ธรรมชาติยาตรา เพื่อ"ป่าชุมชน"

ในห้อง 'ข่าวทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย paang, 13 พฤศจิกายน 2005.

  1. paang

    paang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2005
    โพสต์:
    9,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,328
    <CENTER>[​IMG]</CENTER>


    ขบวนมนุษย์ที่เดินเรียงเป็นแถวยาวด้วยอาการสงบนิ่งเสมือนหนึ่งเป็นการเดินภาวนาไปตามแนวขอบถนน โดยไม่คำนึงถึงภูมิอากาศรอบข้าง ว่าจะร้อนอบอ้าวหรือพื้นจะเปียกชุ่มไปด้วยสายฝนสักเพียงใด

    การเดินมีจุดหมาย มีเป้าหมาย มีเริ่มต้นและสิ้นสุดในตัวของมันเอง

    ระยะทางเกือบ 800 ก.ม. เริ่มต้นจากลานริมน้ำปิง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ลัดเลาะลงสู่อ.สบปราบ จ.ลำปาง ผ่านอ.ทุ่งสะเหลี่ยม จ.สุโขทัย เข้าเขตจ.พิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี อยุธยา ปทุมธานี และเข้าสู่จุดสุดท้ายบริเวณหน้ารัฐสภา กรุงเทพฯ

    เพื่อไปรวมกับขบวนของอีกกลุ่มที่เดินมาจากจ.ขอนแก่น แกนกลางของภาคอีสาน เข้ามาสู่จุดมุ่งหมายเดียวกัน




    <CENTER>[​IMG]</CENTER>



    การเดินครั้งนี้เรียกว่า "ธรรมชาติยาตรา" และถือเป็นครั้งแรกของการเดินเท้าแบบ "ธรรมชาติยาตรา" ในเมืองไทย

    ที่ผ่านมามีการเดินลักษณะนี้ แต่เป็น "ธรรมยาตรา" เช่น "ธรรมยาตรา-ยุทธวิธีกู้วิกฤตทะเลสาบสงขลา" ในจ.สงขลา หรือ "ธรรมยาตราเพื่อแม่น้ำมูน" และ "ธรรมยาตรา...รักษาลำน้ำโขง" ในภาคอีสาน





    <CENTER>[​IMG]</CENTER>



    ในความหมายของ "ธรรมยาตรา" แปลได้ตรงตัวจาก "ธรรมะ" คือ พระธรรม และ "ยาตรา" คือการเดิน หรือเดินเป็นกระบวน ความหมายโดยศัพท์ คือการเคลื่อนไปด้วยธรรม หรือโดยเนื้อหาสารเป็นกระบวนการเรียนรู้ ซึ่งผู้เข้าร่วมธรรมยาตราจะได้สัมผัสกับความเป็นจริงทั้งธรรมชาติ สถานการณ์ หรือการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคล

    อีกนัยหนึ่ง "ธรรมยาตรา" เป็นการประยุกต์พิธีกรรมและศาสนธรรมกับการแก้ปัญหาชีวิต สังคม อันหมายรวมถึงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วย


    "ธรรมชาติยาตรา" ครั้งนี้ เป็นธรรมชาติยาตรา เพื่อป่าชุมชนของคนทั้งประเทศ ที่ร่วมเดินด้วยใจของพี่น้องประชาชนจากภาคต่างๆ ทั้งภาคเหนือ อีสาน กลาง และใต้

    "ธรรมยาตราครั้งนี้ทำขึ้นเพื่อรณรงค์อนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยใช้ธรรม อีกทั้งผู้ที่ร่วมเดินมาจากหลายศาสนา คำว่า ธรรมชาติยาตรา จึงเหมาะที่สุด" ประยงค์ ดอกลำใย ผู้ประสานงานโครงการธรรมชาติยาตรา และที่ปรึกษาเครือข่ายป่าชุมชนภาคเหนือ ให้ความรู้ถึงที่มาที่ไปและความหมาย



    <CENTER>[​IMG]</CENTER>




    หลักการสำคัญของการเดินครั้งนี้ คือเดินอย่างสงบ มีสมาธิ ไม่กล่าวหา โจมตี หรือให้ร้ายแก่ใคร รวมถึงรักษาศีลภาวนาให้ได้ 5 ข้อ อันเป็นศีลที่พึงปฏิบัติของมนุษย์ทั่วไป

    นอกจากนี้ ยังมีข้อปฏิบัติที่เป็นข้อตกลงร่วมกัน คือหลีกเลี่ยงรับประทานเนื้อสัตว์ อันแสดงให้เห็นถึงการไม่เบียดเบียนผู้อื่น โดยเฉพาะธรรมชาติ

    คาดว่าจะใช้เวลาเดินธรรมชาติยาตราประมาณ 39 วัน ขบวนธรรมชาติยาตราน่าจะมาถึงที่หมายบริเวณหน้ารัฐสภา ช่วงวันที่ 15 ธ.ค.นี้

    แม้ว่าแนวคิดของการเดินธรรมชาติยาตรา จะเริ่มมาจากการยืนยันที่จะสนับสนุนร่างพ.ร.บ.ป่าชุมชน ซึ่งผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2544 แต่หลังจากนั้นเพียงครึ่งปี วุฒิสภา พิจารณาร่างพ.ร.บ.ป่าชุมชน โดยยำใหญ่และตัดหลักการและหัวใจสำคัญของร่างกฎหมายป่าชุมชนทิ้งอย่างสิ้นเชิง

    นั่นคือ ไม่ให้ชุมชนที่อยู่ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์สามารถจัดตั้งป่าชุมชนได้



    <CENTER>[​IMG]</CENTER>



    ปัจจุบันกฎหมายป่าชุมชนอยู่ระหว่างนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้ง เพื่อลงมติ และผลของการลงมติครั้งนี้จะเป็นข้อสรุปว่า ร่างพ.ร.บ.ป่าชุมชน ที่จะประกาศใช้เป็นกฎหมาย มีสาระแท้จริงอย่างไร

    สำคัญที่สุดที่ต้องติดตามและจับตาคือ ประชาชนเจ้าของประเทศจะได้ประโยชน์จากกฎหมายฉบับนี้หรือไม่

    ประยงค์ ดอกลำใย บุคคลที่ชาวบ้านไว้วางใจให้เป็นที่ปรึกษาเครือข่ายป่าชุมชนภาคเหนือ บอกกล่าวด้วยว่า หากผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร แต่ไม่ลงมติให้ร่างพ.ร.บ.ป่าชุมชน ฉบับสภาผู้แทนราษฎร เป็นฉบับที่ประกาศใช้เป็นกฎหมาย พวกเราชาวบ้านผู้อยู่กับป่าดูแลรักษาป่ามาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายายคงต้องพึ่งร่มใบบุญขององค์ในหลวง โดยถวายฎีกาต่อพระองค์ท่าน




    <CENTER>[​IMG]</CENTER>



    แต่ตอนนี้ชาวบ้านขอร่วมแรง ร่วมใจ ร่วมพลัง ร่วมศรัทธา เดิน "ธรรมชาติยาตรา" จากทุกจังหวัด ทุกภาคเข้ามายังรัฐสภา ในกรุงเทพฯ สถานที่ที่จะชี้ว่ากฎหมายป่าชุมชน จะเป็นกฎหมายของประชาชน เพื่อประชาชน และ "ป่าของประชาชน" หรือไม่

    [​IMG]

    นักการเมืองผู้มีหน้าที่ให้คำตอบ ต้องคิดให้ดี และต้องมีธรรม






    ที่มา http://www.matichon.co.th/khaosod/khaosod_detail.php?s_tag=03hap02131148&day=2005/11/13
     

แชร์หน้านี้

Loading...