###รวมประวัติพระกริ่งดีหลวง....ศิษย์สมเด็จพระสังฆราชเเพเททองเอง###

<CENTER>###พระกริ่งดีหลวง...พระกริ่งที่จะกลายเป็นตำนาน###20องค์สุดท้ายแล้ว</CENTER><CENTER></CENTER><CENTER><HR style="COLOR: #cccccc" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->





</CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER>





<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message --><HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->





พระกริ่งดีหลวงที่จัดสร้างขึ้นโดยอัญเชิญต้นเเบบจากพระกริ่งปวเรศ ซึ่งสร้างโดย กรมพระยาปวเรศวิริยาลงกรณ์ ซึ่งท่านเองเป็นวังหน้าพระองค์เดียวที่ได้เป็นสมเด็จพระสังฆราชเจ้า



<!-- / message --><!-- edit note -->

เผยชนวนสุดยอดที่ฝากไว้ในเเผ่นดินส่วนหนึ่งเท่านั้น

ชนวนพระกริ่งจากอาจารย์ชินพร สุขสถิตย์ ศิษย์หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ผู้สร้างพระกริ่งชินบัญชร ปี2517
ประกอบด้วย
ชนวนพระกริ่งปวเรศ วัดบวรนิเวศ ปี2530 อันเป็นพระกริ่งปวเรศที่ในหลวงและสมเด็จพระญาณสังวร ทรงประกอบพิธีเททองด้วยพระองค์เอง นับว่าปรากฏความเป็น พระมหากษัตราธิคุณ อันเป็นมหาราชฝ่ายอาณาจักร และ ยังด้วย สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ซึ่งเป็นสังฆราชา ที่ทรงเป็นเสาหลักฝ่ายศาสนจักร ซึ่งชนวนนี้นับว่าถึงความเป็นขีดสุดของพระกริ่งปวเรศโดยแท้เเละยังมีชนวนเเท้ของวัดบวรรุ่นเก่านับไม่ถ้วนอีกด้วย

ชนวนพระกริ่งชินบัญชร ปี2517 ซึ่ง คุณชินพรเป็นผู้สร้างถวายหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ เรียกได้ว่าพระกริ่งในตำนานที่ลือลั่นมีค่านิยมเรือนเเสนเรือนล้าน
อีกทั้งงมเข็มในมหาสมุทรก็ไม่ปาน

เหรียญพระกาฬ รุ่นเเรก ที่อาจารย์ชินพร มอบให้เป็นเหรียญหายากเหรียญหนึ่งซึ่งท่านเองบอกว่าสงสัยเบื้องบนคงดลใจให้นำมาหลอมในงานนี้ทั้งที่อาจารย์เองหวงเเหนมาก
ชนวนพระกริ่งที่อาจารย์สุธัน สุนทรเสวีมอบให้ประกอบด้วย

ชนวนพระกริ่งสมัยสมเด็จพระสังฆราชเเพ เจ้าคุณศรี สนธิ์ และเจ้าคุณศรีประหยัดหลายรุ่น
ชนวนพระกริ่งสังวรวิมล หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
ชนวนพระกริ่งอโยธยา วัดกษัตราธิราช อยุธยา
ชนวนพระกริ่งไตรสรณาคมณ์ หลวงพ่อดู่ วัดสะเเก
ชนวนพระกริ่งอนันตคุณ 2527
ชนวนพระกริ่งนวโลกุตรญาณมุณี2529
ชนวนพระกริ่งสามภพพ่าย
ชนวนพระกริ่งธนบดี
ชนวนพระกริ่งวัฒนะ
ชนวนพระกริ่งมหาราช
ชนวนพระกริ่งสหัสวรรษ

แผ่นพระยันต์108นะ14ตามพระตำราสมเด็จพระพนรัต วัดป่าเเก้ว พระอาจารย์ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
แผ่นพระยันต์โสฬส108แผ่น
แผ่นพระยันต์สุกิตติมา108แผ่น
แผ่นพระยันต์อาวุธพระพุทธเจ้า108แผ่น
แผ่นพระยันต์มงคลวิเศษ108แผ่น
แผ่นพระยันต์สัมพุทเธหงสา108แผ่น
แผ่นพระยันต์อิติปิโสเกราะเพชร108แผ่น
แผ่นพระยันต์ไตรสรณาคมณ์108แผ่น
แผ่นพระคาถาชินบัญชรจารโดยหลวงปู่วิเวียร วัดดวงเเข
แผ่นพระยันต์จักรพรรดิ์ตราธิราช หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติการาม
แผ่นพระยันต์เกราะเพชรหลวงพ่อมหาโพธิ์ วัดคลองมอญ


แผ่นพระยันต์ได้รับการอธิษฐานจิตจากสมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศวิหาร

หมายเหตุพระกริ่งดีหลวงสัมฤทธิ์ทุกองค์ บรรจุอัฐิธาตุหลวงพ่อดู่ วัดสะเเก ทุกองค์



เหตุใดจึงบรรจุอัฐิหลวงพ่อดู่ในพระกริ่งดีหลวงเนื้อสัมฤทธิ์

เรื่องการบรรจุอัฐิหลวงพ่อดู่ตอนเเรกอัฐิหลวงพ่อดู่มีจำนวนไม่พอเพียงสำหรับบรรจุพระกริ่งเนื้ออื่นเเต่ด้วยความโชคดีเฮียเฮงศิษย์หลวงพ่อดู่ท่านเองไปขอความเมตตาจากอาจารย์ศุภรัตน์ เเสงจันทร์ ท่านเองก็ให้อัฐิหลวงพ่อดู่มาอีกส่วนหนึ่ง ส่วนผมเองตัดสินใจมอบอัฐิหลวงพ่อดู่ พรหมปัญโญ ซึ่งเป็นของบูชาประจำตะกูลที่บูชาประจำบรรจุพระกริ่งดีหลวง เพื่อเผยเเพร่ หลวงพ่อดู่ ที่มาการบรรจุอัฐิธาตุก็มีที่มาเช่นนี้เองครับ





พระกริ่งดีหลวงเนื้อทองคำ หมดเเล้ว
พระกริ่งดีหลวงเนื้อยอดยิ่งยศ หมดเเล้ว
พระกริ่งดีหลวงเนื้อนวโลหะเเก่ทองหมดเเล้ว

พระกริ่งดีหลวงเนื้อสัมฤทธิ์เหลือน้อยเเล้วมีเนื้อเดียวเท่านั้นจะว่าไปเนื้อสัมฤทธิ์ก็ผสมโลหะเนื้อใกล้ๆกับนวโลหะเพราะเนื้อนี้มวลสารเยอะที่สุดเเละผสมทองคำไปด้วยก็มาก



ทำบุญ3000บาท จะได้รับพระกริ่งดีหลวงเนื้อสัมฤทธิ์เป็นที่ระลึก1องค์และได้รับการจารึกชื่อเป็นที่ระลึกที่อนุสรณ์สถานหลวงพ่อทวด ณ วัดดีหลวง ด้วย



ขอแจ้งเลขที่บัญชีให้ผู้ร่วมบุญพระกริ่งดีหลวง รับทราบ
ชื่อบัญชี สร้างอนุสรณ์สถาน หลวงปู่ทวด วัดดีหลวงสงขลา
เลขที่บัญชี 554-2-61438-1 ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสงขลา



ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่

คุณป๋อง0816901081



หลังจากเททองเสร็จพิธีประมาณสี่โมงเย็นหลวงปู่ถมเข้ากุฏิที่พักผมเองจึงนำช่อพระกริ่งส.โสภณ ให้ท่านชม ท่านเองพยักหน้าเเล้วกล่าวว่า พระกริ่งนี้สูงสุดเเล้ว เททองไปเสกไปเททองเสร็จก็ไม่ต้องเสกอีกเพราะครูบาอาจารย์มาครบ ทุกองค์ สมเด็จพระสังฆราชแพท่านก็มานะ พระกริ่งชุดนี้เป็นพระคู่ชีวิตได้เลยทีเดียวดีทุกทาง
<!-- / message --><!-- / message --><!-- edit note -->

 

พระเกศสัมฤทธิ์สมัยลพบุรีขุดพบที่วัดกวิศ หลวงปู่ถม เมตตาให้มาหล่อพระกริ่งดีหลวง


บาตรน้ำมนต์หลวงพ่อด่วน วัดบางนอน เกจิสายหลวงพ่อทวด ที่มรณภาพไปแล้วเเต่ไม่ไหม้ไฟ บาตรนี้มีอายุกว่าสามสิบปีใส่หลอมในพระกริ่งดีหลวงเเบบเต็มๆ

ชนวนเททองหล่อพระนับร้อยๆพิธีที่หลอมรวมเป็นเเท่งซึ่งเเน่นอนว่ามีชนวนการหล่อหลวงพ่อทวดองค์สำคัญของวัดช้างให้ สมัยอาจารย์ทิม อยู่ในนี้ด้วย แผ่นพระยันต์ที่หลอมไปในชนวนนับพันๆหมื่นๆแผ่น


ชนวนพระกริ่งที่ต่างๆตั้งเเต่สมัยสมเด็จพระสังฆราชแพ ถึงยุคปัจจุบันคือ พระกริ่งยอดฟ้ายอดยิ่งยศซึ่งผสมทองคำกว่าสี่สิบบาทเมื่อครั้งนั้น




ตะกรุดเก่าๆหลายสำนักทั้งตะกรุดหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก

ตะกรุดหลวงพ่อเดิม

ตะกรุดจารหลวงพ่อต่างๆสมัยเมื่อห้าสิบหกสิบปีที่เเล้วหลายองค์

 

ทองสัมฤทธิ์พระอู่ทองของเเท้ๆที่หลอมไปในการนี้ด้วย



เหรียญสตางค์เเดง ของเก่ากว่าห้าร้อยเหรียญที่หลอมไปเพื่อให้เกิดความเป็นมงคลทั้งเงินตราเเละจักร ซึ่งเป็นอำนาจวาสนา





ก้อนจ้าวน้ำเงิน ของท่านอาจารย์เอียด วัดดอนศาลา รับมอบจากศิษย์เขาอ้อท่านหนึ่ง

 

ในภาพทองคำบางส่วนเท่านั้น
ส่วนหนึ่งของทองคำเเท้ๆที่นำไปหลอมพระกริ่งดีหลวงเนื้อนวโลหะซึ่งมีจำนวนมากถึงห้าสิบกว่าบาท

ซึ่งหลังจากผสมนวโลหะเสร็จช่างได้ตัดก้านชนวนเเละผสมทองเเดงโบราณเข้าไปเจือเป็นเนื้อสัมฤทธิ์ซึ่งถือได้ว่าเนื้อสัมฤทธิ์นี้เรียกได้ว่าเเก่ทองคำเช่นกัน
<!-- / message -->

 

มวลสารจากประเทศอินเดีย เก็บมวลสารในอินเดียจากความอนุเคราะห์ของ
คุณอนิตา กุลละวณิชย์<O</O
1.ดินสังเวชนียสถานทั้งสี่สถาน<O</O
2.กิ่งเเละใบโพธิ์พุทธคยาเเละเศษอิฐพระเจดีย์พุทธคยาองค์เดิม<O</O
3.ดินเเละน้ำเเม่น้ำสายสำคัญของประเทศอินเดีย เช่น เเม่น้ำคงคา<O</O
4.ผงธูปสถานมงคลในพระพุทธประวัติทุกที่รวมทั้งอิฐในโบราณสถานสำคัญของพระพุทธเจ้ารวมทั้งบ้านมหาเศรษฐีในพระพุทธประวัติ เช่น อนาบิณฑิกเศรษฐี<O</O

มวลสารมหามงคลสืบทอดความขลังนานนับพันๆปีจากดินแดนพุทธภูมิ อินเดีย

 

มวลสารสายตรง หลวงพ่อทวด วัดช้างให้<O</O
1.ผงว่านเเละดินกากยายักษ์เมื่อปี2497เเละอิฐสถูปหลวงพ่อทวดอันดั้งเดิมที่พบสมัยอาจารย์ทิม<O</O
2.ผงชิ้นส่วนพระเครื่องหลวงพ่อทวดเนื้อว่านปี2497พิมพ์ต้อ<O</O
3.ผงดินใต้ฐานพระบูชาหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ปี2502<O</O
4.ผงดินเเละว่านเก่าของท่านอาจารย์นอง วัดทรายขาว<O</O
5.ผงลูกอมหลวงพ่อทวดที่อธิษฐานด้วยการประทับทรงหลวงพ่อทวดที่ได้รับการรับรองจากอาจารย์นองในปี2526ว่าเป็นของจริง
6.ผงว่านเก่าของอาจารย์เขียวเจ้าอาวาสรูปเก่าเเละชิ้นส่วนพระเกศพระพุทธรูปสมัยอยุธยาก่อนสมัยสมเด็จเจ้าพะโค๊ะรวมทั้งเศษอิฐโบราณของวัด ผงธูปเเละเกสรดอกไม้บูชาสมเด็จเจ้าพะโค๊ะ วัดพะโค๊ะ อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา<O</O
(อันเป็นวัดที่สมเด็จเจ้าพะโค๊ะได้เคยเล่าเรียนในสำนักนี้รวมทั้งเป็นวัดที่สมเด็จเจ้าได้กลับมาบูรณะหลังจากได้รับการถวายราชสมบัติเป็นรางวัลในการตอบปัญหาในครั้งกู้ชาติได้สำเร็จ)<O</O
7.ผงดินที่พักพระศพของหลวงพ่อทวดในประเทศมาเลเซียเเละประเทศไทยครบทุกที่ในตำนานโดยได้รับมอบจากคุณย่า สุมณฑา กุลละวณิชย์<O</O
มีดินที่พักพระศพดังนี้<O</O
จุดที่ 1 สถานที่มรณภาพริมฝั่งน้ำสุไหงเกอร์และสุไหงเกอร์นาริง รัฐเปรัค
จุดที่ 2 สถานที่พักพระศพบ้านพกั๊วะลั๊วะหรือวัดโกร๊ะใน รัฐเปรัค
จุดที่ 3 สถานที่พักพระศพวัดจะดาบ (ร้าง) อำเภอโกร๊ะห์ รัฐเปรัค
จุดที่ 4 สถานที่พักพระศพโคกเมรุ อำเภอบาลิง รัฐเคดะห์
จุดที่ 5 สถานที่พักพระศพบุกิตสามี หรือควนพระ รัฐเคดาห์
จุดที่ 6 สถานที่พักพระศพบ้านควนเจดีย์หรือบ้านหลังไกว้ รัฐเคดะห์
จุดที่ 7 สถานที่พักพระศพบ้านปาดังเปรียง หรือปาดังแปลง รัฐเคดะห์
จุดที่ 8 สถานที่พักพระศพบ้านทุ่งควาย หรือกำปงจีนา รัฐเคดะห์
จุดที่ 9 สถานที่พักพระศพวัดลำปำ ตำบลรำไม อำเภอเปิ้นดัง รัฐเคดะห์
จุดที่ 10 สถานที่พักพระศพบ้านปง ตำบลเตอกเยร์คีรี รัฐเคดะห์
จุดที่ 11 สถานที่พักพระศพบ้านปลักคล้า ตำบลนาคา รัฐเคดะห์
จุดที่ 12 สถานที่พักพระศพบ้านนาข่า ตำบลนาคา รัฐเคดะห์
จุดที่ 13 สถานที่พักพระศพบ้านบาวฉมัก รัฐเคดะห์
จุดที่ 14 สถานที่พักพระศพบ้านดินแดงรัฐเคดะห์
จุดที่ 15 สถานที่พักพระศพบ้านปาดังสะไหน อำเภอปาดังเตอรัปรัฐเคดะห์
จุดที่ 16 สถานที่พักพระศพบ้านถ้ำตลอด อำเภอสะบ้าย้อยจังหวัดสงขลา
จุดที่ 17 สถานที่พักศพบ้านช้างไห้ตก วัดบันลือคชาวาสจังหวัดปัตตานี
จุดที่ 18 สถานที่ฌาปนกิจพระศพวัดช้างไห้ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี<O</O
8.ผงว่านรวมทั้งอิฐเก่าเเละเศษพระเจดีย์ของหลวงพ่อทวดที่ วัดดีหลวง อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา<O</O
(อันเป็นวัดที่หลวงพ่อทวดได้บวชเป็นสามเณรกับหลวงลุงจวง)<O</O
9.ผงอิฐเเละดินใต้มหาสมุทรรวมทั้งดินจอมปลวกในโบสถ์มหาอุตจ์ของ วัดสีหยัง อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา<O</O
(อันเป็นวัดที่หลวงพ่อทวดได้เรียนหนังสือที่วัดเเห่งนี้)<O</O
10.ดินเเละกิ่งต้นเลียบที่สำนักสงฆ์ต้นเลียบ อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา (เป็นบริเวณที่ฝังรกของหลวงปู่ทวด)<O</O
11.ผงอิฐเเละน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่บ่อน้ำวัดเสมาเมือง อำเภอ เมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช<O</O
(อันเป็นวัดที่หลวงพ่อทวดท่านเคยศึกษาพระปริยัติธรรม)<O</O
12.อิฐโบราณวัดพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช<O</O
13.น้ำในรอยเท้ารอยพระบาทหลวงปู่ทวดที่ อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช<O</O
14.ดินเเละน้ำบริเวณท่าเเพ สถานที่บวชของหลวงพ่อทวด <O</O
15.ดินบ้านโกฏิ ปากพนัง<O</O
16.ดินถ้ำหินครกบดยา อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา<O</O
17.ผงดินอิฐโบราณภายในถ้ำฉัตรถรรพ์ วัดเขาอ้อ จังหวัดพัทลุง<O</O
18.ผงอิฐดินรวมทั้งผงรวมวัดผงอิทธิเจของหลวงพ่อคง วัดบ้านสวน <O</O
19.ผงไม้เทพธาโรเเละชานหมากของหลวงปู่สุภา<O</O
20.ผงว่านเเละจีวรของพ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ ปัตตานี<O</O
21.ผงว่านของพ่อท่านพล วัดนาประดู่ ปัตตานี<O</O
22.ผงว่านพ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา<O</O
23.ผงว่านเก่าเเละดินกากยายักษ์เเละดินพระสถูปหลวงพ่อทวดบุญฤทธิ์ วัดศรีมหาโพธิ์ ปัตตานีเถ้าเเบงค์พันล้าน(เป็นมวลสารที่เหลือจากการสร้างพระเครื่องของพ่อท่านเเดงผู้สร้างหลวงพ่อทวดรุ่นห้าเเชะอันลือลั่น)<O</O
24.ดินอิฐใต้ฐานชุกชีเดิมของกรุวัดใหญ่ชัยมงคล อยุธยา<O</O
รวมทั้งเศษพระพุทธรูปบูชาสมัยอยุธยา<O</O
25.อิฐเเละดินโบราณ วัด เเค ราชานุวาส ตำบลหัวรอ อยุธยา<O</O
26.อิฐเเละดินโบราณวัดหน้าพระเมรุ อำเภอเมือง อยุธยา<O</O
27.ผงจักรพรรดิหลวงปู่ดู่ วัดสะเเก อำเภออุทัย อยุธยา พระเครื่องรุ่นเเรกๆ ข้าวสารเสก ข้าวก้นบาตร ผงอัฐิธาตุ ผงอังคารธาตุ ของหลวงปู่ดู่<O</O
28.ผงว่านยาวัดรามเเก้ว จากท่านพระครูเจ้าอาวาส<O</O
29.ผงว่านเเละผงพุทธคุณพ่อท่านนวล วัดไสหร้า นครศรีธรรมราช<O</O
30.ผงของพ่อท่านสังข์ วัดดอนตรอ นครศรีธรรมราช<O</O
31.ผงพ่อท่านมุ่ย วัดป่าระกำเหนือ นครศรีธรรมราช<O</O
32.ผงพุทธคุณเเละว่านเก่าของพ่อท่านเขียว วัดหรงบน นครศรีธรรมราช<O</O
33.ผงพระสมเด็จปี2506วัดประสาทบุญญาวาส กรุงเทพมหานคร<O</O
<!-- / message -->
<!-- / message -->
พระเจดีย์องค์เดิมที่ผ่านการบูรณะแล้ว อยู่ วัดดีหลวง สทิงพระ สงขลา



พระเจดีย์ที่ใช้อิฐเก่าสมัยที่หลวงพ่อทวดสร้างไว้แล้วล้มลงในสมัยอยุธยาอิฐพระเจดีย์ที่เหลือนี้จำนวนหนึ่งได้ถูกอัญเชิญมาเป็นมวลสารที่เรียกได้ว่าเเท้และทันหลวงพ่อทวดเลยทีเดียวน่าตื่นใจดีไหมและยังไม่พออิฐเหล่านี้จากตำนานนัยว่าผ่านมือของพระมหาเถระทั้งสองคือหลวงลุงจวงลุงแท้ๆพี่ชายของแม่หลวงพ่อทวดและอิฐนี้ยังผ่านมือของหลวงพ่อทวดอีกด้วย<!-- / message -->




ยอดพระเจดีย์ของวัดดีหลวงตัวจริงเสียงจริง





ส่วนหนึ่งของยอดพระเจดีย์สมัยอยุธยาที่สร้างโดยหลวงลุงจวงและหลวงพ่อทวดโดยผ่านการบูรณะสมัยพระอาจารย์ลั่น อดีตเจ้าอาวาสวัดดีหลวง
จะได้อุดผงพระเจดีย์นี้ในพระกริ่งทุกองค์ให้สมเป็นพระกริ่งดีหลวง










กระเบื้องดินเผาลายเทพพนมและลายอื่นๆที่เป็นหลังคากุฏิเก่าแก่ดั้งเดิมของหลวงพ่อทวด
ณ อาราม วัดราชานุวาส หรือวัดแค ตำบลหัวรอ อยุธยา นั่นเอง

วัดที่หลวงพ่อทวดไปเรียนพระธรรมก่อนที่จะตอบปัญหาท้าพนันชิงเมืองและก่อนที่จะเข้าหาสมเด็จพระพันรัตเพื่อเรียนพระธรรม
<!-- / message -->



อิฐโบราณฐานพระเจดีย์ วัดไลย์ ตำบลเขาสมอคอน ลพบุรี

ต้นตำนานพระศรีอาริย์ วัดไลย์ แห่ง อาณาจักรละโว้
ที่มีเรื่องตาสุวีกับดอกมณฑาทิพย์ต้นตำนานอันลือลั่น!!!



แร่ธาตุจากปฐวีจากดินเเต่สูงค่าล้ำเพราะนี่คือสิ่งที่ทุกคนใฝ่ฝันหา...

เเร่ธาตุเมื่อปี2497ของท่านอาจารย์ทิม วัดช้างให้ นั่นเอง



อิฐโบราณสมัยอยุธยา เเห่งวัดดีหลวงที่สั่งสมพลังงานเเห่งคุณความดีอันไม่มีประมาณของปรมาจารย์องค์หลวงลุงจวงเเละหลวงปู่ทวด ที่ท่านทั้งสองเคยสัมผัสเเละฝากพลังงานในอิฐที่ทุกท่านเห็น นี่คือของจริง????
<!-- / message -->


ปูนตำสมัยอยุธยาที่เป็นชิ้นส่วนพระพุทธรูปสมัยศรีวิชัยที่อยู่รายรอบพระเจดีย์สามยอดอันสร้างสมัยหลวงพ่อทวดเเละหลวงลุงจวง



มวลสารล้ำค่าสมัยท่านอาจารย์ทิมเหลือจากการสร้างพระหลวงพ่อทวดปี2505ของวัดดีหลวง ที่นับว่ามวลสารนี้อาจเป็นก้อนเดียวที่เหลืออยู่ในกล่องไม้ที่ค้นพบพร้อมหลวงพ่อทวดปี2505เกือบพันองค์ที่ค้นพบโดยบังเอิญเเต่มีหลักฐานชัดเจน



เศษพระโคนสมออายุประมาณ70ปี ที่จัดสร้างสมัยก่อนของวัดที่สทิงพระเเละนำมาเข้าพิธีปี2505สมัยอาจารย์ทิม วัดช้างให้อีกครั้ง
<!-- / message -->



เงินโบราณจำนวนมากเเละผงต่างๆของวัดดีหลวง
<!-- / message -->

 

<CENTER>หลวงพ่อดู่ พรหมปัญโญ พระผู้เมตตาแห่งกรุงศรีอยุธยา

</CENTER><HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->เมื่อหลายครูบาอาจารย์รับรองความเป็นไปของหลวงพ่อทวดและหลวงพ่อดู่

​

หลวงพ่อดู่ท่านเกี่ยวกับหลวงพ่อทวด สาเหตุที่บอกว่าเกี่ยวได้เต็มปากเนื่องจากได้รับรู้เกี่ยวกับเรื่องราวที่หลวงพ่อดู่เกี่ยวข้องกับหลวงพ่อทวดที่คนหลายคนได้ยินจากปากของหลวงพ่อดู่เอง

อาทิ

พวกเเกเดินข้ามไปข้ามมาจะข้ามหัวหลวงพ่อทวดเเล้วยังไม่รู้อีกเหรอ

พวกเเกนะรู้มั้ยว่าช้างยังรู้เลยว่าหลวงพ่อทวดคือใคร

มีคนบอกว่าข้าจะสำเร็จระหว่างต้นไม้สองต้น

เรื่องข้าบางทีมันพูดไปดีไม่ดีเขาจะไม่เชื่อจะพากันปรามาสเป็นบาปกรรมกันได้อย่าพูดไป

หลวงพ่อบุดดาพระอรหันต์เเห่งวัดกลางชูสีเจริญ
มาหาหลวงพ่อดู่เเล้วบอกว่า ที่คุณตั้งใจหนะสำเร็จเเน่ต่อไปคุณจะได้เป็นพระพุทธเจ้า

หลวงพ่อเกษม บอกว่า หลวงปู่ดู่เป็นพระใจเพชร

พ่อท่านจำเนียร เจ้าสำนักต้นเลียบที่ฝังรกหลวงพ่อทวดที่ล่วงลับเคยได้สัมผัสภาพเเละรูปเหมือนหลวงพ่อดู่ท่านกล่าวว่า

หลวงพ่อองค์นี้ต่อไปท่านจะเป็นพระพุทธเจ้าพระนามว่าพระศรีอาริยเมตไตร


พ่อท่านนอง วัดทรายขาว ศิษย์ผู้น้องอาจารย์ทิม วัดช้างให้
ท่านกล่าวถึงหลวงพ่อดู่เมื่อมีคนเอารูปให้ท่านพิจารณา ว่า พระองค์นี้เก่งสามารถอัญเชิญหลวงพ่อทวดให้อยู่กับท่านตลอดเวลาได้

หลวงพ่อดู่ท่านเคยกล่าวกับศิษย์ใกล้ชิดว่า
พวกเเกหนะโชคดีทำบุญกับข้าได้สองศาสนา(ผมเเปลความหมายเองว่าท่านหมายถึงศาสนาสมณโคดมเเละพระศรีอาริยเมตไตร)

หลวงพ่อดู่ท่านเคยถามศิษย์ใกล้ชิดว่า

เเกรู้ไหมว่ามีคนบอกว่าหลวงพ่อทวดไปหลอกเขาโดยหลอกให้เห็นตัวเป็นหลวงพ่อทวดหัวเป็นข้า เเละตัวเป็นข้าเเต่หัวเป็นหลวงพ่อทวดเเกว่าอย่างไร


หลวงพ่อดู่ท่านเองมีลักษณะการห่มจีวรวัตรปฏิบัตรคล้ายหลวงพ่อทวดรวมทั้งการสร้างวัตถุมงคลที่คนทั่วไปมักจะเรียกว่า ทวดดู่ ที่มีพุทธคุณดุจ พระหลวงพ่อทวด วัดช้างให้เลยทีเดียว

หลายครั้งจนถึงปัจจุบันที่มีผู้ถ่ายภาพหลวงพ่อดู่ปรากฏเป็นฉัพพรรณรังสี ซึ่งมีบุคคลอย่างเดียวที่ปรากฏได้คือพระโพธิสัตว์เจ้าที่บารมีสูงมากๆหรือพระพุทธเจ้าเท่านั้นเอง

หลวงพ่อดู่ท่านเองบอกว่าท่านไม่ได้หวังเป็นนายสิบท่านเองหวังเป็นนายร้อยท่านบอกว่าคนอย่างข้าต้องหักยอดฉัตรจึงสมใจ นั่นบ่งถึงความปรารถนาพระโพธิญาณของท่าน



หลวงพ่อดู่เป็นพระที่ดีไม่เคยอวดตัวว่าท่านเป็นใครยกเว้นกับศิษย์ใกล้ชิดเท่านั้นเองที่ท่านเปิดเผยเเย้มให้ทราบเเละเกสาเเละอัฐิธาตุท่านเป็นพระธาตุเเสดงถึงจตอันบริสุทธิ์ของท่านเเละท่านเองยังบอกว่าข้าภาวนาตลอดเเต่ตื่นเช้าถึงเข้านอนเเละข้าอธิษฐานให้พวกเเกตลอดเวลา
เอ็งคิดถึงข้าข้าก็คิดถึงเเก เเกไม่คิดถึงข้าข้าก็คิดถึงเเก





ข้าวสารเสกของเเท้หนึ่งเดียวรับมอบจากป้าปราณี วัดสะเเกศิษย์ฆราวาสที่หลวงพ่อดู่ฝากวัดสะเเกเอาไว้ ข้าวสารเสกนี้เสกเมื่อปี2526เสกจนกระทั่งวาระสุดท้ายของหลวงพ่อดู่ วัดสะเเก นั่นหมายความว่า ข้าวสารนี้ผ่านพิธีเปิดโลก ที่โด่งดัง ที่กล่าวกันว่า กันนิวเคลียส์

 

<HR style="COLOR: #cccccc" SIZE=1> <!-- / icon and title --><!-- message -->

 

เมื่อพระกริ่งดีหลวงเนื้อสัมฤทธิ์ มีจีวรแท้ๆของหลวงพ่อทวดบรรจุ???

เหตุใดจึงกล่าวว่ามีจีวรแท้ๆของหลวงพ่อทวด??

เหตุเกิดเมื่อปี2518 เมื่อชาวจีนไปวัดช้างให้ ปัตตานี แล้วเกิดมีการประทับทรงหลวงพ่อทวดต่อหน้าท่านเจ้าคุณสวัสดิ์และท่านอาจารย์นอง วัดทรายขาว เมื่อเกิดเหตุเช่นนั้น ท่านเจ้าคุณสวัสดิ์ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสย่อมไม่เชื่อจึงเกิดการลองของและถามความลับของวัดช้างให้ซึ่งไม่มีใครรู้นอกจากเจ้าอาวาสและอาจารย์นองเมื่อถามจนสิ้นสงสัยแล้วท่านทั้งสองเคารพหลวงพ่อทวดในร่างคนจีนเป็นอันมากและหลวงพ่อทวดเรียกหาจีวรอันนี้เพื่อสวมใส่อีกทั้งท่านเจ้าคุณสวัสดิ์และอาจารย์นองยืนยันว่าเป็นหลวงพ่อทวดจริงดังนั้นจีวรผืนประวัติศาสตร์นี้ถูกเก็บไว้โดยศิษย์ท่านอาจารย์ทิม เเต่เมื่อครั้งปี2518 กว่า30ปีที่ผ่านมา ย่อมเป็นมรดกวัตถุอันล้ำค่าที่หลวงพ่อทวดฝากไว้ให้ที่หาได้ยากยิ่งเพราะมีผืนเดียวในโลกก็ว่าได้

 

เหตุใดจึงต้องสร้างอนุสรณ์สถานหลวงพ่อทวด ไว้ ณ วัดดีหลวง มีความสำคัญอย่างไร?<O</O
เดิมทีเดียววัดดีหลวงนับว่าเป็นวัดลูกสายตรงสืบมาจากวัดพะโค๊ะอีกทั้งสมภารองค์แรกนั่นคือหลวงลุงจวงลุงแท้ๆของหลวงพ่อทวดท่านเป็นพระที่จำพรรษา ณ วัดพะโค๊ะลังกาชาตินั้นแลแต่เมื่อครั้งนั้นมีการสร้างวัดดีหลวงสมภารจวงรับนิมนต์มาเป็นเจ้าอาวาสนับว่าท่านเป็นปฐมสมภารแห่งวัดดีหลวงอย่างแท้จริงและเมื่อเด็กชายปูเติบโตขึ้นพอควรพ่อแม่นำไปฝากกับสมภารจวงผู้เป็นลุงเพื่อสอนเรียนเขียนอ่านและบวชเรียน ณ วัดดีหลวง และบรรพชาในโบสถ์ที่เห็น ณ ปัจจุบัน พร้อมกันนี้ หลวงลุงจวงและหลวงพ่อทวดยังร่วมกันก่อพระเจดีย์หลังพระอุโบสถเอาไว้อีกด้วย หากจะบอกไปวัดดีหลวงนี้มีหลักฐานชัดเจนเรื่องสมเด็จพระราชมุณี อย่างชัดเจนเคียงคู่กับวัดพะโค๊ะลังกาชาติ อย่างสมศักดิ์ศรี และจะบอกไปวัดดีหลวงนี้อีกนี่แหละคือวัดแรกสุดที่หลวงพ่อทวดเคยวิ่งเล่นและบวชเณร ณ วัดดีหลวงแห่งนี้ สมควรได้รับสมญานามวัดว่า วัดบ้านเกิดหลวงพ่อทวด อย่างแท้จริง จึงนับว่าเป็นเหตุอันควรในการที่ท่านเจ้าอาวาสวัดดีหลวง และ ชาวดีหลวง ได้มีความปรารถนา ว่า อยากเห็นหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งองค์หลวงพ่อทวดซึ่ง หากว่าไม่กล่าวเกินจริงไปนักวัดดีหลวงนี้จะเป็นวัดสายตรงหลวงพ่อทวดที่มีหลักฐานสมัยอยุธยาที่จะจัดสร้างอนุสรณ์สถานรูปหล่อโลหะหลวงพ่อทวดไว้ใหญ่สมศักดิ์สรีวัดอย่างไม่อายใคร และ คงหาโอกาสได้ยากยิ่งที่พุทธศาสนิกชนจะได้มีส่วนร่วมจัดสร้างหลวงพ่อทวดองค์ประวัติศาสตร์ครั้งนี้เพราะไม่ใช่จะจัดสร้างกันทุกวันหามิได้ และครั้งนี้นับว่าเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวของวัดดีหลวงที่จะจัดสร้างองค์หลวงพ่อทวดใหญ่ขนาดหน้าตักถึงสามเมตร ซึ่งนับว่าใหญ่และสมกับวัดที่มีขนาดพื้นที่ไม่มากนักก็ถือได้ว่าใหญ่มากทีเดียว จึงคิดว่าครั้งนี้นับว่าเป็นหน้าประวัติศาสตร์สำคัญของการสร้างหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ในวัดสายตรงหลวงพ่อทวดอีกครั้งหนึ่งเลยทีเดียว<O</O
เหตุที่มาทำไมต้องพระกริ่งดีหลวง<O</O
เหตุที่มาในการจัดสร้างพระกริ่งถวายวัดดีหลวงเพื่อเป็นพระของขวัญในการมอบตอบแทนผู้บริจาคในครั้งนี้เห็นทีคงเนื่องด้วยมาจากเหตุความบังเอิญที่เป็นกรรมลิขิตหรือบุญบันดาลมิทราบได้เมื่อครั้งเททองหล่อหลวงพ่อทวดรุ่น รอยพระบาทรอยพระหัตถ์หลวงพ่อทวด เขาเทวดา นั้น ข้าพเจ้าเองได้เชื้อเชิญคุณลุงชินพร สุขสถิตย์มา เป็นเจ้าพิธีกรรมฝ่ายฆราวาส ซึ่ง ท่านเองมาโดยมิได้มีอามิสสินจ้างรางวัลใดๆทั้งสิ้น ท่านเองมาให้ด้วยเห็นว่าเป็นการกุศลจริงๆ ท่านเองเมื่อทราบว่าข้าพเจ้าจะหล่อหลวงพ่อทวดท่านเองจึงแนะนำว่าเห็นควรจะต้องสร้างพระกริ่งเพื่อฉลองชนมายุข้าพเจ้าครบสองรอบปีนักษัตรซึ่งข้าพเจ้าเขินและละอายอย่างมากเนื่องจากมิใช่ผู้มีบรรดาศักดิ์หรือมีบุญญาธิการแต่อย่างใดแต่จัดสร้างด้วยความตั้งใจถึงขีดสุดแห่งกรอบคำว่าปุถุชนซึ่งพระกริ่งในครั้งนั้นเฉลิมพระนามว่าพระกริ่งยอดฟ้ายอดยิ่งยศซึ่งมีคนบริจาคทองเพื่อหล่อพระกริ่งมากถึงสี่สิบกว่าบาทเพื่อหล่อพระกริ่งเพียง108องค์เท่านั้นซึ่งนับได้ว่าน้อยเต็มทีเลยทีเดียวซึ่งมีคนรับเป็นเจ้าภาพทั้งหมดภายในวันเดียวจึงไม่เพียงพอกับความศรัทธาที่มากล้นดังนั้นคุณลุงชินพร สุขสถิตย์ จึงเปรยเมื่อครั้งที่พระกริ่งได้แจกจ่ายแก่ผู้เคารพนับถือในครั้งนั้นว่า ผมเองควรจะต้องสร้างพระกริ่งอีกครั้งหนึ่งและควรจะเป็นพระกริ่งปวเรศซึ่งตรงสายข้าพเจ้าด้วยข้าพเจ้านับถือกรมพระราชวังบวรหรือวังหน้านั่นเอง ซึ่งเริ่มแรกทีเดียวการสร้างพระกริ่งปวเรศนี้จะทำสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ต้องศึกษาประวัติพระกริ่งปวเรศเสียก่อนว่าผู้ใดเป็นผู้สร้าง สร้างอย่างไร พิธีกรรมเป็นอย่างไร อย่างถ่องแท้เสียก่อน เมื่อศึกษาแล้วพบความประทับใจแบบเรียกได้ว่าถึงใจ ในความเป็นพระกริ่งปวเรศนี้ว่า สถาปนาโดยสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมพระยาปวเรศ หรือพระองค์เจ้าฤกษ์ พระโอรส แห่งกรมพระราชวังบวร…ซึ่งนับว่าท่านเป็นวังหน้าพระองค์เดียวที่ได้เป็นสมเด็จพระสังฆราชเจ้า นับว่า ท่านเป็นคนวังหน้าสายตรงอีกพระองค์หนึ่ง ซึ่งนอกจากที่ท่านสถาปนาพระกริ่งปวเรศแล้วพระองค์ยังทรงเป็นพระอุปัชญายะของรัชกาลที่ห้าอีกด้วย นับว่า เป็นเรื่องตื่นใจมากพอควรเลยทีเดียวเมื่อทราบเบื้องลึกเช่นนี้ ดังนั้นนี่เป็นจุดเริ่มต้นในความสนใจที่จะสร้างพระกริ่งปวเรศอีกครั้งหนึ่งเพื่อยังให้เกิดความประทับเข้าไปในใจข้าพเจ้าประกอบกับความบังเอิญที่ท่านพระใบฎีกาประสิทธิ์ เจ้าอาวาสวัดดีหลวง ขอความอนุเคราะห์ข้าพเจ้ามาว่า อยากจะให้ข้าพเจ้าพร้อมด้วยชมรมคนรักหลวงปู่ทวด สงขลา เป็นหัวแรงหลักในการจัดสร้างหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานหลวงพ่อทวด ณ วัดดีหลวง อันเป็นวัดสมัยอยุธยาที่หลวงพ่อทวดบรรพชาเป็นสามเณรกับหลวงลุงจวง นั่นเอง ดังนั้นด้วยเหตุนี้จึงอัญเชิญพิมพ์พระกริ่งปวเรศจำลองในการมาเป็นต้นแบบพระกริ่งในการจัดสร้างครั้งนี้ส่วนพระนามพระกริ่งเฉลิมพระนามพระกริ่งว่าพระกริ่งดีหลวงสืบจากขณะที่เดินทางกลับจากวัดดีหลวงในคราวที่ท่านเจ้าอาวาสวัดดีหลวงขอความอนุเคราะห์ในครั้งนั้น ด้วยความอ่อนเพลียจากการเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางและงานทำให้ข้าพเจ้าหลบไป และได้ฝัน นิมิตรเห็นพระชรารูปหนึ่งปรากฏกายพร้อมพระปฏิมาขนาดเล็ก(พระกริ่ง)ซึ่งอยู่ในมือท่านพร้อมกับกล่าวว่า มึงรู้มั้ยว่านี่อะไร กูจะบอกให้เอาบุญ นี่ กริ่งดีหลวง ดีทั้งนอกทั้งใน นี่แหละที่มาพระนามพระกริ่งและเมื่อสืบและรำลึกถึงความฝันครั้งนั้นพร้อมทั้งเล่าให้ครูบาอาจารย์และผู้ปฏิบัติต่างลงใจว่าจะต้องเป็นหลวงลุงจวง ลุงแท้ๆของหลวงพ่อทวดนั่นเอง สมภารองค์แรกแห่งวัดดีหลวง น่าตื่นใจดุจนวนิยายก็ไม่ปานแต่นี่คือความสัตย์จริงไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเขียนเพื่อโฆษณาขายของเหมือนพ่อค้า ตรงที่สุดและโดนใจที่สุด
<!-- / message --><!-- edit note --><!-- / message --><!-- edit note -->
<!-- / message --><!-- edit note --><HR style="COLOR: #cccccc" SIZE=1>

 

พระกริ่งสำคัญอย่างไร?
พระกริ่งตัวแทนพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งซึ่งท่านเองมีพระนามว่าพระไภษัชคุรุพระพุทธเจ้า ซึ่งพระกริ่งนี้สร้างในประเทศไทยในรูปลักษณ์ของพระนาคปรกลพบุรีและพระพิมพ์ต่างๆ อาทิ พิมพ์พระนารายณ์ทรงปืนซึ่งพระเจ้าชัยวรมันที่7เป็นผู้สร้างขึ้นซึ่งทั่วไปคนจะเชื่อว่าพระพุทธเจ้าพระองค์นี้จะเด่นเรื่องการรักษาโรคภัยไข้เจ็บซึ่งนับว่าการสร้างพระกริ่งครั้งนี้ตรงยุคตรงสมัยเพราะยุคนี้นับว่ามีโรคหลายโรคโรคประหลาดหลายโรครักษาไม่หาย ซึ่งพระกริ่งนี้เปรียบเสมือนหนึ่งกำลังใจให้คนเจ็บไข้ได้ป่วย ซึ่งพระกริ่งไทยที่ดังที่สุดเห็นจะเป็นพระกริ่งปวเรศซึ่งถือได้ว่าเป็นจักรพรรดิแห่งพระกริ่งไทยมิผิดแม้เพียงนิดเดียวแต่พระกริ่งที่แผ่หลายมากที่สุดและคนนิยมกันโดยทั่วไปเห็นจะไม่มีที่ไหนเกินวลีคำว่า พระกริ่ง นวโลหะต้องวัดสุทัศนเทพวราราม ซึ่งสถาปนาโดยสมเด็จพระสังฆราชแพ และ ยุคหลังๆก็ได้รับความนิยมเช่นกันและการจัดสร้างพระกริ่งดีหลวงครั้งนี้ข้าพเจ้าเองได้กราบนิมนต์พระเถราจารย์พระรัตตัญญูผู้รู้ราตรีนานผู้ที่เคยปรณนิบัติรับใช้พระเดชพระคุณเจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราชแพ นั่นคือ พระครูโสภณธรรมรัต หรือ หลวงปู่ถม วัดเชิงท่า ซึ่งนับได้ว่าหลวงพ่อถมเป็นพระผู้ใหญ่ที่เป็นที่เคารพของคนในจังหวัดลพบุรี ท่านได้สืบทอดวิทยาคม สายหลวงปู่ศุข วัดอู่ทองปากคลองมะขามเฒ่า สายหลวงปู่สาย วัดพยัคฆาราม สายหลวงปู่จัน วัดนางหนู สายหลวงปู่ปลอด สายอื่นๆอีกมากมาย ท่านได้เรียนรู้จากตำรับตำราโบราณอีกมากมายท่านยังฝึกวิปัสสนาด้วยตนเองและท่านเองเกสาธาตุและทันตธาตุของท่านกลายเป็นพระธาตุอีกด้วยนับว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ท่านเททองพระกริ่งดินไทยโบราณด้วยตนเองเพื่อยังเกียรติประวัติการสร้างพระกริ่งดีหลวงนี้ไว้เลื่องลือถึงขีดสุดนั่นเอง<O</O<O</O
<!-- / message --><!-- edit note -->
<!-- / message -->

 

เหตุใดจึงกล่าวว่าเป็นพระกริ่งสายตรงหลวงพ่อทวดมากที่สุด<O</O
สืบเนื่องจากที่เป็นพระกริ่งที่หล่อเทดินไทยเพื่อจัดสร้างถวายวัดสายตรงหลวงพ่อทวดทีมีหลักฐานชัดเจนว่าอยู่ในสมัยกรุงศรีอยุธยาจริงและได้รวบรวมมวลสารเก่าสมัยอยุธยาในวัดสายตรงหลวงพ่อทวดหลายวัดทั้งยอดเจดีย์ ยอดพระเกศ และอิฐพระเจดีย์โบราณตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์พร้อมกันนี้ยังได้อัญเชิญพระกริ่งนี้ไปประกอบพิธีอัญเชิญบารมีตามสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวเนื่องด้วยองค์สมเด็จเจ้าพะโค๊ะ หรือสมเด็จพระราชมุณีนั่นเองและครั้งสุดท้ายจะเปิดพระอุโบสถสมัยอยุธยาดั้งเดิมที่ใช้เป็นที่บรรพชาเป็นสามเณรของเด็กชายปูหรือหลวงพ่อทวดเมื่อครั้งนั้น เพื่อประกอบพิธีพุทธาภิเษกสมโภชโดยพระเกจิสายตรงแห่งดินแดนศรีวิชัยเพื่ออัญเชิญบารมีแห่งอดีตที่ยังคอยแผ่บารมีอยู่ของสมเด็จเจ้าพะโค๊ะนั่นเองนับว่าเป็นเรื่องที่หาได้ยากยิ่งโดยแท้จริง และหากจะนับว่าสุดยอดพระเครื่องสายหลวงพ่อทวดในวงการพระแล้วละก้อคงไม่มีใครปฏิเสธว่าหลวงพ่อทวด ที่จัดสร้างโดยวัดช้างให้เมื่อปี2497คือสุดยอดพระเครื่องความปรารถนาของใครหลายๆคนหากหลายคนล่วงรู้เคล็ดลับคือดินที่พักพระศพหลวงพ่อทวดที่มาเลเซียนี้นับว่าเป็นสุดยอดมวลสารที่ท่านอาจารย์ทิม วัดช้างให้นำไปผสมพระหลวงพ่อทวดที่ท่านสร้างนั่นเอง และหากจะคิดว่ายุคนี้จะมีการจัดสร้างพระเครื่องในสายตรงของหลวงพ่อทวดแล้วละก้อ วัดดีหลวง ครั้งนี้จัดสร้างพระกริ่งดีหลวงที่บรรจุมวลสารตรงหลวงพ่อทวดอย่างที่สุดคือนำมวลสารสมัยอยุธยาของวัดดีหลวงเองกับวัดอื่นๆที่ทันหลวงพ่อทวด มาบรรจุฐานพระกริ่งดีหลวงแบบเต็มๆ นับว่า เป็นครั้งแรกของวัดดีหลวงที่นำวัตถุอันเป็นมหามงคลยิ่งมาบรรจุพระกริ่งดีหลวงนี้
<!-- / message -->

 

เหตุใดพระกริ่งที่สถาปนาในครั้งนี้จึงมีค่าทำบุญในวงจำนวนเงินที่สูง<O</O
เหตุผลที่น่าจะเป็นเหตุและผลที่สมควรคือเรื่องจริงที่อาจปฏิเสธไม่ได้ว่าพระกริ่งดีหลวงที่จัดสร้างในครั้งนี้เป็นพระกริ่งที่เทดินไทยแบบโบราณแท้ๆซึ่งแค่เพียงหาช่างเททองแบบนี้แบบรู้จริงก็หาได้ยากยิ่งแล้วยังไม่นับไปถึงค่าใช้จ่ายในการเททองหล่อพระกริ่ง ค่าใช้จ่ายในการแต่งพระกริ่ง และการเททองในพิธีทุกองค์ไม่มีเททองที่โรงงานเพื่อหลอกลวงใคร ทั้งนี้ยังต้องมีการเตรียมโลหะเองซึ่งซึ่งต้องประกอบด้วยทองคำเงินและโลหะมีค่าอื่นๆอีกและยังมีโลหะธตุกายสิทธิ์คือจ้าวน้ำเงินซึ่งเป็นของเก่าสืบทอดของท่านอาจารย์เอียด วัดดอนศาลา พัทลุง ซึ่งมีน้ำหนักกว่าสิบบาทซึ่งได้รับมอบมาจากศิษย์สายพ่อท่านคล้อย วัดถ้ำเขาเงิน ยังไม่นับรวมไปถึงมวลสารที่ประเมิณค่ามิได้อาทิ ยอดพระเจดีย์ ยอดพระเกศ พระพุทธรูปชำรุดโบราณ แท้ๆที่หาได้ยากยิ่ง ซึ่งหาได้ยากที่จะมีการสถาปนาพระกริ่งเยี่ยงนี้ ค่าใช้จ่ายที่มากในการจัดพิธีแต่ละครั้งซึ่งไม่ใช่การที่สร้างพระแล้วนำพระไปฝากพิธีอื่นที่ชาวบ้านเขาจัดการ แต่ละพิธีและแต่ละครั้งเป็นการจัดพิธีเพื่อสมโภชพระกริ่งดีหลวงเป็นการจำเพาะเพื่อสมกับศักดิ์และศรี อย่างเต็มภูมิ พระกริ่งดีหลวงอย่างที่ปฏิเสธมิได้ และเงินที่เหลือจากการหักค่าใช้จ่ายต่างๆโดยไม่ได้นำเงินเข้ากระเป๋าผู้สร้างแม้เพียงบาทเดียวนำไปจัดสร้างหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่และฐานหลวงพ่อทวดรวมทั้งปรับภูมิทัศน์ของวัดดีหลวงเพื่อรองรับอนุสาวรีย์อนุสรณ์สถานหลวงพ่อทวดอย่างลงตัวนั่นเองซึ่งใช้งบประมาณหลายล้านบาท ซึ่งงานนี้จะสำเร็จก็คงด้วยประชาชนอย่างเดียวเท่านั้น
<!-- / message -->
<!-- / message -->
<!-- / message -->

 

เททองโดย หลวงปู่ถม วัดเชิงท่า ลพบุรี ศิษย์สมเด็จพระสังฆราชแพ เป็นประธานจุดเทียนชัยเเละเททองด้วยองค์ท่านเอง


<HR style="COLOR: #cccccc" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->
ขณะหลวงพ่อถม วัดเชิงท่า ลพบุรี เมตตามาเป็นประธาน ให้เเบบเต็มๆ และเต็มที่ในงานนี้ ท่านเองเป็นพระที่สมเด็จพุฒโฆษาจารย์ พุฒ วัดสุวรรณาราม กล่าวว่า หลวงพ่อถม เป็นศิษย์สมเด็จพระสังฆราชแพ เพียงองค์เดียวในจังหวัดลพบุรี ท่านเป็นศิษย์สมเด็จด้วยกัน อีกทั้งท่านเย็นกายเย็นใจมาหลายสิบปีเเล้วเนื่องด้วย เกสาธาตุของท่านได้เเปรสภาพกลายเป็นพระธาตุอีกด้วย

และภาพนี้เป็นภาพ ดวงทองคำ ที่ฉลองศรัทธา สมกับท่านที่เป็นพระทองคำ ท่านเป็นพระดีจริงๆ









<!-- / icon and title --><!-- message -->

 

ตามรอย สุดยอดชนวนพระกริ่งวัดสุทัศน์ ....จากศิษย์มือซ้ายสมเด็จพระสังฆราชแพ

<HR style="COLOR: #cccccc" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message --> เธอเป็นศิษย์คนสุดท้าย...ทำไมเพิ่งมา
เธอกับฉันเกิดใกล้กันห่างกันวันเดียว

หนึ่งเดียวสายตรงพระกริ่งสมเด็จเเพวัดสุทัศน์
อาจารย์หนู แดงวิจิตร




วันนี้ผมเองกับคุณพ่อไปกราบเยี่ยมคารวะคุณตานิรันดร์ แดงวิจิตร ที่รู้จักทั่วไปในนาม อาจารย์หนู แดงวิจิตร หรือ พระครูหนู วัดสุทัศน์ พระครูในฐานานุกรม ของ สมเด็จพระสังฆณาชแพ วัดสุทัศน์ ปัจจุบันท่านมีอายุ98ปี ผมเองสมัครเป็นลูกศิษย์ท่านอาจารย์หนูเป็นศิษย์รุ่นเหลนเลยทีเดียว ท่านตายังมีความจำยังพอใช้ได้อยู่เล่าเรื่องสมัยสมเด็จยังจำได้ดี ท่านชอบเรื่องพระกริ่งเป็นชีวิตจิตใจ ปัจจุบันท่านมีชีวิตอยู่ที่เรียบง่าย ไม่มีโรคประจำตัว แต่ก็มีบ้างที่เจ็บไข้เล็กๆน้อย ผมเองไปกราบแบบส่วนตัวจริงๆไม่ได้เผยที่อยู่ท่านเป็นสาธารณะเพราะกลัวคนไปกวนท่านเเละจะกลายเป็นอื่นไป แต่บอกให้ทราบว่า ท่านเองเป็นคนที่มีเมตตาคนหนึ่งเลยทีเดียว ท่านเองเกิดวันที่6 พฤษภาคม ส่วนผมเกิดวันที่7พฤษภาคม ท่านบอกว่า เธอกับฉันห่างกันวันเดียวเอง เเล้วท่านตาก็หัวเราะอย่างอารมณ์ดี






นำพระหลวงพ่อทวดพิมพ์โบราณเนื้อว่านไปฝากคุณตาหนู ท่านดูเหมือนสนใจเป็นพิเศษเพราะหน้าตาเหมือนพระอุปัชฌาย์ท่าน





หลังจากชื่นชมพระหลวงพ่อทวดไปครึ่งชั่วโมง คุณตาได้ให้เอาหลวงพ่อทวดไปไว้โต๊ะพระประจำตระกูล



คุณตาได้สั่งลูกสาวให้นำชนวนพระกริ่งอันเก่าเเก่ที่หล่อหลอมชนวนสมัยสมเด็จพระสังฆราชแพทั้งพระกริ่งพรหมมุนี ชนวนพระกริ่งฉลองแต่ละรอบ ชนวนเจ้าคุณศรีสนธิ์ และพระยันต์สำคัญไว้หลายรุ่นนำมามอบให้ด้วยความเมตตาโดยท่านบอกว่า

เธอทำไมมาช้าจัง ไม่งั้นได้มากกว่านี้





นั่งอธิษฐานจิตถึงสมเด็จแพที่รักยิ่งของคุณตา เจ้าประคุณสมเด็จอาจารย์นั่งเกือบสิบนาทีได้




มาดแห่งความสง่างามในฐานะพระครูในฐานานุกรมของสมเด็จพระสังฆราชแพไม่เคยจางหาย แม่งานในการเททองพระกริ่งตั้งเเต่สมเด็จพระสังฆราชแพยังทรงพระชนต์ชีพอยู่


ความอารมดีและเย็นทำให้ท่านอายุยืนถึง98ปี

เธอเอาผมของฉันไปด้วยนะ ผมที่ขึ้นที่หูด้วยไม่เคยตัดเลย ตั้งเเต่สมัยอยู่กับสมเด็จ เพราะคุณตาบอกว่าไว้เหมือนเซียน แต่คุณตาสั่งให้ผมเอาเก็บไว้ท่านว่าของดีที่สุดในร่างกายท่านเป็นผมเซียน
<!-- / message -->
<!-- / message -->

 

เมื่อผู้สร้างพระกริ่งชินบัญชร หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ปี 2517 อันลือลั่น เข้ากราบ ศิษย์สมเด็จพระสังฆราชแพ และ มอบมวลสารชั้นครูและพาคณะศิษย์หลวงปู่ทิม มาร่วมงานและเช้าพระกริ่งดีหลวงทั้งเนื้อทองคำถึง5องค์เนื้อนวโลหะ20องค์ และ พระอื่นๆอีกมาก



ท่านอาจารย์ชินพร สุขสถิตย์เมตตามาในงานเททองพระกริ่งดีหลวงและพระกริ่งส.โสภณ โดยท่านนำชนวนพระกริ่งชินบัญชร ขนาดเท่านิ้วโป้ง และ ชนวนพระกริ่งปวเรศปี2530ที่ในหลวงทรงเททอง อีกทั้งชนวนเหรียญพระกาฬ รุ่นเเรก และชนวนสำคัญอื่นๆอีกมากมาเททองหล่อพระกริ่งในงานนี้เเบบเต็มๆอีกด้วย



อาจารย์ชินพร สุขสถิตย์ ผู้สร้างพระกริ่งชินบัญชร ขณะที่เข้ากราบนมัสการหลวงปู่ถม วัดเชิงท่า ลพบุรี



ถ่ายรูปกับหลวงปู่ถม วัดเชิงท่าเป็นที่ระลึก <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff></TD></TR><TR><TD class=bot2 bgColor=#f9f9f9 height=25>DSC06359.gif </TD></TR></TBODY></TABLE>
คนซ้ายมือทั้งสองท่านคือ

นพ.ประพล เองชวน ประธานชมรมคนรักหลวงปู่ทวด

และคนซ้ายมือติดกับหลวงปู่ถม คือ อาจารย์ชินพร สุขสถิตย์ ผู้สร้างพระกริ่งชินบัญชร ปี2517เมตตามาร่วมงานบุญนี้ พิเศษจริงๆ





คุณชินพร สุขสถิตย์ ท่านเองเป็นผู้สร้างพระกริ่งชินบัญชร ปี2517 ถวายหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ระยอง อันลือลั่น ท่านเองกล่าวว่า จริงๆเเล้วหลายปีก่อนผมเองมีคนชวนสร้างพระกริ่งถวายหลวงปู่ถม แต่ผมกล่าวปฏิเสธทั้งๆที่รู้ว่าหลวงพ่อเป็นศิษย์สมเด็จพระสังฆราชแพ เพราะ ผมบอกเขาไปว่า จะมีคนมาสร้างเอง งานนี้เป็นงานเฉพาะ เเละไม่น่าเชื่อเมื่อผมเองได้มาพิธีเททองหลวงปู่ถมด้วยตนเอง ผมเองเกิดในค่ายสมเด็จพระนารายณ์ผมก็คนลพบุรีเหมือนกัน
<!-- / message -->
<!-- / message --><!-- edit note -->

 

หลวงปู่ถม ท่านหย่อนทองคำก้อนหนักสิบบาทด้วยตนเองเป็นชนวนหล่อ พระกริ่งส.โสภณ พระกริ่งฉลองชนมายุครบ8รอบ พระกริ่งประวัติศาสตร์ของท่านเลยทีเดียว



หลวงตาม้าท่านร่วมหย่อนทองคำด้วย




หลวงตาม้านั่งเสกอยู่กลางพระสุริยันอยู่อย่างหนักเเน่น



เททองพระหลวงพ่อทวดองค์ต้นเเบบ

 

พระกริ่งสุดยอดมวลสาร..........

 

พระอาจารย์ติ๋ว วัดมณีชลขัณฑ์ กราบนมัสการหลวงปู่ถม พระรัตตัญญู แห่งเมืองลพบุรี





นั่งปรกอย่างสงบนิ่งไม่ไหวติงใดๆดุจพระโยคาวจรเมื่อสมัยโบราณปรกอย่างชาติเสือไม่ขอเนื้อใครกิน















หลังดับเทียนชัย ท่านอาจารย์ติ๋ว พรมน้ำพระพุทธมนต์ด้วยบทอิติปิโสพิสดาร วิชชาโบราณ


นอกจากความโชคดีชั้นที่หนึ่งได้เเก่หลวงปู่ถม เมตตายิ่งเเล้ว ผมเองยังได้รับความเมตตาจากพระเดชพระคุณพระอาจารย์ติ๋ว วัดมณีชลขัณฑ์ ลพบุรี
พระเกจิที่ได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในเกจิเเนวหน้าเมืองไทย19องค์เเรกๆอีกด้วย
ท่านอาจารย์ติ๋ว เองโดยปกติวิสัยเเห่งองค์ท่านเก็บตัวเเละเป็นที่รู้กันว่าดุ ไม่ใช้ดุเล่นๆ ว่ากันถึงขนาดว่า ดุจริงๆๆ ท่านดำรงตนตรงตามพระธรรมวินัย เป็นพระธรรมยุติ ท่านเองศึกษาวิชชาต่างๆหลายสายทุกอย่างที่ท่านศึกษาไม่ใช่วันสองวันเเล้วบอกว่าเป็น เพราะท่านเสกได้ถึง และ จริง ทั้งสายพรหมอาจารย์เฮง ไพรวัลย์ที่ท่านได้วิชชาจาก อาจารย์ก้าน บำรุงกิจ และหลวงปู่ศรี วัดสะเเก รวมทั้งสมาธิจิตจาก หลวงพ่อดู่ รวมทั้งวิชชาสายหลวงปู่ศุข จาก หลวงพ่อมหาโพธิ์ วัดคลองมอญ อีกทั้งท่านอาจารย์ยังสืบวิชชาสายอาจารย์ฟ้อน ดีสว่าง เเละ สายหลวงพ่อหรุ่น เก้ายอด ปกติท่านอาจารย์เองค่อนข้างเก็บตัว ไม่ค่อยเผยตัวสักเท่าไร กรณีเททองหล่อพระครั้งนี้ ท่านเมตตามางานนี้ด้วยความเต็มใจ ทั้งยังเเจกพระเครื่องกับผู้ร่วมงานด้วยมือท่านทุกองค์ เเละอาจารย์ติ๋วนี้เองเป็นผู้ลงพระยันต์จักรพรรดิ์ตราธิราช ท่ามกลางพระเถราจารย์108รูป โดยสมเด็จพระมหาธีราจารย์เป็นผู้เลือกท่านด้วยองค์เอง สำคัญอย่างเเน่เเท้เมื่อ พระกริ่งดีหลวงเเละพระกริ่งส.โสภณ เทอทองไปเสกไป ไม่ขลังเเละจะไปหาที่ไหนได้อีก ไม่ใช่เเอบเททองที่โรงงานเเล้วนำมาเสก เททองท่านกลางราชวัตรฉัตรธง พระเจริญพระพุทธมนต์ตลอดเวลา เห็นๆ เเบบเต็มๆตา สมใจนึกบางลำพูสำหรับคนเเสวงหาพระในดวงใจ พิธีดีมวลสารชั้นครูเป็นเเน่เเท้
<!-- / message -->