ไม่รู้จักกัน

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย อนัตตา, 4 มกราคม 2019.

  1. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,898
    ค่าพลัง:
    +4,609
    จะรีบไปไหน ต้องทำงาน ทำหน้าที่ให้เสร็จสิ้น สมบูรณ์ บริบูรณ์ ก่อน:)
     
  2. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    สมถะภาวนา = สมถะ+วิปัสสนา = สติปัฏฐาน
    คืออย่างเดียวกัน เพียงแยกความเด่นของอารมณ์ที่แต่ละจริตนำมาใช้
    ทุกอย่างเป็นเพียงอารมณ์
    จิตจดจำอารมณ์ เช่น อารมณ์ฌาน อารมณ์วิปัสสนา เป็นต้น

    อานาปานสติเป็นฐานของกรรมฐานทุกกอง
     
  3. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    อย่าคิดเอง เออเอง
     
  4. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    แม่เราส่งเรามาเรียนทุกข์บนโลก เรียนจบก็กลับบ้าน เราไม่ใช่คนของใคร:D

    คุยแบบบ้าๆ ก็เป็นเหมือนกันนะ:cool:
     
  5. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    #หลวงปู่ดูลย์ อตุโล (พระราชวุฒาจารย์)
    วัดบูรพาราม อ.เมือง จ.สุรินทร์

    #จิตนี้คือพุทโธ

    ...จิตนี้คือธรรม เป็นสภาวะพิเศษที่ไม่ไป ไม่มา เป็นความบริสุทธิ์ล้วนๆ จิตนี้เหนือความดีและความชั่วทั้งปวง

    ซึ่งไม่อาจจัดเป็นลักษณะรูปหรือนามได้ หลักธรรมที่แท้จริงคือจิต จิตของเราทุกคนนั้นแหละคือหลักธรรมสูงสุดที่อยู่ในจิตใจเรา
    นอกจากนั้นแล้ว มันไม่มีหลักธรรมใดๆเลย"

    "จิตนี้แหละคือหลักธรรม ซึ่งนอกไปจากนั้นแล้วก็ไม่ใช่จิต แต่จิตนั้นโดยตัวมันเองก็ไม่ใช่จิต ดังที่ท่านปรารภว่า

    จิตนั้นมิใช่จิตดังนี้ นั่นแหละย่อมหมายถึง สิ่งบางสิ่งซึ่งมีอยู่จริง ขอให้เลิกละการคิดและการอธิบายเสียให้หมดสิ้น

    เมื่อนั้น เราอาจกล่าวได้ว่าคลองแห่งคำพูดได้ถูกตัดขาดไปแล้ว
    พิษของจิตก็ได้ถูกถอนขึ้นจนหมดสิ้น จิตในจิตก็จะเหลือแต่ความบริสุทธิ์ซึ่งมีอยู่ประจำอยู่แล้วในทุกคน

    คติประจำใจ = "..อย่าส่งจิตออกนอก.."

    ปริศนาธรรม = "..หยุดคิด หยุดนึก.."

    ธรรมะ = "จงเข้าไปสู่สิ่งสงบเงียบให้ได้ลึกซึ้ง โดยการลืมต่อสิ่งนี้ด้วยตัวเราเอง"

    สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเรานี้แหละ(สติ) คือสิ่งๆนั้นในอัตราที่เต็มที่ทั้งหมดทั้งสิ้น และสมบูรณ์ถึงที่สุดแล้ว ไม่มีอะไรนอกไปจากนี้เลย.."
     
  6. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,898
    ค่าพลัง:
    +4,609
    อีกกี่ปี จบ ล่ะ..

    เนี่ย เราเรียนจบแล้ว ยังต้องทำงาน ต่อ อีก

    มันไม่ได้หยุด แค่ เรียนจบแล้ว หยุด..

    แต่ มันจบแล้วก็ต้องทำงานต่อ เหมือนงานทางโลกเนี่ยแหละ..
     
  7. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,898
    ค่าพลัง:
    +4,609
    ถ้า สาวกภูมิ น่ะ ว่า ไป อย่าง:)
     
  8. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,898
    ค่าพลัง:
    +4,609
    อรุณสวัสดิ์ "จักรวาลคู่ขนาน.."

    ที่ ที่ เรา จาก มา ไม่มี พระอาทิตย์ ไม่มี กลางวันกลางคืน ไม่มีการหาอาหาร ไม่ได้ยุ่งกับการกิน การนอน..

    โลกตะวันออก ช่างวุ่นวายหนอ แค่ลืมตาตื่นนอน ก็หาอะไรกิน หาอะไรยัดเข้าปากแล้ว

    โลกตะวันออก เต็มไปด้วยทุกข์บีบคั้น ทุกข์และดิ้นรน เพื่อ หาทางพ้นทุกข์..
     
  9. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    การทำในสิ่งที่ชอบโดยไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น เป็นอุบายรักษาใจเจ้าของ

    เมื่อใดที่สัจธรรมเกิด แก่ เจ็บ ตาย ปักลงที่ใจ เมื่อนั้นทุกการกระทำจะไม่มีความหมายใดเลย
     
  10. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    ศึกษาธรรม เรียนธรรมจากพระไตรปิฎก พระสูตร หรือธรรมนิทานต่างๆ ก็ได้ชื่ิอว่าเป็นสาวก ไม่ว่าจะปรารถนาอะไรมาก็ตาม ขณะนี้ ปัจจุบันนี้คือยุคของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระสมณโคดม_/|\_
     
  11. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,898
    ค่าพลัง:
    +4,609
    ถืก เลข บ่..

    ถูก หวย ป่าว..
     
  12. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    บ่ บ่เล่นหวย
     
  13. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    จรณะ 15

    คือการรักษาศีล และการปฏิบัติตนให้บริสุทธิ์ถึงจิตแท้ ให้หลุดพ้น เป็นการกระทำที่ไม่มีโลภ โกรธ หลง เข้ามาผูกพันธ์อยู่ในจิต การปฏิบัติตนให้อยู่ในศีล ให้ได้ละเอียดขึ้นไปตามระดับ โดยสังวรณ์อยู่ในจรณะ 15 ดังนี้

    1 สังวรศีล ประพฤติตนให้รู้และเข้าใจสิ่งดีชั่ว ในบาปบุญ คุณ โทษ ให้บริสุทธิ์ด้วยศีล ให้รู้ว่ามีศีลเป็นปกติอยู่ในตน รู้ทัน หลุดพ้นจาก ความโกรธ โลภ หลง ทั้งหลายทั้งปวง

    2. สำรวมอินทรีย์ ระวังตนให้รู้ตัวทั่วพร้อมทั้ง 6 ทวารนอก 6 ทวารใน ที่จะเกิดสิ่งใดสิ่งหนึ่งจากการกระทำนั้นๆ

    3. โภชเนมัตตัญญุตา รู้จักประมาณตน รู้ตนให้พร้อม พอเหมาะ พอควรที่จะกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่จะมีจะเกิดขึ้น ในอาหาร การกิน การใช้จ่าย

    4. ชาคิยานุโยคะ พิจารณาควบคุมรู้อยู่ในการกระทำที่พึงประพฤติปฏิบัติให้อยู่ในการสังวรศีล สำรวมอินทรีย์ โภชเนมัตตัญญุตาทั้ง 3 ข้อให้ถูกต้อง

    5 ศรัทธา เชื่อมันในหลักธรรมคำสอน ปฏิบัติตน รู้ตน เชื่อมั่นในตนว่าปฏิบัติอยู่ในทางที่ถูกต้องดีงาม มีผลเกิดแล้ว เห็นผลแล้ว พากเพียรตั้งใจประพฤติปฏิบัติให้เกิดผลยิ่งขึ้น

    6 หิริ มีความละอายแก่ใจตนเองเมื่อรู้ว่าตนได้กระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นทางกาย วาจา ใจ ในทางใดทางหนึ่งก็ดี ที่ไม่ถูกไม่ควรแล้ว รู้สึกผิดละอายตนเอง และจะไม่ทำสิ่งที่ผิดนี้ให้เกิดขึ้นอีก

    7 โอตัปปะ เกรงกลัวต่อบาปกรรมที่ตนได้กระทำสิ่งที่ไม่ถูกไม่ควร ไม่ดีไม่งาม ที่เกิดขึ้นนั้นๆ ระวังควบคุมตนไม่ให้เกิดอีก

    8 พหุสัจจะ เห็นอยู่รู้อยู่ เข้าใจอยู่ ในผลของการปฏิบัติ ที่ถูกตรงบริสุทธิ์แท้ พูดจริงทำจริง มีความซื่อสัตย์ ตั้งใจทำจริง ให้ยิ่งๆ ขึ้นอีก

    9 วิริยะ พากเพียร ประพฤติปฏิบัติ กระทำตนให้ดีให้ได้ยิ่งๆ ขึ้นไปอีก

    10. สติ ควบคุมให้รู้ตัวทั่วพร้อม พิจารณารู้อยู่ เป็นอยู่ในการกระทำทวารทั้ง 6 ทวารนอก 6 ทวารใน

    11. ปัญญา รู้แจ้งชัดในทุกสิ่งที่เกิด ที่มี ที่ถูก ที่ควร ได้ยิ่งๆ ขึ้น ปล่อยจิต วางจิต ทำจิตให้สงบ เกิดญานทั้ง 4 ในตนแล้ว

    12. ปฐมฌาน เข้าสู่ความสงบระงับ จิตสงบ พ้นนิวรณ์ 5 ใจปลอดโปร่งติดอยู่ในอารมณ์เดียว (วิตก) มีวิจาร อ่านอยู่ในอารมณ์นั้น จิตเบิกบานเป็นหนึ่ง เป็นอิสระ

    13 ทุติยฌาน ระงับวิตกวิจาร มีปิติสุข จิตคิดอ่านอะไร วางวิตก วิจาร จิตเบิกบาน เสวยปิติสุขอยุ่

    14. ตติยฌาน ระงับบปิติ หมดความรู้สึกปิติ มีสติสัมปชัญญะ ควบคุมตนเอง รู้ตนเองชัด ขณะจิตสงบเสวยสุขอยู่

    15. จตุตฌาน ระดับสุขเป็นอุเบกขา วางเฉย สุข จิตผ่องใส สงบบริสุทธิ์ เป็นเอกคตาจิต จิตเป็นหนึ่ง ที่ประกอบด้วยมรรคมีองค์ 8 ถูกต้อง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,898
    ค่าพลัง:
    +4,609
    แบบนี้เคยเข้าได้ ตอนอายุ 20 ปี..

    ครั้งนั้น บวชเป็นพระ เข้า เอกัคคตาจิต อยู่เรื่อยๆ นั่งสมาธิทีไร ก็ เข้า ตาม ทาง นี้ ทุกที..

    ทุกวันนี้ ปัจจุบันนี้ ไม่ได้เข้า ฌาน แบบนี้แล้ว ผ่านแล้วผ่านเลย

    เพราะ มีอะไร อย่างอื่น ที่ดี มากกว่า การเข้า ฌาน..
     
  15. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    อย่าอธิษฐานร่วมกัน

    ขณะที่เราทำบุญให้ตั้งความปรารถนาว่า ขอให้บุญช่วยเรา ช่วยพ่อแม่ พี่น้อง สามีหรือภรรยาให้หลุดพ้นจากทุกข์ขอให้เป็นสุข แต่อย่าปรารถนาขอร่วมเกิด ร่วมตายกับคนนั้นคนนี้ ถึงแม้จะเป็นที่เรารักที่สุดก็ตาม ตัวอย่างพระเทวทัต คนที่ปรารถนาร่วมเกิดกับท่าน จะต้องรอนานมาก เพราะท่านไปตกอเวจีนรกอยู่ เมื่อไรจะพ้นออกมาก็ไม่รู้ คนที่อธิษฐานเกิดกับท่านจะไปนิพพานก่อนก็ไม่ได้ไป จำเป็นต้องรออีกนานแสนนาน เพราะคำอธิษฐานมัดอยู่ว่าจะร่วมเป็นร่วมเกิดกับท่าน

    ผู้ที่ปรารถนาร่วมเกิดกับพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่ง ถ้าพระพุทธเจ้าไม่รับท่านก็จะไม่คอย แต่ท่านจะสั่งสอนให้ละกิเลสตัณหาจนถึงที่สุด พวกที่เป็นลูกศิษย์ท่านจริงก็ไปนิพพานพร้อมท่านได้ พวกที่ไม่จริงอย่างพวกเราเกิดมาอยู่ในศาสนาเฉยๆ ก็ยังดีอยู่ ผู้ที่ตั้งใจปฏิบัติธรรมท่านยังให้แสงสว่างอยู่

    คนที่เกิดมาร่วมกันในศาสนาของพระพุทธเจ้า แต่ตาไม่ใสอย่างเดียวกัน คนเกิดปีเดียวเดือนเดียวกัน ต่างคนต่างใจคนใจบาปก็รีบทำบาป กินเหล้าเมายา ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ไม่เชื่อพระธรรม พระสงฆ์ จนกว่าจะเจ็บป่วยตกทุกข์ได้ยาก จะนึกถึงพระขอให้พระช่วย จิตที่คิดถึงพระนิดหนึ่งก็ได้บุญเหมือนกัน แต่ได้มากที่สุดเท่าเมล็ดงาเท่านั้น จะเอาบุญที่ไหนมาช่วยเพราะไม่ได้ทำบุญเอาไว้ เวลาสุขภาพดีสบายใจไม่เชื่อไม่นับถือพระ เวลาป่วยไข้รักษาเท่าไรก็ไม่หายใกล้จะตายนึกไหว้พระ ขอบุญแต่เชื้อไม่มี ใครช่วยได้

    ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    พระอาจารย์เทสก์ เทสรังสี
    วัดหินหมากเป้ง
    อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย

    ...

    “สัมมาสัมพุทโธ” คือ เป็นผู้ตรัสรู้ “สัมพุทโธ” แปลว่า ตรัสรู้
    สัมมา - โดยชอบ นี้เป็นบทต่อไป สัมมาสัมพุทโธ ตรัสรู้ชอบ

    คำว่า ชอบ ในที่นี้คือ เห็นดีเห็นชอบ เห็นตามเป็นจริง มันชอบอย่างคนเราเห็นน่ะอย่างเรามาพิจารณาถึงธรรมะเห็นจริงน่ะ เห็นตามคำสอนพระองค์ แต่เรา “ละไม่ได้” ยังไม่เรียกว่า “เห็นชอบ” ครั้นพระองค์เห็นชอบแล้วทุกอย่าง มันชอบแล้ว ดีแล้วทุกประการ จึงค่อย “ละถอนได้” เห็นชอบอย่างพวกเรานี่ไม่ทันล่ะ ไม่ทันได้ถอน จะเรียกว่าเห็นชอบไม่ได้ เพียงแต่ว่า “เห็นตาม” เฉยๆ ยังไม่ทันถึงเห็นชอบ

    บอก “สัมมาสัมพุทโธ” เป็น “ผู้เห็นชอบ” “ตรัสรู้ชอบ” “ชอบด้วยพระองค์เอง” ด้วย ไม่มีใครสอน ไอ้เรานี่พระพุทธเจ้าสอนสักเท่าไร ครูบาอาจารย์สอนเท่าไร แต่มันก็ไม่เห็นชอบสักที ไม่เข้าถึงของจริงสักที ยังละทิ้งไม่ได้ ถอนไม่ได้ จึงไม่ได้เป็นสัมมาสัมพุทโธ พระพุทธเจ้าท่านเป็นสัมมาสัมพุทโธ

    “วิชชาจะระณะสัมปันโน” ท่านว่าวิชชา ๓ วิชชา ๘ “จะระณาสัมปันโน - ถึงพร้อมด้วยจรณะ” คือ มารยาท ความประพฤติปฏิบัติทุกอย่าง พระพุทธเจ้าท่านมีวิชชาแตกฉาน รู้แจ้งเข้าใจตามเป็นจริงแล้วทุกสิ่งทุกประการแล้วท่าน “ปฏิบัติถูกต้อง” เป็นที่น่ากราบไหว้และสักการะบูชา

    “จรณะ” คือ ความประพฤติปฏิบัติ รู้เห็นอย่างใดปฏิบัติอย่างนั้น ปฏิบัติอย่างใดก็จะได้เห็นอย่างนั้น ความรู้ความเห็นกับการปฏิบัติกลมกัน ไม่เป็นเครื่องกระทบกระเทือน ไม่เป็นที่เหยียดหยามดูถูกของคนอื่น ใครเห็นแล้วเกิดศรัทธาเลื่อมใส จึงเรียกว่า “มีวิชชาและมีจรณะ" พร้อมด้วยธรรมด้วยวิชชาจรณะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • images.jpeg
      images.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      27.7 KB
      เปิดดู:
      33
  17. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    หลวงปู่หล้า : เมื่อไม่เอาปัจจุบันเป็นพยาน ไฉนจะสิ้นความสงสัยของตนได้ เห็นอนิจจังขณะจิตเดียวเห็นรอบโลกแล้ว เพราะโลกเต็มไปด้วยอนิจจัง เห็นพร้อมกับลมหายใจเข้าออก เห็นพร้อมขณะจิตที่พูดที่คิดที่นึก อนิจจัง อนิจจังอันละเอียดล่ะ ผู้รู้เนี่ย เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป เร็วที่สุด จิตก็เหมือนกัน ติดต่อกันอยู่หาระหว่างไม่ได้ ใครว่าจิตไม่เกิดไม่ดับ ผู้นั้นเป็นมิจฉาทิฏฐินั่น เหตุฉะนั้นท่านจึงบัญญัติว่า รูป จิต เจตสิก นิพพาน ไม่ได้บัญญัติว่า จิตเป็นพระนิพพาน ไม่ได้มีบัญญัติว่าพระนิพพานเป็นจิต นั่น จิตถ้าทำถูกก็เป็นหนทางเข้าสู่พระนิพพานเท่านั้น ยืนยันแต่เพียงว่า จิตก็หลุดพ้นจากกิเลส อาสวะ นั่น ยืนยันเท่านั่น นี่พระอรหันต์ไม่ตาย ส่วนพระอรหันต์ตายแล้วบัญญัติจิตไม่ถูก เพราะไม่สมฐานะ คล้ายๆกับแก่จะตายแล้วจะมาเรียกคุณหนูมันก็ไม่เหมาะสมนะ

    หลวงปู่บุญฤทธิ์ : วิสงฺขารคตํ จิตฺตํ...จิตตถาคตหยั่งลงสู่วิสังขารแล้ว

    หลวงปู่หล้า : เพราะอยู่เหนือจิต อยู่เหนือสังขารแล้ว ไม่สำคัญว่าจิตเป็นตน ตนเป็นจิต ก็ไม่ลำบากในจิต ไม่สำคัญว่าทุกข์เป็นตน ตนเป็นทุกข์ก็ไม่ลำบากในทุกข์ สิ่งไหนถ้ามีตนเข้าไปสอดแทรกสิ่งนั้นก็มีเรื่องมาก มีเรื่องมาก เรื่องมีมาก สิ่งไหน ถ้าเข้าไปสำคัญสอดแทรกว่า ตัวกู ของกูก็ต้องตามไปด้วย นั่น เมื่อของกูตามไปด้วย ทีนี่ของมึงก็ตามมาด้วย นั่น แล้วก็เกิดทะเลาะกัน นั่น ถูกไหม

    หลวงปู่บุญฤทธิ์ : ไอ้ตัวสตินี่ อริยสัจสี่ ถ้ามันเกิดขึ้นทีเดียว มันก็สำเร็จกิจหมดแล้ว อริยสัจสี่ นิพพานมันเรียบร้อยหมดแล้ว

    หลวงปู่หล้า : ถูก ถูก

    หลวงปู่หล้า : พระอรหันต์เป็นผู้มีสติเต็มที่ เพื่อจะไม่ให้ใครโกรธท่านด้วยอาบัติ ด้วยสติวินัย สติในไตรโลกธาตุไม่เท่าสติพระอรหันต์ สติพระอรหันต์จะมีญาณสัมปยุตอยู่ด้วยความเคยชิน ไม่ต้องลำบากรักษาสติ แต่ก็สอนให้รักษาสติ เหมือนกัน เช่น อธิกรบางอย่างก็บอกว่า สติวินัย พระอรหันต์ทำผิดไม่มี พระอรหันต์ไม่ได้ทำผิด เพราะไม่มีเจตนา พระอรหันต์ลืมสติไหม ลืมเป็นบางครั้งบางคราว เช่น ลืมเก็บเภสัชไว้เจ็ดวันเป็นต้น หรือลืมอธิษฐาน หรือปราศจากจีวร เป็นต้น แต่นานๆที่สุด แต่ไม่มีเจตนาในองค์ท่าน

    หลวงปู่หล้า : เจตนาไม่มีในพระอรหันต์

    หลวงปู่หล้า : จิตบริสุทธิ์แล้ว ไม่จำเป็นจะรักษาจิตแล้วอีก

    หลวงปู่บุญฤทธิ์ : สติส่วนนี้เป็นส่วนโลก มิใช่สติโลกุตตระ สติโลกุตตระมีหน้าที่ รู้แจ้งอริยสัจสี่นิพพานเท่านั้น

    หลวงปู่หล้า : ถูก

    หลวงปู่บุญฤทธิ์ : ทำลายอุปาทานขันธ์ห้าเท่านั้น

    หลวงปู่หล้า : ถูก

    หลวงปู่หล้า : ถ้าอุปาทานขันธ์ไม่มีแล้ว มันก็หมดปัญหาที่จะพูด

    หลวงปู่บุญฤทธิ์ : อันนี้มันเศษ

    หลวงปู่หล้า : เศษมัน

    หลวงปู่บุญฤทธิ์ : ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ (หัวเราะ)

    หลวงปู่หล้า : เศษมัน

    หลวงปู่บุญฤทธิ์ : ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ (หัวเราะ)

    หลวงปู่หล้า : ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ (หัวเราะ)

    หลวงปู่บุญฤทธิ์ : เรื่องสตงสติ กินน้ำแข็ง น้ำชา นี่มันเศษมัน

    หลวงปู่หล้า : เศษมัน

    หลวงปู่หล้า : จะมาหาพระอรหันต์ ในสกลร่างกายมันไม่เจอมันไม่เจอะไม่พบ จะมาหาพระอรหันต์ในขันธ์ห้ามันก็ไม่เจอไม่เจอะไม่พบ จะมาหาพระอรหันต์ในบุคคลมันไม่เจอไม่เจอะไม่พบ

    หลวงปู่บุญฤทธิ์ : หลวงปู่แหวนท่านว่า ระเบิดขันธ์ห้าเสียก่อนท่านว่า ทีแรกผมว่าระเบิดอย่างไรกันหนอ

    หลวงปู่หล้า : ระเบิดก็คือทำลายลงสู่อนัตตา ระเบิดก็คือทำลายลงสู่อนัตตา รูปังอนัตตา เวทนาอนัตตา สัญญาอนัตตา สังขาราอนัตตา วิญญาณังอนัตตา สัพเพสังขาราอนิจจา สัพเพธัมมาอนัตตาติ พระบรมศาสดาเมื่อทรงมีชีวิตอยู่ได้ทรงเทศน์ขันธ์ห้า มากกว่าเพื่อน

    หลวงปู่บุญฤทธิ์ : ตัวสติแท้ๆ มันเกิดไวไม่ทันรู้ตัวหรอก

    หลวงปู่หล้า : ถูก

    หลวงปู่บุญฤทธิ์ : แป๊บ ยิ่งกว่าไฟฟ้า

    หลวงปู่หล้า : ถูก

    หลวงปู่บุญฤทธิ์ : ทีเดียว มันก็ทำลายโมหะหมดแล้ว มากน้อย

    หลวงปู่หล้า : สติ

    หลวงปู่บุญฤทธิ์ : มันไม่ทันรู้ตัว ถ้ามันเกิด มันเกิดหนเดียว แล้วก็ดับไป...
    .
    หลวงปู่หล้า : ความรู้ตัวตอนนั้นมันก็มีอยู่ในตัว ไม่ต้องแต่งมันแล้ว มันเร็วที่สุด

    หลวงปู่บุญฤทธิ์ : ตัวที่มันเป็นมรรคแท้ๆ มันเกิดไม่ทันรู้ตัว

    หลวงปู่หล้า : ถูก

    หลวงปู่บุญฤทธิ์ : มันแวบเดียว มันไม่ถึงวินาที

    หลวงปู่หล้า : ถูก มรรคจิต

    หลวงปู่บุญฤทธิ์ : มันไม่มีถามตอบอะไร มันแป๊บ มันเหมือนกับมือไปจี้ไฟ มันก็ร้อนลย

    หลวงปู่หล้า : ถูก

    หลวงปู่บุญฤทธิ์ : ไอ้สติที่ว่าเอาไว้เดินเหินข้างนอก เอาไว้ใช้ในโลก เท่านั้นเอง

    หลวงปู่หล้า : ถูก

    หลวงปู่หล้า : ถ้าไม่มีทุกข์ก็ไม่ต้องปฏิบัติออกจากทุกข์ มันมีทุกข์จึงปฏิบัติออกจากทุกข์ เราหนีทุกข์หรือให้ทุกข์หนีจากเรา เรารู้เท่าทุกข์ ทุกข์ก็หนีเอง ถ้าเราไม่รู้เท่าทุกข์ ทุกข์ก็ไม่หนี เราลืมตาเข้ามืดก็ออกไปเอง ไม่ต้องไล่ฮือๆฮาๆ เว้นไว้แต่ประสาทตาไม่มีหรือในที่มืด บางท่านพูดบอกว่าละอันนั้น ละอันนี้มันก็ถูกอยู่ เพื่อแสดงเป็นบุคคลธิษฐานเป็นกิริยา ไอ้แท้ๆเมื่อมันรู้เท่ามันละเองมัน

    หลวงปู่บุญฤทธิ์ : ถ้าอริยสัจสี่มันยังไม่เกิด มันยังไม่ละหรอกครับ

    หลวงปู่หล้า : ถูก

    หลวงปู่บุญฤทธิ์ : มันก็ได้แต่ปากว่าเท่านั้นหล่ะ ละได้แค่นิดๆหน่อยๆ มันไม่สมบูรณ์อะไร สังโยชน์มันไม่ขาด

    หลวงปู่หล้า : มันไม่รู้เท่า

    หลวงปู่บุญฤทธิ์ : สังโยชน์มันไม่ขาด

    หลวงปู่หล้า : ถูก สังโยชน์เครื่องผูกใจ สักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาส

    หลวงปู่บุญฤทธิ์ : แต่ถ้ามันขาดถึงสามอันก็เอาละ ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ (หัวเราะ)

    หลวงปู่หล้า : สามอัน ถ้าขาดสามอันแล้ว อันอื่นค่อยขาดไปเอง

    หลวงปู่บุญฤทธิ์ : ครับ เหมือนกับงูตัดหัวแล้ว

    หลวงปู่หล้า : ถูก

    หลวงปู่บุญฤทธิ์ : อยู่ไม่ได้หรอก

    หลวงปู่หล้า : ถูก ถ้าขาดสามอันแล้วอันอื่นขาดไปเอง

    หลวงปู่บุญฤทธิ์ : ขาดสามอันแล้ว พุทธโธ ธัมโม สังโฆ นิพพานไม่มีสงสัย

    หลวงปู่หล้า : ถูก ถูก ฟังออก ร้อยเปอร์เซ็นต์ ล้านเปอร์เซ็นต์เลย

    หลวงปู่บุญฤทธิ์ : แต่มันยากอาจารย์ เพราะคนที่สร้างบารมีมา มันมีน้อยลงไปทุกทีๆ

    หลวงปู่หล้า : แต่ว่า เมื่อเห็นว่าสิ่งไหนไม่เป็นประโยชน์ สิ่งนั้นไม่ต้องพยายามละ มันทิ้งเองตูมเลย เห็นว่าไม่เป็นประโยชน์ เหมือนน้ำลาย ถ้ามันเห็นชัดว่ามันไม่มีประโยชน์มันก็บ้วนทิ้ง มันก็ไม่เสียดายเอาคืนมาอีก ด้วยปัญหาก็ไม่มีในน้ำลายนั้น ระวังข้าเน้อ จะเอาน้ำลายมากินอีก มันก็ไม่ได้ว่า เราก็ไม่ระวังเราจะเอาน้ำลายมาอีก เพราะเราเห็นว่าไม่เป็นประโยชน์ ใครๆก็เหมือนกัน ทุกท่านล่ะ ถ้าเห็นอันนี้ไม่เป็นประโยชน์ชัด มันก็ทิ้งตูมเลย ที่มันทิ้งไม่ได้เพราะมันเห็นว่ายังมีประโยชน์ มันยังมีมิจฉาทิฏฐิในตอนนั้นอยู่

    บทสนทนาบางตอนของหลวงปู่หล้า เขมปัตโต กับหลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต
    ณ วัดบรรพตคีรี(ภูจ้อก้อ) จ.มุกดาหาร
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,898
    ค่าพลัง:
    +4,609
    บทสนทนาแบบนี้ มีอีกป่าว อ่านแล้วสนุกดี เหมือนได้นั่งฟังใน วง สนทนา เลย

    เห็นตาม ทุกประโยค ทุกคำ เลยทีเดียวเชียว..
     
  19. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    เช้านี้ผุดเรื่องป่าช้า
    ป่าช้าเก่า ป่าช้าใหม่ ติดอยู่ในป่าช้า
    สมมติขึ้นมาให้งงเล่นๆ
    ป่าช้าอารมณ์
    ฝังแล้ว เผาแล้ว ก็ยังเก็บมาครุ่นคิด
    จิตเกิดดับ ธรรมเกิดดับ
     
  20. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    มองเห็นแต่ความเสื่อมไป
    เสื่อมไป หมดไป
    เสพแต่อารมณ์เก่าๆ
    สละได้ยากยิ่งก็คือสละอารมณ์
     

แชร์หน้านี้

Loading...