เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 11 กุมภาพันธ์ 2024.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,663
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,551
    ค่าพลัง:
    +26,390
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กุมภาพันธ์ 2024
  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,663
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,551
    ค่าพลัง:
    +26,390
    วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๗ กระผม/อาตมภาพต้องทำพิธีบวงสรวงบอกกล่าวครูบาอาจารย์ตั้งแต่เช้า เพื่อขออนุญาตทำการผูกพัทธสีมา ปิดทอง ฝังลูกนิมิต ให้กับตุ๊พ่อสิงห์ (พระอธิการสิงห์ วิสุทฺโธ) เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่

    หลังจากนั้นแล้วก็ได้นำตุ๊พ่อสิงห์ และอาจารย์บ๊ะ (พระอาจารย์ศิริชัย ชยธมฺโม) วัดโพธิ์ลังกา เข้าไปร่วมกันอธิษฐานจิตปลุกเสกวัตถุมงคล ในศาลาเอนกประสงค์วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ ซึ่งงานนี้ทางวัดเน้นในเรื่องของมีดหมอเป็นพิเศษ เนื่องเพราะว่าเป็นงานสวดถอนสีมา และผูกพัทธสีมาอุโบสถใหม่ของวัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่

    เมื่อเสร็จพิธีแล้ว กระผม/อาตมภาพก็กราบเท้าหลวงปู่ครูบาอินสม สุวีโร (พระครูสุวีรธรรมานุยุต) วัดป่าสันติธรรม ซึ่งท่านเมตตามาร่วมงานพุทธาภิเษกด้วย ซึ่งมีพระเกจิอาจารย์ที่ร่วมพิธีด้วยอีกท่านหนึ่ง ก็คือพระปลัดเอกลักษณ์ ปญฺญาคโม เจ้าอาวาสวัดพุทธพรหมยาน จังหวัดฉะเชิงเทรา

    เมื่อเสร็จพิธีเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ให้ทางวัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ นิมนต์หลวงปู่ครูบาอินสมไปพักผ่อนเสียก่อน โดยเหลือเพียงตุ๊พ่อสิงห์ กระผม/อาตมภาพและท่านอาจารย์บ๊ะ ช่วยกันรองรับศรัทธาญาติโยมที่มาถวายสังฆทานกัน หลังจากนั้นไม่นาน ท่านอาจารย์บ๊ะก็ขอตัวเดินทางกลับ ทั้งที่เมื่อคืนท่านมาถึง ๕ ทุ่มกว่าแล้ว

    กระผม/อาตมภาพเอง อาการไข้ยังมีเป็นปกติ จึงฉันยาแล้วรับศรัทธาญาติโยมอยู่จนเกือบจะ ๑๐ โมง ทางด้านท่านขุนเดช ซึ่งดูแลงานต่าง ๆ ของวัดอยู่ในระยะนี้เห็นท่าไม่ดี จึงนิมนต์กระผม/อาตมภาพเข้าที่พักไปอีกรูปหนึ่ง เหลือแต่ตุ๊พ่อสิงห์ ซึ่งอายุกาลพรรษามากที่สุด เพราะว่าอายุสังขารมากกว่าหลวงปู่ครูบาอินสมเสียอีก อยู่รับแขกแต่เพียงผู้เดียว..!
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,663
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,551
    ค่าพลัง:
    +26,390
    เมื่อถึงเวลาฉันเพลแล้ว กระผม/อาตมภาพก็นอนภาวนาไปประมาณ ๓๐ นาที ครั้นกำลังใจทรงตัวดีแล้ว ก็จัดการล้างหน้า แต่งตัว เก็บข้าวของขึ้นรถให้เรียบร้อย แล้วก็ไปนั่งเป็นเพื่อนหลวงปู่ครูบาอินสม ซึ่งท่านฉันเพลเสร็จแล้ว ก็มานั่งรอรับญาติโยมอยู่ในศาลา

    ครั้นได้เวลาที่พระเดชพระคุณพระพรหมเสนาบดี (พิมพ์ ญาณวีโร) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะภาค ๗ เดินทางมาถึง
    กระผม/อาตมภาพจึงได้นำตุ๊พ่อสิงห์ และหลวงปู่ครูบาอินสมไปต้อนรับท่าน ครั้นเข้าไปในโบสถ์แล้ว ปรากฏว่าทางด้านวัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ ยังไม่ได้มีการสวดถอนพัทธสีมาเก่าเลย ทำเอาพระเดชพระคุณพระพรหมเสนาบดี บอกว่า "ผมได้ยินแล้วหายป่วยหายไข้เลย นี่ผมจะตกเครื่องบินไหมนี่ ?" บรรดาเจ้าคณะอำเภอต่าง ๆ กราบเรียนว่า "ใช้วิธียืนแบบลูกโซ่ น่าจะไม่ช้านัก"

    คำว่า วิธียืนแบบลูกโซ่นี้ กระผม/อาตมภาพก็เพิ่งเห็นที่นี่เป็นครั้งแรก ก็คือให้พระทั้งหลายยืนศอกชนศอก ต่อแถวยาวจากนิมิตลูกกลางที่กลางโบสถ์ ออกไปถึงนิมิตลูกหน้าโบสถ์ แล้วก็วนขวาไป ได้แค่ลูกไหนก็เอาแค่ลูกนั้น ก็จะมีพระยืนเรียงเป็นสองแถวยาว ๆ ล้อมนิมิตอยู่ ซึ่งพระเดชพระคุณพระพรหมเสนาบดี ท่านไม่ยอมให้สวดครั้งเดียว จึงต้องมีการสวดถอนและสวดสมมติสีมากันทีละลูก กว่าที่จะเสร็จ ก็ต้องวนถึง ๓ รอบเช่นกัน

    แต่ถ้าเป็นการสวดแบบทางด้านภาคกลางแล้ว พวกเราต้องยืนกันทุกตารางนิ้วของพื้นที่รอบอุโบสถและรอบสีมา เพื่อเป็นการประกันความเสี่ยง ในที่นี้พระเดชพระคุณพระพรหมเสนาบดี ท่านเองก็เจ็บไข้ได้ป่วยอยู่ เพราะว่าปีนี้อายุกาลพรรษาของท่านก็ถึง ๗๙ ปีแล้ว ยังจะต้องเดินทางกลับให้ทันกับเครื่องบินอีกด้วย

    ครั้นเมื่อสวดเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็เข้าไปนั่งรอกันอยู่ในอุโบสถ ให้ทางด้านรองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน อ่านประกาศพระราชทานวิสุงคามสีมาวัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ แล้วนำเอาวิสุงคามสีมาตามประกาศนั้นมาถวายตุ๊พ่อสิงห์ในโบสถ์ พระเดชพระคุณพระพรหมเสนาบดีให้กระผม/อาตมภาพรับวิสุงคามสีมาต่อจากตุ๊พ่อสิงห์ นำขึ้นไปตั้งบนโต๊ะหมู่บูชาในโบสถ์ แล้วก็มีการสวดชัยมงคลคาถา (ชยันโตฯ) กัน
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,663
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,551
    ค่าพลัง:
    +26,390
    หลังจากนั้นก็เป็นการตัดหวายลูกนิมิต ซึ่งแต่ละลูกนั้นมีเจ้าภาพเป็นจำนวนมากด้วยกัน แม้แต่ลูกกลางโบสถ์ ก็มีเจ้าภาพรวมแล้ว ๙ ท่าน แต่ละคนก็จะตัดคนละเส้น โดยมีกระผม/อาตมภาพในฐานะเจ้าภาพใหญ่ ต้องตัดลูกกลาง จึงได้ถวายให้ตุ๊พ่อสิงห์และหลวงปู่ครูบาอินสมตัดเสียก่อน

    หลังจากนั้นท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดและคณะก็ตัดส่วนที่เหลือ จนเหลือเส้นเล็กซ้ายขวา ถวายให้พระเดชพระคุณพระพรหมเสนาบดีเป็นผู้ตัด แล้วกระผม/อาตมภาพก็ติดปิดท้าย ใช้มีดเล่มใหญ่สุด ซึ่งต้องจองในราคา ๑๐๐,๐๐๐ บาท ฟัน ๓ ทีจบ..! หวายที่มัดรวมกัน ๙ เส้น ๒ ชุด ทั้งหมด ๑๘ เส้นก็ขาดสะบั้น ลูกนิมิตตกสู่หลุมตามที่ตั้งใจเอาไว้

    แล้วกระผม/อาตมภาพก็กราบลาพระเดชพระคุณพระพรหมเสนาบดี หลวงปู่ครูบาอินสมและตุ๊พ่อสิงห์ ที่เหลือพระเดชพระคุณพระพรหมเสนาบดี ในฐานะเจ้าคณะภาค ก็จะต้องนำในการทักนิมิต ทั้ง ๘ ลูกรอบอุโบสถ กระผม/อาตมภาพเดินทางเข้าสู่ที่พักที่จังหวัดเชียงใหม่ ครั้นไปถึงยังไม่ทันจะทักทายเจ้าของบ้าน ก็ต้องทำการบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนนี้เสียก่อน

    ในเรื่องของการสวดถอน สวดญัตติ หรือว่าทักนิมิตนั้น แบบธรรมเนียมก็มักจะคล้าย ๆ กัน แต่ว่าการที่สวดถอนในลักษณะของการยืนแบบลูกโซ่นี้ กระผม/อาตมภาพขอสารภาพว่าเพิ่งเห็นเป็นครั้งแรกจริง ๆ แต่คาดว่าทางภาคเหนือนี้คงจะทำกันบ่อย เพราะว่าหาพระสงฆ์ค่อนข้างจะยาก ถ้าให้ยืนทุกตารางนิ้ว แบบทางด้านภาคกลาง ก็คงจะสวดกันเป็นชั่วโมง ๆ กว่าที่จะครบถ้วนสมบูรณ์

    อีกส่วนหนึ่งก็คือทางด้านวัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ ได้สร้างมีดหมอขนาดต่าง ๆ และนำเข้าพิธีสวดถอนสวดญัตติสีมาในครั้งนี้ด้วย ขอให้ญาติโยมทั้งหลายเข้าใจว่า โบราณนั้นรู้เคล็ดลับสำคัญในเรื่องของการสร้างมีดหมอ ซึ่งจะอาศัยถอนคุณ ถอนของก็ดี อาศัยป้องกันอันตรายต่าง ๆ ก็ตาม

    เพราะว่าการสวดถอนสีมานั้นเป็นสิ่งที่ถอนยากที่สุด ถ้าหากว่าสมมติสีมาลงไปเรียบร้อยแล้ว จะกี่หมื่นกี่แสนปี ถ้าคณะสงฆ์ไม่ได้สวดถอนให้ บริเวณนั้นก็ยังคงจัดเป็นสีมา สามารถทำสังฆกรรมได้ ตามที่ในพระวินัยปิฎกได้กล่าวไว้ก็คือ การสวดสมมตินั้น ลึกลงไปถึงน้ำรองแผ่นดิน ดังนั้น..การสวดถอนที่ยากที่สุดในโลก ก็คือการถอนสีมา เรื่องของการถอนไสยเวทย์อาคมต่าง ๆ ไม่ยากเท่ากับการถอนสีมา ผู้ที่รู้เคล็ดลับจึงนำเอามีดหมอมาเข้าพิธีนี้ด้วย
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,663
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,551
    ค่าพลัง:
    +26,390
    ส่วนการสวดสมมติสีมานั้น เท่ากับเป็นการตั้งเขตขึ้นมาใหม่ ก็แปลว่า ถ้าสมมติเขตขึ้นมาแล้ว ในพื้นที่นั้นก็จะเป็นเขตเฉพาะในการที่สงฆ์ทำสังฆกรรม แม้แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ไม่มีพระราชอำนาจในเขตนั้น ดังนั้น..จึงถือว่าเป็นเขตที่ปลอดจากอำนาจทั้งปวง โดยเฉพาะของอำนาจไสยศาสตร์ มีดหมอที่ทำในงานสวดถอนสวดสมมติสีมา จึงถือว่ามีอานุภาพที่ครบถ้วนสมบูรณ์อย่างแท้จริง ถ้าหากว่าเพียงแต่พุทธาภิเษก โดยไม่ได้นำมาเข้าพิธี ก็ต้องขึ้นอยู่กับผู้เสกว่ามีความสามารถเท่าไร..!

    กระผม/อาตมภาพเอง ก่อนที่จะเดินไปเข้าพิธี ผ่านร้านค้าร้านหนึ่ง ซึ่งนำเอาบรรดาเหรียญและธนบัตรรุ่นเก่า ๆ มาวางจำหน่าย แล้วก็มีมีดอยู่ ๒ เล่ม เล็ก ๆ น่ารัก กระผม/อาตมภาพจึงขอซื้อมาเข้าพิธีด้วย

    มีดต่าง ๆ ที่จะนำมาเข้าพิธีเพื่อให้เป็นมีดหมอนั้น ขอให้ทุกท่านเว้นจากมีดพับเอาไว้ด้วย พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงบอกว่า มีดพับเป็นได้แค่วัตถุมงคล ไม่สามารถที่จะมีอานุภาพของมีดหมอได้ เพราะคำว่า "พับ" ก็คือจบกันไป ไม่สามารถที่จะใช้อานุภาพของมีดหมอได้

    ดังนั้น..ถ้าจะเอามีดเข้าพิธีทำเป็นมีดหมอ ขอให้เป็นมีดหมอแบบที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Fixed Blade ก็คือมีคมตายตัว ติดตั้งตายตัวอยู่กับด้าม ไม่สามารถที่จะพับเก็บได้ ถ้าลักษณะนั้น ไม่ว่าจะเล่มเล็ก เล่มใหญ่ ก็สามารถที่จะเป็นมีดหมอได้ทั้งหมด ทางที่ดีที่สุดก็คือ ให้ทำการปลุกเสกเสียก่อน ไม่ว่าจะเป็นการปลุกด้วยตัวเองก็ดี เข้าพิธีปลุกเสกอย่างของวัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ในช่วงเช้าก็ตาม แล้วหลังจากนั้นค่อยนำไปเข้าพิธีสวดถอนสวดสมมติอีกรอบ

    กระผม/อาตมภาพสมัยที่ทำการสวดถอน สวดสมมติสีมาวัดทองผาภูมินั้น เพื่อเป็นการประกันความเสี่ยง ก็เอากระเป๋าที่บรรจุมีดหมอใส่เอาไว้ในหลุมนิมิตลูกกลางไปเลย ครั้นถึงเวลาก่อนที่จะตัดลูกนิมิตแล้วค่อยนำขึ้นมา ถึงเวลาตัดนิมิตเสร็จเรียบร้อย ก็วางทับลูกนิมิต ให้เขาสวดสมมติสีมากันต่อไป เพื่อเป็นการป้องกันความสงสัยของญาติโยมต่าง ๆ ว่าได้เข้าพิธีอย่างแท้จริงหรือไม่ ?
     
  6. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,663
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,551
    ค่าพลัง:
    +26,390
    อีกครั้งหนึ่งก็เป็นการสวดถอน และสวดสมมติสีมาวัดปรังกาสี ของพระครูวรกาญจนโชติ เจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ ก็มีทางคณะศิษย์ทำมีดหมอมาเข้าพิธีเช่นกัน ต้องขออนุญาตท่านเจ้าคณะอำเภอนำไปเข้าพิธี เนื่องเพราะว่าไม่ใช่วัดที่ตนเองมีอำนาจอยู่ จึงต้องขออนุญาตทางเจ้าของวัดเสียก่อน

    ดังนั้น..
    ในเรื่องของมีดหมอที่ผ่านพิธีสวดถอนและสวดสมมติสีมาแล้ว จะมีอานุภาพพิเศษเพิ่มเติมขึ้นมาในการถอนคุณไสยและป้องกันอันตรายต่าง ๆ ได้อย่างวิเศษยิ่ง เพราะว่าเป็นไปตามเคล็ดลับของการสร้างตามแบบโบราณโดยครบถ้วนสมบูรณ์

    กระผม/อาตมภาพเองก็จะนำเอามีดหมอเล่มกลางโบสถ์ ซึ่งถือว่าเป็นเล่มใหญ่ที่สุด และมีเพียงเล่มเดียวเท่านั้นในงานนี้ ไปออกให้ญาติโยมทั้งหลายได้จองบูชากัน แต่ว่าขออนุญาตจารเพิ่มเสียก่อน คิดไม่มากไม่มาย ขอราคาเท่ากับที่ทางวัดตั้งเอาไว้ คือ ๑๐๐,๐๐๐ บาทเท่านั้น..!

    ถ้าหากว่าใครคิดว่าตนเองมีสตางค์เหลือเฟือ ต้องการมีดหมอเล่มใหญ่สุด ซึ่งทางวัดไปสั่งมาจากบ่อเหล็กน้ำพี้เลย ก็เตรียมเงินเตรียมทองเอาไว้ แล้วก็เข้าไปรอในเพจของกิฟท์จังพลังเวทย์ คาดว่าเมื่อกลับไปถึงไม่นาน เจ้าลูกกิฟท์ (นางสาวอันตรา ลักษณะ) ของกระผม/อาตมภาพก็คงจะนำไปออกในนั้น แต่เมื่อไม่ให้กำไรแม้แต่บาทเดียว อาจจะมีเสียงบ่นกระปอดกระแปดไปอีกหลายวัน..!

    สำหรับวันนี้ ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันอาทิตย์ที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๗
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...