จิตพุทธะสว่างขึ้นได้ในชั่วปัจจุบันขณะจิตเดียว

มะราสั่งหยุด

 

เนซึโกะจัง เรืองนี้ดีคับ เป็นควมผูกพันธ์ ระหว่างพี่น้อง

 

รอ ss2

 

คับ netflix
ดูแนนโน๊ะไปก่อนนะคับ

 

สลายเปงผง ไม่ดู มะรุ อะระ ทะนั้ง

สลายเปงผง

สลายเปงผง

สังยายะนื่อเกอะขื้
สังยายะนื่อลบปาย เอ้ย ด่ะไป

 

ถ้ายังงั้นก็แค่รู้ว่าการยึดขันธ์ 5
เป็นอัตตาตัวตน
เป็นอวิชชา
ส่วนการจะลงแก่ใจว่ามันเป็นความจริง
หรือไม่
แค่ไหนก็ต้องใช้การพิจารณา
เอาตามจริตของแต่ละคน
จะอาศัยอสุภะหรือจะแยกชิ้นส่วน
หรือสติปัฏฐาน4

 

ขอขอบพระคุณความดีที่แท้จริงแม้ผมจะเป็นความชั้วที่แท้ทรูก็เหอะนะ

 

เวลาคนดี... จะทำดี... ทำง่าย
เวลาคนชั่ว...จะทำดี..ทำยาก
มันอยู่ที่จิตเคยคุ้นกับฝั่งไหน...
....ฝั่งกุศลหรือฝั่งอกุศลฮับ
เวลาอาบน้ำอุ่น... เปิดเครื่องให้อุณหภูมิสูงๆ
โดนทีแรก.... มีสะดุ้งฮับ
แต่สักพักมันจะชิน.... กับความร้อน
จนไม่รู้สึกว่ามันร้อน...และอยุ่กับมันได้
คนที่คลุกกับจิตที่เป็นอกุศล...เหมือนกัน
มันจะชินกับอกุศล
จากที่ตอนจะทำความผิดใดๆ...
...จะมีสำนึกมาเตือน...
มันจะเริ่ม.... รู้สึกว่าเรื่องผิดนั้นเป็นเรื่องปกติ
แบบเดียวกับที่เราชินความร้อน
...ของเครื่องทำน้ำอุ่น

แต่คนชั่วก็พ้นทุกข์ได้....
....ถ้าปฎิบัติตามมรรคแปด
มรรคแปดเป็นการชำระตรงไปที่ตัวจิต
มีการเพียรละอกุศล...ในจิต
แทนที่ด้วยกุศล...ในจิต...
...ด้วยการรู้ลมหายใจ
ค่อยๆเปลี่ยนจากเคยชินกับน้ำร้อน
เป็นชินกับน้ำอุณหภูมิปกติ
ยังไงต้องมีความเพียรอยู่....

จิตตรงไหนที่พอดี?
คือ จิตที่ไม่กระวนกระวาย เพราะอกุศล
แต่เป็นจิตที่เป็นปกติ...
ไม่ไปทางลบ และไม่ไปทางบวก
ไม่ใช่มีสติท่ามกลางความกระวนกระวายใจ

ที่ถูกคือ
..การมีจิตที่ไม่คิดเบียดเบียด(ศีล)
..การเพียรทิ้งอกุศลจิต และอยู่กับกุศลจิต
คือรู้ลมหายใจ จิตเป็นอุเบกขา
ทุกครั้งที่ทิ้งอกุศล...จิตจะตั้งขึ้น เป็นกลาง
..แล้วตามดูความจริง...ของขันธ์
...ไปสู่การเห็นความจริงของสรรพสิ่ง

มรรคแปดยังต้องอาศัยความเพียร
และจะเปลี่ยนจากบ่อน้ำเน่า...เป็นน้ำสะอาด
ค่อยๆตักน้ำเน่าออก... คือละอกุศลจิต
แล้วเติมน้ำสะอาดลงไป...คือเจริญกุศลจิต
จิตจะเป็นกลาง...
และอาศัยความเป็นกลางนี้...เห็นความจริง
...ตามความเป็นจริงเอา
จิตจึงปล่อยการยึดขันธ์5ลงได้ฮับลุงแมว

 

ความเป็นพาลมันเป็นง่ายเหลือเกิน
ไม่ต้องมีฉันทะ วิริยะ ศรัทธาใดๆ
ส่วนการเป็นพุทธะ ต้องอาศัย
ฉันทะ วิริยะ ศรัทธาอย่างมั่นคง
จึงจะผ่านได้คับ

 

Copy that, Sir. Consider it done, Sir!!! ผมขอน้อมรับคำแนะนำและรับทราบเจตนารมณ์ของคุณลุงแมวที่ลุงแมวโพสต์ระบุไว้นี้ในอ้อมอก อ้อมใจน้อยๆ ของผม และจะนำไปปฏิบัติตามด้วยความยินดียิ่ง อย่างไม่มีเงื่อนไขใดๆครับ _/|\_

หากว่าท่าน “แมวอาวุโส” อย่างลุงแมวสะดวกและมีเวลาว่าง… “แมวหนุ่ม” อย่างผมขอรบกวนท่าน “แมวอาวุโส” ช่วยกรุณาย้อนกลับไปอ่านพิจารณาในโพสต์ #507 #519 นี้ ดูอีกสักทีอย่าง พินิจพิเคราะห์ โดยใช้ โยนิโสมนสิการ จะได้หรือไม่ครับ? In my humble opinion and frankly speaking, it is quite informative as well as enlightening facts for you. You can't miss it!!! Thanks

 

แหม่ๆๆถ้าเกิดความชั้วผมตายขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ

 

คำถามแบบนี้เป็นแค่
ระดับจิตที่เป็นพาล
เนื่องจากห่วงใยแม้กระทั่ง
ความชั่ว ความดีไม่ห่วง 555

 

555สุดจัด

 

คุณพี่ @หมูไม้ละ5 นี่ช่างเป็นผู้ชายที่อยากโดนจับปืน ที่แสดงธรรมได้สุนทรีย์ แยบคาย และ ลึกซึ้งยิ่งนัก… มีการใช้สำนวนโวหาร Metaphor เปรียบเปรย “เวลาอาบน้ำอุ่น” “เครื่องทำน้ำอุ่น” กับ “คนที่คลุกกับจิตที่เป็นอกุศล” มันช่าง ลึกซึ้ง และ เนี๊ยนเนียน (^ ^) ยิ่งนักครับพี่… คุณพี่คิดเช่นนั้นได้อย่างไรครับ!!! สาธุในข้อธรรมะที่คุณพี่ได้โพสต์กล่าวไว้ดีแล้วครับ _/|\_

ผมสงสัยนิดนึงว่าที่บ้านคุณพี่นั้นใช้เครื่องทำน้ำอุ่นยี่ห้อใดครับ?

 

ทำไมตอนชั่วเจอธรรมดีเป็นทุข ตอนดีเจอธรรมชั่วเป็นทุก

 

555

 

ใครจะตายก่อนกัน55