ติดตามสถานะการณ์

เผย...คนป่วยตาย เพราะไวรัสโควิด-19
เป็นการตายที่สุดทรมาน และโดดเดี่ยว

มีข้อเขียนของผู้ใช้นาม Bebe Patumanon คนไทยในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ทำอาชีพผู้ช่วยแพทย์ ได้เขียนเล่าเรื่องจริงจากที่ได้ทำหน้าที่ดูแลผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่นิวยอร์ก ซึ่งขณะนี้กำลังผจญภัยการแพร่ระบาดของไวรัสอย่างรุนแรง มีคนติดเชื้อจำนวนมาก คนตายจนไม่มีที่เก็บศพ

Bebe Patumanon ผู้เขียน เห็นภาพคนป่วยและคนตายในโรงพยาบาลในแต่ละวัน ที่ทุกข์ทรมานแสนสาหัส ซึ่งผู้เขียนได้เสนอทางป้องกันที่ดีเพียงหนทางเดียว หากไม่อยากป่วยคือกักตัวเองอยู่บ้าน ไม่ออกไปรับเชื้อจากคนป่วย ถ้าป่วยแล้ว จะนอนรอความตายอย่างโดดเดี่ยวและทรมาน

ผู้เขียนบอกว่า อยากให้ทุกคนที่บ่นว่าเบื่ออยู่บ้าน รัฐบาลเส็งเครง เลิกบ่นเถอะ เพราะเบื่ออยู่บ้านนั้นก็ยังดีกว่าออกมาทำงานด้วยความกลัว ... กลัวตาย

ตอนนี้พวกพนักงานโรงพยาบาลอย่างพวกเราต้องสวดมนต์ขอให้พระคุ้มครอง มองหน้าพ่อ แม่, ลูกน้อย และสามี สั่งเสียกันว่า ไปแล้วอาจจะติดเชื้ออาจจะไม่ได้กลับบ้านนะ รักทุกคนนะ กอดลากันแบบแนบแน่น

เหมือนไม่รู้ว่าเราจะได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาแบบนี้อีกไหม ไม่คิดเลยว่างานผู้ช่วยหมอต็อกต๋อยอย่างเรามันจะเสี่ยงขนาดนี้

อยากจะบอกว่า ตอนนี้คนไข้ล้นโรงพยาบาล PPE ไม่พอ อันนี้ทุกคนรู้ แต่ที่คุณๆไม่รู้คือ การตายด้วยโรคนี้ เป็นการตายที่ โดดเดี่ยวและทรมาน

คนไข้พอ admitted แล้ว ครอบครัว ลูก ผัว พ่อ แม่ พี่น้อง ห้ามเยี่ยมเด็ดขาด ตอนแรกอาการอาจจะไม่หนัก แต่พอมารวมแออัดกันกับคนไข้อื่นๆก็เกิดอาการ แบ่งเชื้อกันไปมา cross contaminated ที่ไม่หนักก็อาจจะเกิดเป็นอาการหนักขึ้น

พยาบาลนั้นน่าสงสารที่สุด หมอ กับ PA ก็จะวิ่งเข้าแล้วก็รีบวิ่งออกจากห้องคนใข้เพราะเราพยาบาลเซฟตัวเองให้สัมผัสกับเชื้อโรคให้น้อยที่สุด แต่พยาบาลต้องเข้าไปตรวจความดัน ให้ยา โดยมากคนไข้ไม่ได้เป็นแค่ Covid แต่มีโรคประจำตัวจิปาถะ ยาก็เยอะ พยาบาลก็ต้องเข้าๆออกๆ เข้าห้องโน้นออกห้องนี้

แต่คุณอย่าลืมว่าคนไข้ทุกคนติดเชื้อ ลองคิดดู 12 ชั่วโมงขลุกอยู่กับเชื้อ Corona แบบไม่ได้พักเพราะคนไข้หลายคนอาการหนัก พอ อ๊อกซิเจนตกก็ต้องรีบเข้าไปดู เพราะห่วงคนใข้เพราะเราเป็นมนุษย์เหมือนกัน

ที่จะบอกว่ากลัวก็เพราะว่า Covid 19 ไปทำลายเนื้อเยื่อปอดโดยตรง ถ้าโชคดีก็ไม่มีอาการ หรือมีบ้างเล็กน้อย แต่คนไข้ที่อาการเริ่มหนักขึ้น ก็จะเริ่มหายใจไม่ออก ปอดเร่ิมชื้นมีน้ำท่วม ถ้าคิดไม่ออกก็ลองหลับตา แล้วคิดถึงภาพเรากำลังจมน้ำ แล้วหายใจไม่ออก น้ำเต็มจมูกเต็มปาก

หรือตอนไปทำฟันแล้วน้ำลายเต็มคอ กลืนไม่ได้ หายใจไม่ออก (จนหมอดูดน้ำออกจากปากเรา เราก็หายใจเฮือกใหญ่แบบรอดตายแล้วกู)

มันทรมานขนาดไหน โรคนี้ก็เช่นกัน ทางช่วยอย่างเดียวคือเครื่องช่วยหายใจ ซึ่งตอนนี้เป็นของล้ำค่า ตกหนักที่หมอต้องเลือกว่า ใครจะมีค่าควรกับเครื่องนี้มากกว่ากัน ไม่มีหมอคนไหนอยากทำหน้าที่นี้หรอก

คืนก่อนมีคนไข้ หนัก สอง สามคน ทุกคนนอนทรมาน พยายามหายใจเข้าออก ทุรนทุรายเพราะปอดไม่ทำงาน พยาบาลโทรมาตาม เข้าไปดูอาการ ก็ต้องเรียก code team ซึ่งปกติจะเป็นทีมฮีโร่ถ้าทีมนี้มาคนไข้เรารอดแน่ แต่ไม่ใช่กับ Covid19

สุดท้ายทีมก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะทางออกเดียวคือใส่ท่อช่วยหายใจ ถ้าคนไข้บอกไว้ก่อนแล้วว่าไม่ต้องการใส่ท่อหรือปั๊มหัวใจ เราก็ได้แต่ให้ยามอร์ฟีนเพื่อให้คนใข้ไม่ทรมาน

Process of dying นี่แหละคือความน่ากลัว ไม่มียาฆ่าไวรัส ไม่มียารักษา รักษาตามอาการ ยาที่ใช้อยู่ตอนนี้ก็เหมือนเสี่ยงดวง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับดวง!!

คือทั้งทีมได้แต่ยืนมองคนใข้นอนทุรนทุรายกระเสือกกระสนต่อสู้เพื่อลมหายใจแต่ละเฮือก แต่ละเฮือกนั่นเป็นสิ่งที่แสนทารุณ ญาติพี่น้อง ลูก หลาน ผัว เมีย ก็ไม่ได้ล่ำลา เป็นการตายที่โดดเดี่ยวและทรมาน

บางทีก็อดคิดไม่ได้ว่าคนไข้เหล่านี้จะกลัวและโดดเดี่ยว ขนาดไหนในช่วงเวลาสุดท้ายและลมหายใจสุดท้ายของชีวิต คนรักษาก็ได้แต่ยืนมองแล้วก็ได้แต่คิดว่า วันนี้เราจะดวงดีเหมือนเมื่อวานไหม แล้วพรุ่งนี้ล่ะ

เรายืนมองคนไข้ที่รู้หละว่าอาจจะอยู่ได้ไม่ถึงเวลาที่เราจะออกกะคือ 12 ชั่วโมง แต่ทำอะไรไม่ได้ นอกจากให้ยากดประสาทเพื่อคนใข้จะได้ทรมานน้อยลงและหวังว่าจะจากไปอย่างสงบ

เหมือนเราไร้ค่าและไม่มีประโยชน์อะไรเลย ที่ร่ำเรียน ฝึกฝนมา ไม่ได้ช่วยใครได้เลย

ขอบคุณ Bebe Patumanon

 

@ 5 เมษายน 2563
ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 2169 (+102)
ยังอยู่ในแนวเส้น 6%
.

# ทำการ Zoom กราฟแบบ Log Scale
ไปที่ 1,000 รายไป จะช่วยให้เห็นภาพ
แนวโน้มของไทยได้ชัดเจนขึ้น

 

ORIENTAL REVIEW
Putin And Trump vs The New World Order: The Final Battle
ปูตินและทรัมพ์ vs The New World Order ...ยกสุดท้าย

Written by Sylvain LAFOREST on 31/03/2020

เรากำลังอยู่ในยุค exciting times

สิ่งที่เรายังไม่รู้ที่อยู่เบื้องหน้าเรานั้น มันน่ากลัว จักรวรรดิ์ที่เคยรุ่งเรืองมาทุกยุคล้วนมีวันต้องสิ้นสุด และวันนี้ เรากำลังอยู่ในช่วงสุดท้ายของ New World Order ที่ไม่อาจฟื้นตัวได้อีกแล้ว ....ซึ่งที่ผ่านมามีแต่การแก้ปัญหาโดยใช้วิธีแบบเกม Russian roulette (เกมเสี่ยงที่มีกระสุนปืนหนึ่งนัดในลูกโม่ปืน) ...แต่ครั้งนี้ วลาดิเมียร์ ปูตินยื่นปืนที่มีกระสุนเต็มโม่มาให้เล่นเกม และมีการเหนี่ยวไกไปแล้วด้วย

หลายสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ ทุกอย่างกำลังอยู่ในการรบครั้งสุดท้ายแล้ว

Dropping dollars

New World Order เป็นคอนเซ็ปท์หนึ่งของพวกนายแบ้งค์นานาชาติจำนวนไม่มาก ที่ต้องการปกครองโลกนี้ทั้งใบแบบเบ็ดเสร็จทั้งทางเศรษฐกิจและทางการเมืองในลักษณะของครอบครัวใหญ่

มันเริ่มมาตั้งแต่ปี 1773 โน่น ผ่านการเปลี่ยนแปลงมาในช่วงหลายปีนั้น แต่คอนเซ็ปท์และวัตถุประสงค์ไม่เคยเปลี่ยนแม้แต่น้อย ...แต่มาตอนนี้โชคร้ายไปหน่อย หลังจากที่แบ้งเกอร์ทั้งหลายขูดรีดปล้นประชาชนมาตลอดผ่านอิทธิพลของเงินดอลล่าร์มาตั้งแต่ปี 1944 ..กำลังจะถูกตลบหลังด้วยเงินเฟ้อรุนแรง ..อันเนื่องมาจากการพิมพ์เงินที่เกิดขึ้นปีแล้วปีเล่า เพื่อการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยแบบไร้เหตุผล และสร้างสงครามแย่งชิงน้ำมันและทรัพยากรอื่น ๆ

ตอนนี้ก็กำลังยืดเวลาการเกิดเงินเฟ้อรุนแรง ด้วยการโจมตีด้วยไวรัสไปยัง 4 ประเทศ (จีน อิหร่าน อิตาลีและสหรัฐ) เพื่อสร้างความตื่นกลัวในหมู่ชาวโลก ด้วยความร่วมมือของเหล่าสมุนสื่อกระแส ธุรกิจทั่วทั้งโลกหยุดไปหมด ถึงขั้นล้มละลาย ผู้คนตกงาน เงินดอลล่าร์สลายไปจากตลาดนับหลายล้านล้านดอลล่าร์ เพื่อลดแรงกดดันของสกุลเงินดอลล่าร์

Digging the abyss

พวกแบ้งเกอร์ตายใจมาตั้งแต่ปี 1991 หลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียตรัสเซีย เพราะดูเหมือนจะไม่มีอะไรมาหยุดพวกเขาได้อีกแล้ว ..เพียงแค่ทำลายบางประเทศในตะวันออกกลางและขยายดินแดนของอิสเรล และเข้าควบคุมตลาดน้ำมันของโลก แค่นี้ก็ครบถ้วนในสิ่งที่พวกเขาลงแรงมาเกือบศตวรรษ ตั้งแต่ตอนที่มีการประกาศ Balfour declaration (ก่อตั้งประเทศอิสเรล) ในปี 1917 โน่น

วลาดิเมียร์ ปูติน มีเพื่อนนักเศรษฐศาสตร์ผู้รักชาติ Sergey Glazyev ที่เกลียดชัง New World Order เป็นผู้สร้างความแข็งแกร่ง เป็นอิสระทางการเมืองและทางเศรษฐกิจให้กับปูติน ....แรกเริ่ม ปูตินใช้เวลาหลายปีในการกวาดล้างพวกมาเฟียผู้มีอำนาจนอกกฏหมาย ที่รัฐบาลก่อนหน้านั้นได้ปล่อยปละละเลยทิ้งเป็นภาระเอาไว้

ฝ่ายตรงข้ามได้มีการปล้นสดมภ์โลกนี้มากว่า 250 ปีโดยผ่านการยึดเป็นอาณานิคมด้วยกำลังทหาร ปูตินจึงต้องสร้างอำนาจทางทหารให้เหนือกว่า และเขาทำได้สำเร็จ มีระบบการป้องกันที่ดีที่สุดในโลก มีขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิคที่ไม่อาจป้องกันได้ มีระบบอิเล็คโทรนิคแจมสัญญานและเครื่องบินรบที่ดีที่สุด ตามด้วยอาวุธนิวเคลียร์เช่น Sarmat, the Poseidon และ the Avangard

เขายังทำให้รัสเซียเป็นอิสระจากระบบแบ้งกิ้งของ NWO และไม่เพียงแต่มีชัยชนะในสงครามซีเรียเท่านั้น แต่เขายังได้แรงสนับสนุนจากเหล่าประเทศในกลุ่มของ NWO ที่มีการกลับลำกระทันหันหลังจากได้รับรู้ถึงอำนาจทางทหารของรัสเซีย ในทางการทูตก็มีจีนเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งทำให้มีอำนาจคุ้มครองเหล่าผู้ผลิตน้ำมัน

รัสเซียไม่ได้มีแค่ไพ่ดีในมือ ...แต่มีไพ่ทั้งสำรับในมือเลย

สรุปคือตอนนี้ปูตินเป็นผู้ควบคุมตลาดน้ำมันไว้หมดแล้ว ตลาดพลังงานซึ่งหล่อลื่นระบบเศรษฐกิจและการทหาร ในขณะที่ฝ่าย NATO ได้แต่นั่งดู ...ตอนนี้ NWO เหมือนปราสาททรายที่กำลังจะพังลง ระบบธนาคารของแบ้งเกอร์อาการหนักมาห้าปีแล้ว ตอนนี้อยู่ได้ด้วยมอร์ฟีน

Tragedy and hope

ตอนนี้คงไม่มีหวังที่จะเปิดสงครามโลกครั้งที่สาม ความหวังสุดท้ายจึงอยู่ที่การปล่อยไวรัสตามด้วยการกระพือข่าวจากสื่อกระแส เป็นการโฟกัสไปที่การไม่ให้เกิดเงินเฟ้อรุนแรงของเงินยูเอสดอลล่าร์ที่ไม่มีใครในโลกต้องการอีกแล้ว เป็นการยื้อเวลาเพื่อให้เกิดเงินคริปโตของตน ...พวกนี้ทำราวกับว่าแบ้งค์ทั้งหลายที่กำลังจะพังมีสิทธิ์ที่จะมาควบคุม money supply ของโลกอยู่อีก ทีแรกแผนก็ทำท่าจะเป็นไปได้ จนกระทั่งปูตินยื่นปืนที่มีกระสุนเต็มลูกโม่ให้ไปเล่น Russian roulette แบ้งเกอร์ก็เหนี่ยวไกทันที

ปูตินเรียกประชุมกลุ่มประเทศโอเปค และทำให้ราคาน้ำมันลดลงโดยปฏิเสธการลดการผลิตของรัสเซีย นั่นทำให้ราคาลงต่ำกว่า $30 ทันที ยุติราคาที่สูงลิ่วของฝ่ายตะวันตก ...Fed ต้องรีบอัดฉีดเงินเข้าตลาดเพื่อหลีกเลี่ยงหายนะยกสุดท้าย พวกแบ้งเกอร์หมดหนทางแล้ว

The punchline

เมื่อวันที่ 29 มีนาคม ทรัมพ์สามารถควบคุม Federal Reserve ไว้แล้ว โดยมีผู้แทน 2 คนจากกระทรวงการคลังสหรัฐ ในบรรดาข่าวร้าย ๆ ในเดือนที่ผ่านมา นี่เป็นข่าวดีที่สุดช้อค ...หลังจากสามปีในอำนาจ ทรัมพ์ก็สามารถทำตามที่สัญญาไว้ได้สำเร็จ ที่ว่าจะเอาบรรดาธนาคารเอกชนทั้งหลายออกจากระบบการเงินของทางการสหรัฐ ...ยุติการเข้ามามีอิทธิพลเหนือประชาชนอเมริกันมาตลอดหนึ่งศตวรรษ เขาได้ให้ Blackrock Investment Group เข้ามาจัดการกับทรัพย์สินของ Fed ...นั่นหมายความว่าเข้ามาจัดการกับเศรษฐกิจส่วนใหญ่ในนามของประเทศแทน

เป็นการทำให้เห็นแล้วว่า วลาดิเมียร์ ปูติน และโดนัลด์ ทรัมพ์มีการร่วมมือกันนำทางให้มนุษยชาติมาที่จุดตัดของ NWO และเสรีภาพแล้ว ....ผมคิดว่าโลกจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ระหว่างปี 2020 - 2024 เพราะนี่จะเป็นช่วง 4 ปีสุดท้ายที่ทั้งสองจะอยู่ในอำนาจในฐานะผู้นำ

New World Order กำลังเผชิญหน้ากับสองชาติมหาอำนาจของโลก และโรคระบาดเฟคนี้เป็นตัวเปลี่ยน มันแสดงให้เห็นว่าพวกนายแบ้งค์ทั้งหลายกำลังสิ้นหวัง ซึ่งถ้าเราไม่ต้องการเห็นจรวดติดหัวรบนิวเคลียร์บินว่อนไปมาบนโลก ปูตินกับทรัมพ์ต้องรีบทำตั้งแต่ตอนนี้

ยกเลิก ธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระว่างประเทศ (BIS) World Bank, IMF, European Centrl Bank, EU, NATO, ซะให้หมด .....ถึงแม้โลกจะยังไม่สมบูรณ์ แต่ก็จะดีขึ้นมากเลย

Reposts are welcomed with the reference to ORIENTAL REVIEW.

 

#ข่าวสั้น (5 เมษา) รัฐบาลญี่ปุ่นวางแผนออกคูปองมากระตุ้นศก. ให้คนไปเที่ยว ไปกินหลังจบโควิด-19

- มาตรการกระตุ้นศก. มูลค่า 2 ล้านล้านเยน
- เป็นส่วนลดการท่องเที่ยว น่าจะชื่อ Go To Travel
- ส่วนลดการกิน น่าจะชื่อ Go To Eat

——-

✒️จากใจแอด

ปรกติไม่ค่อยบ่นนะคะ ขอบ่นหน่อย

คือ นายกคะ... เข้าใจนะว่าเศรษฐกิจก็สำคัญ วางแผนไว้ล่วงหน้ามันก็ดี

แต่ก่อนอื่นตอนนี้จะเอายังไงก่อนไหม? เงินช่วยเหลือน้ำไฟค่าเช่าบ้านให้ทุกบ้านก่อนไหมคะ?

ถ้าโควิดไม่จบจะไป go to travel go to eat ยังไงคะ มันจะไป go to hell แทนหรือเปล่า #แมวกิ๊ฟจังพิมพ์

https://news.livedoor.com/lite/article_detail_amp/18073991/#click=https://t.co/aMVM5o3BO7

#กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น #เกาะติดไวรัสโคโรนา
#เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ #อู่ฮั่น #COVID-19 #โควิด19

 

วิกฤตไวรัสโควิดที่กำลังกัดกร่อนเศรษฐกิจโลกของเราอยู่ทุกวันนี้นั้นต่างจากวิกฤตสินเชื่อซับไพรม์หรือแฮมเบอร์เกอร์ในปี 2008 อย่างสิ้นเชิง เพราะวิกฤตในครั้งนี้ที่บังคับให้ทุกคนอยู่แต่ในบ้านนั้นได้ทำลาย Demand หรือความต้องการใช้ของผู้บริโภคอย่างเราโดยตรง ต่างจากวิกฤตในปี 2008 ที่มาจากวิกฤตทางการเงินเรื่องของการผิดชำระหนี้เป็นลูกโซ่ต่างๆ ที่สร้างความเสียหายมาถึงเราผ่านการล้มของสถาบันการเงินต่างๆ

จากการประเมินของ IMF นั้นวิกฤตในครั้งนี้นั้นรุนแรงมากกว่าในครั้งก่อนเยอะมากแล้ว แต่ด้วยมาตรการอัดฉีดจากรัฐบาลต่างๆทั่วโลกนั้นทำให้เราอาจจะอยู่รอดไปได้อีก 2-3 เดือนโดยที่ยังไม่เกิดวิกฤตทางการเงิน แต่หากปัญหาไวรัสนี้จะลากยาวไปนานกว่านั้น บริษัทต่างๆทั่วโลกอาจจะเริ่มมีปัญหาและอาจไม่สามารถจ่ายชำระหนี้ได้ ทำให้โลกเราอาจเกิดคลื่นของการผิดชำระหนี้หรือวิกฤตทางการเงินขึ้นอีกครั้งพร้อมกับวิกฤตไวรัสด้วยไปในเวลาเดียวกัน...

ซึ่งจะกลายเป็น #มหาวิกฤต ที่น่าจะใหญ่ที่สุดในโลกในรอบเกือบ 100 ปีทีเดียวถ้าเป็นเช่นนั้น

สวัสดีครับ ในวันที่ตลาดปิดวันนี้ทางเพจอยากจะมาเสนอวิธีที่ท่านจะสามารถ อยู่บ้านช่วยชาติ จะได้พักผ่อน แถมจะยังได้ความรู้ ความบันเทิง และความพร้อมในการรับมือกับวิกฤตทางการเงินครั้งต่อไปที่อาจเกิดขึ้นได้ ไปพร้อมๆกันในเวลาเดียวกัน ผ่าน #สาระเบาๆเสาร์อาทิตย์ เช่นเคยครับ

วันนี้หากใครยังไม่เคยดูภาพยนตร์เรื่อง "The Big Short" ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมชอบมากที่สุดเรื่องนึง แถมยังให้บทเรียนมากมายด้วย เป็นหนังที่เล่าเรื่องเกี่ยวกับชีวิตของเหล่านักการเงิน กองทุนเก็งกำไร และเทรดเดอร์ต่างๆในอเมริกา ที่พยายามจะวิเคราะห์ คาดการณ์และหาโอกาสในการทำกำไรจากวิกฤตฟองสบู่สินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐ (Subprime Bubble) ในปี 2008 โดยภาพยนต์นี้นำแสดงโดยดาราดังมากมายอย่าง Brad Pitt , Christian Bale, Steve Carell และ Ryan Gosling แค่ชื่อดาราก็รับประกันแล้วว่าหนังนี้จะต้องสนุกแน่ๆ

ผมขอชวนให้ทุกท่านที่ยังไม่เคยดูลองเปิดเข้าไปใน Net Flix แล้วดูได้เลยครับ... อย่าเพิ่งอ่านบทความนี้ต่อไป เพราะผมกำลังจะ Spoil เนื้อเรื่องแล้ว

ส่วนคนที่ดูแล้ว แต่ยังไม่เข้าใจถึงรายละเอียดเพราะเป็นหนังที่มีเครื่องมือตราสารทางการเงินที่ซับซ้อนอาจจะเข้าใจยาก อยากจะมาสรุปเรื่องราวและบทเรียนอีกครั้งกับเรา ก็เชิญอ่านบทความนี้ต่อไปได้เลยครับ


#สรุปหนังและความรู้จาก "The Big Short"

หนังเรื่องนี้นั้นทำมาจากเรื่องจริง เพราะฉะนั้นทุกๆตัวละครนั้นเป็นคนจริงๆทั้งสิ้น โดยเริ่มต้นเหตุการณ์ตั้งแต่ในปี 2005 เมื่อมีผู้จัดการกองทุนเก็งกำไร (Hedge Fund) ชื่อ ไมเคิล เบอร์รี่ (Michael Burry) รับบทโดย Christian Bale ได้ค้นพบว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐนั้นกำลังมีปัญหาใหญ่เพราะสถาบันการเงินเริ่มเกิดการปล่อยให้คนผู้มีเครดิทต่ำมาก รายได้ไม่ดี มีความสารถในการจ่ายหนี้คืนน้อยเริ่มเข้ามากู้ยืมเรื่อยๆ ซึ่งการกู้ยืมในช่วงแรกๆนั้นยังไม่เกิดปัญหาขึ้นเพราะคนเหล่านี้นำไปซื้อบ้านเก็งกำไร และด้วยราคาบ้านที่สูงขึ้นจากแรงซื้อเหล่านี้ก็ยังคงทำให้กลุ่มคนเหล่านี้มีกำไรนำกลับมาจ่ายหนี้ และสิ่งที่น่ากลัวคือบ้านเหล่านี้ที่กำลังสร้างขึ้นนั้นไม่ได้มีคนอยู่จริงหรือไม่ได้มาจากความต้องการซื้อจากผู้อยู่อาศัยจริงๆ มันเป็นเพียงฟองสบู่ที่กำลังก่อขึ้นเรื่อยๆและใหญ่ขึ้นมากๆ

ทาง ไมเคิล เบอร์รี่ พอได้ค้นพอข้อมูลเหล่านี้แล้วเขาจึงทำการโทรหาสถาบันการเงินต่างๆเพื่อพยายามเข้าซื้อตราสารประกันอนุพันธ์ที่ชื่อว่า Credit Default Swaps (CDS) โดยการซื้อ CDS นี้นั้นหมายความง่ายๆว่าเบอร์รี่กำลังพนันว่าตลาดอสังหาฯกำลังจะราคาตกลง เพราะถ้าราคาลงเขาก็จะได้เงินคืนชดเชยจากประกันเหล่านี้ และก็รับเป็นกำไรจากการเก็งกำไรไป (โดยที่ไม่ได้ถือบ้านอยู่จริงๆนะครับ แค่ทำประกันทางอนุพันธ์)

พอสถาบันการเงินต่างๆได้ยินเช่นนั้นก็ต่างหัวเราะดีใจไปกันใหญ่เพราะว่าในช่วงนั้นราคาบ้านในสหรัฐนั้นขึ้นทุกๆปี เป็นเช่นนั้นมาตลอดไม่เคยเปลี่ยน การที่ใครจะเข้ามาทำประกันราคาขาลงแบบนี้ทางสถาบันจึงยิ่งชอบเลย และด้วยอนุพันธ์ CDS เป็นเสมือนการทำการประกันนั้น ทางเบอร์รี่จึงต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันไปเรื่อยๆในแต่ละปี และพอผ่านไปในสองปีแรกนั้นตลาดราคาบ้านก็ยังขึ้นอยู่เรื่อยๆ ! (ตามที่ทุกคนคาด) ทำให้ลูกค้ากองทุนของเบอร์รี่นั้นเขามารุมด่าซะเละเลย ว่าทำแบบนี้ได้ยังไง นักวิเคราะห์ต่างๆยังออกมาบอกว่าตลาดอสังหาฯยังคงแข็งแรงทำไมคุณถึงกล้าเข้าไปแทงสวนอย่างไม่มีข้อมูล ทางลูกค้าก็ได้แห่ถอนเงินออกไปเรื่อยๆ จนทางเบอร์รี่ ต้องทำการระงับการถอนเงินชั่วคราวไปก่อน (อันนี้คล้ายๆกับเหตุการณ์ของกองทุนตราสารหนี้ TMB ที่เกิดขึ้นในบ้านเราเลยในอาทิตย์ก่อนที่ต้องปิดการถอนเงินออก)

ต้องขออธิบายคำทางการเงินที่เรียกว่า Short กันซักนิด

คำว่า Long กับ Short คือการเก็งกับไรจากสัญญาอนุพันธ์ต่างๆ ถ้าจำง่ายๆคือ

Long = การเปิดสัญญาซื้อ
Short = การเปิดสัญญาการขาย

แต่ถ้าอยากได้วิธีช่วยจำอย่างเข้าใจให้เห็นภาพ ให้นึกภาพว่าถ้าเรา Long อะไรก็คือเราอยากให้สิ่งนั้นยาวขึ้นหรือมูลค่าเพิ่มขึ้น ก็คือการซื้อ ถ้าเรา Short อะไรก็คือเราอยากให้สิ่งนั้นสั้นลงหรือมูลค่าลดลง ก็คือการขาย

ทิศทางที่เบอร์รี่กำลังพนันอยู่นั้นก็คือ การ Short ตลาดอสังหาฯเพราะคาดว่าราคาสินทรัพย์นั้นจะลง ถ้าราคาตลาดอสังหาฯ ลงมาจริงๆ เขาก็จะได้กำไรจากการขายแพงแล้วค่อยกลับเข้ามาปิดสัญญาซื้อถูกๆกลับไป คืนที่ยืมมา นักลงทุนที่ทำแบบนี้คือคนที่เดาว่าราคาสินทรัพย์นั้นจะลง

ต่อมาในหนังทางด้าน จาเร็ด เวนเน็ตต์ (Jared Vennett) รับบทโดยสุดหล่อ Ryan Gosling เป็นหัวหน้าทีมขาย สินเชื่อจาก Deutsche Bank ที่บังเอิญได้ข่าวเรื่องการเข้าซื้อ CDS กว่า 1,300 ล้านเหรียญของไมเคิล เบอร์รี่ ก็เลยเริ่มอยากหาข้อมูลมาทำเป็นสินเชื่อเสนอให้เหล่าผู้จัดการกองทุนอื่นๆเข้าซื้อ CDS อย่างเบอร์รี่ด้วยเพื่อหวังที่จะได้ Comssion

และด้วยบังเอิญทางลูกทีมดันโทรศัพท์ผิดไปหากลุ่มของ มาร์ค บาม (Mark Baum) ผู้จัดการกองทุนเก็งกำไร Hedge Fund อีกแห่งหนึ่ง ที่รับบทโดย Steve Carell ทำให้ทางทาง มาร์ค บาม นั้นได้สะดุดตากับข่าวการเข้าซื้อ CDS ของไมเคิล เบอร์รี่ เป็นจำนวนมากด้วยเหมือนกัน จึงได้สั่งให้ลูกทีมของตัวเองออกสำรวจตลาดอสังหาฯในสหรัฐ ซึ่งก็ได้พบความจริงว่ามีแต่บ้านที่ว่างเปล่าและราคาที่สูงลิบเกินจริง ทางมาร์คจึงเชื่อว่านี่กำลังเป็นฟองสบู่อันใหญ่ที่จะนำมาซึ่งวิกฤตการเงินในสหรัฐเร็วๆนี้ จึงได้ทำการ Short ตลาดกับอสังหาฯกับ จาเร็ด เวนเน็ตต์ไปด้วยเช่นกัน

อีกตัวละครหลักของเรื่องก็คือ เบน ริกเคิร์ต (Ben Rickert) อดีตนักการเงินผู้ที่ได้วางมือจากตลาดไปแล้ว ที่รับบทโดย Brad Pitt ทางเบนนั้นได้รับข่าวจาก นักการเงินรุ่นใหม่อย่าง ชาร์ลี เกลเลอร์ (Charlie Geller) กับ เจมี่ ชิปลีย์ (Jamie Shipley) ที่ได้ไปพบเอกสารของ จาเร็ด เวนเน็ตต์ ที่ทำตกไว้ Lobby ของตึกธนาคารแห่งหนึ่งใน Wall Street เอกสารนั้นคือการนำเสนอเรื่องการ Short ตลาดกับอสังหาฯอย่างที่ได้กล่าวไป ซึ่งทั้งสองนั้นให้ความสนใจและเชื่อว่าน่าจะเป็นโอกาสในการเก็งกำไรที่ดี แต่เพราะทั้งสองยังทุนไม่หนาพอที่จะเข้าซื้อ CDS โดยตรงกับสถาบันการเงินใหญ่ๆได้ จึงได้คอยปรึกษากับทาง เบน ริกเคิร์ต อยู่เรื่อยๆ (ปล ผมจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างกับทางกลุ่มนี้ตอนจบไว้จะไปดูใหม่อีกรอบ 55)

เรื่องราวหลักๆนั้นมีประมาณนี้ ไม่ได้ spoil และเข้ารายละเอียดต่างๆ แต่สิ่งที่อยากจะมาอธิบายให้เข้าใจนั้นคือสิ่งที่ทำให้ปัญหานี้เป็นปัญหาการเงินใหญ่ระดับโลกนั้นเพราะ เครื่องมือทางการเงินใหม่ๆต่างๆที่นักลงทุนอาจยังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้

1️⃣ ตราสารทางการเงินที่ต้องเข้าใจคือ Mortgage-Backed Security (MBS)

ตราสารทางการเงินนี้ เป็นหลักทรัพย์ที่ได้ผลตอบแทนจากกระแสเงินสดจากสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐ โดยถ้าผู้กู้สินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ต่างๆเหล่านี้ยังมีการชำระหนี้เข้ามาอยู่ ผู้ลงทุนในหลักทรัพย์นี้ก็ย่มจะได้ผลตอบแทนไปเรื่อยๆ แต่เราก็ต่างรู้กันว่าผู้กู้สินเชื่อในสหรัฐนั้นไม่สามารถจ่ายเงินค่ากู้ได้เมื่อฟองสบู่แตกทำให้ นักลงทุนและสถาบันการเงินต่างๆนั้นสูญเสียเงินไปจำนวนมากกับตราสารทางการเงิน MBS นี้ เป็นจุดเริ่มต้นของ Subprime Crisis เลยทีเดียว

2️⃣ อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ชื่อว่า Collateralized Debt Obligation (CDO) ก็ทำให้เกิดวิกฤตที่รุนแรงขึ้นเช่นกัน

ด้วยการที่นักการเงินสหรัฐนั้นหัวแหลม การที่จะขาย MBS ออกไปเดี่ยวๆนั้นอาจไม่มีคนอยากซื้อมากเพราะความเสี่ยงนั้นสูงกว่าพันธบัตรรัฐบาลหรือ หุ้นกู้ นักการเงินสหรัฐจึงได้ทำการรวมพันธบัตร หุ้นกู้ และ MBS ต่างๆ มารวมเข้าไว้ด้วยกัน แล้วห่อออกมาเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือทางการเงินชื่อว่า CDO แล้วออกมาขายนักลงทุน ด้วยความที่ทางพันธบัตรนั้นมีความเสี่ยงต่ำ ทางบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถืออย่าง Fitch, Moody's หรือ S&P จึงให้ความน่าเชื่อถือสูงถึง AAA (ระดับสูงสุด) ซึ่งจริงๆแล้วในใส้ในของ CDO นั้นอาจประกอบไปด้วยสินเชื่อกลุ่ม Subprime กว่า 65% เลยทีเดียว ซึ่งมีความเสี่ยงมากกว่าความน่าเชื่อถือที่ AAA บริษัทบจัดอันดับความน่าเชื่อถือต่างๆจึงโดนฟ้องไปตามๆกันหลังเหตุการณ์วิกฤตในครั้งนี้

3️⃣ อีกเครื่องมือที่เร่งทำให้วิกฤตนี้รุนแรงคือ Synthetic CDO

Synthetic แปลว่าการสังเคราะห์ เพราะฉะนั้น Synthetic CDO จึงหมายถึงการจำลองตราสารทางการเงิน CDO นี้มาให้ผู้เล่นอื่นๆนอกจากสถาบันนั้นสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น โดยทาง CDO จริงๆนั้นยังประกอบไปด้วยสินเชื่อต่างๆอย่าง พันธบัตร หุ้นกู้ และ MBS ที่คุณถืออยู่จริง แต่ Synthetic CDO นั้นเป็นแค่ตราสารที่จำลองขึ้นมาและผู้ซื้อขายจะได้รับเงินส่วนต่างจากราคาขาที่ขึ้นลงของ CDO

หรือพูดง่ายๆว่าเป็นเครื่องมือที่ทำให้สามารถพนันซ้อนพนันบน CDO ไปได้เรื่อยๆนี่เอง โดยฉากนึงในหนังนี้ได้อธิบายไว้แล้วอย่างชัดเจนดีว่า สมมุติว่าถ้าตลาดสินเชื่อบ้านในสหรัฐทั้งหมดนั้นมีขนาด 10 ล้านล้านเหรียญ ต่อให้ขั้นแย่ที่สุดหนี้ที่มากที่สุดของตลาดนี้ก็น่าจะมีมูลค่า 10 ล้านล้านเหรียญ ต่อให้สูญเสียไปจริงๆก็ไม่ควรมีมูลค่ามากกว่านั้น แต่เนื่องจาก Synthetic CDO ปล่อยให้คนมาพนันกันโดยไม่ต้องมีสินเชื่ออยู่จริงๆ ทำให้วงเงินนั้นเพิ่มมากขึ้นเกิดมูลค่า 10 ล้านล้านเหรียญไปหลายเท่า ! แล้วพอตลาดล้มลงมากความเสียหายจากหนี้ที่เสียจึงมากกว่าหลายเท่า !

และแล้วในปี 2008 ตลาดบ้านในสหรัฐก็ได้พังลงจริงๆ เกิดความเสียหายจากภาระหนี้ที่ไม่สามารถคืนเงินกันได้ยกใหญ่ เป็นลูกโซ่ที่พัวพันกันไปหมด คนที่กู้เงินมาเก็งกำไรบ้านก็จ่ายเงินคืนธนาคารไม่ได้ คนที่ลงทุนในตราสารการเงินสินเชื่อทั้งหมดก็ขาดทุน สถาบันการเงินเกิดหนี้เสียมากมาย ธนาคารใหญ่ๆที่ลงทุนในตราสารพวกนี้ก็เกิดจะล้มละลาย กลายเป็นวิกฤตที่ใหญ่ที่สุดในรอบหลายปีในช่วงนั้น

สุดท้ายนี้คนที่ทำ Short ครั้งใหญ่ตามไมเคิล เบอร์รี่ ไปนั้นก็จะได้รับผลตอบแทนครั้งใหญ่ ได้รับผลตอบแทนกว่า 500% หลังจากที่ตลาดพังลง แต่คำถามที่หนังเรื่องนี้พยายามแฟงมาให้ดูนั้นคือ ถ้าคุณเป็นคนที่เห็นถึงวิกฤตเศรษฐกิจที่มีลางกำลังจะพินาศ คุณจะพยายามทำกำไรจากมันเงียบๆ หรือคุณจะพยายามออกมาเตือนคนในตลาดให้ทราบถึงมัน ?

และนี่ก็คือความรุนแรงของวิกฤตหนี้ในครั้งนั้นที่เกิดขึ้นจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐ ซึ่งในวันนี้เราต้องจับตาดูว่าบริษัทต่างๆที่กำลังขาดทุนในสหรัฐเพราะวิกฤตโควิดนี้ จะเริ่มไม่สามารถชำระหนี้เงินกู้ได้หรือไม่ ? เพราะทุกวันนี้ก็มีตราสารการเงินมากมายที่พยายามเข้าไปรองรับหนี้พวกนั้นอยู่เป็นลูกโซ่อีกหลายๆต่อ จึงหน้ากลัวทีเดียวครับ หากโลกเรายังไม่กลับตัวจากวิกฤตครั้งนี้ภายใน 2-3 เดือน

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกดไลค์และแชร์ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์นะครับ ขอบคุณมากๆครับ

#OilTradingKP

 

ขอโทษ! รองปธน.เอกวาดอร์เสียใจ “ศพโควิด 19” เกลื่อนถนน

รองประธานาธิบดีออตโต ซอนเนนโฮลซ์เนอร์ หัวหน้าทีมสู้ไวรัสโคโรนาของเอกวาดอร์ แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น เมื่อวันเสาร์ (4 เม.ย.) ระบุ “เราเห็นภาพที่ไม่ควรเกิดขึ้น และในฐานะข้าราชการผมขอโทษ”

ถ้อยแถลงดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากชาวเมืองกัวยากิล เมืองท่าที่ไวรัสโคโรนาระบาดหนักของเอกวาดอร์ แชร์คลิปบนโซเชียลมีเดีย ภาพศพผู้เสียชีวิตจากไวรัสเกลื่อนท้องถนน

สัปดาห์นี้ทางการเอกวาดอร์เก็บศพจากถนนและตามบ้านเรือนได้อย่างน้อย 150 ศพ แต่ไม่ยืนยันว่า เป็นผู้เสียชีวิตจากโรคระบาดจำนวนเท่าใด เอกวาดอร์มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 ยืนยันแล้วเกือบ 3,500 คน เสียชีวิต 172 คน รัฐบาลต้องประกาศภาวะฉุกเฉินและสั่งเคอร์ฟิวยามค่ำคืน เพื่อสกัดการแพร่ระบาด

Source : #Springnews #สปริงนิวส์

 

ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม แจงปล่อยข่าว “กาฬโรคม้า” เป็นข่าวปลอม รับสื่อสารผิดพลาด

วันนี้(5เม.ย.) ผศ.(พิเศษ) นพ.พลวรรธน์ วิทูรกลชิต ผู้ตรวจราชการกระทรวง ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ได้ชี้แจงประเด็นที่มีการเผยแพร่ข่าวสารเรื่อง พบโรคอุบัติใหม่ในไทย “กาฬโรคม้า” ทำม้าตายเฉียบพลัน เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2563 ซึ่งศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย ได้มีการเผยแพร่ว่าข่าวดังกล่าวเป็นข่าวปลอมนั้น ว่าเกิดจากการตีความคลาดเคลื่อนจากข้อความที่ได้รับจากกรมปศุสัตว์ โดยทางศูนย์ฯ รู้สึกเสียใจกับข้อมูลที่ได้เผยแพร่ออกไป

ผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม เปิดเผยว่า เนื่องด้วยศูนย์ฯ ได้รับแจ้งเบาะแสข่าวจากประชาชน ในประเด็นที่มีการเผยแพร่บนโลกออนไลน์มีเนื้อความระบุว่า “เผยผลตรวจม้าหัวหินตายเฉียบพลัน จากการลงพื้นที่สอบสวนเบื้องต้นและเก็บตัวอย่างมาตรวจ พบว่าเป็นการเสียชีวิตจากโรคกาฬโรคม้า”

และในวันที่ 2 เมษายน 2563 เวลา 16.38 น. ทางศูนย์ฯ ได้มีการประสานงานไปยังกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว และหลังจากได้รับข้อมูลจากกรมปศุสัตว์ ในวันที่ 3 เมษายน 2563 เวลา 16.59 น. จึงได้ดำเนินการเผยแพร่ข้อเท็จจริงตามที่กรมปศุสัตว์ชี้แจง ตามช่องทางต่าง ๆ ของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม โดยมีการตีความคลาดเคลื่อนจากข้อความที่ได้รับจากกรมปศุสัตว์ว่าเป็นข่าวปลอม ซึ่งข้อเท็จจริงคือ “กาฬโรคม้า” นั้นเป็นโรคอุบัติใหม่และเพิ่งเกิดขึ้นในประเทศไทยเป็นครั้งแรก

“ขอเน้นย้ำว่า ขอให้มีความเชื่อมั่นในกระบวนการตรวจสอบยืนยันข้อเท็จจริง โดยศูนย์ฯ ผู้ประสานงานกับเครือข่ายผู้ประสานข่าวปลอมของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับข่าวนั้นๆ มีขั้นตอน และกระบวนการทำงานที่ต้องมีการดำเนินการให้มีความรวดเร็ว ตรวจสอบให้ได้รับรู้ถึงความถูกต้องและมีวิธีการบริหารจัดการข่าวปลอมให้ได้เร็วที่สุด โดยจะมีทีมงานติดตามและคัดกรองข้อมูลข่าวสารที่เผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ มีคณะทำงานตรวจสอบข้อมูลข่าวสารที่มีแนวโน้มเป็นข่าวปลอม ทีมงานดำเนินขั้นตอนการตอบโต้ข่าวสารปลอม และเผยแพร่ข่าวสารที่ถูกต้อง” ผศ.(พิเศษ) นพ.พลวรรธน์กล่าว

ทั้งนี้ ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย ยืนยันว่าได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัดตามบทบาทและภารกิจ และข้อเท็จจริงที่เผยแพร่ไปนั้น ได้ผ่านการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างถูกต้องตามกระบวนการจากหน่วยงานเครือข่ายที่เป็นผู้เกี่ยวข้องในแต่ละประเด็น พร้อมทั้งขอแสดงความเสียใจกับความคลาดเคลื่อนครั้งนี้ และขอยืนยันว่า ทางศูนย์ฯ ให้ความสำคัญกับการดำเนินการด้วยความละเอียด รอบคอบ และคำนึงถึงมาตรฐานของกระบวนการตรวจสอบความจริง

The post ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม แจงปล่อยข่าว “กาฬโรคม้า” เป็นข่าวปลอม รับสื่อสารผิดพลาด appeared first on SpringNews.

Source : #Springnews #สปริงนิวส์

 

รัฐบาลฯ สั่งซื้อยา Favipiravir รักษาผู้ป่วยโควิด-19 รวมแล้วกว่า 2.87 แสนเม็ด

นายแพทย์วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยมอบให้กระทรวงสาธารณสุข จัดหายาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) ซึ่งเป็นยาสำคัญสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด -19 มีแหล่งผลิตอยู่ 2 แหล่งหลักคือญี่ปุ่นและจีน รวมได้รับยามาแล้ว 87,000 เม็ด

โดยเมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2563 กรมควบคุมโรคได้นำเข้ายาจากประเทศญี่ปุ่นจำนวน 5,000 เม็ด เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2563 รัฐบาลจีนได้บริจาคให้รัฐบาลไทย จำนวน 2,000 เม็ด เมื่อ 12 มีนาคม 2563 กรมควบคุมโรคนำเข้ายาจากประเทศญี่ปุ่นจำนวน 40,000 เม็ด ส่งมอบให้สถาบันบำราศนราดูร กรมการแพทย์ โรงพยาบาลใน 12 เขตสุขภาพแล้ว

และเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2563 องค์การเภสัชกรรมได้จัดซื้อจากญี่ปุ่น 40,000 เม็ด ส่งให้โรงพยาบาลราชวิถี 18,000 เม็ด เพื่อกระจายให้กับโรงพยาบาลในเขตกรุงเทพและปริมณฑล และ 12 เขตสุขภาพ จำนวน 18,000 เม็ด เพื่อจัดสรรให้กับโรงพยาบาลศูนย์ทั่วประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน เหลือไว้สำรองอีก 4,000 เม็ด สำหรับจัดสรรกรณีจำเป็นเร่งด่วน

ปัจจุบันได้มีการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ กับผู้ป่วยแล้ว จำนวน 515 ราย ใช้ไปแล้ว 48,875 เม็ด เหลืออยู่ 38,126 เม็ด สามารถมีใช้ได้อย่างต่อเนื่องอีก 4-5 เดือน ล่าสุด องค์การเภสัชกรรม ได้สั่งซื้อจากจีนและญี่ปุ่นเพิ่ม 200,000 เม็ด โดยจะมีการจัดส่งยาภายในเดือนเมษายนนี้ รวมแล้ว 287,000 เม็ด ตั้งเป้าสำรองใช้ในประเทศจำนวน 3.5 แสนเม็ด ขั้นต้นสำหรับ 2 เดือน (เมษายน-พฤษภาคม 2563) และจะมีการสั่งซื้อเพื่อสำรองเพิ่มอย่างต่อเนื่อง

การจัดหายาต้านไวรัสในครั้งนี้ มีความยากลำบากเนื่องจากเป็นที่ต้องการของทุกประเทศ ต้องใช้การดำเนินการทุกวิถีทาง ทั้งการเจรจาผ่านสถานทูตญี่ปุ่นและจีน ทั้งในแง่ของการซื้อและบริจาคมาโดยตลอด โดยไม่รอรับการบริจาคเพียงอย่างเดียว

ส่วนกรณีข่าวญี่ปุ่นจะบริจาคยาให้ 30 ประเทศนั้น อยู่ระหว่างการประสานงาน เบื้องต้นทราบว่าทางการญี่ปุ่นจะสนับสนุนสำหรับเป็นโครงการวิจัยในโรงเรียนแพทย์ ทั้งนี้หากประเทศใดต้องการบริจาคยา ประเทศไทยยินดีรับการสนับสนุน เพื่อให้มียาช่วยรักษาชีวิตของประชาชนชาวไทยอย่างเร่งด่วน

The post รัฐบาลฯ สั่งซื้อยา Favipiravir รักษาผู้ป่วยโควิด-19 รวมแล้วกว่า 2.87 แสนเม็ด appeared first on SpringNews.

Source : #Springnews #สปริงนิวส์

 

เพจ Red Skull-addict โพสต์ภาพห้างที่ฉะเชิงเทราเปิดหรา คนเดินเล่นกันเพียบ บอกว่าโซนอื่นเปิดหมด ยกเว้นโรงหนัง โดยภายหลังทราบว่าเป็นห้างโรบินสัน
และทางห้างก็ได้ออกมาชี้แจงตามที่แอดลงไว้ขอไม่ตัดต่อใดๆให้ ทางสมาชิกพิจารณาเอง

 

#ติดตามอาการบาดเจ็บ อีเห็นหนีไฟป่า...

หลังจากสัตวแพทย์ทำการรักษา เบื้องต้นคาดว่าน่าจะหนีไฟป่า แล้วมาเจออุบัติเหตุอย่างรุนแรงจนดวงตาซ้ายถลนออกมา ทำการรักษาให้ยาฆ่าเชื้อ และยาลดปวด จัดทีมสัตวแพทย์คอยเฝ้าดูอาการตลอด 24 ชม.
Cr.ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

 

สาวร้านกาแฟ ป่วยไข้สูงแต่ไม่ยอมกักตัวเดินทางกลับต่างจังหวัด สุดท้ายพบติดเชื้อโควิด

เจ้าหน้าที่รพ.เขมราฐ จ.อุบลฯ รับตัว หญิงวัย 30 ปี ชาวบ้านโคกสว่าง ตำบลหัวนา อำเภอเขมราฐพนักงานร้านกาแฟย่านรามคำแหง กทม. กลับมาบ้านช่วงโควิดระบาด พบมีอาการ ไข้สูง เข้ารักษาตัวที่ โรงพยาบาลวิภาราม เมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมาแพทย์ แนะนำให้ไปนอนพักเพื่อรอดูอาการ

แต่ปรากฏว่า คนป่วย และแฟนหนุ่ม ได้ขับรถยนต์ส่วนตัวกลับมาที่บ้านเกิดอำเภอเขมราฐ ผลการตรวจเมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา พบว่า ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19

คณะแพทย์จากโรงพยาบาลเขมราฐ ได้นำรถพยาบาล มานำตัว ไปรักษา ส่วนแฟนหนุ่ม เจ้าหน้านำตัวไปกักตัวเฝ้าดูอาการ 14 วัน ที่ศูนย์เฝ้าระวังผู้ติดเชื้อโควิด19ที่อำเภอเขื่องใน #เรื่องเล่าเช้านี้ #สาวร้านกาแฟติดโควิด #โควิด19 #อุบลฯพบผู้ป่วยโควิด

 

ด้านมืดของโลก WTF? ขอบคุณ Tommy B

Dark side of the Earth WTF? Thanks Tommy B

 

... "นางแบบดังเวียตนาม ยินดีถูกกักตัวในค่ายสกัดไวรัสหลังมาจากต่างประเทศ"

... Vo Huang Yen นางแบบดังของเวียตนาม ยินดีถูกกักกันในค่ายของทหาร เพื่อดูอาการตามมาตราการสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 รัฐบาลเวียตนามก็ได้เผยแพร่ภาพเธอในค่ายที่ส่วนใหญ่จะเอาค่ายทหารมาทำเป็นที่กักตัวเพื่อดูอาการชั่วคราว เพื่อให้ประชาชนทั่วไปเห็นว่าไม่มีอะไรน่ากลัว

... พรรคคอมมิวนืสต์เวียตนามพยายามเอารูปคนดังๆ ในค่ายกักตัวมาลง ที่จะถูกกักตัวแค่ 14 วันว่าไม่ได้ลำบากอะไร แต่คนที่มาจากต่างประเทศเหล่านั้นก็ต้องทำตามกฏหมายที่รัฐบาลออกมาใช้ ไม่มีทางเลือกนอกจากจะเดินเข้าค่ายกักตัวอย่างเดียว

... เพราะคนที่ฝ่าฝืนไม่เข้าค่ายกักกันจะโดนจับใส่คุก โทษฐานฝ่าฝืนกฏหมายและไม่รับผิดชอบต่อสังคม , และคนที่ถูกกัก จะต้องถูกเอาชื่อไปส่งให้ที่ทำงาน เพื่อนบ้าน ครอบครัว เพื่อช่วยตรวจสอบดูแลกันเองด้วย ( จีนจะติดป้ายไว้หน้าครอบครัว คนที่ถูกกักดูอาการ ไม่ต้องสนใจ "หิวแมนไล่วอด" )

... นอกจากนั้นแล้ว ลูกสาวคนรวยไฮโซคนดังอย่าง Jonathan Hanh Nguyen ก็ยินดีถูกักตัวเช่นเดียวกัน ไม่ถืออภิสิทธิ์ชน ว่าคนรวยไม่ต้องกักตัวก็ได้ , แม้แค่สตรีมีครรภ์ก็ยังยินดีถูกกักตัวเพื่อพิสูจน์โรคไวรัส เพื่อรับผิดชอบต่อส่วนรวม

... ทหารที่ถูกแย่งอาคารไปแปลงสภาพเป็นค่ายกักกันเพื่อพิสูจน์โรค ต้องหลบไปนอนที่อื่น เสียสละเพื่อให้ช่วยสกัดการแพร่ระบาด แม้จะดูสร้างภาพ แต่มันคือความจริง ค่ายกักของเวียตนามก็ธรรมดา เพื่อดูอาการไม่ต้องสวยงามเหมือนโรงแรม

... วันนี้ 5 เมษายน 2020, คนเวียตนามดีใจมาก จากวิกฤติระบาดที่ยังไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด19เลย หลังจากทุกคนรู้หน้าที่พลเมือง เสียสละความสบายส่วนตัวบางช่วงไม่กี่วัน รับผิดชอบต่อส่วนรวม เคารพกฏหมายรวมบ้านเมืองมีวิกฤติ ไม่ออกมาโวยวายดราม่า

... เมื่อควบคุมการระบาดได้ สถานการณ์ที่นั่นก็จะดีขึ้นๆ และบ้านเมืองก็จะถูกฟื้นฟูกลับมาทำมาค้าขายทำมาหากินอย่างปรกติสุขเหมือนเดิมได้เร็วขึ้น ประหยัดค่าใช้จ่ายในการรักษาน้อยลง รายได้เข้าประเทศก็กลับมาเหมือนเดิม ด้วยความสมานสามัคคีร่วมมือเป็นหนึ่งเดียวของ "คนเวียตนามทุกคน"

.

 

#กระทรวงการต่างประเทศ.......สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุง โซล และ จนท. ได้ช่วยเหลือคนไทยที่ติดค้างในสนามบินอินชอน เกาหลีใต้ จำนวน 35 คน ....โดยนำอุปกรณ์และของใช้ที่จำเป็นไปมอบให้ พร้อมช่วยประสานงานกับโรงแรมเพื่อจองห้องพัก รวมทั้งขอให้มีการเปิดห้องอาบน้ำให้คนไทยที่ต้องนอนพักบริเวณ transit area ของสนามบิน ด้วย......>>>

 

คนลงทะเบียนขอยกเลิกรับเงิน 5 พันผ่านเราไม่ทิ้งกัน สูงถึง 260,000 ราย
สศค. พบคนแห่ลงทะเบียนขอยกเลิกรับเงิน 5 พัน ผ่านเราไม่ทิ้งกัน สูงถึง 260,000 ราย ส่วนยอดลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการ ล่าสุดแตะ 24.2 ล้านคนแล้ว
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

 

#ข่าวภัยพิบัติ #ภูเขาไฟ
05/04/20
ญี่ปุ่น- ภูเขาไฟ Sakurajima ของประเทศญี่ปุ่น ปะทุเขม่า ต่อเนื่องเป็นวันที่2
คลิป3X (15:31 JST 05/04/2020)
CR: VolcanoYT
#Watchers

 

ทำเนียบขาวประเมิน #โควิด19 จะคร่าชีวิตชาวอเมริกันเป็นแสนเป็นล้าน มากยิ่งกว่าจำนวนทหาร #สหรัฐ ที่เสียชีวิตในสงครามทุกสมรภูมิ
สหรัฐที่เคยส่งทหารไปรบทั่วโลก ถึงคราต้องพ่ายแพ้ให้กับไวรัสโคโรนา ผู้เชี่ยวชาญประเมิน ถึงแม้ป้องกันเต็มเหนี่ยวก็ยังมีผู้เสียชีวิตกว่าแสน ถ้าเอาไม่อยู่อาจตายเป็นล้าน #โดนัลด์ทรัมป์ ประกาศขอให้ประชาชนเตรียมรับ “ชีวิตดั่งนรก”
.
เดโบราห์ เบิกส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อของทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐ ประเมินว่า ถึงแม้ชาวสหรัฐปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด ผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิดก็อาจมีอย่างต่ำ 1 แสน ถึง 2 แสน 5หมื่นคน ซึ่งมากกว่าจำนวนทหารสหรัฐที่เสียชีวิตในสงครามเวียดนามและสงครามเกาหลีรวมกัน เท่ากับจำนวนทหารสหรัฐที่ตายในสงครามโลกครั้งที่ 1 และมากกว่าจำนวนทหารที่ตายในสมรภูมิอิรักและอัฟกานิสถาน 14 เท่าตัว
.
แต่หากรัฐบาลไม่จำกัดการติดต่อระหว่างผู้คน สถานการณ์เลวร้ายที่สุด ประเมินว่าจะมีผู้เสียชีวิตจากโควิด 1ล้าน5 แสน ถึง 2ล้าน2แสนคนทั่วแผ่นดินอเมริกา
.
แอนโทนี ฟูซี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่ออีกคนหนึ่ง เตือนว่า ขณะนี้ไม่มีวัคซีนและยาสำหรับไวรัสโควิด ประชาชนต้องร่วมมือ “ชะลอ” การระบาดของโรค ปฏิบัติตามมาตรการ #SocialDistancing อย่างเต็มที่ เพื่อยับยั้งไม่ให้ผู้เสียชีวิตมีไม่เกิน 1 แสนคน.

 

ตั้งแต่มีมติเลื่อนจัดโอลิมปิกใน #โตเกีย วออกไปเป็นปีหน้า ก็ดูเหมือนตัวเลขผู้ติดเชื้อใน #ญี่ปุ่น จะเพิ่มเร็วขึ้นกว่าเดิมอย่างน่าตกใจ ผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นวันละหลายร้อยคน แต่ที่ผ่านมาการใช้ชีวิตในญี่ปุ่นก็ยังดูค่อนข้างปกติอยู่มาก โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกที่กำลังอยู่ท่ามกลางวิกฤติการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น
https://mgronline.com/japan/detail/9630000034703

 

ทุกกระทรวง ตัดงบลง 20%

 

Day 7: วันที่เจ็ดของการ Lockdown ในมอสโก

สถิติของผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัส ประเทศรัสเซีย
( วันที่ ๕ เมษายน ๒๕๖๓ )

สหพันธรัฐรัสเซีย
จำนวนผู้ป่วยทั้งสิ้น ๕,๓๘๙คน
รักษาตัว ๔,๙๘๙คน
เสียชีวิต. ๔๕คน
รักษาหาย. ๓๕๕คน

ป่วยเพิ่ม. + ๖๕๘คน
เสียชีวิตเพิ่ม. +๒คน

© Source : www.covidvisualizer.com

© Photo : Sergei Savostyanov/TASS

© Photo : Maxim Fyodorov/TASS

© Photo : Vyacheslav Prokofyev/TASS

© Photo : SPUTNIK/ Kirill Kallinikov