ติดตามสถานะการณ์

... "อินโดนีเซีย: ขายพันธบัตร50ปีสู้ไวรัส, ยังไม่กู้ไอเอ็มเอฟตรง"

... ตอนนี้ทุกประเทศต่างประสบปัญหาคลื่นลูกถัดมา หลังจากไวรัสโดมิโนเป็นปัญหาการเงิน "อินโดนีเซีย" ก็เช่นเดียวกัน

... กรณีผู้ติดเชื้อ coronavirus ของอินโดนีเซียอยู่ที่ 2,491คน ในวันจันทร์โดยมีผู้เสียชีวิต 209 รายซึ่งเป็นจำนวนผู้เสียชีวิตสูงสุดในเอเชียนอกประเทศจีน

... ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอินโดนีเซียจะใช้ "เงินสด" ที่ระดมได้เพื่อ ช่วยสนับสนุนทุนต่อสู้กับวิกฤติ COVID-19 เพื่อบรรเทาเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจที่กำลังย่ำแย่ รายได้ขาด แต่รายจ่ายพุ่งทวีคูณ

... "อินโดนีเซีย" เร่งระดมเงิน 4.3 พันล้านดอลล่าร์ ซึ่งรวมถึงการออกพันธบัตรสกุลเงินดอลลาร์ที่มีระยะยาวยาวที่สุดที่เคยออกโดยประเทศในเอเชียเพื่อช่วยเหลือรัฐบาลในการต่อสู้กับ coronavirus

... การดำเนินการขายพันธบัตรจะช่วย "เพิ่มทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ" ที่ Bank Indonesia เห็นว่าลดลง 9.4 พันล้านดอลลาร์ในเดือนมีนาคมเป็นแค่ 121 พันล้านดอลลาร์เนื่องจากธนาคารกลางใช้เงินสำรองเพื่อปกป้อง "ค่าเงินรูเปียห์" ที่กำลังอ่อนค่าอย่างมาก

... ( คล้ายๆตอนลุงจิ๋ว ใช้เงินสำรองในคลังไทย700,000 ล้านบาทพยุงเงินบาทสู้กับนักค้าเงินจากต่างประเทศช่วงปี2540 เพื่อเอาใจผู้ส่งออก จนเงินหมดคลัง หนึ่งในจำนวนนั้น ไหลออกไปหาหัวหน้าพรรคพท.จนเอาเงินคลังลุงจิ๋วตั้งพรรคการเมืองป้ายแดงซื้อเสียงจนตั้งรัฐบาลได้)

... "ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ ของอินโดนีเซีย" มีการลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เมื่อลดลงจาก 131.7 พันล้านดอลลาร์ในเดือนมกราคม, ซึ่งเป็นการต่ำระดับที่น่าห่วงเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์ของประเทศ, ตัวเลขเงินสำรองในคลังในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาเพียงเดือนเดียว นั้นมากเพียงพอที่จะสนับสนุนการนำเข้าและการชำระหนี้ระยะสั้นของรัฐบาลถึงเจ็ดเดือน, และสูงกว่ามาตรฐานความเพียงพอการนำเข้าระหว่างประเทศประมาณ 3 เดือน

... เมื่อทุนสำรองในคลังหายเกลี้ยง จึงต้องรักษาเสถียรภาพทางการเงินโดยการหาเงินเข้ากระเป๋าเตรียมจับจ่ายยามวิกฤติ

... "ความตื่นตระหนก" ทำให้เกิดการไหลออกของเงินทุนและการเพิ่มแรงกดดันของอัตราแลกเปลี่ยนในรูเปียห์โดยเฉพาะในสัปดาห์ที่สองและสามของเดือนมีนาคม 2020,

... "เงินรูเปียห์" มูลค่าลดลงประมาณร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในเดือนมีนาคม2020, เนื่องจากนักลงทุนรีบขายสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงและไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ปลอดภัยท่ามกลางความหวาดกลัวต่อการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วของ COVID-19 แทน

... นักลงทุนต่างชาติขายสินทรัพย์ในอินโดนีเซียที่ 148.76 ล้านล้านรูเปียห์ (9.04 พันล้านดอลลาร์) รวมถึงเทขายพันธบัตรรัฐบาลที่ 135.08 ล้านล้านรูเปียห์และเทขายจากตลาดหุ้นอินโดนีเซียอยู่ที่ 9.71 ล้านล้านรูเปียห์

... ธนาคารกลางอินโดนีเซียได้เข้ามาแทรกแซงตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและตลาดส่งออกในประเทศที่ไม่สามารถส่งมอบ, รวมทั้งการซื้อพันธบัตรคืนจากกองทุนต่างประเทศที่เทขายทิ้ง เพื่อพยุงยึดเงินรูเปียห์ไม่ให้ตกต่ำเกินไป

... ธนาคารกลางได้ซื้อคืนพันธบัตรรัฐบาลมูลค่า 172.5 ล้านล้านรูเปียห์, รวมถึง 166.2 ล้านล้านรูเปียห์จากนักลงทุนต่างชาติในตลาดรอง เงินสำรองจึงหมดไปเยอะ

... ธนาคารกลางอินโดนีเซีย, เห็นว่า "อัตราแลกเปลี่ยนรูเปียห์เทียบกับดอลลาร์" นั้นต่อพอดี และไม่ต่ำเกินไป โดยวางแผนคาดว่ารูเปียห์จะอยู่ที่ 15,000 รูปีต่อดอลลาร์ในสิ้นปี2020นี้

... ข้อตกลง "การขายพันธบัตรเพื่อหาเงินมากอบกู้และเยียวยาวิกฤติไวรัส" นั้น, ได้รับการสรุปในวันจันทร์และจะขายในระยะเวลา 10.5 ปีและ 30.5 ปีมูลค่า 1.65 พันล้านโดยมีระยะเวลา 50 ปีมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์, เป็นการขายพันธบัตรครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ

... นอกจากนี้ยังระบุแผนสำหรับการขายมูลค่า 449.9 ล้านล้านรูเปียห์ (27.47 พันล้านดอลลาร์) ของ “พันธบัตรสู้การแพร่ระบาดของไวรัส” เพื่อครอบคลุมการใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับการสนอง ตอบกับการฟื้นฟูและเยียวยาจากวิกฤติโควิด19,

... เช่น กรณีพันธบัตรระยะเวลา 50ปีนั้น มีการสอบถามนักลงทุนแล้วหลายรายเห็นชอบด้วย จึงได้ออกมาตราการนี้มา

... แหล่งข่าวกล่าวว่า บริษัท ประกันชีวิตในเอเชียโดยเฉพาะที่อยู่ในไต้หวันและผู้จัดการกองทุนอเมริกา คือนักลงทุนเป้าหมายรายใหญ่ที่สุด

... ธนาคารอินโดนีเซีจะต้องรักษาความเพียงพอของปริมาณสินทรัพย์สำรองเพื่อสนับสนุนความยืดหยุ่นจากปัจจัยภายนอกและรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจมหภาคและระบบการเงิน

... อย่างไรก็ตามสำหรับการรวมกลุ่มของธนาคารที่ขายดีลให้กับนักลงทุนนั้นเป็นเรื่องยากมากขึ้นเพราะห้องซื้อขายในธนาคารใหญ่ ๆ กลับถูกลดขนาดลง

(... แต่อย่างน้อย อินโดนีเซีย ก็ไม่ยืมตรงจากไอเอ็มเอฟ ที่จะมีเงื่อนไขในการสูญเสียทรัพย์สินหรืออธิปไตยในรัฐวิสาหกิจของประเทศ แบบสิ้นชาติแบบที่มีบทเรียนในวิกฤติปี1997)

.

...https://www.thejakartapost.com/news...-bi-steps-up-efforts-to-stabilize-rupiah.html

... https://www.thejakartapost.com/news...st-50-year-dollar-bond-to-fight-pandemic.html

 

วิธีเช็กผลเราไม่ทิ้งกัน แบบใหม่เพียงกด F12 ตรวจสอบ Code ผ่านหรือไม่ผ่านเกณฑ์

วิธีเช็กผลเราไม่ทิ้งกัน แบบใหม่เพียงกด F12 ตรวจสอบ Code ผ่านหรือไม่ผ่านเกณฑ์ เผยต้องใช้เทคนิคด้านความรู้แบบฉบับโปรแกรมเมอร์ในเรื่องโค้ดดิ้ง (Coding) ถือเป็นอีกรูปแบบที่ทดลองใช้กันแพร่หลายในคนกลุ่มหนึ่ง

สำหรับ วิธีเช็กผลเราไม่ทิ้งกัน กด F12 ตรวจสอบ Code ว่าผ่านหรือไม่ผ่านเกณฑ์รับเงินเยียวยา 5,000 บาท มีขั้นตอนที่ต้องดำเนินการผ่านเว็บเบราว์เซอร์อย่าง Google Chrome จากนั้นทำตามขั้นตอนจนได้ผลลัพธ์เป็น Code JavaScript ที่มีความหมายดังนี้

Approve = ผ่านเกณฑ์รอเงินโอนเข้าบัญชีที่ลงทะเบียน

Reject = ปฏิเสธ ไม่ผ่านเกณฑ์

Null = สถานะระหว่างรอตรวจสอบ

ทั้งนี้ วิธีเช็กผลเราไม่ทิ้งกัน กด F12 ตรวจสอบ Code ว่าผ่าน หรือไม่ผ่านเกณฑ์รับเงิน ยังไม่ได้รับการยืนยันจากทีมพัฒนาระบบเว็บไซต์เราไม่ทิ้งกัน จึงไม่คอนเฟิร์มว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้อง 100% หรือไม่

วิธีตรวจสอบสถานะด้วย F12

เข้าหน้าเว็บ www.เราไม่ทิ้งกัhttp://xn--q3c.com/ คลิกที่ตรวจสอบสถานะ

กรอกข้อมูลให้ครบ และ กดตรวจสอบสถานะ

กด F12 หรือคลิกขวา แล้วกดตรวจสอบ inspect

กดเข้าหมวด Console กดคีบอร์ด Ctrl + 5 ค้นหา govResult เพื่อดูผลลัพธ์

Cr. เว็บฟุตอบลที่มีโปรแกรมเมอร์บังหน้า

The post วิธีเช็กผลเราไม่ทิ้งกัน แบบใหม่เพียงกด F12 ตรวจสอบ Code ผ่านหรือไม่ผ่านเกณฑ์ appeared first on SpringNews.

Source : #Springnews #สปริงนิวส์

 

"หมอเหรียญทอง" เผยบุคลากร รพ.มงกุฎวัฒนะ ติดโควิด-19 จำนวน 8 ราย และต้องกักตัวอีก 61 ราย ยืนยันเจ้าหน้าที่ยังมีเพียงพอ ต่อการดูแลผู้ป่วย
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

 

Setiawan

'เราไม่มีผู้ซื้อ': เกษตรกรถูกบังคับให้ทิ้งนมหลายพันแกลลอน เนื่องจากความต้องการลดลงในช่วงวิกฤต # COVID19
‘WE HAVE NO BUYER’: Farmers forced to dump thousands of gallons of milk as demand plummets during #COVID19 crisis.

 

Setiawan

พยาบาลและแพทย์เหล่านี้กำลังประท้วงอยู่นอกโรงพยาบาลในนิวยอร์กเนื่องจากสิ้นหวังเนื่องจากการขาดอุปกรณ์ป้องกัน กำลังเสี่ยงต่อทุกคนที่เข้าโรงพยาบาล รวมถึงตัวพวกเขาเอง

These nurses and doctors are protesting outside their New York hospital out of desperation, as the lack of protective equipment is risking every person that enters their hospital, including themselves.

 

Setiawan

เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในหลายประเทศ ถูกบังคับให้ทิ้งนมหลายพันแกลลอนเนื่องจากการระบาดของโรคโคโรนาไวรัส ได้ปิดร้านอาหารและโรงเรียน ทำให้ความต้องการนมขายส่งลดลง

 

Setiawan

ประมาณหนึ่งในสามของพนักงานที่โรงพยาบาลบรูคลินป่วยหนัก

ในบางครั้งพวกเขาขาดชุดป้องกันพลาสติก

ภายในห้องไอซียูชั่วคราวที่ศูนย์โรงพยาบาลบรูคลิน ซึ่งมีผู้เสียชีวิตด้วยโรค coronavirus เพิ่มขึ้นห้าเท่าในสัปดาห์ที่ผ่านมา

About a third of the staff at this Brooklyn hospital is out sick.

At times, they ran out of protective plastic gowns.

Inside a temporary ICU at the Brooklyn Hospital Center, where coronavirus deaths grew fivefold in the past week.

 

Setiawan

ทอร์นาโด Arkansas, สหรัฐอเมริกา 8 เมษายน - 2563
Tornado Arkansas, USA April8-2020

 

Setiawan

โควิงตัน, รัฐเคนตักกี้ สหรัฐอเมริกา
แจ็กสัน, เทนเนสซี
8 เมษายน - 2563
.
Covington, Kentucky USA
Jackson, Tennessee
April8-2020

 

Setiawan

“ดำเนินต่อไป และสวมถุงมือ แต่คุณต้องล้างมือตลอดเวลา”

พยาบาลคนนี้แสดงให้เห็นว่าเชื้อโรคแพร่กระจายได้เร็วเพียงใดแม้กับถุงมือ

https://t.co/0Bu0ehlWJj

“Go ahead and wear your gloves, but you need to wash your hands all the time.”

This nurse demonstrates how fast germs can spread, even with gloves.

https://t.co/0Bu0ehlWJj

 

เพิ่งเจอครั้งแรกแต่กลับรู้ว่า "แค่เศษซากพันธุกรรมไวรัสที่หลงเหลืออยู่ จึงแสดงผลเป็นบวก แต่ไม่แพร่เชื้ออีก" สุดยอดมาก!

เผยคนชัยภูมิติดโควิดฯ รักษาหายเป็นใหม่ แค่เศษซากพันธุกรรมไวรัส
นายแพทย์ สสจ.ชัยภูมิ เผยผู้ติดเชื้อโควิด-19 หายแล้วเป็นใหม่ แค่เศษซากพันธุกรรมไวรัสที่หลงเหลืออยู่ จึงแสดงผลเป็นบวก แต่ไม่แพร่เชื้ออีก ส่วนน้องนักศึกษาไปฝีกงานโรงแรมในกทม.แล้วติดเชื้อ รักษา
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

 

"เชียงราย"เข้า - ออก ได้
แต่ #ต้องผ่านด่าน
1-ด่านปูแกง อ.พาน.
2-ด่านหงาว อ.เทิง
3-ด่านแม่โถ อ.เวียงป่าเป้า
4-ด่านกิ่วสะไต อ.แม่จัน

 

#ผู้สัมผัสที่มีความเสี่ยง จ.ภูเก็ต

 

จู่ๆ แพทย์จากสามชาติ ได้แก่ เกาหลีใต้ จีน และอเมริกา ออกมาเตือนประชาชนพร้อม ๆ กันโดยไม่ได้นัดหมายถึงภัยเงียบจากโควิด-19 โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลีใต้ (KCDC) เป็นชาติแรกที่ออกมารายงานว่า พบชาวเกาหลีใต้จำนวน 51 รายที่เคยป่วยด้วยโควิด-19 และได้รับการรักษาจนหายดีแล้วนั้น แต่กลับมามีผลตรวจพบเชื้อ (บวก) อีกครั้ง ซึ่งสร้างความงุนงงกับแพทย์เป็นอย่างมาก

แถลงการณ์ของ KCDC ระบุว่า มีความเป็นไปได้สูงขึ้นที่เชื้อไวรัสจะยังคงหลงเหลืออยู่ในเซลล์บางเซลล์ ด้วยการซ่อนตัวอย่างมิดชิด ซึ่งอาจกลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง เนื่องจากตรวจพบเชื้อในระยะเวลาไม่นานหลังผู้ป่วยออกจากพื้นที่กักกัน

รายงานระบุว่า ผู้ป่วยในเกาหลีใต้ ซึ่งมีผลทดสอบเป็นลบ 2 ครั้งในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง จะถูกกำหนดให้เป็นผู้ป่วยที่หายดีแล้ว และได้รับอนุญาตให้ออกจากพื้นที่กักกันได้

ในบรรดาผู้ป่วยทั้ง 51 ราย ที่มีผลทดสอบเป็นบวกอีกครั้ง เป็นผู้อาศัยในเมืองแทกู 18 ราย และในจังหวัดคยองซังเหนือที่อยู่รอบ ๆ เมืองแทกู 17 ราย

ด้านจีนกับสหรัฐฯ แม้จะยังไม่พบเคสผู้ป่วยที่หายจากโรคแล้วกลับมาป่วยอีกรอบ แต่นายจงหนานซาน ผู้เชี่ยวชาญระบบทางเดินหายใจของจีนได้เปิดเผยข้อมูลว่า ผู้ป่วยโควิดที่ไม่แสดงอาการ 1 คน อาจนำเชื้อไปติดคนอื่นได้อีก 3-3.5 คน โดยก่อนหน้านี้ หลังจากที่สหรัฐฯ พบว่าผู้ป่วยโควิด-19 ราว 1 ใน 4 ไม่แสดงอาการใด ๆ เลย ทางการจีนจึงเริ่มหันมาใส่ใจกับการติดตามผู้ป่วยกลุ่มนี้อย่างจริงจัง เพราะกังวลว่าจะเกิดการแพร่ระบาดระลอกที่สอง

โดยจีนเพิ่งประกาศจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ไม่แสดงอาการเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 เม.ย. ที่ผ่านมา จากที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้รวมผู้ป่วยกลุ่มนี้ไว้ในจำนวนผู้ติดเชื้ออย่างเป็นทางการ

สาเหตุหนึ่งที่ทำให้การควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นเรื่องท้าทายมากขึ้นก็คือ การแพร่เชื้อของผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการ (asymptomatic) และการแพร่เชื้อก่อนแสดงอาการ (presymptomatic) เพราะหากติดเชื้อ ผู้ป่วยอาจแพร่เชื้อให้คนอื่นได้ก่อนที่จะรู้ตัวว่าตัวเองติดเชื้อด้วยซ้ำ

เคสแรกที่ยืนยันว่าผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการสามารถแพร่เชื้อไวรัสโคโรนาให้ผู้อื่นได้ตีพิมพ์ออกมาเมื่อเดือน ก.พ. เป็นหญิงวัย 20 ปีจากเมืองอู่ฮั่นของจีนที่แพร่เชื้อให้สมาชิกในครอบครัว 5 รายทั้งที่เธอไม่มีอาการป่วยเลย

และเมื่อเร็ว ๆ นี้ นายโรเบิร์ต เรดฟิลด์ ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC) เผยกับสำนักข่าว NPR ว่า ผู้ป่วยโควิด-19 ในสหรัฐราว 1 ใน 4 ไม่แสดงอาการ และคนเหล่านี้สามารถแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้ อย่างในกรณีของรัฐแมสซาชูเซตส์ที่มีอย่างน้อย 82 เคสที่เริ่มจากผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการ

ผู้เชี่ยวชาญที่ให้สัมภาษณ์ ระบุตรงกันว่า แม้ขณะนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าการแพร่เชื้อของผู้ป่วยที่แสดงอาการและไม่แสดงอาการมีสัดส่วนเท่าใด แต่ชัดเจนแล้วว่าผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการมีส่วนทำให้เกิดการแพร่ระบาดมากกว่าที่คิด

นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยจากนานาประเทศที่ชี้ไปในทิศทางเดียวกัน อาทิ แซนดรา ซีเช็ก ผู้อำนวยการสถาบันการแพทย์ระบาดวิทยาในเมืองแฟรงเฟิร์ตของเยอรมนี ที่ทำการทดสอบการติดเชื้อผู้โดยสารที่นั่งเครื่องบินกลับจากอิสราเอล 24 ราย พบว่า 7 รายติดเชื้อ และในจำนวนนี้ 4 รายไม่แสดงอาการ

แต่ที่น่าตกใจคือ ผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการกลับมีความเข้มข้นของเชื้อโคโรนาไวรัสในสารคัดหลั่งในระบบทางเดินหายใจ (viral load) มากกว่าผู้ป่วยที่แสดงอาการ (ยิ่งเข้มข้นมากยิ่งมีโอกาสแพร่เชื้อให้ผู้อื่นสูง)

ก่อนหน้านี้การศึกษาแบบเป็นกลุ่มใหญ่ในเมืองเทียนจินของจีน และสิงคโปร์เมื่อเดือน ม.ค. และ ก.พ.ที่ตีพิมพ์ใน MedRxiv คลังเก็บงานวิจัยทางวิชาการที่รอการตีพิมพ์เผยแพร่ ยังพบการแพร่เชื้อของผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการ โดย 48-66% ของกลุ่มผู้ป่วย 91 รายในสิงคโปร์ได้รับเชื้อจากผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการ และ 62-77% ของผู้ป่วย 135 รายในเทียนจินได้รับเชื้อจากผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการ

และที่น่ากังวลยิ่งกว่านั้นคือ ระยะที่ผู้ป่วยสามารถแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้มากที่สุดก็คือช่วงที่ติดเชื้อระยะแรก
การศึกษาผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 23 รายในโรงพยาบาลฮ่องกง 2 แห่ง พบว่าปริมาณความเข้มข้นของเชื้อไวรัสโคโรนาในสารคัดหลั่งในระบบทางเดินหายใจจะสูงสุดในช่วงสัปดาห์แรกของการติดเชื้อ และจะค่อย ๆ ลดลงหลังจากนั้น เช่นเดียวกับงานวิจัยผู้ป่วย 94 รายที่เมืองกวางโจว

ข้อมูลนี้ต่างจากโรคซาร์สที่ระบาดเมื่อปี 2002-2003 โดยสิ้นเชิง เพราะผู้ป่วยโรคซาร์สต้องมีอาการมาแล้วอย่างน้อย 7-10 วันจึงจะแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้

แม้ผู้เชี่ยวชาญและการวิจัยจะชี้ตรงกันว่าผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการสามารถแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้ แต่ก็ยังไม่แน่ชัดว่ามีอัตราการแพร่เชื้อมากน้อยแค่ไหน ทว่า จงหนานซาน ผู้เชี่ยวชาญระบบทางเดินหายใจของจีนเผยว่า ผู้ป่วย 1 คน อาจนำเชื้อไปติดคนอื่นได้อีก 3-3.5 คน

ผลการวิจัยเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า การแยกแยะผู้ป่วยโรคซาร์ส โดยอาศัยอาการที่แสดงเพียงอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ

หลายประเทศที่สามารถควบคุมไม่ให้เชื้อโคโรนาไวรัสแพร่ระบาดในวงกว้าง อาทิ เกาหลีใต้ ใช้วิธีการตรวจและติดตามผู้ติดเชื้อเชิงรุก

https://www.posttoday.com/world/620156
http://www.xinhuanet.com/english/2020-04/06/c_138951383.htm
https://www.cnbc.com/2020/04/06/who...-one-to-three-days-before-symptoms-start.html

#RoundtableThailand
roundtablethailand.com

#โควิด19
#โคโรนาสายพันธุ์ใหม่

 

#ประกาศจังหวัดภูเก็ต
ฉบับที่ 14/2563
เรื่อง แก้ไขประกาศจังหวัดภูเก็ต ฉบับที่ 12/2563 เรื่อง มาตรการการปิดช่องทางเข้า- ออก ด่านตรวจภูเก็ต
(ด่านท่าฉัตรไชย) เพิ่มเติม

 

UPDATE : 18.00 น.วันที่ 9 เมษายน 2563
สถานการณ์ไวรัส COVID-19 ของจังหวัดภาคใต้ วันนี้ (9 เม.ย.63) พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งจังหวัด คือ จังหวัดพังงา ทำให้ 14 จังหวัดภาคใต้ มีเพียงจังหวัดระนอง ที่ยังไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19
โดยเมื่อตอนบ่ายที่ผ่านมา (9 เม.ย.63) จังหวัดพังงา แถลงข่าวยืนยันพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 คนแรกของจังหวัดพังงา เป็นเด็กชายอายุ 8 ขวบ ติดเชื้อจากญาติที่เดินทางมาเยี่ยม จากจังหวัดกระบี่ หรือจากการเดินทางไปกับญาติที่จังหวัดกระบี่ ทำให้จังหวัดพังงา เป็นจังหวัดล่าสุดที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19
จ.ภูเก็ต หลังจากใช้วิธีตรวจหาเชื้อเชิงรุก ทำให้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ขึ้นเรื่อยๆ โดยในวันนี้ (9 เม.ย.63) พบผู้ป่วยใหม่ 21 คน ยอดสะสม 161 คน รักษาตัวอยู่ รพ. 115 คน รักษาหายกลับบ้านแล้ว 45 คน
จ.ยะลา พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 3 คน ยอดสะสม 71 คน เสียชีวิต 2 คน รักษาตัวอยู่ รพ. 40 คน รักษาหายกลับบ้าน 26 คน
จ.ปัตตานี พบผู้ติดเชื้อจากกลุ่มของผู้ร่วมกิจกรรมทางศาสนาเพิ่มขึ้น 11 คน ซึ่งวันนี้ (9 เม.ย.63) นายไกรศร วิศิษฏ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เปิดเผยหลังจากที่จังหวัดปัตตานี ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบและค้นหาผู้ที่เดินทางกลับจากการร่วมกิจกรรมทางศาสนา ที่มัรกัสยะลา พบลูก 5 คนของสองสามี-ภรรยา ที่ติดเชื้อโควิด-19 ก่อนหน้านี้ ติดเชื้อ 5 คน รวมทั้งครอบครัว 7 คน ทำให้ต้องกักตัวผู้ใกล้ชิดอีก 75 คน ผู้ว่าฯ เตรียมปิดอำเภอ หากพบติดเชื้อเพิ่ม ทำให้วันนี้ (9 เม.ย.63) จ.ปัตตานี มียอดติดเชื้อสะสมรวม 66 คน เสียชีวิต 1 คน รักษาตัวอยู่โรงพยาบาล 21 คน รักษาหายกลับบ้าน 26 คน
จ.นราธิวาส มีผู้ติดเชื้อใหม่ 1 คน ติดเชื้อสะสม 25 คน เสียชีวิต 1 คน รักษาตัวอยู่ รพ. 17 คน รักษาหายกลับบ้าน 7 คน ส่วนจังหวัดอื่นๆ ณ เวลา 18.00 น. (9 เม.ย.63) ยังไม่มีรายงานพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม

#ThaiPBSศูนย์ข่าวภาคใต้ รวบรวมจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 ใน 13 จังหวัดทั่วภาคใต้ ณ วันที่ 9 เมษายน 2563 มีผู้ติดเชื้อ COVID-19 ยอดสะสม 442 คน เสียชีวิต 4 คน ประกอบด้วย
จ.ภูเก็ต ติดเชื้อสะสม 161 คน กลับบ้านแล้ว 45 คน รักษาตัวอยู่ รพ. 115 คน
จ.ยะลา ติดเชื้อสะสม 71 คน เสียชีวิต 2 คน รักษาหาย 26 คน รักษาตัวอยู่ โรงพยาบาล 40 คน
จ.ปัตตานี ติดเชื้อสะสม 66 คน เสียชีวิต 1 คน รักษาตัวอยู่ รพ. 21 คน รักษาหายกลับบ้าน 26 คน
จ.สงขลา ติดเชื้อสะสม 48 คน รักษาตัวอยู่ รพ. 27 คน รักษาหายกลับบ้าน 21 คน
จ.นราธิวาส ติดเชื้อสะสม 25 คน เสียชีวิต 1 คน รักษาตัวอยู่ รพ. 17 คน กลับบ้านแล้ว 7 คน
จ.สุราษฎร์ธานี ติดเชื้อสะสม 17 คน รอผลตรวจ 8 คน
จ.กระบี่ ติดเชื้อสะสม 16 คน รักษาตัวอยู่ รพ. 9 คน รักษาหาบกลับบ้าน 7 คน
จ.พัทลุง ติดเชื้อสะสม 13 คน รักษาตัวอยู่ รพ. 6 คน
จ.นครศรีธรรมราช ติดเชื้อสะสม 6 คน
จ.ตรัง ติดเชื้อสะสม 6 คน รอผลตรวจยืนยัน อีก 7 คน
จ.ชุมพร ติดเชื้อสะสม 2 คน
จ.พังงา ติดเชื้อสะสม 1 คน

UPDATE : 18.00 น. วันที่ 9 เมษายน 2563

Cr. thai pbs ศูนย์ข่าวภาคใต้

 

#ปิดพื้นที่รอยต่อ #ทุกตำบล ‼️

#คำสั่งจังหวัดภูเก็ตที่ 1908 /2563 เรื่อง ปิดสถานที่และกำหนดมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 จังหวัดภูเก็ต

 

ยธ. ตั้งศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษ เพื่อรับเรื่องความเดือดร้อนในวิกฤติโควิด-19

วันนี้ (9 เม.ย. 63) – นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ร้องทุกข์พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ถึงสถานการ์การแพร่ระบาดโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โรคโควิด-19 ว่า ส.ส. หลายท่านในคณะทำงานของศูนย์ร้องทุกข์พรรคพลังประชารัฐ ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนโควิด-19 อาทิ นายพยม พรหมเพชร ส.ส.สงขลา , นายวันชัย ปริญญาศิริ ส.ส.สงขลา , นายสมเกียรติ วอนเพียร ส.ส.กาญจนบุรี , นายพรชัย อินทร์สุข ส.ส.พิจิตร และ นายภูดิท อินสุวรรณ์ ส.ส.พิจิตร ตามนโยบายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี

นอกจากนี้ ตนเองได้รับเรื่องร้องทุกข์จากประชาชนว่ามีการขายหน้ากากอนามัยราคาแพง จึงประสานไปยัง กระทรวงพาณิชย์ให้ดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าว และฝากถึงประชาชนหากพบข้อมูลมีการกักตุนหน้ากากอนามัยหรือขายราคาแพง ขอให้แจ้งมายังศูนย์ร้องทุกข์ ของพรรค พปชร. หรือ ส.ส. ในพื้นที่ของท่าน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษ เพื่อรับเรื่องความเดือดร้อนในวิกฤติโควิด-19 เป็นการเร่งด่วน

The post ยธ. ตั้งศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษ เพื่อรับเรื่องความเดือดร้อนในวิกฤติโควิด-19 appeared first on SpringNews.

Source : #Springnews #สปริงนิวส์

 

วันที่ 9 เม.ย. ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Yong Poovorawan ระบุว่า "โควิด-19 นักกีฬา นักวิ่ง ในยามวิกฤต ร่างกายที่แข็งแรง เป็นเกาะป้องกันไม่ให้เกิดโรค โควิด-19 ลดความรุนแรงได้"

สิ่งที่สำคัญจะต้องประกอบไปด้วย
นอนหลับให้เพียงพอ
รับประทานอาหารให้ครบห้าหมู่
และออกกำลังกายสม่ำเสมอ

ในนักกีฬาที่เป็นนักวิ่งมาราธอน ผมเชื่อว่าทุกคนมีร่างการแข็งแรงอยู่แล้ว ข้อเสนอแนะในยามวิฤต โรคโควิด-19 ระบาดการออกกำลังกาย เป็นสิ่งทุกท่านทำดีอยู่แล้ว แต่ในภาวะวิกฤตในการป้องกันโรค เราจะให้ความสำคัญ ของการดูแลสุขอนามัย physical distancing ลดการ movement ของประชากรในกลุ่มนักกีฬาที่ต้องมีการฝึกซ้อม สิ่งที่สำคัญต้องดูแลเรื่องสุขอนามัย การกิน การจับต้องสิ่งของ การล้างมือ ระวังมือไม่สะอาดมาถูกใบหน้า เวลามีเหงื่อออก ต้องนึกเสมอว่า มือเราล้างมาแล้วหรือยัง หรือมีผ้าสะอาด เครื่องใช้ส่วนตัว มาเช็ดเหงื่อไม่ปะปนกับใคร

"ในการออกกำลังกาย วิ่ง เราหายใจแรง โอกาสหายใจเอาลมมาจากระยะไกลกว่าปกติในยามวิกฤตแบบนี้ เราต้องคำนึงถึง physical distancing ต้องกำหนดระยะห่างทางสรีระ ไม่น้อยกว่า 2 เมตร" จะต้องไม่ไปเป็นกลุ่มใหญ่ ควรมีการวิ่งกับเพื่อน 1-2 คน และกำหนดระยะห่างให้ไม่น้อยกว่า 2 เมตร เพื่อลด social distancing ไป ในตัว ในยามนี้การแข่งขัน การจัดการวิ่ง ไม่ว่าเพื่อการอะไรก็ตาม เช่นการกุศลไม่ควรจัดในเวลาแบบนี้ เพราะจัดย้ายไปมาถือเป็นการเคลื่อนย้ายประชากร ระยะทางที่วิ่งฝึกซ้อม ควรจะไม่มีการไปพบปะผู้คน ที่อยู่กันหมู่มาก เข้าใจดีว่าทำไมจึงมีการปิดสวนสาธารณ เพราะจะเป็นแหล่งรวมคนหมู่มาก จึงไม่เหมาะสำหรับเหตุการณ์แบบนี้

ในบางแห่ง ชานเมือง นอกเมืองที่ไม่มีคนพลุกพล่าน หรือรอบหมู่บ้านที่โล่งแจ้ง ก็สามารถใช้เป็นที่ออกกำลังกายได้ แต่ไม่ควรจะมีบุคคลจำนวนมาก หรือวิ่งรวมกลุ่มหลาย ๆ คน เพราะเราจะต้องนึกว่าที่แยกห่างจากกันแบบนี้ ก็เป็นเพราะเราต้องการป้องกันเขา และเขาก็ป้องกันเรา ไม่ให้ติดโรค แน่นอนถ้าเป็นที่โล่งแจ้ง ไม่มีผู้คนพลุกพล่าน การออกกำลังกายน่าจะเหมาะ และการวิ่งเป็นการยากที่จะต้องใส่หน้ากากอนามัย เพราะจะหายใจไม่ทัน เป็นที่เข้าใจกัน จึงต้องระมัดระวังในสังคมคนหมู่มาก การนัดรวมตัวไปวิ่งมาราธอน ที่ใดที่หนึ่ง หรือจัดการเป็นกลุ่ม จึงยังไม่ควรทำในระยะการระบาดของโรค

"ขอให้อดใจ ช่วยกันให้ผ่านพ้นวิกฤตไปก่อน เรายังมีเวลาหลังผ่านพ้นวิกฤตไปแล้ว ค่อยมารวมกิจกรรมกันใหม่ ถึงแม้จะยาวเป็นปีก็ต้องยอมนะครับ"

#RoundtableThailand
roundtablethailand.com

#โควิด19
#โคโรนาสายพันธุ์ใหม่

 

8 เม.ย.63, 11:30 น.(เวลาพม่า) #คณะแพทย์จีน 12 คนจากมณฑลยูนนาน พร้อมอุปกรณ์ช่วยเหลือทางการแพทย์ เดินทางถึงสนามบินย่างกุ้ง