เรื่องเด่น เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๖๘

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 29 มีนาคม 2025 at 20:45.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    21,157
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,692
    ค่าพลัง:
    +26,548
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๖๘


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    21,157
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,692
    ค่าพลัง:
    +26,548
    วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๒๙ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ ช่วงเช้า กระผม/อาตมภาพไปทำการบวงสรวงและปลุกเสกวัตถุมงคลให้กับท่านอาจารย์ต้น (ธนสาร เซ้งรักษา) ที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมกองทุนหลวงปู่ปาน โสนันโท ตำบลบ้านแหลม อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี

    จากนั้นก็วิ่งกลับมาที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมคณะสงฆ์จังหวัดนครปฐมแห่งที่ ๒ หมู่ที่ ๑ ตำบลขุนแก้ว อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม เพื่อร่วมในพิธีปิดการอบรมพระวิปัสสนาจารย์ ประจำสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัด ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ ซึ่งท่านเจ้าคุณอาจารย์พระพรหมบัณฑิต, ศ.ดร. (ประยูร ธมฺมจิตฺโต ป.ธ.๙, Ph.D.) ราชบัณฑิต กรรมการมหาเถรสมาคม ประธานคณะกรรมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติ มาเป็นประธานในพิธีปิด มอบประกาศนียบัตรผ่านการอบรม และให้โอวาทแก่ผู้ผ่านการอบรมทั้ง ๑๒๒ รูป ซึ่งถ้าหากว่าผ่านทั้งหมดก็คือ ๑๒๓ รูป แต่เป็นที่น่าเสียดายและน่าเสียใจว่า มีมรณภาพในระหว่างปฏิบัติธรรมไปรูปหนึ่ง..!

    กระผม/อาตมภาพยังกราบเรียนขออภัยท่านเจ้าคุณอาจารย์ ที่เมตตาชวนให้เดินทางไปร่วมงานวันวิสาขบูชาโลกที่ประเทศเวียดนาม แต่ว่าวันเดินทางไปตรงกับวันที่กระผม/อาตมภาพไปกราบสักการะดาไลลามะ องค์ที่ ๑๔ ที่ประเทศอินเดีย ท่านเจ้าคุณอาจารย์บอกว่า กระผม/อาตมภาพช่วยเหลือท่านมาตลอด ท่านอยากจะตอบแทนอะไรบ้างก็ไม่มีโอกาสเสียที งานนี้สามารถใช้งบหลวงเดินทาง ก็เลยขอให้กระผม/อาตมภาพร่วมคณะเดินทางไปด้วย พูดง่าย ๆ ก็คือไปฟรี แต่กลับกลายเป็นว่ากระผม/อาตมภาพติดงาน จึงต้องกราบขอขมาท่านก่อน

    จากนั้นก็เป็นพิธีปิด มอบประกาศนียบัตรผู้ผ่านการอบรมและให้โอวาท แล้วกระผม/อาตมภาพก็ขอตัวกลับที่พัก มาทำการบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนในวันนี้

    ก่อนอื่นเลย ต้องขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้ที่เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวเมื่อวานนี้ ไม่ว่าจะอยู่ในประเทศไหนก็ตาม โดยเฉพาะในประเทศพม่านั้น ข่าวที่ออกมาในปัจจุบันนี้ก็คือเสียชีวิต ๙๖๔ ศพ บาดเจ็บอีกหลายพันคน..! ซึ่งเรื่องนี้ต้องค่อย ๆ รอความชัดเจนไป เพราะว่าไม่สามารถที่จะเชื่อถือข่าวที่ออกมาได้ทั้งหมด
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    21,157
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,692
    ค่าพลัง:
    +26,548
    ส่วนที่น่าเป็นห่วงที่สุดก็คือ อาคารเรียนมหาวิทยาลัยสงฆ์มัณฑะเลย์ ซึ่งกระผม/อาตมภาพเคยไปเยี่ยมเยียนการเรียนการสอนที่นั่นมาแล้ว ได้ถล่มลงมาขณะที่พระภิกษุสามเณรจำนวน ๒๗๐ รูปกำลังสอบอยู่ มีแต่ภาพขณะที่สั่นไหวและพังลงมา โดยที่ไม่สามารถจะสืบทราบได้ว่า ยอดผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บนั้นมีอยู่เท่าไร ? จึงขอเอาใจช่วยให้ท่านทั้งหลาย ถ้าหากว่าเสียชีวิตหรือมรณภาพก็ได้ไปสู่สุคติภูมิตามความดีของตน ท่านที่บาดเจ็บหนักก็ขอให้ปลอดภัย ท่านที่บาดเจ็บเบาก็ขอให้หายโดยเร็ว..!

    ในเรื่องของแผ่นดินไหวนั้น ถือว่าเป็นเหตุฉุกเฉินประการหนึ่ง ซึ่งจะวัดผลได้เลยว่า การปฏิบัติธรรมของเรานั้นมีผลมากน้อยเท่าไร ? เพราะว่าเหตุฉุกเฉินทุกประเภท อาการเจ็บไข้ได้ป่วยหนัก ๆ ชนิดเจียนอยู่เจียนไป หรือว่าการทำงานอะไรที่เหนื่อยยากต่อเนื่องเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน จะวัดได้อย่างชัดเจนว่าต้นทุนการปฏิบัติธรรมของเรามีมากน้อยเท่าไร ? สามารถที่จะรักษาความผ่องใสของสภาพจิตเอาไว้ได้หรือไม่ ?

    กระผม/อาตมภาพนั้นตามที่ได้เจอมาก็คือ ไม่ว่าจะเหตุฉุกเฉินขนาดไหนก็ตาม ก็จะตั้งสติอยู่เฉพาะหน้า พยายามที่จะแก้ไขเหตุการณ์จากหนักให้เป็นเบา จากเบาให้เป็นหาย พูดง่าย ๆ ว่า ให้เหตุการณ์นั้นออกมาให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งไม่ใช่ว่าทุกคนที่จะทำได้แบบนี้

    เนื่องเพราะว่าลูกศิษย์หลายท่านบอกว่า เมื่อเกิดแผ่นดินไหวขึ้นมา แค่ร้องเรียกให้เพื่อนอพยพลงไปข้างล่างเพื่อที่จะหนีออกสู่ที่โล่ง ปรากฏว่าเพื่อนแข้งขาอ่อน เดินไม่ไหวเอาดื้อ ๆ ก็มี..! นั่นคือการที่แตกตื่นจนกระทั่งขาดสติ ทำให้ไม่สามารถที่จะช่วยเหลือตัวเองได้ ซ้ำยังเป็นภาระของคนอื่นเสียอีก..!

    หลายเรื่องก็กลายเป็นเรื่องตลกขบขัน เมื่อถึงเวลาเหตุการณ์สงบแล้วนำมาเล่าสู่กันฟัง บ้างก็หัวเราะกันท้องคัดท้องแข็ง บ้างก็ได้แต่ยิ้มแหะ ๆ ให้กัน อย่างเช่นว่าคอนโดมิเนียมทุกแห่งนั้น ห้ามเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเอาไว้ แต่ปรากฏว่าเมื่อแผ่นดินไหวขึ้น ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งนั้น มีคนอุ้มแมววิ่งหนีออกมาเกิน ๒๐ ตัว..! และที่หนักที่สุดก็คือ นิติกรของคอนโดฯ แห่งนั้น ก็อุ้มหมาวิ่งออกมาด้วย..! แล้วต่างคนต่างก็มองหน้ายิ้มให้กันแบบวางหน้าไม่สนิท พูดง่าย ๆ ว่าลูกบ้านแต่ละคนฝืนข้อห้ามยังไม่พอ ผู้ควบคุมระเบียบก็ยังฝืนข้อห้ามตัวเองด้วย..!
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    21,157
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,692
    ค่าพลัง:
    +26,548
    บริษัทบางแห่งเป็นนายจ้างมาจากญี่ปุ่น เคยชินกับเรื่องของแผ่นดินไหว บอกว่า "ไม่ต้องกลัว แค่มุดลงไปใต้โต๊ะเท่านั้นก็ปลอดภัยแล้ว" แต่ลูกน้องเตือนว่า "เจ้านายครับ ที่นี่เป็นตึกของประเทศไทยนะครับ" พูดยังไม่ทันจะขาดคำ เจ้านายเผ่นนำหน้าไปแล้ว เพราะเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่านี่ไม่ใช่ประเทศญี่ปุ่น..!

    พยาบาลบางคนบอกว่าตนเองน้ำหนักประมาณ ๕๐ กิโลกรัม แต่แบกคนไข้ผู้ชายน้ำหนัก ๘๐ กิโลกรัม เพื่อวิ่งลงไปยังชั้นล่าง คนไข้เองก็ยังมีสติสวดมนต์เป็นการใหญ่ คุณพยาบาลก็ยังมีสติบอกคนไข้ว่า "ช่วยสวดเผื่อหนูด้วย" ก็เป็นเรื่องอะไรที่มาสนุกสนานเฮฮากันหลังจากเหตุการณ์ผ่านไปแล้ว แต่ว่าในช่วงนั้นน่าจะไม่ใช่เรื่องสนุกแน่นอน หรือแท็กซี่ซึ่งต่อว่าผู้โดยสารว่า "ประท้วงอะไร..ทำไมถึงต้องเขย่ารถของผม ?"

    แต่ว่าจากที่กระผม/อาตมภาพสอบถามพรรคพวกเพื่อนฝูงที่ไปร่วมงานในวันนี้ ส่วนใหญ่ก็ไปคิดว่าตนเองหน้ามืด เจ็บไข้ได้ป่วยอะไรหรือเปล่า ? เพราะว่าอยู่ ๆ ก็เวียนหัว เดินไม่ตรงทาง หรือว่านั่งอยู่ดี ๆ ก็รู้สึกว่าแผ่นดินไหววูบวาบไปหมด จะเป็นอาการ "บ้านหมุน" อย่างที่หมอเคยบอกมาหรือเปล่า ? กว่าจะรู้ว่าเป็นเรื่องของแผ่นดินไหวก็ผ่านไปพักใหญ่แล้ว เป็นต้น

    สิ่งหนึ่งที่กระผม/อาตมภาพงงมากเลยก็คือ การวัดแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว ตั้งแต่กระผม/อาตมภาพรู้ภาษามา เขาก็เรียกระดับของแผ่นดินไหวเป็นริกเตอร์สเกล ก็คือถ้าหากว่าสูงสุดก็ระดับ ๘ ขึ้นไป ต่ำลงมากว่านั้นก็ย่อยลงมาตามลำดับ

    แต่ว่าในปัจจุบันนี้ วัดการสั่นสะเทือนเป็นแมกนิจูด ซึ่งสมัยที่กระผมอาตมภาพเรียนอยู่นั้น แมกนิจูดเป็นอัตราวัดแสงสว่างของดวงดาว ไม่ใช่การวัดระดับแผ่นดินไหว..! ปัจจุบันนี้ทำไมถึงกลายเป็นวัดระดับแผ่นดินไหวเป็นแมกนิจูดกันไปหมด ท่านใดที่รู้โปรดเรียนบอกด้วยว่ามีการเปลี่ยนแปลงช่วงไหน ? คนแก่อย่างกระผม/อาตมภาพตามไม่ทัน ดังนั้น..ยังคงใช้เป็นริกเตอร์สเกลอยู่เหมือนเดิม
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    21,157
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,692
    ค่าพลัง:
    +26,548
    การที่แผ่นดินไหวครั้งนี้ ทางด้านประเทศไทยของเราแจ้งออกมาว่ารุนแรงอยู่ในระดับ ๘.๒ ริกเตอร์ ถ้าหากว่าอย่างนี้ก็บรรลัยแน่นอน เพราะอยู่ในระดับมหาภัยพิบัติเลย ขนาดแค่ ๗ ริกเตอร์สเกล ถ้าหากว่าอยู่ใต้ดินประมาณ ๔๐ - ๕๐ กิโลเมตรก็สร้างความวอดวายมาให้ไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไรแล้ว แต่นี่ถึงระดับ ๘.๒ ริกเตอร์สเกล..!

    ยังโชคดีที่ว่ารายงานที่ส่งมาก็คือเขื่อนต่าง ๆ ในบ้านเรายังไม่มีผลกระทบ เนื่องเพราะว่าจากการตรวจสอบกันแล้ว ไม่มีรอยร้าวหรือว่าสิ่งที่กระทบกระเทือนจนถึงฐานรากของเขื่อน เจ้าหน้าที่เขามีการตรวจสอบกันอยู่เป็นรายวัน รายอาทิตย์อยู่แล้ว เพราะว่าถ้ามีปัญหาขึ้นมาเมื่อไร อย่างเช่นเขื่อนวชิราลงกรณ จังหวัดกาญจนบุรี ถ้าเป็นทางถนนก็ห่างจากวัดท่าขนุน ๔ กิโลเมตร แต่ถ้าหากว่าเป็นทางแม่น้ำก็แทบจะปากเขื่อนจ่ออยู่กับวัดเลย พูดง่าย ๆ ว่าเขื่อนพังเดี๋ยวนั้น รู้เดี๋ยวนั้นก็หนีไม่ทัน เนื่องจากว่า ๔ - ๕ วินาที น้ำก็มาถึงวัดแล้ว..!

    จากการที่เขาทดสอบด้วยคอมพิวเตอร์จำลองภาพเอาไว้ ตูมแรกที่เขื่อนแตก น้ำจะทะลักมาถึงวัดที่ระดับความสูงประมาณ ๓๕ เมตร..! หลังจากนั้นประมาณ ๒ ชั่วโมงครึ่งถึง ๓ ชั่วโมง น้ำไปถึงจังหวัดกาญจนบุรี จะอยู่ระดับประมาณ ๖ เมตร แล้วพอ ๕ - ๖ ชั่วโมงผ่านไป น้ำไปถึงกรุงเทพฯ จะอยู่ระดับ ๒.๕ ถึง ๓ เมตร ซึ่งก็ยังเป็นมหาอุทกภัยอยู่ดี..!

    ดังนั้น..ท่านทั้งหลายที่เป็นห่วงว่าวัดท่าขนุนจะปลอดภัยหรือไม่ ? โปรดอย่าได้ห่วงเลย เพราะว่าการที่ทำการอธิษฐานจิตปลุกเสกวัตถุมงคลหลายวาระ พระท่านก็อนุญาตให้ป้องกันภัยพิบัติได้ พูดง่าย ๆ ว่าป้องกันภัยธรรมชาติโดยเฉพาะ ขนาดที่ให้พรเอาไว้ว่า บุคคลที่ตั้งใจบูชาวัตถุมงคล และมีการอธิษฐานภาวนาอยู่ทุกวัน ถ้าหากว่ามีความจำเป็นก็ให้เสียหายเฉพาะทรัพย์สิน จะไม่เสียหายถึงชีวิต ก็แปลว่าอย่างแย่ที่สุด เราก็สูญเสียทรัพย์สิน แต่ตัวไม่ตายแน่นอน ตราบใดที่ยังไม่ตาย โอกาสพลิกฟื้นใหม่ของเราก็ต้องมี
     
  6. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    21,157
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,692
    ค่าพลัง:
    +26,548
    หลายท่านที่แจ้งมาก็คือในระหว่างที่วิ่งหนีอยู่ ก็นึกถึงแต่หน้าหลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน กระผม/อาตมภาพก็ยังขำ ๆ อยู่ว่า ถ้าหากว่าเป็นโทรศัพท์ วันนั้นก็ต่อไม่ติดแน่นอน..! เพราะโยมจำนวนมาก ต่อสายเข้ามาพร้อม ๆ กันเยอะเหลือเกิน เรื่องพวกนี้เอาไว้เล่าเป็นเรื่องตลก หรือว่าเรื่องสนุกหลังเหตุการณ์ไปแล้ว แต่ตอนช่วงที่เหตุการณ์เกิดขึ้นอยู่นั้น เป็นเรื่องสนุกที่หัวเราะไม่ออกอย่างแน่แท้..!

    หลายท่านที่เผชิญเหตุการณ์แล้ว ก็จะรู้ว่าเราขาดสติ หรือว่ามีสติ ? ต้นทุนการปฏิบัติของเรามากหรือน้อย ? เพียงพอหรือไม่ เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินแบบนี้ ? เราจะรู้ได้ทันที ถ้าหากท่านใดรู้สึกว่าต้นทุนเพียงพอ สามารถรับมือกับเหตุการณ์ด้วยความเยือกเย็น ไม่ขาดสติ ไม่หวาดกลัว ก็อย่าได้ประมาท พยายามสร้างเสริมต้นทุนของตนเองให้มากยิ่งขึ้น แข็งแกร่งยิ่ง ๆ ขึ้นไป

    ท่านใดที่รู้ตัวว่ายังขาดสติ กำลังของการปฏิบัติของเราไม่ถึงขนาดปล่อยวางได้ ยังตื่นตกใจต่อสถานการณ์ฉุกเฉินเบื้องหน้า ทำอะไรไม่ถูก ก็จงเร่งรัดการปฏิบัติให้มากขึ้น เผื่อถึงเวลามีเหตุฉุกเฉินอีกเมื่อไร เราจะได้จัดการได้ถูก และไม่เป็นภาระของคนอื่นอีกต่อไป

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันเสาร์ที่ ๒๙ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...