อยากมาบอก และอยากสนทนานิดๆหน่อย

ผมอ่าน หลวงพ่อฤษีลิงดํา เวปต่างๆมา ผมจับใจความคร่าวได้ดังนี้ หลวงพ่อบอกว่า บุคลที่จะตรัสรู้เป็นพระพุทธะเจ้าได้ ก็ต้อง เป็น พระโพธิสัตว์ แล้วก็ต้อง เจอ กับ พระพุทธเจ้ามามากๆ และ พระพุทธเจ้า จะมี ญาณ ชื่อว่า พุทธญาณ คําว่าไม่รู้จะไม่มี ใน ญาณนี้ และ หลวงพ่อบอกอีกว่า

ที่พระพุทธเจ้าไม่ทํานาย ว่าพระโพธิสัตว์องค์นี้จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต(ถึง แม้ว่าพระพุทธองค์จะรู้ก็ตาม) เพราะว่าไม่ถึงเวลา

ผมเลยคิดไปอีกว่า คงต้อง สร้างบารมีให้มาก และบวกกับ อสงไขย ให้ญาณแก่ตัว
ต้องเป็นอย่างงี้ ผมเลยอยากจะมาให้กําลังใจ กับ พระโพธิสัตว์ ว่า อย่าท้อครับ

ถ้าท่านรู้ว่า ท่านเป็น พระพุทธเจ้าไม่ได้ ก็เป็นแบบว่า พระโพธิสัตว์ ที่แบบว่า ถ้า ยังมีใครอยู่ในนรก จะไม่ ไปนิพพาน ประมาณ พระโพธิสัตว์ ในฝ่ายมหาญาณ

ตัวผมก็ปราถนา พุทธภูมิ แต่กําลังใจ ยังกึ่งๆกลาง ยังสงสารคนมากมาย สงสารตัวเองด้วย เมื่อ จิต เราจุติ จาก นิพพาน ชะตากรรมจะรู้ทันทีว่า จะเป็นพระพุทธเจ้า หรือ พระปักเจกพุทธเจ้า หรือ พระอรหันต์ (อันนี้ผมคิดว่านะครับ ผมยังไม่แน่ใจ อย่าเชื่อ ทันที คิดก่อน)

พระพุทธเจ้านั้น กว่าจะมีได้แต่ละพระองค์ นี่ยาวนานแสนนาน มีในยุคที หนึ่งพระองค์ และพระปักเจกพุทธเจ้า ก็ตรัสรู้ธรรมได้ แต่สอนให้รู้ตามไม่ได้ สอนได้ แต่ต้องรู้ตามด้วยตัวเอง (แบบนั้นละมั้ง) แต่มีหลายพระองค์ได้ ส่วนพระอรหันต์ มีเยอะมาก กิเลศหมด ไปนิพพาน ได้เหมือนกัน

จุดประสงค์ วิสัยของแต่ละ ภูมิ (พุทธภูมิ ปักเจกภูมิ สาวกภูมิ) ก็มุ่งนิพพาน เป็นเบื้องหน้า นิพพาน นี่คงต้อง เป็นบรมสุข จริงๆ สุข ในกาม sex เพลิดเพลิน ฟังเพลง คงไม่ได้ แม้แต่ 1 เปอเซ็น แหงๆ

พูดแล้ว อยากไปนิพพาน อยากพาเพื่อนไปด้วย มีแต่สุข สุขอย่างยิ่งสุขมากๆ
แต่ บางคนบอกว่า คนไปนิพพานต้องเป็นพระภิกษุ แต่ตัวผมคิดว่า ถ้าท่าน เป็นฆราวาส คิดดีทําดีพูด เกาะนิพพานเป็นที่พึ่ง ตลอด( ไปอ่านหลวงพ่อฤษีลิงดํานะครับ) ก่อนตาย นึกนิพพานเป็นอารมณ์ ผมคิดว่า ไปนิพพานได้แน่นอน ถ้าไปไม่ได้ ก็ ไปสวรรค์ พรหม แล้วคงไปนิพพาน ในโลกสวรรค์ และพรหม แน่ๆ

 

คุณฟังอะไร ๆ ต่าง มาก็มาก

จริงที่ว่า ที่สุดแล้ว ทุกสรรพสัตว์มีนิพพานเป็นอารมณ์
นิพพาน คือ จิตมีความเห็นในความเสื่อมทั้งหลาย
แต่เป็นพระภิกษุ เป็นทางตรงในการปฏิบัติ
เป็นฆราวาสมันวุ่นด้วยการงาน ด้วยกินกามเกียรติ มักยากที่จะกระทำให้ถึงที่สุดแห่งทุกข์


จริงที่ว่า การสะสมบารมีต้องพบพระพุทธเจ้ามากมายหลายพระองค์
เพราะเป็นโอกาสอันดี ที่จะได้กระทำบารมี ได้บุญมาก

เมื่อกระทำช่วงแรก พระพุทธเจ้าจักทำนายว่าจะได้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาล
แต่ไม่ระบุรายละเอียดอะไร เพราะไม่ชัดเจน
ต่อเมื่อกระทำไปช่วงท้าย พระพุทธเจ้าจึงทำนายว่า จะได้พระพุทธเจ้า ชื่อนั้น ๆ มีชื่อพ่อแม่ชื่อนั้น ๆ ในระยะเวลาเท่านั้น ๆ เพราะสิ่งทั้งหลายชัดเจนแล้ว

แต่กระนั้นก็ดี ตามพระคัมภีร์ พระพุทธเจ้าโคดม ก็พูดถึงแค่อนาคตวงศ์ ๑๐ พระองค์เท่านั้น
เพราะชัดเจนแล้ว

การสะสมบารมี เป็นเรื่องยิ่งใหญ่ และยาวนานมาก
เพราะพระพุทธเจ้ามีคุณอันประเสริฐ
การสะสมบารมีใช้เวลานาน ที่เรียกว่า อายุของจักรวาลยังน้อยกว่าการสะสมบารมีอย่างเทียบไม่ได้

ผุ้ที่สงสารผู้อื่น ต้องมองอย่างนี้ ว่า การเกิดของสัตว์โลกเป็นทุกข์ เราจักให้อมตะธรรมที่ไม่เกิด ไม่ตายแก่สัตว์โลก

ส่วนสัตว์โลกทั้งหลายที่ยังเกิดอยู่ ก็ช่วยไปตามความสามารถ ตามกำลังใจ

ขนาดธรรมะพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน เขายังไม่สนใจ แล้วปัจจุบันเราจะช่วยเขาได้ซักแค่ไหน

ผมเองก็เหมือนคนอื่น ๆ ทั่วไป
แต่ผมมีคุณลุง มีกัลยาณมิตรที่ดี
อีเมล์มาคุยกันได้

thanitsak@nagase.co.th


โมทนาสาธุ

 

นิพพานเป็นของปุถุชนคนธรรมดา คงไม่มีนิพพานใดที่เลิศค่าเสียจนเกินเลยความเป็นธรรมดาในหมู่แห่งมนุษย์...



ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ตท์

 

พิจารณาก่อนเถิดหนอท่านเจ้าของกระทู้....การที่ท่านนั้นกล่าวว่าให้พึงรักษาอารมณ์แห่งพระนิพานไว้ยามสินใจ อันเราขอถามด้วยความเห็นสงสัยแล้วคำว่านิพานที่ท่านจะเกาะไปนั้น ในตอนนี้ท่านเข้าถึงแล้วหรือยัง???? ตราบใดที่ท่านนั้นยังกระทำตนเป็นไม้สดที่ชุ่มไปด้วยน้ำมันแล้วถูกแช่อยู่ในน้ำ ไม้หมู่นั้นต่อให้เสียดสีกันเช่นใดก็ไม่สามรถที่จะทำให้ติดไฟได้ เปรียบประดุจปุถชนทั่วไป หากยังหมกมุ่นในกามราคะ โทสะและโมหะอยู่ และยังสร้างกรรมแห่งการเบียดเบียนอยู่เป็นเนื่องนิด แล้วเหตุนี้มีหรือเมื่อหมดวาระจิตจะสามารถเข้าสู้พระนิพานหรือโลกสวรรค์....ผู้ที่จะเข้าสู่พระนิพานได้นั้นองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ทรงชี้ไว้ว่า ไม้ที่แห้งสนิทแล้วถูกวางอยู่บนพื้นที่แห้งไม้หมู่นั้นย่อมง่ายต่อการสีกันให้เกิดไฟ ด้วยเหตุนี้องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์จึงทรงกล่าวว่า ขอท่านจงเป็นภิกษุเพื่อขจัดความสิ้นไปแห่งทุกข์ พระองค์ทรงชี้ไว้ด้วยการบวช นั่นหมายถึงผู้ที่จะเข้าสู่พระนิพานได้นั้นจะต้องเป็นผู้ที่ขจัดความสิ้นไปแห่งทุกข์แล้วนั่นคือเข้าสู่พระอรหัต์แล้วจึงจะสามารถเข้าสู่พระนิพพานได้ แม้จะสำเร็จตอนใกล้สิ้นใจหรือในขณะสิ้นในก็สามารถเข้าสู่พระนิพานได้ ...ส่วนผู้ที่จะเข้าสู่เทวโลกได้นั้นจะต้องเป็นผู้สร้างบุญบารมีไว้ถึงจะเข้าได้ ส่วนผู้ที่สร้างกรรมชั่วไว้โดยไม่เคยสร้างกรรมดี เขานั้นจึงไม่สามารถเข้าสู่ภูมิเทวโลกได้เลย เห็นมีแต่จะลงนรกภูมิเป็นที่สุด...โปรดพิจารณา.

 

ถ้าคุณคิดว่าทุกคนจุติจากนิพพานจริงแล้วทำไมคุณถึงคิดว่าทุกคนมุ่งหน้ากลับ
นิพพานล่ะครับ มันดูแปลกๆ ว่าถ้าทุกคนมุ่งจะนิพพานจะจุติมาเพื่ออะไร หรือ
เพราะนิพพานมีอายุขัยหรืออย่างไร

 

ผมก็ไม่รู้เหมือนกันอ่านมา คิดอีกที จิตต้องมาจากนิพพาน ก็อย่าเชื่อทันที

ก็ถูกนะครับ อาจารย์ของผม บอกว่า คนที่ปราถนา นิพพาน ส่วนใหญ่จะป่วยใกล้ตาย เพราะว่าเจ้ากรรมนายเวรกลัว ไม่ได้ชดใช้กรรม

 

นิพพานเป็นคำที่พูดง่ายแต่ทำยาก ครับ คิดดี พูดดี ทำดี ตลอดก็ดีแล้วครับ อย่าเพิ่งไปนึกถึงนิพพานเลยครับ บางทีเมื่อเจอแล้ว ก็ไม่อาจรู้ได้ว่าเป็นอารมณ์นิพพานก็ได้ ถ้าเราไปนึกมาก มันจะกลายเป็นความต้องการยาก มากเกินไปครับ
เอาแค่พอสบายกาย สบายใจ พอเหมาะ พอดี

 

Anumo..tana...satu...naka.