ติดตามสถานะการณ์

Watchers
#ข่าวภัยพิบัติ #สภาพอากาศ
18/03/20
ด้านซีกโลกเหนือ ขั้วโลกยังปั่นป่วนอยู่..

พายุไซโคลน ก่อฟอร์มแอตแลนติกเหนือที่มีขนาดใหญ่มาก เผยให้เห็นมุมมองที่น่าตื่นตาจากดาวเทียม
แพร่กระจายลมที่รุนแรงไปสู่ยุโรปเหนือและตะวันตก ทางยุโรปเริ่มมีอากาศเย็นขึ้นแล้ว

Graphics by: Windy.com
#Watchers

 

Watchers

#ข่าวภัยพิบัติ #โคลัมเบีย
18/03/20
สภาพอากาศที่รุนแรงยังคงมีอย่างต่อเนื่องในบางส่วนของโคลัมเบีย ทำให้เกิดน้ำท่วมและแผ่นดินถล่ม
ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2020 ถนนขาวโพลนหลังจากพายุลูกเห็บรุนแรง เข้ามาทางทิศเหนือและใจกลางเมืองโบโกตา
เมื่อวันที่ 15 มีนาคมโคลนถล่มฆ่ามีผู้เสียชีวิตคนหนึ่งและบาดเจ็บอีกสองคนในเขตซานทานแดร์
รายงานน้ำท่วมในเมือง Bucaramanga เมื่อวันที่ 16 มีนาคมมีผลกระทบต่อครอบครัวประมาณ 100 ครอบครัว
http://floodlist.com/america/colomb...qqpavqoXtZIVrvgwMWzXA9Wt4GwOTuy11s42PKqj-0YU0

https://www.youtube.com/watch?v=FrTgE_1BlQM

https://m.en24.news/n/2020/03/hails...eKVTlkJ0RbrMzNeH7LxYVm6tRYHhIscLZfEKJuO4VVvEk

 

ข่าวจริง! กรมบัญชีกลางอนุมัติให้สธ.เบิกจ่ายค่าตอบแทนเสี่ยงภัยให้บุคลากร สู้ COVID-19 เผยแพร่: 18 มี.ค. 2563 12:26 ปรับปรุง: 18 มี.ค. 2563 12:49 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


กรมบัญชีกลางได้อนุมัติให้กระทรวงสาธารณสุขเบิกจ่ายค่าตอบแทนเสี่ยงภัยให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในการเฝ้าระวัง สอบสวน ป้องกัน ควบคุม และรักษาผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

วันนี้ (18 มี.ค.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อต่างๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง กรมบัญชีกลางอนุมัติให้สธ.เบิกจ่ายค่าตอบแทนเสี่ยงภัยให้ให้บุคลากร สู้ COVID-19 ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง

กรมบัญชีกลางได้อนุมัติให้กระทรวงสาธารณสุขเบิกจ่ายค่าตอบแทนเสี่ยงภัยให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในการเฝ้าระวัง สอบสวน ป้องกัน ควบคุม และรักษาผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. การจ่ายเงินค่าตอบแทนให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในการเฝ้าระวัง สอบสวน ป้องกัน ควบคุม และรักษาผู้ป่วย

ตั้งแต่เดือนมกราคม 2563 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะยุติ คือ แพทย์และสัตวแพทย์ ที่ปฏิบัติงานในหน่วยงานสังกัดกระทรวงสาธารณสุข หน่วยงานนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข สถานพยาบาลเทศบาลและท้องถิ่น ผลัดละ 1,500 บาทต่อคน ส่วนพยาบาล นักวิชาการด้านการสาธารณสุข นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ นักเทคนิคการแพทย์ นักรังสีการเหทย์ เจ้าพนักงานสาธารณสุข เจ้าพนักงานวิทยาศาสตร์การแพทย์ และเจ้าหน้าที่อื่น ๆ ที่ปฏิบัติงานในหน่วยงานสังกัดกระทรวงสรารณสุข หน่วยงานนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข สถานพยาบาล เทศบาลและท้องถิ่น ผลัดละ 1,000 บาทต่อคน

2. ค่าตอบแทนบุคคลภายนอกหมายถึง ค่าตอบแทนบุคคลที่ไม่ใช่ข้าราชการหรือข้าราชการที่มีความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ในการให้คำปรึกษาด้านการแพทย์และสาธารณสุขเพื่อรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยได้รับแต่งตั้งตามคำสั่งกระทรวงสาธารณสุข ในการประชุมครั้งละ 1,000 บาทต่อคน

3. ค่ารักษาพยาบาลของผู้ป่วยตามที่เบิกจ่ายจริง คือ กรณีคนต่างชาติที่ไม่มีสิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาล ให้เบิกตามค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง และกรณีคนต่างชาติและคนไทยที่มีสิทธิเบิกสวัสดิการรักษาพยาบาลให้เบิกเฉพาะ ในส่วนที่เกินจากสิทธิ

ทั้งนี้ สำหรับวิธีการจ่ายเงิน กระทรวงสาธารณสุข จะเป็นหน่วยงานที่ออกหลักเกณฑ์ในลำดับต่อไป เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับจากกรมบัญชีกลาง สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.cgd.go.th หรือโทร. 02 1277000

https://mgronline.com/onlinesection/detail/9630000027201

 

ข่าวจริง! ยกเลิกวีซ่าฟรี 3 ประเทศ และยกเลิกวีซ่า AOV 18 ประเทศ
เผยแพร่: 18 มี.ค. 2563 05:30 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมตรวจสอบแล้ว ข้อความตามที่ปรากฎในสื่อออนไลน์ต่างๆ ว่า ยกเลิกวีซ่าฟรี 3 ประเทศ และยกเลิกวีซ่า AOV 18 ประเทศ นั้น เป็นข้อมูลจริง

วันนี้ (17 มี.ค.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีข่าวปรากฎในสื่อออนไลน์ต่างๆ ในประเด็นเรื่อง ยกเลิกวีซ่าฟรี 3 ประเทศ และยกเลิกวีซ่า AOV 18 ประเทศ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย กรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรีพบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง

การยกเลิกวีซ่าฟรี 3 ประเทศ และยกเลิกวีซ่า AOV 18 ประเทศมีมติจากที่ประชุมของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาการแพร่ระบาด COVID-19 นั้น ซึ่งมีใจความโดยสรุปว่าผู้ที่เดินทางมาจากจาก 4 ประเทศเสี่ยงได้แก่ จีน อิตาลี อิหร่าน เกาหลีใต้ ต้องขอวีซ่าที่สถานทูต

เพื่อป้องกันไม่ให้คนจากประเทศเสี่ยงเข้ามา พร้อมทั้งยกเลิกวีซ่าฟรี อิตาลี เกาหลี และฮ่องกง เป็นการชั่วคราว และยกเลิก Visa on Arrival (VOA) 18 ประเทศ คือ บัลแกเรีย ภูฏาน จีน(รวมไต้หวัน) ไซปรัส เอธิโอเปีย สาธารณรัฐฟิจิ จอร์เจีย อินเดีย คาซัคสถาน มอลตา เม็กซิโก นาอูรู ปากัวนิวกินี โรมาเนีย รัสเซีย ซาอุดิอาระเบีย อุซเบกิสถาน และวานูอาตู ซึ่งอายุ visa on arrival จากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน จะหมดในเดือนเมษายนนี้ โดยมาตรการดังกล่าวเป็นมาตรการชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์ปกติ

เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากทางภาครัฐ สามารถติดตามข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ www.egov.go.th หรือโทร. 02 6126000

https://mgronline.com/onlinesection/detail/9630000027087

 

ผลวิจัยสหรัฐฯ ชี้ไวรัส ‘โควิด-19’ อยู่ในอากาศได้ 3 ชม.-ติดบนพื้นผิวนาน 2-3 วัน เผยแพร่: 18 มี.ค. 2563 12:17 ปรับปรุง: 18 มี.ค. 2563 12:50 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เอเอฟพี - งานวิจัยซึ่งได้รับทุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ เผยไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ ‘โควิด-19’ สามารถมีชีวิตอยู่รอดในอากาศได้นานหลายชั่วโมง และอาจติดบนพื้นผิวต่างๆ ได้นาน 2-3 วัน

ผลการศึกษาที่เผยแพร่อย่างเป็นทางการเมื่อวานนี้ (17 มี.ค.) พบว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ก่อให้เกิดโรคติดเชื้อโคโรนาไวรัส 2019 (COVID-19) มีระดับความสามารถในการอยู่รอด (viability) ภายนอกร่างกายมนุษย์ได้ยาวนานพอๆ กับไวรัสโรคซาร์ส

ด้วยเหตุนี้ เมื่อรวมกับปัจจัยอื่นๆ โดยเฉพาะความสามารถในการแพร่เชื้อจากคนสู่คนแม้ไม่แสดงอาการป่วย จึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รุนแรงและกว้างขว้างยิ่งกว่าโรคซาร์สที่เคยเกิดขึ้นเมื่อช่วงปี 2002-2003

งานวิจัยซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร New England Journal of Medicine (NEJM) จัดทำขึ้นโดยนักวิทยาศาสตร์จากสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (National Institutes of Health) ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ (CDC), มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแองเจลิส (UCLA) และมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน

นักวิจัยได้ใช้เครื่องพ่นหมอก (nebulizer) เพื่อจำลองการไอหรือจามของมนุษย์ และตรวจพบว่ายังมีเชื้อไวรัสปะปนอยู่ในอากาศแม้จะผ่านไปนานถึง 3 ชั่วโมง

ผลการศึกษายังพบว่าไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ สามารถอยู่รอดได้ประมาณ 2-3 วันบนพื้นผิวที่เป็นพลาสติกและเหล็กกล้าไร้สนิม (stainless steel) และอยู่ได้นานสูงสุด 24 ชั่วโมงบนกระดาษแข็ง

หลังจากผลการศึกษาชิ้นนี้ถูกโพสต์ลงบนเว็บไซต์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วก่อนจะผ่านกระบวนการ peer-review ปรากฏว่าได้รับความสนใจอย่างมาก และมีนักวิทยาศาสตร์บางคนเข้าไปวิจารณ์ว่ารายงานฉบับนี้อาจให้ข้อมูลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เชื้อจะแพร่กระจายทางอากาศ “เกินจริง” ไปสักหน่อย

ทั้งนี้ สาเหตุหลักของการติดเชื้อไวรัสก็คือ การสัมผัสกับละอองฝอย (droplets) จากระบบทางเดินหายใจ เช่น น้ำมูก น้ำลาย หรือเสมหะ เป็นต้น ซึ่งเชื้อที่ออกมาในรูปนี้จะอยู่รอดได้เพียงไม่กี่วินาทีหลังจากที่ผู้ป่วยไอหรือจาม

ผู้ที่วิจารณ์ตั้งคำถามว่า เครื่องพ่นหมอกนั้นสามารถเลียนแบบละอองฝอยที่เกิดจากการไอหรือจามของมนุษย์ได้จริงหรือไม่

ทีมวิจัยได้ทำการทดสอบแบบเดียวกันกับไวรัสโรคซาร์ส ทำให้พบว่าไวรัสทั้ง 2 ชนิดมีระยะเวลาในการอยู่รอดภายนอกร่างกายพอๆ กัน

อย่างไรก็ตาม ความเหมือนในข้อนี้ไม่สามารถอธิบายได้ว่า เหตุใดไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่จึงแพร่กระจายในวงกว้างจนมีผู้ติดเชื้อมาก 200,000 คน และคร่าชีวิตผู้ป่วยไปแล้วเกือบ 8,000 คนทั่วโลก ในขณะที่โรคซาร์สมีผู้ติดเชื้อเพียง 8,000 คน และเสียชีวิตไม่ถึง 800 คน

“ความแตกต่างในลักษณะทางระบาดวิทยาของไวรัส 2 ชนิดนี้อาจจะมาจากปัจจัยอื่นๆ เช่น ปริมาณเชื้อไวรัสในทางเดินหายใจส่วนบน และโอกาสที่ผู้ติดเชื้อ SARS-CoV-2 จะปลดปล่อยและแพร่เชื้อไวรัสในขณะที่ยังไม่แสดงอาการป่วย” คณะนักวิจัยระบุ

SARS-CoV-2 เป็นชื่อทางเทคนิคของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ มาจากชื่อเต็มว่า Severe acute respiratory syndrome coronavirus 2 (โคโรนาไวรัส สายพันธุ์กลุ่มอาการทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง 2)

งานวิจัยนี้ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการเพิ่มระยะห่างทางสังคม (social distancing), หลีกเลี่ยงการจับต้องใบหน้าหรือใช้มือปิดปากขณะไอและจาม รวมถึงควรพ่นสเปรย์หรือน้ำยาฆ่าเชื้อบนพื้นผิวต่างๆ อยู่เสมอ

https://mgronline.com/around/detail/9630000027112

 

อันตราย! WHO เตือนคนป่วยคล้ายโควิด-19 อย่ากินยาแก้อักเสบ
เผยแพร่: 17 มี.ค. 2563 23:01 ปรับปรุง: 18 มี.ค. 2563 11:42 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เอเอฟพี - องค์การอนามัยโลกออกคำแนะนำในวันอังคาร (17 มี.ค.) ขอคนที่มีอาการป่วยต่างๆ คล้ายคนติดเชื้อโควิด-19 หลีกเลี่ยงอย่าซื้อ ยาไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) หรือยาแก้อักเสบกลุ่มที่ไม่ใช่สเตียรอยด์มารับประทานเอง หลังเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสเตือนว่ายาชนิดนี้อาจทำให้อาการของผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ เลวร้ายลง

มีคำเตือนจากโอลิวิเยร์ เวราน รัฐมนตรีสาธารณสุขฝรั่งเศสเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากผลการศึกษาเมื่อเร็วๆ นี้ที่ตีพิมพ์ใน The Lancet วารสารทางการแพทย์รายสัปดาห์ ได้ข้อสมมติฐานว่าเอนไซม์ชนิดหนึ่งถูกกระตุ้นเมื่อได้รับยาแก้อักเสบอย่างไอบูโพรเฟน ซึ่งอาจทำให้อาการผู้ติดเชื้อโควิด-19 เลวร้ายลง

รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของฝรั่งเศส และยังเป็นแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยา ระบุในโพสต์ทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า “การรับประทานยาที่มีฤทธิ์แก้อักเสบ (ไอบูโพรเฟน คอร์ติโซน) อาจเป็นปัจจัยที่เร่งให้อาการติดเชื้อโควิด-19 แย่ลงกว่าเดิม ถ้ามีไข้ แนะนำยาพาราเซตามอล ถ้ากินยาแก้อักเสบเข้าไปแล้ว ควรพบแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม”

ด้านเจ้าหน้าที่สาธารณสุขกล่าวว่า ยาแก้อักเสบอาจเพิ่มความเสี่ยงกับผู้ป่วยที่มีอาการติดเชื้อ เพราะยาจะเข้าไปลดการตอบสนองต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ขณะที่การรับประทานยาพาราเซตามอล จะช่วยลดไข้โดยไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่ออาการอักเสบที่อาจเกิดขึ้นในร่างกาย หากผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 (ทั้งที่รู้ตัวแล้ว และยังไม่รู้ตัว)

เมื่อถูกถามเกี่ยวกับผลการศึกษานี้ โฆษกขององค์การอนามัยโลกบอกกับพวกผู้สื่อข่าวในเจนีวาว่าพวกผู้เชี่ยวชาญของสำนักงานสาธารณสุขของสหประชาชาติแห่งนี้ กำลังพิจารณาเรื่องนี้เพื่อให้คำแนะนำเพิ่มเติม “ดังนั้นในช่วงเวลานี้ เราแนะนำให้ใช้พาราเซตามอล และอย่าใช้ไอบูโพรเฟนรักษาตัวเอง มันสำคัญมาก”

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของพาราเซตามอลเองก็ควรใช้อย่างเคร่ดครัด เนื่องจากหากรับประทานมากเกินไปก็จะเป็นอันตรายต่อตับได้

โรคระบาดใหญ่โควิด-19 ซึ่งมีผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 180,000 คนทั่วโลก ในนั้นเสียชีวิตกว่า 7,000 คน ก่ออาการเล็กๆ น้อยๆ ในคนส่วนใหญ่ แต่บางรายอาจมีอาการปอดบวกและในกรณีที่มีอาการป่วยรุนแรงมาก อาจทำให้อวัยวะภายในล้มเหลว


https://mgronline.com/around/detail/9630000027062

 

นครศรีธรรมราชพบผู้ป่วยไวรัสโควิด-19 เพิ่มอีก 1 ราย กลับจากสนามมวยลุมพินี ก่อนตระเวนเข้าบ่อนไก่-วัวชนไปทั่วเมือง

พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มอีก 1 ราย ที่ จ.นครศรีธรรมราช พบเดินสายเล่นพนันต่อเนื่องหลังรับเชื้อจากสนามมวยลุมพินีที่ กทม. พ่อผวาติดเชื้อด้วยบอกลูกเดินสายเข้าบ่อนไก่ชน-บ่อนวัวชนเป็นว่าเล่น เตรียมสั่งระงับการชนไก่-วัวทั้งจังหวัด
.
#MGROnline #ไวรัสโควิด19 #นครศรีธรรมราช

https://mgronline.com/south/detail/...sxb2gzP5GupfjWRQq-6Md_dsEJHI5-rBWLG7pCvj-Xelo

 

เงียบ! ย่านเมืองเก่าภูเก็ตนักท่องเที่ยวหาย โควิด-19 ระบาด
เผยแพร่: 18 มี.ค. 2563 13:39 ปรับปรุง: 18 มี.ค. 2563 13:41 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ย่านเมืองเก่าภูเก็ต ถือเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวคนไทย จีน ยุโรป และชาติอื่นๆ เดินทางมาชื่นชมเสน่ห์เมืองเก่าภูเก็ต ความสวยงามของอาคารเก่าที่ทรงคุณค่าสถาปัตยกรรมโคโรเนียล เลือกซื้อของที่ระลึก อาหารการกินในแต่ละวันเป็นจำนวนมาก แต่เมื่อไวรัสโควิด-19 ระบาด นักท่องเที่ยวจีน และชาติอื่นๆ หายไปจากเกาะภูเก็ต ทำให้บรรยากาศย่านเมืองเก่าภูเก็ตพลอยเงียบเหงาไปด้วย ในแต่ละวันมีนักท่องเที่ยวเข้ามาอย่างบางตา ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการย่านเมืองเก่า ที่ปัจจุบันมีทั้งที่พัก ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านจำหน่ายของที่ระลึก แม้แต่ “หลาดใหญ่” ที่เปิดทุกวันอาทิตย์ ก็ได้ประกาศปิดไม่มีกำหนดจนกว่าการแพร่ระบาดของไวรัสจะหายไป เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดอีกด้วย เรียกว่า...เงียบเหงาจริงๆ ในภาวะที่โควิด-19 ระบาดหนัก

https://mgronline.com/south/detail/9630000027258

 

นักวิจัยจีนชี้ “เลือดกรุ๊ป A” เสี่ยงติดไวรัสโคโรน่าง่ายที่สุด “กรุ๊ป O” แข็งแกร่งที่สุด เผยแพร่: 18 มี.ค. 2563 10:18 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ สื่อจีน รายงาน (17 มี.ค) นักวิจัยจีนสำรวจกรุ๊ปเลือดของผู้ป่วยโรคโควิด-19 จำนวน 2,000 คนในเมืองอู่ฮั่นและเมืองเซินเจิ้น พบว่าเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรโดยรวมแล้ว คนที่มีเลือดกรุ๊ป A มีอัตราการติดเชื้อและมีอาการของโรคมากกว่าคนเลือดกรุ๊ปอื่น

รายงานระบุว่า คนเลือดกรุ๊ป O มีอัตราการติดเชื้อน้อยกว่าและมีอาการของโรคน้อยกว่าคนเลือดกรุ๊ปอื่น

นายหวัง ซินฮ่วน นักวิจัยของโรงพยาบาลจงหนาน มหาวิทยาลัยอู่ฮั่นเผยแพร่บทความเปิดเผยว่า ในบรรดาผู้ป่วยที่เสียชีวิตในอู่ฮั่นจำนวน 206 คน มีผู้ป่วยกรุ๊ปเลือด A จำนวน 85 คน มากกว่าผู้ป่วยกรุ๊ปเลือด O ร้อยละ 63

"คนเลือดกรุ๊ป A อาจใช้ความพยายามป้องกันตัวเองจากไวรัสร้ายให้มากกว่าคนกรุ๊ปเลือดอื่น และได้รับการรักษาที่จริงจังกว่าอีกด้วย" นายหวังฯ ระบุ

งานวิจัยดังกล่าวเก็บข้อมูลผู้ป่วยจากกรุงปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ อู่ฮั่นและเซินเจิ้น

นายเกา อิ่งไต้ นักวิจัยสถาบันวิจัยแห่งหนึ่งในเมืองเทียนจินให้ความเห็นว่า งานวิจัยดังกล่าวอาจเป็นประโยชน์กับผู้เชี่ยวชาญในการหาวิธีป้องกันโรคในอนาคต อย่างไรก็ดี ขอให้ประชาชนทั่วไปอย่าเพิ่งตื่นตระหนก เนื่องจากกลุ่มตัวอย่างที่นำมาวิเคราะห์ยังมีจำนวนไม่มาก นอกจากนี้ งานวิจัยดังกล่าวยังขาดความชัดเจนเกี่ยวกับปฏิกิริยาระหว่างไวรัสกับเซลล์เม็ดเลือดกรุ๊ปต่าง ๆ

https://mgronline.com/china/detail/...xZ6nMBrHR8i3_5cookSoj-piKut9F1iz4xW4hr6e5fgAU

 

Environman

วอนทั่วโลกเร่งลดโลกร้อน อากาศสุดขั้วทำพิษ นักวิทย์ยืนยัน ภาวะโลกร้อนกระตุ้น ให้เกิดไฟป่ามากขึ้น และรุนแรงขึ้น 30% ในออสเตรเลียอากาศร้อนขึ้น แห้งแล้งขึ้น ไฟป่าเกิดง่ายขึ้น ภาวะโลกร้อนเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดไฟป่าอย่างน้อย 30%
•
ไฟป่าที่ทำลายล้างออสเตรเลียตั้งแต่ปีที่ 2019 - 2020 นี้ถูกขับเคลื่อนอย่างหนักด้วยภาวะโลกร้อน
•
นักวิทยาศาสตร์พบว่าโอกาสที่สภาพอากาศสุดขั้วจนเป็นฉนวนไฟป่าได้นั้นเพิ่มขึ้นมากกว่า 30% นับตั้งแต่ปี 1900 และการเกิดไฟป่าแบบนี้มีโอกาสเกิดได้มากขึ้นมากกว่าอย่างน้อย 4 เท่า เมื่อเทียบกับต้นศตวรรษที่ 20
•
อย่างไรก็ตาม Dr. Geert Jan van Oldenborgh จาก Royal Netherlands Meteorological Institute เชื่อว่าโอกาสที่จะเกิดไฟป่าเพิ่มสูงเกินกว่า 30% หากประเมินจากค่าอุณหภูมิที่สูงขึ้น และคลื่นความร้อน
•
การวิเคราะห์ครั้งนี้เกิดขึ้นโดย World Weather Attribution (WWA) กลุ่มนักวิชาการ และนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก ที่ศึกษาผลกระทบของภาวะโลกร้อนต่อการเกิดสภาพอากาศสุดขั้ว และเหตุการณ์ภัยพิบัติ โดยการศึกษาจาก WWA ที่ผ่านมารวมถึงผลกระทบของโลกร้อนต่อคลื่นความร้อนในยุโรปเมื่อปีที่แล้วและพายุโซนร้อนรุนแรงใน Texas
•
Dr. Friederike Otto ผู้อำนวยการ the Environmental Change Institute จาก University of Oxford เผยว่านี่เป็นครั้งแรกที่สามารถแสดงได้ว่าภาวะโลกร้อนได้ส่งผลกระทบต่อความเสี่ยงของการเกิดไฟป่าใน Southeastern Australia ที่เกิดขึ้น
•
โดยทางกลุ่มได้เผยว่าสภาพภูมิอากาศที่เกิดโดยมนุษย์นี้ กระตุ้นให้เกิดไฟป่า และในอนาคตมีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดไฟป่าที่รุนแรงเช่นนี้เกิดขึ้นอีก
•
หากรัฐบาลทั่วโลกไม่สามารถควบคุมให้อุณหภูมิทั่วโลกไม่ให้เพิ่มขึ้นไปมากกว่า 2 องศาได้ เราอาจประสบกับเหตุการณ์ไฟป่าที่เกิดขึ้นเช่นนี้ได้อีกในปีต่อ ๆ ไป และถ้าหากอุณภูมิโลกเพิ่มขึ้นไปมากกว่า 2 องศาหมายความว่าในฤดูไฟป่าเราอาจเผชิญไฟที่โหมหนักได้มากกว่าปัจจุบันนี้มาก
•
โดยหากรัฐบาลทั่วโลกไม่สามารถหยุดภาวะโลกร้อนและอุณหภูมิเฉลี่ยโลกไม่ให้สูงเกิด 2 องศาเซลเซียสได้ จะทำให้สภาพไฟป่าแบบนี้มีโอกาสเกิดขึ้นมากกว่าถึง 4 เท่าในไม่กี่ปีข้างหน้า อย่างไรก็ตามขณะนี้โลกกำลังมุ่งหน้าสู่อุณหภูมิที่สูงขึ้น
•
เหล่านักวิทยาศาสตร์ยังได้ศึกษา ถึงผลกระทบของภาวะโลกร้อนต่อคลื่นความร้อนในออสเตรเลียช่วงธันวาคมที่ผ่านมา โดยมันทำให้อุณหภูมิพึ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการ
•
โดยการศึกษาเผยว่าคลื่นความร้อนกระตุ้นความเสี่ยงให้เกิดไฟป่ามากขึ้น และคลื่นความร้อนในออสเตรเลียขณะนี้ร้อนขึ้นกว่า 1 - 2 องศาเซลเซียส และมีโอกาสเกิดขึ้นมากกว่าถึง 10 เท่า เมื่อเทียบกับปี 1900
•
ไฟป่าที่เกิดขึ้นในออสเตรเลียในปี 2019 จนถึง 2020 เป็นไฟป่าที่เลวร้ายที่สุดในประวัติการของประเทศ มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 28 คน ทำลายบ้านเรือนนับพันหลัง ส่งผลกระทบต่อสัดว์นับพันล้านตัวทั่วประเทศ พื้นที่ป่ากว่า 100 ล้านไร่ถูกเผาจนวอด
•
ออสเตรเลียเป็นหนึ่งในทวีปที่แห้งและร้อนที่สุด แถมยังมีอัตราการแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศที่สูงมากอีกด้วย และอุณหภูมิกำลังสูงขึ้นไปอีก
•
ซึ่งอุณหภูมิโดยเฉลี่ยสูงขึ้นมากกว่า 1 องศาจากในปี 1910 และเมื่อปี 2019 ที่ผ่านมาเป็นปีที่ร้อน และแห้งที่สุดของออสเตรเลียเท่าที่เคยมีการบันทึกมา ซึ่งสภาพแวดล้อมแบบนี้ ความร้อน และความแห้งแล้งแบบนี้เหมาะสมต่อการทำให้เกิดไฟป่าอย่างมาก
•
โดยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา New South Wales ได้ประกาศว่าไฟป่าได้หยุดลงแล้วหลังไหม้ยาวนานกว่า 240 วัน
•
นักวิทยาศาสตร์ได้เตือนมาอย่างยาวนานกว่าไฟป่ารุนแรงจะเกิดขึ้น และหากเราไม่สามารถหยุดก่อมลพิษ และหยุดภาวะโลกร้อนได้ ฤดูไฟป่าจะเกิดมากขึ้นอีกเป็นแน่
•
https://edition.cnn.com/2020/03/04/world/australia-wildfires-made-more-likely-by-climate-change/index.html

https://www.nytimes.com/2020/03/04/climate/australia-wildfires-climate-change.html

https://www.nature.com/articles/d41586-020-00627-y
•
เด็กหญิงแก้มยุ้ยเป็นมิตร
environman

 

ที่นี่ โคราชไง
·
#แจ้งข่าวด่วน #โคราชพบผู้ติดเชื้อโควิด19 เเล้ว
ผู้ว่าฯโคราช เเถลงยืนยัน พบติดเชื้อเเล้ว 2 ราย

 

ที่นี่ โคราชไง

#ฝากแจ้งข่าว โรงหนังเครือเมเจอร์
#สั่งปิดทุกสาขาทั่วประเทศ วันนี้-31 มี.ค.63
ตามมาตรการของรัฐบาล เพื่อควบคุมโควิด-19

สำหรับผู้ที่ซื้อบัตรล่วงหน้า
เก็บหลักฐานเพื่อติดต่อขอรับเงินคืนได้
ตั้งเเต่วันที่ 1 เม.ย. 63 เป็นต้น

ที่มา:

 

อ้ายจง

ไต้หวันประกาศแบนชาวต่างชาติทุกประเทศ ห้ามเดินทางเข้า ยกเว้นได้รับการอนุญาตพิเศษ
.
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ไต้หวันประกาศยกระดับแจ้งเตือนภัยระดับสูงสุดสำหรับประเทศต่างๆรวมถึงไทย ล่าสุดวันนี้ 18มีนาคม ไต้หวันประกาศแบนชาวต่างชาติทุกประเทศ ห้ามเดินทางเข้า ยกเว้นได้รับการอนุญาตพิเศษ ได้แก่ มีบัตรประจำตัวพำนักในไต้หวัน (Alien Resident Certificate), เจ้าหน้าที่ทางการทูต, นักธุรกิจที่มีใบอนุญาตให้เข้าเป็นกรณีพิเศษ

และทุกคนที่แม้จะได้รับอนุญาตเข้าไต้หวัน แต่ก็ต้องกักตัว14วัน รวมถึงชาวไต้หวันเองครับ ตามการแถลงของทางการไต้หวันครับ ตอนนี้มีประกาศในเว็บไซต์ทางการของศูนย์ควบคุมโรคไต้หวัน (Taiwan Centers for Disease Control) แล้วครับ โดยดูได้ที่ https://www.cdc.gov.tw/Bulletin/Detail/mwGBh07PQ_2FeJvl9xhfZw?typeid=9

#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน

 

PTS โฟกัสไต้หวัน 公視泰語新聞

‼️‼️‼️
ด่วน !!!! โควิด-19 ระบาดทั่วโลก ศูนย์บัญชาการควบคุมโรคระบาดไต้หวันประกาศในวันนี้ (18 มี.ค.) ว่า จะควบคุมการเดินทางเข้าไต้หวันให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น โดยตั้งแต่เวลา 0.00 น. ของวันที่ 19 มี.ค. ห้ามชาวต่างชาติทั้งหมดเดินทางเข้าไต้หวัน ชาวไต้หวันและชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าไต้หวันต้องกักตัวเพื่อสังเกตอาการเป็นเวลา 14 วัน
‼️‼️‼️
นายอู๋จาวเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ไต้หวัน ได้ชี้แจงเพิ่มเติมมาตรการดังกล่าวว่า มาตรการห้ามชาวต่างชาติเดินทางเข้าไต้หวันนี้ ยกเว้นชาวต่างชาติที่มีบัตรอนุญาตถิ่นที่อยู่ในไต้หวัน หลักฐานการเดินทางมาเพื่อปฏิบัติภารกิจด้านการทูต หรือเพื่อธุรกิจที่จำเป็นตามสัญญา เท่านั้น ซึ่งบุคคลเหล่านี้เมื่อเดินทางเข้าไต้หวันแล้วจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบมาตรการป้องกันโรคระบาดของไต้หวันอย่างเคร่งครัด

新冠肺炎延燒全球，中央流行疫情指揮中心今天(18日)宣布，境外限制將會再加嚴，3月19日0時起，非本國籍人限制入境，且所有入境者，包括國人與外國人都要進行居家檢疫14天。

外交部補充，外籍人士除持居留證、外交公務證明、商務履約證明等相關證明外，其餘一律禁止入境，持相關證明入境亦需遵從防疫規範。

 

.
ร้านอาหารฝรั่งเศสสุดหรู ในโรงแรมอินเตอร์คอนฯ ฮ่องกง โดย อลัง ดูคาส ผู้ได้ชื่อว่า ครองมิชลินสตาร์มากดวงที่สุดในโลก
.
ได้ปิดตัวลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และพนักงานราว 30 คนก็ตกงานไปในทันที
.
ธุรกิจร้านอาหารในฮ่องกง ได้รับผลกระทบตั้งแต่เรื่องม็อบ และดำดิ่งได้หนักกว่านั้น ในช่วงไวรัสที่ทั้งคนฮ่องกงและรัฐบาลเองก็แนะนำให้หลีกเลี่ยงการทานข้าวนอกบ้าน
.
ตอนนี้ ร้านอาหารตั้งแต่เล็กๆ ถึงหรูๆ ต่างหาทางดิ้นรนจัดเมนู delivery เพื่อความอยู่รอด
ส่วนร้านพวก fine-dining พวก chef table พวกดาวมิชลินหลายดวง ก็จะเป็นกลุ่มที่จัดว่า เจ็บหนักที่สุด
.
หวังว่า Alain Ducasse ที่เปิดในไทย ยังไปได้ดีอยู่นะคะ
.
Source:
https://www.scmp.com/lifestyle/food-drink/article/3074776/protests-and-coronavirus-forces-rech-alain-ducasse-close-hong
.
#eatlike852 #covid19hongkong

 

นักวิจัยของเราบอกว่า coronavirus ใหม่สามารถใช้งานได้ในอากาศเป็นเวลามากกว่าสามชั่วโมงแนะนำว่าการติดเชื้อในทางอากาศสามารถเกิดขึ้นได้

นักวิจัยสหรัฐกล่าวว่า coronavirus ใหม่สามารถคงอยู่ในอากาศได้นานกว่าสามชั่วโมงโดยบอกว่าการติดเชื้อทางอากาศสามารถเกิดขึ้นได้

กลุ่มนักวิจัยจากสถาบันสุขภาพแห่งชาติศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคและอื่น ๆ ตีพิมพ์ผลการวิจัยในวารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์ในวันอังคารที่

พวกเขาสร้างสภาพแวดล้อมแบบละอองโดยใช้เครื่องพ่นฝอยละอองที่มีอนุภาคของเหลวขนาดเล็กถึงห้าไมโครเมตรที่มีเชื้อไวรัสแพร่กระจายไปในอากาศ

นักวิจัยกล่าวว่าพวกเขาพบว่าไวรัสยังคงทำงานได้ในละอองลอยนานกว่าสามชั่วโมง

หยดน้ำส่วนใหญ่จากการจามและไอจะตกลงสู่พื้นอย่างรวดเร็วเนื่องจากมีขนาดค่อนข้างใหญ่ แต่อนุภาคขนาดเล็กสามารถอยู่ในอากาศได้นานขึ้น

CDC กล่าวว่าแนวทางต้องระบุอย่างชัดเจนว่าคนงานในสถานพยาบาลที่มีสภาพแวดล้อมที่มีละอองลอยมีแนวโน้มว่าควรสวมหน้ากากอนามัยเมื่อต้องเผชิญกับผู้ป่วย

https://www3.nhk.or.jp/nhkworld/en/...uqmp96zl7AH23W7l0HD1IhVZtrVy4cV9ko7oav26ep5m4

แบ่งปันจาก NHK WORLD-JAPAN

 

... "สงครามนุ่ม: ทำให้ทั่วโลกเกลียดกลัวจีน"

... เมื่อสิบกว่าปีที่ผ่านมามีการสร้างวาทะกรรมตามสื่อหลักคำว่า "การก่อการร้าย" ถูกสร้างขึ้นมาล้างสมองและทำให้ชาวโลกกลัว โดยมีการแอบแฝงแนบความเป็นศาสนาอิสลามเข้าไป เพื่อทำให้ทั่วโลกเกลียดกลัวศาสนาอิสลามหรือIslamophobia, เป็นการลอกเลียน "ผีคอมมิวนิสต์" ในสมัยสงครามเย็นกลับมาอีกครั้ง รูปแบบใหม่แต่วิธีการเดิม และเขาก็ทำได้ผลสำหรับคนทั่วไป ที่ตามไม่ทันคนเขียนบท

... มาวันนี้" สงครามเย็นใหม่" กำลังดุเดือด ทั้งจับลูกสาวหัวเหว่ย แบนโทรศัพท์หัวเหว่ยใช้โอเอสของแอนดรอยด์ รวมทั้งบีบทั่วโลกห้ามใช้ 5จี ของหัวเหว่ยเป็นต้น

... มาถึงตอนนี้อีกรูปแบบของ "สงครามเย็นใหม่" ก็ปรากฏโฉมชัดเจนขึ้น

... ไม่กี่วันก่อนนายปอมปิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกาเรียกโควิด19ว่า " ไวรัสอู่ฮั่น" เพื่อหวังจะให้สื่อมวลชนสมุนทาสตัวเองประสานเสียงรับ เพื่อจะ "สร้างให้จีนเป็นผู้ร้ายของโลก" ว่าเป็นแหล่งแพร่เชื้อ ทำให้คนทั่วโลกเกลียดกลัวจีนเป็นขั้นตอนต่อไป แบบเนียนๆ

... "จีน" ก็รู้ทัน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศก็เลยสวนคืนว่า เป็นไปได้ที่นักกีฬาทหารอเมริกันในเดือนตุลาคม 2019 ที่อู่ฮั่นเป็นเจ้าภาพ "กีฬาทหารโลก" , ที่มาแข่งแบบไม่หวังผลชนะไม่ได้เหรียญทองเลยผลงานแย่มาก แต่หลังฉากอาจจะเป็นสายลับปฏิบัติการพิเศษมาวางยาเชื้อโรคไวรัส เพราะที่พักนักกีฬาของอเมริกาใกล้ตลาดอาหารทะเลหัวหนานที่เป็นแหล่งที่ค้นพบการระบาดครั้งแรก

... ล่าสุด 17 มีนาคม 2020, ลุงทรัมป์ ออกมาโพสต์ในทวิตเตอร์โดยใช้คำว่า "ไวรัสจีน" อย่างชัดเจน เรื่องนี้ทำให้จีนเดือดปุดๆ เพราะว่ายังสงสัยเรื่องที่สองปีหลังจาก 2017ถึง2019 ทำไมคนอเมริกาเสียชีวิตเพราะไข้หวัดใหญ่เยอะมากเป็นประวัติการณ์ปีละเป็นหมื่นๆคน และที่สำคัญบางส่วนในนั้นเป็นการเสียชีวิตด้วย "โควิด19" ที่มีการยอมรับว่าวินิจฉัยผิดว่าตอนแรกตรวจว่าเป็นไข้หวัดใหญ่

... "จีน" จึงเร่งไล่บี้ถามว่า คนอเมริกันคนแรก ที่เสียชีวิตจากโควิด19นั้นเกิดขึ้นเมื่อไหร่ โรงพยาบาลไหน เกิดก่อนที่อู่ฮั่นหรือไม่? อยากให้เอาข้อมูลมาเปิดเผยกับชาวโลก แต่จนถึงทุกวันนี้อเมริกาก็เฉย ตอบจีนไม่ได้

... เรื่องนี้จึงไม่ใช่แค่การโต้ตอบธรรมดา แต่มันคือ "สงครามการสร้างให้เป็นผู้ร้าย" ในสายตาชาวโลก ที่ทั้งสองชาติ ต่างไม่ยอมกันง่ายๆอย่างแน่นอน

.

... https://www.scmp.com/news/china/diplomacy/article/3075464/coronavirus-washington-beijing-war-words-continues-chinese

 

ซาอุฯ สั่งปิดมัสยิด-ให้เอกชนหยุดงานครึ่งเดือนสกัด ‘โควิด-19’
เผยแพร่: 18 มี.ค. 2563 11:07 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เอเจนซีส์ - รัฐบาลซาอุดีอาระเบียสั่งงดการละหมาดวันละ 5 เวลาภายในมัสยิด รวมถึงพิธีละหมาดวันศุกร์ และให้ภาคเอกชนหยุดงานเป็นเวลา 15 วัน ยกเว้นธุรกิจด้านอาหารและบริการสุขภาพ เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ซึ่งขณะนี้พบผู้ติดเชื้อในซาอุดีอาระเบียแล้ว 171 ราย

รัฐบาลซาอุฯ ตัดสินใจใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดเพื่อชะลอการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส เช่น สั่งงดพิธีอุมเราะห์ ระงับเที่ยวบินระหว่างประเทศ รวมถึงสั่งปิดโรงเรียนและสถานที่สาธารณะเกือบทุกแห่ง

สำนักข่าว SPA อ้างถ้อยแถลงจากองค์กรศาสนาสูงสุดของซาอุฯ ซึ่งระบุว่า พิธีละหมาดในมัสยิดจะยังคงมีเฉพาะที่มัสยิดหะรอมในนครเมกกะ และมัสยิดอัน-นะบะวีย์ในนครมะดีนะห์ ส่วนมัสยิดอื่นๆ ทั่วประเทศจะปิดประตูและประกาศเชิญชวนให้ชาวมุสลิมทำละหมาดที่บ้าน

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลซาอุฯ ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ของรัฐหยุดงาน ยกเว้นเฉพาะหน่วยงานด้านสาธารณสุข กองทัพ และความมั่นคง

ราชอาณาจักรซาอุฯ ในฐานะประธานกลุ่ม G20 ยังประกาศจัดการประชุมสุดยอดผู้นำผ่านระบบวีดีโอลิงค์ในสัปดาห์หน้า “เพื่อผลักดันชุดนโยบายร่วมที่จะช่วยปกป้องประชาชนและเศรษฐกิจโลก” ซึ่งกำลังได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการระบาดของเชื้อโควิด-19

รัฐอ่าวอาหรับมีรายงานผู้ติดเชื้อรวมกันกว่า 1,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการเดินทางไปเยือน ‘อิหร่าน’ ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดในตะวันออกกลาง

โอมานพบผู้ติดเชื้อใหม่ 9 รายจากทั้งหมด 33 รายทั่วประเทศ และรัฐบาลได้ประกาศปิดมัสยิด, ร้านอาหาร, ร้านกาแฟ, สถานที่ท่องเที่ยว รวมถึงตลาดพื้นบ้านและห้างสรรพสินค้าต่างๆ ยกเว้นเพียงร้านขายของชำและร้านขายยา โดยจะมีผลตั้งแต่เที่ยงวันนี้ (18) เป็นต้นไป นอกจากนี้ยังเตรียมปิดพรมแดนงดรับชาวต่างชาติและห้ามพลเมืองออกนอกประเทศด้วย

ในส่วนของกาตาร์ซึ่งพบผู้ติดเชื้อแล้ว 442 ราย ทว่ายังไม่มีผู้เสียชีวิต ได้สั่งปิดมัสยิด บาร์ โรงภาพยนตร์ โรงเรียน และยกเลิกการแข่งขันกีฬาต่างๆ ไปแล้วก่อนหน้านี้ และล่าสุดยังประกาศปิดธนาคารอย่างไม่มีกำหนด รวมถึงสั่งปิดห้างร้านที่ไม่ได้จำหน่ายอาหารหรือยารักษาโรค

บาห์เรนซึ่งพบผู้ติดเชื้อ 227 ราย และมีผู้เสียชีวิตรายแรกในกลุ่มรัฐอ่าวอาหรับ ประกาศจะอุดหนุนค่าไฟฟ้าให้บริษัทห้างร้านและประชาชนเป็นเวลา 3 เดือนตั้งแต่ เม.ย. เป็นต้นไป

https://mgronline.com/around/detail/9630000027151

 

เบลเยียมชาติล่าสุดล็อกดาวน์ประเทศจัดการวิกฤตโควิด-19 ห้าม ปชช.ออกจากบ้าน เผยแพร่: 18 มี.ค. 2563 05:02 ปรับปรุง: 18 มี.ค. 2563 11:22 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เอเอฟพี - ชาวเบลเยียมต้องอยู่แต่ในบ้านนับตั้งแต่เที่ยงวันของวันพุธ (18 มี.ค.) ไปจนถึงอย่างน้อนวันที่ 5 เมษายน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) จากคำแถลงของนายกรัฐมนตรีโซฟี วิลเมส ในวันอังคาร (17 มี.ค.)

นายกรัฐมนตรีหญิงระบุว่า มีเพียงชาวบ้านซึ่งจำเป็นต้องเดินทางไปพบแพทย์เท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้ออกนอกบ้าน เช่นเดียวกับออกกำลังกายเป็นเวลาสั้นๆ หรือทำงานในธุรกิจบางอย่างที่ผ่านการพิจารณาแล้วว่ามีความจำเป็น อย่างเช่นตามตลาดขายอาหารและร้านขายยา

มาตรการที่เข้มข้นของเบลเยียมเป็นไปตามความเคลื่อนไหวแบบเดียวกันของเพื่อนบ้านอย่างฝรั่งเศส ในณะที่ยุโรปกำลังต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกไปแล้วมากกว่า 7,800 คน

คำแถลงของ วิลเมส ไม่ขึ้นไม่นานหลังจากเธอร่วมประชุมทางไกลกับผู้นำอื่นๆของสมาชิก 26 ชาติอียู ซึ่งระหว่างการพูดคุยกัน บรรดาผู้นำเห็นพ้องประสานงานความร่วมมือในการดำเนินมาตรการต่างๆ เพิ่มเติมอย่างเต็มที่

“ขอร้องให้พลเมืองอยู่แต่ในบ้านเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิด ยกเว้นแต่ไปพบแพทย์ ไปร้านค้าเพื่อซื้ออาหาร สำนักงานไปรษณีย์ ธนาคาร ร้านขายยา สถานีบริการน้ำมัน หรือออกไปช่วยใครบางคนที่ต้องการความช่วยเหลือจริงๆ”

เธอบอกต่อว่า ชาวเบลเยียมสามารถออกมาข้างนอกเพื่อสูดอากาศสดชื่นและออกกำลังกายช่วงสั้นๆได้ แต่ต้องออกมาเพียงลำพังหรือกับคนใกล้ชิดที่พักอาศัยอยู่ด้วยกันเท่านั้น หลังจากก่อนหน้านี้ร้านอาหารและบาร์ต่างๆถูกปิด มีเพียงร้านสั่งซื้อแบบหิ้วกลับบ้านเท่านั้นที่ยังเปิดให้บริการได้

แม้ซูเปอร์มาร์เกตยังคงเปิดให้บริการ แต่พวกลูกค้าได้รับคำแนะนำให้เข้าไปจับจ่ายใช้สอยก็ต่อเมื่อซูเปอร์มาร์เกตนั้นๆ มีพื้นที่มากสำหรับลูกค้ารายหนึ่งต่อ 10 ตารางเมตรและไม่ควรอยู่ในนั้นเกินกว่า 30 นาที

หากสามารถทำได้ บริษัทต่างๆ สามารถอนุญาตให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน แต่บริษัทใดที่ไม่สามารถำดำเนินการแบบนั้นได้ ก็ต้องยึดถือกฎเว้นระยะห่างทางสังคมในที่ทำงานและบนระบบขนส่งสาธารณะ

ทั้งนี้ บริษัทต่างๆ มีสิทธิ์ถูกปรับเงินหากไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบใหม่

ก่อนหน้านี้การเดินทางเยือนต่างประเทศที่ไม่จำเป็นได้ถูกห้ามไปจนถึงอย่างน้อยวันที่ 5 เมษายน

เบลเยียม ประเทศที่มีประชากร 11.4 ล้านคน พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่แล้ว 1,243 เคส ในนั้นเสียชีวิต 10 คน

https://mgronline.com/around/detail/9630000027082

 

วันนี้ (18 มี.ค.63) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้า จุดผ่านแดนผ่อนปรนทั้ง 13 จุด ใน จ.นราธิวาส จะถูกสั่งปิด เพื่อให้คนไทยที่จะเดินทางเข้ามายังประเทศไทย ใช้ช่องทางด่านหลักทั้ง 3 ด่าน แต่จากการตรวจสอบ พบว่า ยังคงมีการข้ามพรมแดนในเส้นทางธรรมชาติ ผ่านทางเรือในแม่น้ำโก-ลก มายังประเทศไทย โดยไม่ผ่านการคัดกรอง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มกำลังแนวตะเข็บชายแดนบริเวณริมแม่น้ำโก-ลก ป้องกันการเข้าประเทศ

#ThaiPBSnews

Thai PBS ศูนย์ข่าวภาคใต้

แม้ตั้งแต่เวลา 05.00 น. ที่ผ่านมา จุดผ่านแดนผ่อนปรนทั้ง 13 จุด ในจังหวัดนราธิวาส จะถูกพลโท พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาค 4 สั่งปิด เพื่อให้คนไทยที่จะเดินทางเข้ามายังประเทศไทย ใช้ช่องทางด่านหลักทั้ง 3 ด่าน แต่จากการตรวจสอบของไทยพีบีเอส พบว่า ยังคงมีการข้ามพรมแดนในเส้นทางธรรมชาติ ผ่านทางเรือในแม่น้ำโก-ลก มายังประเทศไทย โดยไม่ผ่านการคัดกรอง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มกำลังแนวตะเข็บชายแดนบริเวณริมแม่น้ำโก-ลก ป้องกันการเข้าประเทศ #ThaiPBSศูนย์ข่าวภาคใต้