มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เตรียมเป็นโจทย์ร่วม ยื่นฟ้องคดี รถเก๋งซีวิค ชนรถตู้บนโทลล์เว

สาวตีนผีผวา-ขู่ฆ่า กบดาน! กลุ่มเฟซบุ๊กไล่ล่า

[FONT=Tahoma,]สาวตีนผีผวา-ขู่ฆ่า กบดาน! กลุ่มเฟซบุ๊กไล่ล่า

แม่ออกรับ-บอกเสียใจ ส่วนแม่ดร.-ร่ำไห้ระงม ตร.จ่อตั้งข้อหาประมาท วงจรปิดมัด-ขับจี้รถตู้!



<table width="20%" align="left" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5"><tbody><tr bgcolor="#400040"><td>
เจ็บด้วย - ภาพสาว 16 ขณะเข้ารักษาตัวที่ร.พ.วิภาวดี หลังขับรถเก๋งชนรถตู้บนโทลล์เวย์ มีผู้เสียชีวิต 8 ศพ ล่าสุดถูก กลุ่มเฟซบุ๊กรุมถล่มและขู่ฆ่าทางเน็ตจนสาวตีนผีเครียดหนัก

</td></tr></tbody></table>สาว ตีนผีวัย 16 ตกเป็นจำเลยในชุมชนออนไลน์ มีการก่อม็อบในเฟซบุ๊กด้วยความคั่งแค้น ที่เป็นผู้ก่อเหตุชนรถตู้ดับ 8 ศพ ฮือเข้ามาคลิกนับแสนคน ขณะที่ฝ่ายเด็กสาวผวาหนัก เพราะถึงขั้นขู่ฆ่า แต่ยังต้องกลับมาที่ร.พ.วิภาวดี เพราะอาการบาดเจ็บที่สะโพก ตร.เตรียมดำเนินคดีข้อหาขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้มีคนเจ็บ-ตาย แต่ต้องสอบในลักษณะเยาวชนต้องคดี รองผบช.น.ยันภาพจากวงจรปิดชี้ชัด เด็กสาวขับรถจี้ท้ายรถตู้จนเกิดสะกิดกัน แล้วรถตู้เสียหลักไปฟาดขอบทางด่วน ไม่ใช่การปาดหน้ากัน เผยแม่เด็กบอกเสียใจในความสูญเสีย ขณะที่ญาติคนเจ็บโวยนับแต่เกิดเหตุ ไม่เห็นมีใครแสดงตัวออกมารับผิดชอบ 'มาร์ค'ยันไม่ต้องห่วงคนนามสกุลใหญ่จะรอดคดีไปได้ รับตามคดีให้เอง

-เผยสาวตีนผีวัย 16 โดนขู่ฆ่า

เมื่อ เวลา 12.00 น. วันที่ 29 ธ.ค. ที่ร.พ. วิภาวดี พ.ต.ท.พิทักษ์ นิยมพฤกษ์ รองผกก. งานศูนย์ควบคุมจราจรวิภาวดีรังสิต เดินทางมาสอบปากคำผู้บาดเจ็บ จากอุบัติเหตุรถเก๋งชนรถตู้จนมีผู้เสียชีวิต 8 ศพ ที่ยังพักรักษาอาการบาดเจ็บ ได้แก่ นายวรัญญู เกตุชู อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และน.ส.กัญจนภัส ปัญญาประเสริฐ อายุ 23 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะวิทยาศาสตร์ สถาบันเดียวกัน จากนั้นเปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจได้สอบปากคำพยานซึ่งอยู่ในเหตุ การณ์ที่พอให้การได้ และรวบรวมพยานหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิด ส่วนเด็กสาวอายุ 16 ปี คนขับรถฮอนด้าซีวิคคู่กรณี ขณะนี้ยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บปวดที่สะโพก ซึ่งการพักรักษาตัวที่โรง พยาบาลต้องปิดเป็นความลับ เนื่องจากตอนนี้เด็กคนนี้มีความหวาดกลัว เพราะถูกข่มขู่เอาชีวิต โดยตำรวจยังไม่ได้สอบปากคำและยังไม่แจ้งข้อกล่าวหา เนื่องจากเป็นเยาวชน ตำรวจต้องรอสอบปากคำร่วมกับสหวิชาชีพ ซึ่งหลังจากหายดีจะเชิญตัวมาสอบปากคำทันที ทั้งนี้ ตนขอยืนยันตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

นายวรัญญู คนเจ็บ กล่าวว่า หลังเลิกเรียน ได้ขึ้นรถตู้เพื่อเดินทางกลับบ้านย่านงามวงศ์วาน โดยนั่งอยู่แถวด้านใน หลังขึ้นรถจ่ายเงินเสร็จ ตนก็หลับไป มารู้สึกตัวอีกครั้งตอนที่รถถูกชนอย่างรุนแรง จากนั้นรถหมุนคว้างจนตนล้มไปทับผู้โดยสารอีกคน ก่อนที่ตนจะรวบรวมสติคลานออกมาจากซากรถตู้ และถูกเจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยนำส่งโรงพยาบาล ขณะนี้แพทย์ได้ผ่าตัดกระดูกไหปลาร้าที่หัก และหัวเข่า ซึ่งอาการโดยทั่วไปดีขึ้นมากแล้ว

-แม่คนเจ็บโวยไม่โผล่รับผิดชอบ

นาง ภัคนันท์ เกตุชู อายุ 53 ปี อาชีพทำสวนที่จ.พัทลุง มารดานายวรัญญู กล่าวว่า หลังทราบ ข่าวรู้สึกตกใจ ไม่คิดว่าผู้ประสบเหตุจะ เป็นลูกตน จึงรีบเดินทางจากพัทลุงขึ้นมากทม.เพื่อมาดูอาการ ซึ่งภายหลังแพทย์ผ่าตัด อาการดีขึ้นมาก ทั้งนี้ อยากให้ตำรวจดำเนินคดีกับผู้ที่เป็นต้นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุครั้งนี้อย่าง เฉียบขาด

นางพิจิตรา ปัญญาประเสริฐ อายุ 48 ปี อาชีพนักข่าววิทยุใน จ.เชียงใหม่ มารดาน.ส. กัญจนภัส กล่าวว่า ปกติลูกสาวจะพักอยู่ที่หอพัก ภายในมหาวิทยาลัย แต่ในวันเกิดเหตุ ได้นั่งรถตู้เพื่อจะมาขึ้นรถทัวร์ที่สถานีขนส่งหมอชิต เพื่อเดินทางกลับบ้านที่จ.เชียงใหม่ แต่กลับมาเกิดอุบัติเหตุเสียก่อน อาการโดยทั่วไปดีขึ้น แต่ยังน่าเป็นห่วงเรื่องของเส้นเลือดสะโพก และหลังที่เป็นแผลฉกรรจ์ ส่วนคดีความยังไม่ได้คิด ต้องรอให้ลูกสาวดีขึ้นก่อน อย่างไรก็ตาม จากการพูดคุย ลูกสาวยังคงตื่นตระหนกกับเหตุ การณ์ที่เกิดขึ้น แต่หลังตนปลอบประโลมจนถึงขณะนี้ สภาพจิตใจดีขึ้นมากแล้ว ทั้งนี้ อยากให้คู่กรณีมาแสดงความรับผิดชอบบ้าง เพราะตั้งแต่เข้าโรงพยาบาลมาจนถึงวันนี้ ยังไม่มีใครมาแสดงความรับผิดชอบ

ด้าน นายไตรภพ วิชย์โกวิทเทน หัวหน้าภาควิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม คณะวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า นักศึกษาของมหาวิทยาลัยที่บาดเจ็บในครั้งนี้ ทางมหาวิทยาลัยได้ส่งตัวแทนนักศึกษาแต่ละคณะมาเยี่ยมตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.ที่ผ่านมา และได้ตรวจสอบว่าทางมหาวิทยา ลัยจะให้ความช่วยเหลืออะไรได้บ้าง ตอนแรกอยากให้ย้ายไปรักษาที่ร.พ.ธรรม ศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อจะได้ดูแลอย่างเต็มที่ แต่ผู้บาดเจ็บต้องเข้ารับการผ่าตัด และต้องดูแลอย่างต่อเนื่อง จึงยังคงรักษาที่ร.พ.วิภาวดีไปก่อน ซึ่งก็ต้องรอดูอาการ และความประสงค์ของผู้ปกครองด้วย ส่วนเรื่องการเรียนทางคณะได้สอบไปแล้วส่วนหนึ่ง และจะสอบอีกครั้งในช่วงหลังปีใหม่ ซึ่งทางคณะเข้าใจดี และคิดว่าเรื่องการเรียนการสอนคงไม่มีปัญหาอะไร

-ตร.เตรียมแจ้งข้อหาขับประมาท<table width="20%" align="right" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5"><tbody><tr bgcolor="#400040"><td>
ทำใจไม่ได้ - นางถวิล เช้าเที่ยง แม่ของดร.ศาสตรา เช้าเที่ยง นักวิชาการ สวทช. 1 ในเหยื่อชนสยองโทลล์เวย์ จัดพิธีศพลูกชายที่บ้านเกิด จ.ราชบุรี ยอมรับยังทำใจไม่ได้ เมื่อ 29 ธ.ค.

</td></tr></tbody></table>

พ.ต.อ. ชัยวัฒน์ กลันทปุระ รองผบก.จร. กล่าวว่า สำหรับคดีนี้ มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนหลายราย เป็นเหตุสะทือนขวัญ ในช่วงเช้าพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้บาดเจ็บที่พอให้การได้ ซึ่งยังคงพักรักษาตัวที่ร.พ. วิภาวดี ส่วนใหญ่ให้การไปเท่าที่ตนเองเห็น ส่วนคนขับรถเก๋งคู่กรณียังเป็นเยาวชน หลังเกิดเหตุได้รับบาดเจ็บพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล พนักงานสอบสวนจึงยังไม่ได้สอบปากคำ อย่างไรก็ตาม ได้สอบปากคำมารดาเด็กแล้ว ให้การว่ารู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอให้ตำรวจทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งตนขอยืนยันว่าไม่ต้องห่วงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะคดีนี้ผู้บังคับบัญชาได้กำชับมา ให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา และให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ได้ตั้งชุดสอบสวนไว้หมดแล้ว

"เบื้องต้นสำหรับคนขับรถเก๋งจะถูกแจ้ง ข้อหาขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ส่วนข้อหาอื่นจะพิจารณาไปตาม พยานหลักฐานที่พบ ส่วนกรณีเยาวชนมาขับรถ ตำรวจต้องดูพ.ร.บ.จราจรมาประกอบการพิจารณาความผิด ส่วนรถทั้ง 2 คัน ให้เจ้าหน้าที่พฐ.มาเก็บรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อนำไปประกอบสำนวนคดี ทั้งนี้ อยากฝากถึงผู้ที่เห็นเหตุการณ์ สามารถเดินทางมาให้ข้อมูลกับตำรวจสน.วิภาวดีได้ตลอด 24 ชั่วโมง" รองผบก.จร.กล่าว

-เฟซบุ๊กก่อม็อบประณามยับ

เวลา 13.30 น. นางรัตติยา คันธา อายุ 52 ปี มารดานายปรัชญา คันธา อายุ 21 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะเศรษฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ซึ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น เดินทางเข้าพบร.ต.ท. สมคิด ศรีนาเมือง ร้อยเวร สน.วิภาวดี เพื่อขอเอกสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับดำเนินการเรื่องประกันชีวิตของนายปรัชญา โดยนางรัตติยา กล่าวว่า หลังเกิดเหตุยังไม่มีใครออกมาแสดงความรับผิดชอบ อย่างไรก็ตาม ทางตนไม่ได้ต้องการที่จะเรียกร้องอะไร แต่เหตุที่เกิดขึ้นทำให้มีผู้บาดเจ็บหลายราย หากจะมีดำเนินการทางกฎหมาย อยากให้ผู้เสียหายทุกคนคุยกัน สำหรับนายปรัชญาบุตรชาย ที่ผ่านมาเป็นเด็กดี ขยันเรียน และเชื่อฟัง พ่อแม่ เคยได้ทุนแลกเปลี่ยนของสโมสรโรตารี่ ไปมลรัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นตนมองว่าเป็นเรื่องของความประมาท อยากให้ผู้ที่ขับรถบนท้องถนนมีความระมัดระวังไม่อยากให้เกิดเหตุลักษณะนี้ ขึ้นมาอีก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดอุบัติเหตุ ชื่อของสาวน้อยวัย 16 ปี ถูกวิพากษ์วิจารณ์รุนแรงในโลกไซเบอร์ โดยเฉพาะอินเตอร์เน็ตและเว็บบอร์ด โดนรุมประณามการขับรถโดยประมาทในวัยเพียงแค่ 16 ปีของเธอ ซึ่งมีภาพจากกล้องวงจรปิดมายืนยันความผิด บางส่วนก็คาดเดาว่าการเป็นลูกหลานนามสกุลดัง จะทำให้เธอหลุดพ้นจากคดีดังกล่าว นอกจากนี้ มีคนไปสร้างแฟนเพจในเฟซบุ๊ก "มั่นใจว่าคนไทยเกินหนึ่งล้านคนไม่พอใจ..." และเพียงแค่วันเดียวมียอดคลิกเห็นด้วยนับแสนคนแล้ว

ทางด้าน ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ดารานักแสดง พี่ชายของสาวคนขับรถเก๋ง ที่ก่อเหตุชนรถตู้ กล่าวว่า ยอมรับว่าขณะนี้เครียด หลังน้องสาวถูกสังคมประณาม ทั้งนี้ ขอชี้แจงว่า ภาพน้องในที่เกิดเหตุที่เผยแพร่อยู่ทางอินเตอร์เน็ตและถูกทุกคนมองว่ากำลัง คุยบีบีเล่น จากที่ตนได้คุยกับน้องสาวทราบว่า น้องกำลังกดโทรศัพท์หาคุณพ่อ โดยเจ้าตัวเตรียมแถลงข่าวกรณีดังกล่าวด้วย

"คุณพ่อผมเป็นทหาร รักความยุติธรรมมาก ตั้งแต่ผมโตมา ท่านก็สอนเรื่องความมีระเบียบวินัย ความซื่อสัตย์ ความยุติธรรม" พระเอกณัฏฐ์กล่าว

-ดร.โผล่เพ้อ-มีรถคันที่ 3 มาชน

ดร.ธวัช ชัย เหล่าศิริหงษ์ทอง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการจราจรและขนส่ง หัวหน้า ทีมสืบสวนเหตุการณ์ชนบนถนน มหาวิทยา ลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เปิดเผยในราย การ "ห้องข่าวรับอรุณ" ทางเนชั่น แชนเนล ภาย หลังลงพื้นที่ไปเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุรถเก๋งชนรถตู้บนทางยกระดับโทลล์ เวย์ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 8 ศพ และบาดเจ็บอีก 7 คนว่า ได้ประ เด็นใหม่มาหลายอย่าง ได้แก่ 1.ที่ร่องรอยรถตู้ ไม่มีรอยถูกชนจากรถเก๋ง 2.ที่รถเก๋งมีสีแดงติดอยู่ข้างรถ อาจเป็นคันที่ 3 ซึ่งเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุนี้ 3.สภาพรถตู้ประตูปิดสนิท เพราะหากระบบรางบิดเบี้ยวประตูจะเลื่อนไม่ได้ ดังนั้น คนที่กระเด็น จึงออกมาทางหน้าต่างที่แตกหมด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข้อมูลของดร.ธวัชชัย จะนำไปใช้ในเชิงการวิจัยเพื่อนำไปเป็นข้อมูลทางวิชาการ โดยจะนำข้อมูลนี้ไปใช้ร่วมกับกรมการขนส่งทางบกเพื่อการปรับปรุงในอนาคต ไม่ได้เกี่ยวข้องกับรูปคดี

-วงจรปิดยันเก๋งสะกิดท้ายรถตู้

ที่ บช.น. พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น. รับผิดชอบงานจราจร กล่าวว่า สาเหตุของอุบัติเหตุน่าจะมาจากความเร็วและความประมาท โดยผู้ก่อเหตุเป็นเด็กผู้หญิงอายุ 16 ปี 6 เดือน กฎหมายยังไม่อนุญาตให้มีใบขับขี่ เท่าที่ดูจากภาพวงจรปิดของบริษัททางด่วนโทลล์เวย์ บันทึกได้เห็นช่วงเดียว กล้องของโทลล์เวย์จะติดไว้ทุกๆ 1 ก.ม. ภาพจะย้อนแสงไฟ เห็น ความเร็วของรถทั้งสองคันตามกันมา แต่ไม่มีอัตราระบุว่าใช้ความเร็วมากน้อยเท่าใด เราดูด้วยตาจะประมาณการความเร็วไม่ได้ ต้องใช้อุปกรณ์กล้องตรวจจับความเร็ว แต่จากการสอบปากคำพยานระบุว่าอยู่ประมาณ 100 ก.ม. จะเห็นว่าขับตามกันอย่างกระชั้นชิด สังเกตลักษณะ การชนไม่แรง เพราะรถทั้งสองคันความเร็วพอๆ กัน แต่ก็ทำให้รถตู้เสียหลัก โดยรถตู้บรรทุกคนมาเต็มอัตรากำหนดคือ 14 คน แบ่งเป็นผู้โดยสาร 13 คน คนขับอีก 1 คน เมื่อถูกรถเก๋งชนสะกิด ทำให้เสียหลักไปปะทะกับขอบปูนกั้นด้านข้างทาง ส่งผลให้ด้านท้ายรถตู้เปิดออก โดยประตูด้านข้างไม่ได้เปิดแต่อย่างใด ตรวจสอบพบว่ายังคงล็อกอยู่ปกติ ผู้โดยสารที่อยู่ภายในรถตู้หลายคนหลับอยู่ ไม่ทันระวังตัว การหลุดออกจากรถไปทำให้เกิดความสูญเสียเป็นจำนวนมาก ถ้ามีการคาดเข็มขัดที่เก้าอี้นั่งทุกตัวจะมีอยู่ ผู้โดยสารจะไม่กระเด็นหลุดออกมาแบบนี้ โอกาสสูญเสียก็จะลดน้อยลงได้มาก เมื่อกระเด็นหลุดออกจากรถตู้ เนื่องจากขอบทางโทลล์เวย์มีระดับไม่สูงมากนัก ทำให้ร่างพุ่งออกตกลงมาจากทางด่วน มีความสูงจากพื้นราบประมาณ 20 เมตร โอกาสสูญเสียมีเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์

-ชี้ชนแล้วโทรศัพท์-เรื่องปกติ

ส่วน กรณีมีรายงานข่าวว่าคนขับรถสองคันไล่กวดปาดกันไปมานั้น พล.ต.ต.ภาณุ กล่าวว่า ไม่ใช่แน่นอน ส่วนที่วิจารณ์ว่าตำรวจจะช่วยเหลือผู้ขับขี่รถเก๋งด้วยการเปลี่ยนชื่อหรือ เปลี่ยนตัวคนขับ ก็ไม่มี เพราะภาพจากสื่อจะเห็นชัดเจน น้องคนขับที่ออกมาจากรถเก๋งมายืนข้างรถ ยืนโทรศัพท์ ซึ่งเป็นปกติของคนที่เมื่อเกิดอุบัติเหตุทั่วไป อันดับแรกที่ทำคือจะโทรศัพท์บอกคนรู้จักหรือตำรวจ เพื่อให้มาช่วยเหลือ ไม่ว่าจะบาดเจ็บหรือไม่ยังไงก็จะต้องโทร.ทั้งนั้น ซึ่งตำรวจสอบปากคำกู้ภัยไว้แล้ว 2 ปาก บอกว่าเห็นว่าขับขี่กันมาปกติ ต่างคนต่างมา ไม่เห็นว่าจะมีการปาดกันไปปาดกันมา ถนนก็ว่างในตอนเกิดเหตุ

รอง ผบช.น. กล่าวต่อไปว่า ผู้ขับขี่มีอายุ 16 ปี 6 เดือน ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ ต้องดูว่าทำไมจึงมาขับขี่รถยนต์ได้ เบื้องต้นตรวจสอบพบว่า ผู้ขับขี่ได้ไปยืมรถยนต์ของเพื่อนมาขับ ไม่ใช่รถยนต์ของตนเองหรือที่บ้าน พ่อแม่ผู้ปกครองอาจไม่รู้เห็นการกระทำเลย ต้องไปสอบถามเพื่อนเจ้าของรถอีกว่ารู้หรือเปล่าว่าผู้ยืมรถยนต์ไปใช้ไม่มีใบ ขับขี่ ในเวลากลางคืนเจ้าหน้าที่ตำรวจค่อนข้างจะป้องกันในทางปฏิบัติได้ยาก ฝากเตือนพ่อแม่ผู้ปกครองให้ช่วยดูแลตักเตือนเด็กเยาวชนในปกครองในเรื่องการ ขับขี่ยานพาหนะด้วย ส่วนเจ้าของรถจะต้องดูบุคคลที่จะให้ยืมรถ ว่าถ้าไม่มีใบขับขี่หรืออยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขับขี่ได้เป็นอย่างดี จะต้องไม่ให้ยืมรถ สังคมจะต้องช่วยกันในเรื่องนี้ด้วย เจ้าของรถที่ให้คนอื่นยืมรถไปเกิดอุบัติเหตุมีความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรฯ มีโทษปรับ

-มาร์ครับช่วยตามคดีไม่ให้ล้ม

เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีหลายฝ่ายกังวลว่าจะไม่สามารถ ดำเนินคดีอุบัติเหตุรถตู้คว่ำได้ เพราะวัยรุ่นที่ขับรถเก๋งมีนามสกุลใหญ่โตว่า "ไม่หรอกครับ ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย ไม่มีใครมีสิทธิพิเศษ ต้องมีการติดตามคดีอย่างเต็มที่"

เมื่อถามว่า การบังคับใช้กฎหมายไม่เข้มงวดหรือไม่ เพราะผู้ขับเก๋งอายุไม่ถึงทำใบอนุญาตขับขี่ นายกฯ กล่าวว่า นี่คือสิ่งที่เราต้องพยายามเพื่อให้เคารพกฎหมาย และไม่ประมาท เรื่องนี้เป็นจุดอ่อนมาตลอด ดังนั้นต้องเข้มงวดกวดขันมากยิ่งขึ้น เมื่อถามว่า เรื่องของเส้นทางที่ยังมีการวิจัยว่าเป็นจุดเสี่ยงด้วย นายกฯ กล่าวว่า เมื่อปีกว่าที่ผ่านมา ตนได้เน้นให้มีการดูสถิติ จุดที่มีปัญหาพิเศษ และมีความสงสัยว่าเป็นปัญหาเชิงกายภาพ ก็ให้เข้าไปปรับปรุง ซึ่งมีการดำเนินการไปหลายจุด ยอมรับว่ามีเยอะมาก และปัญหาหลักช่วงเทศกาลคือแอลกอฮอล์ ดังนั้นต้องรณรงค์เมาไม่ขับ ภาครัฐรณรงค์เพื่อลดจำนวนผู้เสียชีวิต โดยมีการจัดทำแผนระยะยาวใน 10 ปีต้องลดให้ได้ครึ่งหนึ่ง

นายกฯ กล่าวว่า ล่าสุดทางอุทยานแห่งชาติได้ออกระเบียบไม่ให้มีการนำสุราเข้าอุทยาน ดังนั้นต้องเข้มงวดกันมากขึ้น เมื่อถามว่าแต่หลายแห่งยอมรับว่าไม่สามารถปฏิบัติได้จริง นายกฯ กล่าวว่า ต้องเข้มงวด ต้องมีจุดเริ่มต้น จะให้ร้อยเปอร์เซ็นต์ทีเดียวไม่ได้ พยายามทำให้ดีขึ้น ปรับปรุงอยู่ตลอด

-ถึงเป็นลูกใครก็ว่ากันตามกม.

นาย สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คดีอุบัติเหตุรถตู้บนทางด่วนโทลล์ เวย์นั้น รัฐบาลให้ความเอาใจใส่ อย่างที่เมื่อช่วงเช้าได้ไปเปิดงานความปลอดภัยทางท้องถนน คดีความที่เกิดขึ้นได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำ ความผิดอย่างตรงไปตรงมา เพราะเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ ส่วนผู้ที่กระทำความผิดนั้นถึงแม้ว่าจะมีนาม สกุลอะไร หรือเป็นลูกใคร กฎหมายก็ว่าไปตามบรรทัดฐานกฎหมาย ไม่สามารถเว้นให้ใคร หรือไม่เว้นให้ใครได้ กรณีที่อาจจะมีความแตกต่างกันคือ หากผู้กระทำความผิดเป็นผู้ใหญ่ ก็จะเป็นกรณีหนึ่ง แต่ถ้าผู้กระทำความผิดเป็นผู้เยาว์ก็จะเป็นอีกกรณีหนึ่ง แต่ว่าทั้งสองกรณีนั้นก็มีความผิดที่บัญญัติไว้ในกฎหมายไว้แล้ว ในส่วนที่ประชาชนยังแคลงใจที่คดียังไม่มีความคืบหน้านั้น ตนจะสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแถลงการณ์ในคดีนี้ เพื่อตอบข้อสงสัยของประชาชน

-มธ.ขึ้นป้ายแสดงความเสียใจ

วัน เดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่องค์การนักศึกษาม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ติดประกาศบริเวณโรงอาหารกลาง และตามอาคารต่างๆ ของทางมหาวิทยาลัย เรื่อง การเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ส่วนบุคคลชนรถตู้โดยสารสาย ต.118 (ฉบับที่ 1) ว่า จากอุบัติเหตุรถยนต์ส่วนบุคคลชนรถตู้โดยสารสาย ต.118 บนโทลล์เวย์ เมื่อคืนวันที่ 27 ธ.ค. 2553 อันทำให้เกิดความสูญเสียชีวิตของประชาคมธรรมศาสตร์ เพื่อให้เหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นอุทาหรณ์ครั้งสำคัญ ทางองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และกลุ่ม TU ACCIDENT WATCH ได้ตอบสนองต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้นโดยการดำเนินการต่อไปนี้

1.องค์การ นักศึกษาและสภานักศึกษา ได้ดำเนินการจัดตั้งกลุ่มติดตามและเรียกร้องสิทธิ อันรวมถึงการติดตามความคืบหน้าของรูปคดีตามกระบวนการยุติธรรม ให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งที่สูญเสียชีวิต และบาดเจ็บ เพื่อให้ได้รับการเยียวยา และความเป็นธรรมกับผู้ที่ได้รับผลกระทบ 2.กลุ่ม TU ACCIDENT WATCH จะดำเนินการระดมความคิดเห็นและนำเสนอแนวทางป้องกัน แก้ไขปัญหา ไม่ให้เกิดเหตุ การณ์อุบัติเหตุที่เกิดจากการคมนาคม รวมถึง สวัสดิภาพของผู้สัญจรด้วยยานพาหนะ โดยเริ่มต้นจากความปลอดภัยภายในมหาวิทยาลัยก่อน แล้วจึงขยายออกไปสู่ระดับสังคมภายนอกในภายหลัง โดยการจัดกิจกรรมต่างๆ ตามโอกาส

ส่วนบรรยากาศภายในมหาวิทยาลัยธรรม ศาสตร์ ศูนย์รังสิต วันรุ่งขึ้นหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ทางมหาวิทยาลัยได้จัดทำป้ายแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้บาดเจ็บและเสีย ชีวิต บริเวณด้านหน้าโรงอาหารกลาง และวงเวียนท่ารถตู้ธรรมศาสตร์-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นักศึกษาที่อยู่ภายในมหาวิทยาลัยมีความโศกเศร้าต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแสดงความเสียใจและด่าทอผู้ขับรถยนต์ดังกล่าว ส่วนเรื่องการใช้บริการรถตู้สายที่เกิดเหตุมีจำนวนน้อยลง เพราะยังหวาดกลัวอยู่

-แม่ร่ำไห้-งานศพ'ดร.เป็ด'

ที่ จ.ราชบุรี วันเดียวกัน ญาติของดร.ศาสตรา เช้าเที่ยง อายุ 32 ปี หรือดร.เป็ด อยู่บ้านเลขที่ 187/21 ถนนมนตรีสุริยวงศ์ เขตเทศบาลเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี ได้นำศพกลับมาตั้งบําเพ็ญกุศลที่ศาลาการเปรียญ วัดเกาะนัมทาปทวลัญธา ราม อ.เมือง จ.ราชบุรี ท่ามกลางความเศร้าโศกของญาติพี่น้อง โดยในคืนนี้เป็นการสวดอภิธรรมศพในคืนแรก

นางถวิล เช้าเที่ยง อายุ 62 ปี มารดาของดร.ศาสตรา กล่าวทั้งน้ำตาว่า ดร.ศาสตราเป็นบุตรชายของลูกผู้พี่ เมื่อพ่อแม่ของดร.ศาสตราแยกทางกัน จึงได้ขอมาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม และเลี้ยงดูส่งเสียให้เรียนหนังสือ ช่วงประถมวัยก็เรียนที่โรงเรียนวัดมหาธาตุ และให้เรียนม.ต้นที่โรงเรียนเบญจมราชูทิศราชบุรี และด้วยผลการเรียนที่ดี จึงได้เข้าเรียนที่เตรียมอุดมศึกษา กรุงเทพฯ เป็นเด็กเรียนเก่ง ขยัน รู้จักประหยัด จนสามารถสอบชิงทุนเล่าเรียนหลวงไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ จนจบปริญญาเอก จากนั้นกลับมาทํางานใช้ทุนที่สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ เมื่อ 3 ปีที่แล้ว การสูญเสียบุตรชายครั้งนี้เสียใจมาก เนื่องจากมีบุตรชายที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรง

นางถวิลกล่าวว่า จะตั้งศพบําเพ็ญกุศลไว้ 5 วัน ก่อนจะฌาปนกิจศพในวันอาทิตย์ที่ 2 ม.ค.นี้ ถือเป็นการสูญเสียลูกชายที่รักมาก และเพิ่งเรียนจบด๊อกเตอร์มายังไม่ได้ตั้งตัวเลย ตนอยากจะบอกว่ารถที่รับผู้โดยสารนั้น ต้องระวังให้มากกว่านี้ เพราะนอกจากจะทําให้คนในรถตายแล้ว ยังมีญาติพี่น้องของคนที่ตายต้องเสียใจอยู่ภายหลังด้วย

[/FONT]

http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdNak13TVRJMU13PT0=&sectionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBeE1DMHhNaTB6TUE9PQ

 

โพสต์เน็ตอัดยับ สาว16ชนดับ9ศพ

โพสต์เน็ตอัดยับ สาว16ชนดับ9ศพ


โลกสังคมออนไลน์โหมกระหน่ำโพสต์ข้อความโจมตี ข่มขู่สาว 16 โชเฟอร์ซิ่งสยองชนสนั่น 9 ศพ บนโทลล์เวย์ ญาติผวาภัยมืดย้าย รพ.หนี แม่ให้ตำรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา นายกฯยันไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย จี้จุดอ่อนเข้มงวดกวดขันบังคับใช้กฎหมาย ประกันภัยจ่ายเบื้องต้นศพละ 2 แสนบาท ส่วนคนเจ็บตามค่ารักษาพยาบาล

กรณีอุบัติเหตุสยองส่งท้ายปี เก่า รถตู้โดยสาร สาย ต.118 วิ่งระหว่างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต-อนุสาวรีย์ชัยฯ ถูกรถยนต์ฮอนด้าที่ขับโดย น.ส.อรชร หรือแพรวา เทพหัสดิน ณ อยุธยา อายุ 16 ปี พุ่งชนบนทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ใกล้แยกมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน เป็นเหตุให้รถตู้พลิกคว่ำหลายตลบ ผู้โดยสารกระเด็นออกจากรถเสียชีวิตทั้งสิ้นรวม 9 ศพ บาดเจ็บอีก 7 ราย รักษาตัวอยู่ที่ รพ.วิภาวดี นั้น


ความคืบหน้าที่ รพ.วิภาวดี พ.ต.ท.พิทักษ์ นิยมพฤกษ์ รอง ผกก.งานศูนย์ควบคุมจราจรวิภาวดีรังสิต/ทางพิเศษ กก.2 บก.จร. ไปสอบปากคำนายวรัญญู เกตุชู อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ น.ส.กัญจน์นภัส ปัญญาประเสริฐ อายุ 23 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะวิทยาศาสตร์ สถาบันเดียวกัน ผู้โดยสารที่บาดเจ็บ จากนั้นเปิดเผยว่า ในเบื้องต้นสอบปากคำผู้บาดเจ็บที่พอให้การได้ไปแล้วหลายปาก ส่วน น.ส.อรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา อายุ 16 ปี คนขับรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีขาว ทะเบียน ฎว 8461 กรุงเทพมหานคร คู่กรณี ยังไม่ได้สอบปากคำ และยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา เนื่องจากต้องรอรวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำพยานให้ชัดเจนเสียก่อน จากนั้นจะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ น.ส.อรชรยังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลวิภาวดี เพราะมีอาการบาดเจ็บ ปวดที่สะโพก แต่คงต้องปกปิดห้องพักคนไข้เป็นความลับ เพราะเด็กสาวเกิดความหวาดกลัวจากการถูกข่มขู่เอาชีวิต

ทั้งนี้ มีรายงานว่า ญาติได้ย้าย น.ส.อรชรออกจากรพ.วิภาวดี ไปรักษาตัวที่ รพ.อื่นแล้ว ภายหลังจากถูกกระหน่ำโจมตีในสังคมออนไลน์อย่างหนัก โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กข่มขู่ และสร้างกระแสให้เกิดความเกลียดชัง โดยอ้างว่า น.ส.อรชรหลบหนีคดีออกไปต่างประเทศแล้ว บางส่วนยังโพสต์ข้อความปลุกระดมให้ไปรวมตัวกันที่หน้า รพ.วิภาวดีอีกด้วย ทำให้ญาติเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย

ด้าน พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ กลันทปุระ รองผู้บังคับการตำรวจจราจร กล่าวว่า คดีนี้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย เป็นเหตุสะเทือนขวัญ ล่าสุดเสียชีวิตอีกรายรวมเป็น 9 ศพแล้ว พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้บาดเจ็บที่พอให้การได้ที่ รพ.วิภาวดี ส่วนใหญ่ให้การไปเท่าที่ตนเองเห็น ส่วนคนขับรถเก๋งคู่กรณียังเป็นเยาวชน ภายหลังเกิดเหตุได้รับบาดเจ็บรักษาตัวที่โรงพยาบาล พนักงานสอบสวนยังไม่ได้สอบปากคำ อย่างไรก็ตาม ได้สอบปากคำมารดาของเยาวชนคนนี้ให้การว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอให้ตำรวจทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทั้ง 2 ฝ่าย ขอยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ต้องห่วง เพราะผู้บังคับบัญชากำชับให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีและให้ความเป็นธรรม โดยตั้งชุดสอบสวนไว้แล้ว ทั้งนี้ คนขับรถเก๋งจะแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้

ผู้อื่นได้รับบาด เจ็บและเสียชีวิต ส่วนข้อหาอื่นจะพิจารณาไปตามพยานหลักฐานที่พบ กรณีเยาวชนมาขับรถ ตำรวจต้องดู พ.ร.บ.จราจรประกอบการพิจารณาความผิดด้วย ขณะที่รถทั้ง 2 คัน ได้ให้เจ้าหน้าที่ พฐ.มาเก็บรายละเอียดเพิ่มเติม เพื่อนำไปประกอบสำนวนคดี และอยากฝากถึงผู้ที่เห็นเหตุการณ์ช่วยให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วิภาวดี ได้ตลอด 24 ชม.


บ่ายวันเดียวกัน นางรัตติยา คันธา อายุ 52 ปี มารดานายปรัชญา คันธา อายุ 21 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้โดยสารที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถชนบนทางด่วนโทลล์เวย์ เข้าพบร.ต.ท.สมคิด ศรีนาเมือง ร้อยเวร สน.วิภาวดี เพื่อขอเอกสารเพิ่มเติมเพื่อนำไปดำเนินการเรื่องประกันชีวิตของบุตรชาย โดยแม่ผู้สูญเสียกล่าวว่า ภายหลังเกิดเหตุยังไม่มีใครออกมาแสดงความรับผิดชอบ ซึ่งเหตุที่เกิดขึ้นทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย หากจะดำเนินการทางกฎหมายอยากให้ผู้เสียหายทุกคนคุยกันก่อน สำหรับนายปรัชญาบุตรชายเป็นเด็กดี ขยันเรียน และเชื่อฟังพ่อแม่ เคยได้ทุนแลกเปลี่ยนของสโมสรโรตารี ไปรัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ตนมองว่าเป็นเรื่องของความประมาท อยากให้ผู้ที่ขับรถบนท้องถนนมีความระมัดระวังมากกว่านี้ เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุลักษณะนี้ขึ้นมาอีก

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ถึงกรณีตำรวจอาจจะไม่สามารถดำเนินคดีกับ น.ส.อรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา ได้ เพราะนามสกุลใหญ่โตว่า "ไม่หรอกครับ ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย ไม่มีใครสิทธิพิเศษ" เมื่อถามว่า จะให้ความมั่นใจได้อย่างไร นายอภิสิทธิ์ตอบว่า ก็ต้องมีการติดตามคดีอย่างเต็มที่ เมื่อถามว่าการบังคับใช้กฎหมาย อย่างไร เพราะคนขับรถที่เป็นต้นเหตุอายุแค่ 16 ปี นายอภิสิทธิ์ตอบว่า นี่แหละคือสิ่งที่เราพยายามอย่างมากขณะนี้ คือ 1. เคารพกฎหมาย 2. ความไม่ประมาท อันนี้เป็นจุดอ่อนมาโดยตลอด และจะต้องเข้มงวดกวดขันมากขึ้น

นาย สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า รัฐบาลให้ความเอาใจใส่มาก ได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าต้องดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิดในเรื่องนี้ โดยเร็วและตรงไปตรงมา เพราะเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ผู้กระทำความผิดมีนามสกุลที่ถือว่ามีชนชั้นทางสังคม จะมีผลทำให้การดำเนินคดีล่าช้า หรือมีการช่วยเหลือกันหรือไม่ นายสุเทพตอบว่า ขอยืนยันว่าไม่มีการช่วยเหลือกันแน่นอน ต้องว่าไปตามกฎหมาย ตามพยานหลักฐาน ไม่สามารถจะเว้นให้ใครหรือไม่เว้นให้ใครได้ แต่จะมีความแตกต่างกันอยู่บ้างตรงที่ผู้กระทำความผิดเป็นผู้ใหญ่หรือผู้ เยาว์ แต่ทั้ง 2 กรณีก็จะมีบทบัญญัติไว้ในกฎหมายทั้งสิ้น

ที่องค์การ ขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) นายปิยะพันธ์ จัมปาสุต ประธานคณะกรรมการบริหาร ขสมก. (บอร์ด) ร่วมกับนายโอภาส เพชรมุณี ผอ.ขสมก. และนายพิริยะ กลับวิหค ผู้จัดการฝ่ายสินไหมรถยนต์ บริษัทนำสินประกันภัย จำกัด แถลงว่า ในฐานะที่ ขสมก. ดูแลควบคุมรถตู้โดยสารสายดังกล่าว จึงได้เร่งประสานบริษัทประกันภัยเพื่อช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บในเบื้องต้นอย่างเร่งด่วน ไม่คำนึงว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะถูกหรือผิด โดยตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค.นี้ บริษัทประกันภัยจะช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถรายละ 1 แสนบาท และตามประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 รายละ 1 แสนบาท รวมรายละ 2 แสนบาท

ส่วนผู้บาดเจ็บ 6 คน ในรถตู้ จะดูแลค่ารักษาพยาบาลตามวงเงินที่เกิดขึ้นจริง ส่วนคู่กรณีทราบว่าบาดเจ็บเล็กน้อย หากคดีความสิ้นสุดลง ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจะได้รับการเยียวยามากกว่านี้ เนื่องจาก รถตู้ดังกล่าวทำประกันภัยชั้น 1 ระยะเวลาประกัน ตั้งแต่ วันที่ 31 ธ.ค. 2552-31 ธ.ค. 2553 คุ้มครองความเสียหายต่อชีวิตร่างกายเฉพาะส่วนที่เกินวงเงินสูงสุด 1 ล้านบาท ต่อคน และ 10 ล้านบาทต่อครั้ง ความเสียหายต่อทรัพย์สิน 2 ล้านบาทต่อครั้ง

สำหรับ นางนฤมล ปิดตาทานัง อายุ 37 ปี พนักงานขับรถตู้ มีใบอนุญาตขับขี่รถโดยสารสาธารณะชนิดที่ 2 จังหวัดปทุมธานี วันเริ่มอายุ 10 พ.ย. 2553 หมดอายุ 9 พ.ย. 2556 เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนคู่กรณี น.ส.อรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา อายุ 16 ปี ขับรถยนต์ฮอนด้าซีวิค บาดเจ็บเล็กน้อย ตรวจสอบทำประกันภัยกับบริษัทวิริยะประกันภัย

ด้าน นายพิริยะ กลับวิหค ผู้จัดการฝ่ายสินไหมรถยนต์ บริษัทนำสินประกันภัย จำกัด กล่าวว่า การช่วยเหลือเบื้องต้น บริษัทไม่ได้คำนึงว่าฝ่ายใดถูกผิด หากคดีสิ้นสุดแม้รถตู้เป็นฝ่ายผิด บริษัทจะรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายเยียวยาผู้เสียชีวิตรายละไม่เกิน 1 ล้านบาทส่วนผู้บาดเจ็บไม่เกินรายละ 1.5 แสนบาท แต่หากรถตู้เป็นฝ่ายถูก บริษัทนำสินฯมีสิทธิ์เรียกค่าเสียหายจากคู่กรณี โดยพนักงานสอบสวนจะนัดคู่กรณีไปเจรจาเรื่องคดีความ แต่ในชั้นนี้ไม่อยากลงรายละเอียด หรือแสดงความมั่นอกมั่นใจว่าฝ่ายเราถูก แต่บริษัทจะพยายาม รักษาสิทธิ์ของผู้ประกันและของบริษัทให้มากที่สุด

วัน เดียวกัน ที่ นสพ.ไทยรัฐ นายวรกิตติ์ ศรีนิธิโกษิต นักศึกษาปี 3 คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน อุปนายก อมธ. พร้อมด้วยกลุ่ม TU ACCIDENT WATCH ตัวแทนนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เข้ายื่นหนังสือเรียกร้องต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้น จากอุบัติเหตุรถยนต์ส่วนบุคคลชนรถตู้โดยสาร สาย ต.118 ทำให้มีนักศึกษาและอาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เสียชีวิต พร้อมออกแถลงการณ์จัดตั้งกลุ่มติดตามและเรียกร้องสิทธิและความคืบหน้าของคดี ให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบทั้งผู้ที่สูญเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากขณะนี้มีความเคลื่อนไหวภายใน มธ. ทั้งการปิดประกาศด่าทอผู้มีส่วนทำให้เกิดความสูญเสียโดยติดรูปศพผู้ตาย และถามหาใครฆ่าเพื่อนเรา รวมถึงการโพสต์ข้อความผ่านอินเตอร์เน็ต ในลักษณะของการใช้ อารมณ์ความรุนแรงมากกว่าเหตุผล ทาง อมธ. จึงอยากให้ เพื่อนนักศึกษาหยุดตั้งสติและร่วมกันแสดงออกในเชิงสร้างสรรค์และมีเหตุมีผล ขณะเดียวกันก็อยากเรียกร้อง ให้มีการดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมอย่างเที่ยง ธรรม ตรงไปตรงมา รวมถึงการดูแลช่วยเหลือผู้เสียหายทั้งผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต ซึ่งนักศึกษา มธ.ที่บาดเจ็บรักษาตัวอยู่ รพ. 3 ราย ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายเป็นหลักแสนแล้ว และรายหนึ่งยังอยู่ในอาการขั้นโคม่า ไม่ได้สติ มีเพียงความช่วยเหลือจากมหาวิทยาลัย และ ขสมก. เท่านั้น



ไทยรัฐออนไลน์

• โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์
• 30 ธันวาคม 2553, 11:00 น.

โพสต์เน็ตอัดยับ สาว16ชนดับ9ศพ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=-fzuyHvYSSY&feature=player_embedded]YouTube - ภาพจำลองอุบัติเหตุรถตู้ถูกชน[/ame]

คลิปเหตุการณ์จำลอง

 

​

ทีม สืบสวนเหตุรถเก๋งชนรถตู้พบ รถเก๋งครูดขอบทางก่อนหมุนชนกับรถตู้ ระบุต้องสอบสวนคนขับเก๋งหาสาเหตุการเสียหลัก ชี้อาจง่วงนอน รับโทรศัพท์
นาย ธวัชชัย เหล่าศิริหงษ์ทอง ผอ.ศูนย์วิจัยและพัฒนาการจราจรและขนส่ง หัวหน้าทีมสืบสวนเหตุการณ์ชนบนถนน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี กล่าวว่า ในวันนี้ (29ธ.ค.) ทีมงานได้ลงพื้นที่เก็บหลักฐานเพื่อหาสาเหตุของอุบัติเหตุรถเก๋งชนรถตู้บน ทางด่วนโทลล์เวย์ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก​

​

จาก การตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่ามีรอยครูดบนกำแพงทางด่วนในเลนขวา ซึ่งเป็นเลนที่รถเก๋งฮอนด้าซีวิควิ่งมา ก่อนที่จะถึงจุดที่ชนกับรถตู้ รวมทั้งได้ตรวจพบรอยครูดบนด้านขวาของซากรถเก๋งเช่นกัน ทำให้สันนิษฐานได้ว่ารถเก๋งได้เสียหลักครูดกับกำแพงด้านขวาก่อนที่จะเบี่ยง มาทางด้านซ้ายและชนเข้ากับรถตู้ที่วิ่งมาในเลนกลาง

​

ทั้ง นี้จากการตรวจสอบร่องรอยการชน พบว่า รถเก๋งมีรอยชนในมุมซ้ายด้านหน้า ขณะที่รถตู้มีรอยชนตรงช่วงหน้าด้านขวา ซึ่งเป็นการชนหลังจากที่รถเก๋งเสียหลักครูดกำแพงและเบี่ยงเข้ามาในเลนกลาง ที่รถตู้วิ่งมา
"ผลจากการชนทำให้รถตู้พลิกตะแคงซ้าย เนื่องจากรถเก๋งมีลักษณะตัวถังที่ต่ำกว่าเมื่อเกิดการชนจึงมีลักษณะเข้าไป ช้อนใต้ด้านหน้าของรถตู้ทำให้พลิกตะแคงและกระเด็นไปฟาดกับเสาไฟฟ้าข้างทาง โดยมีจุดปะทะอยู่ตรงหลังคาของห้องโดยสาร"นายธวัชชัยกล่าว

​

ขณะ นี้สรุปได้เพียงเบื้องต้นว่า รถเก๋งเสียหลักก่อนจึงจะชนรถตู้และเป็นการชนที่ด้านหน้าไม่ใช่ด้านท้าย ซึ่งสิ่งที่ต้องค้นหาต่อไปคือ รถเก๋งเสียหลักเพราะอะไร โดยมุ่งไปที่เหตุผลของคนขับเป็นหลัก เพราะสภาพรถยนต์และถนนไม่บกพร่อง คือ รถไม่ได้ยางแตก ถนนไม่มีจุดเป็นหลุมบ่อ ดังนั้นการเสียหลักอาจจะมีสาเหตุจากคนขับ เช่น ง่วงนอน รับโทรศัพท์ ฯลฯ ซึ่งจำเป็นต้องสอบถามจากคนขับต่อไป รวมถึงการนำภาพจากกล้องวงจรปิดในมุมต่างๆมาพิจารณาเปรียบเทียบกับหลักฐานที่ ตรวจสอบได้จากที่เกิดเหตุ

​

นาย ธวัชชัยกล่าวว่า ในวันที่ 30 ธ.ค.นี้ ทีมงานได้ทำหนังสือเพื่อขอภาพวีดีโอจากกล้อวงจรปิด ในมุมอื่นๆเพิ่มเติมเพื่อนำมาประกอบการพิจารณาหาสาเหตุ เนื่องจากภาพวงจรปิดที่ถูกนำมาเผยแพร่ตามสื่อมวลชนนั้น ยังไม่สามารถบอกได้ว่ารถเก๋งเสียหลักเพราะอะไร

​

ทั้ง นี้ในการตรวจสอบซากรถเก๋ง ได้พบรอยสีแดงที่หัวรถด้านซ้าย แต่เท่าที่ตรวจสอบพบว่าไม่ใช่สีพ่นรถยนต์ และไม่ใช่สีรถตู้ ซึ่งยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นรอยสีที่เกิดขึ้นก่อนหรือหลังอุบัติเหตุ นอกจากนี้ในการตรวจสอบซากรถตู้ยังพบว่า ประตูอยู่ในสภาพปิดสนิท และเปิดไม่ออกเพราะเสียรูปทรงจากอุบัติเหตุ แต่กระจกหน้าต่างแตกออกหมด จึงสันนิษฐานได้ว่า ผู้เสียชีวิตที่หลุดออกมาจากรถน่าจะหลุดออกมาทางหน้าต่าง
"ปฏิเสธ ไม่ได้ว่าการขับรถเร็วและประมาทเป็นสาเหตุหนึ่งของอุบัติเหตุในครั้งนี้ ฉะนั้นการใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนดและไม่ประมาทจึงเป็นแนวทางป้องกัน อุบัติเหตุในระยะยาว นอกจากนี้ในเรื่องของประสบการณ์การขับรถก็มีส่วนสำคัญ เพราะถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินผู้ที่มีประสบการณ์น้อยก็อาจควบคุมรถไม่ได้ ซึ่งในบางประเทศมีการกำหนดว่า ถ้าพึ่งสอบใบขับขี่ผ่านก็จะห้ามใช้ทางด่วน หรือต้องมีผู้ที่มีประสบการณ์นั่งไปด้วย" นายธวัชชัยกล่าว

​

อำนวยขอดูหลักฐานคดีรถตู้โทลล์เวย์
ด้าน พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) รับผิดชอบงานด้านกฎหมาย เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (30 ธ.ค.) เวลา 10.00 น. ตนจะเรียกพนักงานสอบสวนของสน.วิภาวดี นำข้อมูลหลักฐานทั้งหมดในคดีที่รถตู้โดยสารประสบอุบัติเหตุบนทางด่วนโทลล์ เวย์ เพื่อวิเคราะห์ลงความเห็นในด้านตัวบทกฎหมายว่าจะต้องดำเนินคดีในด้านใดบ้าง หากพบว่าเป็นการประมาท ก็จะต้องดำเนินคดีต่อไป โดยมีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 3 ปี ในส่วนที่ว่าคู่กรณีมีอายุ 16 ปี และไม่มีใบขับขี่รถยนต์นั้น ก็จะเป็นความผิดในส่วนดังกล่าว ซึ่งจะต้องมีโทษปรับตามอัตราที่กำหนด โดยในวันพรุ่งนี้น่าจะมีความคืบหน้าของคดีดังกล่าว
***ภาพจำลองแสดงข้อสันนิษฐานอุบัติเหตุบนโทลล์เวย์จากข้อมูลของทีมสืบสวนเหตุการณ์ชนบนถนน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี****



[SIZE=-3]

[/SIZE]ถือได้ว่าการทำงานของตำรวจในกรณีนี้ มีความรวดเร็วเป็นอย่างมาก และถือว่าเป็นสิ่งดี เพราะขณะนี้กระแสสังคมโดยเฉพาะในโลกไซเบอร์ได้มีการกล่าวถึงกรณีนี้กัน อย่างกว้างขวาง นอกจากนี้บางส่วนก็ได้มีการพิพากษาเรืองดังกล่าวจนจบไปแล้ว
อย่าง ไรก็ดี ยังอยากได้ยินคำขอโทษและความรับผิดชอบต่าง ๆ จากปากผู้ขับรถเก๋งและครอบครัว ไม่ว่าจะผิดหรือถูกก็ตาม เพราะอย่างไรก็ดี กรณีนี้ "คุณ" ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดเหตุการณ์สลดในครั้งนี้ โดยเฉพาะพ่อแม่และผู้ปกครองของเธอที่ปล่อยให้เด็กอายุยังไม่ถึงเกณฑ์มีใบ อนุญาตขับขี่รถยนต์นำรถยนต์ออกมาขับขี่บนถนน ก่อให้เกิดอันตรายต่อตนเองและผู้อื่น
คงอีกไม่นาน หรอกค่ะ กรณีนี้คงจะคลี่คลายลงด้วยดี แต่อยากจะฝากไปยังท่านผู้เกี่ยวข้องทุกท่านในกรณีนี้ว่าเราควรมีมาตรการใด ๆ ที่จะกำหนดขึ้นมาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุสลดเช่นนี้ขึ้นอีก พร้อมทั้งจัดให้มีการบังคับใช้ให้เข้มงวด อย่าเอาเวลาไปเที่ยวไล่กวดมอเตอร์ไซด์หรือ Taxi แต่เพียงอย่างเดียว อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนท้องถนนส่วนใหญ่ถ้าสังเกตุกันให้ดี จะพบว่าส่วนใหญ่เป็นรถเก๋งส่วนบุคคล และรถยนต์สาธารณะแทบทั้งสิ้น
อยาก ให้เข้มงวดทั้งผู้รักษากฏหมาย ปฏิบัติตามกฏหมายให้มากขึ้นทั้งผู้อยู่ภายใต้กฏหมาย อย่าลืมว่า "ท่านตาย" ก็คงมีแต่ครอบครัวท่านที่เสียใจ แต่หาก "ท่านไปทำคนอื่นตาย" ยังมีครอบครัวของคนที่ท่านทำให้ตายต้องเสียใจในเหตุที่ท่านก่อขึ้นอีก และถ้าท่านไม่ตาย ท่านอาจจะถูก "ประนาม" ไปตลอดชีวิต ไม่จากสังคม ก็จากจิตใต้สำนึกของท่านเอง ถ้าท่านยังคงมีมันดีพอ.....
Credit :: http://www.posttoday.com/ข่าว/อาชญากรรม-สังคม/67218/เปิดผลพิสูจน์ที่เกิดเหตุเก๋งเสียหลักก่อนชนรถตู้


เปิดผลพิสูจน์ที่เกิดเหตุเก๋ง "แพรวา 9 ศพ" เสียหลักก่อนชนรถตู้ จนเกิดเหตุสลด
http://www.oknation.net/blog/swongviggit/2010/12/29/entry-3

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=oytLeDjXzvQ&feature=player_embedded]YouTube - ข่าวข้นคนข่าว_ความคืบหน้ารถตู้[/ame]

 

ออกหมายเรียก สาวซิ่งซีวิค เหยื่อตายเพิ่ม1

ออกหมายเรียก สาวซิ่งซีวิค เหยื่อตายเพิ่ม1


"อำนวย นิ่มมะโน" เผย ตร.ออกหมายเรียก "แพรวา" สาว 16 ปีซิ่งซีวิคชนรถตู้บนทางด่วนโทลล์เวย์ จนทำให้มีคนตาย 8 ศพ มาให้ปากคำที่ สน.วิภาฯ 5 ม.ค.นี้ ขู่ไม่มาถูกหมายจับ ด้านเหยื่อตีนผีเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย เป็น นศ.ธรรมศาสตร์ปี 4...

กรณีอุบัติเหตุสยองส่งท้ายปีเสือ เมื่อรถตู้โดยสารร่วม ขสมก.สาย ต.118 วิ่งระหว่างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต-บีทีเอสจตุจักร ถูกรถเก๋งฮอนด้าซีวิค ที่ขับโดย น.ส.อรชร หรือแพรวา เทพหัสดิน ณ อยุธยา อายุ 16 ปี พุ่งชนบนทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ จนพลิกคว่ำมีผู้โดยสารตกลงมาเสียชีวิต บริเวณหน้าประตูทางเข้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน 8 ราย บาดเจ็บอีก 7 ราย รักษาตัวอยู่ที่ รพ.วิภาวดี นั้น





ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 30 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.จันจิรา ซิมกระโทก นักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หนึ่งในผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถเก๋งฮอนด้าชนรถตู้บนทางด่วนโทลล์เวย์ ซึ่งรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู ได้เสียชีวิตลงแล้วเมื่อเวลาประมาณ 04.15 น. ที่ รพ.วิภาวดี ขณะนี้ส่ง รพ.ตำรวจ เพื่อตรวจสอบทางนิติเวช โดยมีญาติมารอรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด จ.บุรีรัมย์ ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 5 รายที่เหลือ อาการปลอดภัยแล้ว โดยที่ 2 ใน 5 คนคาดว่าจะกลับบ้านได้ในวันนี้้

ขณะที่ น.ส.อรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา อายุ 16 ปี ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหานั้น มีรายงานว่ายังอยู่ในสภาพหวาดกลัวและมีความเครียดอย่างหนัก หลังจากกลุ่มคนในโลกอินเทอร์เน็ต ข่มขู่เอาชีวิต มีการโพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์โจมตีอย่างหนัก ปลุกระดมให้เกิดกระแสความเกลียดชัง อ้างว่า น.ส.อรชร ได้หลบหนีไปต่างประเทศแล้ว ทำให้ทางญาติเกรงจะไม่ปลดภัย จึงได้ย้าย น.ส.อรชรไปรักษาตัวที่ รพ.อื่นแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ มารดาของ น.ส.อรชร ได้ให้การกับพนักงานสอบสวนว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอให้ตำรวจทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทั้ง 2 ฝ่าย

ล่าสุด พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) เปิดเผยว่า ตำรวจได้ออกหมายเรียกตัวสาว 16 ปี เข้าให้ปากคำที่ สน.วิภาวดี ในวันที่ 5 ม.ค. 54 ในเวลา 12.00 น. ที่สน.วิภาวดี หากไม่มาก็จะเตรียมออกหมายจับต่อไป ส่วนกรณีมีข่าวว่าผู้ต้องหาเตรียมหลบหนีออกนอกประเทศนั้น ทางตำรวจได้ประสานกับตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ประจำทุกจุดผ่านแดนแล้ว





ต่อมาเวลา 12.45 น. นายสะโอด ซิมกระโทก อายุ 55 ปี นางปิยะวรรณ ซิมกระโทก อายุ 52 ปี และ นายอภิศักดิ์ ซิมกระโทก อายุ 27 ปี พ่อแม่และพี่ชายของ น.ส.จันจิรา หรือน้องป้าย ซิมกระโทก อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เหยื่อรายล่าสุดที่เสียชีวิตจากกรณีรถตู้โดยสารถูกชนบนทางด่วนดอนเมือง ได้นำเอกสารติดต่อขอรับศพที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ ท่ามกลางกลุ่มเพื่อนๆ และครูอาจารย์ กว่า 100 คน ที่เดินทางมาถึงก่อนหน้านี้

นายสะโอด กล่าวว่า หลังเกิดเหตุอยู่กับน้องป้าย ที่ รพ.วิภาวดี ตลอดเวลาตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 28 ธ.ค. จนถึงยามสิ้นใจ รู้สึกเสียใจมากไม่เคยคาดคิดจะต้องมาสูญเสียลูกไปไวขนาดนี้ ที่ผ่านมาไม่เคยวางแผนอะไรให้น้องป้าย ด้วยความที่ตนกับภรรยารับราชการเป็นครู ก็สั่งสอนลูกๆ ทุกคนไปตามระเบียบแบบแผน ส่วนน้องป้าย เป็นคนมุ่งมั่นขยันเรียนและตั้งใจทำงานดีมาตลอดอยู่แล้ว ไม่ต้องเคี่ยวเข็ญกัน หลังจากนี้จะนำศพลูกไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดบ้านสวน อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ บ้านเกิด กำหนดสวดเพียง 2 วันแล้วจะเผาในวันเสาร์ที่ 1 ม.ค. 54 ส่วนความคืบหน้าทางคดีตนไม่ได้รับรู้อะไรเลยอยากฝากถึงตำรวจไปด้วยว่า ขอให้ทำคดีอย่างตรงไปตรงมา สำหรับทางคู่กรณีก็สมควรออกมาแสดงน้ำใจไมตรีต่อกันบ้างเพราะเราก็คนไทยด้วย กัน




ด้านนายอภิศักดิ์ พี่ชาย กล่าวว่า พ่อกับแม่ตนมีลูกด้วยกัน 3 คน ตนเป็นลูกคนกลาง ส่วนน้องป้าย เป็นคนสุดท้อง ขณะนี้น้องป้าย เรียนอยู่ปีสุดท้ายใกล้จบการศึกษาแล้ว น้องวางแผนโครงการว่าหากฝึกงานในบริษัทย่านปทุมธานีจบ ก็จะเดินทางไปศึกษาต่อด้านภาษาที่นิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา นาน 3 เดือนก่อนกลับมาเตรียมตัวรับพระราชทานปริญญาบัตร ขณะนี้ทำเรื่องเกี่ยวกับหนังสือเดินทางเอาไว้เป็นที่เรียบร้อย เสียดายอนาคตของน้องไม่น่ามาด่วนจากไปเสียก่อน

ขณะที่ ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตร รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เดินทางมาสมทบพร้อมมอบเงินช่วยเหลือให้กับครอบครัวซิมกระโทก จำนวน 80,000 บาท โดยกล่าวว่า เงินตรงส่วนนี้เป็นเงินช่วยค่ารักษาพยาบาลและค่าทำศพของน้องป้าย ซึ่งทางสถาบันนำมามอบให้ แต่ยังมีเงินประกันชีวิตที่จะได้รับในภายหลังอีก 310,000 บาท ส่วนความคืบหน้าทางคดียืนยันว่าทางสถาบันช่วยเหลือเหยื่อทุกรายเต็มที่ โดยเตรียมประสานนักกฎหมาย ทนายความ เอาไว้แล้วหากหลังจากนี้คดีไม่มีความคืบหน้าก็จะติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อยื่นมือเข้าไปให้การช่วยเหลือเหยื่อทุกรายต่อไป

จากนั้น พ.ต.ต.หญิงนปภัช ณัฏสุมน แพทย์ผู้ทำการผ่าชันสูตรได้ส่งมอบศพของ น.ส.จันจิรา ให้ญาติทำการแต่งตัวและประกอบพิธีรดน้ำศพภายในห้องประกอบศาสนกิจ โดยระบุในใบแจ้งสาเหตุการตายว่า “สมองบวมฟกช้ำ กะโหลกแตกจากการกระทบกระแทกอย่างรุนแรง” ระหว่างนั้นกลุ่มเพื่อนของผู้ตายทั้งชายและหญิงต่างยืนล้อมวงกันที่หน้าห้อง ร่วมกันร้องเพลง "สา-สุข แห่งธรรม" เพลงประจำคณะสาธารณสุขศาสตร์ และเพลง "นี่หรือธรรม" เพลงของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่ามกลางเสียงร่ำไห้อาลัย ก่อนจะเคลื่อนย้ายศพของ น.ส.จันจิรา ใส่โลงนำขึ้นรถตู้โตโยต้า รุ่นแกรนด์วาก้อน สีขาว หมายเลขทะเบียน ออ 7756 กรุงเทพมหานคร ขับออกจาก รพ.ตำรวจ มุ่งหน้าไปที่ จ.บุรีรัมย์ เพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลต่อไป.

ไทยรัฐออนไลน์

• โดย ไทยรัฐออนไลน์
• 30 ธันวาคม 2553, 15:08 น.

ออกหมายเรียก สาวซิ่งซีวิค เหยื่อตายเพิ่ม1 - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

สกุล 'เทพหัสดิน' แพร่จดหมายเสียใจ

สกุล 'เทพหัสดิน' แพร่จดหมายเสียใจ


สกุลเทพหัสดิน เผยแพร่จดหมาย ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ต่ออุบัติเหตุบนทางด่วน หวังเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นอุทาหรณ์ให้แก่สังคม...

วัน ที่ 30 ธ.ค. สกุล "เทพหัสดิน" ได้เผยแพร่จดหมาย เรื่อง ขอแสดงความเสียใจต่ออุบัติเหตุ เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2553 ลงวันที่ 30 ธ.ค. 2553 ระบุว่า "สืบเนื่องจากอุบัติเหตุบนทางด่วน เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2553 ที่ผ่านมานั้น สมาชิกสกุลเทพหัสดินและครอบครัวของนางสาวอรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา ใคร่ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ในการสูญเสียที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อครอบครัวและญาติมิตรของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสีย ชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว"

"ทางสกุล เทพหัสดิน หวังว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจักเป็นอุทาหรณ์ให้แก่สังคม และขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก ได้ประทานพรแด่ทุกท่าน ณ โอกาสนี้ด้วย"

โดยความเคารพอย่างสูง

สกุล เทพหัสดิน


ไทยรัฐออนไลน์

• โดย ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์
• 30 ธันวาคม 2553, 21:08 น.

Thairath Mobile Site

 

แม่คนขับรถตู้อยากให้คนขับเก๋งแสดงความเสียใจ

แม่คนขับรถตู้อยากให้คนขับเก๋งแสดงความเสียใจ


มารดาของคนขับรถตู้ ที่เกิดอุบัติเหตุบนทางด่วน กราบขอบคุณสื่อ เสนอข่าวเป็นกลาง พร้อมอยากเห็นคนขับรถเก๋งออกมาแสดงความเสียใจ...

เมื่อ เวลา 18.30 น. วันที่ 30 ธ.ค. ที่ศาลายิ้มลั้ง ภายในวัดสายไหม ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบพบคุณแม่ทองพูล พานทอง อายุ 56 ปี บ้านเลขที่ 99/127 ม.6 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พร้อมด้วยญาติ ๆ ประมาณ 10 คน กำลังจัดเตรียมงานเพื่อจะสวดอภิธรรมศพให้กับ นางนฤมล ปิดตาทานัง โชเฟอร์คนขับรถตู้ โดยจัดงานเป็นไปอย่างเรียบง่าย

ด้าน นางทองพูล พานทอง อายุ 56 ปี กล่าวทั้งน้ำตาว่า รู้สึกเสียใจกับการจากไปของลูกเป็นอย่างมาก แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะไหนๆ ลูกก็จากไปแล้ว ตอนนี้ก็มีเพียงพวงหรีดของ บมจ.นวกิจประกันภัย ซึ่งเป็นของรถเก๋งคันดังกล่าว ที่นำมามอบให้พร้อมเงินสดจำนวน 100,000 บาท เป็นค่าทำศพ นอกจากนี้ ยังมีบริษัทประกันภัยของรถตู้ที่ลูกตนขับอีกจำนวน 100,000 บาท แต่คุณแม่คิดว่า ครอบครัวที่สูญเสียคนในครอบครัวที่รักไปก็เพียงหวังให้ คนที่เป็นคนขับรถเก๋ง ออกมาแสดงความเสียใจกับการกระทำของตนด้วย ทุกคนก็น่าจะเข้าใจว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่เมื่อเกิดขึ้นมาแล้ว กลับไม่มีใครออกมารับผิดชอบและแสดงความเสียใจเลย

นางทองพูล กล่าวต่อว่า ขอกราบขอบคุณผู้สื่อข่าวทุกคนที่ช่วยทำข่าวในครั้งนี้อย่างเป็นกลาง และขอขอบคุณเจ้านายเก่าของลูกสาว ที่มาช่วยเป็นเจ้าภาพให้ในคืนแรก รวมถึง สมาคมนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต อย่างไรก็ขอกราบขอบคุณอีกครั้ง


ไทยรัฐออนไลน์

• โดย ทีมข่าวภูมิภาค
• 30 ธันวาคม 2553, 20:24 น.

แม่คนขับรถตู้อยากให้คนขับเก๋งแสดงความเสียใจ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=BfkxUvzjB5k]YouTube - สาวตีนผีชนรถตู้ กบดานเงียบ | 30-12-53[/ame]

"แพรวา" ตีนผีวัยทีนเอจ ต้นเหตุชนรถตู้ตกโทลล์เวย์ 8 ศพ ขวัญผวาถูกข่มขู่เอาชีวิต การรักษาพยาบาลจึงต้องถูกปิดเป็นความลับ ขณะที่ตำรวจเตรียมตั้งข้อหา "ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบ<wbr>­าดเจ็บ และเสียชีวิต" ไว้รอแล้ว เผยสังคมเฟซบุ๊กกระหน่ำด่ากันขรม หลังจากเจ้าตัวส่งข้อความไปปรากฏเป็น status บนบีบีว่า "รถชน ไม่รู้มีคนตายกี่คนอ่ะ"

กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกไซเบอร์ ที่เรียกว่าฮอตและร้อนแรงที่สุดในเวลานี้ กับเหตุการณ์ที่ ''แพรวา'' น.ส.อรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา อายุ 16 ปี น้องสาวต่างมารดาของ ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา พระเอกจากละคร เซน สื่อรักสื่อวิญญาณ ค่ายเอ็กแซ็กท์ ได้ซิ่งรถเก๋งชนท้ายรถตู้โดยสาร บนทางด่วนโทลล์เวย์ ฝั่งขาเข้า แขวงลาดยาว เขตจตุจักร ทำให้ผู้โดยสารรถตู้เสียชีวิตรวม 8 ศพ ทำให้มีหลายฝ่ายไม่พอใจที่ น.ส.อรชร ที่ยังเป็นเด็ก ไม่มีใบขับขี่ ขับรถประมาททำให้คนอื่นถึงแก่ชีวิต ซึ่งหลังจากที่เหตุการณ์เกิดได้เพียงวันเด<wbr>­ียว ก็มีผู้เผยแพร่ภาพของแพรวา ยืนกดโทรศัพท์บีบีอยู่หลังรถฮอนด้า ซีวิค ของตัวเองที่พังเสียหาย และทวิตเล่าหตุการณ์ขึ้นทวิตเตอร์ ซึ่งพระเอกหนุ่มเผยว่า น้องสาวตนแค่กดบีบีคุยกับคุณพ่อเท่านั้น ไม่ได้ยืนคุยเล่นตามที่มีกระแสวิพากษ์วิจา<wbr>­รณ์แต่อย่างใด

ทั้ง นี้ เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 53 มีกระแสลือออกมาว่า น.ส.อรชร ได้ทนแรงกดดันจากกระแสสังคมไม่ไหว ได้หนีออกนอกประเทศไปแล้วนั้น ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากคนใกล้ชิดข<wbr>­อง น.ส.อรชร ว่า น.ส.อรชร ยังอยู่ในประเทศไทย ทางญาติๆ แค่เปลี่ยนโรงพยาบาลที่รักษาตัวเท่านั้น ซึ่งไม่ขอเปิดเผยว่าเป็นโรงพยาบาลใด

ข่าว เช้าวันใหม่ เรื่องเล่าเช้านี้ : 30 Dec 10 -30/12/10 -30/12/53
-30 ธันวาคม 2553 -30 ธ.ค.53

ไทย ทีวีสี ช่อง3
คลิป วีดีโอ ยูทูป Youtube clip VDO video

 

ก่อนจะพูด ก็ต้องขอแสดงความเสียใจกับทุกครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ กับอุบัติเหตุในครั้งนี้ด้วยค่ะ....


พ่อแม่รังแกฉัน....หรืออาจจะเป็นเพราะว่าท่านรักลูกมากเกินไป....

จะมีใครรู้สึก "สงสาร" น้องแพรวาเหมือนกับเราบ้างนะ.....เพราะว่าพ่อแม่รังแกลูก.....ทำให้สังคมโดยส่วนหนึ่ง "ย้ำ" โดยส่วนหนึ่ง ประณามลูกสาวของตัวเอง....เพราะการตัดสินใจล่าช้าในหลายๆ เรื่อง ....ทั้งเรื่องการแสดงความรับผิดชอบทั้งทางด้านสังคม และ กฏหมาย....อาจจะเนื่องมาจากเป็นตระกูลใหญ่....จึงอาจจะไว้ตัว หรือ อย่างไรก็มิอาจจะทราบได้.....หรืออาจจะกำลังสับสนจึงทำอะไรไม่ถูก....มีเพียงแต่พี่ชายที่เป็นดารา ออกมาคุยกับสื่อเพียงเท่านั้น.....ตามกฏหมายแล้ว น้องแพรวายังเป็นผู้เยาว์....การจะออกสื่อให้สัมภาษณ์ หรือจะออกมาแสดงความเสียใจอะไรนั้น....มันย่อมมีข้อจำกัดทางด้านกฏหมายสำหรับเยาวชน.....เรื่องนี้ถ้าคนที่เข้าใจกฏหมายเกี่ยวกับคดีเด็กและเยาวชนก็จะเข้าใจดี.....

ส่วนเรื่องการขับรถของเด็กอายุ 16 ปี นั้น....พ่อแม่อาจจะอนุญาติหรือซื้อรถให้ลูกขับเอง....หรือ...น้องแพรวาแอบขับรถของเพื่อนเองนั้น....ตรงนี้ก็ยังไม่แน่ชัด....ด้วยวุฒิภาวะที่น้อยเกินไปเพราะเธอยังคือผู้เยาว์อยู่.....

อุบัติเหตุ.....หมายถึง.....เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้คาดคิด....

ไม่มีใครอยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นหรอกค่ะ....และก็เชื่อด้วยว่า....น้องเค้าก็เสียใจเหมือนกัน....แต่จะออกมาแสดงความเสียใจ ก็ต้องถามพ่อถามแม่ก่อน....และที่สำคัญกระแสการถูกเกลียดชัง แถมด้วยการถูกขู่ฆ่า อีกต่างหาก....งานนี้คนเป็นพ่อแม่ก็ต้องปกป้องลูกของตัวเอง....

กฏแห่งกรรม....

ถ้าเชื่อเรื่องกฏแห่งกรรม...เราเชื่อว่าคนที่มีธรรมะในใจหลาย ๆ คน...ก็ต้องเข้าใจดี...ว่ามันคือกฏแห่ง....ใครทำกรรมอะไรก็ต้องได้รับผลกรรมแบบนั้น....เพราะฉนั้น...ก็ควรจะเสพข่าวอย่างมีสติ....เพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น....มันอาจจะเป็นผลกรรมเก่าของพวกเขาเหล่านั้นก็ได้....ทั้งผู้เสียชีวิต...ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ...ตัวของน้องแพรวาและครอบครัวของน้องเอง....และ...ผู้ที่ร่วมกันประณาม จงเกลียดจงชังน้องแพรวา....เค้าอาจจะทำกรรมร่วมกันมา....

แล้วทำไม....เกิดอุบัติเหตุ กับรถโดยสาร คันอื่น ๆ ....ซึ่งเป็นความประมาทของคนขับรถโดยสารประมาท....ทั้ง ๆ ที่รู้ทั้งรู้อยู่แก่ใจในรถมีผู้โดยสารมาเต็มคัน...แต่ก็ยังขับเร็วจนเกิดอุบัติเหตุทำให้มีคนเจ็บ คนตายเป็นจำนวนมาก....แต่ทำไมถึงไม่มีคนออกมาประณาม.....ซึ่งต่างกับแพวา....ที่น้องเค้าเองก็ไม่รู้ว่าบนรถตู้คันนั้น....มีจำนวนคนกี่คน....แต่ละคนเป็นใคร ทำอาชีพอะไรเรียนที่ไหน....แต่เราก็เข้าใจนะ....ว่าอุบัติเหตุในครั้งนี้....มันทำให้เกิดการสูญเสียทรัพยากรระดับมันสมองของประเทศ.....แต่ทุกชีวิตก็มีค่าเหมือนกันค่ะ.....จะลูกคนรวย คนจน จะโง่ หรือ ฉลาด....จะเป็นหมอ หรือว่าชาวนา...ทุกคนก็รักชีวิต....

เสพข่าวอย่างมีสติ....เพื่อเป็นการไม่สร้างกรรมใหม่ให้กับตัวเอง....อ่านไว้ให้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจ ของคนที่เป็นพ่อแม่และคนที่เป็นลูก....ได้เป็นอย่างดีค่ะ.....และที่สำคัญ....คนเราตายได้ทุกเวลา....

 

แจ้งข้อหาหนักสาวซีวิคทำคนตาย-บาดเจ็บ


ตำรวจ ออกหมายเรียกตีนผีทีนเอจมารับทราบข้อหาขับรถประมาททำให้คนตายและบาดเจ็บ กับไม่มีใบอนุญาตขับขี่ในตอนเที่ยงวันที่ 5 ม.ค.นี้ หากไม่มาจะออกหมายจับต่อไป สลดนักศึกษาสาว มธ.ที่ได้รับบาดเจ็บตายเพิ่มเป็นศพที่ 9 พ่อแม่คณาจารย์และเพื่อนๆพากันมารับศพนำไปบำเพ็ญกุศลที่บุรีรัมย์ เพื่อนๆ เผย เป็นคนเรียนเก่ง จะเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรในเดือน ส.ค.นี้ ฮึ่ม หากคดีไม่ได้รับความเป็นธรรมจะรวมตัวกันเคลื่อนไหว อธิการบดี มธ. ชี้ น่าเสียดายที่ต้องสูญเสียอนาคตของชาติ ส่งทีมกฎหมายมือดีที่สุดของมหาวิทยาลัยเข้าดูแลทั้งทางแพ่งและอาญา

จากกรณี น.ส.อรชร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 16ปี ขับรถเก๋ง ฮอนด้า ซีวิค สีขาว ทะเบียน ฎว 8461 กรุงเทพมหานคร ชนกับรถตู้โดยสาร ยี่ห้อโตโยต้า สีเทาฟ้า ทะเบียน 13-7795 กรุงเทพมหานคร บนทางด่วนโทลล์เวย์ ก่อนถึงทางลงบางเขนฝั่งขาเข้า ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 8 ราย และบาดเจ็บอีก 7ราย เมื่อตอนค่ำวันที่ 27 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปให้ทราบนั้น

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 30 ธ.ค. โรงพยาบาลวิภาวดี แจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวเพิ่มอีก 1 ราย เนื่องจากทนพิษบาดแผลไม่ไหว คือ น.ส.จันจิรา ซิมกระโทก อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ขณะนี้ศพถูกนำส่งสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ แล้ว เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง และจนถึงขณะนี้พนักงานสอบสวนยังไม่ได้รับการติดต่อจาก น.ส.อรชร ว่าจะเข้าให้ปากคำเมื่อใด

ส่วน ที่ สน.วิภาวดี พ.ต.ท.ชัยวิณ เสมาทอง ผอ.ป.ป.ท. พร้อมด้วย พ.ต.ท.วันนพ สมจินตนากุล ผอ.สปท.5 ป.ป.ท. และพ.ต.ท.พงศพร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.การสืบสวนและสะกดรอย กรมสอบสวนคดีพิเศษ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ฉัตรชัย เอี่ยมอ่อง พงส.(สบ3) เจ้าของคดี เพื่อขอทราบรายละเอียดที่เกิดขึ้นและความคืบหน้าทางคดี

พ.ต.ท.พงศธร เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจาก นายพีระพันธุ์ สารีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม ให้มาขอข้อมูลจากพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับคดีดังกล่าว เนื่องจากเป็นที่สนใจของประชาชนจำนวนมาก โดยเพียงแค่มาดูในเรื่องของการสอบสวนของพนักงานสอบสวนเพื่อให้เกิดความเป็น ธรรมกับทั้ง 2 ฝ่ายเท่านั้น ไม่ได้มีส่วนในการสอบปากคำพยานและผู้ต้องหาแต่อย่างใด และเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ด้าน เอแบคโพลล์ ของมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เสนอผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่องประสบการณ์และสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนจากประชาชนอายุ 18 ปี ขึ้นไปในกรุงเทพฯและปริมณฑล พบว่า ประชาชนทราบข่าวอุบัติเหตุรถตู้ถูกเฉี่ยวชน ร้อยละ 94.8 ไม่ทราบข่าว ร้อยละ 5.2 ส่วนประสบการณ์เคยพบเห็นอุบัติเหตุด้วยตัวเอง ร้อยละ 58.4 เคยพบเห็น ร้อยละ 41.6 ไม่เคยพบเห็น สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ร้อยละ 97.6 ขับรถเกินความเร็วที่กำหนด ตำรวจไม่เข้มงวดกวดขันจับกุมผู้กระทำผิด ร้อยละ 95.5 เมาแล้วขับ ร้อยละ 94.1 และประชาชนต้องการอยากเห็นความมีน้ำใจของผู้ขับขี่ ร้อยละ 86.8 อยากเห้นตำรวจอยู่ประจำทางแยก ร้อยละ 86.0

นายวันชัย สอนศิริ เลขาธิการสภาทนายความ กล่าวถึงกรณีพ่อแม่ของเด็กสาววัย 16 ปี ปล่อยให้ลูกขับรถยนต์บนท้องถนนจนเกิดเหตุมีผู้เสียชีวิตถึง 9 คน ว่า ในแง่ความรับผิดทางอาญาซึ่ง ตามพ.ร.บ.คุ้มครองเด็กและเยาวชน ปี พ.ศ. 2546 พ่อแม่ที่ไม่นำพาปล่อยปละละเลย ให้บุตรไปกระทำความผิด มีโทษจำคุก 3 เดือน ที่ผ่านมาศาลเคยพิพากษาจำคุกคดีเยาวชนแข่งรถยนต์ รถ จยย. หรือรอลงอาญาไปก็มีมาแล้ว ดังนั้นพ่อแม่ต้องคอยกำกับดูแลไม่ให้เด็กไปกระทำผิดกฎหมาย
ส่วนทางแพ่งก็ต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่ง มาตรา 430 โดยพ่อแม่ต้องรับผิดในผลแห่งการกระทำละเมิด ของบุตรผู้เยาว์ ในส่วนค่าสินไหมทดแทนประกอบด้วย ค่าปลงศพ ค่าขาดไร้อุปการะ ค่าขาดประกอบการงาน ค่ารักษาพยาบาล ค่าเสียหายในอนาคตจากการเจ็บป่วยทั้งกายและใจ พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ7.5ต่อปี สำหรับเจ้าของรถฮอนด้า ซีวิค อาจจะต้องรับผิดด้วย หากปล่อยให้บุคคลที่ไม่มีใบอนุญาตขับขี่นำรถไปขับโดยไม่รู้หรือไม่ชำนาญเส้น ทางย่อมมีส่วนต้องรับผิดในละเมิดอีกด้วย ในส่วนบริษัทประกันภัยของรถฮอนด้าซีวิค อาจยกข้อต่อสู้ และปฏิเสธความรับผิดชอบได้ ว่าคนขับรถไม่ใช่เจ้าของรถและไม่มีใบอนุญาตขับขี่

ที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ วันเดียวกันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศพของ น.ส.จันจิรา หรือน้องป้าย ซิมกระโทก ได้ถูกส่งจาก รพ.วิภาวดี มาให้แพทย์แผนกนิติเวช รพ.ตำรวจ ผ่าชันสูตรแล้ว โดยมีเพื่อนๆจากสถาบันเดียวกันกว่า 20 คน มารอรับศพผู้ตายด้วยบรรยากาศโศกเศร้า ส่วนพ่อและแม่กำลังอยู่ในระหว่างเตรียมเอกสารจะเดินทางมาติดต่อขอรับศพอย่าง เป็นทางการในช่วงบ่าย
น.ส.พัฒนทิพย์ ศักดิ์ศรีบุญดี อายุ 22 ปี นักศึกษาเพื่อนสนิทในกลุ่ม กล่าวว่า ป้ายเป็นคนดีมีมนุษยสัมพันธ์ให้ความช่วยเหลือเพื่อนๆเสมอ ไม่น่าจะด่วนจากไปรวดเร็วอย่างนี้ ทั้งที่กำลังจะจบการศึกษารับพระราชทานปริญญาบัตรพร้อมกันอยู่แล้วในช่วง เดือน ส.ค. 54 ก่อนเกิดเหตุทราบว่าป้าย กำลังโดยสารรถตู้คันดังกล่าวไปลงที่จตุจักรและจะต่อไปหาพี่ชายที่ คอนโดมิเนียมย่านรัชดา เพื่อมุ่งหน้ากลับบ้านเกิด จ.บุรีรัมย์ ด้วยกัน แต่มาประสบอุบัติเหตุเสียก่อน
น.ส.พัฒนทิพย์ กล่าวอีกว่า เห็นอาการบาดเจ็บของเพื่อนแล้วเศร้าใจมาก หมอบอกว่าป้าย ถูกผ่าตัดไป 2 ครั้งแล้วแต่ไม่ดีขึ้นเพราะสมองได้รับความกระทบกระเทือนอย่างหนักจนสมองบวม กระดูกหักทั่วร่างกาย และต้องเจาะช่องท้อง จนกระทั่งเมื่อช่วงเย็นวันที่ 29 ธ.ค.หมอบอกให้ทุกคนทำใจและแล้วป้ายก็จากไปในช่วงเช้ามืดวันนี้ ความรู้สึกของตนอยากให้คู่กรณีออกมารับผิดชอบบ้างแม้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะ เป็นอุบัติเหตุและหลักฐานทางคดียังไม่กระจ่างชัดเจน แต่ก็ไม่น่าเงียบหายไปแบบนี้ควรจะยื่นมือมาช่วยเหลือครอบครัวของเหยื่อด้วย ถ้ายังมีความเป็นมนุษย์อยู่ อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้หากไม่ได้รับความเป็นธรรมพวกตนจะช่วยกันเคลื่อนไหวเรียกร้องความ ยุติธรรมให้เพื่อนและเหยื่อรายอื่นๆอย่างแน่นอน

ในเวลาไล่เลี่ยกัน รศ.ดร.นิตยา วัจนภูมิ รองคณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และคณะอาจารย์ ได้เดินทางมารับศพน้องป้าย เปิดเผยว่า รู้สึกเสียใจจากการจากไปของลูกศิษย์ น.ส.จันจิรา เป็นคนตั้งใจเรียนกำลังจะเป็นบัณฑิตและได้เลือกเรียนในสาขาที่สังคมต้องการ มาก หลังทราบข่าวทางคณะได้ประสานไปยังพ่อและแม่ของ น.ส.จันจิรา เพื่อให้ความช่วยเหลือในส่วนที่ดูแลได้อย่างเต็มที่เช่นในวันนี้ทางคณะจะพา กันไปส่งศพผู้ตาย ที่ จ.บุรีรัมย์ บ้านเกิด
ส่วนกรณีที่มีข่าวนักศึกษารวมตัวกันเคลื่อนไหวเรียกร้องขอความเป็นธรรมทาง คดีให้กับเหยื่อนั้น ขอเรียนว่าได้ข่าวมาบ้างเหมือนกัน แต่ทั้งนี้พวกเรายังเชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรมคาดว่าคดีไม่น่ามีปัญหา เพราะทางผู้บริหารมหาวิทยาลัยกับประชาชนทั่วประเทศกำลังจับตาดูอยู่

ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. กล่าวว่า ได้กำชับพนักงานสอบสวนคดีรถเก๋งชนท้ายรถตู้บนโทลเวย์ทำให้มีผู้เสียชีวิต เป็นจำนวนมาก ว่า ให้ทำสำนวนการสอบสวนอย่างตรงไปตรงมาโดยไม่ต้องคำนึงว่าผู้ต้องหาจะเป็นลูก หลานของคนมีนามสกุลดังหรือมีชื่อเสียง มั่นใจว่าคดีนี้จะไม่เงียบหายไปเพราะเป็นคดีที่สะเทือนขวัญทั้งสื่อมวลชนและ ประชาชนให้ความสนใจอีกทั้งสังคมก็จับตาดูอยู่ พนักงานสอบสวนต้องทำสำนวนอย่างรัดกุมและรอบคอบ

ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดี มธ. กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นความสูญเสียของมหาวิทยาลัยและของประเทศที่ต้อง สูญเสียอนาคตของชาติไปอย่างน่าเสียดาย มธ.ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตทุกคน อย่างไรก็ตาม อุบัติเหตุเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา แต่ต้องมาดูว่าปัญหาของเรื่องนี้เกิดจากอะไร การที่พ่อ แม่ ผู้ปกครองปล่อยให้เด็กอายุ 16 ขับรถทั้งๆที่ไม่มีวุฒิภาวะและขับรถเร็ว เป็นปัญหาของสังคมไทยที่ต้องช่วยกันแก้ไข ผู้ปกครองต้องแสดงความรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น และไม่อยากให้สังคมไทยสนใจเรื่องนี้แบบไฟไหม้ฟาง
ศ.ดร.สมคิด กล่าวต่อว่า สำหรับความช่วยเหลืออาจารย์และนักศึกษาที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บนั้น ทางมหาวิทยาลัยมีระบบดูแลช่วยเหลืออยู่แล้ว โดยมีการประกันอุบัติเหตุกลุ่ม ซึ่งในส่วนของอาจารย์จะได้รับเงิน 160,000 บาท รวมทั้งเงินสมาชิกสหกรณ์อีก 300,000 บาท ส่วนนักศึกษาที่เสียชีวิตจะได้รับเงินประกันอุบัติเหตุ 160,000 บาท และเงินช่วยเหลือจากทางมหาวิทยาลัยอีกรายละ 20,000-30,000 บาท
อธิการบดี มธ. กล่าวด้วยว่า ส่วนที่มีหลายฝ่ายเกรงว่าผู้กระทำผิดจะรอดพ้นคดีเนื่องจากเป็นผู้เยาว์และ นามสกุลดังนั้น เรื่องนี้ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะทาง มธ. ได้ตั้งทีมนักกฏหมายที่ดีที่สุดของมหาวิทยาลัยไปช่วยดูแลคดี โดยที่ญาติๆของผู้ที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บไม่ต้องจ้างทนายความเอง ซึ่งทีมกฏหมายของมหาวิทยาลัยจะช่วยดูแลทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา และหากพบว่าผู้กระทำผิดมีความผิดจริงตามข้อกล่าวหาก็จะมีการเรียกร้องค่า เสียหายจากผู้กระทำความผิดต่อไป แม้จะเป็นผู้เยาว์ก็ตาม ขอให้ชาว มธ.และสังคมสบายใจว่า มธ.จะดูแลเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมขึ้นในสังคม

ด้าน พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. เปิดเผยถึงการดำเนินคดีว่า เรื่องที่มีข่าวว่าผู้ก่อเหตุหลบหนีไปต่างประเทศแล้วนั้น ขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงตอนนี้ยังอยู่ในประเทศ ขอยืนยันว่า การทำคดีจะดำเนินการแบบตรงไปตรงมา ด้านรถยนต์จะสืบสวนว่าใครเป็นเจ้าของ และทางผู้ปกครองรู้เห็นด้วยหรือไม่ หากพบว่าเป็นใจให้ขับรถด้วย จะเรียกตัวมาสอบปากคำเพราะกรณีนี้เป็นเรื่องของความประมาท
ส่วนเรื่องคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการติดต่อประสานจากญาติของเด็กสาววัย 16 ปี คนขับรถเก๋งแล้วว่าจะมาพบในเวลา 19.30 น.ของวันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมา แต่เมื่อถึงเวลาไม่มีใครเดินทางมา พนักงานสอบสวนจึงออกหมายเรียกให้มารายงานตัวในวันที่ 5 ม.ค.นี้ เวลา 12.00 น. แต่หากสะดวกมาก่อนหน้านั้นก็ได้ เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหา 2 ข้อหา คือ 1.ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2.ขับขี่โดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่ มีโทษปรับ 1,000 บาท ซึ่งในวันดังกล่าวพนักงานสอบสวนจะเปิดโอกาสให้คู่กรณีเจรจาเรื่องค่าเสียหาย ต่อกันด้วย ทั้งนี้ หากไม่มาตามหมายเรียกตำรวจจะดำเนินการออกหมายจับต่อไป

นางจันทรา บูรณฤกษ์ เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการจ่ายค่าสินไหมแก่ผู้เสียชีวิตจากเหตุรถตู้โดยสารถูก รถฮอนด้า ซีวิค ชนบนทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ ว่า คปภ.รับทราบแล้วรถฮอนด้าเป็นฝ่ายผิด และขณะนี้บริษัทประกันภัยเริ่มจ่ายค่าสินไหมทดแทนแก่ทายาทผู้เสียชีวิตแล้ว เบื้องต้นรายละ 200,000 บาท แยกเป็นวงเงินจากรถตู้ที่ทำประกันภัยภาคสมัครใจ (ประเภท 1) ไว้กับบริษัทนำสินประกันภัย จำกัด(มหาชน) 100,000 บาท และวงเงินจากรถยนต์ฮอนด้าที่ทำประกันภัยภาคสมัครใจ (ประเภท 1) กับบริษัทนวกิจประกันภัย จำกัด(มหาชน) อีก 100,000 บาท
หลังจากนี้ คปภ. เร่งรัดให้บริษัทประกันภัยที่เกี่ยวข้อง จ่ายค่าสินไหมทดแทนเพิ่มเติม ทั้งในส่วนรถยนต์ฮอนด้า ทื่ทำประกันภัย พ.ร.บ ไว้กับบริษัท ส่งเสริมประกันภัย จำกัด วงเงินคุ้มครองรายละ 200,000 บาท และวงเงินประกันภัยภาคสมัครใจ (ประเภท 1) จากบริษัท นวกิจประกันภัย จำกัด(มหาชน) ที่อยู่ระหว่างพิจารณาจ่ายตามฐานุรูปเพิ่มเติมวงเงินคุ้มครองไม่เกินรายละ 1 ล้านบาท หรือกรณีละไม่เกิน 10 ล้านบาท หลังจากที่จ่ายไปแล้ว 100,000 บาท
สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บเบื้องต้นจะได้รับความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล จากการประกันภัย พ.ร.บ.ในวงเงิน 50,000 บาท และการประกันภัยค่ารักษาพยาบาลของการประกันภัยอุบัติเหตุภาคสมัครใจ อีกรายละ 100,000 บาท
ต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 18.00 น. วันเดียวกัน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามกุฏราชกุมาร พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ผู้แทนพระองค์นำพวงมาลาพระราชทานวาง หน้าศพของ ดร.ศาสตารา เช้าเที่ยง นักวิจัยของสำนักงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช. ที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตรวม 9 ศพ บนทางด่วนโทลล์เวย์ โดยตั้งศพบําเพ็ญกุศลที่วัดเกาะนัมทา อ.เมือง จ.ราชบุรี โดยมีนายสุเทพ โกมลภมร ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี นายณรงค์ พลละเอียด รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี นางกรองกาญจน์ โกมลภมร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดราชบุรี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการมาร่วมงานศพ



Daily News Online > ข่าวหน้า 1 > แจ้งข้อหาหนักสาวซีวิคทำคนตาย-บาดเจ็บ

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=rPnOgrPBbR8]YouTube - ข่าว ซีวิคชนรถตู้ คนตกทางด่วน - 10[/ame]

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=Id_LYcIPByM]YouTube - ข่าว ซีวิคชนรถตู้ คนตกทางด่วน - 11[/ame]

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=v_0bg-vefnc]YouTube - ข่าว ซีวิคชนรถตู้ คนตกทางด่วน - 12[/ame]

 

สาว16ตีนผีรับ ขับรถเร็ว ขอบวชให้9ศพ


สาวน้อยวัย 16 นามสกุลดัง เผยความรู้สึกผ่านรายการดัง ทางสถานีโทรทัศน์ โมเดิร์นไนน์ ทีวี ยอมรับ"ถ้าไม่ขับรถเร็ว คงไม่เกิดเหตุขึ้น"เผยหากหายดีแล้วจะบวชถือศีล เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิต...

เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.จากอุบัติเหตุสยองส่งท้ายปี 53 สาวน้อยวัย 16 นามสกุลดัง ควบเก๋งฮอนด้า ซีวิค ชนรถตู้โดยสารบนด่วนโทลล์เวย์ ก่อนถึงทางลงบางเขน ฝั่งขาเข้า ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 9 ราย และบาดเจ็บอีก 7 ราย เมื่อกลางดึกวันที่ 27 ธ.ค.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด เด็กสาวที่ขับรถเก๋งออกมาเปิดเผยความรู้สึกผ่านรายการ"เช้าข่าวข้น"ทางสถานี โทรทัศน์ โมเดิร์นไนน์ ทีวี โดยยอมรับ ถ้าไม่ขับรถเร็ว คงไม่เกิดเหตุขึ้น

ทั้ง นี้พิธีกรได้ถามถึงเหตุที่ครอบครัวยังไม่ออกมาแถลงแสดงความเสียใจอย่าง เป็นทางการ เด็กสาวที่ขับรถเก๋ง กล่าวว่า ครอบครัวคงต้องรอให้ผ่านพ้นเรื่องของคดีไปก่อน ส่วนหลังเกิดเหตุยืนยัน ไม่ได้เฟซบุ๊ก หรือเล่นบีบี ส่วนที่มีภาพตนโทรศัพท์ในคืนเกิดเหตุนั้น เนื่องจากต้องโทรเรียกประกันก่อนเข้าโรงพยาบาล เพื่อยืนยันการเข้ารับการรักษา เด็กสาวยังกล่าวว่า"หากหายดีแล้วจะบวชถือศีล เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิตด้วย"


ไทยรัฐออนไลน์

• โดย ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์
• 31 ธันวาคม 2553, 10:45 น.

สาว16ตีนผีรับ ขับรถเร็ว ขอบวชให้9ศพ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=c5n7VoALSWg]YouTube - แพรวาสัมภาษณ์กรณีรถตู้ตกทางด่วน[/ame]

 

สาวซีวิคเปิดใจอยากบวช-ย่องเยี่ยมคนเจ็บ


แจ้งข้อหาหนักสาวซีวิคทำคนตาย-บาดเจ็บ
ตำรวจ ออกหมายเรียกตีนผีทีนเอจมารับทราบข้อหาขับรถประมาททำให้คนตายและบาดเจ็บ กับไม่มีใบอนุญาตขับขี่ในตอนเที่ยงวันที่ 5 ม.ค.นี้ หากไม่มาจะออกหมายจับต่อไป สลดนักศึกษาสาว มธ.ที่ได้รับบาดเจ็บตายเพิ่มเป็นศพที่ 9 พ่อแม่คณาจารย์และเพื่อนๆพากันมารับศพนำไปบำเพ็ญกุศลที่บุรีรัมย์ เพื่อนๆ เผย เป็นคนเรียนเก่ง จะเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรในเดือน ส.ค.นี้ ฮึ่ม หากคดีไม่ได้รับความเป็นธรรมจะรวมตัวกันเคลื่อนไหว อธิการบดี มธ. ชี้ น่าเสียดายที่ต้องสูญเสียอนาคตของชาติ ส่งทีมกฎหมายมือดีที่สุดของมหาวิทยาลัยเข้าดูแลทั้งทางแพ่งและอาญา

จากกรณี น.ส.อรชร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 16ปี ขับรถเก๋ง ฮอนด้า ซีวิค สีขาว ทะเบียน ฎว 8461 กรุงเทพมหานคร ชนกับรถตู้โดยสาร ยี่ห้อโตโยต้า สีเทาฟ้า ทะเบียน 13-7795 กรุงเทพมหานคร บนทางด่วนโทลล์เวย์ ก่อนถึงทางลงบางเขนฝั่งขาเข้า ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 8 ราย และบาดเจ็บอีก 7ราย เมื่อตอนค่ำวันที่ 27 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปให้ทราบนั้น

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 30 ธ.ค. โรงพยาบาลวิภาวดี แจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวเพิ่มอีก 1 ราย เนื่องจากทนพิษบาดแผลไม่ไหว คือ น.ส.จันจิรา ซิมกระโทก อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ขณะนี้ศพถูกนำส่งสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ แล้ว เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง และจนถึงขณะนี้พนักงานสอบสวนยังไม่ได้รับการติดต่อจาก น.ส.อรชร ว่าจะเข้าให้ปากคำเมื่อใด

ส่วน ที่ สน.วิภาวดี พ.ต.ท.ชัยวิณ เสมาทอง ผอ.ป.ป.ท. พร้อมด้วย พ.ต.ท.วันนพ สมจินตนากุล ผอ.สปท.5 ป.ป.ท. และพ.ต.ท.พงศพร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.การสืบสวนและสะกดรอย กรมสอบสวนคดีพิเศษ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ฉัตรชัย เอี่ยมอ่อง พงส.(สบ3) เจ้าของคดี เพื่อขอทราบรายละเอียดที่เกิดขึ้นและความคืบหน้าทางคดี

พ.ต.ท.พงศธร เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจาก นายพีระพันธุ์ สารีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม ให้มาขอข้อมูลจากพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับคดีดังกล่าว เนื่องจากเป็นที่สนใจของประชาชนจำนวนมาก โดยเพียงแค่มาดูในเรื่องของการสอบสวนของพนักงานสอบสวนเพื่อให้เกิดความเป็น ธรรมกับทั้ง 2 ฝ่ายเท่านั้น ไม่ได้มีส่วนในการสอบปากคำพยานและผู้ต้องหาแต่อย่างใด และเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ด้าน เอแบคโพลล์ ของมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เสนอผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่องประสบการณ์และสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนจากประชาชนอายุ 18 ปี ขึ้นไปในกรุงเทพฯและปริมณฑล พบว่า ประชาชนทราบข่าวอุบัติเหตุรถตู้ถูกเฉี่ยวชน ร้อยละ 94.8 ไม่ทราบข่าว ร้อยละ 5.2 ส่วนประสบการณ์เคยพบเห็นอุบัติเหตุด้วยตัวเอง ร้อยละ 58.4 เคยพบเห็น ร้อยละ 41.6 ไม่เคยพบเห็น สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ร้อยละ 97.6 ขับรถเกินความเร็วที่กำหนด ตำรวจไม่เข้มงวดกวดขันจับกุมผู้กระทำผิด ร้อยละ 95.5 เมาแล้วขับ ร้อยละ 94.1 และประชาชนต้องการอยากเห็นความมีน้ำใจของผู้ขับขี่ ร้อยละ 86.8 อยากเห้นตำรวจอยู่ประจำทางแยก ร้อยละ 86.0

นายวันชัย สอนศิริ เลขาธิการสภาทนายความ กล่าวถึงกรณีพ่อแม่ของเด็กสาววัย 16 ปี ปล่อยให้ลูกขับรถยนต์บนท้องถนนจนเกิดเหตุมีผู้เสียชีวิตถึง 9 คน ว่า ในแง่ความรับผิดทางอาญาซึ่ง ตามพ.ร.บ.คุ้มครองเด็กและเยาวชน ปี พ.ศ. 2546 พ่อแม่ที่ไม่นำพาปล่อยปละละเลย ให้บุตรไปกระทำความผิด มีโทษจำคุก 3 เดือน ที่ผ่านมาศาลเคยพิพากษาจำคุกคดีเยาวชนแข่งรถยนต์ รถ จยย. หรือรอลงอาญาไปก็มีมาแล้ว ดังนั้นพ่อแม่ต้องคอยกำกับดูแลไม่ให้เด็กไปกระทำผิดกฎหมาย
ส่วนทางแพ่งก็ต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่ง มาตรา 430 โดยพ่อแม่ต้องรับผิดในผลแห่งการกระทำละเมิด ของบุตรผู้เยาว์ ในส่วนค่าสินไหมทดแทนประกอบด้วย ค่าปลงศพ ค่าขาดไร้อุปการะ ค่าขาดประกอบการงาน ค่ารักษาพยาบาล ค่าเสียหายในอนาคตจากการเจ็บป่วยทั้งกายและใจ พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ7.5ต่อปี สำหรับเจ้าของรถฮอนด้า ซีวิค อาจจะต้องรับผิดด้วย หากปล่อยให้บุคคลที่ไม่มีใบอนุญาตขับขี่นำรถไปขับโดยไม่รู้หรือไม่ชำนาญเส้น ทางย่อมมีส่วนต้องรับผิดในละเมิดอีกด้วย ในส่วนบริษัทประกันภัยของรถฮอนด้าซีวิค อาจยกข้อต่อสู้ และปฏิเสธความรับผิดชอบได้ ว่าคนขับรถไม่ใช่เจ้าของรถและไม่มีใบอนุญาตขับขี่

ที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ วันเดียวกันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศพของ น.ส.จันจิรา หรือน้องป้าย ซิมกระโทก ได้ถูกส่งจาก รพ.วิภาวดี มาให้แพทย์แผนกนิติเวช รพ.ตำรวจ ผ่าชันสูตรแล้ว โดยมีเพื่อนๆจากสถาบันเดียวกันกว่า 20 คน มารอรับศพผู้ตายด้วยบรรยากาศโศกเศร้า ส่วนพ่อและแม่กำลังอยู่ในระหว่างเตรียมเอกสารจะเดินทางมาติดต่อขอรับศพอย่าง เป็นทางการในช่วงบ่าย
น.ส.พัฒนทิพย์ ศักดิ์ศรีบุญดี อายุ 22 ปี นักศึกษาเพื่อนสนิทในกลุ่ม กล่าวว่า ป้ายเป็นคนดีมีมนุษยสัมพันธ์ให้ความช่วยเหลือเพื่อนๆเสมอ ไม่น่าจะด่วนจากไปรวดเร็วอย่างนี้ ทั้งที่กำลังจะจบการศึกษารับพระราชทานปริญญาบัตรพร้อมกันอยู่แล้วในช่วง เดือน ส.ค. 54 ก่อนเกิดเหตุทราบว่าป้าย กำลังโดยสารรถตู้คันดังกล่าวไปลงที่จตุจักรและจะต่อไปหาพี่ชายที่ คอนโดมิเนียมย่านรัชดา เพื่อมุ่งหน้ากลับบ้านเกิด จ.บุรีรัมย์ ด้วยกัน แต่มาประสบอุบัติเหตุเสียก่อน
น.ส.พัฒนทิพย์ กล่าวอีกว่า เห็นอาการบาดเจ็บของเพื่อนแล้วเศร้าใจมาก หมอบอกว่าป้าย ถูกผ่าตัดไป 2 ครั้งแล้วแต่ไม่ดีขึ้นเพราะสมองได้รับความกระทบกระเทือนอย่างหนักจนสมองบวม กระดูกหักทั่วร่างกาย และต้องเจาะช่องท้อง จนกระทั่งเมื่อช่วงเย็นวันที่ 29 ธ.ค.หมอบอกให้ทุกคนทำใจและแล้วป้ายก็จากไปในช่วงเช้ามืดวันนี้ ความรู้สึกของตนอยากให้คู่กรณีออกมารับผิดชอบบ้างแม้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะ เป็นอุบัติเหตุและหลักฐานทางคดียังไม่กระจ่างชัดเจน แต่ก็ไม่น่าเงียบหายไปแบบนี้ควรจะยื่นมือมาช่วยเหลือครอบครัวของเหยื่อด้วย ถ้ายังมีความเป็นมนุษย์อยู่ อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้หากไม่ได้รับความเป็นธรรมพวกตนจะช่วยกันเคลื่อนไหวเรียกร้องความ ยุติธรรมให้เพื่อนและเหยื่อรายอื่นๆอย่างแน่นอน

ในเวลาไล่เลี่ยกัน รศ.ดร.นิตยา วัจนภูมิ รองคณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และคณะอาจารย์ ได้เดินทางมารับศพน้องป้าย เปิดเผยว่า รู้สึกเสียใจจากการจากไปของลูกศิษย์ น.ส.จันจิรา เป็นคนตั้งใจเรียนกำลังจะเป็นบัณฑิตและได้เลือกเรียนในสาขาที่สังคมต้องการ มาก หลังทราบข่าวทางคณะได้ประสานไปยังพ่อและแม่ของ น.ส.จันจิรา เพื่อให้ความช่วยเหลือในส่วนที่ดูแลได้อย่างเต็มที่เช่นในวันนี้ทางคณะจะพา กันไปส่งศพผู้ตาย ที่ จ.บุรีรัมย์ บ้านเกิด
ส่วนกรณีที่มีข่าวนักศึกษารวมตัวกันเคลื่อนไหวเรียกร้องขอความเป็นธรรมทาง คดีให้กับเหยื่อนั้น ขอเรียนว่าได้ข่าวมาบ้างเหมือนกัน แต่ทั้งนี้พวกเรายังเชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรมคาดว่าคดีไม่น่ามีปัญหา เพราะทางผู้บริหารมหาวิทยาลัยกับประชาชนทั่วประเทศกำลังจับตาดูอยู่

ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. กล่าวว่า ได้กำชับพนักงานสอบสวนคดีรถเก๋งชนท้ายรถตู้บนโทลเวย์ทำให้มีผู้เสียชีวิต เป็นจำนวนมาก ว่า ให้ทำสำนวนการสอบสวนอย่างตรงไปตรงมาโดยไม่ต้องคำนึงว่าผู้ต้องหาจะเป็นลูก หลานของคนมีนามสกุลดังหรือมีชื่อเสียง มั่นใจว่าคดีนี้จะไม่เงียบหายไปเพราะเป็นคดีที่สะเทือนขวัญทั้งสื่อมวลชนและ ประชาชนให้ความสนใจอีกทั้งสังคมก็จับตาดูอยู่ พนักงานสอบสวนต้องทำสำนวนอย่างรัดกุมและรอบคอบ

ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดี มธ. กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นความสูญเสียของมหาวิทยาลัยและของประเทศที่ต้อง สูญเสียอนาคตของชาติไปอย่างน่าเสียดาย มธ.ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตทุกคน อย่างไรก็ตาม อุบัติเหตุเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา แต่ต้องมาดูว่าปัญหาของเรื่องนี้เกิดจากอะไร การที่พ่อ แม่ ผู้ปกครองปล่อยให้เด็กอายุ 16 ขับรถทั้งๆที่ไม่มีวุฒิภาวะและขับรถเร็ว เป็นปัญหาของสังคมไทยที่ต้องช่วยกันแก้ไข ผู้ปกครองต้องแสดงความรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น และไม่อยากให้สังคมไทยสนใจเรื่องนี้แบบไฟไหม้ฟาง
ศ.ดร.สมคิด กล่าวต่อว่า สำหรับความช่วยเหลืออาจารย์และนักศึกษาที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บนั้น ทางมหาวิทยาลัยมีระบบดูแลช่วยเหลืออยู่แล้ว โดยมีการประกันอุบัติเหตุกลุ่ม ซึ่งในส่วนของอาจารย์จะได้รับเงิน 160,000 บาท รวมทั้งเงินสมาชิกสหกรณ์อีก 300,000 บาท ส่วนนักศึกษาที่เสียชีวิตจะได้รับเงินประกันอุบัติเหตุ 160,000 บาท และเงินช่วยเหลือจากทางมหาวิทยาลัยอีกรายละ 20,000-30,000 บาท
อธิการบดี มธ. กล่าวด้วยว่า ส่วนที่มีหลายฝ่ายเกรงว่าผู้กระทำผิดจะรอดพ้นคดีเนื่องจากเป็นผู้เยาว์และ นามสกุลดังนั้น เรื่องนี้ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะทาง มธ. ได้ตั้งทีมนักกฏหมายที่ดีที่สุดของมหาวิทยาลัยไปช่วยดูแลคดี โดยที่ญาติๆของผู้ที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บไม่ต้องจ้างทนายความเอง ซึ่งทีมกฏหมายของมหาวิทยาลัยจะช่วยดูแลทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา และหากพบว่าผู้กระทำผิดมีความผิดจริงตามข้อกล่าวหาก็จะมีการเรียกร้องค่า เสียหายจากผู้กระทำความผิดต่อไป แม้จะเป็นผู้เยาว์ก็ตาม ขอให้ชาว มธ.และสังคมสบายใจว่า มธ.จะดูแลเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมขึ้นในสังคม

ด้าน พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. เปิดเผยถึงการดำเนินคดีว่า เรื่องที่มีข่าวว่าผู้ก่อเหตุหลบหนีไปต่างประเทศแล้วนั้น ขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงตอนนี้ยังอยู่ในประเทศ ขอยืนยันว่า การทำคดีจะดำเนินการแบบตรงไปตรงมา ด้านรถยนต์จะสืบสวนว่าใครเป็นเจ้าของ และทางผู้ปกครองรู้เห็นด้วยหรือไม่ หากพบว่าเป็นใจให้ขับรถด้วย จะเรียกตัวมาสอบปากคำเพราะกรณีนี้เป็นเรื่องของความประมาท
ส่วนเรื่องคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการติดต่อประสานจากญาติของเด็กสาววัย 16 ปี คนขับรถเก๋งแล้วว่าจะมาพบในเวลา 19.30 น.ของวันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมา แต่เมื่อถึงเวลาไม่มีใครเดินทางมา พนักงานสอบสวนจึงออกหมายเรียกให้มารายงานตัวในวันที่ 5 ม.ค.นี้ เวลา 12.00 น. แต่หากสะดวกมาก่อนหน้านั้นก็ได้ เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหา 2 ข้อหา คือ 1.ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2.ขับขี่โดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่ มีโทษปรับ 1,000 บาท ซึ่งในวันดังกล่าวพนักงานสอบสวนจะเปิดโอกาสให้คู่กรณีเจรจาเรื่องค่าเสียหาย ต่อกันด้วย ทั้งนี้ หากไม่มาตามหมายเรียกตำรวจจะดำเนินการออกหมายจับต่อไป

นางจันทรา บูรณฤกษ์ เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการจ่ายค่าสินไหมแก่ผู้เสียชีวิตจากเหตุรถตู้โดยสารถูก รถฮอนด้า ซีวิค ชนบนทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ ว่า คปภ.รับทราบแล้วรถฮอนด้าเป็นฝ่ายผิด และขณะนี้บริษัทประกันภัยเริ่มจ่ายค่าสินไหมทดแทนแก่ทายาทผู้เสียชีวิตแล้ว เบื้องต้นรายละ 200,000 บาท แยกเป็นวงเงินจากรถตู้ที่ทำประกันภัยภาคสมัครใจ (ประเภท 1) ไว้กับบริษัทนำสินประกันภัย จำกัด(มหาชน) 100,000 บาท และวงเงินจากรถยนต์ฮอนด้าที่ทำประกันภัยภาคสมัครใจ (ประเภท 1) กับบริษัทนวกิจประกันภัย จำกัด(มหาชน) อีก 100,000 บาท
หลังจากนี้ คปภ. เร่งรัดให้บริษัทประกันภัยที่เกี่ยวข้อง จ่ายค่าสินไหมทดแทนเพิ่มเติม ทั้งในส่วนรถยนต์ฮอนด้า ทื่ทำประกันภัย พ.ร.บ ไว้กับบริษัท ส่งเสริมประกันภัย จำกัด วงเงินคุ้มครองรายละ 200,000 บาท และวงเงินประกันภัยภาคสมัครใจ (ประเภท 1) จากบริษัท นวกิจประกันภัย จำกัด(มหาชน) ที่อยู่ระหว่างพิจารณาจ่ายตามฐานุรูปเพิ่มเติมวงเงินคุ้มครองไม่เกินรายละ 1 ล้านบาท หรือกรณีละไม่เกิน 10 ล้านบาท หลังจากที่จ่ายไปแล้ว 100,000 บาท
สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บเบื้องต้นจะได้รับความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล จากการประกันภัย พ.ร.บ.ในวงเงิน 50,000 บาท และการประกันภัยค่ารักษาพยาบาลของการประกันภัยอุบัติเหตุภาคสมัครใจ อีกรายละ 100,000 บาท
ต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 18.00 น. วันเดียวกัน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามกุฏราชกุมาร พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ผู้แทนพระองค์นำพวงมาลาพระราชทานวาง หน้าศพของ ดร.ศาสตารา เช้าเที่ยง นักวิจัยของสำนักงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช. ที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตรวม 9 ศพ บนทางด่วนโทลล์เวย์ โดยตั้งศพบําเพ็ญกุศลที่วัดเกาะนัมทา อ.เมือง จ.ราชบุรี โดยมีนายสุเทพ โกมลภมร ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี นายณรงค์ พลละเอียด รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี นางกรองกาญจน์ โกมลภมร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดราชบุรี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการมาร่วมงานศพ
สาวซีวิคเปิดใจสื่ออยากบวช

สาวซีวิค เปิดปากครั้งแรกต่อสื่อ รับสุดเสียใจ พร้อมรับผิด ยันไม่ได้เล่นบีบีวันชน แย้มอยากไปร่วมงานศพ แต่หวั่นกระแสสังคม

วันนี้ (31 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สาววัยรุ่นที่ขับรถเก๋ง ฮอนด้า ซีวิค สีขาว ทะเบียน ฎว 8461 กรุงเทพมหานคร ที่เฉี่ยวชนรถตู้ โดยสาร ยี่ห้อโตโยต้า สีเทาฟ้า ทะเบียน 13-7795 กรุงเทพมหานคร จนมีผู้โดยสารกระเด็นตกจากโทลล์เวย์มาเสียชีวิตรวมทั้งหมด 9 ศพ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 27 ธ.ค.ที่ผ่านมาได้ห้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ผ่านรายการ "เช้าข่าวข้น คนข่าวเช้า" ซึ่งออกอากาศทางโมเดิร์นไนน์ทีวี โดยมีนายกนก รัตนวงศ์สกุล หนึ่งในผู้ดำเนินรายการเป็นผู้ซักถามถึงประเด็นต่าง ๆ ว่า รู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์เกิดขึ้นและขอรับผิดที่ประมาทขับรถเร็ว พร้อมยืนยันว่าไม่ได้เล่นบีบีตามที่เป็นข่าวแค่พยายามติดต่อประกันภัย และตอนนี้อายุ 17 ปี จึงไม่มีบัตรขับขี่ ย้ำอยากไปงานศพ แต่เกรงกระแสสังคมยังแรง

และนี้คือรายละเอียดคำให้สัมภาษณ์แบบคำต่อคำ (จากรายการ เช้าข่าวข้น)

พิธีกร : สวัสดีครับ น้องครับ
สาววัยรุ่น : ฮัลโหล ... สวัสดีค่ะ

พิธีกร : หนูอยากจะพูดอะไรฮะ
สาววัยรุ่น : เออ ... อยากแสดงความเสียใจนะคะ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ตัวหนูเองไม่ได้มีเจตนาอะไรทั้งสิ้น ที่จะทำให้เกิดการสูญเสียในครั้งนี้ค่ะ

พิธีกร : หนูลองเล่าเหตุการณ์ให้ฟังนิดนึง ว่ามันเกิดอุบัติเหตุครั้งนั้นได้อย่างไร
สาววัยรุ่น : เผอิญตอนนั้นหนูขับรถอยู่เลนขวานะคะ แล้วก็เห็นรถตู้อยู่ข้างหน้า แต่ว่ารถวิ่งอยู่เลนขวา เขาขับรถกินเลนเข้ามานิดนึง หนูเลยเปิดไฟสูงขอทางใช่ไหมคะ ก็ รถตู้ก็กลับเข้าไปใหม่ แต่พอหนูเข้าไปในระยะใกล้ขึ้นพยายามเร่งเพื่อที่จะแซงไป พอดีรถตู้เขาโผล่ออกมาอีกทีหนูเลยตกใจน่ะค่ะ บีบแตร แล้วก็หักหลบไป พอหักหลบปุ๊บ รถหนูเสียหลัก ใช่ไหมคะ ตัวหนูไหลเข้าไปอยู่ใต้แผงคอนโซล แล้วก็เกิดการกระแทกอย่างแรง แล้วก็หนูไม่ได้เห็นเหตุการณ์ เพราะว่าตัวได้ไหลเข้าไปใต้แผงคอนโซล แล้วหนูก็ไม่ได้คาดซีทเบลท์ (เข็มขัดนิรภัย) ไงคะ ก็รู้สึกกระแทก แล้วก็ลุกขึ้นมาอีกทีนึง เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยออกมาจากรถไงคะ แล้วก็ภาพที่เห็นกดโทรศัพท์เนี่ย คือต้องโทรเรียกประกันใช่ไหมคะอย่างแรก เพราะว่าเจ้าหน้าที่ไม่ส่งโรงพยาบาลจนกว่าจะโทรเรียกประกัน และก็แจ้งพวกพ้องให้ทราบก่อน ... ค่ะ

พิธีกร : ขับรถตอนนั้นเนี่ยความเร็วเท่าไหร่ จำได้ไหมครับ
สาววัยรุ่น : จำไม่ได้ค่ะ

พิธีกร : แต่ดูกล้องในวงจรปิด ก็เร็วมากนะครับ ทำไมเร่งเร็วขนาดนั้น
สาววัยรุ่น : เร็วมากไหนคะ (เสียงงงๆ) อันนี้ขอไม่ตอบแล้วกันนะคะ เพราะว่าถ้ามีผลอะไรก็แล้วแต่ที่จะต้องให้ปากคำกับตำรวจ หนูขอไม่พูดนะคะ

พิธีกร : ซึ่งก็หนูคงทราบแล้วใช่ไหมคะว่าวันที่ 5 มกราคม ใช่ไหมครับ
สาววัยรุ่น : ใช่ค่ะ ทราบค่ะ

พิธีกร : ก็คงจะไปแน่
สาววัยรุ่น : อันนี้ต้องถามผู้ปกครองอีกทีนึงค่ะ แต่ไม่น่าจะมีอะไรผิดพลาดก็คงจะไปนะคะ

พิธีกร : แล้วตั้งแต่ช่วงนี้ไปจนถึงวันที่ 5 หนูจะทำอะไร ความตั้งใจ
สาววัยรุ่น : คง ... อันนี้ก็ คือ ยังไม่แน่นอนเหมือนกันค่ะ

พิธีกร : คือเมื่อวานนี้เราคุยกับคุณแม่ แล้วก็ได้สอบถามคุณแม่
สาววัยรุ่น : (พูดแทรก) คงต้องไปบวชอ่ะค่ะ หรือ ไปถือศีลอยู่สักพักนึงค่ะ

พิธีกร : อ๋อ ครับ คือตอนแรกเราก็ถามคุณแม่ว่า คุณแม่อยากจะออกมาแถลงขอโทษ แสดงความเสียใจอย่างเป็นทางการไหม คุณแม่ก็บอกว่าช่วงนี้หลายๆ อย่างยังไม่คลี่คลาย ก็อยากให้คดีคลี่คลาย ถามตัวหนู หนู อยากจะออกมาพูดอะไรกับพี่ ๆ สื่อมวลชน หรืออยากจะออกมาสื่ออะไรไปถึงครอบครัวของผู้ที่สูญเสียไหมครับ
สาววัยรุ่น : อย่างแรกเลยค่ะ หนูขอแสดงความเสียใจนะคะ เพราะว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุค่ะ หนูไม่ได้ตั้งใจ แล้วก็เกิดขึ้นจากความประมาท อันนี้ยอมรับผิดนะคะ เพราะว่าถ้าหนูไม่ขับเร็วในวันนั้น เหตุการณ์นี้ก็คงไม่เกิดขึ้น หรืออาจจะไม่รุนแรงขนาดนี้ แต่หนูพยายามเต็มที่แล้วที่จะหักหลบ เพียงแต่ว่ารถมันเสียหลัก แล้วไปกระแทก อันนี้หนูขอโทษจริงๆ ค่ะ

พิธีกร : หนูอยากจะไปงานศพของผู้ที่เสียชีวิตไหมครับ
สาววัยรุ่น : อยากนะคะ ... แต่ว่าด้วยสถานการณ์แล้วสื่อที่ออกไป ภาพมันค่อนข้างรุนแรงนิดนึง

พิธีกร : ลองถามน้องในทางกลับกันนะคะ ว่าเข้าใจเพราะเมื่อวานคุณแม่ก็อธิบายไปแล้ว ตัวหนูเองก็พูดเมื่อสักครู่ ถามในอีกมุมหนึ่งว่าถ้าเราได้ออกมาแสดงอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยไม่ระบุถึงว่าใครเป็นคนผิด ใครเป็นสาเหตุ จะช่วยลดแรงเสียดทานได้ไหมคะ
สาววัยรุ่น : ถ้าเป็นอย่างนั้นก็อย่างที่บอกว่า ก็คงออกมาแสดงความเสียใจ

พิธีกร : เช่นการแถลงข่าวผ่านนักข่าว หรือ ติดต่อไปทางตัวญาติพอจะได้ไหมคะ
สาววัยรุ่น : พอจะได้ค่ะ (พูดงง ๆ )

พิธีกร : จริง ๆ ใจพวกเราเนี่ย อยากจะให้ครอบครัวหนู หรือยังไงก็ตามแต่ ได้ออกมาพูดอะไรบ้าง อันนี้ก็แล้วแต่ทางหนูจะปรึกษาหารือกับคุณพ่อคุณแม่นะครับ
สาววัยรุ่น : ท่านเพิ่งเล่ารายละเอียดทั้งหมดให้หนูฟังว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องหนูไม่ได้เข้าอินเทอร์เน็ต แล้วก็ไม่ได้เล่นบีบี โทรศัพท์หนูไม่ได้อยู่กับตัวตั้งแต่คืนที่เกิดเหตุ แล้วก็คือไม่ได้รับรู้ถึงกระแสเป็นอย่างไงบ้าง ส่วนคุณหมอก็ให้ยาเพื่อที่จะให้พักผ่อน เพิ่งที่จะมารู้ทุกอย่างชัดก็เมื่อคืนนี้

พิธีกร : คือเรื่องบีบีมันมีข่าวบางกระแสในเว็บไซต์ว่าหนูไปโพสต์เล่น
สาววัยรุ่น : ไม่มีค่ะ ... หนูไม่เล่นทวิตเตอร์นะคะ เฟซบุ๊คมีอันเดียว ไฮไฟว์ไม่เล่น แล้วหลังจากเกิดเหตุการณ์ปุ๊บ ไม่มีการอัพเดตสถานะใดๆ ทั้งสิ้นนะคะ ไม่ว่าจะเป็นแบล็คเบอรี่ เฟซบุ๊ค หรือ ข้อความอะไรร้ายแรงที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ก็แล้วแต่ อันนี้ขอย้ำว่าไม่มีเลยจริงๆ นะคะ

พิธีกร : เฟซบุ๊คถูกลบไปแล้วใช่ไหมคะ
สาววัยรุ่น : เฟซบุ๊คถูกปิดไปไม่เกินหนึ่งวันหลังจากที่เกิดเรื่องค่ะ

พิธีกร : ตอนนี้อาการบาดเจ็บเป็นยังไงบ้างครับ
สาววัยรุ่น : สภาพทางร่างกายดีขึ้นค่ะ ดีขึ้นเรื่อยๆ ส่วนสภาพจิตใจก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่

พิธีกร : ตอนนี้อยู่ที่บ้านหรืออยู่ที่โรงพยาบาลคะ
สาววัยรุ่น : อันนี้ขอไม่ตอบแล้วกันนะคะ

พิธีกร : หนูติดตาม เห็นภาพทางหนังสือพิมพ์ทางสื่อแล้วคิดยังไง
สาววัยรุ่น : ตอนนี้รู้สึกเสียใจจริง ๆ ค่ะ ตอนนี้คิดอย่างอื่นไม่ออกจริง ๆ

พิธีกร : คุณพ่อคุณแม่คงไม่แนะนำให้ใช้อินเทอร์เน็ตเลยใช่ไหมครับ ช่วงนี้
สาววัยรุ่น : ท่านไม่ให้ยุ่งเลยค่ะ เพียงแต่บังเอิญเริ่มจากเห็นหนังสือพิมพ์ก่อน จากหัวข่าวหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง เลยถามจากท่านปรากฎก็รู้ชัดเมื่อคืนว่ากระแสภายนอกเป็นยังไง ตัวหนูเองก็ตกใจเหมือนกัน ก็เลยต้องออกมาพูดอะไรสักอย่างนึง เพราะว่าตอนแรกท่านไม่อยากให้กระทบกระเทือนไปมากกว่านี้

พิธีกร : ท่านไม่อยากให้รับสื่อเลย ขอถามนิดเดียว พอดีทราบมา ก็ไม่อยากเอาคำถามอย่างนี้มาไล่ถาม เผอิญมีคำถามช่วงหลังว่าตกลงหนูอายุ 16 หรือ 18 ปี
สาววัยรุ่น : 17 ปีค่ะ

พิธีกร : คนพูดถึงเหมือนกันว่าอายุเท่านี้ใบขับขี่ยังไม่ได้รับ แล้วเอารถมาขับได้ยังไง
สาววัยรุ่น : อันนี้หนูไม่ขอตอบ เพราะว่ามันต้องพาดพิงถึงบุคคลที่สาม

พิธีกร : อันนี้หนูคงรู้ว่าตัวว่าหนูผิดอยู่แล้วนะครับ ก็เป็นหนึ่งในสองข้อหาจากทางตำรวจนะครับ
สาววัยรุ่น : หนูทราบค่ะ.
สาวซีวิคย่องเยี่ยมคนเจ็บ
ส่วน ที่โรงพยาบาลวิภาวดี นายวิศรุต พลสิทธิ์ หนึ่งในผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า ทางแพทย์ได้อนุญาตให้กลับไปพักรักษาตัวที่บ้านได้แล้ว หลังจากทำการแสกนสมองแล้วไม่พบสิ่งผิดปกติ ทั้งนี้เมื่อช่วงเช้า หญิงสาววัยรุ่นที่ขับรถเก๋งซีวิคและพ่อแม่กับผู้ติดตามอีก 1 คน ได้เดินทางมาเยี่ยม พร้อมมอบกล่องขนมบ้านอัยการให้ โดยสาววัยรุ่นยังคงอยู่ในรถเข็น และมีร่องรอยฟกช้ำตามร่างกาย ซึ่งทั้งหมดได้กล่าวแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งและขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิด ขึ้น และหลังจบคดีคงจะเดินทางไปเรียนที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งตนก็เข้าใจและไม่ได้ติดใจจะเอาเรื่อง เพราะได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ส่วนเรื่องคดีคงปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมาย แต่คงไม่ฟ้องร้องค่าเสียหาย

ด้านนายวรัญญู เกตุชู ผู้รับบาดเจ็บอีกราย กล่าวว่า คู่กรณีได้มาเยี่ยมเช่นกัน โดยได้กล่าวขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป และบอกว่ารู้สึกผิดและกดดันจากกระแสในอินเตอร์เน็ตที่ถูกโจมตีรุนแรง พร้อมบอกว่าทุกอย่างต้องว่าไปตามกฎหมาย หากมีหมายเรียกก็พร้อมที่จะนำลูกไปเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทางครอบครัวยินดีที่จะรับผิดชอบอย่างเต็มที่

"รู้สึกดีที่น้องและครอบครัวออกมาขอโทษ ส่วนเรื่องการฟ้องร้องค่าเสียหายนั้น ยังไม่ได้คิด เพราะแม่บอกให้พักรักษาตัวให้หายดีก่อน" นายวรัญญู กล่าว.




Daily News Online > ข่าวหน้า 1 > สาวซีวิคเปิดใจอยากบวช-ย่องเยี่ยมคนเจ็บ

 

สาวซีวิคไปรพ. รินน้ำตาขอขมา


สาวซีวิค ขอขมาคนเจ็บเหยื่อรถตู้โทลล์เวย์ เผยทั้งน้ำตาขอโทษทุกคน หากย้อนเวลาได้ขอตายคนเดียวดีกว่า เตรียมบวชชีพราหมณ์ อุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิตปฏิเสธกดบีบีแชตเล่นกับเพื่อน
เด็กสาว นักเรียนนอกตระกูลดังโผล่เยี่ยมคนเจ็บเหยื่อรถตู้โทลล์เวย์แล้ว เผยทั้งน้ำตา รู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอโทษทุกคน หากย้อนเวลาได้ขอตายคนเดียวดีกว่า วอนสังคมเข้าใจมันเป็นเหตุสุดวิสัย เตรียมบวชชีพราหมณ์ อุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิต ปฏิเสธกดบีบีแชตเล่นกับเพื่อน แค่หาเบอร์โทร.บอกพ่อเรียกประกัน รู้มีคนตายถึงกับช็อก หมอต้องให้ยานอนหลับ ยินดีรับโทษตามกฎหมาย ส่วนผู้เป็นแม่รับ ห่วงลูกโดนกระแสกดดัน ทำให้ไม่กล้าพามาเยี่ยมคู่กรณีตอนแรก ยันไม่ใช้นามสกุลก้าวก่ายการทำงานของตำรวจ ขณะที่บรรดาคนเจ็บต่างพอใจ หลังเด็กสาวเอ่ย คำขอโทษถึงโรงพยาบาล

กรณีอุบัติเหตุสาวนักเรียนนอก ตระกูลดังขับรถชนรถตู้โดยสารบนทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย บาดเจ็บอีก 6 ราย กระทั่งกลายเป็นประเด็นสังคมรุมโจมตีเด็กสาวที่อายุไม่ถึงพอจะทำใบอนุญาตขับ ขี่มาซิ่งรถจนเกิดเหตุการณ์สยองขวัญส่งท้ายปี ความคืบหน้าเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 31 ธ.ค. สาวคนขับเก๋งฮอนด้า พร้อมพ่อแม่เดินทางไปโรงพยาบาลวิภาวดีเพื่อเยี่ยมอาการบาดเจ็บของเหยื่อ อุบัติเหตุคู่กรณี ตั้งแต่นายวิศรุต พลสิทธิ์ อายุ 35 ปี นายสุนทร ปิตตาทานัง อายุ 43 ปี สามีนางนฤมล ปิตตาทานัง อายุ 38 ปี คนขับรถตู้ ที่นั่งอยู่ในรถและได้รับบาดเจ็บด้วย รวมถึงคนอื่นๆที่ยังรักษาตัวอยู่ ในโรงพยาบาล พร้อมมอบเงินส่วนหนึ่งเพื่อช่วยเหลือเป็นค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้น

ทั้ง นี้ เด็กสาวต้องนั่งรถเข็นมีพ่อคอยประคองไม่ห่างยกมือไหว้ขอโทษคนเจ็บทุกห้องและ ยอมรับว่าเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมลำดับเรื่องราวว่า ขอยืมรถเพื่อนขับมาจากหมู่บ้านเมืองเอก ย่านรังสิต เพื่อไปทำธุระที่ห้างเซ็นทรัล ลาดพร้าว พอขับมาถึงใกล้บริเวณจุดเกิดเหตุ วิ่งอยู่ช่องทางขวาสุด ก็เห็นรถตู้คันนี้วิ่งอยู่ช่องกลางแล้วกินเลนเข้ามาที่ช่องทางของตน จึงเปิดไฟกะพริบให้หลบทาง รถตู้ก็หลบเข้าไปในช่องกลางตามปกติ ตนเร่งเครื่องเพื่อจะแซงให้พ้น แต่รถตู้กลับเบนเข้ามาหาอีกจนเกือบจะชนท้าย ทำให้ต้องหักหลบมาทางซ้ายอย่างกะทันหันจนรถหมุนคว้าง แล้วตัวเองก็กระเด็นตกไปอยู่ที่ใต้คอนโซลรถก่อนได้ยินเสียงรถกระแทกดังขึ้น 2-3 ครั้งอย่างแรงกว่ารถจะหยุดนิ่ง โดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง

สาว นักเรียนนอกกล่าวต่อว่า รู้ตัวอีกทีไปกองอยู่ใต้ คอนโซลรถถูกกระจกรถบาดไปทั่วทั้งตัว และที่มือข้างขวา ไม่นานก็มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยมางัดประตูช่วยออกมาจากรถแล้วบอกให้ยืนพิงกับ ขอบกั้นบนทางด่วนไว้ เนื่องจากถูก กระจกบาดที่ก้นไม่สามารถนั่งกับพื้นได้ พร้อมกับบอกให้โทรศัพท์เรียกประกัน ตนขอให้เจ้าหน้าที่ไปหาโทรศัพท์ มือถือที่อยู่ในรถ เมื่อได้โทรศัพท์มาก็รีบกดหาเบอร์โทรศัพท์ ของพ่อ บริษัทประกัน และเพื่อนๆ แต่มือข้างขวาเจ็บต้องใช้มือข้างซ้ายช่วยจับและกดหาเบอร์โทรศัพท์ ทำให้ทุกคนที่เห็นภาพคิดว่ายังมีกะจิตกะใจเล่นบีบีแชตกับเพื่อนอยู่อีก ทั้งที่มีคนตายเป็นจำนวนมาก

"หนูขอยืนยันว่า หลังเกิดเหตุก็ไม่ได้เล่นบีบีคุยกับใครอีกเลย แต่กลับมีคนเอาข้อความที่ระบุว่าหนูเป็นคนส่งข้อความคุยกับเพื่อนต่างๆนานา ไปลงโพสต์ในอินเตอร์เน็ต ตอนหลังก็มีการพิสูจน์กันแล้วว่าไม่เป็นความจริง เฟซบุ๊กก็ปิดไปหลังจากเกิดอุบัติเหตุ ตอนเกิดเหตุพอรู้ว่ามีคนเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมากก็รู้สึกช็อก พยายามจะติดต่อที่บ้านและเพื่อนให้ทราบข่าว ทำอะไรไม่ถูก ยืนตัวสั่นไปหมด ระหว่างรถกู้ภัยพาส่งโรงพยาบาล หนูยังถามเลยว่า มีใครเป็นอะไรอีกมั้ย พอรู้มีคนตาย 8 ศพแล้ว ยิ่งช็อก และเสียใจมาก อยากขอโทษทุกคนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆ หากย้อนเวลากลับไปได้ขอเป็นคนตายในรถฮอนด้า ซีวิค เพียงคนเดียวดีกว่าที่จะต้องมีคนตายและบาดเจ็บมากมายขนาดนี้" ไฮโซสกุลดังระบายความรู้สึกทั้งน้ำตา

โชเฟอร์นักเรียนนอกกล่าวต่อว่า ตอนนี้อายุ 17 ปีแล้ว ตอนเรียนอยู่อเมริกาทำใบขับขี่ไว้ เพราะกฎหมายอนุญาตให้เด็กอายุ 16 ปี มีใบขับขี่ได้ เลยไม่ได้นึกถึงกฎหมายเมืองไทย แต่ขอยอมรับผิดทุกอย่าง หลังจากจัดการเรื่องของคดีความแล้วจะขอไปบวชชีพราหมณ์เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ ผู้เสียชีวิตทุกราย ยืนยันว่าไม่คิดจะหนีไปไหน พร้อมจะไปพบพนักงานสอบสวนแน่นอน ขณะนี้ก็ยังรู้สึกตกใจ และหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดเวลา แพทย์ ต้องสั่งยานอนหลับให้กิน ขอให้สังคมเข้าใจบ้าง ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น มันเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ หากพิสูจน์แล้ว ตนเป็นผู้ผิดจริงก็พร้อมรับโทษในสิ่งที่เกิดขึ้น ขอโทษอีกครั้งสำหรับญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุดังกล่าว

ส่วน แม่ของเด็กสาวเผยว่า หลังเกิดเหตุลูกสาวต้องกินยาที่ทำให้ง่วงนอน และสะลึมสะลืออยู่ตลอดเวลา เพราะอยู่ในอาการหวาดหวาไม่สามารถเดินทางมาเยี่ยม อาการของผู้ได้รับบาดเจ็บได้ในตอนแรก นอกจากนี้ยังถูกขู่ฆ่า และขู่บุกมาที่โรงพยาบาลอีกด้วย ก็กลัวว่า ลูกจะได้รับอันตรายหากพาออกมาในช่วงเวลานั้น ยิ่งพอกระแสข่าวเริ่มแรงขึ้น ตนและสามีก็พยายามไม่ให้ลูกสาวทราบมากนัก เพราะเกรงว่าอาการจะทรุดหนัก แต่ลูกสาว ก็มาเห็นข่าวทางหนังสือพิมพ์กับทางโทรทัศน์ถึงกับร้องไห้ตลอดเวลา และคะยั้นคะยอให้พามาเยี่ยมคนเจ็บ เพื่ออยากจะมาขอโทษ และแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น ขอยืนยันว่าลูกสาวไม่ได้คิดจะหลบหนี หรือหนีไปเมืองนอกอย่างที่มีกระแสข่าว พวกเราไม่เคยดูดายกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผิดหรือถูก ตรงนี้ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์ และที่เดินทางมามอบเงินช่วยเหลือ เป็นเรื่องของมนุษยธรรม เรื่องของจิตสำนึก ไม่มีผลเกี่ยวข้องกับคดีแต่อย่างใด

แม่สาวโชเฟอร์เก๋งฮอนด้ากล่าว ต่อว่า ตนและครอบครัวรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งไม่น้อยไปกว่าคนอื่นๆ ต้องขอโทษที่ออกมาช้า เพราะสภาพลูกสาวยังไม่พร้อมจริงๆ และพวกออนไลน์ก็ทำให้เรายังไม่กล้าออกมา เหมือน กับลูกสาวเป็นคนเสียชีวิตรายที่ 10 ไปแล้ว ออกไปไหน ก็ไม่ได้ถึงขั้นต้องเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์กันเกือบทั้งบ้าน ตนก็เข้าใจอารมณ์โกรธแค้นจากกลุ่มเพื่อนผู้บาดเจ็บ หรือผู้เสียชีวิต แต่อยากให้เข้าใจลูกตนด้วยว่า ไม่ได้มีเจตนาอยากให้เกิดอุบัติเหตุเช่นนี้ มันเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆอยากให้ทุกคนคลายความโกรธแค้นลงมา ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุตนก็ได้มอบเงินช่วยเหลือผู้เสียชีวิตไปแล้วเบื้องต้นรายละ 3 หมื่นบาท ส่วนผู้บาดเจ็บรายละ 2 หมื่นบาท พร้อมกับกราบขอโทษญาติผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บด้วย ส่วนใหญ่เข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เป็นอุบัติเหตุ ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ฝ่ายเราเองก็ยอมรับผิดในเรื่องที่ปล่อยให้ลูกขับรถไม่มีใบอนุญาตขับขี่

สำหรับ ใครจะเป็นฝ่ายผิดหรือถูก แม่ของเด็กกล่าวว่า ให้เจ้าหน้าที่เป็นผู้พิสูจน์และตัดสินเอง หากลูกผิดก็พร้อมจะรับโทษตามกฎหมายไม่หนีไปไหนแน่นอน และไม่เคยใช้นามสกุลเข้าไปก้าวก่ายการทำงานของตำรวจอย่างที่มีการวิพากษ์ วิจารณ์แม้แต่น้อย ไปจนถึงที่มีข่าวว่า มีการเปลี่ยนตัวคนขับเพื่อให้ลูกพ้นผิด ตรงนี้ก็ไม่มีอย่างแน่นอน แต่น่าจะเป็นเพราะเจ้าหน้าที่รายงานอายุลูกสาวคลาดเคลื่อนเองในตอนแรก ทำให้เข้าใจผิดว่า มีการเปลี่ยนตัวคนขับ ส่วนกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานต่างๆเข้ามาตรวจสอบก็ไม่วิตกอะไร กลับถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะทำให้ทุกอย่างเกิดความชัดเจนตรงไปตรงมามากยิ่งขึ้น

ขณะที่ นายวิศรุต พลสิทธิ์ เหยื่อที่ได้รับบาดเจ็บให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อคู่กรณีมาเยี่ยมพูดคุยกันก็ไม่ติดใจ หรือโกรธแค้นอะไร คิดว่าเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกันได้ ส่วนภาพหรือข้อความข่มขู่สาวคนขับคู่กรณีในเว็บไซต์ ต่างๆ ก็คิดว่ามีคนเจ็บแค้นอยู่ต้องการระบายอารมณ์ ตนเห็นว่าทำมากเกินไป เหมือนเป็นการขาดสติ ตรงนี้ทางเว็บมาสเตอร์ควรบล็อก ตักเตือนผู้โพสต์ และลบข้อความทิ้ง เพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรงมากไปกว่านี้ ทว่าหากคนขับออกมาเร็วกว่านี้ก็อาจจะไม่เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นมา แต่เมื่อออกมาแล้วก็ควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการหาคนผิด

นาย วรัญญู เกตุชู นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้บาดเจ็บอีกรายที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลกล่าวว่า รู้สึกพอใจที่คู่กรณีเดินทางมาเยี่ยม ตัวเองไม่ติดใจอะไร เพราะเห็นว่า ที่ผ่านมาคู่กรณีถูกกดดันจากสังคมมากพอแล้ว พ่อของคู่กรณีก็ยืนยันว่า ไม่ต้องกลัวเรื่องกฎหมายจะไม่มีการซิกแซ็กเด็ดขาด พร้อมจะนำลูกสาวไปดำเนินคดีตามกฎหมายแน่นอน "ส่วนตัวผมแล้วไม่ได้ติดใจอะไร วันนี้เห็นเขามาเยี่ยม มาขอโทษ มาขอขมาทุกคน ก็รู้สึกดี"

ด้าน พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก ในฐานะลุงของเด็กสาวรายนี้เผยว่า รู้สึกเสียใจต่ออุบัติเหตุที่เกิดขึ้น เช่นเดียวกับพี่น้องในตระกูลเทพหัสดิน ณ อยุธยา ทุกคน โดยเฉพาะตนเป็นผู้ใหญ่ของตระกูล ทางพ่อเด็กพร้อมที่จะช่วยเหลือดูแล และชดใช้ให้แก่ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต แต่ต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ส่วนในเรื่องความยุติธรรมที่สังคมกังขาว่า จะมีการช่วยเหลือในฐานะตระกูลใหญ่ ขอให้ไว้วางใจทางตระกูลเรา "ผมยืนยันว่า พี่น้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย แต่เรื่องความเป็นธรรมต้องเกิดขึ้นกับทุกคน เพราะเมื่อเกิดเหตุขึ้นแล้ว หลานสาวก็เสียใจ พี่น้องก็เสียใจ ทุกคนไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น แต่เมื่อเป็นอุบัติเหตุขึ้นมา ต้องมาช่วยกันดีกว่า ทั้งนี้ผมไม่เคยลงไปยุ่งเกี่ยวในทางคดี ส่วนน้องชายซึ่งเป็นพ่อของเด็กก็บอกแล้วในเรื่องคดีความให้ตำรวจว่ากันไปตาม กฎหมาย ขอให้ทุกคนสบายใจได้ สภาพจิตใจของหลานตอนนี้ก็อยู่ในอาการไม่ดี หากเป็นไปได้ขอให้สื่อหยุดการเสนอข่าวได้แล้ว เพราะขณะนี้ก็อยู่ในขั้นตอนกระขบวนการของกฎหมายแล้ว และขอให้มั่นใจการทำงานของตำรวจ เพราะตระกูลผมไม่มีการเข้าไปแทรกแซงการทำงานแน่นอน"


ไทยรัฐออนไลน์

• โดย ไทยรัฐออนไลน์
• 1 มกราคม 2554, 05:00 น.

สาวซีวิคไปรพ. รินน้ำตาขอขมา - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=2b84y2ou93M&feature=related]YouTube - ข่าว ซีวิคชนรถตู้ คนตกทางด่วน - 13[/ame]

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=UpBm_WyJndg]YouTube - ข่าว ซีวิคชนรถตู้ คนตกทางด่วน - 14[/ame]

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=VBNYcZGqHEU]YouTube - ข่าว ซีวิคชนรถตู้ คนตกทางด่วน - 15[/ame]

 

มารดาสาวซีวิค เดินสายช่วยครอบครัวเหยื่อ ขมาแม่'ดร.เป็ด'

มารดาสาวซีวิค เดินสายช่วยครอบครัวเหยื่อ ขมาแม่'ดร.เป็ด'


แม่สาวซีวิคเดินสายพบครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์รถเก๋ง ชนรถตู้บนทางด่วนโมลล์เวย์ ยืนยันวันที่ 5 ม.ค. จะพาลูกไปพบพนักงานสอบสวนแน่นอน จากนั้นจะบวชชีพราหมณ์อุทิศส่วนกุศลให้ผู้ตาย...

กรณีอุบัติเหตุเด็ก สาวตระดูลดังขับรถเก๋งฮอนด้าซีวิค ชนท้ายรถตู้โดยสารร่วม ขสมก.บนทางด่วนโทลล์เวย์ทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 าย บาดเจ็บ 6 ราย กลายเป็นประเด็นสังคมและโลกออนไลน์ รุมโจมตีเด็กสาวที่อายุไม่ถึงเกณฑ์ทำใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ และก่ออุบัติเหตุสยองส่งท้ายปี ซึ่งล่าสุด ทางเด็กสาวพร้อมครอบครัว ได้เดินทางไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่ รพ.วิภาวดี พร้อมมอบเงินช่วยเหลือในเบื้องต้นนั้น

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 11.00 น. มารดาของเด็กสาวคนดังกล่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 22 ซ. ลาดพร้าว 89 เขตวังทองหลาง กทม. ซึ่งเป็นที่อยู่ของนายปรัชญา คันธา หนึ่งในผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์รถเก๋งชนรถตู้บนทางด่วนโทลล์เวย์ โดยได้มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นซึ่งไม่เกี่ยวกับรูปคดี และเป็นเจตนารมณ์ของเด็กสาว จำนวน 30,000 บาท ให้กับ ดร.ปัญญา คันธา บิดาของนายปรัชญา

โดย ดร.ปัญญา บอกว่า หลังจากได้ทำพิธีลอยอังคารไปเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.ที่ผ่านมา ในวันพรุ่งนี้ (2 ม.ค.) เป็นวันคล้ายวันเกิดของ นายปรัชญา ทางครอบครัวจะเดินทางไปที่ จ.เชียงใหม่ เพราะตนเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ต้องทำงานต่อ ซึ่งจากการได้พูดคุยกับญาติตกลงกันว่าจะตั้งกองทุนปรัชญาคันธา สำหรับเป็นทุนการศึกษาให้แก่เด็กที่เรียนดีแต่ฐานะยากจนใน จ.เชียงใหม่ ซึ่งทางมารดาของเด็กสาวก็ได้แสดงเจตจำนงจะร่วมตั้งกองทุนดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ ดร.ปรัชญา กล่าวว่า เข้าใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าไม่มีใครอยากให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง และเห็นว่ากระแสสังคมในเวลานี้มีผล หากทางครองครัวเด็กสาวแสดงตัวออกมาตั้งแต่แรก สถานการณ์อาจจะไม่เลวร้ายถึงขนาดนี้



จากนั้นทางมารดาของเด็กสาวคนขับรถเก๋ง ได้เดินทางต่อไปยัง วัดเกาะนัมทาปทวลัญธาราม อ.เมือง จ.ราชบุรี ซึ่งตั้งบำเพ็ญกุศลศพของ ดร.ศาสตรา เช้าเที่ยง หรือ "ดร.เป็ด" ผู้เสียชีวิตอีกรายจากเหตุการณ์ดังกล่าว เพื่อพบกับทางครอบครัวของ ดร.ศาสตรา ซึ่งได้รับการประสานติดต่อผ่านทางรองนายกเทศมนตรีเมืองราชบุรี ว่าทางครอบครัวของเด็กสาวจะเดินทางมาพบ ทั้งนี้ ได้มีการมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 30,000 บาท ให้กับครอบครัวของ ดร.ศาสตรา และจะมีการช่วยเหลืออีกครั้งตามความเหมาะสม

มารดาของโชเฟอร์รถเก๋ง ซีวิค ได้พูดคุยกับทางนางถวิล เช้าเที่ยง มารดาบุญธรรมของ ดร.ศาสตรา ซึ่งนางถวิลได้อโหสิให้ เพราะเข้าใจว่าไม่มีใครต้องการให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น แม้จะเสียดาย ดร.ศาสตรา ที่จากไปเร็ว แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ และไม่คาดคิดมาก่อนว่า ดร.ศาสตรา จะเป็นที่รักของคนมากขนาดนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้เสียชีวิตที่เหลืออีก 7 รายนั้น ทางครอบครัวของเด็กสาว ได้ติดต่อไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นนางนฤมล นิลวรรณ นักแสดงสาวรุ่นใหญ่ ซึ่งเป็นป้าของ น.ส.สุดาวดี นิลวรรณ อายุ 20 ปี แต่ยังไม่ได้มีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ เนื่องจากทางนางนฤมล และครอบครัวของ น.ส.สุดาวดี ยังวุ่นอยู่กับการทำพิธีศพ



ส่วนครอบครัวของนายภิญโญ จินันทุยา อายุ 34 ปี ผู้ช่วยคณบดี คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และผังเมือง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งอยู่ที่ จ.ชัยนาท ซึ่งได้ติดต่อพูดคุยทางโทรศัพท์กับบิดาของนายภิญโญ แล้ว หลังจากเสร็จพิธีศพจะมีการพูดคุยกันอีกครั้ง ซึ่งทางบิดาของนายภิญโญ ระบุว่าเข้าใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และฝากทุกคนไว้เป็นอุทาหรณ์ว่าอย่าประมาท

ครอบครัวของ น.ส.จันจิรา ซิมกระโทก หรือน้องป้าย นักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทางครอบครัวของเด็กสาว ได้มีการพูดคุยและมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 30,000 บาท โดยโอนให้ทางบัญชีไปแล้ว ซึ่งทางนายสะโอด ซิมกระโทก บิดาของ น.ส.จันจิรา ไม่ติดใจใดๆ ด้านคดีปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะดำเนินการต่อไป

รวม ไปถึงครอบครัวของผู้เสียชีวิตอีก 3 ราย ได้แก่ นางนฤมล ปิดตาทะนัง โชเฟอร์รถตู้ นายอุกฤษฎ์ รัตนโฉมศรี ผู้ช่วยนักวิจัย สวทช. และ น.ส.ตรอง สุดธนกิจ ซึ่งในรายของ นายอุกฤษฎ์ และ น.ส.ตรอง จะมีการฌาปนกิจศพ ในวันที่ 2 และ 3 ม.ค.นี้นั้น ทางมารดาของสาวซีวิคจะได้เดินทางไปพบด้วย

อย่าง ไรก็ตาม ทางมารดาของเด็กสาว ได้ฝากสื่อมวลชนช่วยแจ้งข่าวไปยังครอบครัวของนายเกียรติมันต์ รอดอารีย์ ซึ่งทราบว่าได้มีการฌาปนกิจศพ ไปแล้ว ไม่สามารถติดต่อให้ความช่วยเหลือได้ และยืนยันว่า ในวันที่ 5 ม.ค.นี้ เด็กสาวพร้อมครอบครัว จะเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวน และจะขอประกันตัวออกมา จากนั้น ทางเด็กสาวและมารดาจะบวชชีพราหมณ์ และถือศีล เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตทั้งหมด และขอโทษทุกคนอีกครั้ง.



ไทยรัฐออนไลน์

• โดย ไทยรัฐออนไลน์
• 1 มกราคม 2554, 20:49 น.

มารดาสาวซีวิค เดินสายช่วยครอบครัวเหยื่อ ขมาแม่'ดร.เป็ด' - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

แม่สาวซีวิคยอมขอโทษแทนลูก

​

แม่ สาวซีวิคกราบเท้าแม่ขอขมา "ดร.เป็ด" ยอมขอโทษแทนลูก ด้านแม่ผู้สูญเสียยอมให้อภัย แต่พ้อ "คุณยังมีลูกให้กินข้าวด้วย แต่ฉันไม่มีแล้ว"
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 1 ม.ค. นางลัดดาวัลย์ (ขอสงวนนามสกุล) มารดาของสาวซีวิค ได้เดินทางไปที่วัดเกาะนัมทา เขตเทศบาลเมืองราชบุรี จ.ราชบุรี เพื่อจุดธูปขอขมาต่อหน้าศพ ดร.ศาสตราหรือเป็ด เช้าเที่ยง นักวิจัย 1 ของ สวทช. ผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุตกจากโทลล์เวย์

โดย นางลัดดาวัลย์ ได้เข้าไปคุกเข่าก้มกราบเท้า นางถวิล เช้าเที่ยง แม่บุญธรรมของ ดร.ศาสตรา 3 ครั้ง พร้อมกับกล่าวขอโทษแทนลูกสาวด้วยน้ำตานองหน้า รวมทั้งขอให้นางถวิล ให้อภัยกับลูกสาวที่อยากจะมาด้วยตัวเอง แต่ยังได้รับบาดเจ็บและสภาพจิตใจย่ำแย่ที่ถูกสังคมประณาม จึงขอพักรักษาตัวก่อน

ซึ่งนางถวิล กล่าวกับนางลัดดาวัลย์ ว่า ทุกคนไม่ได้อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ไม่มีใครแกล้ง เมื่อคุณมาเองก็ให้อภัยกันแล้ว เพียงแต่เสียใจที่ต้องเสียลูกชายที่เป็นคนดี ทุกคนต่างชมเขาว่าเป็นคนดีมาก คุณยังโชคดีมีลูกนั่งกินข้าวด้วยกัน แต่ฉันไม่มีแล้ว

หลังจากนั้น นางลัดดาวัลย์ ได้มอบเงินช่วยเหลือเพื่อใช้ในการบำเพ็ญกุศลศพ ดร.ศาสตรา จำนวน 3 หมื่นบาท พร้อมกับเปิดเผยว่า ตอนนี้เดินสายขอขมาผู้ตายไปแล้ว 6 ราย เหลือเพียง 3 ราย ที่ติดต่อญาติได้แล้วมีที่ตลิ่งชัน จ.ชัยนาท ซึ่งทางญาติขอให้เสร็จงานศพก่อน ส่วนที่ จ.อุบลราชธานี จะเดินทางไปเป็นรายสุดท้าย เพราะอยู่ไกล.

Daily News Online > ข่าวหน้า 1 > แม่สาวซีวิคยอมขอโทษแทนลูก

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=N0RS88p6eVE]YouTube - งานศพ_TPBS[/ame]