ลำดับเหตุการณ์ ฮ.ร่วง

จุดที่เฮลิคอปเตอร์ตก



เวลา 09.00 น. วันที่ 13 ตุลาคม พล.ต.ไพรัตน์ ทองจัตุ ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 1 และผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง เดินทางมาประชุมมอบนโยบายจาก พล.ท.สะพรั่ง กัลยาณมิตร แม่ทัพภาคที่ 3 คนใหม่ ที่กองทัพภาคที่ 3 ค่ายนเรศวรมหาราช จ.พิษณุโลก

เวลา 15.30 น. ออกเดินทางกลับเชียงใหม่ ด้วยด้วยเฮลิคอปเตอร์ รุ่นเจ็ต เรนเจอร์ ฮท.206 โดยมี ร.อ.ทองหล่อ นาคภู่ นักบินที่ 1 และ ร.อ.ภูมินทร์ ชาอุทัย นักบินที่ 2 พร้อมด้วยพ.ต.วิสิทธิ์ วรวิทย์วัฒนะ นายทหารคนสนิท
เวลา 15.45 น. เจ้าหน้าที่หอการบินรายงานว่า ฮ.หายจากจอเรดาร์บริเวณยอดดอยสูง ต.ห้วยไร่ อ.วังชิ้น จ.แพร่

เวลา 16.05 น. ศูนย์วิทยุการบินจังหวัดเชียงใหม่ รับแจ้งจากนักบินที่ 1 ว่า พื้นที่บ้านห้วยไร่ อ.วังชิ้น จ.แพร่ อากาศปิด จากนั้นเครื่องได้ขาดการติดต่อ
เวลา 19.15 น. ตั้งกองบัญชาการเฉพาะกิจค้นหา ที่ อบต.สันดอนแก้ว อ.แม่ทะ จ.ลำปาง และเจ้าหน้าที่ พล.ม.1 มทบ.32 ตำรวจ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ของวนอุทยานเวียงโกศัย กว่า 400 นาย ปูพรมค้นหาบนดอยสูง

เวลา 02.00 น. วันที่ 14 ตุลาคม ยุติการค้นหาเนื่องจากอากาศปิด
เวลา 06.45 น. พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. มอบหมายให้ พล.ท.สะพรั่ง กัลยาณมิตร แม่ทัพภาคที่ 3 เป็นผู้บัญชาการการค้นหา อยู่ที่ จ.แพร่ พร้อมส่งเฮลิคอปเตอร์แบบแบล็คฮอว์ค 2 ลำ และ ฮ.กู้ภัย กองบิน 46 จ.พิษณุโลก สนับสนุนการค้นหา

เวลา 07.30 น. ประสานหน่วยให้ความช่วยเหลือและแนะนำทหารสหรัฐ (Joint United States Military Assistance Group : จัสแมกซ์) เพื่อขอรับการสนับสนุนเครื่องบินซี 130 ในการนำคนไปส่งยังจุดที่ไม่สามารถเดินเท้าเข้าไปได้

เวลา 09.45 น.พล.ท.สะพรั่ง นั่งเฮลิคอปเตอร์ รหัส ฮท.212 ซึ่งเป็น ฮ.2 เครื่องยนต์ นำแพทย์ 4 คน และพยาบาล 1 คน เดินทางมาที่ บก.ฉก.อบต.สันดอนแก้ว

เวลา 09.50 น. พล.ต.เดชา สถิรอังกูร ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 ตั้งศูนย์อำนวยการค้นหา และด้านล่างในเขตพื้นที่ จ.แพร่ มีผู้บังคับการจังหวัดทหารบกอุตรดิตถ์รับผิดชอบ โดยใช้เทือกเขาสันปันน้ำเป็นเส้นแบ่งเขต
เวลา 10.00 น. กองพลทหารราบที่ 4 จัดกำลังจากกองพันที่ 2 กรมทหารราบที่ 17 จำนวน 1 หมวด ค้นหาภาคพื้นดินใน จ.ลำปาง และการค้นหาภาคพื้นดินใน จ.แพร่ ใช้กำลังจากกองร้อยลาดตระเวนไกลจากกองพลทหารราบที่ 4 โดยกองพลทหารม้าที่ 1 จัดกำลังสนับสนุนจากกองพันทหารม้าที่ 7 และ 12 อีก 1 กองร้อย โดยกำลังทหารประมาณ 300 นาย ออกเดินเท้าเรียงเป็นหน้ากระดานจากตีนเขาด้าน อ.วังชิ้น จ.แพร่ ไปอีกฝั่งหนึ่งของตีนเขาซึ่งอยู่ในเขต อ.แม่ทะ จ.ลำปาง
เวลา 13.30 น. เครื่องบินของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 แพร่ บินสำรวจบริเวณรอยต่อระหว่างน้ำตกแม่เกิ๋งน้อย กับน้ำตกแม่เกิ๋งหลวง ด้านใต้ของที่ทำการอุทยานแห่งชาติเวียงโกศัย ประมาณสองกิโลเมตร เป็นป่าดงกล้วย พบรอยไหม้จากการระเบิดเป็นวงกว้างประมาณสี่เมตร และพบเศษชิ้นส่วนของเครื่องบินกระจายอยู่รอบๆ

เวลา 13.35 น. พบซากของ ฮ. ส่วนหาง และประตูของ ฮ.ลำดังกล่าว ในสภาพกระจัดกระจาย จากนั้นได้นำกำลังภาคพื้นดินเดินเท้าไปตามลำน้ำตกแม่เกิ๋งหลวง

เวลา 14.05 น. พล.ท.สะพรั่ง แถลงข่าวยืนยันนายทหารทั้งสี่นายเสียชีวิตแล้ว จากเหตุชนหน้าผาจนทำให้เครื่องตกและระเบิด สาเหตุมาจากสภาพอากาศปิด

เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยทหาร กู้ศพ พล.ต.ไพรัตน์ พร้อมนายทหารคนสนิท และนักบินอีกสองนาย ขึ้นจากจุดเกิดเหตุน้ำตกแม่เกิ๋งน้อย
เวลา 17.25 น. นักบินลำที่บินขึ้นไปรับศพผู้เสียชีวิตทั้งหมดบริเวณน้ำตกแม่เกิ๋งไม่สามารถนำเครื่องลงจอดจุดเกิดเหตุได้ เพราะเป็นที่ลาดชัน มีต้นไม้บัง จำเป็นต้องใช้หน่วยกู้ภัยเดินเท้าขึ้นไปรับศพ คาดว่าจะนำศพลงมาได้ในช่วงดึกคืนวันเดียวกัน
กองทัพภาคที่ 3 จัดพิธีพระราชทานน้ำอาบศพ ในวันที่ 15 ตุลาคม เวลา 16.00 น. ณ วัดคูหาสวรรค์ อ.เมือง พิษณุโลก

*******
<TABLE style="BORDER-COLLAPSE: collapse" cellSpacing=0 cellPadding=0 width=444 border=0><TBODY><TR><TD>

​

</TD></TR><TR><TD class=nomalfont vAlign=top> พล.ต.ไพรัตน์ ทองจัตุ
<HR>

• 
  พล.ต.ไพรัตน์ ทองจัตุ
  
  ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมืองพลตรีไพรัตน์ ทองจัตุ ผู้บังคับการกองพลทหารม้าที่ 1 และผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง เกิดเมื่อวันที่ 16 พ.ย.2494 ปัจจุบันอายุ 54 ปี เป็นบุตรของ นายพิชัย-นางจรูญ ทองจัตุ ภูมิลำเนาเป็นชาวจังหวัดบุรีรัมย์ ด้านครอบครัวสมรสกับ นางสุพัตรา ทองจัตุ (สุวรรณวิทย์) มีบุตรธิดา 2 คน
  
  ด้านการศึกษา สำเร็จการศึกษาระดับประถมที่จังหวัดบุรีรัมย์ ระดับมัธยมต้นที่โรงเรียนสาธิตวิทยาลัยประสานมิตร จากนั้นเข้ารับการศึกษาทางด้านการทหารที่โรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 11 และศึกษาต่อที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 22
  
  พลตรีไพรัตน์ เริ่มรับราชการครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2518 เป็นว่าที่ร้อยตรีเหล่าทหารม้า ในตำแหน่งผู้บังคับหมวดรถถังกองพันทหารม้าที่ 9 จ.พิษณุโลก พ.ศ.2519 ได้เลื่อนยศเป็นร้อยตรี , ร้อยโท ปฏิบัติหน้าที่ชายแดนที่หน่วยเฉพาะกิจ 342 อ.แม่สอด จ.ตาก จากนั้น พ.ศ.2521 เข้ารับการศึกษาหลักสูตรชั้นนายร้อยเหล่าทหารม้า ปี.พ.ศ.2522 ได้เลื่อนยศเป็นร้อยเอกในตำแหน่งผู้บังคับกองลาดตระเวนทหารม้าที่ 3
  
  ต่อมาในปี พ.ศ.2523 ได้ย้ายไปเป็นผู้บังคับ กองร้อยรถถังกองพันทหารม้าที่ 9 พ.ศ.2524 เข้ารับการศึกษาหลักสูตรชั้นนายพันเหล่าทหารม้า พร้อมทั้งได้เลื่อนยศเป็นพันตรี พ.ศ.2526 ได้เข้ารับการศึกษาหลักสูตรหลักประจำชุดที่ 62 โรงเรียนเสนาธิการทหารบก จากนั้น พ.ศ. 2528 ได้เข้ารับตำแหน่งผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายยุทธการกองทัพภาคที่ 3 ได้ปฏิบัติหน้าที่ในสนามในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายกิจการพลเรือนหน่วยเฉพาะกิจ 327 จ.เชียงใหม่ พร้อมได้รับตำแหน่งรองผู้บังคับกองพันทหารม้าที่ 9 ในปีเดียวกัน
  
  พ.ศ.2533 ได้รับความไว้วางใจจากผู้บังคับบัญชาให้ดำรงตำแหน่งผู้บังคับกองพันทหารม้าที่ 9 เป็นพันโท จากนักรบรถถังได้เลื่อนยศสูงขึ้น พ.ศ.2535 เป็นพันเอกนักรบดำ ในตำแหน่งผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 34 อยู่ทหารพราน 4 ปี ในช่วงนั้น พ.ศ.2537 ได้เข้ารับการศึกษาหลักสูตรนายทหารกิจการพลเรือนชั้นสูง รุ่นที่ 10 พ.ศ.2539 ได้ปรับย้ายไปรับตำแหน่งรองผู้อำนวยการกองกิจการพลเรือนกองทัพภาคที่ 3 พ.ศ.2540 และได้รับการเลื่อนยศเป็นพันเอกพิเศษ ในตำแหน่งฝ่ายเสนาธิการประจำกรมยุทธการทหาร กองบัญชาการทหารสูงสุด
  
  จากนั้น พ.ศ.2541 ได้กลับเข้ามาปฏิบัติงานในพื้นที่กองทัพภาคที่ 3 อีกครั้งในตำแหน่งผู้อำนวยการกองกำลังทหารพรานกองทัพภาคที่ 3 พ.ศ.2544 ย้ายไปรับตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการกองกิจการพลเรือนกองทัพภาคที่ 3 ต่อมา พ.ศ.2545 ย้ายไปเป็นรองผู้บังคับการจังหวัดทหารบกอุตรดิตถ์
  
  พ.ศ.2546 ย้ายมาเป็นรองผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 1 และได้รับมอบภารกิจในสนามเป็นรองผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง ดูแลงานป้องกันชายแดนไทย-พม่า และ ไทย-ลาว ตั้งแต่รอยต่อของจังหวัดแม่ฮ่องสอน กับเชียงใหม่ไปจนถึงบริเวณแก่งผาใด บ้านห้วยลึก ต.ม่วงยาย อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย รวมระยะทางกว่า 446 กิโลเมตร
  
  เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2548 นับเป็นความภาคภูมิใจสูงสุดในชีวิตการรับราชการของชายชาติทหาร และครอบครัว "ทองจัตุ" โดยได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกร่วมยินดี......พ.อ.ชาญณรงค์ วิจิตร รอง ผอ.สนภ.3 นทพ. นำข้าราชการ สนภ.3 ร่วมแสดงความยินดีในโอกาสที่ พล.ต.ยุทธพงษ์ พวงทอง ผอ.สนภ.3 นทพ. ได้รับโปรดเกล้าฯ พระราชทานยศสูงขึ้น (อัตรา พล.ท.) ณ กอก.สนภ.3 นทพ. ต.ดอยหล่อ กิ่ง อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ วันก่อน
  
  อบต.แม่สาว เดินหน้าเร่งระบบสาธารณูปโภค ล้าฯ ให้เป็น พลตรีไพรัตน์ ทองจัตุ ในตำแหน่งผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 1 และผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง
  
  สำหรับหลักการทำงานของพลตรีไพรัตน์ คือการวางแนวทางให้กับผู้ใต้บังคับบัญชา โดยยึดถือพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ว่า "เข้าถึงปัญหา เข้าใจปัญหา แก้ไขปัญหา และพัฒนา

• *********

• อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดจาก สภาพภูมิกาศ หรือสภาพอากาศยานก็ตาม ก็ยังผลให้ชาวไทยต้องสูญเสีย บุคคลากรที่มีคุณภาพ และเป็นกำลังสำคัญของกองทัพไทยไปทีมงานและสมาชิกพลังจิตขอร่วมไว้อาลัยในการจากไปของพล.ต.ต.ไพรัตน์ ทองจุติ ไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

</TD></TR></TBODY></TABLE>