เรื่องเด่น เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๖๘

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 10 มีนาคม 2025 at 17:09.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    20,898
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,667
    ค่าพลัง:
    +26,527
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๖๘


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    20,898
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,667
    ค่าพลัง:
    +26,527
    วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๑๐ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ กระผม/อาตมภาพฝ่ารถติดไปร่วมทำวัตรกับว่าที่พระอุปัชฌาย์ที่วัดสามพระยา วรวิหารแต่เช้า เสร็จแล้วเข้าไปฉันเช้าร่วมกัน แต่ด้วยความที่ว่าวันนี้ท่านเจ้าคุณอาจารย์พล - พระเดชพระคุณพระธรรมวชิโรดม, รศ.,ดร. (พล อาภากโร ป.ธ. ๙) เจ้าคณะภาค ๖ ท่านหันพัดลมเข้าที่โต๊ะอาหาร ทำเอาหลวงพ่อเจ้าคุณประดิษฐ์ - พระเดชพระคุณพระเทพวชิรธีราภรณ์ (ประดิษฐ์ ฐิตเมโธ ป.ธ. ๙) รองเจ้าคณะภาค ๒ เจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย และกระผม/อาตมภาพเผ่นหนีไปอีกโต๊ะหนึ่ง..!

    กระผม/อาตมภาพเป็นคนกลัวทั้งพัดลมและเครื่องปรับอากาศ อยู่ที่กุฏิน้อยครั้งที่จะเปิดพัดลม เพราะว่าโดนพัดลมแล้วก็จะเป็นไข้ ถ้าหากว่ามีความจำเป็นต้องใช้เครื่องปรับอากาศ เนื่องจากว่าสถานที่นั้นไม่สามารถจะเปิดประตูหน้าต่างได้ ก็มักจะเปิดอยู่ที่ ๒๗ องศาเซลเซียสเป็นหลัก เนื่องเพราะว่าถ้าหากว่าเปิดเย็นกว่านั้นก็จะคัน กลายเป็นคนที่สบายไม่ได้ ถ้าหากว่าลำบากหน่อยถึงจะดี..!

    เมื่อฉันเช้าเสร็จแล้ว
    กระผม/อาตมภาพได้เข้าไปทักทายว่าที่พระอุปัชฌาย์ทั้งหลาย โดยเฉพาะทั้ง ๑๐ รูปในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ ที่ทุกคนทำท่าโล่งใจไปครึ่งหนึ่ง เพราะว่าสอบอุปสมบทกรรมภาคปฏิบัติผ่านไปแล้ว ก็เหลือเพียงการสอบข้อเขียนเท่านั้น โดยเฉพาะข้อเขียนปีนี้ค่อนข้างยาก กระผม/อาตมภาพเชื่อว่าคงไม่มีใครที่จะทำข้อสอบแบบเดียวกับกระผม/อาตมภาพเองเคยทำมาก่อน

    เนื่องเพราะว่าในการสอบพระอุปัชฌาย์นั้น เขาจะออกข้อสอบ ๑๐ ข้อ ให้เราทำแค่ ๗ ข้อ แต่บังคับ ๒ ข้อก็คือการคิดอายุ ซึ่งต้องแสดงวิธีทำ ไม่ว่าจะบวกหรือลบตามที่กรรมการได้กำหนดเอาไว้ และการสวดกรรมวาจาที่ต้องเขียนภาษาบาลีออกมาให้ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นวรรคตอนหรือว่าอักขระก็ตาม ส่วนที่เหลืออีก ๘ ข้อนั้น ก็ให้เลือกทำแค่ ๕ ข้อ แต่กระผม/อาตมภาพนั้นไม่เคยที่จะเลือกทำ เนื่องเพราะว่าไม่ว่าจะยากหรือง่ายก็ทำเรียงไปเลย ๑-๒-๓-๔-๕-๖-๗ เสมอ

    โดยเฉพาะปีที่สอบนั้น มีข้อสอบอยู่ข้อหนึ่ง ซึ่งไม่มีใครทำนอกจากกระผม/อาตมภาพ ปัญหาถามว่า "เมื่อวันเปิดการอบรม องค์ประธานได้ให้โอวาทกับว่าที่พระอุปัชฌาย์ทั้งหลาย เนื้อหาใจความสำคัญมีอะไรบ้าง ? จงสรุปมาให้ดู" บังเอิญกระผม/อาตมภาพจำได้ ก็เลยทำไปด้วยความมั่นใจ และได้คะแนนเต็ม ๗๐ คะแนน สรุปว่าไปเสียท่าให้กับเพื่อนฝูงที่ระดับภาค โดนตัดไป ๔ คะแนน แต่ในระดับหน หรือว่าในระดับประเทศ ยังคงทำคะแนนเต็มได้เหมือนเดิม
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    20,898
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,667
    ค่าพลัง:
    +26,527
    เรื่องพวกนี้เด็กสมัยใหม่มักจะใช้คำว่า "หลวงพ่อต้อง "มู" หรือเปล่า ?" บอกไปว่าโดยปกติก็ใช้วิธีในการภาวนาคาถาช่วยจำเป็นปกติอยู่แล้ว ในเบื้องต้นก็ใช้คาถาท่านปู่พระอินทร์ ก็คือ สหัสสเนตโต เทวินโท ทิพจักขุง วิโสทายิ กระผม/อาตมภาพได้ต่อมาอีกว่า อิกะวิติ พุทธะสังมิ โลกะวิทู

    โดยให้ตั้งใจกราบขอบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย พรหมเทวดาทั้งหลายสืบ ๆ กันมา มีท่านปู่พระอินทร์เป็นที่สุด ขอให้ทำปัญหานั้นได้ถูกต้อง และถูกใจกรรมการผู้ตรวจด้วย

    จากนั้นเมื่อรับกระดาษคำถามมาแล้วให้คว่ำลง ว่าคาถาเสีย ๓ จบ ถ้าพลิกขึ้นมาอ่านแล้วยังไม่มั่นใจว่าจะตอบได้ทั้งหมด ก็ให้คว่ำลงแล้วว่าต่ออีก ๗ จบ คราวนี้อยากจะเขียนอะไร รู้สึกอย่างไรก็เขียนไปเลย กระผม/อาตมภาพใช้ตอนสอบนักธรรมชั้นเอก ซึ่งสมัยนั้น นักธรรมชั้นเอกเรียนตำราเยอะมาก แล้วออกแค่ ๗ ข้อเช่นกัน บางเล่มอ่านแทบตายไม่ออกเลยก็มี โดยเฉพาะมหาสติปัฏฐานสูตรของทีฆนิกาย พระสุตตันตปิฎก หรือว่าวิสุทธิ ๗ ประการ เหล่านี้เป็นต้น

    กระผม/อาตมภาพตอนนั้น ไม่ทราบว่าตนเองป่วยเป็นมาลาเรีย หมอก็ไปวินิจฉัยว่าเป็นไวรัสลงตับ ต้องฉันน้ำหวานจนขวดกองเป็นภูเขา..! ไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะขยับเดินไปไหนไกล ๆ ถึงเวลาจะออกบิณฑบาตก็ต้องฝืน ใช้กำลังใจบังคับร่างกายไป เมื่อกลับมาแล้วก็นอนหมดสภาพไปครึ่งค่อนวัน..!

    ถ้าต้องเข้าเวรที่หน้าตึก เพื่อรับใช้หลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ก็ใช้วิธีขอบารมีพระ โดยเฉพาะ "ท่านย่า" ว่า "ถ้าหลวงพ่อท่านสั่งการอะไร ขอให้กระผม/อาตมภาพเข้าใจสิ่งนั้นและทำได้ถูกต้องด้วย" หรือว่า "ก่อนที่หลวงพ่อท่านจะเรียกประมาณ ๕ นาที ขอให้เมตตาบอกให้กระผม/อาตมภาพรู้ตัวก่อนด้วย" แล้วทุกอย่างก็เป็นไปตามนั้น

    บางทีกำลังไข้จับหนักมาก อยู่ ๆ ก็เหมือนกับหายไข้เป็นปลิดทิ้ง กระผม/อาตมภาพลุกพรวดพราด เรียกทหารตำรวจที่อยู่ประจำวัดว่า "ให้เตรียมพร้อม อีก ๕ นาทีหลวงพ่อจะออกมา" แล้วทุกครั้งก็เป็นเช่นนั้น ทำเอาทุกคนสงสัย ว่าหลวงพ่อวัดท่าซุงก็ไม่เห็นท่านจะโทรศัพท์บอกมา และก็ไม่ได้ยินว่าท่านเรียกวิทยุ แล้วทำไมกระผม/อาตมภาพจึงทราบไปเสียทุกที ?

    นี่คือผลของคาถาท่านปู่พระอินทร์ ประกอบกับการขอบารมีของพรหม เทวดา และ "ท่านย่า" คอยช่วยสงเคราะห์เพิ่มอีก จึงทำให้ปีนั้น
    กระผม/อาตมภาพสามารถสอบนักธรรมชั้นเอกได้ โดยที่โดนหักไป ๕ คะแนน เนื่องเพราะว่ามีประโยคบาลียาวมาก ทำให้ไม่มั่นใจ เพราะว่าไม่ได้อ่านหนังสือ แล้วก็ดันไปเถียงความเป็นทิพย์เสียอีก เพราะว่าเคยเห็นรูปประโยคคล้าย ๆ กัน แล้วไปเอาของผิดมาใส่แทนของถูก จนโดนตัดไป ๕ คะแนน ไม่เช่นนั้นก็คงได้เต็มไปแล้ว..!
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    20,898
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,667
    ค่าพลัง:
    +26,527
    คาถาอีกบทหนึ่งนั้น ตอนเรียนบาลี ครูบาอาจารย์ท่านสอนมา ก็คือคาถานางฟ้าผู้พิทักษ์พระไตรปิฎก บางคนเรียกว่าคาถาสุนทรีวาณี ก็คือ มุนินทะ วะทะนัมพุชะ คัพภะสัมภวะ สุนทะรี ปาณีนัง สะระณัง วาณี มัยหัง ปิณะยะตัง มะนัง ซึ่งบทนี้ในปัจจุบัน พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช ป.ธ. ๖) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง กำชับนักเรียนบาลีอยู่เสมอว่าให้ท่องเอาไว้ ท่านเองสอบบาลีได้ก็เพราะอาศัยคาถาบทนี้แหละ..! แต่เนื่องจากว่ากระผม/อาตมภาพจะสอบบาลีเมื่อไร ก็ป่วยหนักชนิดไม่มีเรี่ยวแรงที่จะไปสอบ จึงไม่มีโอกาสที่จะได้ใช้เลย

    ส่วนบทล่าสุดที่ใช้ในการกำกับเหรียญเสริมปัญญาก็คือพระคาถาที่ว่า ปัญญาเสฏฐัง ปัญญาพะลัง ปัญญาปาสาทิโก ปัญโญภาโส ปัญญาปัชโชโต ปัญญาระตะนัง ภูริปัญโญ มหาญาณัง สัมปะฏิจฉามิ ซึ่งบทนี้มีผู้นำไปใช้แล้วได้ผลมาก รายงานเข้ามาอยู่เสมอ ๆ

    จึงทำให้คิดว่าถ้าหากว่าเด็ก ๆ หรือว่าท่านใดที่จะสอบ เกิดไม่มั่นใจในความสามารถของตัวเอง แล้วคิดจะ "มู" ดูบ้าง ก็เลือกเอาตามสบายว่าจะใช้คาถาบทไหน กระผม/อาตมภาพเองนั้น ต่อให้มั่นใจในตัวเองขนาดไหนก็ตาม ก็ยังอาศัยภาวนาพระคาถาเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับตนเองเข้าไปด้วยเสมอ จึงเป็นอะไรที่ต้องบอกว่า ถ้าเราอ่านหนังสือมา ความจำดี คาถาดี โอกาสที่ท่านจะสอบคะแนนเต็มร้อยเหมือนกระผม/อาตมภาพก็น่าจะอยู่ไม่ไกล..!

    เมื่อออกจากวัดสามพระยา วรวิหาร กระผม/อาตมภาพก็เดินทางไปร่วมฉลองสัญญาบัตรพัดยศของพระวชิรวาที, ผศ., ดร. (กล้า วีรรตโน) รองเจ้าคณะอำเภอเมืองเพชรบุรี เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุ วรวิหาร ที่ถนนดำเนินเกษม ตำบลคลองกระแชง อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี ไปถึงก็เจอพระเถระมากหน้าหลายตาที่ต้องไปกราบเท้ารายงานตัวเป็นลำดับไป
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    20,898
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,667
    ค่าพลัง:
    +26,527
    โดยเฉพาะหลวงพ่อเอียด - พระเดชพระคุณพระธรรมวชิรสิทธาจารย์ (ละเอียด สุทนฺโต) เจ้าคณะภาค ๑๕ ซึ่งท่านมาในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดในพื้นที่ พระเดชพระคุณพระราชวชิรธรรมวิมล (ผ่อง สุวีโร ป.ธ. ๕) เจ้าอาวาสวัดหนองจอก เจ้าคณะจังหวัดเพชรบุรี นี่ก็ในฐานะผู้บังคับบัญชาระดับสูงสุดของจังหวัด แล้วทักทายพรรคพวกเพื่อนฝูง จากนั้นก็ร่วมฉันเพลกับทางด้านคณะของท่านเจ้าคุณกล้า เมื่อเสร็จแล้วจึงมานั่งรอเวลางาน

    ปรากฏว่าเจ้ากรรมเถอะ..เจ้าหน้าที่หันพัดลมเข้ามาหาอีกแล้ว..! ตอนแรกรู้สึกหนาวแทบตาย มาตอนหลังปรากฏว่าพระเดชพระคุณพระธรรมวชิรปัญญาจารย์ , รศ.,ดร. (เทียบ สิริญาโณ ป.ธ. ๙) หรือว่าท่านเจ้าคุณอาจารย์เทียบ ท่านมานั่งอยู่ทางด้านหลัง ตามมาด้วยท่านเจ้าคุณปัญญา - พระเทพรัตนสุธี (ปัญญา สิริปญฺโญ ป.ธ. ๔) วัดชนะสงคราม ทั้ง ๒ ท่านบังพัดลมไปจึงทำให้รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย

    พร้อมกับรู้สึกว่าท่านเจ้าคุณกล้าจะยกย่อง "เจ้านาย" มากไปหน่อย ที่ให้กระผม/อาตมภาพซึ่งเป็นแค่พระครูไปนั่งอยู่ทางด้านหน้า แล้วให้บรรดาเจ้าคุณใหญ่ ๆ โต ๆ ไปนั่งอยู่ทางด้านหลัง ถ้าไม่ใช่ตบะดี สมาธิดี หรือบรรดาท่านเจ้าคุณยอมรับว่า "นี่คืออาจารย์เล็ก" กระผม/อาตมภาพก็อาจจะโดนเหยียบแบนอยู่แถวนั้นนั่นเอง..!

    เมื่อทำการฉลองเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องฝ่ารถติดเพื่อกลับสู่ที่พัก เนื่องจากว่าใกล้ระยะเวลาที่ต้องบันทึกเสียง จึงต้องอาศัยบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนบนรถยนต์ตามเคย

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันจันทร์ที่ ๑๐ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...