ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,793
    ค่าพลัง:
    +97,150
    มี”ไซริวการ์ด”ก็ถูกปฏิเสธการเข้าประเทศญี่ปุ่น
    เริ่มตั้งแต่. ”3เมษายน2020”
    สรุปข่าวจากลิ้งค์ของ 法務省  กระทรวงยุติธรรม Ministry of Justice.
    เกี่ยวกับการปฎิเสธการขึ้นฝั่ง(เข้าประเทศญี่ปุ่น)ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการแพร่ขยายของการติดเชื้อ
    “ โคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ “

    สรุปคือ : ผู้ที่ถือ
    -วีซ่าถาวร (เอจูเชียะ)
    -วีซ่าคู่สมรสชาวญี่ปุ่น (นิฮองยิ่นไฮกูเชียะ)
    -วีซ่าคู่สมรสของผู้ถือวีซ่าถาวร
    (เอจูเชียะโนะไฮกูเชียะ)
    -วีซ่าตั้งถิ่นฐาน (เทจูเชียะ)
    และคนต่างชาติที่มีประวัติของการพำนักในเขต..ประเทศ.........( ประมาณ26ประเทศ )........
    ก่อนวันยื่นเรื่องขอขึ้นฝั่ง(เข้าประเทศญี่ปุ่น)ภายใน14วัน
    โดยที่ออกและกลับเข้าญี่ปุ่น
    ถึงวันที่ 2 เมษายน 2020
    ให้ถือว่า “ มีเหตุผล เป็นสถานการณ์พิเศษ “
    สามารถใช้ไซนิวโกกุ กลับเข้าประเทศญี่ปุ่นได้

    “ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2020”
    ผู้ที่ถือ
    -วีซ่าเอจูเชียะ (วีซ่าถาวร)
    -วีซ่านิฮองยิ่นไฮกูเชียะ (วีซ่าคู่สมรสชาวญี่ปุ่น )
    -วีซ่าเอจูเชียะโนะไฮกูเชียะ (วีซ่าคู่สมรสของผู้ถือวีซ่าถาวร)
    -วีซ่าเทจูเชียะ (วีซ่าตั้งถิ่นฐาน)
    และคนต่างชาติที่มีประวัติของการพำนักในเขต...ประเทศไทย..+ อีกประมาณ 74 ประเทศ..
    ( รวมประมาณ 75 ประเทศ )....
    ก่อนวันยื่นเรื่องขอขึ้นฝั่ง(เข้าประเทศญี่ปุ่น)ภายใน14วัน
    และมีหรือจะใช้ไซนิวโกกุ
    ก็จะไม่สามารถกลับเข้าญี่ปุ่นได้
    ฉะนั้น ผู้ที่พำนักอาศัยอยู่ในญี่ปุ่น
    ในขณะนี้ กรุณางดหรือระงับการเดินทางไปยังประเทศ...เขต..เป้าหมาย
    ของการถูกปฏิเสธในการขึ้นฝั่ง (เข้าประเทศ(ญี่ปุ่น)
    ***สำหรับวีซ่าถกกุเบจึเอจูเชียะ
    (วีซ่าถาวรพิเศษ) ตามกฎของตม.
    (นิวกัง)ไม่ถูกจัดอยู่ในเป้าหมาย จึงไม่ถูกปฏิเสธในการขึ้นฝั่ง
    (เข้าประเทศญี่ปุ่น) ตามแต่ละมาตรการดังข้างต้น
    เพิ่มเติมตามลิ้งค์ข้างล่างคะ

    http://www.moj.go.jp/hisho/kouhou/20200131comment.html

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,793
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Setiawan

    ต้องการการอัพเดต #Yellowstone หรือไม่

    แผ่นดินไหว ขนาด# M5.7 ใกล้ Salt Lake City และ ขนาด # M6.5 ในไอดาโฮไม่เกี่ยวข้องกับภูเขาไฟเยลโลว์สโตน

    นี่คือการอัพเดต

    มีการอัปเดตวิดีโอรายเดือน #Yellowstone Volcano Observatory แล้ว!

    ไมค์โปแลนด์กล่าวถึงแผ่นดินไหวที่ไอดาโฮและยูทาห์กิจกรรมแผ่นดินไหวและการเสียรูปโดยรวมในเยลโลว์สโตนเมื่อเดือนที่แล้วและการปะทุของกระแสน้ำในสตีมโบท!

    Need for #Yellowstone update?

    #M5.7 earthquake near Salt Lake City and #M6.5 in Idaho not related to Yellowstone volcano.

    Here is the update

    The #Yellowstone Volcano Observatory monthly video update is now available!

    YVO Scientist-in-Charge Mike Poland discusses the Idaho and Utah earthquakes, overall seismic and deformation activity in Yellowstone over the past month, and recent water eruptions of Steamboat Geyser!

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,793
    ค่าพลัง:
    +97,150
    suicide mission ปฏิบัติการฆ่าตัวตายของสวีเดน
    .
    อีกประเทศที่น่าจับตาในวิกฤต #ไวรัสโคโรนา #โควิด19 คือสวีเดน เพราะสวนทางกับยุโรปส่วนใหญ่ คือไม่มี lockdown ร้านอาหารยังเปิดได้ นักเรียนประถมยังไปเรียน คนยังออกมานอกบ้าน รัฐบาลสั่งปิดแค่มหาลัยกับโรงเรียนมัธยม ห้ามรวมตัวเกิน 50 คน ย้ำให้ social distancing และเพิ่มอัตราการตรวจเชื้อ
    แน่นอนว่ามีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย โดยโพลในประเทศล่าสุดพบว่าชาวสวีดิชส่วนใหญ่ยังเห็นด้วยกับรัฐบาล บางคนให้เหตุผลว่าพวกเขาเชื่อมั่นในรัฐบาลและระบบสาธารณสุขของประเทศอย่างมาก ซึ่งคนชาติอื่นอาจจะไม่เข้าใจ โพลพบด้วยว่าคนสวีดิชให้ความร่วมมือดี ประชาชนถึง 3/4 ทำ social distancing
    แต่ขณะเดียวกัน หลายคนมองว่านี่คือ suicide mission หรือปฏิบัติการฆ่าตัวตายของสวีเดน ก่อนหน้านี้ กลุ่มเจ้าหน้าที่สาธารณสุขสูงอายุในประเทศส่งจดหมายเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาตรการที่เข้มข้นกว่านี้ นักไวรัสวิทยาคนหนึ่งก็คาดการณ์ว่าการระบาดในสวีเดนจะยืดเยื้อเกิน 1 ปี ถ้ารัฐไม่รีบ lockdown
    ตอนนี้ สวีเดนมีผู้ติดเชื้อเกือบ 5,000 คน เสียชีวิต 239 คน จำนวนเคสเพิ่มไม่เร็วเท่าหลายประเทศ แต่สวีเดนมีประชากรแค่ 10 กว่าล้านคน เท่ากับว่าสัดส่วนคนติดเชื้อค่อนข้างสูง จึงเป็นที่น่าจับตามองว่าแนวทางแบบสวีเดนจะได้ผลมั้ย หรือสุดท้ายจะวิกฤตหนักกว่าประเทศอื่น
    cr tw #benwonx

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,793
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เมื่อผู้หญิงมาเลเซียทำกับข้าวไม่เป็นแล้วเขาจะรับมือกับการปรับตัวที่บ้านยุคcovid 19
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,793
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โควิดทำชาว Wales ปิดบ้านเงียบ แพะภูเขาโผล่เดิน
    เล่นบนถนนป่วนเมือง! ปีนป่ายหาอาหารกลางเมืองใน Llandudno ตอนเหนือของ Wales ขณะผู้คนอยู่บ้านป้องกันไวรัส

    ฝูงแพะเดินบนถนนใน Llandudno ตอนเหนือของ Wales ขณะผู้คนปิดเมืองอยู่บ้านช่วงแพร่ระบาดโควิด-19

    Andrew Stuart ชาวเมือง Llandudno ซึ่งเป็นเมืองริมทะเลเล็กๆใน Wales ถ่ายภาพและวิดีโอ แพะภูเขา Kashmiri goats เดินหาอาหารกลางถนน โดยพวกมันลงมาจาก Great Orme แหลมผาชันทางตอนเหนือของ Wales

    พวกมันระมัดระวังผู้คนอย่างมาก Andrew Stuart เผย โดยเป็นโชคดีของพวกมันที่ไม่มีผู้คนมากนัก

    ฝูงแพะเหล่านี้ดั้งเดิมเป็นของขวัญจาก Queen Victoria มอบแด่ Lord Mostyn ซึ่งลูกหลานของพวกมันเป็นสัตว์ป่าที่อยู่ในสวน Great Orme Country Park ที่มีบริเวณกว้างใหญ่

    Andrew Stuart เผยว่าพวกมันมักลงมาเวลาที่ลมแรง แต่ก็ไม่ลงมาในเมืองที่มีความวุ่นวาย และเมื่อเวลาที่มันลงมาก็มักเกิดเรื่องวุ่นวาย

    แต่ในขณะที่ประเทศกำลังปิดจากโคโรนาไวรัสแบบนี้ทำให้แพะเหล่านี้เห็นโอกาสที่จะลงมาในเมืองและเดินเล่น
    ••
    ถือเผ็นภาพน่ารักๆที่ยากจะเห็นในช่วงเวลาปกติ

    ที่มา

    Andrew Stuart

    https://twitter.com/AndrewStuart

    https://www.nytimes.com/2020/04/01/science/coronavirus-animals-wildlife-goats.html

    https://www.theguardian.com/uk-news...Social&utm_source=Facebook#Echobox=1585650658
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,793
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ฮ่องกงพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 37 รายวานนี้ และเพิ่มมาตรการปิดผับ บาร์ 2 สัปดาห์

    เริ่มวันนี้ เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป รัฐบาลฮ่องกงประกาศปิดผับ บาร์รวมทั้งสถานที่ต่างๆ ที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นหลัก เป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อหวังควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19

    มาตรการดังกล่าวได้ถูกประกาศออกมา หลังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มในฮ่องกงอีก 37 รายวานนี้ รวมเป็น 802 ราย

    Sophia Chan รัฐมนตรีฝ่ายอาหารและสุขภาพเผยว่าตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมามีผู้ติดเชื้อถึง 573 รายที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ส่วนการติดเชื้อจากในฮ่องกงพบ 23% หรือ 132 ราย

    ผู้ที่ติดเชื้อในฮ่องกง มี 69 รายที่เกี่ยวข้องกับบาร์และผับ ซึ่งนับว่าเป็นพื้นที่ๆ มีความเสี่ยงสูง

    ในส่วนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มวานนี้ มีอีก 2 รายที่เกี่ยวกับร้านเสริมความงาม ซึ่งทางรัฐบาลก็กำลังจับตาดูสถานการ์ของร้านเสริมความงามอย่างใกล้ชิด

    ***ติดตามอัพเดทสรุปประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับไวรัสโคโรน่าในฮ่องกงได้ที่กระทู้ปักหมุด***


    Source: https://www.scmp.com/news/hong-kong...ronavirus-two-beauty-parlour-employees-among?

    #ข่าวฮ่องกง #khaohongkong

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,793
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จำนวนผู้ติดเชื้อCovid-19
    #ทะลุ1ล้านรายเรียบร้อยแล้ว
    จำนวนผู้ติดเชื้อ = 1,003,732 คน
    รักษาหาย = 208,870 คน
    ☠️ตาย = 51,449 คน
    .
    ลิ้งค์ตรวจสอบจำนวนผู้ติดเชื้อ
    https://multimedia.scmp.com/widgets/china/wuhanvirus/

    ลิ้งค์เปรียบเทียบจำนวนผู้ติดเชื้อCovid-19กับเชื้อไวรัสอื่นๆที่แพร่ระบาดรุนแรงในอดีต
    https://multimedia.scmp.com/widgets/china/viruscompare/

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,793
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #SUN TODAY
    03/04/20
    จุดดับเกิดใหม่ Sunspot AR2759 มีขั้วแม่เหล็กที่กลับด้านซึ่งระบุว่าเป็นสมาชิกใหม่ของ Solar Cycle 25

    Solar wind(ลมสุริยะ) ไหลจาก หลุมโคโรน่า (coronal hole) น่าจะถึงโลกในวันที่ April 4th or 5th.
    Credit: SDO/AIA, SDO / HMI
    #Watchers

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,793
    ค่าพลัง:
    +97,150
    'คำสาปแช่ง' กับ 'โควิด' นัยยะที่ซ่อนอยู่หลังคำมุ่งร้าย

    750x422_874135_1585815804.jpg
    2 เมษายน 2563 | โดย วทัญญู ฟักทอง

    ทำไมต้องถึงกับเขียน "คำสาปแช่ง" ในคำประกาศการเฝ้าระวังคัดกรองผู้ป่วย "โควิด-19" ย้อนดูความเป็นมา และพลังของคำพูดที่มีมาตั้งแต่อดีต

    ปัญหาใหญ่สำคัญอย่างหนึ่งของกระทรวงสาธารณสุขในการเฝ้าระวังคัดกรองผู้ป่วยเชื้อ โควิด-19 ในขณะนี้ คือ การปกปิดข้อมูลของผู้ป่วย ซึ่งนอกจากจะทำให้แพทย์ไม่สามารถตรวจวินิจฉัยโรคได้อย่างถูกต้องรวดเร็วแล้ว ยังเพิ่มความเสี่ยงในการที่จะแพร่เชื้อต่อไปยังบุคคลอื่นอีกเป็นจำนวนมากได้

    แม้ว่ามีการประกาศให้ โควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตราย มีผลบังคับใช้ตาม พรบ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 กำหนดว่า ประชาชน ผู้รับผิดชอบในสถานพยาบาล หรือ ผู้ควบคุมสถานประกอบการหรือสถานที่อื่นใด เช่น โรงแรม จะต้องรายงานแจ้งต่อเจ้าหน้าที่เมื่อมีผู้ต้องสงสัยหรือผู้ป่วยที่เป็นโรคติดต่ออันตราย โดยจะต้องให้ข้อมูลที่เป็นจริง หากไม่แจ้งจะมีโทษปรับ 2 หมื่นบาท ทั้งนี้ การแจ้งข้อมูลตามความจริง จะทำให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่ตรงกับอาการป่วย และสร้างความปลอดภัย ป้องกันบุคคลอื่นไม่ให้ติดโรค

    158581571845.jpg

    แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังพบแนวโน้มว่าอาจจะยังมีการปกปิดข้อมูลของผู้ป่วยอยู่ดี ไม่ต่างจากเมื่อตอนที่ไข้หวัดสเปนระบาด ใน ค.ศ.1918 มีรายงานว่าตัวเร่งสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้ไข้หวัดสเปนกระจายไปอย่างรวดเร็ว แบบไม่ทันได้ตั้งตัว เป็นเพราะการปกปิดข้อมูลหรือปิดข่าวนี่เอง

    ว่ากันว่า จุดเริ่มต้นมาจากทหารอเมริกันในบอสตันที่ติดเชื้อไข้หวัดสเปนเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ต่อมาแพร่เชื้อขยายสู่คนไปทั่วโลก มีรายงานว่า ใน ค.ศ.1919 เฉพาะในอเมริกา มีผู้เสียชีวิตถึง 7.5 แสนคน และต่อมาตัวเลขผู้เสียชีวิตทั่วโลกจากโรคนี้ ทะยานสูงขึ้นแตะ 50 ล้านคน มีผู้เสียชีวิตกระจายอยู่ในทวีปต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นยุโรป แอฟริกา และเอเชีย ซึ่งเมื่อมองเทียบเคียงกับสถานการณ์การระบาดของเชื้อ โควิด-19 ก็ไม่ต่างกันนัก การปกปิดความจริงหรือปิดข่าว

    ส่วนหนึ่ง อาจกลัว และกังวลว่า จะมีปฏิกิริยาต่อต้านและรังเกียจจากสังคม หรือถ้าบอกข้อมูลให้บุคลากรทางการแพทย์รู้ ก็ย่อมถูกกักตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล หรือต้องกักตัวอยู่ในบ้าน (Self-quarantine) และเมื่อไม่ยอมบอก ก็ย่อมทำให้คนรอบข้างและบุคลากรการแพทย์เสี่ยงติดเชื้อไปด้วย แม้ว่าเคยมีประสบการณ์จากโรคระบาดร้ายแรงในประวัติศาสตร์ที่ได้คร่าชีวิตมนุษย์ไปกว่าครึ่งค่อนโลกมาแล้ว

    แต่ดูเหมือนว่าเมื่อมีโรคระบาดเกิดขึ้นซ้ำอีก การควบคุมการแพร่เชื้อก็ยังไม่สามารถคุมได้อยู่นั่นเอง เพราะเอาเข้าจริงแล้วการควบคุมคนก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แม้จะมีกฎระเบียบต่างๆ บังคับใช้ก็ตาม กอปรกับการที่มนุษย์ประเมินธรรมชาติต่ำไปและมักคิดว่าตัวเองต้องเป็นผู้ควบคุมและเอาชนะธรรมชาติได้อยู่ร่ำไป

    มีรายงานว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย ขณะนี้ ลุกลามไปจนถึงบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งติดเชื้อจากการที่ผู้ป่วยปกปิดข้อมูล แม้ว่าทาง สธ.ได้ย้ำเตือนถึงโทษของการปกปิดข้อมูลที่จำเป็นต่อการสอบสวนโรคแล้วก็ตาม จนสถานพยาบาลบางแห่งต้องให้ผู้ป่วยที่มาให้ข้อมูลกล่าวคำสาบานที่จุดคัดกรองซักประวัติผู้ป่วย!

    ปฏิเสธไม่ได้ว่าข้อความที่อยู่ในคำสาบาน และ สาปแช่ง มีส่วนสำคัญต่อการกำหนดความนึกคิด ท่าทีและการตัดสินใจของผู้พูดและผู้ฟัง ราวกับว่ามันมีอำนาจฝังเร้นลับอยู่ในนั้น อย่างทรงพลัง!

    จริงๆ แล้ว เราไม่ได้ชอบที่จะต้องมานั่งสาบานและสาปแช่งกันนักหรอก คำถามคือ แล้วทำไมต้องสาบานและสาปแช่งด้วย นั่นเป็นเพราะว่าเราทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องทำอย่างนั้น

    เราไม่อาจลงทัณฑ์เอาผิดได้ในพื้นที่ชีวิตจริงใช่ไหม?

    อย่างที่ทราบกันดีว่า การสาบานและสาปแช่งนั้นอยู่คู่กับสังคมไทยมาช้านานแล้ว เห็นได้จากการค้นพบหลักฐานประวัติศาสตร์และโบราณคดีที่เป็นจารึกคำสาปแช่งมากมายในดินแดนประเทศไทย เอาเข้าจริงแล้วก็มิได้แต่แต่บ้านเราหรอก ที่อื่นทั่วโลกก็มีเหมือนกันนั่นแหละ

    ราชบัณฑิตยสถานได้ให้ความหมายของคำว่า สาบาน หมายถึง การกล่าวคำปฏิญาณโดยอ้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นพยาน เช่น สาบานเป็นพี่น้องร่วมสาบาน

    ส่วนคำว่า สาปแช่ง หมายถึง การกล่าวมุ่งร้ายให้ผู้อื่นเป็นอันตรายร้ายแรง เช่น สาปแช่งไม่ให้ผุดให้เกิด เมื่อไม่อาจที่จะเอาผิดได้จึงให้สาบาน

    ในแง่ของการสื่อสาร การสาบานมีจุดประสงค์เพื่อทำให้ผู้อื่นเกิดความเชื่อมั่นหรือความไว้วางใจในตัวของผู้พูด ทั้งในการดำเนินชีวิตประจำวัน และในยามที่มีปัญหา ซึ่งบางครั้งการกล่าวถ้อยคำแบบตรงไปตรงมา อาจมองดูว่า ไม่มีน้ำหนักมากเพียงพอ จำเป็นต้องกล่าวอ้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นับถือหรือที่นับถือเชื่อถือร่วมกันมาช่วยเพิ่มน้ำหนักความน่าเชื่อถือให้แก่คำพูดเหล่านั้นด้วย การสาบาน

    158581574736.jpg

    บางครั้งการสาบานมักปรากฏร่วมกับการสาปแช่ง เพราะมีการกล่างอ้างถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหมือนกัน โดยที่ผู้พูดปรารถนาให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตนอ้างถึงใช้อำนาจลงโทษหรือทำอันตรายต่อผู้ที่เป็นเป้าหมาย

    คนไทยสมัยก่อนเชื่อว่า คำสาปแช่ง เป็นถ้อยคำศักดิ์สิทธิ์เต็มไปด้วยพลังอำนาจของเทพเจ้า และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนา สามารถที่จะดลบันดาลให้เกิดภัยอันตรายทั้งร่างกาย และจิตใจต่อผู้ที่เป็นเป้าหมายได้ ดังนั้นจะไม่กล่าวพร่ำเพรื่อ และระมัดระวังในการกล่าว เพราะมันหมายถึงความรับผิดชอบในอนาคต อย่างการสาบานนี่ก็เป็นการแสดงเจตนาผูกมัดตนเองให้กระทำการบางสิ่งบางอย่าง เหมือนกับการสัญญา อีกอย่างที่สำคัญคือผลลัพธ์ของการกล่าวถ้อยคำสาบานนั้นจะเกิดกับตัวของผู้พูดเอง

    แม้ว่ามันจะไม่เหมือนกับผลที่เห็นประจักษ์ชัดในทางกฎหมายก็ตามที แต่ถึงอย่างนั้น วิธีการนี้ก็ยังเป็นวิธีการที่มักถูกเลือกนำมาใช้เพื่อระบายความรู้สึกอัดอั้นตันใจ ความคับอกข้องใจ หรือการที่ไม่สามารถลงโทษเอาผิดคนทำผิดในพื้นที่ชีวิตจริงได้ เพราะอยู่นอกเหนือขอบเขต

    เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน

    https://www.bangkokbiznews.com/news...ications&utm_campaign=&utm_content=&utm_term=
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,793
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ราชกิจจา ประกาศ สิทธิ 30 บาทรักษาโควิด-19
    750x422_874256_1585877201.jpg
    3 เมษายน 2563

    ราชกิจจา เผยแพร่ประกาศ ข้อบังคับหลักประกันสุขภาพแห่งชาติว่าด้วยการใช้สิทธิรักษาโรคโควิด-19

    เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ข้อบังคับคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ว่าด้วยการใช้สิทธิรับบริการสาธารณสุข กรณีที่มีเหตุสมควร กรณีอุบัติเหตุ หรือกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2563

    โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การเข้ารับบริการสาธารณสุข กรณีที่มีเหตุสมควร หรือกรณีอุบัติเหตุหรือกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินจากสถานบริการ และหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การได้รับค่าใช้จ่ายจากกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติของสถานบริการ เพื่อให้ผู้ป่วยโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID -19)) มีสิทธิเข้าถึง การบริการสาธารณสุขในสถานบริการอื่น

    สำหรับข้อบังคับนี้ ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

    วันเดียวกัน ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ลงนามใน ประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง ประเภทและขอบเขตของบริการสาธารณสุข (ฉบับที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๖๓

    โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมประเภทและขอบเขตของบริการสาธารณสุขที่ผู้มีสิทธิ จะได้รับตามพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 18(3) และมาตรา 5 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติ หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 ประกอบมติการประชุมของคณะกรรมการหลักประกัน สุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2563 เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2563

    คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพ แห่งชาติจึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้

    ข้อ 1 ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง ประเภทและขอบเขตของบริการสาธารณสุข (ฉบับที่ 18) พ.ศ. 2563”

    ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

    ข้อ 3 ให้สิทธิการรับบริการสาธารณสุขกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID -19) อยู่ในประเภทและขอบเขตบริการสาธารณสุข ที่ผู้มีสิทธิได้รับ ตามพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545

    ข้อ 4 ให้ประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเป็นผู้รักษาการตามประกาศนี้

    ประกาศ ณ วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2563

    อนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

    https://www.bangkokbiznews.com/news...ns&utm_campaign=30 -19&utm_content=&utm_term=
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,793
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในอินโดฯพุ่งสูงสุดในเอเชีย
    750x422_874247_1585870111.jpg
    3 เมษายน 2563

    ยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในอินโดฯพุ่งสูงสุดในเอเชีย ขณะที่สถาบัน Future of Humanity มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด คาดว่าอยู่ที่ประมาณ 80,000 คน

    สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ ต้นตอโรคโควิด-19 ในอินโดนีเซียเพิ่มขึ้นเป็น 170 คนเมื่อวันพฤหัสบดี(2เม.ย.) ทำให้อินโดนีเซียแซงเกาหลีใต้ขึ้นมาเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากที่สุดในเอเชีย ไม่รวมประเทศจีน ที่เป็นศูนย์กลางการระบาดของโรคนี้

    ทางการอินโดนีเซีย รายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก 113 รายในวันพฤหัสบดี ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 1,790 คน

    ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ ทำให้ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์พากันวิจารณ์รัฐบาลประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ว่ารับมือกับการระบาดช้า

    นอกจากนี้ ยังเชื่อว่าจำนวนผู้ติดเชื้อที่แท้จริงในประเทศที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก น่าจะมากกว่าที่ทางการรายงาน แต่เนื่องจากการตรวจสอบยังไปไม่ทั่วถึงทั่วประเทศ

    ทั้งนี้ London School of Hygiene and Tropical Medicine ประเมินว่า จำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในอินโดนีเซีย น่าจะอยู่ที่ประมาณ 22,000 ถึง 37,000 คน ขณะที่สถาบัน Future of Humanity มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด คาดว่าอยู่ที่ประมาณ 80,000 คน

    https://www.bangkokbiznews.com/news...ce=slide_topnews&utm_medium=internal_referral
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,793
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หลายประเทศส่งเที่ยวบินพิเศษอพยพพลเมืองออกจากอินเดีย
    k40-ZJwnq3IzdzXatB20StwUmZcYT5QjKJC27snyRyg&_nc_ohc=BCSB4aXF4ksAX-yJEif&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg
    เริ่มอย่างนี้ว่าทุกคนคงพอทราบกันอยู่แล้วว่าตั้งแต่ประมาณช่วงกลางเดือนมีนาคม อินเดียได้เริ่มปิดสนามบินตัวเอง ไม่ให้เที่ยวบินเข้าออก จนกระทั่งวันที่ 24 มีนาคม ประกาศปิดเมืองทั้งประเทศแบบสมบูรณ์แบบยาวจนถึงวันที่ 14 เมษายน ซึ่งอาจจะปิดต่อไปอีกหากสถานการณ์เลวร้ายลง
    .
    อินเดียจึงเข้าสู่สภาพปิดตายไม่สามารถเข้าออกได้ ซึ่งนั่นไม่ได้กระทบแค่กับคนอินเดียเท่านั้น แต่ยังรวมถึงชาวต่างชาติที่เดินทางมายังประเทศอินเดียด้วย ไม่ว่าจะเพื่อทำงาน หรือท่องเที่ยวก็ตาม ทุกคนต่างตกอยู่ในสภาพไปไหนไม่ได้ และไม่สามารถเดินทางกลับประเทศ
    .
    แน่นอนหลังจากปิดเมืองได้ไม่นานรัฐบาลของหลายประเทศโดยการประสานงานของสถานทูตจึงได้รวบรวมข้อมูลพลเมืองของตัวเองและยื่นเรื่องต่อรัฐบาลอินเดียในการขออพยพพลเมืองตนเองออกจากประเทศอินเดีย โดยจะจัดเที่ยวบินพิเศษไปรับเป็นการเฉพาะ
    .
    โดยประเทศที่ปัจจุบันนี้ได้อพยพพลเมืองของตัวเองออกจากอินเดียเป็นที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 26 เป็นต้นมา ได้แก่เยอรมัน (รับประชากรของประเทศยุโรปข้างเคียงกลับไปด้วย) ยูเครน อิสราเอล รัสเซีย ฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เนเธอแลนด์ อังกฤษ เปรู อัฟกานิสถาน มาเลเซีย เบลเยี่ยม อิตาลี เป็นต้น
    .
    ประเทศที่น่าสนใจที่สุดคือเยอรมัน เพราะมีการส่งรถพร้อมเอกสารต่าง ๆ ไปกับคนขับรถ (หน่วยงานของทางอินเดียจะได้ให้ผ่านได้ในการเข้า-ออกเมือง) เพื่อรับพลเมืองของตนเองที่ติดค้างตามเมืองเล็กเมืองน้อยเพื่อรวมตัวคนตามเมืองใหญ่ ๆ แล้วส่งเครื่องบินไปรับ เช่นเดลี ไฮเดอราบัด กัลกัตตา โกอาร์ ฯลฯ
    .
    จะเห็นได้ว่าแม้อินเดียจะยังมีผู้ติดเชื้อจำนวนไม่มากนักในเวลานั้น แต่หลายประเทศก็ได้ดำเนินการอพยพประชากรของตัวเองโดยการส่งเที่ยวบินพิเศษไปรับผ่านการประสานงานกับรัฐบาลอินเดีย เพื่อให้พลเมืองของตนเองได้กลับถึงภูมิลำเนาอย่างสวัสดิภาพ
    .
    ที่สำคัญไปกว่านั้นคือในจำนวนประเทศเหล่านี้ไม่ใช่เพียงประเทศพัฒนาแล้วหรือเจริญแล้วเท่านั้นที่ส่งเที่ยวบินพิเศษไปรับพลเมืองของตัวเองกลับประเทศ แต่ยังรวมถึงเหล่าประเทศกำลังพัฒนาด้วย เช่น มาเลเซีย หรืออัฟกานิสถาน เป็นต้น
    .
    สำหรับในส่วนของมาตรการของไทยนั้น ดูเหมือนจะสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง เพราะล่าสุดพึ่งมีการออกประกาศให้คนไทยชะลอเดินทางกลับประเทศ โดยเลื่อนการเดินทางออกไปก่อน ส่วนการจะเดินทางกลับนั้นก็ให้รอหลังอินเดียเปิดสนามบินปกติ
    .
    นั่นก็หมายความว่า ณ ตอนนี้ทางการไทยยังไม่มีนโยบาย หรือมาตรการที่จะส่งเที่ยวบินพิเศษมารับคนไทยกลับประเทศตัวเอง ทั้งที่แนวโน้มการปิดเมืองของอินเดียอาจยืดเยื้อออกไปอีก หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
    .
    สุดท้ายนี้ผมอยากบอกว่าการบริการประชาชนโดยเฉพาะในยามวิกฤตเช่นนี้มันสะท้อนว่ารัฐบาลแต่ละประเทศนั้นมองประชากรของตัวเองอย่างไร และขอย้ำนะครับว่าหน้าที่หลักของหน่วยงานราชการในต่างประเทศ คือการดูแลทุกข์สุขของคนในชาติตัวเองทุกคนในประเทศนั้น ๆ
    .
    ฉะนั้นการโทรไปแล้วไม่รับในสภาวะที่วิกฤตอย่างนี้ ไม่ควรเกิดขึ้นอย่างยิ่ง เข้าใจนะครับว่างานเยอะ ล้นมือ และต้องตอบคำถามเดิม ๆ แต่ลองคิดถึงใจเขาใจเราดูบ้าง คนเราไม่เดือนร้อน ไม่สับสนจริง ๆ ไม่ขอความช่วยเหลือหรอกนะครับ (จากที่แฟนเพจหลายคนบอกว่าโทรเท่าไหร่ก็ไม่ติดสักที)
    .
    ยังไงก็ขอให้คนไทยทุกคนในอินเดียปลอดภัยนะครับ ดูแลตัวเองให้ดีที่สุด อดรนทนไม่ไหวยังไงก็ระบายมันออกมาครับ เพจเรายินดีพูดคุยคลายเครียดให้ครับ เพราะผมก็รู้ว่าทุกคนก็คงอยากกลับบ้าน
    .
    #กระแสเอเชียใต้ #อินเดีย #ปิดประเทศ #คนไทยในอินเดียก็อยากกลับบ้าน #เที่ยวบินพิเศษ

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,793
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #ภูเก็ต #ยอดผู้ติดเชื้อทะลุ 100
    ZaHAugLlrc19BSG1WBxzbdxk3a585xPxYbbS8iOFHxQ&_nc_ohc=lB2L3q25iCYAX_mHqbC&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg
    สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) จังหวัดภูเก็ต
    วันที่ 3 เมษายน 2563

    คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ขอแจ้งให้ทราบว่าวันที่ 2 เมษายน 2563 จังหวัดภูเก็ตมีผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 รายใหม่เพิ่ม 13 ราย โดยตั้งแต่ 5 มกราคม – 2 เมษายน 2563 จังหวัดภูเก็ตมีผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 แล้วจำนวน 100 ราย รักษาหายกลับบ้านแล้ว 15 ราย กำลังรักษาอยู่ 60 ราย อาการรุนแรง 1 ราย ที่เหลืออาการอยู่ในเกณฑ์ที่ดี
    ส่วนผู้ที่อยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวังโรค พบทั้งหมดจำนวน 1092 ราย ขณะนี้ยังรับตัวไว้ในโรงพยาบาล 107 ราย และอยู่ระหว่างรอผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ 47 ราย (ที่เหลือ 985 ราย กลับบ้านแล้ว)
    สำหรับผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 รายใหม่ทั้ง 13 ราย มีรายละเอียดดังนี้
    - รายที่ 88 ผู้ชายชาวฮังการี อายุ 25 ปี เป็นนักท่องเที่ยวมาเที่ยวกับเพื่อนตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2562 มีประวัติไปสถานบันเทิงบริเวณซอยบางลาบ่อยครั้งและสัมผัสกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เริ่มมีอาการป่วยวันที่ 26 มีนาคม มีผู้สัมผัสความเสี่ยงสูงจำนวน 35 คน
    - รายที่ 89 ผู้ชายชาวเยอรมัน อายุ 62 ปี เป็นนักท่องเที่ยวอยู่ที่ภูเก็ตมาหลายเดือน มีประวัติไปสถานบันเทิงบริเวณซอยบางลา และเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดของผู้ป่วยยืนยันโควิด-19 ชาวไทยที่ไปตรวจพบที่กรุงเทพมหานคร รายนี้เป็นผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ ไม่มีผู้สัมผัสความเสี่ยงสูง
    - รายที่ 90 ผู้หญิงไทย อายุ 24 ปี อาชีพพนักงานต้อนรับโรงแรมแห่งหนึ่ง ในเขตพื้นที่ป่าตอง ทำงานในโรงแรมเดียวกับผู้ป่วยยืนยันรายที่ 69 มีประวัติสัมผัสกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เริ่มมีอาการป่วยวันที่ 25 มีนาคม มีผู้สัมผัสความเสี่ยงสูงจำนวน 10 คน
    - รายที่ 91 ผู้หญิงไทย อายุ 56 ปี อาชีพพนักงานบัญชีโรงแรมแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ในหาน มีประวัติสัมผัสกับนักท่องเที่ยวต่างชาติและมีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันรายที่ 63 เริ่มมีอาการป่วยวันที่ 14 มีนาคม มีผู้สัมผัสความเสี่ยงสูงจำนวน 12 คน
    - รายที่ 92 ผู้หญิงไทย อายุ 63 ปี อาชีพกิจการร้านอาหาร หน้าหาดป่าตอง มีประวัติสัมผัสกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เริ่มมีอาการป่วยวันที่ 24 มีนาคม มีผู้สัมผัสความเสี่ยงสูงจำนวน 8 คน
    - รายที่ 93 ผู้หญิงไทย อายุ 46 ปี อาชีพพนักงานนวด ในพื้นที่ป่าตอง มีประวัติเที่ยวสถานบันเทิงบริเวณซอยบางลา ทำงานใกล้ชิดกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และมีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันรายที่ 52 เริ่มมีอาการป่วยวันที่ 18 มีนาคม มีผู้สัมผัสความเสี่ยงสูงจำนวน 5 คน
    - รายที่ 94 ผู้ชายไทย อายุ 54 ปี อาชีพช่างเชื่อมเหล็ก มีประวัติสัมผัสกับลูกค้าซึ่งเป็นคนต่างชาติ เริ่มมีอาการป่วยวันที่ 18 มีนาคม มีผู้สัมผัสความเสี่ยงสูงจำนวน 6 คน
    - รายที่ 95 - 97 เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดของพนักงานนวดในพื้นที่ป่าตอง ซึ่งเป็นผู้ป่วยยืนยันรายที่ 81
    - รายที่ 98 – 100 เป็นผู้สัมผัสของผู้ชายไทยชาวนราธิวาส ที่เสียชีวิตบนรถไฟ และตรวจพบว่าเป็นโรคโควิด-19 ร่วมด้วย โดยทั้ง 3 คนนี้ได้เดินทางไปประเทศปากีสถานและกลับมาถึงประเทศไทยในวันที่ 29 มีนาคม โดยได้ไปสัมผัสกับผู้ป่วยรายนี้ขณะอยู่ในประเทศปากีสถาน
    ทั้งนี้ผู้ป่วยทุกราย ทีมงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตและผู้เกี่ยวข้องได้ดำเนินการสอบสวน ควบคุม ป้องกันโรคตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข
    สำหรับผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 ที่พบเพิ่มในวันนี้ 9 รายเป็นกลุ่มผู้ที่มีประวัติเชื่อมโยงกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้า ซึ่งทางทีมสอบสวนโรคได้ไปค้นหาผู้สัมผัสเหล่านี้และนำมากักตัวพร้อมทั้งตรวจหาเชื้อ โดยที่บางคนยังไม่แสดงอาการ ส่วนที่เหลือมีประวัติที่เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิงในพื้นที่ป่าตองหรือมีประวัติสัมผัสกับชาวต่างชาติ
    จึงอยากจะเน้นย้ำกลุ่มเสี่ยงประชาชนทุกคนถึงแม้จะไม่มีอาการป่วย ก็ควรแยกตัวเองออกจากบุคคลอื่น ไม่เข้าไปในที่ชุมชน ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา หมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์บ่อยๆ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไปสู่บุคคลที่เรารัก และถ้าหากมีอาการไข้ เจ็บคอ ไอ น้ำมูก เหนื่อย ให้รีบไปพบแพทย์

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,793
    ค่าพลัง:
    +97,150
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,793
    ค่าพลัง:
    +97,150
    บราซิลยืนยันพบหญิงจาก ชนเผ่าพื้นเมืองในป่าแอมะซอน ติดเชื้อโควิดรายแรก! ผู้เชี่ยวชาญหวั่นอันตรายชีวิตชนพื้นเมือง 8 แสนคน ในอดีตเคยล้มตายจากโรคมหาศาล
    6GoHGgr5uSapVZPyoR8J1_kdm6KRQqof4UfcGHgG0gA&_nc_ohc=z1ApiaTMDU0AX-umIu9&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg
    กรมอนามัยสำหรับชนพื้นเมือง (SESAI) ออกมายืนยันว่าหญิงสาวชนพื้นเมืองในป่าแอมะซอนติดเชื้อโควิด 1 ราย ถือว่าเป็นชนพื้นเมืองรายแรกที่ติดเชื้อร้ายนี้ โดยเป็นหญิงชนเผ่าโคคามาที่ทำงานด้านสาธารณสุขและติดเชื้อจากหมอชาวบราซิล

    ลึกเข้าไปในป่าอะแมซอนมีชนเผ่าอาศัยอยู่มากกว่า 300 เผ่า โชคร้ายสำหรับหญิงสาววัย 20 ปีจากเผ่า Kokama เธอถูกตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นี้ ซึ่งเธออาศัยอยู่ในป่าอะแมซอนในเขต Santo Antonio do Içá ทางตอนเหนือของประเทศบราซิล ห่างจากประเทศโคลอมเบีย 250 กิโลเมตร

    นอกจากเธอแล้วได้พบเคสติดเชื้อไวรัสในเขตที่พักของเธอนี้ 3 ราย (รวมหญิงสาวชนเผ่าเป็น 4 ราย) หนึ่งในนั้นเป็นหมอที่ถูกตรวจเจอเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งการที่คุณหมอถูกพบว่ามีเชื้อนี้ได้ทำให้ทุกคนเริ่มกลัวว่าโรคระบาดนี้จะแพร่กระจายไปยังพื้นที่ห่างไกลและยากไร้อย่างในชุมชนของชนพื้นเมืองในป่าอะแมซอน ซึ่งมันจะส่งผลให้เกิดความเสียหายอย่างมากแน่นอน

    กรมอนามัยสำหรับชนพื้นเมือง Special Indigenous Health Department หรือ SESAI เผยว่าหญิงสาวที่ถูกตรวจพบเป็นเจ้าหน้าที่การแพทย์ที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับคุณหมอ เธอเป็นคนเดียวในเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 15 คน และคนไข้ 12 คนที่ติดเชื้อ หลังจากที่คุณหมอคนดังกล่าวถูกตรวจพบเชื้อโคโรน่าไวรัสในร่างกาย

    คุณหมอคนดังกล่าวเพิ่งกลับมาจากพักร้อนทางตอนใต้ของประเทศบราซิล เขากลับมาทำงานกับชุมชนของชนเผ่า Tikunas หนึ่งในชนเผ่าที่ใหญ่ที่สุดในอะแมซอน มีจำนวนประชากรกว่า 30,000 คน อาศัยอยู่ทางตอนเหนือของป่าอะแมซอนใกล้กับชายแดนประเทศโคลอมเบียและเปรู

    ขณะนี้ หญิงสาวชนพื้นเมืองได้ถูกกักตัว ให้อยู่ห่างจากคนในครอบครัวแล้ว Sesai เผยว่าก่อนหน้านี้เธอไม่มีอาการของโควิด-19 เลย

    ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์กล่าวว่า การแพร่ระบาดของไวรัสอาจทำให้ชนพื้นเมืองในบราซิลกว่า 850,000 เสียชีวิต ซึ่งในอดีตชนพื้นเมืองเหล่านี้เคยล้มตายจำนวนมากเพราะโรคอย่างอีสุกอีใส ไข้หวัดมาลาเรีย และไข้หวัดใหญ่ที่มาจากคนยุโรปที่เข้ามา

    ผู้เชี่ยวชาญยังออกมาบอกอีกว่า วิถีการดำเนินชีวิตของชนพื้นเมืองในป่าลึกนี้ถือว่าเสี่ยงต่อการติดเชื้อมาก การอยู่ในเป็นชุมชนเล็กๆและหลังคาบ้านมุงด้วยใบจากนั้น ถ้าคนนึงในครัวเรือนติด คนที่เหลือก็อาจจะไม่รอด

    ที่มา

    https://www.reuters.com/article/us-health-coronavirus-brazil-indigenous/brazil-confirms-first-indigenous-coronavirus-case-in-the-amazon-idUSKBN21J66S

    https://www.theguardian.com/global-development/2020/apr/02/brazil-confirms-first-indigenous-case-of-coronavirus-in-amazon

    ณิชากร บัวทรัพย์
    environman — ที่ Amazon rainforest


     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,793
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โดยนักวิจัยระบุว่าหากเราไม่หยุดยั้งโลกร้อน เราอาจจะกลับไปสู่จุดที่ขั้วโลกใต้มีความอบอุ่นแบบยุคโบราณในอีกไม่เกิน 300 ปีข้างหน้า
    08XLM2QLd6nLJiwacDDjfJKLSqh1xuTe-9S9OjqcL1w&_nc_ohc=fdvPkoxQEBEAX8S1Xcj&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg
    นักวิจัยพบหลักฐานชี้ ทวีปแอนตาร์กติกาเคยเป็นป่าฝน! เมื่อ 90 ล้านปีก่อน อุณหภูมิสูงกว่านี้ ชี้ในยุคนั้นมี CO2 สูง-ภาวะเรือนกระจก

    ร้อนกว่าที่คิด! ทีมนักวิจัยพบ บริเวณแอนตาร์ติกาเมื่อ 90 ล้านปีก่อน มีป่าฝนเจริญเติบโตอยู่

    ย้อนกลับไปเมื่อ 90 ล้านปีที่แล้ว ในยุคที่ไดโนเสาร์เดินอยู่บนโลก อากาศบนโลกนั้นมีอากาศที่อุ่นกว่าปัจจุบันนี้มาก แม้กระทั่งแถวบริเวณขั้วโลกใต้อย่างทวีปแอนตาร์กติกาด้วยเช่นกัน แต่ที่ทำให้ประหลาดใจคือ นักวิจัยพบว่าแอนตาร์กติกามีป่าฝน rainforest ในเวลานั้น

    ทีมนักวิจัยจาก the Alfred Wegener Institute (AWI) ตีพิมพ์รายงานการค้นพบดังกล่าวในวารสาร Nature การค้นพบนี้มาจากการที่พวกเขานำชิ้นส่วนพื้นทะเล โดยใช้แท่นขุดเจาะจากเรือสำรวจมาเก็บตัวอย่างแท่งตะกอนจากอ่าว Pine Island และธารน้ำแข็ง Thwaites ลึกลงไป 30 เมตรใต้พื้นทะเล เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคมปี 2017

    ผลของ CT สแกนเผยให้เห็นตัวอย่างดั้งเดิมของดินในป่า ละอองเกสร สปอร์ และระบบรากที่ยังคงสภาพไว้อย่างดีเยี่ยม ทำให้นักวิจัยสามารถระบุโครงสร้างเซลล์ได้ มากไปกว่านั้นในดินที่พบมีเกสรดอกไม้ที่คล้ายกับที่พบบนเกาะใต้ของประเทศนิวซีแลนด์ในปัจจุบัน

    จากตัวอย่างที่พบ พวกเขาระบุได้ว่ามันเป็นดินเนื้อละเอียดและตะกอนของเมื่อ 90 ล้านปีที่แล้ว! Johann Klages นักธรณีวิทยาและหนึ่งในนักวิจัยจาก Alfred Wegener Institute กล่าวว่า ในตอนแรกที่พวกเขานำก้อนตะกอนนี้มาสำรวจบนเรือ มันเตะตามากเพราะด้วยสีที่แตกต่างจากชั้นอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด โดยชั้นตะกอนนี้เกิดจากการรวมกันบนดิน ไม่ใช่ทะเล

    นักวิทยาศาสตร์ทราบว่าในยุคของไดโนเสาร์มีสภาพอากาศที่อุ่นมาก ในช่วงกลางของยุคครีเทเชียส (80 - 115 ล้านปีที่แล้ว) เป็นช่วงที่โลกมีอากาศที่อบอุ่นที่สุดในรอบ 140 ล้านปี มีความเป็นไปได้ว่าพื้นทะเลในพื้นที่เขตร้อนจะมีอุณหภูมิสูงถึง 35 องศาเซลเซียส และระดับน้ำทะเลสูงกว่าปัจจุบันถึง 170 เมตร

    แต่ยังไม่มีหลักฐานว่าขั้วโลกใต้ในตอนนั้นเป็นเช่นไร จนถึงตอนนี้ นี่คือหลักฐานในยุด Cretaceous ที่เก็บได้ใต้สุด ซึ่งเผยเรื่องราวของแอนตาร์กติกาเมื่อ 83 - 93 ล้านปีที่แล้ว

    Tina van de Flierdt จาก ผู้ร่วมวิจัยและศาสตราจารย์จาก Imperial College London's Department of Earth Science and Engineering กล่าวว่าเธอค่อนข้างประหลาดใจอย่างมากที่ป่าฝนสามารถเติบโตในพื้นที่ที่ใกล้กับขั้วโลกใต้ได้ ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าสภาพอากาศอาจจะอุ่นมากกว่าที่เราคิด

    แกนตะกอนสามารถเก็บข้อมูลเกี่ยวกับสภาพอากาศได้เหมือนไทม์แคปซูลที่สามารถเก็บอุณหภูมิเฉลี่ย ฝนที่ตก และพืชพันธุ์ต่าง ๆได้

    อุณหภูมิเฉลี่ยในเวลากลางวันอยู่ที่ 11 องศาเซลเซียส อาจจะดูเหมือนว่าไม่ได้ร้อนนัก แต่อย่าลืมว่านั่นคือบริเณใกล้กับขั้วโลกใต้! ซึ่งอุณหภูมิในปัจจุบันอยู่ที่ -24 ถึง -14 องศา ต่างกันอย่างลิบลับเชียว

    ดูเหมือนว่าในยุคนั้นจะไม่มีแผ่นน้ำแข็งหนาอยู่แน่ๆ มีการคาดว่าอุณหภูมิของน้ำแม่น้ำ และหนองน้ำอาจจะอยู่ที่ประมาณ 20 องศาเซลเซียส และในช่วงฤดูร้อนของแอนตาร์กติกามีโอกาสที่อุณหภูมิจะอยู่ที่ 18 องศาเซลเซียส และมีปริมาณน้ำฝน 97 นิ้วต่อปี เทียบเท่ากับเวลส์ในปัจจุบัน

    นักวิจัยกล่าวว่าสภาพป่าจะมีความใกล้เคียงกับเกาะทางใต้ของนิวซีแลนด์

    แต่เกิดข้อสงสัยขึ้นว่า แอนตาร์กติกาสามารถรักษาป่าฝนได้อย่างไรโดยไม่ถูกแสงแดดตลอดทั้งปี? นักวิจัยตรวจสอบระดับคาร์บอนไดออกไซด์ที่อาจอยู่ในชั้นบรรยากาศในเวลานั้น พวกเขาพบว่ามันมีค่าสูงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ คาร์บอนไดออกไซด์ส่งผลต่ออุณหภูมิที่อุณของโลก สร้างก๊าซเรือนกระจกโดยการกักเก็บความร้อนจากแสงอาทิตย์

    ปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่สูงและแผ่นน้ำแข็งบาง ๆ ของแอนตาร์กติกาที่ปกคลุมพืชพรรณอยู่ตอนนั้น รวมกันสร้างสภาพที่เหมาะสมแก่การเจริญเติบโตของสภาพแวดล้อมป่าฝน

    Torsten Bickert ผู้ร่วมวิจัยและนักธรณีวิทยาจากศูนย์วิจัย MARUM ของ University of Bremen กล่าวว่า ถึงแม้ว่าในยุคคลีเทเชียสจะมีสี่เดือนที่แสงแดดไม่สามารถส่องกระทบแอนตาร์กติกาได้เลย แต่ด้วยปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่สูง สภาพอากาศบริเวณขั้วโลกใต้จึงมีอุณหภูมิที่ไม่เหมาะแก่การเกิดน้ำแข็ง อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถทราบได้ว่าอะไรที่ทำให้แอนตาร์กติกาเย็นลงจนสามารถเกิดการรวมตัวของแผนน้ำแข็งได้!

    โดยได้ชี้ว่าหากเราไม่หยุดยั้งโลกร้อน เราอาจจะกลับไปสู่จุดที่ขั้วโลกใต้มีความอบอุ่นแบบยุคโบราณในอีกไม่เกิน 300 ปีข้างหน้า

    https://edition.cnn.com/2020/04/01/world/antarctica-ancient-rainforest-scn/index.html

    https://www.bbc.com/news/science-environment-52125369

    https://www.bas.ac.uk/media-post/traces-of-rainforests-found-in-west-antarctica/


    ภาพ

    https://cosmosmagazine.com/geoscience/when-there-was-rainforest-near-the-south-pole

    เด็กหญิงแก้มยุ้ยเป็นมิตร
    environman

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,793
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ไทยพบผู้ป่วยโควิดใหม่ 103 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 4 ราย

    750x422_874252_1585873895.jpg
    3 เมษายน 2563

    สธ.พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 103 ราย ตายเพิ่ม 4 ราย ผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันจำนวน 1,978 ราย ผู้ตายส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว โฆษก ศบค. ระบุ กลุ่มผู้ป่วยใหม่ส่วนใหญ่อายุ 20-29 ปี เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีการเดินทาง เคลื่อนย้าย สังสรรค์

    เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 63 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงข่าว สถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ประจำวันนี้ ว่า ประเทศไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 103 ราย รวมยอดสะสม 1,978 ราย เป็นเพศชาย และ เพศหญิง เสียชีวิตเพิ่มอีก 4 ราย รวม 19 ราย รักษาหายกลับบ้านเพิ่ม 76 ราย รวม 581 ราย

    ทั้งนี้ ผู้ป่วยติดเชื้อทั้งหมดมีสัญชาติไทย 1,684 ราย สัญชาติอื่น ๆ 294 ราย จำนวนผู้ป่วยจำแนกตามพื้นที่กทม. 48% ต่างจังหวัด 42% รอยืนยัน 10% แบ่งเป็น กรุงเทพฯ-นนทบุรี 1,049 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 94 ราย ภาคเหนือ 74 ราย ภาคกลาง 291 ราย ภาคใต้ 277 ราย อายุเฉลี่ย 39 ปี อายุสูงสุด 86 ปี อายุน้อยสุด 6 เดือน

    158588937254.jpg

    นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับผู้เสียชีวิต 4 ราย ได้แก่ รายที่ 1 ชายไทย 59 ปี อาชีพ พนักงานการรถไฟ วันที่ 21 มีนาคม ไปพบแพทย์โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง และได้กลับไปทำงานโดยปกติ แสดงว่าในช่วงแรกอาการน้อยมาก แต่ปรากฏว่าในวันที่ 31 มีนาคม มีอาการเหนื่อยหอบมากขึ้น ได้เข้ารักษาในโรงเรียนแพทย์แห่งหนึ่ง ตรวจพบเชื้อโควิด-19 และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 2 เมษายน

    รายที่ 2 เป็นชายไทย อายุ 72 ปี มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันมาก่อนหน้านี้ซึ่งเป็นลูกที่ไปดูมวยที่สนามมวย ผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ มีโรคประจำตัว คือ โรคไต เริ่มป่วยเมื่อวัน 16 มีนาคม และเสียชีวิต 1 เมษายน

    รายที่ 3 ชายไทย อายุ 84 ปี ทำงานที่สนามมวยราชดำเนิน มีโรคประจำตัว คือ โรคไต ความดันสูง โรคเก๊า ฯลฯ เข้ารับการรักษาในโรงพยาบลในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 26 มีนาคม เสียชีวิต 2 เมษายน สำหรับ

    รายที่ 4 เป็นชายไทย อายุ 84 ปี มีประวัติไปสนามมวย และเริ่มป่วยเมื่อวันที่ 14 มีนาคม เข้ารักษาเมื่อวันที่ 21 มีนาคม ด้วยการไข้ 39.3 มีน้ำมูก ไอ ในโรงพยาบาลรัฐในกทม. และเสียชีวิต ในวันที่ 2 เมษายน



    158588942390.jpg

    158588943731.jpg

    158588968417.jpg

    นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวต่อไปว่า จะเห็นว่า 3 ใน 4 ราย เป็นผู้สูงอายุทั้งสิ้น รวมถึงมีโรคประจำตัว ขอเน้นย้ำว่า ตอนนี้โดยเฉพาะในเทศกาลสงกราต์ หากท่านเป็นลูกกตัญญู ไม่ควรเข้าใกล้พ่อแม่ คนที่สูงอายุ เพราะเขามีความเสี่ยงสูง ขณะเดียวกัน กลุ่มผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นตลอดคือ อายุ 20-29 ปี ต้องเพ่งไปที่กลุ่มนี้เพราะมีการเดินทาง เคลื่อนย้าย พบปะสังสรรค์ ถือเป็นกลุ่มเสี่ยง ที่เกิดแพร่กระจาย ของเชื้อ ผู้ปกครอง ครอบครัวควรจะต้องช่วยกันแนะนำด้วย

    สำหรับสถานการณ์ทั่วโลก 202 ประเทศ มีผู้ป่วยยืนยันสะสมทั้งหมด 1,014,296 ราย ผู้ป่วยหนัก 37,698 ราย รักษาหาย 212,018 ราย เสียชีวิต 52,298 ราย ผู้ป่วยมากที่สุดอันดับ 1 คือ สหรัฐอเมริกา 244,230 ราย อันดับ 2 อิตาลี 115,242 ราย และอันดับ 3 สเปน 112,065 ราย สำหรับประเทศไทย อยู่อันดับที่ 37

    158588970431.jpg

    158588971665.jpg

    158588972864.jpg


    https://www.bangkokbiznews.com/news...ons&utm_campaign=103 4&utm_content=&utm_term=
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,793
    ค่าพลัง:
    +97,150
    upload_2020-4-3_14-12-9.png
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,793
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สถานการณ์ของผู้ที่ติดเชื้อโควิด -19 ที่ประเทศอิตาลี จนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลงเลย โดยตัวเลขล่าสุดวันนี้ ( วันที่ 29 มีนาคม 2563 ) มีผู้ติดเชื้อไปแล้วทั้งสิ้นรวม 92,472 คน โดยในจำนวนนี้ มีผู้หายป่วย 12,384 คน เสียชีวิตรวมทั้งสิ้น 10,023 คน และมีผู้เสียชีวิตภายใน 24 ชั่วโมงถึง 889 คน 1 ในนั้นคือคนไทย ได้แก่คุณภุมรา สุจริตกุล ซึ่งเพิ่งเสียชีวิตเมื่อวานนี้

    โดยคุณภุมรา ถือเป็นคนไทยคนที่ 3 ในอิตาลี ที่เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 ครับ ( สำหรับคนไทย 2 ท่านที่เสียชีวิตก่อนหน้านี้ ได้แก่คุณเยาว์ , ลุงโทน ) ทีมข่าวโตโจ้นิวส์ ต้องขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของคนไทยทั้ง 3 ท่านนี้ด้วย

    และทีมข่าวโตโจ้นิวส์ ก็ได้ขออนุญาตสัมภาษณ์ญาติของผู้เสียชีวิตท่านแรก ( คุณเยาว์ ) ซึ่งก็คือพี่นุช โดยตอนนี้พี่นุชยังอยู่ที่แคว้นลอมบาร์เดีย ประเทศอิตาลีครับ ( พี่นุชอายุ 60 ปี คือหลานของคุณเยาว์ อายุ 80 ปี คนไทยคนแรกที่เสียชีวิตที่อิตาลีจากโรคโควิด-19 เมื่อวันที่ 24 มีนาคม )

    >>> ไม่ทราบพี่เยาว์เริ่มติดโควิด-19 ได้อย่างไรครับ

    จริงๆต้องบอกว่าตอนแรกที่เข้าโรงพยาบาล คุณอาไปด้วยอาการท้องเสียค่ะ ก็เข้าไปรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลแถวบ้านเขา ( คุณอาเยาว์ พักอยู่ใกล้โรงพยาบาลที่มีข่าวว่าสัปดาห์เดียว พบผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 ถึง 79 คน ) ก็พักอยู่ที่นี่ได้ประมาณ 3 วัน คุณอาบอกว่าไม่สามารถทานอะไรได้เลย หมอที่นี่ก็เลยให้ย้ายโรงพยาบาล ไปที่เมืองมิลาน ก็มีรถพยาบาลของที่เมืองมิลานมารับ ตอนนั้นผลตรวจเลือด ก็ยังไม่ได้ติดโควิด-19 นะคะ

    >>> แล้วตอนที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลในเมืองมิลาน เป็นอย่างไรบ้างครับ

    ที่โรงพยาบาลในเมืองมิลาน ก็มีคนติดโควิด-19 กันเยอะค่ะ เปรียบเทียบได้ว่าคน 100 คน เป็นโควิด-19 ประมาณ 95 คนได้เลย อีก 5 คน คือผู้ที่ป่วยด้วยโรคอื่น แต่พอคุณอาย้ายมาที่นี่ เขาถ่ายวิดีโอส่งมาให้เรา คือเขาดูสดชื่นขึ้นและบอกทานข้าวได้แล้ว เราก็ดีใจกัน เขาบอกวันพฤหัสคุณหมอก็ให้กลับได้ ( วันพฤหัสคือวันที่ 25 มีนาคมที่เสียชีวิต )

    >>> ตั้งแต่คุณอาเยาว์เข้าโรงพยาบาล ติดต่อกันได้ทางไหนบ้าง

    เรื่องเศร้าที่สุดของผู้ที่ป่วยด้วยโรคโควิด-19 คือเราไม่สามารถไปเยี่ยมคุณอาได้เลยค่ะ เราไม่สามารถไปดูใจผู้ที่ป่วยด้วยโรคนี้ได้ คือก่อนว้นที่คุณอาจะเสีย หมอที่นี่โทรมาหาแฟนคุณอา และบอกว่าคุณอาอาการทรุด หายใจไม่ออก พอตอนบ่ายก็หมดแรง และเสียชีวิตด้วยโรคแทรกซ้อน ซึ่งก็คือโควิด-19 ทางพวกเราก็สันนิษฐานกันว่า คุณอาอาจจะติดตั้งแต่ก่อนไปรักษาโรงพยาบาลแรก แต่ยังตรวจไม่เจอโรคหรือเปล่า และพอมาที่โรงพยาบาลที่ 2 ก็มาแสดงอาการที่นี่

    >>> แล้วเรื่องงานศพ ทางรัฐบาลอิตาลี เค้าจัดการให้อย่างไรบ้างครับ

    ที่นี่จะมีเอเย่น เป็นบริษัทที่จัดการเรื่องตรงนี้ให้ค่ะ คุณหมอก็โทรมาถามแฟนคุณอา ให้เซ็นอนุญาตในการเผาศพ แต่ช่วงนี้จะไม่มีการจัดพิธีอะไรใดๆทั้งสิ้นนะคะ เผาอย่างเดียว แล้วทางเอเย่น จะเก็บกระดูก อัฐิ ส่งกลับมาให้แฟนคุณอาน่ะค่ะ แต่สำหรับที่เมืองไทย ก็เพิ่งทำพิธีงานศพให้คุณอาเมื่อวานนี้ ( 28 มีนาคม ) ค่ะ

    >>> ขออนุญาตถามเรื่องสภาพจิตใจของพี่นุช ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างครับ

    เรียกได้ว่าแย่มากค่ะ ทั้งทุกข์ใจเรื่องคุณอาที่มาจากไปโดยที่เราไม่สามารถไปดูใจแกได้ และทุกข์ใจเรื่องสถานการณ์ที่อิตาลีด้วยค่ะ เรียกว่าตอนนี้ทั้งประเทศเป็นเหมือนเมืองร้าง คนอิตาลี จากตอนแรกที่ดูชิลๆ ไม่กังวลอะไร เห็นเราใส่หน้ากากก็ด่าเรา หาว่าเราเป็นโรค กลับกันพอมาตอนนี้ ใครไม่ใส่หน้ากากจะโดนด่าค่ะ เพราะคนตายในแต่ละวันเยอะมากจริงๆ พี่อยู่ที่นี่ ได้ยินเสียงตีระฆังบ่อยมาก ( ทุกครั้งที่มีผู้เสียชีวิต จะมีการตีระฆังแจ้ง )

    >>> สถานฑูตไทย ให้ความช่วยเหลืออย่างไรบ้าง

    เขาก็ดีนะคะ ก็หมั่นสอบถามคนไทยว่าความเป็นอยู่เป็นอย่างไร มีอะไรขาดเหลือ ให้ช่วยตรงไหนก็ติดต่อไปได้ ตอนนี้พี่เองก็นอนสวดมนต์ทุกคืนเลยค่ะ คิดถึงประเทศไทยมาก อยู่ตรงนี้ไม่รู้เลยว่าเมื่อไหร่จะได้กลับ นี่ถ้าให้พี่ตายคนเดียว แล้วคนทั้งโลกปลอดภัย เจ้าโควิด-19 หายไปเลย พี่ยอมเลยนะคะ อันนี้พี่พูดจริงๆเลย เพราะมันหวาดกลัวไปหมด และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่สถานการณ์จะดีขึ้นด้วย

    >>> พี่นุชมีอะไรอยากฝากถึงคนไทยไหมครับ

    ก็ขอให้คนไทยทุกคนรักษาสุขภาพกัน อยู่บ้านกันนะคะ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ อย่าออกไปไหนเลย อย่างตัวพี่เอง ก็อยู่บ้านไม่ออกไปไหนมาตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์แล้วค่ะ จะออกไปข้างนอก ก็แค่ทิ้งขยะเท่านั้น แต่ความรู้สึกเวลาที่เราอยู่ในบ้านที่นี่ มันเหมือนมีข้าศึกเป็นล้านคน ถือปืนมาจ่อที่บ้านของเรา แต่มันแย่ตรงที่เรามองไม่เห็นว่า ข้าศึกมันอยู่ตรงไหนนี่สิคะ ยังไงก็ขอให้คนไทยทุกคนปลอดภัย อย่้าได้มีใครเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีกเลยค่ะ

    สำหรับพี่นุช ได้มาอยู่ที่อิตาลี ตั้งแต่เมื่อปี 2537 ( 26 ปีที่แล้ว ) โดยมาเป็นล่ามอยู่ที่นี่ในช่วงแรก และ 10 ปีหลัง ก็ไปๆกลับๆประเทศไทย ส่วนคุณอาเยาว์ ก็ย้ายมาอยู่ในเวลาใกล้เคียงกัน โดยคุณอาเยาว์ ทำงานเกี่ยวกับการดูแลผู้สูงอายุจนเกษียณ และมาพบรักกับสามีชาวอิตาเลียน จึงอยู่ที่นี่เป็นส่วนใหญ่ จนกระทั่งคุณอาเยาว์เสียชีวิต

    ขอขอบคุณเพจ : รวมใจไทย เอมิเลีย-โรมานญา Gruppo Thailandese Emilia-Romagna และคุณเอ ( ออร่า ) อรวรรณ จันทร์แสง สาวไทยในอิตาลี

    #โตโจ้นิวส์ #TOJONEWS

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,793
    ค่าพลัง:
    +97,150
    67581786_487431798753990_7843598902363160576_o.jpg

    ครม.วาระพิเศษ 3 เม.ย.นี้ ‘อนุทิน’ เสนอขอบรรจุ ขรก.เพิ่ม 45,242 ตำแหน่งสู้ ‘โควิด-19’
    Thu, 2020-04-02 16:46 -- hfocus

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวาระพิเศษในวันที่ 3 เมษายน 2563 นี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้เสนอวาระขอบรรจุข้าราชการเพิ่มเติมที่ดูแลผู้ป่วย COVID-19 จำนวน 45,242 ตำแหน่ง (ทั้งนี้ ปัจจุบันมีการจ้างงานอื่นที่ไม่ใช่ข้าราชการปฏิบัติงานดูแลผู้ป่วย COVID-19 จำนวน 120,000 คน) เช่น พยาบาลที่ยังไม่ได้บรรจุเป็นข้าราชราช และนักวิชาการสาธารณสุข หรือหมออนามัย ที่ทำงานในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของระบบสาธารณสุขไทยในการควบคุมโรคต่างจังหวัดและพื้นที่ชนบท และเป็นกำลังสำคัญในการทำระบบกักตัวโดยรัฐ หรือ State Quarantine ด้วย

    นอกจากนี้ จะมีการเสนอให้มีการปรับปรุงสวัสดิการให้กับบุคลากรทางการแพทย์เพิ่มขึ้นด้วย เนื่องจากสถานการณ์ในขณะนี้ บุคลากรทางการแพทย์ทำงานหนักมาก เปรียบเหมือนทหารในสงคราม แต่ไม่มีสวัสดิการคุ้มครองตัวเองที่ดีพอ

    https://www.hfocus.org/content/2020/04/18852
     

แชร์หน้านี้

Loading...