ติดตามสถานะการณ์

คนรวยอยากให้ปิดประเทศ Total Lock Down
แต่คนจนยากไร้ ... ถามว่า

"แล้วพวกมึงจะเลี้ยงกูไหม
พวกกูจะเอาอะไรแดกกัน ?"

คนเรามันต้องมองรอบ ๆ ตัวด้วย จะเอาแต่ตนเองนั้นไม่ได้ สังคมนั้น อยู่ด้วย "ใจเขาใจเรา" ต้องเปิดตา กว้าง ๆ มองเห็นเพื่อนมนุษย์ในสังคมด้วย ว่าเขามีชีวิตความเป็นอยู่ อันหลากหลาย ต่างจากเราอย่างไร ?

มนุษย์เงินเดือน ไม่ได้เดือดร้อนนัก แต่คนหาเช้ากินค่ำ หรือ หาค่ำกินค่ำ แบบแอดฯ อาจจะไม่ได้มี "รูปแบบการดำเนินชีวิต" ที่เหมือนกัน

ตอนนี้ คนจำนวนหนึ่ง เป็น "ตัวถ่วงของสังคม" คือ ไม่เคารพกฎกติกา ทำให้เกิดการแพร่กระจายโรคไม่จบไม่สิ้น มันเป็นการยิ่งทำให้ การต่อสู้กับโควิด19 ยิ่งทอดทางยาวออกไปเรื่อย ๆ และคนจำนวนมากจะตาย ไม่ใช่ตายด้วยห่าโควิด แต่ตายด้วยอดตาย

การเคอร์ฟิล หลัง 4 ทุ่ม ทำให้อัตราการติดเชื้อลดลงมากกกกกอย่างต่อเนื่อง อย่างมีนัยสำคัญ

การเข้ามา import ของคนไทยที่หนีตายในต่างแดน มา จะทำให้ยอดการติดเชื้อพุ่งปรี๊ดอย่างน่าอนาถ ทำให้คนไทยทั้งประเทศ 69 ล้านคน ลำบากมากขึ้น ทนลำบากยาวนานขึ้น คือ ต้องทนรับ "ความฉิบหาย"

ทีนี้ มันไม่รับเข้าไม่ได้ เพราะว่าเป็น "พลเมือง" citizen แม้จำนวนเกือบ*** ทั้งหมด จะไม่ได้จ่ายภาษีที่ประเทศไทย แต่ต้องรับเข้ามารักษาตัว "ฟรี" ด้วยสิทธิพลเมืองที่เขามี เพราะ ความที่เกิดบนแผ่นดินไทย ที่หลายคน***ในจำนวนคนเหล่านั้น ไม่รัก ดูถูกดูหมิ่น ดูแคลน แลรังเกียจว่า "กระจอก" ก็ตาม

ทีนี้ ทำไง

ก็อาจจะต้องใช้วิถี "ปิด - เปิด กระแสสลับ"

เปิด 1 สัปดาห์ เอาคนเข้ามากักตัวรักษากักตัว 14 วัน

ปิด 2 สัปดาห์ เคลียร์ของเก่าชุดก่อน จากนั้นค่อยเปิดรับเข้า 1 สัปดาห์ ทำแบบนี้สลับกันไป ถึงจะเอาอยู่

ขอเตือนคนที่เข้ามาจากดินแดนศิวิไลซ์ กว่าไทยว่า ท่านกำลังเข้ามาใช้ทรัพยากร ที่ท่านไม่เคยจ่ายเอาไว้ เข้ามาเบียดเบียนเงินสวัสดิการ wellfare จากภาษีที่คนอื่นหาด้วยความยากลำบาก ในประเทศที่ยากจนกว่า เงินมีค่าน้อยกว่า 30 - 40 เท่า ประเทศที่ท่านหลายคนเหยียดหยัน ดูถูกว่าเป็น กะลา

ถ้าท่านไม่รู้จักสำนึกดี "ขอบคุณ" เขา

ก็ขออย่าปากดี ด่าทอดูถูก แผ่นดินที่คุณหนีตายห่า กลับเข้ามาพึ่งพาว่า "กระจอก" กว่าที่ ๆ คุณไปอยู่มา

เพราะต้องระวังว่า คุณอาจจะโดน "สหบาทา" หรือ รวมหมู่ส้นตีนกระทืบให้จมดิน เพราะกรรมที่คุณมากระทืบเหยียบย่ำเขาก่อน ทั้ง ๆ ที่คุณไม่มีค่าคู่ควรเลยแท้ ๆ

ป.ล.
ช่วงนี้แอดฯ ให้ฝากขายของ ไม่ได้แบนหรือลบ เพราะเอ็นดูคนลำบาก เลิกโควิด19 แล้วไม่อนุญาตนะคะ

ไม่อนุญาตให้ด่าทอ เสียดสีการเมือง ตบตีกันในเพจ ถ้าแอดฯ มีเวลาดู ก็จะแบนสถานเดียว เพจนี้ศิวิไลซ์ค่ะ

 

1) กรุ๊ปเลือด A ติดโควิด19 ง่ายกว่า - ไม่มีหลักฐาน

2) คนบริจาคเลือดน้อยลงมาก ทำให้ขาดแคลนเลือด
ตรงนี้จะเป็นปัจจัยให้ "ผู้ป่วยนอกโควิด" ตายได้

3) ทุกคน ทุกวัยมีโอกาสติดโควิด แต่แต่ละวัยตอบสนองต่อโควิดต่างกัน คนป่วยมีโรคประจำตัว และคนแก่ จะมีอาการรุนแรงกว่าคนปกติ หรือวัยหนุ่มสาว

4) "ภูมิคุ้มกัน" จะเกิดเมื่อรับเชื้อเข้าไปและรักษาหายเท่านั้น และเมื่อได้รับเชื้อใหม่จะไม่เป็นอีก หรือเป็นก็มีอาการน้อยมาก ๆ คนที่ได้รับเชื้ออ่อน ๆ ตามธรรมชาติจะมีภูมิ ถ้าเราไม่ได้รับเชื้ออ่อน ๆ ก็รอวัคซีนสำเร็จ

5) ให้ทำตามคำแนะนำของหมอ และกระทรวงสาธารณสุข และรักษาระยะห่าง social distance กันเอาไว้ "อย่าลืมมีเพศสัมพันธ์อยู่ห่างกัน 2 เมตร"

6) ประเทศไทยส่งออกอาหารโลก ไม่ต้องไปกักตุน เราอุดมสมบูรณ์มีอาหารกินมากมาย ดี ๆ กว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาก ไม่ต้องไปกักตุนอาหาร เขาไม่สั่งปิดร้านอาหารหรอกค่าคุณค่า ไม่ต้องตุน มันจะเน่าเสีย

(ซื้อพอกิน 3-4 วันจะได้ออกจากบ้านน้อยลงก็พอค่ะ กุ้งโลตัสช่วงนี้ตัวโต้ โต บล็อคโคลี่สด ๆ ลำไยก็ออก เมื่อวันก่อนได้เมล่อนหอมหวานมาครึ่งซีก อร๊อยอร่อย แอดฯ ซื้อพอกิน 5 วัน ลดการออกจากบ้าน แต่แอดฯ กินน้อยบ้านใหญ่ ๆ ซื้อพอ 3 วันก็ได้)

 

อัพเดทเคสนักเรียนไทยขอความช่วยเหลือ
.
วันนี้ผมพึ่งได้รับข่าวดีจากน้อง ๆ นักเรียนไทย ที่ทางเพจเราได้รายงานไปเมื่อครั้งก่อน เกี่ยวกับความยากลำบากในการหาอาหารทานหลังอินเดียปิดเมืองกว่า 2 สัปดาห์
.
วันนี้ทางน้อง ๆ แจ้งมาว่าได้รับความช่วยเหลือเบื้องต้นจากทางสถานทูตเรียบร้อยแล้ว โดยได้ประสานงานกับทางสถาบันเพื่อให้น้อง ๆ สามารถออกไปกด ATM และซื้อสินค้าจำเป็นเข้ามากักตุนเพื่อประทังชีวิตเบื้องต้นแล้ว ตอนนี้รอสนามบินเปิดและกลับบ้าน
.
ท่านทูตไทยประจำอินเดีย ได้ทวิตบอกข่าวดีนี้เช่นเดียวกันว่า

"เมื่อบ่ายวันนี้ผมได้โทรคุยกับอาจารย์ที่ดูแลหอ และหัวหน้าแผนกนักศึกษาต่างชาติเรียบร้อยไปแล้วครับ เด็กออกไปกดเงินพร้อมกับอาจารย์ผู้ดูแลหอพาไป น้องบดินทร์ฯ ไปกด ATM สั่งอาหารไม่มังได้แล้วด้วยการเจรจามาราธอนของ อจ สุรัตน์ โหราชัยกุล จุฬาฯ"

ยังไงผมขอขอบพระคุณสถานทูตไทย ณ กรุงนิวเดลี และ อาจารย์สุรัตน์ โหราชัยกุล จุฬาฯ ด้วยนะครับ ที่ให้การช่วยเหลือเร่งด่วนไปยังน้อง ๆ และขอบคุณทุก ๆ คน ที่กระจายข่าวช่วยเหลือน้อง ๆ เหล่านี้
.
#กระแสเอเชียใต้ #อินเดีย #คนไทยในอินเดียอยากกลับบ้าน #ข่าวดี

 

ยิ่งอ่านข่าวก็ยิ่งงง มท สั่งด่วนทุกจังหวัด เตรียมพร้อมยกระดับ ตามคำสั่ง ศบค เน้นที่ตามคำสั่ง ศบค แต่ข่าวที่ออกมาหลังจากนั้น "“นิพนธ์” ยัน คำสั่งของปลัดกระทรวงทหาดไทยสั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศเตรียมพร้อม ไม่ใช่ส่งสัญญาณเตรียมเคอร์ฟิว 24 ชั่วโมง ชี้ เป็นอำนาจของ ศบค"

อ่านแล้ว งง ไหมครับ



“นิพนธ์” ยันคำสั่งมหาดไทย ไม่ใช่ส่งสัญญาณเคอร์ฟิว 24 ชม. เป็นอำนาจ ศบค.
“นิพนธ์” ยัน คำสั่งของปลัดกระทรวงทหาดไทยสั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศเตรียมพร้อม ไม่ใช่ส่งสัญญาณเตรียมเคอร์ฟิว 24 ชั่วโมง ชี้ เป็นอำนาจของ ศบค.
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

https://www.thairath.co.th/news/politic/1813561

 

#ภัยแล้ง รุนแรง
06/04/20
ปริมาณน้ำคงเหลือใช้การได้ในเขื่อนต่างๆเวลานี้อยู่ในระดับน้อยวิกฤต โดยวันนี้มีเขื่อยนแม่งัดฯเพิ่มมาอีกหนุ้งเขื่อน และเขื่อนอุบลรัตน์ที่ปริมาณน้ำใช้การได้ลดลงจนถึง -9% อาจเป็นอันตรายต่อโครงสร้างเขื่อน
เครดิต ; paipibut
#Watchers

 

#ข่าวภัยพิบัติ #สภาพอากาศโลก
06/04/20
เกิด #พายุฝน พัดกระหน่ำและลมกระโชกแรง ในหลายพื้น จ.บุรีรัมย์ เช่นเดียวกับ จ.เลย พายุสร้างความเสียหายให้กับโรงพยาบาลเชียงคาน และบ้านเรือนประชาชนเสียหายหนักสุดในรอบ 5 ปี
CR: thaipbs
#Watchers

 

#ประกาศ....ผู้ว่าฯภูเก็ต ออกคำสั่งให้ประชาชน ที่ออกนอกเคหะสถาน สวมหน้ากากอนามัย หรือ หน้ากากผ้า เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด19 ฝ่าฝืนปรับ ไม่เกิน 20,000 บาท และอาจผิด พรก.ฉุกเฉินฯ ด้วย มีผล 7 เมษายน 2563 เป็นต้นไป
..........................................................
Cr. Phuket Ok

 

ผู้ว่าฯภูเก็ตออกคำสั่ง‼️

ให้ประชาชน ที่ออกนอกเคหะสถาน สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด19 ฝ่าฝืนปรับ ไม่เกิน 20,000 บาท และอาจผิด พรก.ฉุกเฉินฯ ด้วย มีผล 7 เมษายน 2563 เป็นต้นไป

#โปรดสวมใส่หน้ากากเพื่อความปลอดภัย
#สวมทุกที่
#ทุกเวลา
#ด้วยความห่วงใย
#ANTICOVID19

Cr. NBT PHUKET

 

ญี่ปุ่นจ่อประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
เตรียมออกแผนกระตุ้นศก.ก้อนใหญ่

รอยเตอร์ – อาเบะเล็งประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในโตเกียวและอีก 6 จังหวัดอย่างเร็วที่สุดในวันอังคาร (7 เม.ย.) เพื่อหยุดยั้งการระบาดของไวรัสโคโรนา ขณะที่รัฐบาลเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ภายในสัปดาห์นี้

แม้จำนวนผู้ติดเชื้อในญี่ปุ่นอยู่ที่เพียงกว่า 3,500 คน และเสียชีวิต 85 คน ห่างไกลจากสถิติในประเทศที่มีการระบาดหนักบางแห่ง แต่การที่ตัวเลขเหล่านี้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดยเฉพาะในโตเกียวที่มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 1,000 คน รวมถึงเคสใหม่ 83 คนในวันจันทร์ (6 เม.ย.) ทำให้ประชาชนกังวลมากขึ้น

อ่านต่อ>>https://mgronline.com/around/detail/9630000035521

#สถานการณ์ผลกระทบโควิดทั่วโลก #โควิด19 #ญี่ปุ่น

 

ชาวบ้านผวาทั่ว! ขาใหญ่แม่ระมาดกลับจากพื้นที่เสี่ยง
ไม่กักตัว-ถอดเสื้อไอจามใส่ร้านชำ
.
คนแม่จะเรา-แม่ระมาดผวาโควิดระบาดกันทั้งหมู่บ้าน..ขาใหญ่กลับจากเชียงใหม่ไม่ยอมกักตัว จนท.ห้ามยังท้าตีท้าต่อย โพสต์เฟซฯ ลุงเป็น ส.จ. พี่เป็น ส.ส.พรรคลุงตู่ ล่าสุดถอดเสื้อเดินเข้าร้านของชำ ทำท่าจามใส่จนต้องหนีกันวุ่น
.
ขณะนี้ชาวบ้านแม่จะเรา ต.แม่จะเรา อ.แม่ระมาด จ.ตาก ต่างหวาดผวากันทั้งชุมชน หลังหนุ่มห้าวขาใหญ่ประจำหมู่บ้านแหกกฎป้องกันการแพร่ระบาดโรคไวรัสโควิด-19 ของชุมชน ทั้งไม่ยอมกักตัว ไม่ยอมใส่หน้ากากอนามัยขณะอยู่นอกบ้าน และแกล้งจามใส่ชาวบ้านร้านค้าซ้ำอีก
.
อ่านต่อ>>https://mgronline.com/local/detail/9630000035339
#mgronline #ชาวบ้านผวา #ขาใหญ่แม่ระมาด #พื้นที่เสี่ยง #ไม่กักตัว #ถอดเสื้อ #ไอจาม #ใส่ร้านชำ #ตาก

 

อีเห็นเหยื่อไฟป่าดอยสุเทพยังโคม่า
แถมพบลูกแมวดาวหนีตายอีก 5 ตัว
.
คืบหน้าอาการอีเห็นลายข้าง-เหยื่อไฟป่าดอยสุเทพที่ต้องหนีตายลงมากลางถนน ล่าสุดอาการยังโคม่าตาถลนรอผ่าตัด สบอ.16 เผยตั้งแต่มีนาฯ ถึงวันนี้เจอลูกแมวดาวหนีไฟป่าเชียงใหม่อีก 5 ตัว
.
ล่าสุดขณะนี้ทีมสัตวแพทย์ คลินิกสัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 ยังต้องให้การรักษาและดูแลอีเห็นลายข้าง เหยื่อไฟป่าดอยสุเทพอย่างใกล้ชิด เพราะร่างกายบอบช้ำหนัก ตาข้างซ้ายถลนออกมา และยังมีร่องรอยฟันหักไปหลายซี่ คาดว่าอาการบาดเจ็บมาจากการหลบหนีจากไฟป่าและอาจถูกสัตว์อื่นหรือมนุษย์ทำร้าย
.
อ่านต่อ>>https://mgronline.com/local/detail/9630000035247
#mgronline #อีเห็น #เหยื่อไฟป่าดอยสุเทพ #โคม่า #รอผ่าตัด #ลูกแมวดาว #หนีไฟป่า #เชียงใหม่

 

กลุ่มบริษัท “ฮอนด้า” เปลี่ยนโรงงานผลิตรถ
เป็นผลิตเตียงเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเชื้อ
.
กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ร่วมกับกลุ่มบริษัทฮอนด้าในประเทศไทย ต้านภัยโควิด -19 ผลิตเตียงเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเชื้อแบบแรงดันลบพร้อมสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์รวมมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท ให้โรงพยาบาลทั่วประเทศ
.
กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ภายใต้มูลนิธิฮอนด้าแห่งประเทศไทย ร่วมกับกลุ่มบริษัทฮอนด้าในประเทศไทย ต้านภัยโควิด-19 ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคมไทย ประกาศการสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์รวมมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท เพื่อสู้วิกฤติการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ประสานความร่วมมือโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ตั้งทีมเฉพาะกิจเปิดสายการผลิตในโรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้าที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ผลิตเตียงเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเชื้อแบบแรงดันลบ (Negative Pressure Mobile Bed) จำนวน 100 เตียง ที่ช่วยป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 และเพิ่มความปลอดภัยให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องดูแลผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง
.
อ่านต่อ>>https://mgronline.com/motoring/detail/9630000035442
#mgronline #มูลนิธิฮอนด้าแห่งประเทศไทย #ผลิตเตียงเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเชื้อ #โรงพยาบาลทั่วประเทศ #ไวรัสโควิด-19

 

ฝันดีครับ

 

เหตุเกิดที่อังกฤษ เมื่อเกิดแนวคิด ทฤษฎีที่ว่า เสาสัญญาณสื่อสารระบบ 5จี มีส่วนช่วยแพร่ไวรัสโรคโควิด-19
ข่าวลือและทฤษฎีคบคิดโยงระบบ 5จี กับไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ แพร่บนสื่อสังคมออนไลน์มาระยะหนึ่งแล้ว ทฤษฎีหนึ่งอ้างว่า ไวรัสโคโรน่ามีต้นกำเนิดในอู่ฮั่น เพราะเมืองนี้เพิ่งเปิดตัว 5Gไม่นาน และแพร่กระจายไปยังเมืองอื่นที่ใช้ระบบ 5G เหมือนกัน
โดยคนกลุ่มนี้มองข้ามความเป็นจริงที่ว่า ไวรัสโรคโควิด-19 แพร่ในเมืองที่มีประชากรหนาแน่นได้ง่ายกว่าตามธรรมชาติ และประเทศที่ยังไม่ได้ใช้ 5จี อีกมากมายก็ติดไวรัส เช่น อิหร่านและญี่ปุ่น พวกเขามองเพียงเมืองเหล่านั้นเข้าถึง 5จี ได้แล้ว
.
และถึงจะพูดอธิบายอย่างไรก็ตามเสาโทรศัพท์ในอังกฤษก็ถูกเผาไปแล้วหลายต้น

 

เวลา 15.25 น. #เหตุดินโคลนถล่มทับคนงาน ซอยเอกมัย 2 เขตวัฒนา เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางกะปิถึงที่เกิดเหตุ เบื้องต้นเป็นบ่อกว้างขนาด 1.50 เมตร X 6 เมตร ความลึกประมาณ 2 เมตร มีผู้ถูกดินโคลนถล่มทับ จำนวน 2 ราย ขณะนี้สามารถช่วยเหลือขึ้นมาได้แล้วจำนวน 1 ราย
#ศูนย์วิทยุพระราม199

 

COVID19: แพทย์ #กังวลจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นบุคลากรไม่เพียงพอ แนะรัฐออกมาตรการคุมเข้มลดจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ รศ.ดร.พญ.ภัทรวัณย์ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดลโพสต์เฟสบุ๊กชี้ประเด็นการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของผู้ติดเชื้อซึ่งอาจทำให้บุคลากรทางการแพทย์ไม่เพียงพอในระยะเวลาอันใกล้นี้ พร้อมเสนอรัฐให้ออกมาตรการคุมเข้ม เพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมโดยเร่งด่วนโดยมีใจความว่า

“บอกตามตรงว่า วันนี้รับทราบข้อมูลจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ 102 คนด้วยความกังวลใจอยู่พอสมควร รวมแล้วมีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 2,169 คน

ถามว่าทำไม? ในเมื่อแนวโน้มช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อัตราการเพิ่มขึ้นดูลดลง ซึ่งเป็นตัวพิสูจน์ว่ามาตรการต่างๆ ที่ทุกคนช่วยกันทำมานั้นดูได้ผลดีระดับหนึ่ง

วันก่อนเพิ่งนำเสนอไปว่า ยุทธศาสตร์การต่อสู้ในระยะสั้นของไทยนั้น ขั้นต่อไปคือมุ่งที่จะเสริมความเข้มข้นของมาตรการเพื่อให้แตะเส้น 10% ให้ได้โดยเร็วภายใน 2-3 สัปดาห์ถัดจากนี้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเตียงไอซียูไม่เพียงพอ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคตอันใกล้

ตอนนี้เรามีคนไข้หนักที่ต้องนอนแอดมิทในไอซียูอยู่เกือบๆ 100 เตียง โดยเราเหลือจำนวนเตียงที่จะรองรับได้อีกไม่มาก แต่ขอไม่เปิดเผยตัวเลข

ทุกหน่วยงานพยายามกันอย่างเต็มที่เพื่อจะขยายเตียงไอซียูเพื่อรองรับผู้ป่วยหนักให้มากที่สุดเท่าที่เราสามารถจะทำได้

แต่ต้องเข้าใจกันด้วยว่า การขยายเตียงไอซียูนั้น ไม่ใช่แค่หาพื้นที่ หาเตียง หาเครื่องมือเครื่องไม้อย่างเครื่องช่วยหายใจและหยูกยาเท่านั้น สิ่งที่เป็นปัญหาหนักคือ เรามีบุคลากรแพทย์ พยาบาล และบุคลากรสนับสนุนการดูแลผู้ป่วยหนักจำกัดมาก ถึงมีเตียงมีอุปกรณ์แต่คนดูแลไม่พอ ยังไงก็ไม่สามารถดูแลผู้ป่วยหนักได้

ตามที่วางแผนกันอย่างเต็มที่ เราพอจะขยายเตียงและเพิ่มศักยภาพในการดูแลผู้ป่วยหนักได้บ้าง ตามกำหนดจะขยายได้ภายในปลายเดือนนี้และปลายเดือนหน้า เพราะต้องจัดเตรียมสิ่งต่างๆ มากมาย

ดังนั้นตอนนี้รัฐบาลและประชาชนจึงต้องช่วยกันซื้อเวลาให้ระบบสาธารณสุขของเราสามารถจัดเตรียมการขยายให้ได้ทัน

ถามว่าจะต้องซื้อเวลาอย่างไร?

ขอตอบชัดๆ อย่างนี้ครับ...

โดยเฉลี่ยแล้วคนไข้หนักจนต้องนอนไอซียู เรามีราว 5%

ถัดจากนี้ไปถ้าจะกดให้แตะเส้น 10% โดยให้ปริมาณผู้ป่วยไม่เกินกว่าความสามารถของระบบสาธารณสุขที่จะรองรับได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เราต้องไม่ให้จำนวนเคสสะสมเกิน 3,000 คนใน 10 วันถัดจากนี้ หรือ ณ ช่วงสงกรานต์นั่นเอง

กล่าวคือ คงจะดีมาก หากมีเคสติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยไม่เกิน 88 คนต่อวัน

ซึ่งเป้าหมายนี้ดูจะท้าทายมากทีเดียว

แต่หากจะอนุโลมให้มีทางเลือกได้บ้าง ผมคงจะคาดการณ์และแนะนำว่า หากไม่เกิน 100 คนต่อวันติดต่อกันไปอีก 2 สัปดาห์ เราจะแตะเส้น 10% ได้ และคิดว่ายังพอบริหารจัดการทรัพยากรในระบบเพื่อดูแลคนไข้หนักได้อยู่

หนทางที่จะทำได้ ไม่ว่าจะทางเลือกแรกในอุดมคติ และทางเลือกที่สองที่พอจะเป็นไปได้นั้น ต้องอาศัยมาตรการเพิ่มเติมจากรัฐ และความร่วมมือจากประชาชนอย่างเต็มที่ครับ

รัฐบาลควรพิจารณามาตรการเพิ่มเติม ดังนี้
1. ปิดสนามบินทั่วประเทศ ขยายจากเดิม 3 วัน ไปเป็นถึงปลายเดือนเมษายน

2. ขยายเวลาการห้ามออกจากเคหะสถาน จากเดิม 22.00-04.00 น.ไปเป็น 18.00-04.00 น.

3. พิจารณาประกาศหยุดงานทั้งภาครัฐและเอกชน ตั้งแต่บัดนี้ถึง 19 เมษายน 2563 เหลือเฉพาะที่จำเป็นจริงๆ ต่อการดำรงชีพ เช่น อาหารการกินและน้ำดื่ม และบริการสาธารณะ เช่น สื่อสาร รักษาพยาบาล พลังงาน การเงิน

4. ปิดกั้นการเดินทางระหว่างจังหวัด ยกเว้นการขนส่งสินค้าจำเป็นต่อการดำรงชีพ และผู้ที่ได้รับอนุญาตจากรัฐ

5. กวดขัน ตรวจสอบ และรณรงค์ให้ประชาชนทุกคนที่ออกนอกบ้านช่วงกลางวัน ต้องใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย และจัดหาหน้ากากให้ประชาชนให้เพียงพอ

6. จัดเตรียมจุดแจกอาหารและน้ำดื่มให้แก่ผู้ยากไร้หรือได้รับผลกระทบจากโรคระบาด พร้อมกับจัดหาที่พักชั่วคราวให้แก่คนไร้บ้าน พร้อมจัดอุปกรณ์ป้องกันให้เพียงพอ

7. ประสานความร่วมมือกับเอกชนที่มีหรือกำลังจัดตั้งโรงงานหน้ากากอนามัย เพื่อช่วยในการกระจาย แจกจ่าย สู่ประชาชนทุกพื้นที่ โดยเริ่มจากกทม. และในเขตเมืองของจังหวัดที่มีการระบาดหนัก

8. บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกับผู้กระทำผิด หรือฝ่าฝืน

สำหรับประชาชนนั้น ต้องขอวิงวอน และขอให้มีกำลังใจสู้กันอย่างเต็มที่ โดย

#อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ

#ดูแลสมาชิกในครอบครัวอย่างใกล้ชิดให้ปฏิบัติตนอย่างเหมาะสม

#ออกจากบ้านยามจำเป็นเท่านั้น

#หากออกจากบ้านต้องใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยและรักษาระยะห่างจากคนอื่นอย่างน้อย1เมตร

#เป็นหูเป็นตาคอยสังเกตสังคมรอบตัวหากมีสิ่งที่ไม่เหมาะสมให้แจ้งหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง

#แบ่งปันอุปกรณ์ป้องกันแก่โรงพยาบาลหากมีเหลือใช้

#ช่วยเหลือชุมชนแออัดและคนยากไร้ตามกำลังที่พอมี

...ไทยต้องทำได้ครับ...

เป็นกำลังใจให้ทุกคน...เราสู้ไปด้วยกัน!!!

#TheReporters #เดอะรีพอร์ตเตอร์ #โควิด19 #COVID19

 

ผู้ว่ารัฐ New York ออกแถลงข่าวดี อัตราการติดเชื้อไวรัสในรัฐที่น่าเป็นห่วงที่สุดในสหรัฐนั้นเริ่มนิ่งเป็นวันที่ 2 แล้ว ! ทางด้านตลาดหุ้นสหรัฐ #ไปต่อไม่รอแล้วนะ +6% คืนนี้ !

รัฐ New York นั้นเป็นรัฐแรกๆที่เกิดการระบาดของไวรัส Covid ในสหรัฐเพราะว่าเป็นเมืองท่าที่เชื่อมต่อการเดินทางมาจากฝั่งยุโรป และแน่นอนว่า New York นั้นเป็นรัฐที่ประชากรแออัดมากทำให้เชื้อนั้นกระจายได้ง่าย อีกทั้งยังเป็นรัฐที่มี GDP ต่อหัวสูงที่สุดในสหรัฐทำให้มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจมากที่สุดด้วย

นาย Andrew Coumo ผู้ว่ารัฐ New York ผู้ได้ชื่อว่าเป็นฮีโร่ของรัฐเพราะว่าออกมาสั่งการได้เฉียบขาดอย่างไม่จำเป็นตั้งรอคำสั่งจากรัฐบาลมาตลอด โดยทาง New York นั้นเป็นรัฐแรกที่ได้ประกาศภาวะฉุกเฉิน (State Of Emergency) ทำให้ประชาชนนั้นเริ่มชอบนาย Coumo นี้อย่างมากถึงขั้นเรียกร้องให้พยายามลงเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยหน้าเลยทีเดียว

ทางด้าน Andrew Coumo นั้นได้ออกมาแถลงข่าวรายวันทุกวันให้คนในเมืองได้ทราบถึงสถานการณ์อย่างใกล้ชิด บางวันก็ต้องออกมาแถลงทั้งน้ำตาเพราะสถานการณ์ที่ผ่านมาของ New York นั้นก็ย่ำแย่มากๆ รวมไปถึงครั้งที่น้องชายของเขา Chris Coumo ผู้ประกาศข่าว CNN ก็ได้เป็นผู้โชคร้ายติดเชื้อไวรัสโควิดนี้ด้วยเช่นกัน (ใครมีเวลาอยากให้หาคลิปที่ 2 พี่น้องสัมภาษณ์กันและกัน เพราะเขานั้นกวนกันได้แสบต่อหน้าการถ่ายถอดสดได้มันส์จริงๆ)

วันนี้นั้นทาง Andrew Coumo นั้นได้ออกมาแถลงข่าวดี ! โดยอัตราการติดเชื้อไวรัสในรัฐ New York นั้นเริ่มนิ่งแล้วและอัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นน้อยกว่า 10% เป็นวันที่สองแล้ว ! ซึ่งทางเจ้าตัวอยากจะบอกว่าเราผ่านจุดที่แย่ที่สุดไปแล้ว แต่ก็ไม่อยากจะให้ประชาชนกลับมาไม่ระมัดระวัง จึงบอกย้ำให้ทุกคนยังทำ Social Distancing ต่อ อีกทั้ง Coumo ยังค่อนข้างรอบคอบ ได้สั่งปิดเมือง Shut Down New York ต่อยาวไปอีกจนถึงสิ้นเดือนทีเดียวเลย !

ถือว่าเป็นการสั่งการที่เด็ดขาดทั้งๆที่หลายฝ่ายใน New York นั้นคงอยากออกมาใช้ชีวิตปกติแล้ว เพราะ New York นั้นเป็นรัฐที่ผู้คนต้องออกมาทำมาหากินเพราะค่าครองชีพสูง แต่ Coumo ก็ต้องการจะทำให้มั่นใจว่า New York จะไม่มีการระบาดซ้ำอีกรอบจึงสั่งการไปอย่างเด็ดขาด

ข่าวนี้ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกบวกอย่างต่อเนื่อง นักลงทุนยังมั่นใจว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังจะเดินหน้าต่อไปได้ถึงแม้ตัวเลขการว่างงานจะแย่เพียงใดก็ตาม ทางเรามองว่าตลาดได้รับรู้ไปถึงการ Shut Down ต่างๆไปจนถึง 1-2 เดือนแล้ว ถ้าไม่นานกว่านั้นตลาดคงรับได้ แต่ถ้าจะยืดเยื้อกว่านั้นคงต้องมีการเทขายอีกรอบ

ดัชนีหุ้น Dow Jones Future +5.8%
ดัชนีหุ้น S&P Future +5.6%
ยุโรปดัชนี Euro Stoxx +5.2%

⛔️ ท่านใดไม่อยากพลาดข่าวสารในตลาดแบบทันท่วงที แนะนำให้กดไลค์ที่โพสต์เรื่อยๆ หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ที่เมนูมุมขวาบนของเพจได้เลยครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ของเราที่อัพเดทใหม่ๆ ที่อาจออกมาก่อนสื่ออื่นๆครับ ⛔️

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกด Like และ Share ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์นะครับ ขอบคุณมากๆครับ

#OilTradingKP

 

ตลาดหุ้นทั่วโลกนั้นผ่านจุดต่ำสุดของช่วงวิกฤตไวรัส Covid-19 ไปแล้วหรือยัง ?

วันนี้อยากจะมาแชร์มุมมองของผมต่อคำถามนี้ในฐานะเทรดเดอร์น้ำมันคนนึงนะครับ หวังว่าข้อมูลนี้จะมีประโยชน์กับทุกๆท่าน ถ้าใครเห็นด้วยหรือเห็นต่างก็ลองแชร์มุมมองเข้ามาได้ในคอมเม้นท์เลยนะครับ

ส่วนท่านไหนถ้าสนใจเทคนิคและมุมมองในการเทรดแนวนี้จากทางเรา สามารถอ่านย้อนหลังได้ผ่าน #KPTradingTips นะครับ

ทำไมถึงนำตลาดหุ้น Dow Jones มากราฟให้ดู ?

แน่นอนว่าตลาดหุ้นของทุกๆประเทศนั้นไม่ได้ขึ้นลงไปพร้อมๆกันในเวลาเดียวกัน ต่างคนต่างขึ้นลงตามสภาพเศรษฐกิจและปัจจัยต่างๆภายในของแต่ละประเทศ แต่ในเวลานี้นั้นความสัมพันธ์ (Correlation) ของตลาดหุ้นทั่วโลกกำลังสูงขึ้นเพราะเรากำลังร่วมต่อสู้อยู่บนสงครามเดียวกันกับ #ไวรัสโควิด

โดยเฉพาะตอนนี้ประเทศที่สถานการณ์ไวรัสระบาดที่น่าเป็นห่วงที่สุดในโลกตอนนี้คือประเทศสหรัฐ ผู้ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจเป็น 25% ของทั้งโลกโดยตัวคนเดียว ทำให้หากตลาดสหรัฐนั้นดีขึ้นก็จะช่วยดึงตลาดโลกให้ดีขึ้น แต่ในทางกลับกันถ้าตลาดสหรัฐจะแย่ประเทศอื่นๆในโลกก็จะโดนดึงไปด้วย

ทำให้ช่วงนี้เราสามารถนำตลาดหุ้นสหรัฐนำมาวันเป็นตัววัดคร่าวๆ (Proxy) ต่อทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลกได้ (เว้นแต่ว่าประเทศนั้นจะมีปัจจัยในประเทศที่กระทบหนักจริงๆความสัมพันธ์นั้นก็จะน้อยลงไป

ทำไมผมถึงต้องวงเหตุการณ์สำคัญต่างๆไว้ให้ดูในกราฟ ?

อยากจะแชร์ว่าหนึ่งในเทคนิคในการเทรดที่สำคัญที่สุดคือ เราต้องพยายามทำความเข้าใจว่า #ราคานั้นเคลื่อนไหวเพราะแรงซื้อแรงขาย ไม่ใช่เคลื่อนไหวเพราะว่าข่าวแต่เพียงอย่างเดียว ถึงแม้อาจจะฟังเป็นเรื่องง่ายๆแต่เรื่องนี้นั้นสำคัญมากครับ ผมจึงอยากนำกราฟตัวอย่างในสถานการณ์ตอนนี้มาอธิบายจุดนี้ให้เห็นกันชัดๆ

และเมื่อเราเข้าใจจุดนี้ได้แล้ว เราก็อาจจะสามารถ เข้าใจ #จุดต่ำสุดของตลาด ได้ครับ

จากกราฟราคาหุ้น Dow Jones ทุกคนจะเห็นได้ว่าตลาดนั้นเป็นขาขึ้นมาโดยตลอดตั้งแต่ต้นปียาวมาจนถึงจุดสูงสุดเมื่อสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ ตลาดนั้นเป็นขาขึ้นได้อย่างไรในเมื่อข่าวที่ออกมาทั่วโลกนั้นกำลังชี้ให้เห็นว่าไวรัสนั้นกำลังระบาดรุนแรงขึ้นเรื่อยๆตั้งแต่ต้นปี ?

11 Jan - มีรายงานผู้เสียชีวิตคนแรกในจีน
20 Jan - มีรายงานผู้ติดเชื้อคนแรกในสหรัฐ
13 Feb - ยอดผู้ติดเชื้อในจีนพุ่งเป็นหลายหมื่น จุดนี้นั้นสำคัญมากเพราะเริ่มกระทบเศรษฐกิจสหรัฐแล้ว เพราะโรงงานต่างๆในจีนของบริษัทสหรัฐก็เริ่มโดนปิด
14 Feb - มีรายงานผู้เสียชีวิตคนแรกในยุโรป
23 Feb - ตัวเลขผู้ติดเชื้อดีดขึ้นในอิตาลี

ถึงแม้หลายๆท่านอาจจะคิดว่าข่าวเหล่านี้ยังไม่มีใครคิดว่าจะกระทบกับเศรษฐกิจสหรัฐโดยตรงทำให้ยังไม่มีใครเทขาย

ส่วนที่ผมมองว่าถูกต้องทีเดียวเลยก็คือส่วนที่บอกว่า #ยังไม่มีใครเทขาย ใช่แล้วครับ นั้นคือ Point สำคัญที่ผมอยากจะชี้ให้เห็นในบทความนี้ แต่ที่ยังไม่เทขายไม่ใช่เพราะว่านักลงทุนยังไม่ได้รับรู้ข่าวร้ายๆหรอกนะครับ ทุกๆคนนั้นอ่านข่าวเดียวกับหมดว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นถือเป็นข่าวร้ายต่อเศรษฐกิจโลกเราทั้งสิ้น ทุกๆกองทุนใหญ่ๆและนักลงทุนที่มีประสพการณ์นั้นก็ต่างทราบกันดี

แต่เหตุผลที่ตลาดยังไม่ลงก็เพราะพวกเขามองไปรอบข้างแล้ว คนอื่นๆส่วนใหญ่ยังไม่เทขาย เทรนด์ของราคาทางเทคนิคยังคงขึ้นไปเรื่อยๆ ต่อให้มีข่าวที่รุนแรงเท่าไหร่กองทุนส่วนใหญ่ก็จะยังไม่เทขายหรอก ทุกๆคนอยากตามเทรนด์ พอไม่มีแรงเทขาย #ราคาตลาดหุ้นก็จะไม่ลง

แล้วทำไมกองทุนใหญ่ๆถึงยังเทขายถ้าเริ่มมีข่าวร้ายออกมาแล้ว ?

ตลาดหุ้นสหรัฐนั้นยังทำ New High อยู่เลยในช่วงที่เชื้อเริ่มระบาดในยุโรปแล้ว แต่เป็นเพราะกองทุนใหญ่ๆเขารู้ดีครับว่า #ราคาสินทรัพย์สามารถซื้อหรือขายอยู่ในราคาที่สูงหรือต่ำกว่ามูลค่าพิ้นฐานได้เป็นเวลานาน โดยเฉพาะเมื่อราคากำลังทำ New High ใหม่ๆเรื่อยๆยิ่งไม่อยากมีใครตกรถไฟ เว้นแต่ว่ากองทุนนั้นมั้นใจกับข้อมูลจริงๆและต้องเป็นข้อมูลที่ไม่มีใครคนอื่นรู้กันอย่างกว้างขวาง

อันนี้อยากยกตัวอย่าง ไมเคิล เบอร์รี่ จากเรื่อง The Big Short ที่ได้รีวิวและสรุปไปเมื่อวาน หลังจากที่เบอรี่ได้ค้นพบข้อมูลว่าเกิดฟองสบู่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐและได้ทำการ Short Position ไปนั้น ต่อให้หัวหน้ากองทุนอื่นๆได้ข้อมูลเหล่านี้ว่ามีสินเชื่อบ้านที่กำลังถูกปล่อยกู้ให้คนเครดิทต่ำ ไปซื้อบ้านเก็งกำไรโดยที่ไม่มีใครอยู่จริง ต่อให้ทุกๆคนทราบข้อมูลเดียวกันตราบใดที่ราคาบ้านยังขึ้น New High อยู่เรื่อยๆ ก็ไม่มีใครอยาก Short ครับ

เป้าหมายของนักลงทุนทุกๆคนนั้นคืออย่างอยู่ข้างของตลาดที่มีคนอยู่เยอะสุด อยู่ฝั่งที่เทรนด์กำลังชัดเจน Trend is your friend

แล้วอย่างนี้การตามข่าวนั้นจะมีประโยชน์อะไร ?

ถึงแม้ข่าวที่ออกมานั้นจะไม่ได้เป็นตัวเปลี่ยนราคาตลาด แต่ข่าวต่างๆนั้นสามารถทำให้ #คนเปลี่ยนใจจากข้างที่ตัวเองอยู่ เช่นในเคสของไวรัสโควิดนี้ ตั้งแต่ที่เริ่มมีข่าวการติดเชื้อในสหรัฐ ตั้งแต่เริ่มระบาดในยุโรป เชื่อว่าข่าวต่างๆนี้ทำให้นักลงทุนที่ถือ Long Position (ซื้อหุ้น) อยู่นั้น ค่อยๆทยอยเปลี่ยนใจกลับไปเป็นขายหรือปิด Position ไปบ้างแล้ว แต่เพราะคนที่เปลี่ยนใจนั้นยังไม่เกินครึ่งของตลาดราคาจึงยังไต่สูงขึ้นไปเรื่อยๆ

เมื่อไหร่ก็ตามที่ข่าวยิ่งออกมาแย่ขึ้นและแย่ขึ้น คนก็จะเริ่มเปลี่ยนข้างมากขึ้น จนกระทั่งถึงวันที่มีคนกลับเป็นขายมากกว่าซื้อเทรนด์ของตลาดจึงเปลี่ยนเป็นขาลงทันที และเราก็จะเห็นได้ว่าตลาดนั้นลงแรงมากทั้งๆที่ระหว่างทางจะเริ่มมีข่าวดีเรื่องการอัดฉีดของรัฐบาลมากขึ้นแล้วก็ตาม

นอกจากข่าวและข้อมูลที่เปลี่ยนไปนั้น มีอะไรอีกที่ทำให้นักลงทุนเปลี่ยนข้าง ?

จุดตัดหรือระดับที่สำคัญทางเทคนิค เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ซื้อผู้ขายเปลี่ยนฝั่ง เพราะผู้เล่นในตลาดนั้นมีหลายแบบมาก บางคนหรือบางโปรแกรมนั้นก็เข้าซื้อขายเพียงแค่ดูจากสัญญาณทางเทคนิคเพียงอย่างเดียว ทำให้เมื่อราคาแค่เปลี่ยนถึงบางจุด ต่อให้มีข่าวที่ดีออกมาแค่ไหนหรือไม่มีข่าวออกมา ผู้เล่นเหล่านั้นก็พร้อมเปลี่ยนจากซื้อเป็นขาย

จากตัวอย่างเรื่องไวรัสเมื่อกี้ หลายๆนักลงทุนรู้แล้วว่ามีข่าวร้ายออกมาเรื่อยๆ แต่หลายฝั่งกำลังรอราคาให้หลุดจุดทางเทคนิคก่อนแล้วตัวเองจึงจะเปลี่ยนกลับข้าง Position ของตัวเอง เพราะจุดตัดทางเทคนิคนั้นแหละคือจุดที่คนเริ่มเปลี่ยนด้านตรงกันข้างกันเกินไปกว่าครึ่งแล้ว

แล้วทำไมปัจจุบันตอนนี้ตลาดมีแต่ข่าวร้ายๆแล้วทำไมตลาดหุ้นสหรัฐถึงยังไม่ลงซักที ?

อย่างที่บอกครับเราจะดูแต่ข่าวอย่างเดียวไม่ได้ เมื่อวันจันทร์ที่ 23 มีนาคมที่ทาง FED ได้ออกมาประกาศ QE จำนวนไม่อั้นและทางรัฐบาลสหรัฐอนุมัติเงินอัดฉีดอีก 2 ล้านล้านเหรียญนั้นเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของตลาด วันนั้นเราจะเห็น Volume ของนักลงทุนเข้าไปถือ Long position เยอะมากในช่วงวันนั้น และทุกคนก็กำลังใช้จุดต่ำสุดของวันนั้นเป็น #จุดเทคนิคที่สำคัญที่สุด ของตลาดในเวลานี้ หากว่าตลาดยังไม่หลุดเกิดจุดนี้ก็จะยังไม่เทขาย Long position ทั้งหมด แต่ในเวลาเดียวกันนั้นหากหลุดก็จะมีแรงซื้อที่เปลี่ยนเป็นขายเข้ามาเยอะมาก และเชื่อว่าตลาดอาจจะลงได้อีก 10-20% เลยทีเดียว

นับตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคมเป็นต้นมา นักลงทุนต่างๆที่ยังเหลือสัดส่วนเงินสดต่างๆก็ทยอยเข้าซื้อหุ้นเก็บสะสมไว้ และยิ่งวันยิ่งนานไปถ้าตลาดยังไม่หลุดแนวรับนี้ก็จะมีเงินเข้ามาซื้อมากขึ้นเรื่อยๆ เว้นแต่ว่าข่าวร้ายที่ออกมาจะเป็นอะไรที่สาหัสเพราะให้คนเหล่านี้เทขายหุ้นออก

แล้ว #สรุปตลาดปัจจุบันผ่านจุดต่ำสุดของช่วงวิกฤตไวรัส Covid-19 ไปแล้วหรือยัง ?

บอกตามตรงว่าไม่มีใครรู้ได้ แม้แต่คุณเป็นกองทุน Hedge Fund ที่มีข้อมูลมากที่สุดก็ตาม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณ #จะลงทุนหรือเทรดในตลาดตอนนี้ไม่ได้ นะครับ เพียงแต่คุณต้องจัดแผนการเข้าตลาดการเข้าใจข้อมูลเรื่องการระบาดของไวรัส โครงสร้างของการคุมโรคในสหรัฐ และจุดที่สำคัญทางเทคนิคต่างๆให้ดี

กลับมาที่ทำไมถึงไม่มีใครรู้ว่าตลาดผ่าน Bottom ไปแล้วหรือยัง ? ผมอยากให้ดูที่ VIX Index ที่เราพูดถึงบ่อยๆครับลองหารายละเอียดดูในเพจได้เลย เพราะดัชนีวัดความผันผวนนี้มีความสำคัญต่อสัญญาณในการลงทุนมาก เราเคยเล่าไปแล้วว่าตอนนี้ VIX ที่เทรดอยู่ที่ 45 จุดนั้น สูงกว่าระดับเฉลี่ยที่ 20 ที่เคยเทรดมาในอดีตนั้นมาก เมื่อ VIX Index สูงนั้นหมายถึงสภาพตลาดที่ไม่ธรรมดา กำลังมีปัจจัยที่อาจจะเข้ามาเซอไพรซ์ตลาดได้เต็มไปหมด พวกกองทุนใหญ่ๆเองก็ไม่รู้ว่าอะไรจพเกิดถึงเข้าไปซื้อ VIX Index นี้

ผมอยากจะให้ทุกท่านจับตา VIX Index นี้ให้ดี เพราะเมื่อไหร่ที่ VIX Index #กลับมาอยู่ที่ 20 อีกครั้งจะหมายความว่าตลาดกำลังจะกลับสู่ขาขึ้นอีกครั้ง ถ้าจะให้ต้องอธิบายตรงนี้นั้นคงต้องเขียนอีก 10 หน้า 555 แต่สั้นๆคือในฐานะ Option Trader ผมอยากแนะนำว่าถ้า VIX Index กำลังลดลงและราคาหุ้นยังไม่ขึ้นสูงเกินไป นั้นคือเวลาที่ดีที่คุณควรจะค่อยๆทยอยเข้าไปซื้อหุ้น แต่ถ้าถึงเวลาที่ VIX ลงมาแต่ราคาหุ้นสูงไปไกลแล้วอันนั้นแล้วแต่การวิเคราะห์ของคุณเองอีกที ในทางกลับกันถ้าหุ้นกำลังลงแต่ VIX ขึ้นไม่มากนั้นก็เป็นสัญญาณที่ดีว่าตลาดยังมองว่าแนวรับเก่ายังไม่น่าหลุด ก็เหมาะที่จะเข้าไปเฉลี่ยการลงทุนของเรา แต่ถ้าราคาลงและ VIX ขึ้น นั้นคือสัญญาณว่าคุณตั้งเกมส์รับให้ดีปัจจัยผันผวนกำลังเพิ่มขึ้น

แผนการเทรดที่ผมวางในตอนนี้

ให้มองว่าทุกอย่างนั้นเกิดขึ้นได้เสมอ แม้ผมจะเพิ่งเทรดอย่างจริงจังมา 13 ปี แต่ผมก็ได้เห็นเหตุการณ์ Black Swan มาหลายครั้งแล้ว อะไรที่เราไม่คาดคิดมันสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ เพราะฉะนั้นอย่าใช้กระสุนของคุณหมดไปกับการตัดสินใจเพียงครั้งเดียว ลองดูว่าถ้าราคาเปลี่ยนไปในแนวไหนเราจะทำอะไรได้ต่อบ้าง

ตลาดวันนี้ยังมีโอกาสลงต่อได้แน่ๆ คำถามแรกที่ควรถามตัวเองนั้นคือสิ่งคุณเทรดนั้นคุณสามารถเข้าออกได้เร็วแค่ไหน ?

ถ้าเป็นการเทรดแบบเข้าออกได้เร็ว ผมจะตั้ง Stop Loss ไว้ต่ำกว่าระดับต่ำสุดของแนวรับที่เราพูดถึงกันมา แล้วค่อยๆทยอยเฉลี่ยเข้าตลาดตามข่าว + ความเคลื่อนไหวของราคา + VIX ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างที่กล่าวไว้ด้านบน และทยอยขายทำกำไรทุกๆครั้งที่ราคาดีดขึ้นเกินแรงซื้อปกติ

ถ้าเป็นการลงทุนที่คุณไม่สามารถเข้าออกตลาดได้เร็ว ผมแนะนำว่าการแบ่งสัดส่วนของเงินนั้นสำคัญมากที่สุด เพราะคุณของไม่สามารถตั้ง Stop Loss ได้ เพราะฉะนั้นแบ่งกระสุนของคุณให้ดี ผมว่าแนวรับที่จะค่อยๆเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆก็พอจะเหมาะที่จะเข้าแบ่งส่วนลงทุนในระดับนี้บ้างแล้วแม้ว่าข่าวลบจะยังเยอะอยู่ เพราะราคานั้นไม่ได้ขยับตามแค่ข่าวอย่างที่เราได้คุยไป

สรุป - มาถึงตรงนี้ผมคิดว่าผมเขียนยาวไปกว่าความตั้งใจในตอนแรกแล้ว และวันนี้ไม่ได้ตั้งใจมาวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental) เพราะเดี๋ยวจะยิ่งยาว เรื่องตลาดนั้นเราเขียนเรื่อยๆอยู่แล้วตามโพสต์อัพเดท ว่าตลาดคงรับรู้ในราคาว่าเมืองต่างๆยังถูกปิด 1-2 เดือน ถ้าไม่เกินกว่านี้คงพ้นจุดต่ำสุดแล้วเพราะจะเกิดการใช้จ่ายจริงอีกครั้ง แต่ถ้าจะนานกว่านั้นแนวรับคงเอาไม่อยู่แน่ๆ

วันนี้ตั้งใจมาบอกว่าทำไมปัจจัยพื้นฐานที่ยังแย่อยู่แล้วราคาอาจยังไม่ลงต่อก็ได้ ให้ทราบก่อนและต้องขอย้ำว่าที่คือมุมมองของการเทรดส่วนตัวที่อยากจะแชร์ ไม่ได้เป็นการแนะนำให้ลงทุนตามหรืออย่างไรทั้งสิ้น ท่านใดที่มีความเห็นต่าง รบกวนแชร์ความเห็นเข้ามาได้เรื่อยๆกันเลยครับ ผมเองก็พยายามที่จะทำความเข้าใจตลาดให้มากขึ้นเสมอ เพราะต้องขอเตือนนักลงทุนมือใหม่ทุกๆท่านเลยครับว่ามันไม่ใช่เรื่องๆง่ายๆที่จะเข้าใจตลาด แต่อย่าเพิ่งท้อครับเพราะถ้าคุณเพิ่งเริ่มลงทุนเวลานี้เป็นเวลาที่เหมาะแล้ว คุณแค่ต้องศึกษาให้ลึก เป็นกำลังใจให้กับทุกๆท่านครับ

สุดท้ายนี้อยากฝากไว้อีกทีว่าท่านใดถ้าสนใจเทคนิคและมุมมองในการเทรดแนวนี้จากทางเรา สามารถอ่านย้อนหลังได้ผ่าน #KPTradingTips นะครับ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกดไลค์และแชร์ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์นะครับ ขอบคุณมากๆครับ

#OilTradingKP

 

John Traczyk

การรบกวนอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 20 ชั่วโมงใน Schumann Resonance เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2020 ทำให้มีแอมพิจูดถึง 76
.
Prolonged 20 hour disturbance in the Schumann Resonance on April 5, 2020 spiking up to an amplitude of 76.

 

Breaking News!

นายบอริส จอร์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ อาการแย่ลงจนทีมแพทย์ต้องย้ายเข้าไปห้องดูแลใกล้ชิด (intensive care unit)

เท่าที่อ่านรายละเอียด
ถือว่าอาการค่อนข้างน่าวิตกกังวลครับ

รอติดตามข่าวนี้กันอย่างใกล้ชิด

#WizardKidTrader

https://www.bloomberg.com/news/arti...on-triggers-questions-over-who-is-running-u-k