ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย อีกครั้งที่ “ญี่ปุ่น” อาจอดจัดกีฬาโอลิมปิก
    ต้องลุ้นกันวันต่อวันสำหรับ “ญี่ปุ่น” โดยอาจจะอกหักเป็นครั้งที่ 2 หากไม่ได้เป็นเจ้าภาพจัดกีฬาโอลิมปิก 2020 หลังจากครั้งแรกโดนยกเลิกจากพิษสงครามโลก...
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เมืองคอนพบโควิด-19 อีก 1 เป็นกลุ่มจากสนามมวย กักตัวคนที่มาด้วยดูอาการ
    เมืองคอน ล่าสุดติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีกราย เป็นชายกลับจากสนามมวยลุมพินี โดยเข้ารักษาใน รพ.แห่งหนึ่งแล้วพร้อมนำคนที่นั่งรถตู้กลับมาด้วย 5-6 คน กันกักตัวดูอาการ ทำให้รวมทั้งจังหวัดป่วย 2 ราย
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แพทย์หญิงอังกฤษ เล่าประสบการณ์เอาชนะ ‘โควิด-19’ ล้มป่วยเจ็บคอราวมีดปาด
    แพทย์หญิงชาวอังกฤษวัย 60 ปี เล่าประสบการณ์เอาชนะโควิด-19 หลังล้มป่วยจากการติดเชื้อไวรัสมรณะ ชี้ อาการต่างจากไข้หวัดใหญ่ เริ่มจากไอแห้งๆ เจ็บคอมากราวกับโดนมีดปาด ไข้สูง หนาวสั่น
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    'ไทยทำสำเร็จ' ชุดตรวจเชื้อ COVID-19 รู้ผลเร็วเหมือนตรวจตั้งครรภ์ ต้นทุน 475 บาท

    • สถาบันวิทยสิริเมธี - คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล - ปตท. จับมือพัฒนาชุดตรวจไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 เผยรู้ผลเร็วเหมือนตรวจหญิงตั้งครรภ์ ต้นทุนถูกไม่ถึง 500 บาท ระบุใช้อุปกรณ์ในไทยทั้งหมด

    • สำหรับชุดตรวจ COVID-19 ทางสถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) โดยความสนับสนุนจาก การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) ร่วมมือกับ 'กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข' ใช้เทคนิค CRISPR Diagnostic เพื่อลดเวลาที่ต้องใช้ในการตรวจวินิจฉัยโรค

    • ซึ่งปัจจุบันต้องทำในห้องปฎิบัติการทางวิทยาศาสตร์ ใช้เวลา 4 - 6 ชั่วโมง ให้สามารถตรวจวินิจฉัยได้รวดเร็วแม่นยำยิ่งขึ้น และต้นทุนในการตรวจต่ำที่สุด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการวินิจฉัยโรคนี้ของหน่วยงานสาธารณสุขและโรงพยาบาลในประเทศไทย

    • ทั้งนี้ ผลการผลิตและทดสอบชุดตรวจวินิจฉัย COVID-19 ในห้องปฏิบัติการ โดยคณะนักวิจัยของ VISTEC ได้ผลดังนี้

    ❶ ลอง VISTEC Test Kit Diagnostics เพื่อตรวจจับไวรัส COVID-19 ได้ผลดีมาก การตรวจวินิจฉัยรวดเร็วเหมือนการทดสอบหญิงตั้งครรภ์

    ❷ วันอาทิตย์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2563 มีการทดสอบ โดยการใช้เชื้อไวรัส COVID-19 ของจริง ที่โรงพยาบาลศิริราช

    ❸ ต้นทุนค่าใช้จ่าย ในการจัดทำชุดอุปกรณ์ตรวจวัดทุกอย่าง ในเมืองไทยประมาณ 15 US$ หรือประมาณ 475 บาท

    • กล่าวโดยสรุป •

    ❶ VISTEC สามารถใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ผลิตชุดตรวจจับไวรัส COVID-19 ได้สำเร็จในเวลาอันสั้น เป็นคณะแรก ๆ ของโลก

    ❷ ชุดตรวจวัดนี้ เมื่อผลิตเป็นจำนวนมากจะช่วยให้ไทยรับมือกับการระบาดของไวรัสระยะที่ 3 ได้ดียิ่งขึ้น เพราะ มีราคาถูกมาก ใช้เวลาตรวจสั้น มีความไวสูง และผลิตได้เองภายในประเทศ

    ❸ VISTEC / ปตท. พร้อมที่จะถ่ายทอดเทคโนโลยี ให้กับหน่วยงานของรัฐนำไปผลิตเป็นชุดตรวจในปริมาณมาก ๆ

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แบ่งปันจาก Richard Whitt

    'เนเธอร์แลนด์' คิดแผนอุบาทว์ 'ปล่อยประชาชนติดเชื้อ' COVID-19 'หวังหายแล้วจะได้มีภูมิคุ้มกัน'

    • เว็บไซต์ The Irish Times ของไอร์แลนด์ เสนอข่าว Coronavirus : Dutch Adopt Controversial Herd Immunity Strategy อ้างคำให้สัมภาษณ์ของ 'มาร์ค รูตต์' (Mark Rutte) นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ เมื่อวันจันทร์ที่ 16 มีนาคม ค.ศ. 2020 ว่า 'รัฐบาลมีแผนที่จะยอมให้ประชาชนติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ COVID-19 เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้เกิดขึ้น เนื่องจากทราบดีว่าในอนาคตอันใกล้ชาวดัตช์ส่วนใหญ่จะติดเชื้อ ซึ่งแผนนี้จะใช้เวลาหลักเดือนในการสร้างภูมิคุ้มกัน และระหว่างนั้นต้องป้องกันกลุ่มเสี่ยงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้'

    • รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมามีข้อถกเถียงเรื่องแผนการปล่อยให้ติดเชื้อเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน โดยฝ่ายสนับสนุนคือ 'อันเดรส เทกเนลล์' (Anders Tegnell) นักระบาดวิทยาชาวสวีเดน และ 'แพทริค วาลแลนซ์' (Patrick Vallance) หัวหน้าที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ของสหราชอาณาจักร กับฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยคือ 'องค์การอนามัยโลก' (WHO) โดย 'มาร์กาเร็ต แฮร์ริส' (Margaret Harris) โฆษกองค์การอนามัยโลก กล่าวว่า 'ขณะนี้มนุษย์ยังไม่รู้เกี่ยวกับไวรัส COVID-19 มากพอว่ามันทำอะไรได้บ้างในแง่ภูมิคุ้มกัน เพราะเป็นโรคที่เพิ่งเกิดใหม่'

    • เช่นเดียวกับ 'จูดิธ วาสเซอร์เฮท์' (Judith Wasserheit) นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน แผนกสาธารสุขโลก หรือ University of Washington Department of Global Health 'ที่แสดงความเป็นห่วงว่าไม่ใช่เรื่องง่ายในการแยกประชากรกลุ่มเปราะบาง' เช่น ผู้สูงอายุ ออกจากประชากรอายุไม่มากได้ 'อีกทั้งยังไม่แน่ชัดว่าหากกระตุ้นจนเกิดภูมิคุ้มกันได้จริง ภูมิคุ้มกันนั้นจะแข็งแรงและอยู่กับร่างกายไปยาวนานเพียงใด'

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #กรมราชทัณฑ์ สั่งปิดเรือนจำทั่วประเทศ ห้ามญาติเดินทางเข้าไปเยี่ยมผู้ต้องขังเป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 18-31 มีนาคม เพื่อลดความเสี่ยงแพร่ระบาด #โควิท19 เข้าสู่เรือนจำที่มีผู้ต้องขังรวมกว่า 3 แสนคน ที่เป็นพื้นที่ละเอียดอ่อน เสี่ยงต่อการระบาด

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    FB_IMG_1584451414073.jpg

    (Mar 17) ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับเกณฑ์ Ceiling & Floor และ Circuit Breaker ชั่วคราว : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในภาวะที่ตลาดมีความผันผวนอย่างมากจากปัจจัยภายนอก ทั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของทั่วโลก ซึ่งที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ปรับปรุงเกณฑ์ short selling ให้ทำได้เฉพาะในราคาที่สูงกว่าราคาซื้อขายล่าสุด (uptick) เป็นมาตรการแรกตั้งแต่การซื้อขายภาคบ่ายของวันที่ 13 มีนาคม 2563 เป็นต้นมา

    อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายยังมีความผันผวนอย่างต่อเนื่อง ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงปรับปรุงเกณฑ์การกำหนดราคาเสนอซื้อขายสูงสุดและต่ำสุด (Ceiling & Floor) และเกณฑ์การหยุดการซื้อขายโดยอัตโนมัติ (Circuit Breaker) เป็นการชั่วคราวจนกว่าตลาดจะเข้าสู่ภาวะปกติ เพื่อลดความผันผวนของภาวะตลาดในปัจจุบัน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม 2563 และไม่เกิน 30 มิถุนายน 2563

    ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ติดตามและกำกับดูแลการซื้อขายอย่างใกล้ชิด และเชื่อว่ามาตรการปรับปรุงเกณฑ์ต่าง ๆ ที่ออกมานั้น จะมีส่วนช่วยให้เสริมเสถียรภาพของตลาดและสร้างความมั่นใจในการลงทุนให้แก่ผู้ลงทุน

    Source: การเงินธนาคารออนไลน์
    https://www.moneyandbanking.co.th/article/set-shortselling-17032020
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รัฐบาลเมียนมาร์ ออกคำแถลง ขอความร่วมมือแรงงานพม่า 4 ล้านคนในไทย อย่ากลับประเทศ
    .
    “อิระวดี” เว็บไซต์ข่าวชื่อดังของเมียนมาร์ รายงานข่าว รัฐบาลเมียนมาร์ ออกคำแถลงขอความร่วมมือ แรงงานเมียนมาร์ในประเทศไทย ไม่ให้เดินทางกลับบ้านเกิดในช่วงเทศกาล “ถิ่งยาน” หรือ “สงกรานต์พม่า” ในปีนี้ โดยทางการเมียนมาร์ขอให้แรงงานทั้งหมด ปักหลักใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทย เพื่อหลีกเลี่ยงการนำเอาเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้าไประบาดที่เมียนมาร์
    .
    การออกโรงขอร้องไม่ให้แรงงานเมียนมาร์เดินทางกลับไปฉลองปีใหม่มีขึ้น หลังจากที่มีการยืนยันว่า ขณะนี้มีเพียงแค่เมียนมาร์ กับลาว เพียง 2 ประเทศเท่านั้นในกลุ่มอาเซียนที่ยังไม่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แม้แต่รายเดียว ขณะที่สมาชิกอาเซียนอีก 8 ประเทศ คือ ไทย กัมพูชา มาเลเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และบรูไน ต่างพบผู้ติดเชื้อกันหมดแล้ว
    .
    ทั้งนี้ สื่อดังของเมียนมาร์รายงานว่า จำนวนของแรงงานชาวเมียนมาร์ที่เข้ามาทำงานในไทย น่าจะมีจำนวนมากกว่า 4 ล้านคน

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เมียนายก อบจ.ฉะเชิงเทรา ติดโควิด-19 ผู้ว่าฯ สั่งยกระดับปิดสถานที่เพิ่ม
    เพจ “ผู้ใหญ่ไก่รักแปดริ้ว” เผย นางสุรวดี ภรรยา นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา ล่าสุดติดเชื้อโควิด-19 ตามสามีเข้า รพ.รักษาตัวแล้ว ด้าน ผวจ.ฉะเชิงเทรา ยกระดับป้องกัน สั่งปิดสถานที่ต่างๆ เพิ่มอีก
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #เกาหลีใต้ ปิ๊งไอเดีย: จาก Drive-thru สู่ Walk-thru

    ✒️COVID-19 Creative Award goes to South Korea!!!! ควรได้รางวัลครีเอทีฟอวอร์ด

    สำหรับคนไม่มีรถ
    3 นาทีเก็บตัวอย่างเสร็จ
    บุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อจากสารคัดหลั่งได้ยากขึ้น
    เป้าหมาย 1 วัน: 70 ราย
    ใช้เวลาทำความสะอาดประมาณ 2 นาทีหลังจากใช้เสร็จ

    #กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น #เกาะติดไวรัสโคโรนา
    #เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ #อู่ฮั่น #COVID-19 #โควิด19

    ภาพ: J-channel

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #ปลอกหน้ากากอนามัย เสียเวลาทำนิดเดียวแต่มันช่วยได้จริงๆนะคะ

    1. ช่วยยืดอายุการใช้งานของหน้ากากอนามัย
    2. ลดการระคายเคืองบนใบหน้าที่เกิดจากหน้ากากอนามัย
    3. ซักได้ ใช้ซ้ำได้ ลดขยะหน้ากากอนามัยด้วย
    4. ไม่มีตะเข็บกลาง ลดโอกาสที่เชื้อโรคจะเข้าสู่ทางเดินหายใจ....ไปค่ะ

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พบตำรวจติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 7 นาย เฝ้าระวังอาการอีกเพียบ

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “จีน” แนะนำวิธีปฏิบัติตัวเมื่อต้องไปทำงานช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัส สายพันธุ์ใหม่ แจกแจงละเอียดตั้งแต่วิธีการเดินทางไปทำงาน การใช้ชีวิตในที่ทำงาน พักเที่ยง รวมไปถึงหลังเลิกงาน

    วันนี้ (15 มี.ค.) เฟซบุ๊ก Chinese Embassy Bangkok สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอความยาว 1.25 นาที เป็นเกร็ดในการป้องกันตัวจากเชื้อโคโรนาไวรัส สายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 (预防新冠病毒指南) ที่จัดทำโดยทีมงานไชน่า เดลี สื่อภาษาอังกฤษของทางการจีน โดย

    • ระหว่างทางไปทำงาน
    - ให้สวมใส่หน้ากาก
    - วิธีที่ดีที่สุดในการไปทำงานคือการเดินเท้า หรือขี่จักรยาน
    - ถ้าต้องใช้ระบบขนส่งสาธารณะให้ยืนห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 1-2 เมตร

    • เมื่อถึงที่ทำงาน
    - พยายามใช้บันได
    - ถ้าต้องขึ้นลิฟต์ให้ใส่หน้ากาก และพยายามหลีกเลี่ยงที่จะสัมผัสสิ่งต่างๆ ในลิฟต์

    • ระหว่างการทำงาน
    - ให้ใส่หน้ากากระหว่างทำงานด้วย
    - ทำความสะอาดจุดที่มีผู้คนพลุกพล่าน และสิ่งของที่ใช้ร่วมกันอย่างน้อยวันละครั้ง
    - เปิดหน้าต่างบ่อยๆ เพื่อให้อากาศถ่ายเท
    - ปิดระบบปรับอากาศแบบรวมศูนย์ (Central air conditioning) หรือปรับให้เป็นระบบหมุนเวียนอากาศภายนอกด้วย
    - ใช้ระบบการติดต่อสื่อสารผ่านออนไลน์
    - หลีกเลี่ยงการประชุมแบบปกติ โดยให้ใช้ระบบประชุมผ่านจอภาพ (Video Conference) แทน

    • ระหว่างพักกลางวัน
    - หลีกเลี่ยงช่วงที่ผู้คนพลุกพล่าน
    - หากเป็นไปได้ให้ใช้วิธีนำกลับไปรับประทาน (Takeout)
    - ล้างมือก่อนและหลังการรับประทานอาหาร
    - หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น

    • หลังเลิกงาน
    - อย่าไปงานปาร์ตี้หรืองานเลี้ยงหลังเลิกงาน
    - อย่าไปโรงภาพยนตร์ ร้องคาราโอเกะ หรือห้างสรรพสินค้า

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #คดีผีสวมสิทธิ์ที่เกาหลีใต้
    #แง่คิดจากระบบจัดการหน้ากากของชาวโสมขาว

    ช่วงนี้ที่เกาหลีใต้ ที่กำลังวุ่นๆกับการจัดการแพร่ระบาดของ Covid-19 ก็เกิดคดีแปลกๆ ที่ชาวบ้านถึงกับต้องขึ้นโรงพักกันเป็นจำนวนมากในหลายพื้นที่ เหตุเพราะโดนสวมสิทธิ์บัตรประชาชน

    ต้นเรื่องเกิดจากรัฐบาลเกาหลีใต้ ออกมาตรการเกี่ยวกับการจัดจำหน่ายหน้ากากอนามัย โดยระบุให้ชาวเกาหลีใต้ 1 คน สามารถซื้อหน้ากากได้ 2 ชิ้น ในแต่ละสัปดาห์ และจำเป็นต้องแสดงหลักฐานบัตรประชาชน ก่อนซื้อด้วย เพื่อกันการเวียนซื้อซ้ำ

    แต่ก็ปรากฏพบเหตุแอบสวมสิทธิ์กัน บ้านอยู่ทางเหนือ แต่กลับมีคนใช้สิทธิ์ไปซื้อหน้ากากที่เมืองใต้ คนละเขต คนละพื้นที่กัน วุ่นวายทีเดียว

    จากคดีนี้ก็พอจะเห็นภาพว่าที่เกาหลีใต้ เขาคาดแคลนหน้ากากอนามัยกันขนาดไหน รัฐบาลจึงต้องดึงหน้ากากในท้องตลาดมาบริหารจัดการเอง เพื่อให้แน่ใจว่าชาวเกาหลีใต้ทุกคนสามารถหาซื้อหน้ากากอนามัยได้แน่นอน อย่างน้อยก็อาทิตย์ละ 2 ชิ้น

    แต่ยังไม่วาย มีผีมาสวมสิทธิ์เสียนี่

    วันนี้เราลองมาส่องกันดูหน่อยดีกว่า ว่าเกาหลีใต้ เขามีมาตรการในการจัดจำหน่ายอย่างไร เผื่อบ้านเราจะได้ลองเอาไปใช้บ้าง

    โดยทั่วไปแล้ว ในเกาหลีใต้มีโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยอยู่ประมาณ 140 แห่งทั่วประเทศ ที่สามารถผลิตหน้ากากเข้าสู่ท้องตลาดได้ราว 10 ล้านชิ้นต่อวัน ในจำนวนเหล่านี้ มีทั้งใช้ในประเทศ และส่งออกไปต่างประเทศ ในยามปกติก็ถือว่าเพียงพอต่อความต้องการแล้ว

    จนกระทั่งเกาหลีใต้จะเจอเหตุมนุษย์ป้า ที่แพร่เชื้อ Covid-19 ลุกลามใหญ่โตไปทั่วเมืองแทกู ช่วงปลายกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทางรัฐบาลเกาหลีใต้จึงออกคำสั่งด่วน จำกัดการส่งออกหน้ากากอนามัยออกนอกประเทศ ให้น้อยกว่า 10% เพื่อให้แน่ใจว่า ประมาณหน้ากากกว่า 90% ยังคงอยู่ในประเทศ

    แต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอกับประชาชนกว่า 50 ล้านคน ที่หลายคนก็แตกตื่น ออกไปกว้านซื้อกักตุนหน้ากากไว้ใช้ ทำให้สินค้าขาดตลาด บางคนต้องออกไปรอที่หน้าร้านขายยาตอน 6 โมงเช้าทุกวันเพื่อรอซื้อ

    และตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคมเป็นต้นมา ทางรัฐบาลเกาหลีใต้จึงออกมาตรการเด็ดขาด ระงับการส่งออกหน้ากากอนามัยไปต่างประเทศทั้งหมด หน้ากากที่่ผลิตได้ทุกชิ้น ขายภายในประเทศเท่านั้น และอัดฉีดงบ เพิ่มการผลิตให้ได้ 14 ล้านชิ้นต่อวัน

    หลังจากนั้นก็ออกมาตรการในการจัดจำหน่ายหน้ากากอนามัย มีผลบังคับใช้ทั่วประเทศ เริ่มตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา โดยมีรายละเอียดดังนี้

    1. ประชาชนได้สิทธิ์ซื้อหน้ากากเพียง 2 ชิ้น ใน 1 สัปดาห์เท่านั้น โดยผู้ซื้อต้องแสดงบัตรประชาชน หรือ บัตรนักเรียน ส่วนชาวต่างชาติต้องยื่นพาสปอร์ต พร้อมใบประกันสุขภาพ

    2.ลำดับการซื้อหน้ากากใช้ระบบ 5 วัน จันทร์-ศุกร์ โดยดูจากเลขท้ายปีเกิดตามคริสตศักราช

    เลข 1 และ 6 วันจันทร์
    เลข 2 และ 7 วันอังคาร
    เลข 3 และ 8 วันพุธ
    เลข 4 และ 9 วันพฤหัส
    เลข 5 และ 0 วันศุกร์

    ยกตัวอย่างเช่น กง ยู เกิดปี 1979 ลงท้ายด้วยเลข 9 ต้องมาซื้อวันพฤหัส ส่วน ซง เฮ-เคียว เกิดปี 1981 ลงท้ายด้วย 1 ก็ต้องมาเข้าคิวซื้อวันจันทร์

    หากใครมาตามวันที่กำหนดไม่ได้เพราะติดธุระ ให้มาซื้อเอาวันเสาร์-อาทิตย์ แทน

    โควต้า อาทิตย์ละ 2 ชิ้น ไม่มีการทบ หากโอ้ปป้าฮยอน บิน มาไม่ทันทั้งอาทิตย์เพราะติดภารกิจที่เกาหลีเหนือ ก็ถือว่าสละสิทธิ์ จะมาทบต้น ทบดอกขอซื้อเป็น 4 ชิ้นในสัปดาห์ถัดไปไม่ได้

    และที่สำคัญคือ ซื้อแทนกันไม่ได้ แม้แต่คนในครอบครัว ต้องแสดงตัวพร้อมบัตรประชาชนเท่านั้น จึงจะซื้อได้

    โดยทางรัฐบาลจะดึงหน้ากาก 20% ไว้ เผื่อให้กับทางบุคลากรการแพทย์ และอีก 80% จัดโควต้าสินค้า กระจายตามร้านขายยา และห้างร้าน ทั้งเล็ก ใหญ่ ให้ที่ละ 10,000 ชิ้นเท่ากัน และเพื่อความสะดวก รัฐบาลได้เพิ่มช่องทางจำหน่ายผ่านไปรษณีย์ด้วย

    ราคาหน้ากากชิ้นละ 1500 วอน หรือ ประมาณ 40 บาท

    แต่ขนาดกำหนดเงื่อนไขขนาดนี้ ก็ไม่วาย มีปัญหาสวมสิทธิ์กัน ที่บางคนอาจจะเคยทำบัตรประจำตัวหาย หรือ ขโมยใช้กันดื้อๆเลย ก็ต้องตามไปสืบสวนกัน

    สิ่งที่น่าสนใจของข่าวนี้คือ ชาวเกาหลีใต้ไม่ได้มีปัญหากับกติกาการจัดจำหน่ายหน้ากากอนามัยแบบนี้ มีแค่เรื่องผีสวมสิทธิ์

    และมีหลายแง่มุม ที่เราน่าจะลองพิจารณามาใช้แก้ปัญหาหน้ากากอนามัยของประเทศเราบ้าง

    - ความเท่าเทียม
    รัฐบาลเกาหลีใต้ จัดระเบียบให้ประชาชนมีสิทธิ์ซื้อหน้ากากได้ทุกคนในจำนวนเท่ากัน ความเท่าเทียมนี้ ไม่มีข้อยกเว้นแม้เด็ก หรือผู้ใหญ่ หรือใครมาก่อน มาหลัง ทุกคนได้เท่ากัน แม้แต่ร้านค้าที่จัดจำหน่ายก็ไม่มีสิทธิ์กักตุน ได้ทุกร้านเท่ากัน คือ 10,000 ชิ้นต่อวัน

    - วินัยสังคม
    เมื่อกติกาสังคมออกมาแบบนี้ เพื่อให้ทุกคนมีสิทธิ์ได้ของ ก็ทำตามระเบียบกันอย่างเคร่งครัด เป็นระเบียบ เว้นแต่ชาวผีสวมสิทธิ์ ซึ่งเขาก็ไปซื้อในวันที่กำหนดเหมือนกัน

    - การกระจายเทคโนโลยีฐานข้อมูล
    ร้านค้าไม่ว่าเล็ก ใหญ่ เข้าถึงฐานข้อมูลใหญ่ที่สามารถตรวจสอบการใช้สิทธิ์ได้แม่นยำ ผ่านเครือข่ายที่เข้าถึงผู้คนได้ทุกระดับ และใช้งานได้จริง

    - การสื่อสารของภาครัฐ
    แจ้งข้อมูลให้ประชาชนรับทราบได้กระจ่าง ชัดเจนในหลักการ และทุกหน่วยงานสื่อสารไปในทิศทางเดียวกัน เป้าหมายเดียวกันหมด เพื่อลดความสับสนในสังคม และสร้างความเชื่อมั่นได้ในการขอความร่วมมือจากประชาชนได้

    - การแก้ปัญหา
    สามารถทำได้อย่างตรงจุด เป็นขั้นตอน เห็นผลในเชิงปฏิบัติ มีการยกระดับตามสถานการณ์จริง

    จากเรื่องราวเล็กๆ ในจุดวิกฤติของเกาหลีใต้ก็ให้แง่คิดกับเราได้หลายอย่าง ที่หากปัญหาบ้านเรามันแก้ยากนัก จนมุม มืด 8 ด้านแล้ว จะก๊อบเขามาใช้ก็ได้นะค้า ไม่ว่าอะไรหรอกค่า

    แหล่งข้อมูล

    http://m.koreatimes.co.kr/pages/article.asp?newsIdx=286253
    http://m.koreaherald.com/view.php?ud=20200305000730
    https://abcnews.go.com/Internationa...ace-masks-domestically-amid/story?id=69254114
    https://www.reuters.com/article/us-...ace-to-boost-face-mask-supplies-idUSKBN20T16A

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สนามบินสุวรรณภูมิคิวยาว ต่างชาติทยอยเดินทางกลับประเทศ
    .
    บรรยากาศสนามบินสุวรรณภูมิช่วงเช้าที่ผ่านมา (17 มี.ค.) ในส่วนพื้นที่ผู้โดยสารขาออกจุดเช็กอินของสายการบินต่างๆ เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ทยอยเดินทางกลับประเทศ หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 กระทบหลายพื้นที่ทั่วโลก ขณะที่ส่วนพื้นที่ผู้โดยสารขาเข้า ค่อนข้างเงียบเหงา และร้างผู้คน

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ศาลเขตผู่ตงมหานครเซี่ยงไฮ้ เปิดศาลตัดสินคดีความแบบออนไลน์ ในช่วงระบาด COVID-19 โดยคดีที่ตัดสินได้แก่ "ชายชาวจีนทำข้อมูลปลอมเพื่อหลอกขายหน้ากากอนามัยเป็นเงิน 117,000หยวน"

    ในช่วงที่จีนมีการแพร่ระบาดCOVID-19อย่างหนัก หน้ากากอนามัยเป็นสิ่งจำเป็นมาก ทำให้เกิดการหลอกขายหน้ากากอนามัยหลายเคส อย่างเช่นเคสนี้

    หนุ่มชาวจีนคนนี้ ประกาศขายหน้ากากอนามัย โดยทำข้อมูลปลอมขึ้นมาไม่ว่าจะ ตัวอย่างสินค้า และจำนวนสินค้าที่เคยขายไปแล้ว ให้ดูเหมือนว่ามีประสบการณ์ขายมานาน มีสินค้าในStockจำนวนมาก รวมถึงใช้บัตรประชาชนปลอมในการประกาศขายด้วย จึงมีคนหลงเชื่อสั่งซื้อหน้ากากอนามัยในจำนวนที่ค่อนข้างสูง คิดเป็นเงิน 117,000หยวน (ราว 526,500บาท)

    ทางศาลเขตผู่ตงมหานครเซี่ยงไฮ้ ได้ตัดสินให้ชายคนนี้ จำคุก3ปี3เดือน และปรับเป็นเงิน 10,000หยวน (ราว 45,000บาท) ตามการรายงานของ 人民日报 (People's Daily)สื่อจีน

    #อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เบิกไพร

    อยู่อย่างไรเมื่อเกิดโรคระบาด ตอนที่ 5 : ความคิดของผู้คน
    .
    ก่อนพายุจะมาท้องฟ้าจะเงียบสงบ
    ก่อนเกิดภัยพิบัติจะมีการเเจ้งเตือนให้เตรียมตัวระวังป้องกันหรืออพยพ แต่เราจะเห็นคนบางกลุ่มเลือกที่จะเพิกเฉยและไม่ทำอะไรเลย
    .
    ประเทศไทยไม่ค่อยเจอภัยพิบัติบ่อยครั้งเหมือนประเทศที่ตั้งอยู่ในเขตที่มีพายุหมุน แผ่นดินไหว เช่น ญี่ปุ่น ซึ่งนั่นทำให้ความรู้สึกนึกคิดของคนในชาติระวังป้องกันตัวน้อยกว่าปกติ
    .
    ยามเมื่อเกิดภัยพิบัติ คนจะถูกแบ่งออกเป็น 2 จำพวก คนกลุ่มแรกจะเป็นคนที่ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับหายนะต่าง ๆ คอยระวังป้องกันและศึกษาวิธีการเอาชีวิตรอด อาจมีการซื้อของที่จำเป็นเช่น อาหาร ยารักษาโรค หรืออุปกรณ์ส่องสว่างมาสำรองไว้
    .
    คนจำพวกที่ 2 คือคนที่จะไม่ทำอะไรเลยเพราะคิดว่าเหตุการณ์เหล่านั้นจะไม่เกิด และมองว่าคนกลุ่มแรกที่ซื้ออาหารมาตุนไว้ เป็นเรื่องตลก เป็นพวกโง่ ตุนไปก็ไม่ได้ใช้มีแต่จะเน่า หรือถ้าเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นมาจริง ๆ ค่อยไปหาซื้อก็ยังทัน คุณจะเห็นคนแบบนี้ในสังคม ที่ไม่ว่าข่าวจะออกมากแค่ไหนเขาก็จะยังเฉยอยู่ บอกว่ามันไม่เป็นไร ไม่ยอมอพยพไม่ยอมไปไหนหรือทำอะไรทั้งนั้น
    .
    ความแตกต่างระหว่างคน 2 กลุ่มนี้ มาจากการรับรู้ปัญหามากหรือน้อยกว่าความเป็นจริงในสถานการณ์เดียวกัน
    .
    เช่น ในการดื่มสุรา
    คนที่เมาแล้วขับจะมองว่า อุบัติเหตุจะไม่เกิดขึ้น
    ดื่มนิดเดียวไม่เป็นไร ขับไม่ไหวก็แค่จอดนอนทำให้ฝืนขับต่อไป
    .
    คนที่เมาไม่ขับจะมองว่า อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ แม้ไม่เกิดก็อาจจะเจอด่านตรวจ อาจจะง่วงกลางทาง ดังนั้นไม่ขับดีกว่า
    .
    เวลาที่เกิดภัยพิบัติ กลุ่มคนที่จะตายก่อนอันดับแรกคือ คนไร้บ้าน คนแก่ และคนที่มีโรคประจำตัว ส่วนคนที่จะตายในลำดับถัดมาคือ "คนที่ไม่เตรียมตัวอะไรเลย" เพราะไม่คาดการณ์ถึงหายนะที่จะเกิดขึ้น ทำให้ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้

    .
    การมีสิ่งของเครื่องใช้พื้นฐานเตรียมไว้ยามฉุกเฉินเหมือนการซื้อประกันชีวิตให้กับตัวเอง คนที่ซื้อประกันไม่ใช่คนโง่ แต่เป็นคนที่ตระหนักในความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น
    แม้ว่ามันจะไม่เกิดก็ตาม
    .
    คุณจะยังหัวเราะอยู่ได้ สนุกอยู่ได้และเห็นเป็นเรื่องตลกถ้าภัยยังมาไม่ถึงตัว แต่เมื่อไหร่ที่มันเกิดขึ้น คุณจะหัวเราะไม่ออก
    คุณจะรู้สึกอยากทำประกันรถยนต์ก็ต่อเมื่อมันเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาแล้วเท่านั้นแหละ ถ้าไม่เกิดก็ไม่อยากทำ แต่นั่นละ ราคาของมันย่อมจ่ายเเพงกว่าเสมอ คนที่ไม่เตรียมตัวเหล่านี้จึงเป็นคนที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดเวลาเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ
    .
    รอให้ถึงวันค่อยซื้อ..
    .
    อาหารแห้ง บะหมี่ ข้าวสาร ปลากระป๋อง คือสิ่งที่อาจจะมีขายอยู่ในวันที่เกิดการระบาดอย่างหนัก แต่ไม่ได้หมายความว่าราคามันจะไม่แพงขึ้น
    .
    ร้านอาหารก็อาจจะเปิดอยู่ คนส่งอาหารก็อาจจะทำงานอยู่แต่ถ้าคุณเคยสั่งอาหารช่วงปีใหม่หรือเทศกาลจะพบว่าค่าส่งแพงมาก
    ถ้ามีการระบาดเกิดขึ้นคิดว่าค่าส่งจะเท่าเดิมไหม ในตัวนั้นถ้าข้าวกล่องละ 100 คุณก็ต้องซื้อเพราะไม่มีทางเลือกอื่น และต่อให้คุณไม่เดือดร้อนเรื่องเงินคุณควรตระหนักเอาไว้ว่า
    .
    คนส่งอาหารคือคนที่มีความเสี่ยงที่สุดเพราะทำงานในวันที่มีการระบาดอย่างรุนแรง เขาจะมีเชื้อไหม เขาไปส่งมากี่ที่ และถ้าคนที่ประกอบอาหารมีเชื้อ คนส่งก็เหมือนคนที่นำเชื้อไปแจกจ่ายให้กับลูกค้าทุกคน
    .
    หากปิดเมืองห้ามเข้าออก ร้านค้าจะเอาวัตถุดิบมากจากไหน
    เป็นไปได้หรือเปล่าว่าร้านอาจจะปิด หรือเปิดแค่บางร้านและก็เป็นร้านที่อยู่ไกล และถึงวันนั้นคิวจะยาวแค่ไหน มันคุ้มหรือเปล่ากับการเสี่ยงชีวิตกับการจ่ายแพงกว่าทั้ง ๆ ที่การเตรียมตัวเป็นสิ่งที่ทำได้ง่าย
    .
    ในช่วงก่อนที่ COVID-19 จะเกิดการระบาด ผมรู้จักผู้ชายคนหนึ่งที่ซื้อหน้ากากอนามัยมาตุนไว้ในตอนที่มันยังราคาถูกอยู่ เพราะแกเป็นเสาหลักของบ้าน จะเจ็บป่วยไม่ได้ แกถามว่าใครจะเอาบ้าง มีใครจะฝากซื้อไหมก็ไม่มีใครเอา มีแต่คนบอกว่าแกบ้า คิดมาก วิตกกังวลเกินไป จนกระทั่งการระบาดเกิดขึ้น คนที่เคยว่าให้แกต้องมาขอซื้อหน้ากากอนามัยจากแก
    .
    ซึ่งตอนนั้นมันก็ไม่ได้มีไว้ขายแล้วเพราะทุกคนต่างก็รักชีวิตของตัวเอง
    .
    ภาพการกักตุนอาหารในประเทศอเมริกา
    จากคุณ Sasithorn

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เบิกไพร

    อยู่อย่างไรเมื่อเกิดโรคระบาด ตอนที่ 6 : การเพิกเฉยต่อหายนะ
    .
    ถ้าเรือขนาดใหญ่กำลังจะจมลงคุณคิดว่าคนบนเรือจะทำอย่างไร ?
    เชื่อหรือไม่ว่าคำตอบที่จะเฉลยต่อไปจะทำให้คุณคาดไม่ถึง
    .
    การที่คนเราเพิกเฉยต่อสัญญาณอันตรายต่าง ๆ ไม่สนใจต่อคำเตือนหรือการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทุกเหตุการณ์และในทุกภัยพิบัติ อะไรที่ทำให้คนเหล่านี้ ใช้ชีวิตราวกับว่าอยู่บนโลกคนละใบกับเรา บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจว่าทำไมคนบางกลุ่มจึงไม่ยอมที่จะทำอะไรเลยจนวินาทีสุดท้าย
    .
    การเพิกเฉยของผู้คน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากในช่วงแรกของการเกิดภัยพิบัติสัญญาณเตือนต่าง ๆ จะเกิดขึ้นทีละน้อย จนผู้คนไม่ทันสังเกต หรือสังเกตเห็นก็เลือกที่จะมองข้ามไป เพราะเรายังมองโลกในแง่ดีอยู่
    เช่น เมื่อฝนตกในป่า คุณจะต้องขึ้นจากน้ำทันทีไม่ว่าจะสนุกแค่ไหนก็ตาม เพราะหลังจากนั้นน้ำป่าจะตามมาจนหนีไม่ทัน
    .
    หากไม่รู้ถึงสัญญาณของหายนะเหล่านี้และไม่อพยพไปก่อน
    ช่วงเวลาถัดมาจะสายเกินไปที่จะหลบหนี
    จงจำไว้ว่าความตายมันจะหลอกล่อให้คุณเข้าใกล้
    ค่อย ๆ คืบคลานและกลืนกินชั่วขณะ ถ้าคุณช้าต่อมาก็ไม่ทันการแล้วเพราะมันจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าช่วงแรก
    .
    ในการเกิดโรคระบาด ช่วงเเรกผู้ติดเชื้อจะยังมีจำนวนน้อยทำให้คนหวาดระแวงน้อยกว่าปกติ แต่มันก็เป็นเฉกเช่นเดียวกับคลื่นยักษ์ จุดเริ่มต้นอาจแผ่วเบาแต่เมื่อปะทุแล้วยากเกินจะควบคุม
    .
    เริ่มแรกจำนวนผู้ติดเชื้อจะขยับจากหลักหน่วยและต่อไปก็จะเพิ่มทีละหลักสิบ และก้าวกระโดดไปเป็นเพิ่มทีละหลักร้อย
    .
    จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นกะทันหันนั้นจะมาพร้อมกันหลังจากวันที่มีผู้ติดเชื้อที่ไม่รู้ตัวออกไปแพร่เชื้อ ซึ่งคือระยะเวลา 14 วัน ช่วงแรก ๆ จะยังไม่แสดงอาการทำให้ทุกคนดูปกติหมด เสมือนระเบิดเวลา ที่รู้ตัวอีกทียอดคนติดเชื้อก็เพิ่มเป็นทวีคูณ
    .
    ในช่วงแรกผู้คนจึงชะล่าใจคิดว่าการแพร่กระจายยังไม่น่ากลัว แต่มันเหมือนภูเขาน้ำเเข็งมีสิ่งที่ซุกซ่อนอยู่มากมายใต้น้ำ เมื่อนับถอยหลังถึงวันที่มันปะทุมันจะระเบิดออกพร้อมกัน ซึ่งหลังจากนี้ หากการควบคุมโรคทำได้ไม่ดีพอ ผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากเหมือน อิตาลี
    .
    ผู้คนมักไม่ยอมเชื่อว่าภัยร้ายจะมาถึงตัวจากเหตุผลที่กล่าวมา เพราะมันไม่แสดงออกรุนแรงในช่วงแรกแต่เปลี่ยนแปลงกะทันหันในช่วงท้ายที่สายเกินไปแล้ว
    .
    นอกจากนี้คนเรายังมีความโน้มเอียงไปสู่สภาวะปกติ (Normalcy bias) คือการมองว่าเรื่องร้ายแรงจะไม่มีทางเกิดขึ้น ทุกอย่างจะเหมือนเดิม มันจะผ่านไปได้เหมือนปกติเพราะเราใช้ชีวิตประจำวันเป็นตัวตัดสิน เมื่อวานไม่มีอะไรพรุ่งนี้ก็ไม่เป็นอะไร
    .
    เราปฎิเสธการมีอยู่ของหายนะร้ายแรง เนื่องจากมันขัดกับสภาวะปกติที่เราเป็น เราอยากให้ทุกวันเป็นวันธรรมดาวันหนึ่ง เราจึงเชื่ออย่างนั้น ดังนั้นต่อให้เรื่องราวนั้นเกิดขึ้นจริงเราจึงไม่ยอมเชื่อ
    .
    เรื่องที่ผมจะเล่าต่อไปนี้เป็นตัวอย่างของการที่ผู้คนเพิกเฉยต่อสัญญาณเตือนต่าง ๆ ของหายนะ ที่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพวกเขาก็ไม่ยอมขยับตัวจนนำไปสู่โศกนาฎกรรมครั้งเลวร้าย
    .
    โศกนาฎกรรมบนไททานิค
    .
    วันที่ 10 เมษายน ค.ศ. 1912 เรือไททานิคได้เเล่นออกจากท่าพร้อมกับผู้โดยสาร 2,208 คน เพื่อไปยังนิวยอร์กโดยในขณะนั้นมันได้รับการขนานนามว่าเป็น "เรือที่ไม่มีวันจม"
    .
    ด้วยความที่ได้ชื่อว่าเป็นเรือที่ไม่มีวันจม ทำให้เรือชูชีพถูกมองว่าไม่จำเป็นเพราะเปลืองพื้นที่ในเรือไททานิค เรือชูชีพจึงถูกใส่มาให้รองรับผู้โดยสารได้เพียงแค่ครึ่งเดียวของจำนวนผู้โดยสารทั้งหมดในเรือไททานิคเท่านั้นหากเรือเกิดอับปาง
    .
    นี่คือความโน้มเอียงไปสู่สภาวะปกติอย่างแรก คนที่ไม่เคยอยู่ในเหตุการณ์เรือจมก็ไม่คิดว่าเรือจะจม เรือชูชีพจึงไม่จำเป็น
    .
    ในเวลาประมาณ 23.49 น. ของวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 1912 เรือไททานิคชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็งจนน้ำทะลักเข้ามาในลำเรือ แต่ด้วยความที่เรือมีขนาดใหญ่มากทำให้เรือค่อย ๆ จมลงอย่างช้า ๆ โดยที่แทบไม่รู้สึก
    .
    เมื่อผู้คนรู้ว่าเรือชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็ง ขณะนั้นเหตุการณ์บนเรือควรจะต้องชุลมุนมาก ผู้คนควรแก่งแย่งกันเอาชีวิตรอดเพื่อไปยังเรือชูชีพ แต่ความจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น...
    .
    ทุกคนยังคงใช้ชีวิตต่อไปตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
    ขณะที่ผู้รอดชีวิตคนหนึ่ง เข้าไปถามพนักงานบนเรือว่า
    จะปล่อยเรือชูชีพเมื่อไหร่ ปล่อยยังไง แต่เจ้าหน้าที่กลับ
    ตอบมาว่า
    .
    "เราจะต้องปล่อยเรือชูชีพให้กับพวกคุณทุกคนอยู่แล้ว
    แต่ไม่ว่ายังไงคุณก็ต้องกลับมาทานอาหารเช้ากันบนเรือไทนานิคอยู่ดี"
    .
    ไม่มีใครเชื่อเลยว่าเรือกำลังจะจม แม้ความตายกำลังจ่อคอทุกคนก็ไม่คิดจะหนี ทำให้เรือชูชีพลำแรก ๆ ที่ถูกปล่อยออกมาเต็มไปด้วยที่ว่างเพราะมีคนนั่งไปไม่เต็มลำเรือ
    .
    มีผู้โดยสารเพียง 28 คน จากความจุที่เรือสามารถ
    บรรทุกได้ถึง 65 คน และมันก็ไม่ใช่แค่เรือลำเดียวที่เป็นอย่างนั้น
    .
    นี่คือความโน้มเอียงไปสู่สภาวะปกติอย่างที่ 2 คนที่ใช้ชีวิตปกติอย่างราบรื่นสงบสุขไม่คิดว่าภัยจะมาถึงตัว และเลือกที่จะเพิกเฉยต่ออันตรายต่าง ๆ
    .
    จนกระทั่งเหตุการณ์เริ่มเลวร้ายลงเรื่อย ๆเมื่อเรือยักษ์มีทีท่าว่าจะจมลงเพราะเมื่อถึงจุดที่เรือรับแรงดันน้ำไม่ไหวมันจะเริ่มโคลงจนทุกคนรู้สึกได้ เปรียบเสมือนกะลามะพร้าวเจาะรูที่ช่วงแรกน้ำเข้าแต่ยังรักษาสมดุลได้อยู่ ก่อนที่จะจมดิ่งลงอย่างรวดเร็ว
    .
    เมื่อถึงตอนนั้นผู้โดยสารที่เคยนิ่งเฉย แตกตื่นเป็นเท่าทวีคูณ ทุกอย่างโกลาหล แต่ถึงเวลานั้นมันก็ไม่ทันแล้ว เสมือนคลื่นยักษ์ที่กลืนกินทุกสิ่ง ถ้าจะหนีคุณควรจะหนีไปตั้งแต่ตอนแรก ถ้าจะเตรียมตัวคุณควรทำตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะสุดท้ายในวันที่คุณรู้สึกตัว จะเต็มไปด้วยคนที่ไม่ทำอะไรเลยคนที่เป็นแบบเดียวกัน
    .
    เกิดศึกการแย่งชิงที่นั่งบนเรือ
    บางคนยอมติดสินบนเจ้าหน้าที่ด้วยเงินทั้งหมดที่มีเพราะไม่อยากตาย
    บางคนยอมแต่งหญิงเพื่อที่จะตีเนียนไปกับเด็ก
    เพราะกฏระเบียบบนเรือให้ผู้หญิงและเด็กไปก่อน
    .
    สุดท้ายเรือไททานิคก็จมลง ปิดตำนานของเรือที่ไม่มีวันจมพร้อมกับผู้เสียชีวิต 1,514 คน มีผู้รอดชีวิตเพียง 1 ใน 4 จากทั้งหมด แต่จะไม่ต้องมีการสูญเสียขนาดนี้เกิดขึ้นเลย หากเรือชูชีพถูกนั่งจนเต็ม และ หากในตอนแรกมีการแบ่งพื้นที่เพื่อบรรทุกเรือชูชีพมาอย่างเพียงพอ
    .
    การเพิกเฉยและไม่รับรู้ต่อการเปลี่ยนเเปลงมีค่ามากมายมหาศาลกว่าที่คุณคิด และบางครั้งมันอาจมากถึงชีวิต
    การซื้ออาหารและสิ่งของจำเป็นมาตุนไว้ บางคนอาจจะบอกว่า ตื่นตระหนกและไม่จำเป็น สิ่งของเหล่านี้ก็เหมือนเรือชูชีพในไททานิค มันจะเป็นแผนสำรองของชีวิตเราในช่วงเวลาที่ไม่เหลือตัวเลือกอะไร
    .
    กำลังใจของคนเราขึ้นอยู่กับการกินอิ่มนอนหลับ การมีอาหารเหลืออยู่จะสร้างกำลังใจให้เราผ่านสภาวะเลวร้ายได้ดีขึ้น มันจะแตกต่างกันมากหากคนหนึ่งตื่นมามีอาหารอย่างเหลือเฟือ ในขณะที่อีกคนต้องคอยนับถอยหลังว่าอาหารที่เหลือจะอยู่ได้อีกกี่วัน
    .
    อ้างอิง https://www.2morrowexplorer.com/blogs/detail/briefhistoryofcrusing-titanic
    .
    Uable ตอน : นักดนตรี 8 คนบนไททานิค กับ 1 บทเพลงสู่ชีวิตนิรันด์

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แบ่งปันจาก การลงทุน

    ในภาวะการซื้อขายยังมีความผันผวนอย่างต่อเนื่อง ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงปรับปรุงเกณฑ์การกำหนดราคาเสนอซื้อขายสูงสุดและต่ำสุด (Ceiling & Floor) และเกณฑ์การหยุดการซื้อขายโดยอัตโนมัติ (Circuit Breaker) เป็นการชั่วคราวจนกว่าตลาดจะเข้าสู่ภาวะปกติ เพื่อลดความผันผวนของภาวะตลาดในปัจจุบัน

    โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม 2563 และไม่เกิน 30 มิถุนายน 2563 ดังนี้

    โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับปรุงเกณฑ์การกำหนดราคาเสนอซื้อขายสูงสุดและต่ำสุดของหุ้น, หน่วยลงทุน, ใบสำคัญแสดงสิทธิ (Warrant), ตราสารอนุพันธ์ (Derivative Warrant), กองทุนอีทีเอฟ (ETF), ใบแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้ (TSR), ตราสารแสดงสิทธิการฝากหลักทรัพย์ต่างประเทศ (DR) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาดเอ็ม เอ ไอ (mai) จากเดิมที่กำหนดไว้ที่ +/- 30% เปลี่ยนเป็น +/-15%

    ในขณะที่มีการปรับปรุงเกณฑ์ราคาเสนอซื้อขายสูงสุดและต่ำสุดของ Foreign Share ในตลาด SET และ mai จากเดิมกำหนดไว้ที่ +/-60% เปลี่ยนเป็น +/-30%

    --------------------------------------------------

    ด้านตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) มีการปรับปรุงเกณฑ์ราคาเสนอซื้อขายสูงสุดและต่ำสุดของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับดัชนี (Index Futures) สัญญาสิทธิที่อ้างอิงกับดัชนี (Index Option) สัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับดัชนีหมวดธุรกิจในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (Sector Futures) และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาหุ้นรายตัว (Single Stock Futures) จากเดิมกำหนดไว้ที่ +/-30% เปลี่ยนเป็น +/-15%

    --------------------------------------------------

    ขณะเดียวกัน ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ปรับเกณฑ์ Circuit Breaker จาก 2 ระดับเป็น 3 ระดับ ดังนี้

    ระดับที่ 1 : จากเดิม Circuit Breaker ระดับที่ 1 คือเมื่อดัชนีปรับตัวลดลง 10% ตลท.จะหยุดการซื้อขาย 30 นาที เปลี่ยนเป็น Circuit Breaker ระดับที่ 1 คือเมื่อระดับดัชนีปรับตัวลดลง 8% ตลท.จะหยุดการซื้อขาย 30 นาที

    ระดับที่ 2 : จากเดิม Circuit Breaker ระดับที่ 2 คือเมื่อดัชนีปรับตัวลดลง 20% ตลท.จะหยุดการซื้อขาย 60 นาที เปลี่ยนเป็น Circuit Breaker ระดับที่ 2 คือเมื่อระดับดัชนีปรับตัวลดลง 15% ตลท.จะหยุดการซื้อขาย 30 นาที

    ระดับที่ 3 : จากเดิมไม่มี Circuit Breaker ระดับที่ 3 เปลี่ยนเป็น Circuit Breaker ระดับที่ 3 คือเมื่อระดับดัชนีปรับตัวลดลง 20% ตลท.จะหยุดการซื้อขาย 60 นาที

    ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ติดตามและกำกับดูแลการซื้อขายอย่างใกล้ชิด และเชื่อว่ามาตรการปรับปรุงเกณฑ์ต่าง ๆ ที่ออกมานั้น จะมีส่วนช่วยให้เสริมเสถียรภาพของตลาดและสร้างความมั่นใจในการลงทุนให้แก่ผู้ลงทุน

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,704
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผวาทั้งวงการ เซียนมวยป่วยโควิดอีก 12 ยอดพุ่งเป็น 44 คนแล้ว

     

แชร์หน้านี้

Loading...