เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 28 กุมภาพันธ์ 2022.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,578
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,543
    ค่าพลัง:
    +26,383
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,578
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,543
    ค่าพลัง:
    +26,383
    วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๕ วันเวลาหมดไปอีกหนึ่งเดือนอย่างรวดเร็ว ต้องไปนึกถึงปัพพชิตอภิณหปัจจเวกขณะที่ว่า วันคืนล่วงไป ๆ เราทั้งหลายทำอะไรกันอยู่ ?

    ช่วงสองวันที่หายไปก็ติดภารกิจ โดยเฉพาะการภาวนาพระคาถาเงินล้านที่วัดอุทยาน อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี ซึ่งพระเดชพระคุณหลวงตาพระราชภาวนาพัชรญาณ วิ. ตุ๊พ่อสิงห์ หลวงพ่อนิล และพรรคพวกเพื่อนฝูงอีกจำนวนมากมาร่วมงานด้วยกัน

    แต่คราวนี้ในส่วนหนึ่งต้องบอกว่าเป็นการกระทำที่ขาดสติ ก็คือญาติโยมที่ไป จอดรถแบบไม่เกรงใจคน เนื่องจากว่าภายในวัดรองรับรถไปห้าหกร้อยคันจนเต็มแล้ว ที่เหลือก็จอดถนนด้านนอก แต่เป็นการจอดที่กินไปเกินครึ่งเลน จึงทำให้รถของชาวบ้านเขาลำบากในการหลีก แล้วหลายท่านก็ทำหูทวนลม ถึงประกาศหมายเลขทะเบียนรถ ยี่ห้อรถ สีรถ ชนิดรถ ก็ไม่สนใจทั้งนั้น..!


    ตรงจุดนี้ต้องบอกว่า กำลังใจของท่านเหล่านั้นยังห่างไกลความดีอยู่มาก ไม่เห็นทุกข์เห็นโทษว่า การกระทำของตนเองนั้นเดือดร้อนคนอื่นเท่าไร ถ้าหากว่าจะขัดเกลาตนเองเพื่อมรรคเพื่อผลกันจริง ๆ ก็น่าจะต้องใช้เวลาเนิ่นนานกว่าคนอื่นอีกมาก


    คราวนี้การที่ไปจัดภาวนาพระคาถาเงินล้านที่วัดอุทยาน ญาติโยมส่วนใหญ่เดินทางไปได้ง่าย ทำให้ไปกันจนเกินจำนวนที่ทางราชการอนุญาต ก็คือทางสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี อนุญาตให้ไม่เกิน ๕๐๐ คน แต่ว่าเกินไปหลายเท่า ประจวบเหมาะกับมี ส.ส.ท่านหนึ่งไปทำบุญที่วัดอุทยาน เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับดาราที่ตกน้ำตาย แล้วมีนักข่าวตามไปหลายช่อง ทางสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี จึงขอร้องให้ยุติงานภาวนาพระคาถาเงินล้านลงกลางคัน เพราะถ้าหากว่านักข่าวมาถ่ายทำ แล้วปรากฏออกสื่อไปเมื่อไร ก็จะเกิดอาการที่เรียกว่า "ดราม่า" กันทั่วประเทศ อาจจะทั่วโลกด้วย

    แม้ว่ากระผม/อาตมภาพจะมั่นใจว่า ในเรื่องของเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ นั้น ถ้าหากว่าจะแพร่ระบาดก็ไม่ระบาดในงานนี้อย่างแน่นอน เพราะว่าท้าวมหาราช โดยเฉพาะท่านท้าวเวสสุวรรณมาประจำการอยู่ที่นั่น บรรดาเทวดาโรคระบาด ไม่ว่าจะเป็นโรคระบาดคน หรือว่าโรคระบาดสัตว์ ก็ล้วนแล้วแต่เป็นลูกน้องของท่าน เมื่อเจ้านายใหญ่อยู่ ลูกน้องก็ย่อมไม่กล้ามาแถวนั้น

    แต่ว่าเราไม่สามารถที่จะยืนยันกับผู้อื่นได้ เพราะว่าเรื่องทั้งหลายเหล่านี้เป็นเรื่องที่คนทั่วไปไม่สามารถจะรู้เห็นได้ ยืนยันไปก็กลายเป็นว่าเราบ้า..! จึงต้องหยุดการภาวนาพระคาถาเงินล้านลงกลางคัน ที่เหลือก็ให้ญาติโยมไปภาวนาต่อที่บ้าน
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,578
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,543
    ค่าพลัง:
    +26,383
    คราวนี้การที่ญาติโยมทั้งหลายทำบุญ ถ้าหากว่าอยู่ที่วัดอื่น พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านสอนพวกเรามาว่า "เงินเกิดที่ไหน ให้ทิ้งไว้ที่นั่น" กระผม/อาตมภาพก็เลยทิ้งเงิน ๕๐๐,๐๐๐ กว่าบาท รวมทั้งทองคำเอาไว้ที่นั่น ที่พูดถึงนี่เพื่อที่จะบอกแก่ญาติโยมทั้งหลายว่า เงินส่วนนี้ ทางด้านพระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ดร. จะนำเอาไปทำรั้วสแตนเลส ตลอดริมแนวชายคลองบางกอกน้อยส่วนเป็นพื้นที่ของวัด เพราะว่าเคยมีคนไปปล่อยปลาแล้วพลาดตกน้ำไปเลย

    ส่วนประการที่สองนั้น มีญาติโยมหลายท่าน ประมาณว่าส่ง "จดหมายน้อย" ถึงกระผม/อาตมภาพเป็นการส่วนตัว ซึ่ง
    กระผม/อาตมภาพก็ไม่มีโอกาสได้อ่านและไม่มีเวลาได้อ่าน เพราะไม่ว่าจดหมายหรือซองเงินก็ไปรวมอยู่ที่เดียวกันหมด คนที่น่าจะได้อ่านคงจะเป็นเจ้าหน้าที่นับเงินของวัดอุทยาน ดังนั้น...เรื่องทั้งหลายที่ท่านบอกกล่าวมาในจดหมาย เป็นอันว่ากระผม/อาตมภาพไม่ได้รับรู้รับทราบอะไรทั้งสิ้น..!

    ส่วนการภาวนาพระคาถาเงินล้านในเดือนถัดไป ก็น่าจะแก้ปัญหาด้วยการไม่ประกาศอย่างเป็นทางการ เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว ทางหน่วยราชการก็จะเดือดร้อนอีก ไม่ส่งคนมาดูแล ก็ถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ส่งคนมาดูแล ก็ต้องเข้มงวดตามที่กฎหมายกำหนด แต่ถ้าไม่บอกไม่กล่าว จัดงานเฉย ๆ ส่วนใหญ่ข้าราชการเหล่านี้ท่าน "อยู่เป็น" เมื่อไม่บอก ท่านถือว่าไม่รู้ ก็ไม่ถือว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ คราวนี้ก็ต้องแล้วแต่ว่าบรรดาญาติโยมทั้งหลายจะแสวงหาข่าวกันเอง

    ส่วนในเรื่องของอีกงานหนึ่งก็คือ เพิ่งจะไปรับรางวัลชุมชนคุณธรรมต้นแบบโดดเด่น ซึ่งเป็นโล่รางวัลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แต่ผู้มอบให้ก็คือท่านอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ก็ยังได้เรียนท่านรัฐมนตรีไปว่า "นี่เป็นโล่ใบที่ ๖ แล้ว ที่รับกับมือของท่าน" ท่านก็ยังบอกว่า "แสดงว่าเป็นชุมชนคุณธรรมที่โดดเด่นแบบยั่งยืนจริง ๆ"

    แต่ส่วนที่ไม่ได้บอกท่านก็คือว่า โล่ทั้ง ๘ อัน ฟังไม่ผิด ก็คือรับกับมือท่านอิทธิพล ๖ อัน แล้วที่ทางเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเอามาถวายที่วัดอีก ๒ อัน หน้าตาเหมือนกันหมดทุกประการ ยกเว้นตัวหนังสือเท่านั้น เอามาวางเรียงกันเมื่อไรก็กลายเป็น "ของโหล" ไปทันที ซึ่งถ้าหากว่ามีการปรับเปลี่ยนสีสันบ้าง หรือว่ารูปแบบบ้าง ให้มองเป็นก็รู้ว่าโล่อันนี้รับมาปีไหน เกี่ยวกับงานอะไร จะเป็นเรื่องที่ดีมาก

    แต่อย่าลืมว่ากระทรวงวัฒนธรรมก็คือกระทรวงที่อนุรักษ์เกี่ยวกับวัฒนธรรมประเพณี ในเมื่อทำเรื่องเกี่ยวกับการอนุรักษ์ ก็เลยค่อนข้างที่จะอนุรักษ์นิยม ถนัดแบบไหนก็ทำออกมาเหมือนเดิมทุกประการ ซึ่งก็นับว่าสะดวกต่อการคำนวณค่าใช้จ่าย
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,578
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,543
    ค่าพลัง:
    +26,383
    พอรับโล่เสร็จ ทางเจ้าหน้าที่มานิมนต์ไปฉันเพล กระผม/อาตมภาพแจ้งเขาไปว่า จะต้องมาเยี่ยมสนามสอบบาลีที่วัดไชยชุมพลชนะสงคราม และเข้าประชุมพระสังฆาธิการในเขตปกครองจังหวัดกาญจนบุรีประจำเดือนกุมภาพันธ์ ก็ปรากฏว่าวิ่งมาได้ถึงตรงเวลา ทำให้งานอีก ๒ งานที่รับไว้ก็คือ เยี่ยมสนามสอบกับการประชุมไม่เสียหาย

    ตรงนี้ต้องบอกว่าเป็นความสามารถของพลขับ ก็คือทำอย่างไร จะไปให้ทันเวลาโดยไม่ผิดกฎหมาย นอกจากจะต้องรักษาความเร็วแล้ว ยังต้องไปให้ทันเวลาอีกด้วย ซึ่งลำพังถ้าเป็นกระผม/อาตมภาพเองก็คงไม่มีปัญญาที่จะวิ่งหลายแห่งขนาดนั้น แต่ก็เกิดอาการแย่พอกัน ก็คือกลับมาก็เหนื่อยจนหมดสภาพ..!

    ท่านทั้งหลายคงจะไม่ลืมว่ากระผม/อาตมภาพเองอายุ ๖๓ ปีแล้ว ส่วนพลขับก็อายุ ๕๔ ปี ซึ่งถ้าหากว่าอีกปีเดียวก็เข้าสู่อายุ ๕๕ ปี ต้องรับเบี้ยเลี้ยงผู้สูงอายุเดือนละ ๖๐๐ บาทแล้ว..!

    การที่เราจะทำงานทุกอย่างให้ได้สมบูรณ์ นอกจากประกอบด้วยการที่มีจิตใจเสียสละแล้ว ยังจะต้องประกอบไปด้วยความแข็งแรงของร่างกาย อย่างที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ เสด็จออกกำลังพระวรกายทุกวัน ทำเอาบรรดาองครักษ์เหนื่อยลิ้นห้อยไปตาม ๆ กัน เมื่อมีผู้ทูลถาม พระองค์ท่านก็ตรัสบอกว่า ถ้าหากว่าร่างกายแข็งแรง ก็จะทำหน้าที่ดูแลประชาชนได้ดี


    ดังนั้น...ตรงจุดนี้นอกจากกำลังใจที่เสียสละ ร่างกายที่แข็งแรงแล้ว ยังมีข้อสุดท้ายที่บางทีพวกเราก็ลืมไป ก็คือต้องไม่กลัวตายด้วย เพราะว่าส่วนใหญ่พวกเราส่วนหนึ่งก็คือ พอเหนื่อยก็พัก โดยที่ไม่ได้เคยลองดูว่า ถ้าหากว่าเหนื่อยยิ่งไปกว่านี้แล้วจะมีสภาพอย่างไร สาเหตุใหญ่ก็คือกลัวตายเลยไม่กล้าทำต่อไป


    จึงฝากเอาไว้สำหรับท่านที่เป็นนักปฏิบัติทั้งหลายว่า ถ้าหากว่าเราอยากจะรู้กำลังใจของตนเองว่าควรแก่การหลุดพ้นสักเท่าไร ก็ต้องทดสอบกับความตายดู อย่างที่พระสายวัดป่ามักจะพูดกันอยู่เสมอว่า ธรรมะอยู่ฟากตาย ถ้าท่านทั้งหลายเห็นความตายเป็นปกติ ไม่มีความหวั่นเกรง ไม่ได้อยากตาย แต่พร้อมเสมอที่จะตาย ถ้าเช่นนั้นก็แปลว่าการปฏิบัติธรรมของท่านนั้นมีผล


    สำหรับวันนี้ ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้


    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันจันทร์ที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๕
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...