โหรไทยทำนายดวง รัชทายาทรัสเซีย "อเล็กซิส"ผู้ไปไม่ถึงบัลลังก์

ในห้อง 'ดูดวง และ ทำนายฝัน' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 5 มกราคม 2006.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,174
    [​IMG]นอกจากอวัยวะครบ 32 ประการ ที่มีมาแต่แรกเกิดแบบคนปกติทั้งหลายแล้ว ในมนุษย์แต่ละคนยังมี "ดวงชาตา" ติดตัวมาแต่กำเนิดอีกด้วย ดวงชาตาที่หลายคนเชื่อถืออย่างจริงจัง หลายคนไม่กล้าเชื่ออย่างเปิดเผย และมักเลี่ยงว่านี้เป็นเรื่อง "ไม่เชื่ออย่าลบหลู่" โหราศาสตร์จึงเข้ามาเกี่ยวข้องกับผู้คนในแต่ละช่วงเวลาชีวิตทุกยุคเรื่อยมา ด้วยการทำนายเหตุการณ์ที่คาดว่าจะเกิดในอนาคต ซึ่งมี "วันเวลา" เป็นสิ่งพิสูจน์ความแม่นยำของคำพยากรณ์

    ดังเช่นดวงพระชาตาของมกุฎราชกุมารรัสเซีย *"อเล็กซิส"* ที่ *ฉลอง สุนทราวาณิชย์* นำเสนอใน *"ศิลปวัฒนธรรม"* ฉบับเดือนมกราคม



    *ดวงคน-ดวงเมือง*

    มกุฎราชกุมารรัสเซียพระองค์นี้คือ พระราชโอรสที่ *พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2* ทรงรอคอยมาถึง 10 ปี เมื่อมีพระประสูติกาล *พระยาศรีธรรมสาสน* (ทองดี สุวรรณศิริ) อัครราชทูตไทยประจำประเทศรัสเซีย ได้โทรเลขทูลฯ *กรมหลวงเทวะวงศ์ฯ* เสนาบดีต่างประเทศของไทย และมีการนำความขึ้นกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้ทราบ

    ซึ่งนอกจากการส่งโทรเลขแสดงยินดีกลับไปแล้ว สำหรับ "รัสเซีย" ซึ่งเป็นมิตรประเทศและความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของราชวงศ์โรมานอฟกับราชวงศ์จักรี พระเจ้าอยู่หัวรับสั่งให้โหรหลวงประจำราชสำนักผูกดวงมกุฎราชกุมารถวายอีกด้วย

    *กรมขุนสมมตอมรพันธ์* ราชเลขานุการ เป็นผู้ดำเนินตามพระราชประสงค์ โดยให้หลวงโลกทีป โหรหลวงเป็นผู้ดำเนินการ มีใจความดังนี้

    "ร่างหนังสือกรมราชเลขานุการ ที่ 66/884 วันที่ 24 กันยายน ร.ศ.123

    ถึงหลวงโลกทีปด้วยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ท่านผูกดวงพระชาตาแกรนดดุกอาเลกซิส มกุฎราชกุมารกรุงรัสเซียทูลเกล้าฯ ถวาย ได้จดหมายวันประสูตรพร้อมกับหนังสือนี้แล้ว

    ประสูตรวันที่ 30 กรกฎาคม คฤสตศักราช 1940 เวลาบ่ายโมง 1 กับ 15 นาที ตามวิธีวันที่ใช้ในประเทศรัสเซีย แลเวลาที่กรุงเซนตปิเตอสเบอค วันรัสเซียช้ากว่าวันที่ใช้อยู่ในกรุงเทพฯ 13 วัน ต้องเอา 13 บวก เวลาที่กรุงเซนตปิเตอสเบอคแก่กว่าเวลาที่เมืองกรินิช 2 โมง 1 นาที 13 วินาที เวลาที่กรุงเทพฯ แก่กว่าเวลาที่เมืองกรินิช 6 โมง 41 นาที 52 วินาที

    เอาอันน้อยลบอันมาก ตกเปนเวลากรุงเทพฯ แก่กว่าเวลาที่กรุงเซนตปิเตอสเบอค 4 โมง 40 นาที 39 วินาที ต้องเอาไปบวกเวลาประสูตร จึ่งตกเปนวันเวลาในกรุงเทพฯ เปนวันที่ 12 สิงหาคม รัตนโกสินทร์ศก 123 เวลาบ่าย 5 โมง กับ 55 นาที 39 วินาที นี้เปนวันแลเวลาที่จะผูกดวง"

    3 วันให้หลัง กรมขุนสมมตอมรพันธุ์ได้รับคำทำนาย 2 ฉบับ หนึ่งเป็นของหลวงโลกทีป อีกหนึ่งเป็นของหลวงไตรเพท แต่คำทำนายของโหรหลวงแห่งราชสำนักสยามทั้งสองกลับไม่ได้เผยแพร่ต่อสาธารณชน



    *โหรไทยแม่นๆ*

    คำทำนายฉบับที่ 1 ของหลวงโลกทีปทำนายตามเวลาที่กรุงเทพฯ ทำนายว่า "แกรนดดุกอาเลกซิสมกุฎราชกุมาร ประสูตร์ วันที่ 12 สิงหาคมรัตนโกสินทรศก 123 ตรงกับคฤศตศักราช 1904 ซึ่งตรงตามจันทรคติ ณ วัน 6 ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 9 ปีมะโรง ฉอศกศักราช 1266 เวลาบ่าย 5 โมง กับ 55 นาที 39 วินาที ตามวิธีเวลาที่ใช้ในกรุงเทพ...

    วัน 6 เปนวันมรณะแลอุปาสนะโลกยวินาศน์ ด้วยในคัมภีร์อุทาสินรามัญ พยากรณ์ว่า ใครอุบัติวันนั้นย่อมเปนผู้มาแต่นรก มักชอบบริโภคอาหารอันประกอบไปด้วยของสดคาว และเสพย์มากกว่ามนุษย์ธรรมดา...

    พระเคราะห์ราหูเปนกาฬกิณีสถิตย์ณราษีสิงห์ แลเปนปัตนิในคัมภีร์พยากรณ์ว่า ญาติสาโลหิตจะมีความรังเกียจติเตียนหาเหตุต่างๆ ให้เสื่อมเสียซึ่งวงษ์ตระกูล...

    อนึ่ง แม้จะมีอำนาจหรือกำลัง ก็ไม่เปนที่ยำเกรงแก่บุคคล กับจะได้รับผลแห่งความประมาท ล่วงเลยจนถึงตระกูล...

    ตามพื้นแห่งชาตานี้ รวมใจความตามในคำพยากรณ์ว่า ตั้งแต่อุบัติ์คู่ครรภ์มารดามา กระทำให้บิดามารดาแลญาติสาโลหิต ทั้งข้าทาษกรรมกรมีความวิวาทพรัดพรากจากกันแลกันไม่ใคร่ขาด ทั้งสัตรูหมู่อมิตร์มีความหมิ่นประมาทโดยมาก ย่อมจะได้รับความทุกข์ยากก่อน จึงจะได้รับผลแห่งความศุขต่อภายหลัง"

    ส่วนอีกฉบับหนึ่งเป็นคำทำนายของหลวงไตรเพท ทำนายตามเวลาที่รัสเซียว่า "แกรนดดุกอาเลกซิสมกุฎราชกุมาร ประสูตร์ วันที่ 12 สิงหาคมรัตนโกสินทรศก 123 ตรงกับคฤศตศักราช 1904

    ตามจันนทรคติซึ่งตรงกับ ณ วัน 6 9 ค่ำ ปีมะโรงฉอศักราช 1266 เวลาบ่าย 1 โมง กับ 15 นาที ตามวิธีเวลาที่ใช้ในประเทศรัสเซียนั้น ลักขณาสถิตย์ ณ ราษีดุล เกาะฉัฐณะวางค (5) ทติยตรียางค์ (7) เสวยสวัสดิ์ฤกษ์ 15 ประกอบไปด้วยเทวีแห่งฤกษ์

    ขอพระราชทาน ดวงชาตาดังนี้ ซึ่งชนกกรรมนำมาอุบัติบังเกิดในตระกูลใดๆ ก็ดีในชั้นต้น จัดเปนอะวะชาตบุตร์ คงประพฤติตนอย่างหินชาติ์อันต่ำช้า

    คือพระเคราะห์(ศุกร์) เปนตนุร่วมราษีแห่งกาฬกิณีแลเปนลาภะกับลักขณา(ทำนายว่า) ถึงจะมีตระกูลอันสูงศักดิ์ฉันใดก็ดี ย่อมเสื่อมอำนาจราชศักดิ์ โดยอกุศลกรรมซัดให้เปนคนถอยต่ำกว่าตระกูล...

    พระเคราะห์(พุฒ) เปนกะดุมภะอยู่ด้วยกาฬกิณีณราษีสิงห์(ทำนายว่า) ทรัพย์สมบัติทั้งปวงจะอุดมภ์สักเท่าใด ก็ไม่อาจคุ้มครองป้องกันไว้ได้ หรือสัมพันธุมิตร์แลวงษ์ญาติ์ย่อมจะแตกต่างทางสามัคคี ไม่เปนที่บำรุงซึ่งกันแลกันให้รุ่งเรืองเจริญได้..."

    โดยคำทำนายทั้ง 2 ฉบับ สรุปความได้ตรงกันว่า แกรนดดุกอาเลกซิส มกุฎราชกุมารรัสเซีย จะเป็นเหตุให้ทรัพย์สมบัติ อำนาจ ราชศักดิ์ของราชวงศ์โรมานอฟล่มสลาย เมื่อพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทอดพระเนตรคำพยากรณ์ "อวมงคล" ของโหรหลวงประจำราชสำนัก ความตั้งพระทัยจะส่งไปแสดงความยินดีกับพระเจ้าซาร์นิโคลัส ที่ 2 จึงถูกระงับไว้ พร้อมรับสั่งสั้นๆ ว่า "ให้หลวงประสิทธิ์ดู แล้วหาที่เก็บไว้ให้ดี"

    แต่คำทำนายของโหรหลวงในปี พ.ศ. 2447 ได้พิสูจน์ความแม่นยำของมันเอง ภายหลังจากนั้น 13 ปี เมื่อเกิดการปฏิวัติล้มล้างราชวงศ์โรมานอฟ และสถาปนารัฐสังคมนิยมขึ้นในประเทศรัสเซีย ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2460



    *ไปไม่ถึงบัลลังก์*

    นับตั้งแต่ประสูติมกุฎราชกุมารอเล็กซิส ทรงพระประชวรด้วยโรคโลหิตชนิดหนึ่ง(Haemophilia-โรคโลหิตไหลไม่หยุด) ที่ไม่มีวิธีรักษาให้หายขาด อาการประชวรขององค์รัชทายาทส่งผลกระทบต่อครอบครัว ราชวงศ์โรมานอฟ และประเทศรัสเซีย *นายปีแอร์ ยิลเลียร์ด* พระอาจารย์ชาวสวิสกล่าวว่า

    "การประชวรขององค์มกุฎราชกุมารได้นำเงามืดมาสู่ระยะสุดท้ายของรัชกาลพระเจ้าซาร์นิโคลัส ที่ 2... การประชวรนี้เป็นสาเหตุสำคัญอันหนึ่งที่นำความหายนะมาสู่พระองค์ เพราะการประชวรนี้เองที่เปิดโอกาสให้ *รัสปูติน* ได้เข้ามามีบทบาท และทำให้ราชสำนักต้องห่างเหินจากโลกภายนอกมากขึ้นอย่างน่ากลัว..."

    รัสปูตินเป็นนักบวชลึกลับจากไซบีเรีย ที่สามารถทำให้อาการของมกุฎราชกุมารทุเลาบรรเทาลงเสมือนบุคคลปกติ เขาจึงกลายเป็นที่โปรดปรานของ *พระมเหสีอเล็กซานดรา* นอกจากนี้แนวคิดของรัสปูตินที่เห็นว่า "ชาวนารัสเซียถือว่าซาร์เป็นเสมือนผู้แทนของพระเจ้าในโลก ดังนั้น จึงต้องการเห็นซาร์ที่ทรงอำนาจสิทธิขาดเหมือนเทวราช" เป็นแนวคิดที่สอดคล้องกับความปรารถนาของพระเจ้าซาร์นิโคลัส ที่ 2 ที่ต้องการให้พระโอรสสืบต่อราชบัลลังก์ในฐานะของซาร์ที่แท้จริง ซึ่งขัดแย้งกับภาวะการเปลี่ยนแปลงในสังคมรัสเซียขณะนั้น

    บทบาทของรัสปูตินต่อราชการแผ่นดินรัสเซียมีมากยิ่งขึ้น เมื่อรัสเซียเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 1 (พ.ศ. 2475) พระมเหสีอเล็กซานดราเข้ามาบริหารราชการแทนพระเจ้าซาร์นิโคลัส ที่ 2 ปรับบทบาทเป็นผู้บัญชาการสูงสุด โดยมีรัสปูตินเป็นที่ปรึกษาอยู่เบื้องหลัง ทำให้สถานการณ์ของราชสำนักรัสเซียคับขันยิ่งขึ้น

    ในที่สุดสมาชิกของราชวงศ์จำนวนหนึ่งได้ร่วมกันกำจัดรัสปูติน แต่นั้นไม่ได้ทำให้ภาพลักษณ์ของราชวงศ์โรมานอฟในสายตาชาวรัสเซียดีขึ้น ก่อนที่จะจบลงด้วยการปกครองบ้านเมืองรูปแบบใหม่ "สังคมนิยม" พระเจ้าซาร์นิโคลัส ที่ 2 และครอบครัวถูกคุมขังไว้ในไซบีเรียตะวันตก ก่อนที่พระองค์จะถูกลอบปลงพระชนม์

    ความคิดสร้างสรรค์ที่ต้องการใช้ "ดวงชาตา" เป็นของขวัญในการแสดงความยินดีที่สุดพิเศษ แต่แรกกลับต้องถูกเก็บเงียบไปพร้อมกับความสามารถของโหรไทย นับจากรับสั่งในปี พ.ศ. 2447 จนถึงวันนี้ต้องใช้เวลากว่า 100 ปี จึงมีการเปิดเผยข้อมูลชุดนี้ ใน "ศิลปวัฒนธรรม" ฉบับเดือนมกราคม

    เชื่อว่าอีก 10 ปี 20 ปี...100 ปี คงมีเรื่องที่เราไม่เคยรับรู้ปรากฏขึ้นมาอีก แต่มันจะเป็นเรื่องดีงาม หรือเลวร้ายของใคร? ออกมาให้ฟันธง!!
     

แชร์หน้านี้

Loading...