ติดตามสถานะการณ์

เหมือนโดนตบหน้า!!
“คลัง” เตรียมยึดเงิน 5 พันบาทจากสาวโพสต์ฟลุกได้รับการเยียวยาว่างงาน

“ผอ.สศค.” เผยส่งทีมตรวจสอบสาวที่โพสต์ข้อความบนโลกออนไลน์ ได้เงินเยียวยาว่างงานจากโควิด-19 เดือนละ 5 พันบาทมาอย่างฟลุกๆ พร้อมเตรียมเรียกเงินคืน และส่งกระทรวงดิจิทัลฯ เข้าดำเนินการเอาผิดกรณีผู้ที่โพสต์ข้อความอันเป็นเท็จ โดยระบุตนเองได้รับเงิน ทั้งที่ไม่ได้รับเงินจริง

อ่านต่อ>>https://mgronline.com/stockmarket/detail/9630000036427

#เราไม่ทิ้งกัน #เงินเยียวยาว่างงาน #กระทรวงการคลัง #กระทรวงไอซีที #แจกเงิน5พัน

 

#วันนี้คุณอยู่ในโซนไหน.. ของโควิด -19

 

อุทาหรณ์ไม่อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ..ลำปางหลุดจังหวัดปลอดเชื้อ พบผู้ป่วยยืนยันติดโควิด-19 เพิ่มอีก รวม 4 ราย ล้วนเป็นคนในครอบครัวแม่ค้าสาวตลาดรถไฟรัชดาฯ ที่เดินทางจากพื้นที่เสี่ยงกลับบ้าน

อ่านต่อ >https://news1live.com/detail/9630000036286
............................................
● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

 

#สถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ในอาเซียน
ณ วันที่ 8 เมษายน 2563 เวลา 19.45 น.

จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ในแต่ละประเทศ ในรอบการรายงานล่าสุด

-อินโดนีเซีย +218 ราย (รวมติดเชื้อสะสม 2,956 ราย)
-มาเลเซีย +156 ราย (รวมติดเชื้อสะสม 4,119 ราย)
-ไทย +111 ราย (รวมติดเชื้อสะสม 2,369 ราย)
-ฟิลิปปินส์ +106 ราย (รวมติดเชื้อสะสม 3,870 ราย)
-สิงคโปร์ +106 ราย (รวมติดเชื้อสะสม 1,481 ราย)
-เวียดนาม +6 ราย (รวมติดเชื้อสะสม 251 ราย)
-กัมพูชา +2 ราย (รวมติดเชื้อสะสม 117 ราย)
-ลาว +1 ราย (รวมติดเชื้อสะสม 15 ราย)
-บูรไน +0 ราย (รวมติดเชื้อสะสม 135 ราย)
-พม่า +0 ราย (รวมติดเชื้อสะสม 22 ราย)

ประมวลข้อมูลโดย
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
กระทรวงการอุดมศึกษาฯ (อว.)

 

#น่ากลัวกว่าโควิดคือพายุ
คือ..ไม่เหลืออะไรเลยคะ
บ้านหนู..หมดจิงๆคะ
บ้านหนองงูเหลือม.ต.บ้านเพชร.อ.ภูเขียว.จ.ชัยภูมิ
________________________
ให้กำลังใจครอบครัวน้อง ใครอยู่ใกล้ก็แบ่งปันน้ำใจช่วยเหลือกันก่อนนะครับ #คนชัยภูมิไม่แล้วน้ำใจ
______________
ติดต่อน้อง FB: https://www.facebook.com/profile.php?id=100008141206877

 

ช่างภาพอิสระ เชียงใหม่ รับแล้ว 5 พัน ส่วนนักดนตรีรับจ้าง รอต่อไป
ช่างภาพอิสระที่เชียงใหม่ได้รับโอนเงินเยียวยาจากรัฐ 5 พันบาทแล้ว ส่วนนักดนตรีอิสระยังไม่ได้ หวังช่วยต่อชีวิต แม้จะพอเพียงแค่ค่าเช่าห้องพักก็ยังดี
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

 

#พบCovid_19บนเรือสำราญอีกแล้ว
#ผู้โดยสารติดเชื้อเกือบ60%!!

ทัวร์เรือสำราญเจอหายนะอีกแล้วครับท่าน เมื่อ MV Greg Mortimer เรือสำราญสัญชาติออสเตรเลีย ของบริษัท Aurora Expeditions พบผู้โดยสารติดเชื้อบนเรือ ขณะล่องเรือมุ่งหน้าสู่ขั้วโลกใต้ พร้อมผู้โดยสารบนเรือกว่า 217 คน

หลังจากที่ออกเดินทางเมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา ระหว่างทางแพทย์ประจำเรือพบผู้โดยสารติดเชื้อ Covid-19 ขึ้นเรือมา 1 คน จากนั้นก็กระจายเป็นไฟลามทุ่ง แม้กระทั่งหมอบนเรือยังติดเชื้อด้วย จนล่าสุดตอนนี้ เรือเทียบอยู่นอกชายฝั่งประเทศอุรุกวัย ในอเมริกาใต้ พบผู้ติดเชื้อแล้วถึง 128 คน หรือเกือบ 60% ของผู้โดยสารทั้งหมด ในจำนวนนั้นมีถึง 6 คน ที่อาการหนัก ต้องส่งตัวเข้าโรงพยาบาลทันที

ผู้โดยสารมีทั้งคนออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ยุโรป และอเมริกา ตอนนี้ทาง Aurora บริษัทเจ้าของเรือสำราญ สามารถประสานงาน ส่งเครื่องบินเหมาลำจากออสเตรเลียมารับผู้โดยสารชาวออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์กลับได้

โดยลูกค้าชาวออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ที่มีอยู่ราวๆ 96 คน จะต้องบินไปลงที่เมลเบิร์นก่อน และต้องถูกกักตัว 14 วันก่อนจะกลับบ้านได้

แต่ค่าใช้จ่ายในการส่งตัวกลับต่อคน สูงถึงคนละ 10,000 ดอลลาร์ ที่ทาง Aurora กำลังสอบถามไปทางรัฐบาลออสเตรเลียว่าพอจะช่วยเหลืออะไรได้หรือไม่

อ้าว! แล้วผู้โดยสารที่ไม่ใช่คนออสเตรเลีย กับ นิวซีแลนด์หล่ะ

อันนี้ก็โชคร้ายหน่อย เพราะผู้โดยสารสัญชาติอื่น ที่ติดเชื้อต้องถูกกักโรคบนเรือ จนกว่าจะหายดี โดยจะมีคุณหมอขึ้นไปดูแล ตรวจเชื้อให้ทุกๆ 2 วัน

เป็นเรื่องสุดเศร้าจริงๆ ติดเชื้อ Covid-19 ก็เศร้าแล้ว ยังต้องถูกกักโรคบนห้องโดยสารแคบๆบนเรือ ในประเทศต่างบ้าน ต่างเมือง เจอแต่คนแปลกหน้า แถมอยู่ไกลบ้านอีกต่างหาก

ก็ยังนึกไม่ออกว่า ธุรกิจเรือสำราญหลัง Covid-19 จะเป็นอย่างไร จะมีมาตรการป้องกันเหตุโรคระบาดได้แค่ไหน เพราะดูเหมือนว่าการเดินทางบนเรือ ช่างเปราะบางกับการโจมตีของโรคระบาดจริงๆ

แหล่งข้อมูล

https://www.sbs.com.au/news/greg-mo...as-number-of-coronavirus-cases-on-board-grows
https://edition.cnn.com/2020/04/07/...r-cruise-ship-coronavirus-intl-hnk/index.html
https://www.channelnewsasia.com/new...-australia-new-zealand-greg-mortimer-12620210
https://www.auroraexpeditions.com.au/asg80-update/

 

วันที่ 8 เม.ย. 63 เวลา 11.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงว่า ขณะนี้ได้มีการขยายขอบเขตนิยามของผู้ป่วยที่ต้องสอบสวนโรค ซึ่งจะได้รับการตรวจฟรีจากรัฐบาล
.
โดยเพิ่มกลุ่มที่มาจากต่างประเทศ มีอุณหภูมิ 37.3 ขึ้น หรือมีการของระบบทางเดินหายใจ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ หายใจเหนื่อย หายใจลำบาก จะมีไข้หรือไม่หากมีอาการนี้สามารถตรวจได้ กลุ่มที่เฝ้าระวังในสถานพยาบาล มีอุณหภูมิ 37.5 ขึ้นไป มีไข้ และมีอาการข้างต้น หรือปอดอักเสบ หรือมีประวัติเดินทางไปพื้นที่ที่มีการติดเชื้อ กลุ่มเฝ้าระวังบุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุข
.
โดยให้อำนาจแพทย์ผู้ตรวจหากสงสัยสามารถตรวจได้เลย กลุ่มเฝ้าระวังการป่วยเป็นกลุ่มก้อน หากใครอยู่รวมตัวกันเป็นกลุ่มในสถานที่ทำงาน หากมีอาการป่วยพร้อมๆ กันสามารถเข้าไปตรวจได้เลย อย่างไรก็ตาม ส่วนที่กังวลกันว่าประเทศไทยตรวจน้อยเลยพบผู้ป่วยน้อยนั้น จากการประเมินตัวเลขทั่วโลกจะพบว่าถ้าเราเลือกตรวจในจุดที่มีความเสี่ยงจะได้ผลไม่ต่างกัน
.
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ยกตัวอย่างอิตาลี มีการตรวจ 11,429 รายต่อประชากร 1 ล้านคน ซึ่งอิตาลีมีประชากร 60.5 ล้านคน ตรวจเจอ 18.65% ขณะที่เกาหลีใต้มีการตรวจ 9,999 รายต่อประชากร 1 ล้านคน ตรวจเจอ 2.19% เมื่อเทียบเคียงกับไทย เราตรวจ 1,079 รายต่อประชากร 1 ล้านคน ตรวจเจอ 2.88% เรากับเกาหลีใต้ไม่ต่างกัน
.
ถึงแม้ในห้องปฏิบัติการเราจะตรวจได้ 7 หมื่นกว่าคน แต่ก็ได้ผลใกล้เคียงกัน เหมือนกับที่ จ.ภูเก็ต ต้องขีดวงใกล้ๆ คนอื่นที่ไม่เสี่ยงก็ไม่ต้องตรวจให้เสียเงิน ประเทศจะได้ประหยัดและเหมาะสม
.
ส่วนข้อสังเกตว่ารัฐบาลหลอกตัวเลขว่าผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นไข้หวัดใหญ่หรือไม่นั้น ยืนยันว่าเราซ่อนตัวเลขไม่ได้ เพราะแพทย์ผู้ตรวจรู้ว่าคนไข้เป็นอะไร ถ้ารู้ว่าเป็นโควิด-19 ทุกคนกังวลหมด แพทย์ก็กลัว คนไข้ก็กลัว เพราะมีคนตายจึงปิดไม่มิด ช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวปิดไม่มิด แต่นี่เชื้อโรคตัวนิดหน่อย ปิดนิดหน่อยที่ไหนก็รู้
.
ยิ่งมีโซเชียล ยิ่งปิดไม่ได้ คนที่ทำงานในห้องแล็บก็กลัว ถ้าเป็นแล้วมาปิดกันก็มีเคืองกัน มันไม่มีทางปิดซ่อนได้ เราได้รับนโยบายมาทุกระดับ ไม่เคยให้ซ่อน เพราะถ้าซ่อนผลเสียจะอยู่กับประชาชน ขอให้มั่นใจ
.
ทั้งนี้ปัจจุบันเราจะเพิ่มห้องปฏิบัติการจากเดิมวันที่ 7 เม.ย.มี 80 ห้อง วันที่ 8 เม.ย.จะเปิดให้ได้ 110 ห้องทั่วประเทศ ส่วนที่ในต่างประเทศมีการพัฒนาการตรวจ เช่น ไดรฟ์ทรู ซึ่งเอกชนบางแห่งทำแล้ว โดยกระทรวงสาธารณสุขจะพัฒนาขึ้นมา
.
นพ.ทวีศิลป์กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผลการปฏิบัติงานช่วงประกาศเคอร์ฟิววันที่ 7 เม.ย.ต่อเนื่องวันที่ 8 เม.ย. พบว่าผู้ฝ่าฝืนประกาศเคอร์ฟิวลดน้อยลง เหลือ 1,156 ราย ถือว่ายังไม่น่าดีใจ ต้องลดลงให้เหลือหลักร้อยหรือหลักหน่วยให้ได้ โดยพบว่ามีการมั่วสุม ชุมนุม รวมกลุ่ม 72 ราย ตักเตือน 135 ราย ดำเนินคดี 949 ราย
.
ส่วนในช่วงเทศสงกรานต์จะมีการคุมเข้มเรื่องการจำหน่ายสุรา หรือเมาไม่ขับหรือไม่นั้น เราอยู่ในช่วงโรคระบาด แค่นี้ก็สาหัสแล้ว ส่วนด้านอื่นๆ ขอให้ลดลง อยู่ที่แต่ละจังหวัดจะมีการประกาศในเรื่องของการห้ามจำหน่ายสุราหรือไม่อย่างไร แต่กระทรวงวัฒนธรรมได้รณรงค์ให้ปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมสงกรานต์ปีนี้ไปก่อน แทนที่จะรดน้ำขอพรผู้ใหญ่ก็ให้เว้นระยะห่างผู้ใหญ่ก่อน อีกทั้งวัฒนธรรมการดื่มไม่ใช่วัฒนธรรมของคนไทยแน่นอน
.
นพ.ทวีศิลป์กล่าวทิ้งท้ายว่า ในวันที่ 8 เม.ย. เวลา 15.30 น. จะมีคนไทยเดินทางกลับจากญี่ปุ่นมาลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ จำนวน 32 คน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมการไว้ทุกอย่างแล้ว เมื่อกลับมาต้องไปสถานที่ที่รัฐจัดให้เท่านั้น มีหลายคนไม่เคยนอนสองคน แต่เนื่องจากที่พักมีข้อจำกัด ท่านต้องอยู่ในข้อตกลงของเรา ไม่ใช่โรงแรมที่จะมาเลือกเตียงเดี่ยว เตียงคู่ เตียงคิงไซส์ ไม่ได้ เพราะเป้าหมายของเราคือการควบคุมโรคมากกว่าความสะดวกความสบาย จึงต้องแลกกัน
.

-------------------------------
แหล่งที่มา

https://mgronline.com/politics/detail/9630000036356

-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision

 

กระทรวงสาธารณสุขได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่าโควิด-19 อยู่ที่ไหนเยอะที่สุด โดยเขียนบรรยายว่า สารคัดหลั่ง คือสารที่ร่างกายสร้างขึ้นมา เมื่อติดเชื้อโควิด-19 เชื้อจะไปสะสมในสารคัดหลั่งชนิดต่างๆ ในปริมาณไม่เท่ากัน ซึ่งเชื้อโควิด-19 จะเข้าไปอยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกายดังนี้
...

น้ำตา - มีเชื้อโควิด-19 ประมาณ 1.1%
.

น้ำมูก - มีเชื้อโควิด-19 มากที่สุดประมาณ 97.9%
การตรวจหาเชื้อ จึงตรวจจากน้ำมูกเป็นหลัก
.

น้ำลาย - มีเชื้อโควิด-19 ประมาณ 88.6%
.

ลำคอ - มีเชื้อโควิด-19 ประมาณ 60%
หมอจะเก็บตัวอย่างจากบริเวณคอ เพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19
.

เลือด - มีเชื้อโควิด-19 ประมาณ 12.3%
การบริจาคต้องคัดกรองอย่างดี ถ้าไม่แน่ใจว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ อย่าเพิ่งมาบริจาคเลือด
.

อุจจาระ - มีเชื้อโควิด-19 ประมาณ 70.8%
การเข้าห้องน้ำสาธารณะอย่าลืมปิดฝาก่อนกด เสร็จแล้วล้างมือด้วยสบู่อย่างน้อย 20 วินาที
.
บางคนมีเชื้อโควิด-19 แต่ไม่มีอาการ แต่ก็ยังส่งผ่านเชื้อให้คนอื่นได้

-------------------------------
แหล่งที่มา

https://www.springnews.co.th/thailand/644954

-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision

 

วันนี้โฆษกกระทรวงกลาโหม พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ ออกมาแถลงถึงการพิจารณาการตัดงบประมาณ 2563 ในส่วนของโครงการ และการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ เพื่อนำมาเยียวยาประชาชนจากผลกระทบการระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ว่า
.
กระทรวงกลาโหมได้มองสถานการณ์ และคิดไว้ล่วงหน้า และทราบดีถึงเหตุผลความจำเป็นของสถานการณ์เหล่านี้ดี เพราะประเทศชาติต้องไปต่อ และต้องฟื้นฟูเศรษฐกิจ สังคม โดยในส่วนของกระทรวงกลาโหม และเหล่าทัพทำหน้าที่ป้องกันประเทศ ช่วยเหลือประชาชน และสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาประเทศขณะเดียวกันต้องคงสภาพความพร้อมของกำลังพล และยุทโธปกรณ์ในการปฏิบัติภารกิจป้องกันประเทศดูแลความปลอดภัย และผลประโยชน์ของประเทศชาติ
.
โฆษกกระทรวงกลาโหมกล่าวต่อว่า โครงการไหนสมควรชะลอก็ควรชะลอ โครงการไหนสามารถดำเนินการในปีต่อๆไปได้ โดยไม่กระทบต่อสัญญากับต่างประเทศก็ต้องทำ ขณะนี้เหล่าทำกำลังพิจารณาอยู่ว่าจะมีโครงการใดบ้างในงบประมาณ 2563 และจะหารือกันต่อเนื่องไปถึงโครงการในงบประมาณ2564 ในภาพรวมด้วย หลักการทบทวนโครงการคือ ดูการดำรงสภาพความพร้อมต่อไป ส่วนการเพิ่มขีดความสามารถก็ให้ชะลอไป และต้องไม่กระทบต่อสัญญาที่ทำไว้กับต่างประเทศ
.
ขณะนี้งบประมาณ 63 ได้เริ่มการใช้จ่ายแล้ว ก็ต้องมาดูว่าจะเริ่มตัดโอนวันไหน เพราะโครงการต่างๆ เป็นงบฯผูกพัน ซึ่งเป็นเรื่องของทุกกระทรวงก็ต้องพิจารณาเช่นกัน ส่วนโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำลำที่ 2-3 พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า กองทัพเรือกำลังพิจารณาเรื่องสัญญา และข้อกฎหมายอย่างรอบคอบ ซึ่งต้องครอบคลุมถึงงบฯ ปี 64 ที่ต้องจัดสรรเพื่อฟื้นฟูประเทศชาติ ผลกระทบทางสังคม และเศรษฐกิจด้วย
.
-------------------------------
แหล่งที่มา

https://www.thaipost.net/main/detail/62532
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision

 

ผู้ใหญ่บ้าน ฉุน ส.อบต.ภูซาง ชักปืนกระหน่ำยิง 8 นัด เจ็บสาหัสคาด่านชุมชน.

เมื่อคืนวันที่ 7 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา พ.ต.อ.สูเมธ ก้อนคำ ผกก. สภ.ภูซาง จังหวัดพะเยา ได้รับแจ้งว่า มีเหตุใช้อาวุธปืนยิงกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสที่เกิดเหตุ บริเวณด่านชุมชนบ้านนาหนุน หมู่ที่ 2 ตำบลภูซาง อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา จากนั้น พ.ต.ท. พฤศธร มาอินทร์ รอง ผกก.สส.สภ ภูซาง ,พ.ต.ท.วีรศักดิ์ ชาวริม สวน.สส. สภ.ภูซาง พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ได้ลองพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ภายหลังไปถึงที่เกิดเหตุ พบ นายวินัย วงศ์ใหญ่ อายุ 56 ปี ตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2 ตำบลภูซาง อำเภอภูซาง ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนผู้บาดเจ็บทราบว่าญาติได้นำขึ้นรถยนต์กระบะไปส่งโรงพยาบาลเชียงคำ ก่อนหน้านี้

จากการสอบสวนนายวินัย วงศ์ใหญ่ ผู้ใหญ่บ้าน ได้เล่าว่าในขณะที่เกิดเหตุตนพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ชรบ.และ อปพร. ประมาณ 8 คนได้นั่งอยู่ภายในเต็นท์ด่านชุมชนบ้านนาหนุนซึ่งเป็นด่านชุมชนตามคำสั่งของนายอำเภอภูซาง ตาม พรก. ฉุกเฉิน ที่ถูกประกาศขึ้น

ต่อมาได้มี นายพรม ชุ่มเย็น อายุ 52 ปี มีตำแหน่งเป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลภูซาง (ส.อบต.) ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันได้เดินเข้ามาถ่ายรูปเจ้าหน้าที่ที่อยู่ภายในเต็นท์ จึงทำให้มีปากเสียงกันและมีการท้าทายกันไปมาทั้งสองฝ่ายจึงทำให้นายวินัย วงศ์ใหญ่ ระวับอารมณ์ไม่อยู่ ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.ยี่ห้อ CZ compact 75 ยิง นายพรม ชุ่มเย็น จำนวน 8 นัดซึ่งกระสุนเข้าตามร่างกายจำนวนหลายนัด ลงไปกองกับพื้น เบื้องต้นนายวินัย วงศ์ใหญ่ ผู้ก่อเหตุได้ยอมรับสารภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ณ.จุดเกิดเหตุและนำตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมที่สภ.ภูซาง

เวลาต่อมา นายวิรุฬห์ สุทธิวงศ์นายอำเภอภูซาง พร้อมด้วยปลัดอำเภอ เจ้าหน้าที่ อส. และ ร.ต.อ. อมร ใจดี พนักงานสอบสวน สภ.ภูซาง ได้เดินทางมาดูอาการของผู้ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาลเชียงคำ แต่ผู้บาดเจ็บอาการสาหัสจึงไม่สามารถให้ปากคำได้จึงเดินทางกลับ

ด้าน นายวีระกรณ์ ชุ่มเย็น อายุ 29 ปี บุตรชายของนายพรม ชุมเย็น ผู้บาดเจ็บ ให้การว่าหลังจากที่ผู้ใหญ่บ้านได้ชักอาวุธปืนยิงพ่อของตนแล้วก็หันปืนมาจะยิงตน ตนจึงกระโดดลงข้างทางบริเวณด่านชุมชนเพื่อหลบหนี

เมื่อผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นางเป็ง ชุมเย็น อายุ 52 ปี ภรรยาของผู้บาดเจ็บว่า มีเรื่องบาดหมางใจอะไรกันก่อนหรือไม่ ถึงได้เป็นให้เกิดยิงกันขึ้น นางเป็ง ชุมเย็น เล่าว่าสาเหตุน่าจะมาจากเรื่องการทำงานและไม่พอใจกันจนมาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น

แต่จากการสอบถามชาวบ้านในหมู่บ้านที่มายืนดูเหตุการณ์หลายคนเล่าคล้ายกันว่า ผู้ใหญ่บ้านผู้ก่อเหตุ กับ นายพรม ชุมเย็น ผู้บาดเจ็บ ไม่ลงรอยกันมานานแล้ว และมีปากเสียงกันมาโดยตลอด โดยก่อนหน้าเกิดเหตุ3วัน ผู้บาดเจ็บก็ได้เดินมาถ่ายรูปภายในเต้นท์ด่านชุมชนและแจ้งว่าจะนำรูปไปร้องเรียนในการทำงานของผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าว จนอาจเป็นเหตุให้ผู้ใหญ่บ้านเกิดความไม่พอใจสะสมจนทำให้ระงับอารมณ์ไม่อยู่และชักอาวุธปืนยิงในครั้งนี้

ภายหลังเกิดเหตุ พล.ต.ต. ธรรมศักดิ์ ปิ่นทอง ผบก. ภ.จว.พะเยา ได้เดินทางมาที่ สภ.ภูซาง เพื่อสอบสวนผู้ใหญ่บ้านปืนโหดด้วยตัวเอง พร้อมกับให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ที่เสียสละตั้งด่านดูแลประชาชน ตาม พรก.ฉุกเฉิน ส่วนเรื่องคดี พนักงานสอบสวน สภ.ภูซาง ก็จะได้ทำการสอบสวนผู้ต้องหาเพื่อเข้าสู่กระบวนการต่อไป.

 

ไขข้อข้องใจ หลายคนสงสัย 13 เมษายน นี้ ภูเก็ตจะปิดทุกพื้นที่หรือไม่อย่างไร ??
ทีมข่าวของเราหาคำตอบจากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดมาให้แล้วจร้า

ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เผยชัด 13 เมษายนนี้ เตรียมปิดพื้นที่ทุกตำบล ตามมติการประชุมร่วมกันระหว่างจังหวัดภูเก็ต และผู้นำท้องถิ่นในจังหวัดภูเก็ต เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19

❤❤ (8 เมษายน 2563) นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว NBT ภูเก็ต กรณีเตรียมปิดพื้นที่ทุกตำบลของจังหวัดภูเก็ต ในวันที่ 13 เมษายน 2563 ที่จะถึงนี้ เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19

✌✌ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ข้อเท็จจริงดังกล่าวเป็นมติจากการประชุมร่วมกันระหว่างจังหวัดภูเก็ต และผู้นำท้องถิ่นทั้ง 17 ตำบล 19 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2563 ซึ่งเห็นชอบร่วมกันที่จะปิดพื้นที่ทุกตำบล เพื่อลดการเคลื่อนย้ายบุคคลซึ่งอาจเป็นพาหะในการกระจายของโรค

✔✔ โดยที่ผ่านมาในระยะแรก ตั้งแต่มีคำสั่งปิดสถานที่เสี่ยงในพื้นที่ 6 ตำบล ได้แก่ ต.ป่าตอง ต.กะรน ต.ราไวย์ ต.กะทู้ ต.ฉลอง และ ต.ศรีสุนทร ผลการปฏิบัติปรากฏว่า ได้รับผลดีในการสอบสวนโรค ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น จึงมีมติที่จะปิดพื้นที่ทุกตำบลในจังหวัดภูเก็ต พร้อมกันในวันที่ 13 เมษายน 2563 เป็นต้นไป (จนครบกำหนด 14 วัน) ทั้งนี้ทางจังหวัดภูเก็ตอยู่ระหว่างการจัดทำคำสั่ง

ด้านว่าที่ร้อยตรี วิกรม จากที่ ปลัดจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า เบื้องต้นคำสั่งดังกล่าวจะให้อำนาจแก่นายอำเภอทั้ง 3 อำเภอ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหารือร่วมกัน เพื่อกำหนดจัดตั้งจุดตรวจคัดกรองอย่างเข้มงวด ส่วนการสัญจรไปมาของประชาชนในพื้นที่ตำบลนั้น ๆ ยังคงเดินทางได้เฉพาะในพื้นที่ตำบลที่ตนอาศัยอยู่ แต่เวลาในการสัญจรไปมาต้องเป็นไปตามประกาศของ พรก.ฉุกเฉิน อย่างไรก็ตามยังคงขอความร่วมมือประชาชน หากไม่จำเป็นขอให้อยู่กับบ้าน หยุดการเดินทาง เพื่อในระยะเวลา 14 วันต่อจากนี้ เราทุกคนจะร่วมกันหยุดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ...//

ทั้งนี้ รอคำสั่งอย่างเป็นทางการจากจังหวัดภูเก็ต

CR. ข่าว NBT PHUKET
#ผู้พิทักษ์เกาะภูเก็ต
#ปิดก่อนเพื่อรักษาเกาะภูเก็ต
#เพื่อรักษาคนไทยทั้งประเทศ
#SAVEPHUKET
#ANTICOVID19
#NBTPHUKET

 

ในอาเซียน ไทยน่าจะน้อยที่สุด ตัวเลขมี่อ้างอิง มันเเค่ตรวจเจอ

 

คุณคิดว่า สิงคโปร์ขายเพราะอะไร แล้วซาอุดิอาระเบียเก็บหุ้นเพราะอะไร?
.
#ลงทุนนอกโลก โดยเพจ #ถามอีกกับอิก
.
=============
.
"เทมาเส็ก" บริษัทลงทุนสิงคโปร์ ใช้จังหวะที่ตลาดหุ้นเริ่มฟื้นทยอยขายหุ้นเก็บเงินเข้ากระเป๋าไป 779 ล้านเหรียญ / 2.3 หมื่นล้านบาท
.
1. ขายหุ้น Intuch ของไทย 186 ล้านเหรียญ (ขายบิ๊กล็อตไปเมื่อวาน)
.
2. ขายหุ้น Celltaion และ บริษัทลูก ยักษ์ใหญ่ด้านธุรกิจยา ในเกาหลีใต้ 507 ล้านเหรียญ
.
ปล.ขนาดสินทรัพย์ที่เทมาเส็กบริหารมีมูลค่าประมาณ 7.5 ล้านล้านบาท
.
=============
.
ในขณะที่ กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติซาอุดิอาระเบีย เมื่อ 2 วันที่แล้วจัดหนัก ซื้อหุ้นเรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดในโลก
.
1.เป็นการซื้อในสัดส่วน 8.2% หลังจากที่หุ้น Carnival Corp. ร่วงตั้งแต่ต้นปี 80% เพราะความกังวลโควิด
.
2.Carnival มีส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 44.1% มีรายได้ปี 2017 มีสูงถึง 5.6 แสนล้านบาท และกำไร 8.4 หมื่นล้านบาท
.
3.มูลค่าของการเข้าซื้อรอบนี้คือประมาณ 369.4 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาท
.
ปล.ขนาดสินทรัพย์ที่กองทุนซาอุดิอาระเบียบริหารอยู่คิดเป็นมูลค่าประมาณ 10 ล้านล้านบาท
.
=============
.
นักลุงทนยักษ์ใหญ่ระดับโลกมีมุมมองที่ต่างกัน สไตล์การลงทุนไม่เหมือนกัน
.
คุณคิดว่า สิงคโปร์ขายเพราะอะไร แล้วซาอุดิอาระเบียเก็บหุ้นเพราะอะไร เข้ามาแชร์กันหน่อยครับ
.
========
.
เริ่มต้นวันนี้ดีที่สุด ขอให้ทุกท่านโชคดีและมีอิสรภาพในการใช้ชีวิต
.
อิสรภาพชีวิต !! อยู่ไหนก็ไม่พลาด อย่าลืมกดติดตามนะครับ หรือเพิ่มช่องทางการสื่อสารได้เลย
.
ส่งข่าวสารถึงมือผ่าน Line@: http://bit.ly/TAM-EIG_LINE
คลิกเลย

 

ตัวเลขผู้ติดเชื้อ ผมคิดว่าต้องดูไปถึงหาวัคซีนได้และสามารถผลิตออกมาได้เพียงพอแล้วถึงจะปลอดภัย แต่ก็ไม่น่าเชืีอน่ะครับว่าตอนนี้โลกเราจะเจอกับโรคระบาด และเศรษฐกิจจะแย่มากกันทั่วโลก จนต้องอัดฉีดงบประมาณแก้ไขปัญหากันมหาศาล

 

เหยื่อโควิดอิหร่านทะลุ 4,000 ศพ จี้ IMF อนุมัติเงินกู้ 1.6 แสนล้านบาท
อิหร่านเรียกร้องให้ไอเอ็มเอฟอนุมัติเงินกู้เพื่อสู้วิกฤติไวรัสโควิด-19 ตามที่พวกเขาร้องขอ หลังมีข่าวว่าสหรัฐฯ พยายามขัดขวางเรื่องนี้
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

 

https://www.dailynews.co.th/regional/767859

 

เปิดฟ้าส่องโลก : แพทยศาสตร์ผิด อาจทำให้ตายหมู่
คนอังกฤษติดเชื้อ 51,608 คน ตาย 5,373 คน ที่ผม แปลกใจมากก็คือ คนอังกฤษหายป่วยจากโควิด-19 กันน้อยมาก
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

 

บทบรรณาธิการ : แม่โขงก็ประสบภัยแล้ง
วิกฤติภัยแล้ง การผันแม่นํ้าโขงมาทำนาไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เคยมีนักการเมืองอีสานใช้หาเสียงเมื่อหลายสิบปีก่อน และประสบชัยชนะในการเลือกตั้ง
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

 

ความรู้เกี่ยวกับหนังสือวิวรณ์



ชื่อภาษากรีกของหนังสือฉบับนี้แปลตามตัวอักษรได้ว่า "วิวรณ์ของยอห์น" หรือ "การเปิดเผยของยอห์น" แต่ข้อความใน (วว 1:1-2) มีความหมายว่า "ยอห์นได้รับการเปิดเผย" ข้อเขียนที่อยู่ในประเภท "วิวรณ์" ซึ่งแปลว่า "การเปิดเผย" ผู้เขียนมักจะอ้างว่าพระเจ้าทรงเปิดเผยเรื่องราวที่ซ่อนเร้นอยู่ให้ตนทราบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ความแตกต่างของข้อเขียนของประกาศกและข้อเขียนประเภทวิวรณ์ มองเห็นได้ไม่ง่ายนัก ในแง่หนึ่งผู้เขียนหนังสือประเภทวิวรณ์เป็นผู้สืบต่อหน้าที่ของประกาศก และเราพอจะกล่าวได้อย่างกว้าง ๆ ว่า บรรดาประกาศกในพันธสัญญาเดิมได้รับข่าวสารจากพระเจ้าโดยได้ยินพระวาจาจากพระองค์ และถ่ายทอดให้ผู้อื่นรู้โดยการเทศน์สอน แต่ผู้เขียนหนังสือประเภทวิวรณ์ได้รับข่าวสารจากพระเจ้าโดยเห็น "ภาพนิมิต" และถ่ายทอดข่าวสารนี้ลงเป็นลายลักษณ์อักษร

ภาษาของวรรณกรรมประเภทวิวรณ์ เป็นภาษาที่ใช้สัญลักษณ์อยู่ทั่วไป และภาพนิมิตที่เล่านั้นไม่ต้องเข้าใจความหมายตรงตามตัวอักษร เราอาจตั้งเป็น กฎได้เลยว่า รายละเอียดทุกประการในข้อเขียนประเภทนี้เป็นสัญลักษณ์ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นบุคคล สถานที่ สัตว์ การกระทำ สิ่งของ ส่วนของร่างกาย จำนวนที่นับและปริมาณที่วัดได้ ดวงดาว กลุ่มดาว สีและเสื้อผ้า ดังนั้น ถ้าเราไม่อยากเข้าใจผิดหรือบิดเบือนความหมายที่ผู้เขียนต้องการบอกให้รู้ เราจะต้องตีความหมายของสัญลักษณ์เหล่านั้นให้ได้ตรงกับที่ผู้เขียนต้องการจะบอกให้รู้ มีข้อความบางตอนที่เห็นได้ชัดเจนว่า เป็นภาษาสัญลักษณ์และมีความหมายอย่างไร แต่ในบางตอนเราไม่อาจบอกได้ว่ามีความหมายอย่างไรแน่ เพราะมีการรวมเอาสัญลักษณ์หลายภาพเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งอาจเข้าใจได้หลายแบบหลายวิธี

งานเขียนประเภทวิวรณ์เป็นที่นิยมอย่างมากในแวดวงของชาวยิวบางกลุ่ม (รวมทั้งกลุ่มเอสเสนที่คุมราน) ในช่วงเวลาสองศตวรรษก่อนคริสตกาล

ภาพนิมิตที่ประกาศกบางท่านเช่น เอเสเคียลและเศคาริยาห์ได้แลเห็น นับเป็นการปูทางให้งานเขียนประเภทวิวรณ์นี้ และวรรณกรรมประเภทวิวรณ์ได้พัฒนาเต็มรูปแบบแล้วในสมัยที่เขียนหนังสือดาเนียลและหนังสือนอกสารบบพระคัมภีร์อีกหลายฉบับตอนต้นคริสตกาล พันธสัญญาใหม่มีหนังสือประเภทวิวรณ์เพียงเล่มเดียว ผู้เขียนกล่าวว่าตนชื่อยอห์น (1:9) และยังบอกอีกว่า เขาเขียนหนังสือนี้ขณะถูกเนรเทศอยู่ที่ เกาะปัทมอสเพราะความเชื่อในพระคริสตเจ้า ธรรมประเพณีของพระศาสนจักรซึ่งเริ่มตั้งแต่สมัยของจัสตินและเป็นที่ยอมรับทั่วไปราวปลายศตวรรษที่สอง (อีเรเนอัส เคลเมนต์แห่งอาเล็กซานเดรีย แทร์ทุลเลียน สารบบที่มูราโตรีค้นพบ) คิดว่ายอห์นผู้เขียนวิวรณ์เป็นคนเดียวกันกับยอห์นอัครสาวกผู้นิพนธ์พระวรสารฉบับที่สี่ แต่ในทางกลับกัน ดูเหมือนว่า พระศาสนจักรต่าง ๆ ในแคว้นซีเรีย คัปปาโดเชียและแม้กระทั่งแคว้นปาเลสไตน์ไม่ยอมรับหนังสือวิวรณ์นี้ไว้ในสารบบพระคัมภีร์ของตนจนถึง คริสตศตวรรษที่ห้า ทั้งนี้เพราะว่าเขาไม่เชื่อว่าหนังสือวิวรณ์เป็นงานเขียนของอัครสาวก ราวต้นคริสตศตวรรษที่สาม กายุสพระสงฆ์องค์หนึ่งที่กรุงโรมคิดว่าหนังสือวิวรณ์เป็นผลงานของเชรินธุส มิจฉาทิฐิคนหนึ่ง แต่ที่เขาอ้างเช่นนี้อาจเป็นเพียงเหตุผลเพื่อสนับสนุนการที่ตนไม่ยอมรับหนังสือวิวรณ์ฉบับนี้เป็นพระคัมภีร์ เมื่อเราพิจารณาเนื้อหาและลีลาการเขียนของหนังสือวิวรณ์กับงานเขียนอื่น ๆ ของยอห์น จะเห็นว่ามีความละม้ายคล้ายกันอยู่บ้าง แต่ก็มีความแตกต่างอย่างชัดเจนในด้านภาษา วิธีเขียน และความคิดทางเทววิทยา โดยเฉพาะในเรื่องการเสด็จกลับมาอย่างรุ่งโรจน์ของพระคริสตเจ้า จึงทำให้สรุปได้ว่าผู้เขียน วว ในรูปแบบปัจจุบันต้องเป็นคนละคนกับผู้เขียนหนังสือฉบับอื่น ๆ ของยอห์นอย่างไรก็ตาม หนังสือวิวรณ์ยังใช้ศัพท์ที่แสดงความคิดทางเทววิทยาเหมือนกับที่พบได้ในหนังสือฉบับอื่น ๆ ของยอห์น หนังสือวิวรณ์นี้จึงน่าจะออกมาจากพระศาสนจักรที่รักษาธรรมประเพณีของยอห์นไว้ ส่วนเรื่องเวลาที่เขียน ความคิดเห็นส่วนใหญ่คือ วิวรณ์เขียนขึ้นในรัชสมัยของจักรพรรดิโดมีเตียน ราวปี ค.ศ. 95 แต่ยังมีอีกความเห็นหนึ่ง ซึ่งมีเหตุผลด้วยเช่นเดียวกันที่คิดว่าข้อความบางตอนของหนังสือวิวรณ์ ถ้าไม่ใช่ทั้งหมด น่าจะเขียนขึ้นไม่นานหลังรัชสมัยของพระจักรพรรดิเนโร ระหว่างปี ค.ศ. 68 และ 70

ถึงเราจะไม่รู้แน่ว่า วว เขียนขึ้นเมื่อไร เราก็ไม่อาจเข้าใจหนังสือนี้ได้ ถ้าไม่คำนึงถึงสภาพการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่ทำให้หนังสือฉบับนี้เกิดขึ้น ก่อนอื่นหมด วว เป็นหนังสือที่เขียนขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของช่วงเวลาในขณะนั้น เช่นเดียวกับหนังสือประเภทวิวรณ์ ฉบับอื่น ๆ โดยเฉพาะ ดนล หนังสือวิวรณ์เขียนขึ้นในช่วงของความสับสนวุ่นวายและการเบียดเบียนอย่างหนัก เพื่อเสริมความหวังและความมั่นใจให้แก่พระศาสนจักรที่เกิดใหม่ พระเยซูเจ้าเคยตรัสไว้ว่า "จงเข้มแข็งไว้เถิดเราชนะโลกแล้ว" (ยน 16:33) แล้วทำไมพระเจ้าจึงทรงอนุญาตให้ศัตรูเข้าจู่โจมเพื่อทำลายพระศาสนจักรของพระองค์เช่นนี้เล่า คำตอบของยอห์นเริ่มต้นโดยระลึกถึง คำสอนที่รู้จักกันดีของบรรดาประกาศก โดยเฉพาะเรื่อง "วันของพระยาห์เวห์" (ดู อมส 5:18 เชิงอรรถ m) เมื่อประชากรที่พระเจ้าทรงเลือกสรรต้องตกเป็นทาสของ ชาวอัสซีเรีย ชาวเคลเดีย และชาวกรีก เมื่อพวกเขาถูกเนรเทศให้กระจัดกระจายไปอยู่ต่างแดนและถูกเบียดเบียนจนใกล้จะสิ้นชาติ บรรดาประกาศกสัญญาว่า วันนั้นจะมาถึง และจะมาถึงในไม่ช้า เมื่อพระเจ้าจะทรงปลดปล่อยประชากรของพระองค์ให้พ้นจากผู้กดขี่ และจะทรงทำให้เขาเป็นอิสระอีกครั้งหนึ่ง พระองค์จะทรงช่วยเขาให้เอาชนะศัตรูได้ แม้ว่าพระองค์ทรงลงโทษประชากรของพระองค์จนเกือบจะสิ้นชาติแล้วก็ตาม เมื่อยอห์นเขียนหนังสือวิวรณ์ พระศาสนจักร ประชากรใหม่ที่พระเจ้าทรงเลือกสรรก็ถูกเบียดเบียนจนแทบจะไม่มีเหลือ (บทที่ 6:10-11; 13; 16:6; 17:6) กรุงโรมและจักรวรรดิโรมัน (ซึ่งมีสัตว์ร้ายเป็นสัญลักษณ์) เป็นเพียงเครื่องมือที่ซาตานใช้ (บทที่ 12; 13:1,4) ซาตานนี้เป็นศัตรูแท้จริงแต่ผู้เดียวของพระคริสตเจ้าและของประชากรของพระองค์ ในภาพนิมิตตอนต้นของหนังสือ ยอห์นบรรยายถึงพระเจ้าเหมือนกันว่าทรงเป็นพระจักรพรรดิ ประทับนั่งบนพระบัลลังก์ในสวรรค์ พระองค์ทรงเป็นเจ้านายซึ่งกำหนดชะตากรรมของมนุษย์ (บทที่ 4) พระองค์ทรงมอบม้วนหนังสือให้ลูกแกะ ม้วนหนังสือบันทึกหายนะของผู้เบียดเบียน (บทที่ 5) หลังจากนั้นภาพนิมิตแจ้งข่าวการรุกรานจากคนต่างชาติ (ชาวปารเธีย) และเหตุการณ์ซึ่งเป็นผลตามมา คือ สงคราม ความอดอยาก โรคระบาด (บทที่ 6) ในช่วงเวลานี้ ผู้ซื่อสัตย์ของพระเจ้าจะได้รับการปกป้องคุ้มครองไว้ (7:1-8 เทียบ 14:1-5) และในที่สุดจะชื่นชมอย่างผู้มีชัยชนะในสวรรค์ (7:9-17 เทียบ 15:1-5) แต่พระเจ้าทรงประสงค์จะช่วยศัตรูของประชากรของพระองค์ให้รอดพ้นด้วย ดังนั้น แทนที่จะทรงทำลายเขาทันที พระองค์ทรงตักเตือนเขาก่อน เหมือนกับที่เคยทรงตักเตือนชาวอียิปต์และกษัตริย์ฟาโรห์ด้วยภัยพิบัติต่าง ๆ (บทที่ 8-9 เทียบ บทที่ 16) แต่ผู้เบียดเบียนไม่ยอมกลับใจกลับมุ่งมั่นในความชั่วยิ่งขึ้น พระเจ้าจึงทรงจำเป็นต้องทำลายเขา (บทที่ 17) ผู้เบียดเบียนมีเจตนาเพียงประการเดียวคือชักชวนให้ทั้งโลกทำบาป และชักจูงมวลมนุษย์ให้มา กราบไหว้ซาตาน (เป็นการกล่าวพาดพิงถึงการกราบไหว้พระจักรพรรดิเป็นเทพเจ้าดังที่ปฏิบัติกันที่กรุงโรม) หลังจากนั้น มีการร่ำไห้อาลัยถึงกรุงบาบิโลนที่ล่มสลาย คือกรุงโรม (บทที่ 18) และมีบทเพลงฉลองชัยชนะในสวรรค์ (19:1-10) ยังมีภาพนิมิตอีกภาพหนึ่งเกี่ยวกับการทำลายสัตว์ร้าย (ซึ่งหมายถึงกรุงโรมที่เบียดเบียนคริสตชน) แต่ครั้งนี้ผู้ทำลายคือพระคริสตเจ้า ผู้ทรงพระสิริรุ่งโรจน์ (19:11-21) การทำลายสัตว์ร้ายนี้เป็นการเริ่มต้นยุครุ่งเรืองสำหรับพระศาสนจักร (20:1-6) ยุคนี้จะจบลงด้วยการโจมตีครั้งใหม่ของซาตาน (20:7ฯ) ตามด้วยการทำลายศัตรูผู้นั้นจนสิ้นซาก ผู้ตายจะกลับคืนชีพและถูกพิพากษา (20:11-15) และในที่สุดจะมีการสถาปนาพระอาณาจักรซึ่งนำความบรมสุขในสวรรค์เมื่อความตายจะถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง (21:1-8) ภาพนิมิตสุดท้ายหันกลับไปพิจารณาช่วงเวลาก่อนจะถึงความบริบูรณ์นี้ และบรรยายความงดงามของนครเยรูซาเล็มในโลกนี้คือพระศาสนจักร (21:9ฯ)

ความหมายของหนังสือวิวรณ์มีมากกว่าความหมายพื้นฐานที่ได้จากการอธิบายสถานการณ์ทางประวัติศาสตร์ดังกล่าวนี้ กล่าวคือหนังสือวิวรณ์แสดงสภาพความเป็นจริงที่ไม่เปลี่ยนแปลงซึ่งเป็นรากฐานรองรับความเชื่อในทุกยุคของประวัติศาสตร์ พระสัญญาของพระเจ้าที่จะ "ประทับอยู่กับประชากรของพระองค์" (ดู อพย 25:8 เชิงอรรถ d) เพื่อทรงปกป้องและช่วยให้รอดพ้นเป็นพื้นฐานรองรับความเชื่อต่อพระองค์ในพันธสัญญาเดิม และการประทับอยู่เช่นนี้ของพระเจ้าสำเร็จสมบูรณ์เมื่อพระเจ้าทรงร่วมเป็นหนึ่งเดียวเหมือนคู่สมรสกับประชากรใหม่ที่ทรงเลือกสรรในพระบุคคลของพระบุตรผู้ทรงเป็นองค์ "อิมมานูเอล" (พระเจ้าสถิตกับเรา) พระสัญญาของพระคริสตเจ้าผู้ทรงกลับคืนพระชนมชีพที่ว่า "เราอยู่กับท่านทั้งหลายทุกวันตลอดไปตราบจนสิ้นพิภพ" นั้นเป็นคำสัญญาที่ประทานชีวิตแก่พระศาสนจักร (มธ 28:20) ดังนั้น ผู้ที่ซื่อสัตย์ต่อพระเยซูเจ้าจึงไม่ต้องหวาดกลัวสิ่งใด เขาอาจต้องทนทุกข์อยู่ชั่วขณะหนึ่งเพื่อพระองค์ แต่ในที่สุดเขาจะมีชัยชนะเหนือซาตานและเหนือกลอุบายของมัน

ตัวบทของหนังสือวิวรณ์ดังที่เรามีในปัจจุบันมีบางตอนที่ซ้ำกันถึงสองหรือสามครั้ง บางตอนดูเหมือนขาดความต่อเนื่อง ระหว่างภาพนิมิตต่าง ๆ มีข้อความบางตอนที่ไม่ค่อยเข้ากับบริบท (โดยเฉพาะในบทที่ 20-22) ผู้อธิบายพระคัมภีร์พยายามแก้ปัญหาเหล่านี้หลายแบบด้วยกัน เช่น บางคนว่าเป็นการรวบรวมเรื่องราวจากแหล่งข้อมูลหลายสาย บางคนว่ามีการสับเปลี่ยนข้อความบางตอนโดยบังเอิญ ฯลฯ นักวิชาการส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่า จดหมายถึงพระศาสนจักรทั้งเจ็ด (1:9-3:22) เป็นส่วนที่ถูกต่อเติมเข้ามาในการเรียบเรียงครั้งสุดท้าย ส่วนภาคที่เป็นการประกาศพระวาจาโดยตรงของหนังสือ (บทที่ 4-22) ดูเหมือนจะเป็นการรวบรวมข้อเขียนแบบวิจารณ์สองชิ้นเข้าด้วยกัน ข้อเขียนทั้งสองชิ้นนี้เป็นผลงานของบุคคลเดียวกัน แต่เขียนขึ้นในช่วงเวลาต่างกัน ยังมีผู้อธิบายซับซ้อนกว่านี้อีก คือ วว เป็นการรวบรวมข้อเขียน 3 ชิ้นต่างกัน เราไม่อาจตัดสินได้ว่าความจริงเป็นอย่างไร แต่เราอาจอ่านหนังสือวิวรณ์ได้ในฐานะที่เป็นงานเขียนชิ้นเดียว ซึ่งใช้สัญลักษณ์ที่เร้าอารมณ์ต่าง ๆ มากมายแจ้งข่าวสารที่ให้ความมั่นใจและความหวังแก่ผู้อ่าน การที่พระคริสตเจ้าทรงถวายองค์เป็นบูชาเหมือนลูกแกะที่ถูกประหาร ทำให้พระองค์ทรงได้ชัยชนะอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าพระศาสนจักรจะต้องประสบความทุกข์ยากอย่างไร ความวางใจในพระเจ้าผู้ทรงสัตย์จะไม่มีวันหวั่นไหว องค์พระผู้เป็นเจ้าจะเสด็จมา "ในไม่ช้า" (1:1; 22:20) หนังสือวิวรณ์เป็นบทประพันธ์เฉลิมฉลองความหวังของคริสตชน เป็นบทเพลงฉลองชัยของพระศาสนจักรที่ถูกเบียดเบียน

http://www.thaicatholicbible.com/ma...edge/66-about-revelation/906-about-revelation