คนไทยไฮเทค เตรียมตัวใช้ อี-พาสปอร์ต

ในห้อง 'ข่าวทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย zipper, 18 เมษายน 2005.

  1. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    <b>คนไทยเตรียมตัวรับความ ไฮเทค ทำหนังสือเดินทางอัจฉริยะหรือ อี-พาสปอร์ต กรมการกงสุล เตรียมนำร่องทำให้กับทูตและข้าราชการใช้ก่อน 26 พ.ค.นี้ จากนั้นเปิดให้คน ทั่วไปมาทำในวันที่ 1 มิ.ย. รองอธิบดีกรมการกงสุลระบุ ข้อดีเพียบ สร้างความเชื่อมั่นระดับสากล เพราะเป็นการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล ตรวจได้รวดเร็วแม่นยำ ป้องกันพวกคนร้ายข้ามชาติได้ดีกว่าแบบเก่า โดยคนถืออี-พาสปอร์ตต้องมาบันทึกเค้าโครงใบหน้าลงในไมโครชิพ ยืนยันพวกไปดึงหน้ามาไม่มีผล เว้นแต่ตัดกรามจนโครงหน้าเปลี่ยน ต้องมาบันทึกข้อมูลใหม่</b>

    คนไทยเตรียมได้ใช้หนังสือเดินทางแบบใหม่ที่ไฮเทคมากขึ้นภายในปีนี้ โดยผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 16 เม.ย.ว่า ได้รับการเปิดเผยของนายเจษฎา ชวาลภาคย์ รองอธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ถึงนโยบายของกระทรวงการต่างประเทศในการพัฒนาระบบหนังสือ เดินทางจากหนังสือเดินทางธรรมดาเป็นหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อี-พาสปอร์ต (e-passport) ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2546 ที่เห็นชอบให้กระทรวงการต่างประเทศกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ปรับปรุงระบบหนังสือเดินทางไทยให้มีความทันสมัย ตามมาตรฐานขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือ ไอซีเอโอ และกระทรวงการต่างประเทศพิจารณาจัดเตรียมโครงสร้างของระบบ ที่เหมาะสมเพื่อรองรับการจัดทำหนังสือ เดินทางดังกล่าวนั้น ขณะนี้ใกล้เป็นรูปเป็นร่างแล้ว

    ทั้งนี้ นายเจษฎาอธิบายถึงอี-พาสปอร์ต ว่า เป็นหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ที่มีไมโครชิพบรรจุข้อมูลทางชีวภาพของผู้ถือไว้ในเล่ม ตามไอซีเอโอ ซึ่งเป็นหน่วยงานควบคุมเอกสารการเดินทางตามมาตรฐานของนานาชาติ ส่วนประโยชน์ของหนังสือเดินทางแบบใหม่ ยากต่อการปลอมแปลง เสริมภาพลักษณ์ของประเทศ ในเรื่องของความเชื่อถือของหนังสือเดินทาง ซึ่งจะได้รับการยอมรับในระดับสากล ส่งผลต่อเนื่องในทางบวกด้านเศรษฐกิจการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวของประเทศ นอกจากนี้ ยังสามารถพิสูจน์ตัวบุคคลได้แม่นยำและรวดเร็ว อำนวยความสะดวกต่อการเดินทาง การเข้าเมือง ทำให้สามารถป้องกันการก่อการร้ายสากลข้ามชาติและการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย และอาชญากรรมข้ามชาติ ได้ดีกว่าพาสปอร์ตแบบเก่า เพราะมีการบรรจุข้อมูลเค้าโครงใบหน้า ลายนิ้วมือและม่านตา และประวัติลงไป <b>โดยเฉพาะข้อมูลเกี่ยวกับเค้าโครงใบหน้า ซึ่งเป็นข้อมูลบังคับของไอซีเอโอนั้น จะมีเครื่องมือที่เรียกว่า ออโต้ เกต ซึ่งจะติดตั้งภายในสนามบินทั่วโลกในอนาคต คอยตรวจสอบอ่านเค้าโครงใบหน้าของผู้ถืออี-พาสปอร์ต ถ้าผิดไปจากเค้าโครงเดิมเครื่องจะไม่อ่าน</b>

    นายเจษฎากล่าวอีกว่า ถ้าผู้ถือหนังสือเดินทางทำศัลยกรรมใบหน้ามา ถ้าเป็นการเสริมเติมแต่ง เช่นการดึงใบหน้าให้ตึงขึ้น หรือผ่าตัดเล็กๆ น้อยๆ ไม่มีปัญหาแน่นอน เพราะการบันทึกข้อมูลเค้าโครงใบหน้าจะอาศัยจุดหลักๆ ไม่เกี่ยวกับเนื้อหรือผิวหนัง ฉะนั้นจะอ้วนหรือผอมลงไม่มีผลแน่นอน แต่ถ้ามีการทำศัลยกรรมด้านเค้าโครงใบหน้าโดยตรง เช่น ผ่าตัดกรามหรือกระดูกต้องมีการบันทึกข้อมูลใหม่ ไม่เช่นนั้นเครื่องออโต้เกตอาจจะไม่อ่าน <b>สำหรับข้อมูลชีวภาพที่ไอซีเอโอจะกำหนดไว้มีสองข้อมูลคือข้อมูลบังคับและข้อมูลทางเลือก ข้อมูลบังคับ เป็นเค้าโครงใบหน้าอย่างที่กล่าวไว้ในตอนต้น ส่วนข้อมูลทางเลือกมีม่านตาและลายนิ้วมือ ซึ่งรัฐบาลไทยเลือกข้อมูลลายนิ้วมือ</b> แต่ถ้าในอนาคตทางไอซีเอโอ ต้องการข้อมูลทางม่านตาเพิ่มก็สามารถใส่เข้าไปได้ นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมากที่ไม่สามารถเปิดเผยได้มากกว่านี้

    ส่วนกำหนดโครงการนำร่องใช้อี-พาสปอร์ตนั้น นายเจษฎากล่าวว่า <b>จะเริ่มเป็นครั้งแรกในวันที่ 26 พ.ค.นี้ จะออกให้แก่ทูตและข้าราชการ จากนั้นในวันที่ 1 มิ.ย. จะออกให้แก่ประชาชนทั่วไป ที่กรมการกงสุล จากนั้นในวันที่ 31 ส.ค. จะเปิดบริการทุกสาขารวมถึงต่างประเทศอีก 83 แห่งทั่วโลก</b> สำหรับค่าธรรมเนียมในการทำเล่มราคา 1 พันบาทเท่านั้น ไม่ได้แพงอย่างที่หลายๆ คนวิตกกัน อย่างไรก็ตาม ผู้ที่จะมาทำอี-พาสปอร์ต จะต้องเดินทางมาทำด้วยตัวเอง เพราะจะต้องมีการบันทึกข้อมูลทางชีวภาพของผู้ถือหนังสือ โดยจะมีเครื่องออโต้ เกต ถ้าเค้าโครงใบหน้าไม่ตรงตามข้อมูล ผู้ถือหนังสือเล่มดังกล่าวจะต้องถูกเจ้าหน้าที่ตรวจสอบทันที

    ผู้สื่อข่าวถามว่าประชาชนจะเข้าใจวิธีการใช้อี-พาสปอร์ต ได้อย่างไร นายเจษฎากล่าวว่า ตรงนี้เตรียมแก้ปัญหาไว้แล้ว โดยขั้นแรกจะติดตั้งเครื่องออโต้ เกต ที่กรมการกงสุล โดยทางกรมจะจัดเจ้าหน้า ที่สอนวิธีการใช้ให้แก่ประชาชนให้มีความเข้าใจในเบื้องต้นก่อน ส่วนสนามบินต่างๆ จะมีเจ้าหน้าที่ช่วยดูแลในการใช้เครื่องด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม อี-พาสปอร์ตจะใช้ได้ทั้งเครื่องออโต้ เกต และการตรวจหนังสือเดินทางแบบเก่า คือถ้าผู้ถือ อี-พาสปอร์ต เดินทางไปยังประเทศที่ยังใช้ หนังสือเดินทางแบบเก่า เจ้าหน้าที่ของประเทศนั้นๆ ก็สามารถตรวจสอบประวัติของผู้ถืออี-พาสปอร์ต ได้เช่นกัน

    ด้าน พ.ต.อ.วัชระ สังวรโยธิน รอง ผบก.ตม. กล่าวถึงเรื่องการใช้หนังสือเดินทางแบบใหม่ว่า ส่วนตัวคิดว่าดีมาก เพราะอี-พาสปอร์ต จะสามารถตรวจสอบประวัติของผู้เดินทางได้ละเอียดมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของผู้ก่อการร้าย บางครั้งดูรูปถ่ายยังไม่รู้ว่าใครเป็นใคร แต่ถ้าเป็นหนังสือเดินทางแบบใหม่ค่อนข้างปลอมได้ยาก เพราะมีทั้งลายนิ้วมือและโครงสร้างของใบหน้า ส่วนเรื่องการใช้ในตอนช่วงแรกคงติดขัดบ้าง แต่ใช้นานๆไปก็เข้าที่ ไม่น่าจะมีปัญหาแต่อย่างไร

    ที่มาจากหนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ
     

แชร์หน้านี้

Loading...