ติดตามสถานะการณ์

⚠️ ด่วน ⚠️ Non Farm Payrolls สหรัฐออกมาแย่กว่าที่คาดไว้และอัตราการว่างงานดีดขึ้นแตะ 4.4% แต่ตลาดหุ้นสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง ติดลบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ! อย่างไรก็ตามคืนนี้นั้นจะเป็นอีกคืนที่เทรดค่อนข้างยากอีกหนึ่งคืนเพราะว่า...

เมื่อเวลา 19.30น. สหรัฐประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) ออกมาที่ -7 แสนรายแย่กว่าค่าเฉลี่ยกลางที่ตลาดคาดไว้ที่ -1 แสนรายถึง -7 เท่า และนับเป็นครั้งแรกที่การจ้างงานนั้นหดลงในรอบ 10 ปี หรือเป็นการประกาศตัวเลขติดลบเป็นเดือนแรกในรอบการประกาศ 113 ครั้ง !

ทางด้านอัตราการว่างงาน (Unemployment Rate) ออกมาที่ 4.4% แย่กว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 3.8% ทั้งหมดเป็นเพราะผลกระทบของไวรัสโควิดซึ่งนักวิเคราะห์หลายคนมองว่า Unemployment Rate นี้อาจดีดขึนได้สูงถึง 15%-20% หากการระบาดในสหรัฐนั้นยังไม่หยุด

แต่ทางด้านตลาดหุ้นสหรัฐนั้นยังคงติดลบเล็กน้อย ถึงแม้ตัวเลขภาคแรงงานจะออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาดไว้เยอะทั้งคู่ เป็นเพราะอะไร ?

#ทำไมคืนนี้ถึงจะเป็นคืนที่ เทรดยากอีกหนึ่งคืน ?

วันนี้เป็นวันศุกร์เป็นวันสิ้นสุดสัปดาห์การซื้อขาย ซึ่งจะหมายความว่าตลาดจะปิดไป 2 วันไม่สามารถทำการเทรดได้

ในช่วงสถานการณ์ปกตินั้นอาจจะไม่ได้มีผลอะไรมากกับตลาด แต่ท่ามกลางช่วงวิกฤตไวรัสโควิดนั้น 2 วันก็สามารถมีเหตุการณ์พลิกผันได้หลายอย่าง โดยช่วงที่ไม่ได้มีตลาดให้เทรดนั้นจะถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานและเสี่ยงมากๆ หากมีอะไรพลิกล็อคขึ้น

คืนนี้เทรดเดอร์หลายๆท่านไม่ได้พยายามเทรดตัวเลขข้อมูลที่ออกมาในคืนนี้หรือตลาดปัจจุบันเพียงอย่างเดียว แต่ต้องคิดเผื่อด้วยว่าตลาดจะปิดไปอีก 2 วันนั้น ถ้าเกิดอะไรขึ้น เราจะไม่สามารถกลับด้านเทรด Position ของเราได้แล้ว

ซึ่งสิ่งที่เทรดเดอร์ทุกคนพยายาม #จับตามอง อยู่ในอาทิตย์นี้นั้นคือสิ่งที่เราได้ชี้แจงมาตลอดว่า #ตลาดหุ้นหลักจะปิดต่ำกว่าจุดต่ำสุดของอาทิตย์ที่แล้วได้หรือไม่ และผ่านมา 4 วันแล้วดูเหมือนตลาดจะไม่สามารถลงไปปิดต่ำกว่าได้ภายในคืนสุดท้ายนี้ ทำให้หลายเทรดเดอร์ยังรอและไม่กล้าเปิดไม้ขายมากเกินไป

ตลาดยังต้องลงอีก 14% ถึงจะปิดตัวต่ำกว่าได้ ซึ่งยากมากๆที่จะเกิดขึ้นในคืนนี้ หลายๆคนจึงพยายามลดความเสี่ยงก่อนที่จะเข้าช่วงเสาร์อาทิตย์โดยการซื้อหรือไม่ขายหนักมาก และในอาทิตย์นี้เมื่อราคาไม่ได้ทำจุดต่ำสุดใหม่เป็นครั้งแรก 6 อาทิตย์ ทำให้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะสั้น (Moving Average) เริ่มตัดลงอยู่ใต้ราคาแล้ว แปลว่าตลาดมีโอกาสดีดขึ้นทางเทคนิกได้สูงด้วย

โดยหากแปลเป็นภาษาของไวรัสโควิดแล้ว หมายความว่าสถานการณ์ระบาดที่ได้รับรู้แย่ๆมานานกว่า 6 อาทิตย์นั้น อาจจะมีโอกาสเซอไพรส์และปรับตัวดีขึ้นในเสาอาทิตย์นี้ก็เป็นได้ จึงยังไม่ควรขายถือ Short position ข้ามช่วงเสาร์อาทิตย์

อย่างไรก็ตามถ้าตอนนี้ตลาดหุ้นอยู่ใกล้ๆจุด Low ของอาทิตย์ก่อน เราอาจจะเห็นแรงเทขายอย่างหนักจากตัวเลข NFP ที่ออกมาไม่ดีนี้ได้ เนื่องจากว่าแต่ละคนจะพยายามปิดความเสี่ยงจากการซื้อไว้ในอาทิตย์ก่อน ไม่อยากถือสัญญา Long ข้ามอาทิตย์ไปเช่นเดียวกัน

และนี่ก็คือเหตุผลที่ตัวเลขเศรษฐกิจในแต่ละอาทิตย์หรือแต่ละโอกาสนั้นจึงมาความแตกต่างอย่างสิ้นเชิง และราคาจึงขึ้นลงตามปริมาณแรงการซื้อขาย ไม่ใช่แค่เพียงจากข่าวเพียงอย่างเดียว

⛔️ ท่านใดไม่อยากพลาดข่าวสารในตลาดแบบทันท่วงที แนะนำให้กดไลค์ที่โพสต์เรื่อยๆ หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ที่เมนูมุมขวาบนของเพจได้เลยครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ของเราที่อัพเดทใหม่ๆ ที่อาจออกมาก่อนสื่ออื่นๆครับ ⛔️

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกดไลค์และแชร์ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์นะครับ ขอบคุณมากๆครับ

#OilTradingKP

 

⚠️ อัพเดทเรื่องสงครามราคาน้ำมันอย่างต่อเนื่องครับ ⚠️ กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันทั่วโลกออกมากล่าวว่าการลดกำลังการผลิต 10 ล้านบาร์เรลต่อวันตามที่ทรัมป์ทวีตนั้น #มีความเป็นไปได้ค่อนข้างดี ทีเดียวครับ !

ตอนนี้ราคาน้ำมันดิบ Brent ดีดขึ้นต่อเนื่องบวก +10% ไปแล้ววันนี้ เทรดอยู่ที่ 33 เหรียญ หลังจากที่เมื่อคืนเพิ่ง +20% !

ทุกฝ่ายนั้นกำลังจับตามองการประชุมของกลุ่มโอเปกและพันธมิตรกว่า 23 ประเทศ ในอาทิตย์หน้าวันจันทร์ที่ 6 เมษายนนี้ (ผ่านทาง online นะครับ) เพราะจะเป็นจุดชี้ชะตาราคาน้ำมันของปีนี้เลยทีเดียวว่ากลุ่มผู้ผลิตจะกลับมารวมตัวและยุติสงครามได้ไหม

ล่าสุดทางกลุ่มผู้ผลิตทุกคนออกมาให้ข่าวว่า จะพยายามร่วมมือกันเจรจาให้สำเร็จและต้องการจะรีบประชุมกันให้เร็วที่สุดแล้ว

ทางเราได้เขียนบทความวิเคราะห์ 8 #ปัจจัยที่จะมีผลกระทบต่อตลาด ในช่วงสงครามราคานี้ให้ทุกท่านทราบไปช่วงบ่ายแล้วนะครับ เดี๋ยวจะแนบลิ้งไว้ใน comment อีกที

ถึงแม้ว่าจะดูเหมือนว่าจะเป็นภารกิจที่ค่อนข้างยากที่ผู้ผลิตถึง 23 ประเทศจะสามารถเห็นพ้องต้องกันเป็นเสียงเดียวได้ (แม้กระทั่งทาง รัสเซีย ตัวแปรที่สำคัญที่สุดก็ยังไม่ได้ออกมาคอนเฟิร์มว่าจะเข้าร่วมด้วย) แต่อย่าลืมว่าตอนนี้ผู้ผลิตแต่ละคนนั้นหลังชนฝาแล้วนะครับ อาจจะมีทางเลือกไม่มาก หากไม่ลดกำลังการผลิตร่วมกันก็อาจต้องปิดการผลิตไปกันทั้งหมด

ทาง ซาอุกำลังกลับมาหยิบยื่น #โอกาสสุดท้าย ให้กลุ่มผู้ผลิตได้มีสิทธิตัดสินใจอีกครั้ง ว่าจะมาร่วมมือกันรักษาระดับราคาน้ำมันดิบร่วมกันอย่างจริงจังและไม่หักหลังกันหรือไม่ แล้วทางซาอุจะยอมยุติสงครามครั้งนี้ครับ ไม่อย่างนั้นซาอุก็จะเดินหน้าผลิตต่อไป

ปล. วันที่ 6 เมษายนนี้ ตลาดหุ้นไทยปิดวันหยุดวันจักรีนะครับ

⛔️ ท่านใดไม่อยากพลาดข่าวสารในตลาดแบบทันท่วงที แนะนำให้กดไลค์ที่โพสต์เรื่อยๆ หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ที่เมนูมุมขวาบนของเพจได้เลยครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ของเราที่อัพเดทใหม่ๆ ที่อาจออกมาก่อนสื่ออื่นๆครับ ⛔️

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกดไลค์และแชร์ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์นะครับ ขอบคุณมากๆครับ

#OilTradingKP

 

⚠️ ด่วนนน ⚠️ หลังการ #ทวีตของทรัมป์ เมื่อคืนนี้ที่ส่งให้ราคาน้ำมันทะยานขึ้นไป +40% ก่อนที่จะย่อตัวลงมาปิดที่ +20% เนื่องจากยังไม่แน่ใจว่ากลุ่มผู้ผลิตน้ำมันจะสามารถมารวมตัวกันได้จริงหรือไม่ ? เพราะความต้องการและจุดยืนของแต่ละฝ่ายอาจจะต่างกัน...

อย่างไรก็ตามวันนี้เราได้รับรายงานแล้วว่ากลุ่มโอเปกและพันธมิตรกว่า 23 ประเทศ #จะนัดประชุมกันอาทิตย์หน้า วันจันทร์ที่ 6 เมษายนนี้ ! (ผ่านทาง online นะครับ) ทำให้ราคาน้ำมันดีดแรงไปแล้วในวันนี้

แต่... ก่อนที่จะถึงการประชุมครั้งสำคัญนี้ที่จะเป็น #จุดชี้ชะตาราคาน้ำมันของปีนี้เลยทีเดียว ยังมีอีกหลายๆปัจจัยในตลาดน้ำมันที่เรายังต้องมาวิเคราะห์และก็ติดตามกันไปนะครับ เพราะการที่ราคาจะขึ้นแรงๆและยืนอยู่ได้ในช่วงสั้นยังค่อนข้างยาก และความผันผวนของตลาดจะยังมีอยู่สูงเรื่อยๆ

ขอมาสรุปและวิเคราะห์แต่ละเรื่องให้ทุกท่านทราบดังนี้

1️⃣ ข้อความทวีตของทรัมป์

ถ้าเจาะเข้าไปมองลึกๆในข้อความของทางทรัมป์นั้น เขาได้ระบุว่าเขา " Expect & Hope" หรือเขาเชื่อและคาดหวังว่ากลุ่มผู้ผลิตจะสามารถกลับมาร่วมมือกันได้ แปลว่าตัวทรัมป์เองซึ่งได้พูดคุยกับผู้นำของทางซาอุและรัสเซียโดยตรงก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่าทั้งสองฝั่งจะยอมกลับมาจับมือกัน เราไม่รู้เลยว่าความบางหมายของแต่ละฝ่ายนั้นมากน้อยเพียงใด เหตุใดทั้งสองฝั่งจะกลับมาร่วมมือกันลดกำลังการผลิตถึง 10 หรือ 15 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพียงแค่จากการโทรเกลี่ยกล่อมของทรัมป์เพียงครั้งเดียว

2️⃣ ทางกลุ่มผู้ผลิตนัดวันกันได้แล้ว

อย่างไรก็ตามถึงแม้เราไม่รู้ว่าทุกฝ่ายจะยอมหันกลับมาจับมือกันหรือไม่ การที่ทางซาอุยอมนัดประชุมนั้นก็ถือว่าเป็น #ข่าวดีกับตลาดแล้ว ! นั้นเป็นเหตุที่ทำให้ราคายังดีดขึ้นถึง +20% แต่อย่าเพิ่งเข้าใจผิดไปนะครับ ตลาดที่ขึ้นเพราะความหวังนั้นย่อมผันผวนและอ่อนไหว (Fragile) จนกว่าจะมีการตกลงกันได้จริงๆ ราคาจะยังผันผวนและเคลื่อนไหวไปตามข่าวลือก่อนการประชุม และที่แน่ๆคือ #หากการประชุมนี้ล่ม เตรียมตัวเห็นตลาดโดนเทขายหนักๆระดับ -20% ได้เช่นกันอย่างที่เราได้เห็นเมื่อการประชุมโอเปกล่มครั้งล่าสุด อาทิตย์หน้าวันที่ 6 เมษายนนี้ กด See First ไว้กับทางเพจได้เลยครับ จะมาอัพเดทแน่ๆ

3️⃣ ทาง รัสเซียจะให้ความร่วมมือจริงหรือ ?

สิ่งที่ทางเราห่วงว่าอาจทำให้การประชุมล่มนั้นมาจากฝั่งรัสเซียมากกว่าทางซาอุนั้น ทางซาอุนั้น ชัดเจนว่าเป็นผู้มีผลได้และผลเสียต่อราคาน้ำมันในระยะยาวมากที่สุด เพราะทางประเทศซาอุมีปริมาณสำรองน้ำมันใต้ดินสูงกว่าสหรัฐและรัสเซียเยอะ แม้ว่าจะผลิตออกมาน้อยกว่าเพราะคุมการผลิตอยู่ คนที่ต้องการเสถียรภาพของการร่วมมือระหว่างประเทศผลิตน้ำมันนั้นมากที่สุกก็คือซาอุ เพราะฉะนั้นทางเราเชื่อว่าหากหลายๆประเทศผู้ผลิตตกลงจะร่วมมือกันอย่างจริงจังทางซาอุคงไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน

แต่ทางรัสเซียนี่แหละที่ยังน่ากังวล ถึงแม้รัสเซียจะอยากให้ราคาแพงๆ แต่ส่วนตัวนั้นไม่ชอบการลดกำลังการผลิตเยอะ เพราะทางประเทศมหาอำนาจอย่างรัสเซียนั้นมีเป้าหมายอื่นๆมากมายนอกจากแคการรักษาระดับราคาน้ำมัน ตลอด 3 ปีที่ร่วมมือกับทางซาอุและโอเปกมาทางรัสเซียก็แอบลดกำลังการผลิตน้ำมันน้อยกว่าที่ซาอุลดเยอะ และคอยหาทางเจรจาเพิ่มการผลิตมาตลอด จนทำให้ถึงจุดแตกหักเมื่อครั้งประชุมล่าสุด

เพราะฉะนั้นเรายังไม่แน่ใจเลยจริงๆว่าทางรัสเซียจะร่วมด้วยหรือไม่ และดูจากคำพูดของซาอุที่ต้องการจะลงโทษผู้ผลิตอื่นๆที่ไม่เห็นด้วยกับการลดกำลังการผลิตแล้ว ก็คงจะไม่ยอมลดด้วยแน่ๆถ้ารัสเซียไม่ร่วม

4️⃣ วันอาทิตย์นี้จะเป็นวันที่สำคัญมากสำหรับซาอุ

ในวันอาทิตย์ที่ 5 เมษายนนี้จะเป็นวันที่ซาอุประกาศราคาขายน้ำมันดิบให้ลูกค้าของตัวเอง (OSP) โดยเราจะได้รู้กันว่าทางซาอุนั้นเอาจริงกับสงครามครั้งนี้แค่ไหน หรือมีทีท่าว่าจะกลับมาจับมือกัน เมื่อครั้งที่ซาอุประกาศสงครามครั้งนี้นั้นทางซาอุเขาไม่ได้ประกาศตรงๆว่าจะทำสงคราม แต่วันที่ 6 มีนาคม หลังจากที่โอเปกเพิ่งประชุมกันจบไปแบบไม่มีข้อตกลง ทางซาอุเพียงออกมาประกาศลดราคา OSP นี้มากที่สุดในระดับ 20 ปี ! ทำให้ตลาดจึงทราบอย่างแน่ชัดว่าสงครามกำลังมาแล้ว

เพราะฉะนั้นวันอาทิตย์นี้ที่ทางซาอุจะต้องประกาศราคา OSP ของเดือนถัดไป จะทำให้ซาอุตกที่นั่งลำบากมาก ถ้าลดมากเกิดไปก็แปลว่าสงครามจะดุเดือดขึ้น แต่ถ้าประกาศเพิ่มขึ้นก็แปลว่าพร้อมจะกลับมาจับมือกัน แต่ซาอุจะทำเช่นนั้นโดยยังไม่ได้มีการประชุมกันเลยหรือ ? #จับตาอัพเดทจากเพจเราวันอาทิตย์นี้ครับ

5️⃣ ต่อให้ทุกฝ่ายร่วมกันจับมือกันจริงๆ จะลดการผลิตร่วมกันได้ถึง 10 ล้านบาร์เรลต่อวันจริงๆหรือ !

ถึงแม้ทรัมป์จะออกมากล่าวอีกทีว่าอยากเห็นการลดลงของการผลิตที่ 15 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่เราลองมาคิดดูคร่าวๆกันครับ ว่าแม้แต่ 10 ล้านบาร์เรลต่อวันยังจะทำได้ยากแค่ไหน ... ทุกๆครั้งตลอด 3 ปีที่ผ่านมาที่กลุ่มโอเปกและพันธมิตรมาร่วมประชุมเรื่องโควตากันนั้น สุดท้ายแล้วจะร่วมกันลดครั้งละ 1 ล้านบาร์เรลต่อวันกันมาโดยตลอด และก็หารส่วนแบ่งการลดนั้นกระจายกันไปตามกำลังการผลิตของแต่ละประเทศ แต่แค่ 1 ล้านบาร์เรลต่อวันก็ยังทำให้เกิดการทะเลาะ ไม่พอใจ และการโกงโควตาเมื่อผลิตจริงกันมาโดยตลอด คราวนี้ถ้าจะให้ทุกฝ่ายลดจริงๆมากกว่าเดิมถึง 10 เท่า ! ฟังแล้วค่อนข้างยากครับ

ลองคำนวนคร่าวๆนะครับ 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน x ราคาน้ำมันที่ 30 เหรียญ x 365 วัน = 1.1 แสนล้านเหรียญต่อปี ! ใครจะยอมมาลดรายได้ประเทศตัวเองลงไปมากขนาดนั้นกันง่ายๆ เว้นแต่ว่าจะมีการทำร่วมกันแบบจริงจังและจริงใจ... และต้องทำเป็นระยะยาวด้วย ไม่แน่ใจว่าทางซาอุยังจะไว้ใจรัสเซียอยู่หรือไม่ หากจะให้เปรียบเทียบแล้ว 1.1 แสนล้านเหรียญต่อปีนั้นมีมูลค่ามากกว่า งบประมาณแผ่นดินของไทยที่ปีละ 3 ล้านล้านบาทเสียอีก คงจะไม่ง่ายเลยทีเดียว

6️⃣ ต่อให้ทุกฝ่ายร่วมกันลดกำลังการผลิตได้ 10 ล้านบาร์เรลต่อวันจริงๆ มันจะเพียงพอที่จะดันตลาดได้หรือ ?

ต้องบอกว่าอย่างน้อยน่าจะดันราคาให้ไม่หลุดระดับ 20 เหรียญได้ แต่ต้องอย่าลืมว่าตลาดน้ำมันกำลังสู้อยู่สองศึก ไม่ใช่แค่เรื่องสงครามราคาแต่ #ไวรัสโควิดนั้นก็มีบทบาทไม่แพ้กัน ล่าสุดการใช้น้ำมันทั่วโลกได้ลดลงไปมากกว่า -30% หรือ -30 ล้านบาร์เรลต่อวันแล้ว ทำให้การลด 10 ล้านบาร์เรลต่อวันนั้นยากที่จะทำให้น้ำมันหายล้นไปจากโลก เพียงแต่จะช่วยบรรเทาอาการไว้ก่อน และหากโลกเรามีถังเก็บเพียงพอก็อาจจะช่วยได้

และรอวันที่ปริมานการใช้กลับมาเป็นเหมือนเดิม วันนั้นแหละที่ตลาดอาจจะดีดขึ้นไปถึงระดับ 40-50 เหรียญ อย่างที่เราเคยคุ้นชินได้ครับ คงยังไม่ใช่เร็วๆนี้

7️⃣ ดัชนีความผันผวนของตลาดน้ำมัน (Oil VIX) ยังสูงอยู่ 〽️

ดัชนีความผันผวนของราคานั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมากอย่างที่เราเน้นย้ำมาตลอดในเพจว่าควรดูดัชนีนี้ควบคู่ไปด้วยเวลาเทรด ตอนนี้ดัชนี้นี้ได้พุ่งสูงสุดในรอบ 20 ปี มันหมายความว่าอย่างไร ?

หมายความว่าแม้แต่กองทุน Hedge Fund ผู้มีเครื่องมือในการวิเคราะห์ตลาด ผู้มีข่าวสารครบถ้วนและมีเพื่อนพ้องในตลาดมากกว่าเรานั้นยังไม่แน่ใจเลยว่าตลาดจะไปทางไหน พวกเขายังต้องเร่งเข้าซื้อ Options หรือประกันในตลาดเพื่อบริหารความเสี่ยงของพอร์ตจน Oil VIX ดีดขึ้นสูงขนาดนี้

ไม่มีใครรู้ว่าผุ้ผลิตจะตกลงกันได้ไหม ? ซาอุจะทำอย่างไรต่อ ? รัสเซียจะมาเซอไพรส์อะไรอีกไหม ? ทางทรัมป์จะร่วมลดการผลิตด้วยจริงไหม ? หรือแม้แต่การระบาดของโควิดจะยิ่งรุนแรงกว่านี้หรือไม่ ?

ไม่มีใครรู้จริงๆครับ #การเทรดและลงทุนในช่วงนี้ต้องระวังหน่อย หลายคนอาจจะมองว่าในระยะยาวถ้าทุกอย่างปกติแล้วราคาต้องขึ้นแน่ๆ แต่เราควรต้องรอให้ดัชนีความผันผวนของตลาดลดลงมากกว่านี้ก่อน ถึงจะรู้ได้ว่าเรากำลังเข้าสู่เทรนด์ของการฝื้นฟูแล้ว

8️⃣ จับตามองตัวเลข Non-Farm Payroll และ Unemployment Rate ของสหรัฐในคืนนี้ เวลา 19.30น. ไปกับเพจเราครับ เพราะจะสำคัญมาก

อย่าเพียงจับตามองแค่ปัจจัยในตลาดน้ำมันเพียงอย่างเดียวนะครับ เนื่องจากการใช้น้ำมันนั้นกำลังขึ้นอยู่กับจำนวนคนที่ต้องออกมาทำงานในสหรัฐหรือสภาพเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐอยู่มากเลยทีเดียว ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและตัวเลขการว่างงานของเดือนมีนาคมนี้ จะเป็นตัวเลขครั้งแรกหลังเกิดไวรัสระบาดขึ้นที่สหรัฐ ทำให้จะมีความสำคัญมากๆเลยทีเดียวครับ และจะกระทบสินทรัพย์เสี่ยงทั้งหมดรวมไปถึงราคาน้ำมันด้วย

และนี่ก็คือ 8 สิ่งที่นักลงทุนทุกท่านควรทราบก่อนตัดสินใจลงทุนในตลาดน้ำมันนะครับ

⛔️ ท่านใดไม่อยากพลาดข่าวสารในตลาดแบบทันท่วงที แนะนำให้กดไลค์ที่โพสต์เรื่อยๆ หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ที่เมนูมุมขวาบนของเพจได้เลยครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ของเราที่อัพเดทใหม่ๆ ที่อาจออกมาก่อนสื่ออื่นๆครับ ⛔️

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกดไลค์และแชร์ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์นะครับ ขอบคุณมากๆครับ

#OilTradingKP

 

สัญญาณแรกของเศรษฐกิจยุโรปออกมาแย่หนักกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้นะครับ ทำให้ #ตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐ กำลังติดลบ -1 ถึง -2% วันนี้

เริ่มด้วย Purchasing Managers’ Index (PMI) หรือดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้สภาวะทางเศรษฐกิจของภาคการผลิตและบริการ วันนี้ตัวเลขของ อิตาลีออกมาที่ 17.4 จุดในเดือนมีนาคม ! สำหรับผู้ที่คุ้นกับตัวเลข PMI นั้นคงทราบดีว่า 17.4 จุดนี้หมายถึงอาการสาหัสเพียงใด แปลว่าเศรษฐกิจนั้นกำลังหดตัวอย่างรุนแรง (ข้อมูลจาก IHS Markit)

ตั้งแต่เทรดมาผมยังไม่เคยเห็น PMI ที่ต่ำขนาดนี้มาก่อนเลยนะครับ แม้แต่ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจถ้าเราเห็นเลขหลักยี่สิบกว่าๆ ที่ก็ถือว่าสาหัสมากๆแล้ว นี่คือแปลว่าไม่มีธุรกิจไหนในอิตาลีที่แทบจะหนีรอดไวรัสโควิดไปได้เลยนะครับ

ทางด้านตัวเลข PMI ของ ยุโรปโดยรวมนั้นหดตัวลงมาเหลือ 29.7 จุดสำหรับเดือนมีนาคม ลดลงมาจาก 51.6 จุดในเดือนกุมภาพันธ์ การที่ดัชนี้นี้ต่ำกว่า 50 = เศรษฐกิจกำลังหดตัว ซึ่งทาง IHS Markit ได้ประเมินไว้ว่าเศรษฐกิจยุโรปได้หดตัวไปแล้วกว่า -10% และนี่ยังเป็นเพียงจุดเริ่มต้น

พอสัญญานเศรษฐกิจต่างๆออกมาหดตัวรุนแรงขนาดนี้ เราคงเข้าใจแล้วว่าทำไมธนาคารกลางทั่วโลกต่างๆถึงรีบออกมาลดดอกเบี้ยและก็อัดฉีดสภาพคล่องกันยกใหญ่ก่อนที่จะมีตัวเลขออกมา เพราะพวกเขาทราบดีถึงข้อมูลเหล่านี้ก่อนเราครับ ทำให้คำพูดเวลาให้สัมภาษณ์ของธนาคารกลางต่างๆจึงสำคัญมากในหลายๆครั้ง เพราะนักลงทุนพยายามจะคาดเดาข้อมูลที่ทางรัฐเห็น ไม่ใช่เพียงแต่ดูการกระทำที่ประกาศออกมา

คืนนี้เราจะได้รับอีกตัวเลขสัญญานเศรษฐกิจที่น่าจับตามองของสหรัฐนั้นคือตัวเลข Non-Farm Payroll และ Unemployment Rate ที่จะออกมาเวลา 19.30น. โดยตลาดคาดว่าจะอยู่ที่ -100,000 รายและ 3.8% ซึ่งถ้าออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาดก็จะเกิดการเทขายของตลาดหุ้นอย่างต่อเนื่องได้ ซึ่งทางเรามองว่ามีโอกาสออกมาแย่กว่าได้สูงมาก

⛔️ ติดตามตัวเลขรายงานสดไปกับเพจเราได้ครับ แนะนำให้กดไลค์ที่โพสต์เรื่อยๆ หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ที่เมนูมุมขวาบนของเพจได้เลยครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ของเราที่อัพเดทใหม่ๆ ที่อาจออกมาก่อนสื่ออื่นๆครับ ⛔️

ส่วน PMI ภาคบริการของประเทศอื่นๆทั่วโลกที่เพิ่งออกมาในช่วงนี้ มีดังนี้ครับ

Australia ⬇️ 38.5 v 49.0
Russia ⬇️ 37.1 v 52.0
Kazakhstan ⬇️ 40.6 v 46.6
Lebanon ⬇️ 35.0 v 45.4
Japan ⬇️ 33.8 v 46.8
Singapore ⬇️ 33.3 v 47.0
China ⬆️ 43.0 v 26.5
Hong Kong ⬆️34.9 v 33.1

อัพเดทเรื่องน้ำมันเล็กน้อยนะครับ เมื่อช่วงบ่ายนี้ทางซาอุออกมารายงาน 2 อย่างครับว่าทางผู้ผลิตอาจจะเริ่มคุยกันที่การลดการผลิตที่ 6 ล้านบาร์เรลต่อวันแทน (น้อยกว่าที่ทรัมป์ทวีตไว้ที่ 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน) และมีการขอให้ Canada เข้ามาร่วมลดการผลิตกันในครั้งนี้ด้วย

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกด Like และ Share ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์นะครับ ขอบคุณมากๆครับ

#OilTradingKP

 

สัญญาณแรกของเศรษฐกิจยุโรปออกมาแย่หนักกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้นะครับ ทำให้ #ตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐ กำลังติดลบ -1 ถึง -2% วันนี้

เริ่มด้วย Purchasing Managers’ Index (PMI) หรือดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้สภาวะทางเศรษฐกิจของภาคการผลิตและบริการ วันนี้ตัวเลขของ อิตาลีออกมาที่ 17.4 จุดในเดือนมีนาคม ! สำหรับผู้ที่คุ้นกับตัวเลข PMI นั้นคงทราบดีว่า 17.4 จุดนี้หมายถึงอาการสาหัสเพียงใด แปลว่าเศรษฐกิจนั้นกำลังหดตัวอย่างรุนแรง (ข้อมูลจาก IHS Markit)

ตั้งแต่เทรดมาผมยังไม่เคยเห็น PMI ที่ต่ำขนาดนี้มาก่อนเลยนะครับ แม้แต่ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจถ้าเราเห็นเลขหลักยี่สิบกว่าๆ ที่ก็ถือว่าสาหัสมากๆแล้ว นี่คือแปลว่าไม่มีธุรกิจไหนในอิตาลีที่แทบจะหนีรอดไวรัสโควิดไปได้เลยนะครับ

ทางด้านตัวเลข PMI ของ ยุโรปโดยรวมนั้นหดตัวลงมาเหลือ 29.7 จุดสำหรับเดือนมีนาคม ลดลงมาจาก 51.6 จุดในเดือนกุมภาพันธ์ การที่ดัชนี้นี้ต่ำกว่า 50 = เศรษฐกิจกำลังหดตัว ซึ่งทาง IHS Markit ได้ประเมินไว้ว่าเศรษฐกิจยุโรปได้หดตัวไปแล้วกว่า -10% และนี่ยังเป็นเพียงจุดเริ่มต้น

พอสัญญานเศรษฐกิจต่างๆออกมาหดตัวรุนแรงขนาดนี้ เราคงเข้าใจแล้วว่าทำไมธนาคารกลางทั่วโลกต่างๆถึงรีบออกมาลดดอกเบี้ยและก็อัดฉีดสภาพคล่องกันยกใหญ่ก่อนที่จะมีตัวเลขออกมา เพราะพวกเขาทราบดีถึงข้อมูลเหล่านี้ก่อนเราครับ ทำให้คำพูดเวลาให้สัมภาษณ์ของธนาคารกลางต่างๆจึงสำคัญมากในหลายๆครั้ง เพราะนักลงทุนพยายามจะคาดเดาข้อมูลที่ทางรัฐเห็น ไม่ใช่เพียงแต่ดูการกระทำที่ประกาศออกมา

คืนนี้เราจะได้รับอีกตัวเลขสัญญานเศรษฐกิจที่น่าจับตามองของสหรัฐนั้นคือตัวเลข Non-Farm Payroll และ Unemployment Rate ที่จะออกมาเวลา 19.30น. โดยตลาดคาดว่าจะอยู่ที่ -100,000 รายและ 3.8% ซึ่งถ้าออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาดก็จะเกิดการเทขายของตลาดหุ้นอย่างต่อเนื่องได้ ซึ่งทางเรามองว่ามีโอกาสออกมาแย่กว่าได้สูงมาก

⛔️ ติดตามตัวเลขรายงานสดไปกับเพจเราได้ครับ แนะนำให้กดไลค์ที่โพสต์เรื่อยๆ หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ที่เมนูมุมขวาบนของเพจได้เลยครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ของเราที่อัพเดทใหม่ๆ ที่อาจออกมาก่อนสื่ออื่นๆครับ ⛔️

ส่วน PMI ภาคบริการของประเทศอื่นๆทั่วโลกที่เพิ่งออกมาในช่วงนี้ มีดังนี้ครับ

Australia ⬇️ 38.5 v 49.0
Russia ⬇️ 37.1 v 52.0
Kazakhstan ⬇️ 40.6 v 46.6
Lebanon ⬇️ 35.0 v 45.4
Japan ⬇️ 33.8 v 46.8
Singapore ⬇️ 33.3 v 47.0
China ⬆️ 43.0 v 26.5
Hong Kong ⬆️34.9 v 33.1

อัพเดทเรื่องน้ำมันเล็กน้อยนะครับ เมื่อช่วงบ่ายนี้ทางซาอุออกมารายงาน 2 อย่างครับว่าทางผู้ผลิตอาจจะเริ่มคุยกันที่การลดการผลิตที่ 6 ล้านบาร์เรลต่อวันแทน (น้อยกว่าที่ทรัมป์ทวีตไว้ที่ 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน) และมีการขอให้ Canada เข้ามาร่วมลดการผลิตกันในครั้งนี้ด้วย

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกด Like และ Share ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์นะครับ ขอบคุณมากๆครับ

#OilTradingKP

 

"มูดี้ส์" ปรับลดแนวโน้มเครดิตภาคธนาคารสิงคโปร์สู่เชิงลบจากผลกระทบโควิด-19
: มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ ได้ปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือภาคธนาคารของสิงคโปร์ลงสู่ "เชิงลบ" จาก "มีเสถียรภาพ" โดยระบุถึงความเสี่ยงจากหนี้เสียที่เพิ่มขึ้น และความสามารถในการทำกำไรที่ลดลง อันเนื่องมาจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจและอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง ท่ามกลางผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

มูดี้ส์ระบุในรายงานที่เปิดเผยในวันนี้ว่า ต้นทุนสินเชื่อจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากคุณภาพสินทรัพย์ย่ำแย่ลง ขณะที่อัตราดอกเบี้ยจะลดลงเนื่องจากการผ่อนคลายนโยบายการเงิน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (net interest margin) ของธนาคารต่างๆ

ทั้งนี้ ธนาคารรายใหญ่ 3 แห่งของสิงคโปร์ ได้แก่ ดีบีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์, โอเวอร์ซี-ไชนีส แบงกิ้ง คอร์ป และยูไนเต็ด โอเวอร์ซีส์ แบงก์ ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้าที่ไวรัสโควิด-19 จะแพร่ระบาดแล้วว่า ผลประกอบการธนาคารจะขยายตัวอย่างซบเซาในปีนี้

Source: อินโฟเควสท์
แปลและเรียบเรียงโดย กัลยาณี ชีวะพานิช/ปนัยดา

เพิ่มเติม
https://www.straitstimes.com

 

4 เมษายน วันที่ต้องจารึก | วันแห่งพิธีสดุดีวีรชน ไว้อาลัยผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19
.
1.รัฐบาลจีนประกาศจัดพิธีไว้ทุกข์ระดับชาติ เพื่อไว้อาลัยและรำลึกถึงเพื่อนร่วมประเทศ ที่เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19
.
2.พิธีจะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 4 เมษายน เวลา 10.00 น. จีนจะลดธงชาติครึ่งเสาทั่วประเทศ รวมทั้งสถานทูตและสถานกงสุลจีนทุกแห่งในต่างประเทศ
.
3.ประชาชนชาวจีนจะร่วมพิธีกันอย่างพร้อมเพรียงกัน ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด ทุกคนจะยืนสงบนิ่งไว้อาลัยเป็นเวลา 3 นาที
.
4.จากนั้น เสียงไซเรน เสียงแตรของรถยนต์ รถไฟ และเรือ จะดังก้องไปทั่วทั้งจีนแผ่นดินใหญ่ เพื่อไว้ทุกข์
.
5.ขณะที่มณฑลหูเป่ยมีมติ ประกาศรายชื่อนายแพทย์ 14 ท่าน ซึ่งมีชื่อของนายแพทย์หลี่ เหวินเหลียง รวมอยู่ด้วย | อ่านเพิ่มเติม: 'คุณหมอหลี่' วีรบุรุษผู้เตือนภัย - ถ้าวันนั้น รอบคอบกว่านี้ วันนี้ คงไม่มีวิกฤตไวรัสอู่ฮั่น
.
6.นายแพทย์ทั้ง 14 ท่านนี้เป็นนายแพทย์กลุ่มแรกที่เสียชีวิตจากการต่อสู้กับโรคระบาดในเมืองอู่ฮั่น เมืองเอกของมณฑลหูเป่ย ซึ่งมณฑลหูเป่ยต้องการเชิดชูเกียรติในฐานะผู้พลีชีพเพื่อมาตุภูมิจีน
.

 

ชาวจีนส่งกำลังใจให้คนไทย ‘ประเทศไทย สู้ๆนะ’
.
1.ช่วงเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จีนเผชิญกับวิกฤตไวรัสโควิด-19 อย่างหนักหน่วง ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยต่างส่งกำลังใจให้ชาวจีนและชาวอู่ฮั่น ด้วยประโยคที่ว่า...
中国加油 – จงกว๋อเจียโหยว – ประเทศจีน สู้ๆ
武汉加油 – อู่ฮั่นเจียโหยว – อู่ฮั่น สู้ๆ
.
2.มาถึงวันนี้ สถานการณ์ในจีนดีขึ้น แต่ในต่างประเทศรวมถึงประเทศไทย สถานการณ์ไม่ค่อยสู้ดีนัก ชาวจีนจึงส่งกำลังใจมาให้พี่น้องชาวไทยบ้าง
.
3.พนักงานชาวจีน บริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) ที่เซี่ยงไฮ้ ทำคลิปให้กำลังใจ ส่งมาให้เพื่อนพี่น้องชาวไทยและประเทศไทยในการต่อสู้กับการระบาดของไวรัสโควิด-19
.
4.ในคลิป มีข้อความเป็นภาษาไทยและภาษาจีน ใจความว่า…
.
同舟共济，守望相助。
ถงโจวก้งจี่ โส่วว่างเซียงจู้
เคียงบ่าเคียงไหล่ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
.
泰国 加油
ไท่กว๋อ เจียโหยว
ประเทศไทย สู้ๆ
.
5.เหล่าพนักงานเครือ CP ในเซี่ยงไฮ้ ที่ร่วมถ่ายคลิปส่งกำลังใจครั้งนี้ มาจาก 3 บริษัท ได้แก่...
-บริษัท Shanghai Kinghill
-บริษัท Chia Tai Di Jing (Shanghai) Investment Management และ
-บริษัท Charoen Pokphand Import & Export Trading (Shanghai)
.
6.มาดูความหมายของคำว่า 加油 – เจียโหยว – สู้ๆ กันครับ | ปกติเราจะได้ยินชาวจีนส่งเสียง ‘จงกว๋อ เจียโหยว – จีนสู้ๆ’ เชียร์กีฬากันในสนาม
.
7.คำว่า เจียโหยว แปลว่า สู้ๆ แปลตามตัวอักษร หมายถึง เติมน้ำมัน
.
8.ที่มาของคำนี้มาจากการเติมน้ำมันใส่ตะเกียงอ่านหนังสือให้เด็กที่ขยันเรียนเขียนอ่านในอดีต ในสมัยที่ชาวบ้านต้องใช้ตะเกียงน้ำมันอ่านหนังสือยามค่ำคืน
.
9.ยุคสมัยนั้น น้ำมันเป็นของแพงและหายากสำหรับสามัญชน นายจาง อิง (张瑛) ผู้ว่าเมืองกุ้ยโจว ในสมัยปลายราชวงศ์ชิง ต้องการสนับสนุนช่วยเหลือเด็กชาวบ้านที่ตั้งใจเรียน
.
10.จาง อิงจึงหิ้วถังน้ำมันออกเยี่ยมเยียนราษฎรยามค่ำคืน และเมื่อเห็นเด็กบ้านไหนตั้งใจเรียน ก็จะเติมน้ำมันใส่ตะเกียงให้ แล้วพูดว่า ‘เจียโหยว – สู้ๆนะ’
.
11.นี่คือที่มาของคำว่า เจียโหยว และแพร่หลายเป็นที่รู้จักกันดี โดยเฉพาะในช่วงที่เมืองอู่ฮั่น ต้นกำเนิดของการระบาดของไวรัสโตวิด-19 และชาวโลกส่งกำลังให้ชาวอู่ฮั่นด้วยประโยคที่ว่า 武汉加油 – อู่ฮั่นเจียโหยว – อู่ฮั่น สู้ๆ
.
12.เมืองอู่ฮั่นถูกประกาศปิดบ้าน ปิดถนน ปิดเมือง 23 มกราคม / มาถึงวันนี้ 2 เดือนกว่าแล้ว สถานการณ์ไวรัสดีขึ้นต่อเนื่อง อู่ฮั่นกำลังจะกลับมาเป็นปกติแล้ว และมีกำหนดพร้อมเปิดเมืองในวันที่ 8 เมษายนนี้
.
ขอขอบคุณคลิปวีดิโอจาก : We are CP
.

 

จังหวัดภูเก็ต สั่งปิดโรงแรมทั้งเกาะ‼️ ฝ่าฝืนมีโทษ เริ่ม 4 เมษายน 2563 เป็นต้นไป

จากการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในจังหวัดภูเก็ตพบว่า ยังคงมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

⭕️ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ตามมติที่ประชุมครั้งที่ 12/2563 เมื่อวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ.2563 จึงออกคำสั่งไว้ ดังนี้

ปิดโรงแรมที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยพระราชบัญญัติ
โรงแรม พ.ศ. 2547 ทุกประเภท และสถานประกอบการในลักษณะดียวกัน ยกเว้น โรงแรมซึ่งทางราชการใช้เป็นโรงพยาบาลสนาม หรือสถานที่พักเพื่อสังเกตอาการ หรือใช้เพื่อประโยชน์อื่นใดในทางราชการ ในการแก้ไขปัญหาตามมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุม การแพร่ระบาดจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19

✅ สำหรับโรงแรมที่มีผู้เข้าพักอยู่ก่อนที่คำสั่งนี้มีผลใช้บังคับ ให้พักต่อไปจนกว่าผู้เข้าพักจะแจ้งออกจากห้องพักจนหมดแล้วให้ปิดทันทีโดยไม่ให้มีการรับผู้เข้าพักเพิ่มอีด ทั้งนี้ ให้โรงแรมที่ยังนักท่องเที่ยวหรือผู้เดินทางเข้าพักอยู่ต้องแจ้งจำนวน และรายชื่อผู้เข้าพักให้ที่ทำการปกครองอำเภอทราบ เพื่อตรวจคัดกรองผู้เข้าพักทุกคน หากผู้เข้าพักคนใดมีอาการเข้าข่ายที่ต้องฝ้าระวังการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จะต้องถูกส่งไปแยกกัก กักกัน หรือคุมไว้สังเกตอาการ ยังสถานที่ที่จังหวัดกำหนด

หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้ จะมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจได้รับโทษตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ตามข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 1)

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2563 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

สั่ง ณ วันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2563

✉️ นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์
ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต
ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต

#ภูเก็ตปิดโรงแรม
#หยุดเชื้อ
#ลดCOVID19

CR. NBT PHUKET

 

พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ลงนามในประกาศ เรื่อง ห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม โดยมีรายละเอียด ดังนี้
.
อาศัยอำนาจตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติ การบริหารราชการในสถานการณ์ ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ฉบับที่ 1 ข้อ 5 และคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 4 / 2563 เรื่องแต่งตั้งผู้กำกับการปฎิบัติงานหัวหน้าผู้รับผิดชอบและพนักงานเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ข้อ3 (6) เพื่อเป็นการลดโอกาสการแพร่ระบาดของการติดเชื้อโรค โควิด-19 มิให้ขยายไปในวงกว้าง จึงกำหนดห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรมหรือการมั่วสุม ในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค หรือการกระทำอันเป็นการฉวยโอกาสซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน หรือการกลั่นแกล้งเพื่อแพร่เชื้อโรค ณ ที่ใดๆ ทั่วราชอาณาจักร เว้นแต่เป็นการทำกิจกรรมภายในครอบครัวที่อยู่ในเคหสถานของตนเอง หรือกิจกรรมของทางราชกา ซึ่งมีมาตราการเว้นระยะห่างระหว่าง บุคคลที่ปลอดภัย

หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ต้องรับโทษตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องรับโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

Cr. โฆษกรัฐบาล // สำนักประชาสัมพันธ์เขต 7

 

คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ เผยเครื่องตรวจ COVID -19 อัตโนมัติเครื่องแรกในประเทศไทย ตอบโจทย์การแก้ปัญหาการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในไทยได้เป็นอย่างดี สามารถยืนยันผลการติดเชื้อได้ถึง 99 % เน้นตรวจคนไข้ได้ในปริมาณที่มากขึ้น รู้ผลได้เร็วขึ้น ช่วยป้องกันไม่ให้บุคคลเหล่านั้นไปแพร่เชื้ออีก

อ่านต่อ >https://news1live.com/detail/9630000034387
............................................
● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

 

เมื่อทรัมป์กำลังสู้กับ “ผู้ว่าการรัฐ” ไม่ใช่ “ไวรัส”

 

#สุวรรณภูมิอลหม่าน #บิ๊กตู่เรียกคุยด่วนพรุ่งนี้
#ชะลอเข้าประเทศ!
.
ด่วน!! "บิ๊กตู่" สั่งถกพรุ่งนี้ หลังกต. ยังออกเอกสารเดินทางเข้าประเทศ แม้มีคำสั่งชะลอเข้าประเทศ แถมดื้อแพ่งไม่ยอมกักตัว ขณะที่ทหารผ่อนผันให้กลับบ้านได้ หลังสุวรรณภูมิอลหม่าน จนท.-ผู้โดยสาร เจรจาอยู่นาน
.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มีคำสั่งให้กระทรวงการต่างประเทศ ชะลอการเดินทางเข้าประเทศของคนไทยและคนต่างชาติ ตั้งแต่ 2เมษายน จนถึง 15 เมษายน นี้ แต่ปรากฎว่า กระทรวงการต่างประเทศ ยังคงออกเอกสารรับรองให้คนไทย และคนต่างชาติ เดินทางเข้าประเทศไทย ตามปกติ และเมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 3เมย. ที่ผ่านมา มีกลุ่มคนไทยมากกว่า 100 คนเดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ และปฏิเสธที่จะเข้ารับการกักตัวตามมาตรการของรัฐบาล ซึ่งจัดสถานที่ไว้รอรับที่ อ.สัตหีบ และ โรงแรม อีก 2แห่ง ในกรุงเทพมหานคร โดยอ้างว่า ไม่ทราบว่ามีมาตรการดังกล่าว
.
กลุ่มผู้โดยสารที่เดินทางมาถึงสุวรรณภูมิ เรียกร้องให้รัฐบาลส่งตัวแทนมาชี้แจง และทำท่าจะลุกลามเป็นการชุมนุมต่อต้านเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ต่อมา เจ้าหน้าที่ทหารระดับพลตรี ได้เข้ามาคุมสถานการณ์ และเปิดการเจรจากับผู้เดินทาง ประมาณ 20 นาที ก่อนจะอนุญาตให้ทุกคนเดินทางกลับบ้านได้ โดยกำชับให้ทุกคนต้องกักตัวเอง 14วัน แม้ว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข จะคัดคัดค้าน แต่ไม่สามารถควบคุมตัวผู้เดินทางทั้งหมดได้
.
การเดินทางมาจากต่างประเทศของคนไทยและคนต่างชาติ ในระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผู้ติดเชื้อในประเทศไทยเพิ่มขึ้น เนื่องจาก เมื่อกลับมาแล้วไ่ม่ยอมกักตัว และเดินทางไปในสถานที่ต่างๆ จนเป็นเหตุให้นายกรัฐมนตรีออกคำสั่งให้มีการชะลอการเดินทางเข้าประเทศไทย ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า แม้จะเป็นคำสั่งของนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉิน ก็ยังมีหน่วยราชการ ฝ่าฝืนคำสั่งและไม่ปฏิบัติตาม
.
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ล่าสุด หลังจากที่มีการละเมิดคำสั่งทั้งคำสั่งชะลอการเดินทางเข้าประเทศ และการไม่ยอมรับการกักตัวในสถานที่รัฐกำหนด นายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นการด่วน ในวันพรุ่งนี้ เวลา 9.00 น.

 

⚠️ ด่วนครับ พอตลาดน้ำมันเริ่มกลับทิศเด้งขึ้นมาอย่างแรง ก็มีข่าวปัจจัยบวกเข้ามาหนุนเรื่อยๆเลย ⚠️ ล่าสุดในคืนนี้ทางทรัมป์กำลังมีแผนปิดการผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกเนื่องจากไวรัสโควิดระบาด ! หากปิดเข้าใจจริงๆจะทำให้กำลังการผลิตหายไป 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ! เกือบพอๆกับปริมาณที่ซาอุผลิตเพิ่มขึ้นมาทีเดียวนับจากสงครามราคาเริ่มขึ้น

เรื่องการอาจปิดการผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องการรวมตัวกันของผู้ผลิตน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในโลกกว่า 23 ประเทศที่จะมีขึ้นในวันวันจันทร์ที่ 6 เมษายนนี้นะครับ แต่เป็นเพราะการระบาดของไวรัสที่รุนแรงในสหรัฐนั้นทำให้อาจมีคนบนแท่นผลิตติดไวรัส ทางเรายังไม่ได้รับการยืนยันว่ามีผู้ติดเชื้อจริงไหมจริงไหม แต่ทางรัฐบาลกำลังหารือเรื่องสั่งปิดแท่นการผลิตอย่างจริงจัง (ที่มา Wall Street Jourmal)

ทางด้านนาย Larry Kudlow ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลทรัมป์ได้ออกมากล่าวอย่างมั่นใจว่า ทางซาอุและรัสเซียนั้นได้ยุติความบางหมางกันแล้ว และพร้อมที่จะช่วยกันลดการผลิตร่วมกันอีกครั้ง

ทำให้ในขณะนี้นั้นราคาน้ำมันดิบ Brent ยังคงผันผวนอยู่ในระดับสูงและกำลังเทรดอยู่ที่ 33.5 เหรียญหรือบวกขึ้นมา +12% ! ขึ้นอย่างต่อเนื่อง 2 วันมากกว่า 30% แล้ว !

เนื่องจากยังมีหลายๆปัจจัยที่ยังไม่แน่นอนไม่ว่าจะเป็นเรื่องว่ากลุ่มผู้ผลิตจะจับมือกันได้จริงไหม ? สหรัฐจะปิดการผลิตในอ่าวหรือไม่ ? ไวรัสจะระบาดไปมากน้อยแค่ไหนในช่วงสุดสัปดาห์ จึงอยากแนะนำให้นักลงทุนทุกท่านลดความเสี่ยงก่อนตลาดปิดคืนนี้ครับ เพราะตลาดที่เปิดมาวันจันทร์อาจจะมี Gap ไปทางใดทางหนึ่งได้

⛔️ ท่านใดไม่อยากพลาดข่าวสารในตลาดแบบทันท่วงที แนะนำให้กดไลค์ที่โพสต์เรื่อยๆ หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ที่เมนูมุมขวาบนของเพจได้เลยครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ของเราที่อัพเดทใหม่ๆ ที่อาจออกมาก่อนสื่ออื่นๆครับ ⛔️

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกดไลค์และแชร์ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์นะครับ ขอบคุณมากๆครับ

#OilTradingKP

 

ด่วน!!! ข้อมูลจาก สธ. เผยจากเหตุอลหม่าน ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ ที่มีผู้โดยสาร เดินทางเข้าประเทศ ท่ามกลางคำสั่งชะลอเข้าประเทศนั้น มีผู้โดยสาร 3 คน เป็นไข้ และถูกกักไว้ อาศัยจังหวะชุลมุน หลบหนีการกักตัวออกจากสนามบินไปด้วย
.
มีรายงานล่าสุดนายกฯ สั่งให้ติดตามตัวผู้เดินทางเข้าประเทศ ทุกคน ที่ไม่เข้ากักตัวในสถานที่รัฐจัดให้

#มีไข้แล้วหนี

 

จีนทดสอบวัคซีนในกลุ่มอาสาสมัครรอบแรกครบ108คน โดยผลทดสอบจะออกในเดือนเมษายน - เริ่มมีผู้ที่เสร็จสิ้นช่วงกักตัว14วันและกลับบ้านแล้ว 18คน โดยมีสุขภาพปกติดี /ด้านหัวหน้าทีมวิจัยวัคซีน เผย อาจทดลองวัคซีนในประเทศอื่น ที่เป็นพื้นที่ระบาดหนักนอกจีน

วันนี้อ้ายจงมีข่าวความคืบหน้าของการพัฒนาวัคซีนในจีนมาฝากครับ ตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา จีนได้ทดสอบฉีดวัคซีนในกลุ่มอาสาสมัครที่เป็นคนในพื้นที่อู่ฮั่น อายุ 18-60ปี จำนวน 108คน โดยแบ่งเป็น 3กลุ่ม ตามระดับโดสของวัคซีน ได้แก่ โดสต่ำ, โดสกลาง และโดสสูง

ล่าสุด 2 เมษายนที่ผ่านมา จีนได้ฉีดวัคซีนให้กับอาสาสมัครครบทั้ง 108คนแล้ว และตอนนี้มีอาสาสมัคร 18คน ที่ฉีดวัคซีนตั้งแต่วันแรกๆของการทดลอง ได้ครบกำหนดกักตัวหลังฉีดยา จำนวน14วัน และกลับบ้านได้แล้ว ซึ่งทุกคนได้ผ่านการทำCT scan และตรวจร่างกายก่อนออก พบว่าทุกคนมีสุขภาพปกติดี

โดยอีก 14วันจะต้องมาตรวจอีกรอบ รวมถึงภายใยระยะเวลา 6เดือนหลังฉีดวัคซีน จะมีการติดตามผลและตรวจสุขภาพ เพื่อให้ทราบประสิทธิภาพและผลข้างเคียงวัคซีน

อาสาสมัครบางคน กล่าวว่า "วันแรกของการรับวัคซีนเข้าสู่ร่างกาย มีอาการไข้และปวดหัวเล็กน้อย แต่หลังจากนั้นก็หายเป็นปกติ ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นได้หลังฉีดวัคซีน"

ด้าน เฉิน เวย (Chen Wei) นักวิจัยระดับสูงของกองทัพจีน ผู้นำทีมวิจัยและพัฒนาวัคซีน COVID-19 ในครั้งนี้ เผย "หากผลการทดลองทางคลินิกในครั้งนี้ ที่จะออกมาภายในเดือนเมษายน ออกมาว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพตามที่ตั้งใจไว้ ก็อาจจะมีการทดลองวัคซีนในต่างประเทศ ที่เป็นพื้นที่เสี่ยง-พื้นที่ระบาดหนักนอกจีน ถ้าหากการระบาดทั่วโลกยังไม่ดีขึ้น" ตามการรายงานของ China Daily สื่อจีน

แต่ก่อนที่จะทดสอบในต่างประเทศตามที่ตั้งใจ อาจจะมีการทดสอบในชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศจีน ร่วมกับกลุ่มอาสาสมัครชาวจีนกลุ่มใหม่

นอกจากนี้ ทาง เฉิน เวย ยังระบุอีกว่า "วัคซีนของจีนที่กำลังพัฒนาอยู่นี้ อาจเป็นทางออกที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการยุติการแพร่ระบาด COVID-19 ทั่วโลก"

.

อ้ายจงอ้างอิงจาก

- Weibo: 人民日报 (People's Daily)

- China Daily
http://global.chinadaily.com.cn/a/202003/31/WS5e8296f2a3101282172832bd.html

#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน

 

สลดใจ!
หนุ่มวัย 27 ปีไปตรวจเลือดออกมาเป็น "บวก" แชทไลน์บอกเพื่อนว่าเครียดติด #โควิด19 ก่อนโดดแมนชั้นฆ่าตัวตาย เหตุเกิดที่หาดใหญ่ สงขลา เมื่อเช้าวันนี้ จนท.ส่งศพชันสูตรว่าติดไวรัสโควิดจริงหรือไม่
#COVID2019

 

'บาท-รูเปีย'ควงคู่อ่านค่าสุดในตลาดเกิดใหม่ โควิด-19 ทำนักท่องเที่ยวจีนหด-ต่างชาติเทขายพันธบัตร - เงินบาทและรูเปียที่เคยเป็นสกุลเงินที่ดีสุดของตลาดเกิดใหม่ ได้กลายเป็นสกุลเงินที่แย่ที่สุดในขณะนี้ท่ามกลางวิกฤติโควิด-19 โดยเงินบาทรับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวจากจีนลดลง ขณะที่เงินรูเปียอ่อนเพราะนักลงทุนต่างชาติเทขายพันธบัตรมากเป็นประวัติการณ์

ปัจจัยเดียวกันที่ทำให้เงินบาทและรูเปีย (rupiah) ขึ้นเป็นสกุลเงินที่ดีที่สุดของเอเชียในปี 2562 กำลังฉุดค่าเงินทั้งสองสกุลนี้ให้อ่อนลงในขณะนี้ โดยเงินทั้งสองสกุลนี้เป็นสกุลเงินที่แย่ที่สุดในตลาดเกิดใหม่ของเอเชียในปีนี้เนื่องจากอินโดนีเซียมีความเสี่ยงต่อการไหลออกของเงินทุนต่างชาติ ในขณะที่การพึ่งพาการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจีนของเงินบาทเริ่มกลายเป็นปัจจัยลบเมื่อไวรัสโคโรนาทำให้เกิดการถอนตัวจากความเสี่ยงเป็นจำนวนมาก

เงินบาทได้อ่อนตัวลงมากกว่า 8% ขจัดการแข็งค่าทั้งหมดในปี 2562 ส่วนเงินรูเปียได้อ่อนตัวลงประมาณ 15% นับตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมโดยอีก 4% ก็จะถึงระดับอ่อนสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้เมื่อปี 2541 เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติเทขายทั้งพันธบัตรและหุ้น ผลตอบแทนรวมของเงินบาทและรูเปียลดลงมากในช่วงไตรมาสหนึ่ง

เหว่ย เหลียง ชาง นักกลยุทธ์มหภาคของดีบีเอส แบงก์ กล่าวว่า การเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงในตลาดในเดือนมีนาคมได้ทำให้เงินทุนไหลออกมากและกำลังโจมตีเงินรูเปียอย่างไม่เหมาะสม ส่วนเงินบาทเป็นสตอรี่เกี่ยวกับดุลบัญชีเดินสะพัด ประเทศไทยพึ่งพาการท่องเที่ยวมากและการหยุดเดินทางของนักท่องเที่ยวจะกดดันการได้ดุลบัญชีเดินสะพัดซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเงินบาทจึงอ่อน

ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติได้ลดการถือครองทั้งหุ้นและพันธบัตรทั่วตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย ตราสารหนี้อินโดนีเซียได้พบกับแรงเทขายมากเป็นพิเศษเพราะว่าตลาดตราสารหนี้ของประเทศมีต่างชาติถือมากสุดในภูมิภาค และกองทุนทั่วโลกได้ถอนเงินจากตราสารหนี้อินโดนีเซียในไตรมาสนี้ 8,400 ล้านดอลลาร์ มากกว่าสถิติในก่อนหน้านี้สามเท่า โดยสถิติสูงสุดในช่วงไตรมาสสองของปี 2561 มีการถอนเงิน 2,300 ล้านดอลลาร์

สำหรับเงินบาทขึ้นอยู่กับการท่องเที่ยวทั่วโลก การจำกัดการเดินทางทั่วโลกได้ทำให้สายการบินจำนวนมากแทบจะยกเลิกเที่ยวบินทั้งหมด ในขณะเดียวกันมีการล็อกดาวน์ประชากรโลกเป็นจำนวนมาก สภาการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยคาดการณ์ว่า การระบาดของไวรัสโคโรนาจะทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง 36% ในปีนี้

นอกจากนี้สิ่งที่น่ากังวลสำหรับเงินบาทคือ เสน่ห์ที่เคยเป็นที่หลบภัยในช่วงที่จีนและสหรัฐทำสงครามการค้าได้หมดไปแล้ว ในขณะที่การพิพาทการค้าระหว่างจีนและสหรัฐรุนแรงมากขึ้น ความสัมพันธ์ระหว่างเงินบาทและเงินหยวนลดลงเนื่องจากมีการมองว่าประเทศไทยมีความเสี่ยงต่อการค้าของจีนน้อยกว่าเพื่อนบ้านในตลาดเกิดใหม่เอเชีย ซึ่งช่วยให้เงินบาทเป็นสกุลเงินที่ดีที่สุดของภูมิภาคเมื่อปีที่แล้ว แม้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยพยายามที่จะจำกัดการแข็งค่า

อย่างไรก็ดีในขณะนี้การปิดพรมแดนจีนเพราะไวรัสโคโรนาได้แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยเป็นหนึ่งในเศรษฐกิจที่พึ่งพาจีนมากสุด โดยอย่างน้อยจากมุมมองด้านการท่องเที่ยว และเงินบาทไม่เพียงแต่ได้อ่อนตัวลง แต่ยังเริ่มมีความสัมพันธ์กับเงินหยวนใหม่เช่นกัน

Source: ข่าวหุ้น
www.businesstimes.com.sg

 

จับอีกโป๊ะ “แกร็บ” เจ้าเก่า บริการส่งพัสดุเอกสาร-สั่งซื้อของเข้าบ้าน คนใช้แอปฯ สั่งปุ๊บ เก็บตังค์ปั๊บ 3 บาทต่อครั้ง โซเชียลฯ ประณามขูดรีดทุกเม็ด ในวันที่คนไทยลำบาก หมดโควิดก็เตรียมบอกลา!!!

ดีลิเวอรี่สีเขียว “แกร็บ” โดนจับโป๊ะว่าฉวยจัวหวะตักตวงกำไรบนความวิกฤตของสถานการณ์แพร่ระบาดโรคไวรัสโควิด-19 ต่อเนื่องจาก “แกร็บฟู้ด” บริการสั่งอาหารที่คิดคอมมิชชัน จากผู้ประกอบการร้านอาหารที่ต้องปิดหน้าร้านในอัตรา 30% จนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก...

คราวนี้มาถึง “GrabExpress” หรือ บริการรับส่งพัสดุ-เอกสารถึงที่แบบทันที และบริการใหม่ที่คิดขึ้นมารับภาวะฉุกเฉินโดยเฉพาะ “GrabAssistant” บริการฝากซื้อสินค้าจากร้านค้าส่งตรงถึงบ้าน

สองบริการนี้ ถือว่ามีความต้องการใช้บริการดีลิเวอรี่สูง ผลมาจากการล็อกดาวน์ และอาจจะเพิ่มสูงไปอีกเมื่อมี “เคอร์ฟิว” แน่นอนว่า นโยบาย “Work from home” องค์กร บริษัทเอกชน ต้องพึ่งบริการส่งพัสดุ หรือ เอกสารของออฟฟิศอีกมากมายมหาศาล เพื่อให้งานของสำนักงานเดินต่อไป ส่วนประชาชนทั่วไป ใครที่อยู่บ้านจะใช้บริการดีลิเวอรี่ไปซื้อของ ไม่ว่าจะเป็นร้านสะดวกซื้อ, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ร้านขายยา และร้านค้าอื่นๆ ก็สั่งกันไป ดีลิเวอรี่ ก็จะรับออเดอร์สินค้า ไปส่งของให้ถึงบ้าน

“แกร็บ” ก็มองเห็นโอกาส “จับปลาตอนน้ำขุ่น” โหมโปรโมต GrabExpress และ GrabAssistant พอดี๊พอดี คนใช้บริการตาดี เห็นประกาศสำคัญที่ “แกร็บ” แจ้งลูกค้าว่า ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม เป็นต้นไป แกร็บ ขอเก็บ “ค่าธรรมเนียมการใช้แอปพลิเคชัน” จากลูกค้าที่ใช้บริการ GrabExpress และ GrabAssistant “3 บาทต่อครั้ง” โดยค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้น จะถูกคำนวณรวมอยู่ในราคาค่าบริการที่ลูกค้าเป็นผู้ชำระ และบริษัทจะหักค่าธรรมเนียมดังกล่าวจากกระเป๋าเงินสดของพาร์ตเนอร์คนขับเมื่อจบงาน

โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง ลูกค้าจะถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการใช้แอปฯ เข้ามาใช้บริการแกร็บเมื่อไหร่ โดนเรียกเก็บ 3 บาทต่อครั้งทันที !!

ลูกค้าได้ยินได้ฟังแล้วพากันเห็นซึ้งถึงบริการ “ดีลิเวอรี่สีเขียว” กันเลยทีเดียว หลายคนเข้าไปคอมเมนต์ ในเพจของแกร็บเอง ถามกันตรงๆ... ทำไมฉวยโอกาสขึ้นราคาในวันที่คนไทยยากลำบาก งานก็ไม่ได้ทำ เงินจะกินยังหายาก ยังจะมาเรียกเก็บค่าใช้แอปฯอีก... แบบนี้ไปไกลๆ !!

ดูท่างานนี้ “แกร็บ” จะต้องหาคำพูดหล่อๆ มาแก้เกี้ยวกันเหมือนวันก่อนอีกหรือเปล่า

จะพูดยังไงก็ต้องอย่าลืมล่ะ “แกร็บ” สร้างธุรกิจขึ้นมาด้วยเทคโนโลยี มีแฟลตฟอร์มมาจากสิงคโปร์ โตขึ้นมาจากเรี่ยวแรงของคนไทย ที่สมัครมาเป็น “พาร์ตเนอร์” เอารถตัวเองมาวิ่ง เอาเวลาว่างมาหารายได้เสริม มีร้านค้าผู้ประกอบการที่เข้าร่วม หวังเป็นช่องทางทำมาค้าขายใหม่ๆ กำรี้กำไร แม้จะไม่ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย โดนหักค่าคอมฯไปแพงๆ ก็ทนเอา ในแง่ลูกค้าก็สะดวกสบายขึ้น ยอมแลกกับค่าส่งที่ไม่น้อย บางทีค่าส่งยังสูงกว่าค่าอาหารที่สั่งอีกต่างหาก พอกิจการดี ธุรกิจไปได้สวย “เจ้าสัว” ใหญ่ไทยแลนด์เลยควักเงินซื้อ กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ แล้วก็มีคนพูดๆ กันว่า ตั้งแต่เจ้าสัวมาถือหุ้นใหญ่ในแกร็บ ดีลิเวอรี่ เจ้านี้ยิ่งกำไรพุ่งพรวดพราด

วิกฤตในวิฤตแบบนี้ คนไทยทุกข์ระทม ร้านค้า ร้านอาหาร ขายของหน้าร้านไม่ได้ ออฟฟิศปิด แทนที่จะลดค่าธรรมเนียม ค่าเปอร์เซ็นต์ลง กลับคิดหยุม คิดหยิม ตักตวงผลประโยชน์ กอบโกยกำไร ใครเขาจะรับได้ หมดโควิด-19 ก็อย่าได้แปลกใจ ถ้าแอปฯแกร็บ จะถูกถอนการติดตั้ง ร้านอาหาร คนใช้บริการ หันไปหาเจ้าอื่น

คนไทยไม่ใช่หมูในอวย และที่สำคัญไม่ได้ลืมง่ายนะจะบอกให้

#mgronline #grab

อีกช่องทางติดตาม MGROnline Live เพิ่มเติม
Line : line.me/R/ti/p/%40zut9752t
IG : https://instagram.com/mgronline
Youtube : youtube.com/user/astvmanagervdo

 

อย่าลืม...มีการปรับเวลาในวันอาทิตย์ที่ 5 เมษายนนี้

สำหรับท่านที่อยู่ใน New South Wales, Victoria, South Australia, Australian Capital Territory และ Tasmania

ในวันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน เวลาตีสาม หรือ 3.00am จะต้องปรับนาฬิกาให้ถอยหลังมา 1 ชั่วโมง เป็นเวลาตีสอง 2.00am ซึ่งก็คือ เราจะมีเวลาเพิ่มในการนอนยาวขึ้นอีก 1 ชั่วโมง และทำให้ เวลาในรัฐดังกล่าวห่างจากประเทศไทยก็จะลดลงจาก 4 ชั่วโมงเป็น 3 ชั่วโมง

การปรับเวลาตอนตีสาม หลายๆ คนก็คงจะหลับกันแล้ว ดังนั้น อาจปรับเวลาก่อนเข้านอนในคืนวันเสาร์ อาทิ นาฬิกาข้อมือ นาฬิกาที่บ้าน และในรถ รวมถึงอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ทั้งนี้ โทรศัพท์มือถือในปัจจุบัน จะปรับเวลาให้อัตโนมัติตาม Time Zone ที่ตั้งไว้หรือปรับตามสัญญาณที่บริษัทโทรศัพท์ส่งมา แต่เพื่อความมั่นใจอย่าลืมตรวจสอบกันอีกครั้งด้วยค่ะ