มุสลิมโลกเหลืออดร่อนแถลงการณ์ ประณามโจรชั่ว เหตุบึ้มป่วนใต้ฆ่าแม้กระทั่งผู้บริสุทธิ์

<b>"องค์กรมุสลิมโลก"ร่อนแถลงการณ์ประณามโจรชั่ว มุ่งประทุษร้ายทั้งประชาชน-นักท่องเที่ยวต่าง ชาติในภาคใต้ โดยเฉพาะการบึ้มสงขลา 3 จุด ส่งผลให้ผู้บริสุทธิ์ตาย-เจ็บหลายสิบคน พร้อมระบุ มุ่งขัดขวางสันติภาพ-ความเจริญในพื้นที่ ซ้ำเป็นอุปสรรคต่อการเยือนใต้ ของโอไอซีเดือนเมษายน นี้ ด้าน"ทักษิณ"สั่งจัดระเบียบซิมการ์ด อาจต้องแสดงบัตรประชาชน หลังโจรชั่วซื้อไปจุดชนวนบึ้ม หลายแห่ง โปลิศนราแกะรอยจม.ข่มขู่รปภ.รถไฟ ที่แท้ฝีมือคู่แข่งชิงเก้าอี้ผญบ.สวมรอยโจรใต้</b>

เมื่อวันที่ 16เมษายน พล.อ.สิริชัย ธัญญสิริ ผอ.กอ.สสส.จชต.แถลงข่าวถึงผลการปฏิบัติ การงานของเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับเหตุไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ทางสำนักงานเลขาธิ การองค์การการประชุมอิสลาม(โอไอซี)ที่กรุงเจดดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ออกแถลงการณ์ เมื่อวันที่ 10เมษายนที่ผ่านมา ประณามการก่อเหตุร้ายต่อประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างชาติในพื้น ภาคใต้ของไทย โดยระบุว่า โอไอซีได้ติดตามสถานการณ์ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ของไทยด้วยความเป็นห่วงอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการวางระเบิดท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ ห้างสรรพสินค้าและโรงแรม ที่ จ.สงขลา ซึ่งทำให้ผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายสิบคน

<b>สำนักงานเลขาธิการโอไอซีเห็นว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากจะไม่นำ ไปสู่สันติภาพ เสถียรภาพและความรุ่งเรืองในภาคใต้ของไทยแล้ว ยังสร้างความยุ่งยากยิ่งขึ้นและ เป็นอุปสรรคต่อการเยือนภาคใต้ของคณะผู้แทนโอไอซีช่วงกลางเดือนเมษายนนี้ ตามคำเชิญของรัฐ บาลไทย นอกจากนี้ โอไอซีขอประมาณการก่อความรุนแรงใดๆ ต่อชีวิตและทรัพย์สินของพลเรือน และเรียกร้องให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย</b>

ขณะที่ ผอ.กอ.สสส.จชต กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของโอไอซี ที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำที่รุนแรง ซึ่งโอไอซีเป็นองค์กรศูนย์รวมของมุสลิมโลกที่แสดงเจตนารมณ์ อย่างชัดเจนว่า ไม่เห็นด้วยกับการกระทำที่รุนแรงต่อผู้บริสุทธิ์อีกด้วย

ด้าน พล.ต.ต.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองเลขาธิการ กอ.สสส.จชต กล่าวว่า การปฏิบัติงาน ของศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า ระหว่างวันที่ 1-15 เมษายนที่ผ่านมา สามารถ จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 30 คดี ผู้ต้องหา 35 คน ตรวจยึดและจับกุมรถจักรยานยนต์ที่ถูกโจร กรรมได้ 15 คัน การทำงานที่ได้ผลครั้งนี้ เนื่องจากได้ระดมมือสืบสวนจากทั่วประเทศประมาณ138 นาย มาทำงานอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเร่งติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับและ เน้นให้ปฏิบัติตามกระบวนการของกฎหมายอย่างจริงจัง โปร่งใส่และตรวจสอบได้

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุรุนแรงภาคใต้ในช่วงสงกรานต์ ว่า ไม่ มีการสั่งการอะไรเป็นเพิเศษ เป็นเหตุการณ์ปกติ การดูแลทั่วไปถือว่าใช้ได้

เมื่อถามว่า ตำรวจเสนอให้จัดระเบียบซื้อซิมโทรศัพท์แบบเติมเงิน เพื่อป้องกันการนำมาใช้ เป็นตัวจุดชนวนระเบิด นายกฯกล่าวว่า กำลังให้ทีมไปศึกษา ซึ่งมีวิธีการหลายอย่างๆ โดยมอบให้ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที)และกทช.ไปดูตามแนวทางที่มองไว้ ซึ่งคง ต้องมีอะไรบางอย่างที่เช็คข้อมูลย้อนหลังได้เมื่อจำเป็น เมื่อไม่จำเป็นก็ไม่ต้อง เพราะเป็นการรัก ษาความลับลูกค้าในระดับหนึ่ง ถ้าย้อนกลับไปเมื่อมีเหตุการณ์ หรือคดีที่จำเป็นก็ทำได้ ซึ่งอาจใช้ตัว เลข 13 หลักของบัตรประจำตัวประชาชนบันทึกไว้เป็นหลักฐานก็ได้

สำหรับกรณีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มส่งจดหมายข่มขู่ นายอิสมะแอ แวกะจิ เจ้าหน้าที่รักษาความ ปลอดภัย(รปภ.)ประจำสถานีรถไฟรือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส โดยให้ลาออกจากงานและ เลิกเป็นสายให้ตำรวจ หากไม่ทำตามจะไม่รับประกันความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เหตุเกิด เมื่อเช้าตรู่วันที่ 15 เมษายนที่ผ่านนั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 16เมษายน ร.ต.ต.พิบูลย์ ธนิตกุล ร้อยเวร สภ.อ.รือเสาะ จัดชุดสาย สืบลงพื้นที่เพื่อสอบสวนผู้เสียหายและพยานบุคคลในละแวกบ้านสโลว์ อ.รือเสาะ จนพบสาเหตุการ ข่มขู่ที่แท้จริงคือ เกิดจากปัญหาส่วนตัว กรณีที่ นายอิสมะแอ ถูกคู่แข่งข่มขู่เพื่อให้หยุดเคลื่อนไหวใน การลงสมัครแข่งขันเลือกตั้งเป็นผู้ใหญ่บ้าน โดยฉวยโอกาสสร้างเหตุสวมรอยสถานการณ์ความไม่ สงบในพื้นที่ เพื่อเบี่ยงเบนประเด็นการติดตามจับกุมของตำรวจ เนื่องจากที่ผ่านมา นายอิสมะแอ ให้ความร่วมมือกับทางการในการแจ้งเบาะแสต่อเจ้าหน้าที่มาโดยตลอด

"ขณะนี้ตำรวจรู้ตัวกลุ่มคนร้ายที่ส่งจดหมายข่มขู่ นายอิสมะแอ แล้วและอยู่ระหว่างติดตามตัว เพื่อนำมาสอบสวนดำเนินคดี ส่วนกระสุนปืนเอ็ม-16 ที่คนร้ายส่งมาข่มขู่ด้วยนั้น จะต้องสอบสวนและ ตรวจสอบอย่างละเอียดว่า คนร้ายนำมาจากไหน"ร.ต.ต.พิบูลย์ กล่าว

ที่มาจากหนังสือพิมพ์ แนวหน้า