ดวงดาว...กำหนดชะตากรรมทุกชีวิตบนพื้นโลก สมิท ธรรมสโรช ผู้ช่วย รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี

การเกิดคลื่นยักษ์ หรือที่เรียกว่า คลื่นสึนามิ เมื่อปลายปี ๒๕๔๗ นักธรณีวิทยาได้อธิบายไว้ว่า เกิดจาก อุณหภูมิที่ต่างกันอย่างมาก ระหว่างเปลือกโลก และหินหลอมเหลวภายในโลก เมื่อแรงนี้ กระทำ กับหินแข็งภายในโลก ทำให้เกิดหินแตกเป็นแนว เรียกว่า แนวรอยเลื่อน เมื่อเกิดการขยับตัว จะเกิดการสั่นไหว ทำให้เกิดคลื่นยักษ์พัดเข้าหาฝั่ง สร้างความเสียให้กับชีวิตและทรัพย์สินซึ่งประเมินค่ามิได้
อย่างไรก็ตาม การเกิดคลื่นยักษ์สึนามิครั้งที่ผ่านมานั้น นายสมิท ธรรมสโรช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีตอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ได้เคยทำนายไว้ล่วงหน้าสมัยเป็นอธิบดีว่า จะเกิดขึ้นในประเทศไทย แต่ไม่มีใครเชื่อ แถมยังเย้ยหยันว่าเอาเหตุผลอะไรมาอ้างอิง และเมื่อคำทำนายของเขาเป็นจริงขึ้นมา มันก็สายเกินที่จะรับมือได้ทัน ที่สำคัญยิ่งกว่าคือ เขาได้ยืนยันว่า "ในอนาคตคลื่นสึนามิจะเกิดอีกแน่นอน"
นายสมิท ได้อธิบายถึงความแตกต่างของลาภ ยศ สรรเสริญ ฯลฯ ของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน โดยใช้ความเป็นนักวิทยาศาสตร์ อธิบายให้ฟังว่า ความแตกต่างที่เกิดขึ้น เชื่อว่ามาจากอิทธิพล ของดวงดาวที่แตกต่างกัน
บางคนเกิดมาวินาทีวันเดียวกัน ปีเดียวกัน บางคนเป็นถึงผู้นำประเทศ แต่บางคนเป็นยาจก แสดงให้เห็นว่าสถานที่เกิดของแต่ละคนที่ต่างหาก ทำให้มีชีวิตที่แตกต่างกันด้วย เพราะอิทธิพลกระแสแม่เหล็กจากดวงดาวที่อยู่นอกโลก จะบังคับชีวิตให้คนห่างเหินกันไป จนไม่เหมือนกันนั่นเอง
ขณะเดียวกัน นายสมิทก็มีความเชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรมด้วยว่า ใครทำ บาปกรรมอะไรไว้ก็ต้องรับบาปกรรมที่ทุกคนต้องชดใช้แน่นอนในชาตินี้ เพราะชาติที่แล้วทำอะไรไว้ไม่ดีอาจส่งผลมายังชาตินี้ได้เช่นกัน ทำให้เรา มองได้ว่า นั่นเป็นกรรมเก่าที่คนทุกคนต้องประสบ แต่ถ้าทุกคน ไม่อยาก ไปชดใช้กรรมในภพหน้า เราก็อย่าไปสร้างกรรม ทุกวันนี้เห็นขอทานก็จะ ทำทาน อย่าไปคิดว่าเขาเป็นขอทาน แล้วจนจริงหรือไม่ จะทำให้เราเป็นทุกข์
กฎแห่งกรรมที่เห็นได้ชัดเจน ครั้งหนึ่งเคยมีเพื่อนได้ดื่มแล้วมี แมลงวัน ตกลงไปอยู่ในแก้ว แทนที่เขาจะหยิบแมลงวันขึ้นมาแล้วฆ่าให้ตาย เขากลับ ค่อยๆ หยิบแมลงวันออกจากแก้ว กระทั่งวันหนึ่งเขาได้ไปเที่ยวทะเล แถวๆ สัตหีบ ระหว่างล่องเรืออยู่นั้น เรือเกิดล่มกลางทะเล เขาต้องลอยคออยู่ในทะเลสองวันสองคืน จนมีคน ผ่านมาช่วยชีวิตได้ทัน นี่ก็เป็นผลบุญที่เขาได้ทำไว้กับแมลงวัน
นายสมิท บอกด้วยว่า แม้วันนี้ยังไม่มีใครพิสูจน์ว่า ชาติหน้ามีจริงหรือไม่ แต่ตัวเองเชื่อว่าชาติหน้ามีจริง เมื่อเรายังไม่ได้เป็นพระอรหันต์ มนุษย์ต่างต้องเวียนว่ายตายเกิดกันต่อไป ดังนั้นเราก็ต้องสร้างบุญ สร้างความดี ทุกวันนี้จะทำบุญสะสมบุญเอาไว้ โดยจะสร้างโบสถ์ สร้างศาลา สร้างกุฏิ สร้างเมรุ สร้างสุขา ถวายวัด ทำทุกอย่างเพื่อปลดปล่อยความทุกข์ให้กับผู้อื่น แต่ไม่ได้ทำบุญเพื่อสะสมบารมี เพื่อให้เป็นใหญ่ในชาตินี้ หรือชาติหน้า
การกระทำอย่างหนึ่งที่ผู้ช่วย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทำทุกวัน จนกลายเป็นกิจวัตรประจำวัน ไปแล้วคือ ต้องสวดมนต์ก่อนนอนทุกคืน ทำให้จิตใจสงบ ไม่ฟุ้งซ่าน ถือว่าเป็นคนที่เคร่งในคำสอน ของพระพุทธศาสนา เนื่องจากถูกสอนให้เข้าวัดทำบุญมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งวัดที่ไปทำบุญเป็นประจำ คือวัดธาตุทอง ย่านเอกมัย เพราะวัดแห่งนี้พ่อได้สร้างโรงเรียนมัธยม ถวายให้กับวัดธาตุทอง สมัย นั้นพ่อได้ถวายข้าวสารให้กับทางวัดเดือนละ ๑ กระสอบเสมอ
"ผมพยายามทำดี ถ้าทุกคนสามารถถือศีล ๕ ศีล ๘ ได้ยิ่งดี ผมว่าถ้าทุกคน ถือศีล ๕ แล้ว โลกเราจะไม่มีเรื่องร้ายๆ เลย เพราะศีล ๕ มีอยู่ในทุกศาสนา แต่ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่ดีที่สุด แค่เราไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ดื่มเหล้า ไม่ผิดลูก ผิดเมีย เอาแค่ประพฤติตนเพียงเท่านี้ สงครามก็จะไม่มีในโลก การโกงการ คอรัปชั่นก็จะไม่มี วันนี้เราไม่ไปเบียดเบียนผู้อื่นให้ลำบาก เราก็จะมีความ สุขกับชีวิต" นายสมิท กล่าว
พร้อมกันนี้ นายสมิทยังเล่าถึงเหตุการเฉียดตายให้ฟังว่า "ผมเคยเฉียดตาย จากอุบัติเหตุบนทางด่วน เมื่อไม่นานมานี้เอง วันนั้นผมจำได้ว่าขับรถยนต์ ไปธรรมดา ไม่รู้ยังไง รถยางแตก ไปชนกับขอบสะพาน แล้วรถก็เด้งไปชน กับรถยนต์คันอื่น ทำให้รถอยู่ในสภาพพังยับเยิน ไม่มีชิ้นดีก็ว่าได้แต่ตัวเอง ไม่เป็นอะไรเลย สิ่งที่เกิดขึ้นถือว่าเกิดจากความประมาทของเราที่ไม่ได้ตรวจสอบยางให้อยู่ในสภาพ สมบูรณ์ อีกส่วนหนึ่งก็เชื่อว่ามาจากบุญด้วย" นี่เป็นเหตุการณ์เฉียดตายของนายสมิท
สำหรับพระเครื่องที่นายสมิทแขวนติดตัวมีหลายชุด ส่วนชุดที่แขวนเป็นประจำมี ๓ องค์ ประกอบด้วย พระสมเด็จ สร้างในสมัยที่ พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ อธิบดีกรมตำรวจในขณะนั้น พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ฐานคู่ และพระหลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ ลำปาง เป็นพระที่ท่านเคยแอบทำไว้ใน สมัยนั้น พระเครื่องทั้งหมดตกทอดมา ไม่ได้เช่ามาจากไหน และการแขวนพระเครื่องก็เพื่อให้ระลึก นึกถึงคุณของพระ และส่วนหนึ่งก็เชื่อในเรื่องปาฏิหาริย์ด้วย "อิทธิพลของดวงดาว คนเกิดมาวินาทีวันเดียวกัน ปีเดียวกัน บางคนเป็นถึงผู้นำประเทศ แต่บางคนเป็น ยาจก แสดงให้เห็นว่า สถานที่เกิดของแต่ละคนที่ต่างกันนั้น ทำให้มีชีวิตที่แตกต่างกันด้วย"

 

ผมว่ากรรมเท่านั้นเป็นตัวกำหนดชะตาชีวิตมนุษย์ทุกคน เพราะมนุษย์มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นสมบัติ มีกรรมเป็นที่พึ่ง กรรมย่อมจำแนกสัตว์โลก(รวมทั้งมนุษย์)ให้ดีหรือเลว หรือสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ไม่เกี่ยวกับดวงดาวต่างๆ จะเกี่ยวบ้างก็เป็นเรื่องทางกายภาพเท่านั้น เช่น ดวงอาทิตย์ให้ความสว่างในเวลากลางวัน ดวงจันทร์ให้ความสว่างในเวลากลางคืน ทำให้เกิดน้ำขึ้น น้ำลง นอกนั้นไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลย อย่างเช่น ดาวพลูโต ดาวยูเรนัส ดาวหาง ดาวไถ ดาวลูกไก่ ดาวมยุรี(เอ๊ะ!!อันนี้ไม่เกี่ยวจริงๆ)ใข่ดาว อื่ม.......ไปดีกว่าเดี๋ยวดาวลอยเต็มหัว

สวัสดีดาวใจไพจิต
จากคนที่ยังไม่เต็มบาทซักที