รักษากำลังใจโดยการหยุดอยู่กับปัจจุบัน

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 23 มีนาคม 2022.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,581
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,543
    ค่าพลัง:
    +26,383
    FDDE507D-9076-4744-B05A-22E7DA6F65BB.jpeg

    หยุดอยู่กับปัจจุบัน

    ถาม : มีปัญหาคือว่า ตั้งแต่ช่วงหลังมา ลักษณะการกำหนดดวงใจ จะมีอาการเปลี่ยนแปลงมาก คือเหมือนกับว่า...(ไม่ชัด)...?
    ตอบ : ขึ้นอยู่กับเรา ถ้าหากว่าเราส่งใจออกนอก จำไว้เลยนะ อะไรก็ตามที่เป็นปัจจัยให้เราส่งใจออกนอก ก็จะพยายามฉุด พยายามดึง พยายามรั้ง ไม่ให้เราเอาใจกลับเข้ามาข้างใน ปล่อยให้เราฟุ้งซ่านหลงทางไปเรื่อย ถ้าอย่างนั้นโอกาสที่เราจะก้าวหน้าก็ไม่มี มีวิธีเดียว คือ ทำอย่างไรจะรักษาใจของเราให้อยู่ภายใน ให้อยู่กับปัจจุบัน อยู่กับตอนนี้ อยู่กับเดี๋ยวนี้ เพราะว่าสิ่งที่เราฟุ้งซ่านนั้น ส่วนใหญ่ก็คิดไปในอนาคต ว่าต้องเป็นอย่างนั้นต้องเป็นอย่างนี้ หรือไม่ก็คิดย้อนอดีตไป ตอนนั้นถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดี ตอนนี้ถ้าเป็นอย่างนี้ก็ดี ไม่ได้อยู่กับปัจจุบัน ก็เลยพาให้กำลังใจของเราพล่านไปหมด หาจุดที่จะสงบนิ่งอย่างแท้จริงไม่ได้

    ในเมื่อหาจุดที่สงบนิ่งอย่างแท้จริงไม่ได้ ก็หาความก้าวหน้าไม่ได้ แล้วก็รู้สึกว่าจะโดนดึงออกไปสู่ในทางที่ต่ำได้ง่าย ฉะนั้น..หยุดใจให้เป็น ในเมื่อหยุดเป็นอยู่กับปัจจุบันได้แล้ว ทำอย่างไรให้จิตใจเราเข้มแข็ง ให้สติของเรารู้ทันอำนาจของกิเลสที่เข้ามา ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ระมัดระวังอย่างไรจะไม่ให้เข้ามาในใจของเราได้ ถ้าทำได้ก็สบายหน่อย ถ้ายังทำไม่ได้ก็เสียท่าให้โดนลากไปอยู่เรื่อย

    ถาม : จริง ๆ ก็คือ พยายามควบคุมอารมณ์ใจ อย่างเช่นตอนเช้าก็ตั้งได้ พอไปทำงานก็ไหลแล้ว ?
    ตอบ : ส่วนใหญ่แล้วของเราคือว่า พอเลิกภาวนาแล้วก็เลิกเลยทีเดียว ซึ่งใช้ไม่ได้ นั่นขาดทุนย่อยยับเลย เลิกภาวนาแล้ว เราต้องรักษาอารมณ์ใจสูงที่สุดเท่าที่เราทำได้ ให้อยู่กับเราให้นานที่สุด เวลาไปทำงานก็พยายามประคับประคองอารมณ์ใจ ให้อยู่กับการภาวนานั้นให้นานที่สุด เราจะรู้สึกเลยว่า อารมณ์กระทบรอบข้างเข้ามา ๆ ๆ แต่ถ้าหากว่าใจเรายังเกาะอารมณ์ได้เท่ากับตอนที่เรานั่งอยู่ เราจะกระทบกระเทือนน้อยมาก เหมือนอย่างกับตายด้าน ความรู้สึกช้าไปเลย

    ถ้าหากว่าเรารักษาอารมณ์ตัวนี้ให้ทรงตัวอยู่กับเราได้นานเท่าไร รัก โลภ โกรธ หลง ก็กินใจเราได้น้อยเท่านั้น เมื่อ รัก โลภ โกรธ หลง กินใจเราได้น้อยเท่าไร จิตใจเราก็ผ่องใสเท่านั้น จิตใจเรายิ่งผ่องใสเท่าไร ปัญญาก็ยิ่งเกิดมากเท่านั้น ปัญญายิ่งเกิดมากเท่าไร ก็จะไประมัดระวังควบคุม กาย วาจา ใจ ของเราให้อยู่ในขอบเขตของ ทาน ศีล ภาวนา มากขึ้นเท่านั้น ทาน ศีล ภาวนา ยิ่งเจริญมากขึ้นเท่าไร โอกาสที่สิ่งไม่ดี คือ กิเลส ตัณหา อุปาทาน และอกุศลกรรมจะมาสอดแทรกได้ก็น้อยลงไปเรื่อย ๆ

    เพราะฉะนั้น..ทำแล้วต้องรักษาอารมณ์ใจให้ต่อเนื่องยาวนานที่สุดเท่าที่เราทำได้ พลาดเมื่อไรให้เริ่มต้นใหม่ พลาดเมื่อไรให้เริ่มต้นใหม่ ไม่ต้องไปเสียเวลาไปนั่งคร่ำครวญเสียอกเสียใจ พลาดแล้วลงมือทำใหม่ได้เลย
    .....................................
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
    www.watthakhanun.com
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...