เศียร" พญานาค"วัดเจดีย์หลวงหัก หลังเกิดลมพายุแรง <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม พระครูปลัดวิเชียร สมัตถิโก เลขานุการวัดเจดีย์หลวง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา เกิดลมพายุพัดอย่างแรงทำให้นั่งร้านเหล็กของบริษัท ช่างรุ่งคอนสตรัคชั่น จำกัด ซึ่งรับเหมาบูรณะพระวิหารหลวงวัดเจดีย์หลวง ล้มลงใส่พญานาค บริเวณทางขึ้นด้านซ้ายของวิหารคอหัก และพญานาคตัวขวาหงอนหัก โดยพบรอยแตกร้าวตามลำตัวพญานาคหลายจุดแต่คาดว่าน่าจะเกิดก่อนอุบัติเหตุในช่วงเช้านี้ "สภาพพญาคนาคทั้งสองตัวบริเวณบันไดทางขึ้นพระวิหารหลวงค่อนข้างเก่าแก่อยู่แล้ว เพราะวัสดุที่ก่อด้วยอิฐฉาบปูนขาวและแกนในตัวพญานาคเป็นไม้ที่ผุพังและหมดสภาพแล้ว สมควรได้รับการบูรณะให้แข็งแรงต่อไป" พระครูปลัดวิเชียร กล่าวและว่า พญานาคทั้งสองตัวมีลักษณะชูเศียรเหนือราวบันได หางพันกันเหนือประตูพระวิหาร มีลวดลายปูนปั้นเกล็ดนาคด้วยฝีมือประณีต จนเป็นที่กล่าวขานกันว่างดงามที่สุดในภาคเหนือ และก่อสร้างขึ้นพร้อมกับการสร้างพระวิหารหลังแรกแม้จะมีการบูรณะหลายครั้งแต่พญานาคทั้งสองตัวจะคงอยู่คู่พระวิหารมาตลอด พระครูปลัดวิเชียร กล่าวว่า ช่วงนี้การบูรณะพระวิหารหลวงใกล้ส่งมอบงานงวดสุดท้าย ทางวัดเตรียมจัดงานฉลองในเดือนมีนาคม 2552 แต่ต้องมาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ซึ่งจะต้องหางบประมาณเพิ่มมาซ่อมแซมหรือสร้างใหม่ตามที่กรมศิลปากรจะพิจารณา ขณะนี้ได้ปิดล้อมบริเวณไว้ แต่ไม่กระทบต่อการเดินทางขึ้นไปเคารพศพพระพุทธพจนวราภรณ์ หรือหลวงปู่จันทร์ กุสโล อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 4-5-6-7 แต่อย่างใด เพราะที่ผ่านมาได้ใช้บันไดทางขึ้นด้านข้างอยู่แล้ว ด้านนายสหวัฒน์ แน่นหนา ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 8 เชียงใหม่ กล่าวว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญไปตรวจสอบแล้ว ทราบว่าโครงสร้างพญานาคเป็นไม้และผุพังตามกาลเวลา ซึ่งเจ้าหน้าที่แนะนำว่าให้ซ่อมแซมตามแบบเดิมแต่ให้ทำโครงสร้างภายในให้แข็งแรงและมั่นคงขึ้น ------------------- ที่มา: http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1224592603&grpid=03&catid=19
วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่ คำว่าเจดีย์หลวง หมายถึงเจดีย์ขนาดใหญ่ซึ่งองค์เจดีย์ใดที่มีขนาดใหญ่ก็อาจจะเรียกว่าอาจเรียกว่าเจดีย์หลวงได้ทั้งสิ้น แต่มีเจดีย์หลวงองค์หนึ่งที่ได้รับการตั้งชื่อเช่นนี้ คือเจดีย์ซึ่งอยู่ที่วัดโชติการาม (วัดเจดีย์หลวง) เชียงใหม่ วัดเจดีย์หลวง หรือ
<TABLE height=34 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-LEFT: 10px">อาเพศเศียรพญานาคหัก [22 ต.ค. 51 - 10:42] </TD></TR></TBODY></TABLE> <TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=10 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD> เหตุการณ์ที่เหมือนอาเพศลางร้าย พญานาคบันไดทางขึ้นวิหารวัดคู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ ถูกเหล็กนั่งร้านตกใส่จนเศียรหักสะบั้นครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 21 ต.ค. พระครูปลัดวิเชียร สมัตถิโก เลขานุการวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร ถนนพระปกเกล้า ต.พระสิงห์ อ.เมืองเชียงใหม่ ได้รับแจ้งจากนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวชมวัดว่า โครงเหล็กนั่งร้านที่ตั้งไว้เพื่อก่อสร้างบูรณะพระวิหารด้านหน้า ได้พังถล่มลงมาใส่รูปปั้นพญานาคขนาดใหญ่บริเวณบันไดทางขึ้นวิหาร พระครูปลัดวิเชียรจึงรีบไปดูพบว่าโครงเหล็กพังลงมาทับส่วนเศียรหรือศีรษะพญานาคจนหักตกลงมา จึงรายงานให้พระราชเจติยาจารย์ รักษาการเจ้าอาวาส และพระครูโสภณกวีวัฒน์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสทราบ พร้อมกับแจ้งไปทางนายสหวัฒน์ แน่นหนา ผอ.สำนักศิลปากรที่ 8 จ.เชียงใหม่ และนายตระกูล หาญทองกุล หัวหน้ากลุ่มงานอนุรักษ์โบราณสถานฯ ให้มาร่วมตรวจสอบ <O></O> <O></O> ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้ไปที่วัดเจดีย์หลวงพบว่าโครงเหล็กถล่มลงมาทับพญานาคตัวทางด้านซ้าย เศียรหักตกลงมาแตกกองอยู่บนพื้น ส่วนพญานาคตัวทางขวา ปลายเศียรแตกเสียหายเล็กน้อย ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมศิลปากรตรวจพบว่า วัสดุและโครงสร้างพญานาคที่ก่ออิฐฉาบปูน แกนในเป็นไม้ผุพังหมดแล้ว ทำให้ข้างใน ลำตัวพญานาคเป็นโพรง ประกอบกับอิฐที่ก่อทำเป็นช่อง เมื่อมีของหนักตกใส่ทำให้แตกหักได้ง่าย ส่วนนั่งร้านที่พังลงมาทับเป็นของบริษัทช่างรุ่งคอนสตรัคชั่น ผู้รับเหมา ประกอบโครงตั้งไว้นานแล้ว และช่วงเกิดเหตุไม่มีคนงานเข้าไปทำงานตรงจุดนี้ จึงไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใดนั่งร้านจึงพังลงมา <O></O> <O></O> พระครูโสภณกวีวัฒน์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวง เปิดเผยว่า พญานาคชูเศียรเหนือราวบันไดอิฐหน้าพระวิหารหลวงคู่นี้ หางกระหวัดพันกันเหนือประตูพระวิหาร ช่างโบราณสร้างได้สัดส่วนสวยงาม ลวดลายปูนปั้นเกล็ดนาคฝีมือประณีตงดงาม ว่ากันว่าเป็นพญานาคที่งามที่สุดในภาคเหนือ ซึ่งพญานาคทั้ง 2 ตัวสร้างขึ้นพร้อมพระวิหารในปี 2423 มีการบูรณะซ่อมแซมมาหลายครั้ง ล่าสุด รัฐบาลในสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี อนุมัติงบประมาณ 50 ล้านบาท ทำการบูรณะพระวิหารหลวงรูปทรงแบบล้านนา และมีการบูรณะพญานาคด้วย แต่ก็มาเกิดเหตุนั่งร้านเหล็กตกใส่จนเศียรหักเสียก่อน ช่วงนี้จึงต้องปิดไว้เพื่อไม่ให้ผู้ที่พบพญานาคในสภาพนี้เกิดความรู้สึกสลดสะเทือนใจ แต่เรื่องนี้คงไม่เกี่ยวกับอาเพศหรืออาถรรพณ์ใดๆ ขอชาวเมืองอย่าได้ตื่นตระหนกตกใจ ส่วนการทำพิธีขอขมาตามแบบล้านนาก็คงต้องทำ <O></O> <O></O> ด้านนายตระกูล หาญทองกุล หัวหน้ากลุ่มงานอนุรักษ์โบราณสถาน สำนักศิลปากรที่ 8 จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า การบูรณะจะบูรณะทั้งองค์ แต่จะนำของเดิมที่ตกลงมาและส่วนที่แตกมาตกแต่งใช้กาวประสาน และเสริมโครงเหล็กแทนไม้ของเดิมที่ผุพัง อัดฉีดน้ำปูนเสริมเข้าไปเพื่อให้มั่นคงแข็งแรงมากขึ้น โดยจะรักษารูปแบบเดิมไว้ทั้งหมด ใช้เวลาการบูรณะประมาณ 1 เดือน สำหรับส่วนเศียรพญานาคที่หักตกลงมานั้นมีน้ำหนักมากถึง 400 กก. <O></O> <O></O> ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วัดเจดีย์หลวงวรวิหารเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ อายุเก่าแก่กว่า 700 ปี เป็นสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุดแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ มีเจดีย์หลวงโบราณ มียักษ์กุมภัณฑ์ 2 ตนปกปักรักษาเมืองเชียงใหม่ มีพญานาคโบราณที่ชาวต่างชาติระบุในหนังสือแนะนำแหล่งท่องเที่ยวว่างดงามที่สุดในประเทศไทย ทุกปีจะมีพิธีบูชาเสาอินทขิล หรือเสาหลักเมือง ซึ่งเป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์ และเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองเชียงใหม่ และเมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา พระพุทธพจนวราภรณ์ หรือหลวงปู่จันทร์ กุสโล อายุ 90 ปี พระอริยสงฆ์ ที่มีลูกศิษย์อยู่ทั่วประเทศ ได้ละสังขาร ศพยังตั้งอยู่ในวิหารที่บูรณะใกล้เสร็จ แต่ก็มาเกิดเหตุสูญเสียพญานาคคู่บ้านคู่เมืองหน้าวิหารไปอีก ------------- ที่มา: ไทยรัฐ http://www.thairath.co.th/offline.php?section=hotnews&content=108558 <O</O </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
จำได้ว่า มีคนพยากรณ์อยู่ว่า คนภาคเหนือจะทำร้ายนาคราช เป็นเหตุให้ประเทศไทยมีเคราะห์ เพราะพยานาคท่านพิโรธ แต่งานนี้ไม่ใช่คนเหนือเป็นผู้กระทำ แต่เป็นภัยธรรมชาติ ขอให้เสด็จพ่อจงโปรดอภัยให้ชนหมู่เราด้วย จงเมตตาด้วยเทอญ