“ฝรั่งหวานพิรุณ” 8 เดือนรับทรัพย์ชิลๆ

    เกษตรกรมืออาชีพหลายคน ฟันธงว่า “ฝรั่ง” เป็นไม้ผลทำเงินที่สร้างรายได้ดีที่สุดในยุค พ.ศ. นี้ เนื่องจากปลูกดูแลง่าย ให้ผลผลิตเร็ว เก็บเกี่ยวผลผลิตได้หลังจากปลูกเพียง 8 เดือน เท่านั้น ใช้เงินลงทุนน้อย แต่สร้างเม็ดเงินมหาศาล เพราะเป็นไม้ผลที่ผลิดอกและติดผลตลอดทั้งปี เก็บเกี่ยวผลผลิตออกขายได้ตลอดเวลา ซึ่ง “ฝรั่งหวานพิรุณ” นับเป็นสินค้าตัวใหม่ ที่กำลังมาแรง เพราะเพิ่งเปิดตัวเข้าตลาดได้ไม่เกิน 3 ปี ยังมีจำนวนผู้ปลูกไม่มาก แต่รสชาติอร่อยสุดๆ จึงเป็นที่ต้องการมากในตลาดระดับบน

    “ทุกวันนี้ ฝรั่งหวานพิรุณ เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ฝรั่งยอดนิยมที่ตลาดต้องการสูง ขายดีจนผลิตไม่พอขาย” นี่เป็นคำยืนยันจาก คุณสุชาติ ธนะพฤกษ์ หรือ “คุณแป๊ะ” โทร. (081) 374-5226 เจ้าของสวนธนะพฤกษ์ หรือที่เพื่อนฝูงเรียกกันติดปากว่า “สวนนายแป๊ะ” ผู้ผลิตฝรั่งหวานพิรุณเชิงการค้า รายแรกของประเทศไทย

    คุณแป๊ะจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์บางเขนเคยทำงานในธุรกิจปศุสัตว์ของเครือซีพี อยู่ระยะหนึ่ง ก่อนตัดสินใจลาออกมาทำธุรกิจส่วนตัวและลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แต่ประสบปัญหาขาดทุนจากวิกฤตตลาดหุ้น จึงตัดสินใจกลับมาลงทุนในภาคเกษตรอีกครั้ง โดยเช่าที่ดิน จำนวน 200 ไร่ ในพื้นที่อำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อทำสวนส้มเขียวหวาน ต่อมาสัญญาเช่าที่ดินหมดอายุลง จึงตัดสินใจซื้อที่ดิน เนื้อที่ 70 ไร่ เลขที่ 182 หมู่ที่ 2 ตำบลแก่งดินสอ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งเป็นที่ตั้งของ “สวนนายแป๊ะ” ในปัจจุบัน

    ในอดีตพื้นที่อำเภอนาดี มีการแพร่ระบาดของศัตรูพืชสำคัญคือ แมลงวันทอง เนื่องจากเกษตรกรนิยมปลูกต้นมะม่วงหิมพานต์ ทำให้คุณแป๊ะไม่กล้าลงทุนทำสวนส้ม และเลือกทำสวนมะนาวแทน เขาปลูกมะนาวไปได้ 4 ปี แต่กิจการไม่รุ่ง จังหวะนั้นรัฐบาลเริ่มก่อสร้างเขื่อนห้วยโสมง ทำให้แมลงวันทองในท้องถิ่นเริ่มมีจำนวนน้อยลง เขาตัดสินใจลงทุนทำสวนผลไม้เพื่อเป็นสินค้ารองรับกับการท่องเที่ยวเขื่อนในอนาคต

    “ฝรั่งหวานพิรุณ” นวัตกรรมงานวิจัยตอบโจทย์ตลาด

    ประมาณปี 2534 รศ.ดร. อุณารุจ บุญประกอบ ภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม ประสบความสำเร็จในการปรับปรุงฝรั่งพันธุ์ใหม่ที่เหมาะสำหรับรับประทานผลสด ชื่อ “หวานพิรุณ” ที่มีจุดเด่นในเรื่องรสชาติความหวาน 8-10 บริกซ์ เนื้อแน่น ละเอียด กรอบ รสชาติอร่อยมาก มีวิตามินซีสูง 90-130 มิลลิกรัม/100 กรัม ฝรั่งหวานพิรุณมีอัตราการเจริญเติบโตที่ดี หากปลูกด้วยกิ่งตอนจะให้ผลผลิตเมื่ออายุ 6-7 เดือน ส่วนกิ่งทาบจะให้ผลผลิตเมื่ออายุครบ 8-9 เดือน

    [​IMG]

    ฝรั่งพันธุ์ใหม่“หวานพิรุณ”ได้รวบรวมลักษณะเด่นของฝรั่งสายพันธุ์ต่างๆเข้าไปด้วยกันอย่างกลมกลืนเช่นมีเนื้อละเอียด คล้ายฝรั่งพันธุ์กิมจู มีเนื้อกรอบ คล้ายกับฝรั่งแป้นสีทองอีกด้วย และมีจุดต่างที่ไม่เหมือนใครคือ โดดเด่นด้านความหวาน เนื้อหนา เมล็ดน้อย ถือเป็นไม้ผลตัวใหม่ที่มีโอกาสเติบโตสูง เพราะเป็นสินค้าเกรดพรีเมี่ยม สามารถผลิตส่งขายห้างสรรพสินค้าได้อย่างสบาย

    เดือนมิถุนายน 2555 คุณแป๊ะได้ขอซื้อกิ่งพันธุ์ฝรั่งหวานพิรุณ จำนวน 300 ต้น มาทดลองปลูกบนเนื้อที่ ประมาณ 3 ไร่เศษ ในอำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี นับเป็นสวนฝรั่งหวานพิรุณเพื่อการค้าแปลงแรกของประเทศไทยเลยทีเดียว คุณแป๊ะใช้เวลาปลูก ประมาณ 8 เดือน ต้นฝรั่งผลิดอกออกผล ก็ให้ผลผลิตคุณภาพดี รสชาติอร่อย และให้ผลผลิตต่อต้นต่อไร่สูง สวนฝรั่งแห่งนี้ได้รับการรับรองระบบการจัดการคุณภาพการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับพืช (GAP พืช) พ.ศ. 2555 จากกรมวิชาการเกษตร เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2556

    [​IMG]

    การปลูก-ดูแล

    โดยทั่วไป การผลิตฝรั่ง สามารถทำได้ 2 รูปแบบ คือ 1. ปล่อยให้กิ่งว่าง ต้นฝรั่งก็จะมีผลผลิตป้อนเข้าตลาดทั้งปี และ 2. ตัดแต่งกิ่ง เพื่อให้ต้นฝรั่งมีผลผลิตป้อนเข้าสู่ตลาดในระยะเวลาที่ต้องการ วิธีนี้สามารถผลิตฝรั่งได้ ปีละ 2 รุ่น สามารถเลื่อนช่วงการผลิตได้ตามที่ต้องการ ซึ่งชาวสวนบ้านแพ้ว ดำเนินสะดวก คลองจินดา เป็นแหล่งผลิตฝรั่งรายใหญ่ของประเทศไทย แล้วมักนิยมใช้วิธีตัดแต่งกิ่งในช่วงเดือนเมษายน เพื่อเลี่ยงไม่ให้มีสินค้าเข้าตลาดในช่วงฤดูกาลไม้ผลหลักของไทยคือ เงาะ ทุเรียน มะม่วง ทำให้ผลผลิต “ฝรั่ง” ขาดตลาดทั่วประเทศเป็นระยะเวลา 4 เดือน ตั้งแต่เดือนเมษายน-กรกฎาคมของทุกปี แม้จะมีฝรั่งจากแหล่งอื่นป้อนเข้าตลาดในช่วงนั้นอยู่บ้าง แต่สินค้ามีคุณภาพต่ำ

    คุณแป๊ะมั่นใจว่าฝรั่งหวานพิรุณมีจุดเด่นในเรื่องรสชาติคุณภาพสินค้าและปริมาณผลผลิตเกรดพรีเมี่ยมเจาะตลาดในท้องถิ่นได้สบายเขาได้นำกิ่งพันธุ์ฝรั่งหวานพิรุณมาปลูกในร่องสวนมะนาวเก่าโดยปลูกในระยะห่างระหว่างต้น 3.50 เมตร เปิดให้น้ำในระบบสปริงเกลอร์ทุกๆ 2 วัน ยกเว้นช่วงฤดูฝนที่มีฝนตกชุก ก็งดให้น้ำไปโดยปริยาย

    ช่วงแรกของการปลูก เขาใส่ปุ๋ยเคมีที่เน้นสูตรตัวหน้า เช่น สูตร 40-0-0 (ยูเรีย) และปุ๋ย 25-0-0 ก่อนเก็บเกี่ยวประมาณ 2 เดือน จะใส่ปุ๋ย สูตร 13-13-21 เพื่อช่วยให้ฝรั่งมีขนาดผลใหญ่ และเพิ่มรสชาติความหวาน รวมทั้งใช้ปุ๋ยมูลไส้เดือน เพื่อให้เชื้อจุลินทรีย์เข้าไปช่วยย่อยสารอาหารในดิน กระตุ้นการดูดซึมธาตุอาหารของรากพืชได้ดีขึ้น ช่วยกระตุ้นความหวานแก่ผลฝรั่งได้อีกทางหนึ่ง

    “ตอนนี้ศัตรูพืชสำคัญคือ มด เพราะเป็นพาหะคาบไข่เพลี้ยแป้ง เข้าไปในถุงที่ห่อผลฝรั่ง ทำให้เพลี้ยแป้งมีโอกาสกินน้ำเลี้ยงของฝรั่ง โดยเพลี้ยแป้งจะขับถ่ายมูลน้ำหวาน ซึ่งเป็นอาหารโปรดของมดเป็นการตอบแทน ผมพยายามแก้ไขปัญหามดโดยใช้สารเคมี เมื่อมดคาบเหยื่อพิษเข้ารังก็จะไปทำลายมดทั้งรัง ส่วนโรคแอนแทรกโนสที่เกิดจากเชื้อรา จะป้องกันโดยฉีดพ่นสารเคมีก่อนห่อผล” คุณแป๊ะ กล่าว

    เมื่อลูกฝรั่งมีขนาดเท่าเหรียญ 10 บาท คุณแป๊ะ จะใช้กระดาษห่อผล ตามด้วยถุงพลาสติกขาวขุ่นอีกชั้น หลังจากห่อผลเสร็จก็รอไปอีก 3-4 เดือน จึงเก็บผลผลิตออกขายได้ ผลฝรั่งหวานพิรุณที่เก็บออกขายจะมีน้ำหนักเฉลี่ย ประมาณ 7 ขีด ถึง 1.2 กิโลกรัม ต่อผล โดยทั่วไป ต้นฝรั่งที่มีสภาพสมบูรณ์ แข็งแรง จะให้ผลผลิตเกรดเอ ประมาณ 20-30 ลูก

    ฝรั่งหวานพิรุณ มีลักษณะผลทรงกลม ผิวสีเขียวสดใส ขรุขระเล็กน้อย เนื้อสีขาวใส แน่น กรอบ และละเอียด รสชาติอร่อย หลังการเก็บเกี่ยว คุณแป๊ะจะนำตาข่ายโฟม มาห่อหุ้มผลฝรั่งเพื่อป้องกันการกระทบกระเทือนไม่ให้ช้ำระหว่างขนส่ง และใช้ฟิล์มแร็ปมาห่อฝรั่งอีกชั้น เพื่อช่วยยืดอายุการเก็บรักษาฝรั่งผลสดได้นานขึ้น หากเก็บรักษาฝรั่งสดในอุณหภูมิห้องปกติ จะสามารถชะลอการเสื่อมสภาพของผลฝรั่งได้นาน 3-5 วัน อย่างสบายๆ หากเก็บรักษาในตู้เย็นจะเก็บรักษาคุณภาพความสดได้นานถึง 10 วัน

    ฝรั่งหวานพิรุณ...ขายดี จนผลิตไม่พอขาย

    ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังคงพึงพอใจในคุณภาพและรสชาติความอร่อยของฝรั่งหวานพิรุณเมื่อนำผลฝรั่งมาผ่าจะเห็นเนื้อละเอียดใสแตกต่างจากเนื้อฝรั่งสายพันธุ์ทั่วไปที่มีเนื้อหยาบเมื่อชิมรสชาติก็รู้สึกติดใจ เพราะฝรั่งหวานพิรุณมีเนื้อกรอบ อร่อย เคี้ยวเพลิน แถมมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ช่วยให้มีลมหายใจที่หอมสดชื่นอีกด้วย

    สวนฝรั่งนายแป๊ะ ตั้งอยู่ใกล้เคียงกับพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมกบินทร์บุรี ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ที่มีกำลังซื้อสูง ทำให้ฝรั่งหวานพิรุณขายดีมาก คุณแป๊ะตั้งราคาขายส่งหน้าสวนในราคากิโลกรัมละ 50 บาท เกรดบี ราคา 35 บาท เกรดซี 15 บาท

    คุณแป๊ะ กล่าวว่า ทุกวันนี้ สวนฝรั่งของผมมีจุดจำหน่ายที่โรงพยาบาลนาดี และโรงพยาบาลกบินทร์บุรี เพราะฝรั่งเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพที่มีรสชาติอร่อย เมื่อนำมาตกแต่งในบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่ม เป็นสินค้าเกรดพรีเมี่ยม ที่กลุ่มข้าราชการในจังหวัดปราจีนบุรี นิยมซื้อฝรั่งหวานพิรุณไปจัดกระเช้าของขวัญ มอบให้ผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ

    ปัจจุบัน ตลาดมีความต้องการกิ่งพันธุ์ฝรั่งหวานพิรุณจำนวนมาก คุณแป๊ะจึงแบ่งพื้นที่ปลูกฝรั่ง 200 ต้น เพื่อผลิตกิ่งพันธุ์ตอนออกขาย เดือนละ 2,000 กิ่ง โดยกิ่งตอนที่รากออกแล้ว ผู้ซื้อต้องนำไปชำเพื่อให้ต้นแข็งแรง เขาส่งขายทางไปรษณีย์ในราคา กิ่งละ 60 บาท ส่วนกิ่งตอนพร้อมปลูกขายในราคา กิ่งละ 80 บาท

    “ความจริง ผลงานของอาจารย์ รศ.ดร. อุณารุจ มีงานวิจัย 2 อย่างร่วมกัน คือ หวานพิรุณ เป็นฝรั่งพันธุ์ดี และ เคยูการ์ด ซึ่งเป็นต้นตอพืชที่มีระบบรากต่อต้านการทำลายของไส้เดือนฝอยได้ หากเกษตรกรรายใดอยากปลูกหวานพิรุณ แต่อยู่ในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการระบาดของไส้เดือนฝอย คือ บ้านแพ้ว ดำเนินสะดวก คลองจินดา ผมจะแนะนำให้เขากลับไปใช้เคยูการ์ด เป็นต้นตอ เพราะรากของเคยูการ์ดสามารถต่อต้านการทำลายของไส้เดือนฝอยได้ดีกว่า” คุณแป๊ะ กล่าว

    ภายในสวน คุณแป๊ะแบ่งพื้นที่ปลูกต้นฝรั่ง จำนวน 100 ต้น เพื่อเก็บผลผลิตออกขายทุกสัปดาห์ เฉลี่ยครั้งละ 300 กิโลกรัม ต้นฝรั่งหวานพิรุณที่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม จะให้ผลผลิตดีมาก ไม่ต่ำกว่า 40-50 กิโลกรัม ต่อต้น และสวนฝรั่งแห่งนี้ คุณแป๊ะยังปลูกต้นทุเรียน เป็นพืชร่วมแปลงอีกด้วย โดยฝรั่ง 3 ต้น จะปลูกแซมทุเรียน 1 ต้น (ร้อยละ 70 เป็นทุเรียนพันธุ์หมอนทอง อีกร้อยละ 30 เป็นทุเรียนก้านยาวและชะนี) เพื่อเป็นพืชเสริมรายได้ในระยะยาวอีกทางหนึ่ง หากใครสนใจอยากได้กิ่งพันธุ์ฝรั่งหวานพิรุณไปทดลองปลูก สามารถติดต่อกับ คุณแป๊ะ ได้โดยตรง ที่เบอร์โทรศัพท์ (081) 374-5226 ได้ทุกวัน


    ทั้งนี้ ทางบริษัทมติชน จำกัด (มหาชน) เตรียมจัดงาน “เกษตรมหัศจรรย์ วันเส้นทางเศรษฐี 2558” ระหว่าง วันที่ 12-15 พฤศจิกายน 2558 เวลา 10.00-20.00 น. ณ MCC HALL เดอะมอลล์ บางกะปิ โดยรวบรวมสุดยอดนิทรรศการแห่งปี คุณค่ามหัศจรรย์พรรณพืชเศรษฐี รวมดาวไม้ผลทั่วไทย ไม้ดอกไม้ประดับ ต่อยอดสินค้าเกษตรสู่ผลผลิตแปรรูป อัดแน่นความรู้วิทยาการเพื่อเกษตรกรรุ่นใหม่ หลากหลายไอเดียเสริมธุรกิจชาว SMEs ซึ่ง คุณแป๊ะ ได้รับเชิญเป็นวิทยากรให้ความรู้เรื่องการปลูกฝรั่งหวานพิรุณ แก่ผู้สนใจภายในงานดังกล่าวด้วย

    เครดิต : นิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน และ ลาก่อนมนุษย์เงินเดือน หันปลูก“ฝรั่งหวานพิรุณ” 8 เดือนรับทรัพย์ชิลๆ
     
  12. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,432
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,550
    แวะมาดูกระทู้
     
  13. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,432
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,550
    ประสบการณ์ไปกราบ ขอความเมตตา พระอาจารย์เธียนชัย ชัยทีโป

    [​IMG]

    <iframe width="640" height="360" src="https://www.youtube.com/embed/WFA062Ym29A" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    ผมเคยไปกราบพระอาจารย์เธียนชัย เมื่อนานหลายปีมาแล้ว สมัยก่อนสำนักสงฆ์ที่พระอาจารย์เธียนชัยพำนักอยู่นั้น อยู่แถวบริเวณรามอินทรา กิโล 7.

    ช่วงหลังท่านย้ายไปสร้างสวนพุทธธรรมบายตึ๊กเจีย (ปัจจุบันคือวัดเทพรสธรรมาราม) แถวตำบลบ้านใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี

    คำว่า “บายตึ๊กเจีย” เป็นภาษาเขมร เป็นคำที่หลวงปู่สรวงมักกล่าวให้พรเสมอๆ คำว่าบายเป็นภาษาเขมร แปลว่าข้าว ตึ๊ก แปลว่าน้ำ และเจียแปลว่าดี รวมแล้วคำว่าบายตึ๊กเจีย แปลว่าข้าวน้ำดีนั่นเอง

    สมัยที่ผมเคยไปกราบขอความเมตตากับพระอาจารย์เธียนชัยนั้น ท่านเมตตาลงของดีให้ ช่วงนั้นผมทำงานที่บริษัทด้านสื่อสารโทรคมนาคมมีชื่อของประเทศ ภายหลังการไปลงของดี มีอยู่ครั้งหนึ่งได้เคยพูดคุยกับเจ้าหน้าที่โอเปอร์เรเตอร์ท่านหนึ่ง พนักงานบริษัทเดียวกัน แต่คนละแผนก น้องเขาบอกว่า ผมพูดเสียงเพราะหล่อจัง

    ท่านผู้มีอภิญญาที่ผมได้พบเจอและได้นำลงในเวบนี้ เกี่ยวกับประสบการณ์ได้พบเจอผู้มีอภิญญาและเรื่องเล่าโดยผู้มีอภิญญา ก็เคยไปกราบพระอาจารย์เธียนชัย ในครั้งหนึ่งนั้นพระอาจารย์เธียนชัยได้เห็นผู้มีอภิญญา ก็บอกว่าให้รอก่อน ท่านบอกให้ลูกศิษย์ไปหาซื้อยาสมุนไพรแถวรามอินทรากิโล 8 และนำมาให้ท่านผู้มีอภิญญา เพราะพระอาจารย์เธียนชัยท่านคงหยั่งรู้ว่าผู้มีอภิญญามีโรคประจำตัว ภายหลังจากได้กินสมุนไพรที่พระอาจารย์เธียนชัยเมตตามอบให้ ท่านผู้มีอภิญญาก็มีร่างกายแข็งแรงขึ้น

    มีอยู่ครั้งหนึ่งผมไปธุระแถวปทุมธานี ได้พูดคุยกับคนขับรถแท๊กซี่ท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้หญิง ทางคนขับรถแท๊กซี่เล่าให้ฟังว่าได้เคยไปขอความเมตตากับพระอาจารย์เธียนชัย ภายหลังชีวิตก็ดีขึ้น

    ญาติธรรมหรือคนรู้จักเคยนิมนต์พระอาจารย์เธียนชัยไปเจิมป้าย เพื่อเปิดสำนักงาน เห็นเขาเล่าว่ามีผู้คนนิมนต์พระอาจารย์เธียนชัยไปเจิมป้าย เจิมสำนักงาน ค่อนข้างเยอะ

    สำหรับท่านที่มีความทุกข์ในเรื่องการงาน, ธุรกิจ, ความรัก หรืออื่นๆ ก็แนะนำให้ไปกราบขอความเมตตากับพระอาจารย์เธียนชัย ชัยทีโป

    ปัจจุบันพระอาจารย์เธียนชัยอยู่ที่สวนพุทธธรรมบายตึ๊กเจีย (วัดเทพรสธรรมาราม) แถวตำบลบ้านใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี ซึ่งอยู่ก่อนถึงนิคมอุตสาหกรรมบางกะดี่

    พระอาจารย์เธียนชัย เป็นศิษย์หลวงปู่สรวง (เทวดาเล่นดิน)

    ป.ล เคล็ดอย่างหนึ่งเวลาไปกราบ ขอความเมตตากับครูบาอาจารย์ก็คือ ห้ามบอกว่าจะมาดูดวง แต่ให้พูดว่า มาขอความเมตตา ขอคำชี้แนะในเรื่องการงานหรืออื่นๆ

    เครดิต : http://metharung-background.blogspot.com/2015/11/blog-post_16.html
     
  14. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,432
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,550
    บทกรวดน้ำโดยอาจารย์นารี จิตหนึ่งซึ่งหยั่งรู้

    เตรียมน้ำสะอาดไว้ ๑ ขวด และนำจรดระหว่างคิ้ว

    กล่าวคำอธิษฐานจิต ดังต่อไปนี้


    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

    นะ โม พุท ธา ยะ ลูกขอเชิญพระพุทธเจ้าทั้ง ๕ พระองค์โปรดเสด็จมาเป็นประธาน
    อิ ทัง ปุญญะ พลัง (ให้เริ่มเทน้ำลงบนพื้นดิน) ลูกขอฝากน้ำอุทิศนี้ไปกับ พระแม่ธรณี พระแม่คงคา โปรดมาเป็นทิพย์พยาน ขออานิสงค์ผลบุญกุศลอันใดที่ข้าพเจ้า ชื่อ...............สกุล................ ได้กระทำในวันนี้ ทั้งหมด ทั้งปวง ข้าพเจ้าขออุทิศให้กับเจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้าที่กำลังเบียดเบียนข้าพเจ้าอยู่ ณ ปัจจุบันนี้ ที่ทำให้ข้าพเจ้าเกิดทุกข์........................... (เรื่องที่ประสบปัญหา) ไม่ว่าท่านจะมาจาก ชาติใด ภพใด ก็ตาม ทั้งระลึกได้ก็ดีและระลึกไม่ได้ก็ดี ไม่ว่าท่านจะอยู่ในภพภูมิใด ขอให้ท่านจงมารับกุศล ที่ข้าพเจ้าอุทิศให้ในครั้งนี้ โดยมาให้ถึงจุดหมาย อย่าแวะ อย่าเวียนที่ใด ให้กุศลถึงทั่ว ทุกท่าน ทุกตัว ทุกตน ทุกภพ ทุกภูมิ

    ขออานิสงค์ผลบุญดังกล่าวนี้โปรดกลายเป็นโภคทรัพย์ ตามที่ท่านปราถนาทุกประการ

    เมื่อทุกท่านได้อนุโมทนาบุญดังกล่าวนี้แล้ว โปรดอโหสิกรรมซึ่งกันและกัน หยุด อาฆาต พยาบาท จองเวรจองกรรมและเบียดเบียนข้าพเจ้าต่อไปอีกเลย

    ขอให้ท่านได้ไปอยู่ในภพภูมิที่ดียิ่งๆ ขึ้นไปและโปรดช่วยเปิดทางให้ข้าพเจ้าผ่านพ้นปัญหา .................................................... ที่ข้าพเจ้ากำลัง ประสบอยู่ ณ ตอนนี้ ให้หมด ให้สิ้น อย่าหลงเหลือตั้งแต่บัดนี้ เวลานี้เป็นต้นไปด้วยเทอญ



    หมายเหตุ:
    - การกรวดน้ำลงดินกุศลจะส่งถึงเร็วกว่าการกรวดน้ำแห้ง คือ เพียงอธิษฐานจิต สำหรับผู้ที่บารมียังไม่มากพอ
    - การขอฝากผ่านบารมีของพระแม่คงคาและพระแม่ธรณีไปสิ่งสำคัญมาก
    - ระหว่างท่องคำกรวดน้ำด้านบน ให้เทน้ำลงดินตลอดจนจบคำกรวดน้ำ ไม่ว่าน้ำจะเหลือมากน้อยเพียงใดให้เทให้หมดพร้อมกับคำพูดสุดท้ายที่จบ โดยไม่ต้องให้หลงเหลือ
    - ถ้ามี ชื่อ-สกุล ของเจ้ากรรมนายเวร สามารถระบุเจาะจงลงไปได้เลย



    เครดิต : อาจารย์นารี และ https://www.gotoknow.org/posts/470157
     
  15. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,432
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,550
    ธรรมโอสถ

    [​IMG]

    “บวช 9 วันรักษาทุกโรค”

    พระอาจารย์ใหญ่ท่านเมตตารักษาโรคภัยไข้เจ็บให้กับประชาชนทั่วไป ทั้งสมณะ ชีพราหมณ์ โดยไม่เลือกชั้นวรรณะและไม่คิดค่ารักษา โดยท่านใช้หลักธรรมโอสถ มีเงื่อนไขเบื้องต้นเป็นสโลแกนส่วนองค์ว่า “บวช 9 วันรักษาทุกโรค”
    หมายถึงไม่ว่าท่านจะเป็นโรคอะไรก็ตาม ทั้งโรคปัจจุบัน เช่นมะเร็ง เบาหวาน หัวใจ ตับ ไต ฯลฯ หรือโรคจากกรรมเวรในอดีต (โรคที่หมอยังวินิจฉัยไม่ได้ หรือโรคที่ทำให้มีอาการป่วยแปลกๆ ที่ไม่ทราบสาเหตุ) อาการเจ็บป่วยที่เกิดจากการสร้างกรรมทำบาปมาในอดีต เช่นการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต การผิดศีล การทำแท้ง ตลอดจนการถูกกระทำจากคุณไสย ลมเพลมพัด ฯลฯ ไม่ว่าจะเป็นโรคอะไรมาก็ตาม ทางวัดไตรรงค์วิสุทธิธรรม(วัดป่าสระกระโจม) นำโดยพระครูพิทักษ์ศาสนวงศ์ คณะสงฆ์ และเจ้าหน้าที่ชีพราหมณ์ทุกคน ยินดีให้ความอนุเคราะห์ บรรเทาทุกข์ แก้ไข บำบัด เยียวยา รักษา โรคภัย บาปเคราะห์ ให้แก่ทุกท่านด้วยหลักธรรมโอสถตามแนวทางของพระพุทธเจ้า

    ธรรมโอสถคืออะไร ?

    [​IMG]

    ระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า โรคมี ๒ อย่าง คือโรคทางกาย (กายิกโรค) และโรคทางจิตวิญญาณ (เจตสิกโรค) [๑] พระองค์ทรงประกาศคำสอน เพื่อรักษาโรคทางจิตวิญญาณและได้รับการยกย่องจากพระสาวก ว่าเป็นนายแพทย์ผู้เยียวยารักษาโรคของชาวโลกทั้งปวง (สัพพโลกติกิจฉโก)
    ยาที่พระองค์ทรงใช้รักษาโรคก็คือ ธรรมโอสถ ในครั้งพุทธกาล ใครป่วยเป็นโรคทางจิตวิญญาณใด พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมสำหรับรักษาโรคนั้น การฟังธรรมได้ผลชะงัดนัก แต่ในสมัยปัจจุบันที่พระพุทธเจ้าดับขันธปรินิพพานไปนานแล้ว เหลือไว้แต่ธรรมโอสถจำนวน ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ในพระไตรปิฎก ใครจะนำธรรมโอสถไปใช้ คงต้องเลือกขนานที่เหมาะกับโรคทางจิตวิญญาณที่รุมเร้าตน (พระธรรมโกศาจารย์)
    ในพระพุทธศาสนามีหลักในการรักษาโรคที่เกิดจากการเจ็บป่วยมี 2 แนวทางด้วยกัน คือ การรักษาด้วยธรรมโอสถ และการรักษาด้วยยาสมุนไพร โดยการใช้สมุนไพรหลายชนิดผสมกัน มีทั้งใช้รับประทาน ใช้ทา ใช้หยอด ใช้นัตถ์ยา หรือการสูดดมควัน สำหรับการรักษาโรคทางใจนั้นนอกจากรักษาด้วยโพชฌงค์ 7 และสัญญา 10 ควบคู่กับการทำสมาธิเพื่อให้จิตสงบ แล้วยังมีธรรมโอสถที่เรียกว่า สัปปายะ 7
    การรักษาด้วยธรรมโอสถก็เป็นอีกทางหนึ่งในการรักษาโรค นอกเหนือจากการรักษาโรคทางกายด้วยยาสมุนไพรที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตเพื่อระงับความทุกข์ที่เกิดจากการเจ็บป่วย การรักษาโรคทางใจโดยการใช้สมาธิบำบัด หรือด้วยการเจริญสติปัฏฐาน พัฒนาสติ ซึ่งเป็นองค์ความรู้ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน (พระครูอินทสารวิจักษ์ อินฺทสโร (กิจไร่),บทคัดย่อ : 2551) ทั้งนี้การรักษาโรคด้วยสมุนไพรและธรรมโอสถของทางวัด ไม่ขัดแย้งกับหลักการรักษาแผนปัจจุบัน

    การรักษาด้วยธรรมโอสถนี้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาโรคแบบองค์รวม (รักษาโรคทั้งกาย ใจและจิตวิญญาณ) ผู้ที่สนใจรับการรักษาแบบแผนไทยหรือแผนโบราณ ทั้งผู้ที่ต้องการรักษาโรคแบบคู่ขนานคือรักษาด้วยแผนปัจจุบันมาแล้ว และต้องการบำบัดรักษาเพิ่มเติมด้วยธรรมโอสถ และผู้ที่มีศรัทธาต้องการรักษาด้วยวิธีการของทางวัดโดยเฉพาะ อันเนื่องจากเป็นผู้ป่วยระยะสุดท้าย ที่ไม่สามารถรักษาให้ดีขึ้น ด้วยกระบวนการรักษาที่ดีที่สุดในการแพทย์แผนปัจจุบัน หรือกรณีไม่มีเงินเข้ารับการรักษาแบบแผนปัจจุบันที่มีค่าใช้จ่ายสูง
    ทั้งนี้ทางวัดจะยึดตามความประสงค์และความสมัครใจของผู้ป่วยเป็นที่ตั้ง ในการเลือกแนวทางการรักษา การปฏิบัติตามคำแนะนำต่างๆ จากพระอาจารย์หรือจากหมอผู้รักษานั้น

    ผู้ป่วยจะต้องเป็นผู้เลือกเองว่าจะใช้วิธีรักษาอย่างใดจึงจะเหมาะสมกับสภาวะของตนตามเหตุปัจจัยต่างๆ และผู้ป่วยเป็นผู้รับผิดชอบต่อผลการรักษาใดๆ อันเกิดจากการตัดสินใจของตนเองทั้งสิ้น

    การเข้ารับการรักษาโรค
    ในการเข้ารับการรักษาทุกกรณี ท่านจะต้องมาบวชเนกขัมมะ (บวชชีพราหมณ์) เป็นเวลาอย่างน้อย 9 วัน ที่วัดไตรรงค์วิสุทธิธรรม (วัดป่าสระกระโจม) ในระหว่างการบวชนี้ ท่านจะต้องรักษาศีล 8 ปฏิบัติธรรม ด้วยการทำบุญ ทำทาน ทำวัตร สวดมนต์ เดินจงกรม-นั่งสมาธิ ตามกำหนดการต่างๆ ของทางวัดอย่างเคร่งครัด เช่นเดียวกับการไปรักษาโรคโดยแพทย์แผนปัจจุบัน หากท่านต้องการจะหายจากโรคและทุกข์เวทนาต่างๆ ที่รุมเร้าอยู่ ท่านก็ต้องเข้ารับการรักษาและปฏิบัติตามเงื่อนไขในการรักษาอย่างเคร่งครัด

    ที่มา : ธรรมโอสถ
     
  16. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,432
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,550
    ผมเป็นสมาชิก Premium ได้ประมาณ 3 เดือนแล้ว ได้ประสบการณ์มากพอสมควร

    จากการเป็นสมาชิก Premium ได้ประมาณ 3 เดือน พบว่าการให้เช่าบูชาพระเครื่อง-วัตถุมงคล ในห้องพระเครื่อง-วัตถุมงคล เวบพลังจิต ไม่ใช่เรื่องง่าย

    และพบว่าผู้หาเช่าบูชาพระเครื่อง-วัตถุมงคล ส่วนใหญ่นั้นมักจะหาที่ราคาบูชาไม่แพง ถ้าให้บูชาที่ 100-200 บาท แบบนี้มีความหวังมาก แต่หากเป็นราคาบูชาที่มากกว่า 400 บาท เริ่มยาก และหากราคาบูชามากกว่า 700 บาท ค่อนข้างยาก ถ้าหากพระหรือวัตถุมงคลนั้นไม่ดัง ไม่เป็นที่นิยม และจงจำเอาไว้ว่าคู่แข่งรายอื่นๆ ก็มีเป็นร้อยๆ รายหรือพันๆ ราย ถ้าให้เช่าบูชาที่คนไม่ค่อยนิยม เช่น พระบางรุ่นของพระป่า เทียบกับของคนอื่นที่เป็นด้านเสน่ห์ หรือเห็นผลเร็ว เช่น ตะกรุดภรรยามาก ผู้คนมักจะนิยมตะกรุดภรรยามากกว่าพระที่สร้างโดยพระป่า

    คนให้เช่าบูชาพระเครื่อง-วัตถุมงคล ที่ไม่ค่อยดัง อาจต้องกินมาม่า ส่วนคนให้เช่าบูชาพระขุนแผนหรือตะกรุดภรรยามากหรือที่แปลกๆ อภินิหารมากๆ ได้กินอาหารที่ภัตตาคาร

    ดังนั้นท่านที่หาเช่าบูชาพระเครื่อง-วัตถุมงคล เพื่อเก็งกำไรในอนาคต พึงต้องพิจารณาให้ดี ว่าสมัยหนึ่งสิ่งนั้นอาจดัง มีคนต้องการมาก พอผ่านไปอีก 5-10 ปี อาจไม่ดัง คนไม่ค่อยนิยม แม้จะเป็นหลวงพ่อดังๆ ผู้คนก็นิยมเพียงแค่บางรุ่น บางรุ่นผู้คนอาจไม่ค่อยนิยม

    และการเช่าบูชาพระเครื่อง-วัตถุมงคล เพื่อหวังเก็งกำไรในอนาคต ควรต้องทำการบ้านให้ดี คือการก็อปปี้ ข้อมูลเกี่ยวกับพระเครื่อง-วัตถุมงคล ที่เช่าบูชามาให้ดีๆ อาจก็อปเป็นไฟล์ HTML หรือไฟล์ word และเมื่อวันหนึ่งในอนาคตอีก 5 ปีหรือ 10 ปี หรือ 15 ปี เปิดให้ผู้คนเช่าบูชา หากตั้งกระทู้ขึ้นแล้วไม่ค่อยมีคนมาเช่าบูชา สิ่งหนึ่งที่ควรทำ ก็คือการลดราคาบูชา อีกหนทางหนึ่งคือการแถม

    ผมคิดว่าจะหาตะกรุดภรรยามากมาบูชาบ้าง และที่เหลือก็เปิดให้เช่าบูชา ไม่รู้จะดีหรือเปล่า กลัวเป็นการส่งเสริมให้คนมีเมียมาก แต่สิ่งเหล่านี้หาเงินได้ดีกว่าที่ไปช้าๆ กินมาม่าบ้างครั้ง กับการได้เงินเร็วและเรื่อยๆ อย่างไหนจะดีกว่า!!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤศจิกายน 2015
  17. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,432
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,550
    การแผ่เมตตาให้กับสัมมาอาชีพ

    กรรมนั้นมีความละเอียดอ่อนและมีซับซ้อน และยังขึ้นอยู่กับผลบุญเก่าด้วย

    ยกตัวอย่างผู้ที่ประกอบอาชีพทำร้ายชีวิตสัตว์อื่น กรรมที่อาจจะเกิดขึ้นและส่งผลแก่ผู้กระำทำกรรมนั้น มักจะเกี่ยวกับสุขภาพร่างกาย

    ผู้ที่ประกอบอาชีพการพนันหรือ ค้าขายที่มีการค้าขายกำไรเกินควร กรรรมที่อาจจะเกิดขึ้นอาจจะเกี่ยวข้องกับการเงิน เช่น เก็บเงินไม่ค่อยอยู่ โดนโกง โดนหลอก เป็นต้น

    การแก้ไขผลกรรมเหล่านี้ครูบาอาจารย์สอนให้ตั้งจิตอธิษฐาน หมั่นทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับสัมมาอาชีพ

    กรรมนั้นสามารถตกทอดไปยังทายาทแห่งกรรมได้ ลูกและหลานจัดว่าเป็นทายาทแห่งกรรม เพราะว่าเงินทองที่บิดามารดาหามาได้นั้น ต่างก็ได้นำมาเลี้ยงดูลูกหลานของตน ดังนั้นการ แผ่เมตตาและขออโหสิกรรมจึงนับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ เพื่อช่วยลดกรรม, ปลดปล่อยสัญญากรรม

    การอธิษฐานแผ่เมตตาให้กับสัมมาอาชีพ

    ให้ทำหลังจากทำบุญ หรือสวดมนต์ หรือเจริญสมาธิวิปัสสนากรรมฐานแล้ว

    ข้าพเจ้าชื่อ....... นามสกุล....... ในภพชาติปัจจุบันนี้ได้เกิดมาใหม่ในตระกูล (บอกนามสกุล)............. ข้าพเจ้าขอระลึกถึงคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ และขอให้พระแม่ธรณี เทพเทวา ทุกท่านทุกพระองค์ โปรดเมตตากรุณา มาร่วมอนุโมทนาบุญ พร้อมกับเป็นทิพย์พยานในการอธิษฐานจิตแผ่เมตตา ในคราวครั้งนี้ของข้าพเจ้าด้วยเถิด

    ด้วยอานิสงส์จากการสมาทานศีล 5 และผลบุญที่ข้าพเจ้าได้เคยปฏิบัติเคยสร้างมา เคยสำเร็จในบุญกุศลนั้นๆ แล้ว ในอดีตชาติก็ดี ปัจจุบันชาติก็ดี และในคราวครั้งนี้ก็ดี ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลนำส่งให้กับข้าพเจ้าเองในปัจจุบันนี้ ให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ทั้งภายในและภายนอก ปราศจากโรคภัยทั้งปวง มีึความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน มีพร้อมสมบูรณ์ไปด้วยเงินทองและปัจจัย 4

    ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนบุญกุศล นำส่งให้กับดวงจิตทุกท่าน ที่สืบสายเลือดตระกูลของข้าพเจ้า ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ หรือละสังขารไปแล้วก็ตาม จงได้รับกุศลผลบุญทันทีทุกท่่าน ณ เวลานี้ ผู้ที่มีทุกข์จงพ้นจากความทุกข์นานาๆ ทั้งปวงทันที ผู้ที่มีความสุขอยู่ก็จงมีความสุขในทุกด้านทันที

    ข้าพเจ้าขอนำส่งให้กับสัมมาอาชีพทุกอาชีพที่บุคคลในตระกูลของข้าพเจ้าได้กระทำเพื่อใช้เลี้ยงดูครอบครัวสืบๆ กันมาจนถึงตัวข้าพเจ้าเอง

    หากการประกอบสัมมาอาชีพของตระกูลข้าพเจ้าและการประกอบสัมมาอาชีพของข้าพเจ้าเอง ทั้งที่ตั้งใจก็ดีและไม่ได้ตั้งใจก็ดี ที่ทำให้ผู้หนึ่งผู้ใดได้รับความทุกข์กาย ทุกข์ใจ ทุกข์ในปัจจัย 4 และทุกข์ในความเป็นอยู่ หรือสร้างความทุกข์ทรมานใดๆ ให้กับทุกท่าน

    ข้าพเจ้าผู้เป็นลูกเป็นหลานก็ขออโหสิกรรม พร้อมทั้งขอแผ่เมตตา อุทิศบุญกุศลในคราวครั้งนี้ นำส่งให้กับดวงจิตของท่านทั้งหลายที่ได้กล่าวมาทุกท่าน เมื่อได้รับแล้วโปรดเมตตาให้อภัยทานอโหสิกรรม ปลดปล่อยสัญญากรรม ให้กับตระกูลของข้าพเจ้า ตัวของข้าพเจ้า ครอบครัวของข้าพเจ้าทุกคนด้วยเถิด



    ที่มา : หนังสือคนเปิดกรรม 3 เส้นทางกรรม (โดยคุณมณฑล สายทัศน์์)
     
  18. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,432
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,550
    ถ้ามีโอกาสก็ควรแผ่เมตตาให้กับสัมมาอาชีพบ้าง เพราะคนเราไม่รู้ว่าต้องรับเศษกรรมจากบรรพบุรุษเพียงใด

    กรรมจาการประกอบอาชีพที่พึ่งระวัง เช่น การค้ากำไรเกินควร, การทำอาชีพที่พระพุทธเจ้าทรงห้าม 5 อาชีพ, การเอาเปรียบคนอื่นหรือญาติพี่น้องตนเอง, การทำอาชีพฆ่าสัตว์อื่น, การเป็นเจ้านายหรือหัวหน้างานที่ใช้งานลูกน้องหนักเกินไป, การทำงานที่ไม่คุ้มกับเงินเดือนที่ได้รับ-มาสายบ่อย-ให้คนอื่นตอกบัตรแทน, ฯลฯ
     
  19. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,432
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,550
    [​IMG]

    น้ำมันพืช... อันตรายระดับชาติ !!!

    คนไทยตาสว่างเสียที…เลิกเสียเงินซื้อยาฝรั่ง ต้นเหตุเพียงแค่น้ำมันพืช
    เคลือบระบบดูดซึม
    อดีตเมื่อก่อน 30 ปีที่แล้ว คนไทยใช้น้ำมันมะพร้าว และ น้ำมันหมู
    ทำกับข้าว จู่ๆโฆษณา(แหกตา)ฝรั่ง มากล่าวโทษวิถีไทยเดิมๆ มาขี้ตู่
    เหวงว่าน้ำมันมะพร้าว และ น้ำมันหมู ทำให้คลอเลสเตอรอลสูง เพราะ
    จับตัวเป็นไข แล้วขี้ตู่เหวงว่าวิธีแก้คือ การใช้น้ำมันพืช
    ปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่เปลี่ยนมาใช้น้ำมันพืช เพราะความเชื่อผิดๆที่ถูกฝรั่งฝังหัวมา แต่
    ปรากฏว่า อัตราการเป็นโรคต่างๆมากขึ้น … ไขมันในเลือดสูง, โรค หัวใจ, โรค
    ไต, ภูมิแพ้…เป็นต้น
    วงการสุขภาพของตะวันตก เพิ่งจะมาตาสว่างเมื่อค้นพบโทษของ
    น้ำมันพืช
    สหรัฐฯได้ออกมาตรการลด ละ เลิก ใช้ น้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี(transfat oil)
    ใน หลาย ๆ รัฐ
    ท่านสามารถอ่านข่าวเหล่านี้ได้ เช่น
    อาร์โนลด์ ชวาชเนกเกอร์ ผู่ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย กับการแบนการใช้น้ำมันพืชผ่าน
    กรรมวิธี โดยกล่าวว่า “การใช้น้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี ทำให้เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ…”
    http://gov.ca.gov/press-release/10291/
    รัฐ เท็กซัส…พระราชบัญญัติขจัดน้ำมันพืชแปรรูปให้หมดจากร้านอาหาร
    ภายใน สิงหาคม 2553
    KFC เริ่มเห็นโทษของน้ำ มันพืชผ่านกรรมวิธี ออกเมนูไร้น้ำมันพืช Transfat
    McDonald ประกาศเริ่มใช้ น้ำมันชนิดอื่น แทนน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธีเมื่อปี 2007 เริ่ม ต้น
    ที่ 1,200 สาขา
    Dunkin Donut ประกาศ เลิกใช้น้ำมันพืชผ่านกรรมวิธีตั้งแต่ปี 2550
    เว๊บไซท์ ต่อต้าน transfat Ban Trans Fats: The Campaign to Ban Partially Hydrogenated Oils
    โรคที่มากับน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี…ระบบเผาผลาญอาหาร เสื่อม, เบาหวาน
    , ธัยรอยด์, เสื่อสมรรถภาพทางเพศ, โรคหัวใจ, โรคอ้วน, โรคไต
    transfatdisease.com
    อาหารที่พบอยู่ทั่วไปมีน้ำมันพืชเสมอ… ก๋วยเตี๋ยว, ผัดไท, หอยทอด, ราดหน้า, ผัดผัก
    ทุกชนิด, ไก่ทอด, ปาท่องโก๋, ข้าวผัด ขนมอบ เบเกอรี่…สรุปรวมว่าอาหารทุกชนิดที่ใช้
    กะทะ (ผัด ทอด) ใช้น้ำมันพืชทั้งนั้น
    น้ำมันพืชเกือบทุกชนิด ใช้น้ำมันปาล์มเป็นวัตถุดิบ ซึ่งราคาถูก แต่ขวางระบบดูด
    ซึม น้ำซึมผ่านไม่ได้ หากใช้วัสดุอื่นตามที่โฆษณาจริง เหตุใด
    จึงยังขายได้ในราคาถูกเช่นนั้น
    อย่าให้คำว่า ‘ไม่เป็นไข’ มาหลอกท่านได้อีก
    น้ำมันพืชเมื่ออยู่ในอุณหภูมิที่ต่ำกว่า 25 องศา จะดูสวยงาม ไม่เป็นไข ผิด
    กับน้ำมันหมูที่เมื่อยู่ในอุณหภูมิต่ำจะเป็นไข…แต่เมื่อน้ำมันพืชเข้าไปอยู่
    ในร่างกาย อุณหภูมิ 37 องศา จะกลายเป็นกาวเหนียว เกาะติด
    ลำไส้ตั้งแต่ลำคอลงมาถึงลำไส้ใหญ่ไม่สามารถล้างออกได้ด้วย
    พืชผักที่เราทานเข้าไป และ ไม่สามารถล้างออกได้ด้วยน้ำชาธรรมดา
    …แต่น้ำมันจากสัตว์ และ น้ำมันมะพร้าว เมื่ออยู่ในอุณหภูมิ
    ร่างกายจะไม่มีทางเป็นไข และ จะละลายกับน้ำได้ สารอาหาร
    ต่างๆยังซึมเข้าร่างกายได้
    หากท่านลองนำน้ำมันพืชใส่ภาชนะ แล้วไปตั้งทิ้งไว้
    กลางแดดสัก 10 นาที อุณภูมิจะประมาณ 30 กว่าองศา
    ใกล้เคียงร่างกายมนุษย์…ท่านเช็ดน้ำมันพืชออกได้ยาก
    มาก เหมือนกับที่เขม่ากาวติดกะทะ เครื่องครัว เขม่า
    กาวเหนียวนั่นคือผลของน้ำมันพืชโดนความร้อน
    จำเป็นต้องใช้กรดมาล้างเท่านั้น
    แต่หากท่านลองใช้น้ำมันหมู หรือ น้ำมันมะพร้าว ใส่ภาชนะแล้วตาก
    แดด…จะพบว่าล้างออกได้โดยง่าย
    เมื่อน้ำมันพืชเคลือบระบบดูดซึมท่านทั้งหมด น้ำก็จะไม่เข้าร่างกาย
    ท่าน เมื่อท่านทานน้ำ น้ำก็จะถูกไตพาไปที่กระเพาะปัสสาวะโดยเร็ว
    เสมือนกับท่านทานน้ำ 100% น้ำเกือบทั้งหมดไม่ได้ถูกดูดซึมเข้าไป
    ใช้ในอวัยวะต่างๆเลย กลับเป็นภาระให้ไตนำไปทิ้งเกือบ 100% นี่คือ
    เหตุผลว่า ทำไมท่านทานน้ำแล้วฉี่บ่อย เป็นโรคไต และ โรคกระเพาะปัสสาวะ
    ตามมา
    เมื่อน้ำซึมเข้าตัว ไม่ได้ วิตามินที่มากับน้ำ เช่น วิตามินบี และ ซี ก็จะไม่เข้าร่างกาย
    ท่าน ขาดวิตามินบี ทำให้สมองมีปัญหา เฉื่อยชา ความจำสั้น หากหญิงกำลังตั้งครรค์ มี
    โอกาสทำให้ลูกคลอดมาเป็นออทิสติค ขาดวิตามินซี ทำให้ภูมิคุ้มกันมีปัญหาเป็นภูมิแพ้
    หวัด ไวรัส
    เมื่อภูมิคุ้มกันมีปัญหา ท่านก็จะติดโรคอื่นๆได้ง่ายมาก จบลงด้วยการเสียเงินซื้อยา
    ฝรั่ง เงินทองไหลออกนอกประเทศ เพราะเพียงแค่ท่านหลงเชื่อว่าน้ำมันพืชสมัยใหม่ไม่
    เป็นอันตราย
    น้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี จำเป็นต้องผ่านกระบวนการ
    - ฟอก สี (bleached) เพื่อให้สีดูสวย สดใส
    - แต่งกลิ่น (deodorized) เพื่อให้ไม่มีกลิ่นหื มีกลิ่นตามที่ต้องการ
    - ใส่ ไฮโดรเจน (hydrogenated)
    -
    กระบวนการเหล่านี้ทำให้สารเคมีเปลี่ยน เมื่อทานเข้าไปแล้วเป็นพิษต่อร่างกาย
    โดยตรง
    เมื่อใดที่เห็นข้างกล่องผลิตภัณฑ์ว่า มีน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี ขอให้รู้ว่านั่นคือยาพิษ โยน
    ทิ้งขยะทันที …
    …Trans fats do not exist in nature. They are laboratory-designed and have adverse health consequences. They
    interfere with the body’s production of beneficial fatty acids and promote heart disease. As trans fatty acids
    offer no benefits and only clear adverse metabolic consequences, when you see the words partially
    hydrogenated on the side of a box, consider it poisonous and throw it in the trash. (Ascherio, A., and W. C.
    Willett. 1997. Health effects of trans fatty acids. Am. J. Clin. Nutr. 66 (4 supp.): 1006S–10S.)
    Dunkin' Donuts Kills Trans Fat : Disease Proof
    ถึงเวลาล้างได้แล้ว
    ท่านจำเป็นต้องล้างน้ำมันพืชในร่างกาย ที่สะสมมาตั้งแต่เกิดเสียที ด้วยสูตรตาม
    ธรรมชาติที่ท่านสามารถพึ่งพาตัวเองได้ มี 2 สูตร ที่ได้รับการทดสอบจากประชาชน
    ทั่วไปมากกว่าห้าหมื่นคน และ ได้ผล
    สูตรที่เร็วที่สุด คือ น้ำชามะละกอ (ล้างอย่างเดียว แต่เร็ว)
    วิธีทำ : มะละกอดิบที่ใช้ตำส้มตำ นำมาหั่นเป็นชิ้นเหมือนชิ้นฟัก ประมาณ 6-8 ชิ้นต่อน้ำ 2 ลิตร จะขาดจะเกิน ไม่ผิด
    (ถ้าใส่มากเกินไปจะทำให้บูดง่าย มะละกอดิบที่เหลือ ใส่ตู้เย็นเก็บไว้ใช้ได้ในครั้งต่อไป) และ ใบเตย หรือ เก๊กฮวย อย่างใด
    อย่างนึง กะเอง ต้มในน้ำ จนเดือด พอเดือดได้ ประมาณ 1 นาที ปิดไฟทันที อย่าต้มต่อ ให้เอามะละกอ กับ ใบเตยทิ้ง
    (อย่า ปล่อยให้มะละกอเดือดจนเละ) แล้ว ใส่ใบชา ลงไปแช่ประมาณ 4 นาที ห้ามแช่นานกว่า 4 นาทีเพราะสารแทนนินจะอ
    อกมา ทำให้ท้องผูก แล้วตักใบชาทิ้ง จะได้น้ำชามะละกอ ดื่มร้อน หรือ เย็นได้ น้ำชาที่เหลือให้แช่ตู้เย็น เก็บไว้ได้
    ประมาณ 2 วัน เกินกว่านั้น จะบูด (ยางมะละกอล้างไขมัน, ใบเตยให้ความสดชื่น, ชาดับกลิ่น
    มะละกอ)
    สูตรนมสดโยเกิร์ตน้ำผึ้งมะนาว (ล้างและบำรุง ค่อยๆล้าง)
    นมสด โยเกร์ต น้ำผึ้ง มะนาว : ใช้โยเกิร์ตชนิดจืดครึ่งถ้วย ผสมนมสดชนิดจืด 1 กล่อง เติมน้ำผึ้ง 2 ช้อนชา และ บีบมะนาว 2
    ลูก คนให้เข้ากัน ทิ้งไว้ 5-10 นาที แล้วค่อยดื่ม
    คุณสมบัติ : ใ ห้วิตามิน B บำรุงสมอง วิตามิน C เพิ่มภูมิต้านทาน, จุลินทรีย์ตัวดีช่วยย่อยน้ำ มันพืช, นมส ด ให้แคลเซียม
    ขอให้ท่านมองดูคนป่วยรอบกายท่าน คนป่วยในสังคม แล้วถามตัวเองว่า
    - คนเหล่านั้น ทานน้ำมันพืชแล้วภูมิคุ้มกันมีปัญหา ป่วย แต่ไปรักษาปลายเหตุ ใช่หรือไม่
    ?
    - คนป่วยเหล่านี้มากพอหรือยัง เงินที่คนป่วยเหล่านี้ต้องจ่ายซื้อ ยา เงินนั้นอยู่ในประเทศ
    หรือนอกประเทศ ?
    - เศรษฐกิจพอ เพียงจะเกิดขึ้นได้อย่างไร หากคนไทยยังไม่ดูแลสุขภาพตนเอง ต้อง
    พึ่งพายาฝรั่งไปเรื่อย ๆ ?

    ที่มา : https://www.facebook.com/saamonpai/...2136324553528/484791131621380/?type=3&fref=nf
     
  20. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,432
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,550
    [​IMG]

    10 อ้นดับผลไม้ที่มีสารต้านมะเร็งสูง

    1. มะม่วงน้ำดอกไม้สุก
    2. มะเขือเทศราชินี
    3. มะละกอสุก
    4. กล้วยไข่
    5. มะม่วงยายกล่ำ
    6. มะปรางหวาน
    7. แคนตาลูปเนื้อเหลือง
    8. มะยงชิด
    9. มะม่วงเขียวเสวยสุข
    10.สับปะรดภูเก็ต

    (ที่มา:- กรมอนามัยวิจัย 10 ผลไม้ที่มีสารต้านมะเร็งสูง)
     

แชร์หน้านี้

Loading...